ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : -> Darkness Chapter1 ♦ ชายป่าที่นองไปด้วยเลือด
-> Darkness Chapter1 <-
ณ ชายป่าแห่งหนึ่งซึ่งเคยเป็นที่ที่เงียบสงัด น่าแปลกที่วันนี้มีผู้คนมารวมกันอย่างคลาคลั่งมีอาวุธครบมือ แน่นอนส่วนใหญ่ล้วนเป็นนายพราณใหญ่ที่เคยออกล่ามานักต่อนักแล้วดูได้จากบาดแผลที่อยู่บนใบหน้าหรือที่อื่นๆบนร่างกาย น่าแปลกที่จะมีนักมายากล สาวสวย กับนักเรียนมัธยมต้นมาอยู่ที่นี่ด้วย"ที่นี่ล่ะ ที่ผู้ว่าจ้างเขาบอกมาว่ามีหมาป่าออกอาระวาท" นักมายากลหนุ่มเอ่ยขึ้น เป็นใครไปไม่ได้นอกจากมิรอล
"ว้าวๆ ในป่าจะมีหมีน้อยไหมเนี่ย~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น พรางเดินเข้าไปนั่งที่รากไม้แถบชายป่าอย่างร่าเริง
"หมีน่ะมี... มีแต่ตัวใหญ่ๆน่ะนะ" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางชี้ไปที่ซากหมีที่นายพราณคนหนึ่งลากออกมาจากป่าเลือดท่วมตัว จนไม่รู้ว่าเป็นเลือดของหมีหรือนายพราณกันแน่
"หว๊า~ ไม่เห็นน่ารักเหมือนในการ์ตูนเลย" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น เบ้ปากอย่างไม่พอใจนัก
"มันจะไปเหมือนกันได้ยังไงล่ะยะ!" ลูกอมเอ่ยขึ้น อดไม่ได้ที่จะเขกหัวลูกกวาดไปสักทีหนึ่งตามระเบียบ
"โอ้ย!~"
"อากาศก็ร้อน ยังต้องมาล่าหมาป่า คิดได้ยังไงยะให้ฉันมาทำงานแบบนี้เนี่ย" ลูกอมเอ่ยขึ้น แต่ดูเหมือนนางพญาเธอจะไม่ร้อนเท่าไหรเลย เมื่อมีเหล่านายพราณกล้ามบึกๆแถวนั้นที่หล่อนแอบไปหว่านเสน่ห์มาโบกพัดให้เธออยู่อย่างเต็มอกเต็มใจ
"ก็อย่างเธอน่าจะจัดการพวกหมาป่าได้อยู่หมัดน่ะนะ" มิรอลเอ่ยขึ้น
"หมายความว่าไงยะ!" ลูกอมถึงกับเลือดขึ้นหน้าอีกรอบ ก็มันหมายความว่ายังไงที่เธอจะสามารถจัดการหมาป่ายักษ์พวกนั้นได้
"อะ...เออ" มิรอลถึงกับลากเสียงยาวมองซ้ายมองขวาหาทางหนีรอดเงื้อมือนางมาร
โฮก!!!!!!!!!!~
เสียงคำรามทรงอำนาจดังก้องไปทั่ว ทำให้หลายคนตื่นตัวพากันจับอาวุธขึ้นมาเตรียมรับมือต่อสู้กับสัตว์ร้ายตัวดังกล่าวที่ถูกหมายหัวเอาไว้ พวกเขามาล่ามันเพื่อเงินรางวัลมหาศาลที่จะได้รับจากหมู่บ้านแห่งนี้ แน่นอนทุกๆคนล้วนเห็นแก่เงิน ไม่เกี่ยงว่าจะใช้วิธีไหนที่จะได้หัวมันไปให้หัวหน้าหมู่บ้าน
"นี่พึ่งบ่ายเองนะ!" ลูกอมอุทานขึ้น เพราะไม่คิดว่าพวกมันจะออกล่าแต่ยังวันอยู่
"ก็บอกแล้วว่ามันแปลก" มิรอลเอ่ยขึ้น พรางแอบถอนหายใจที่เขารอดจากนางมารมาได้
"แปลกจริงๆ หมาป่าเป็นพวกหากินกลางคืนนินา..." ลูกอมเอ่ยขึ้น ดวงตาฉายแววความสงสัยอย่างปิดไม่มิด
"ไม่ใช่แค่พวกหมาป่าธรรมดาหรอก พวกปีศาจเผ่าหมาป่าทั้งหลายส่วนใหญ่ก็หากินกลางคืน แต่เจ้านี่มันตื่นแต่วันเลยน่ะสิ" มิรอลเอ่ยขึ้นเสริม เพราะความผิดวิสัยของพวกมัน แถมยังออกมาล่ามนุษย์ในหมู่บ้านตายที่ชายป่าแห่งนี้ไปมากมายเหลือคณาทำให้เป็นที่กังวนจนต้องป่าวประกาศหาคนมาล่ามันโดยมีเงินรางวัลให้
"นึกบ้าอะไรของพวกมันเนี่ย!!!" ลูกอมพูดขึ้นอย่างหัวเสีย
"เอ๋? มีคนเข้าไปในป่าแล้วล่ะค่ะ" เสียงหวานที่ไม่ได้เอ่ยขึ้นนานพูดขึ้น เรียกความสนใจของทั้ง 2 คนห้หันไปมองเด็กหนุ่มที่กำลังเดินเข้าไปในป่าโดยมีปืนเพียงกระบอกเดียวเท่านั้น ดวงตาของเขาวาวโรจน์เต็มไปด้วยความอาฆาต
"เฮๆ ลุยเดี่ยวเลยหรอหมอนั่น พนันได้เลยว่าไม่รอดชัวร์ๆ" มิรอลเอ่ยขึ้น พรางมองร่างสูงโปร่งที่ตรงเข้าไปในป่า
"นั่นสินะ ครั้งนี้ฉันอยู่ข้างนายยะ" ลูกอมเอ่ยสนับสนุน
"ไม่ค่ะ... ครั้งนี้เขาจะชนะ" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นบ้างดวงตาของเธอหม่นสีลงจนไร้แววในที่สุด
"ไม่หรอกๆ~ ตายแน่ๆ" มิรอลเอ่ยขึ้นยังคงย้ำคำเดิม
"เขาจะชนะค่ะ..."ลูกกวาดพูดขึ้น ดวงตาของเธอยังคงไร้แววทั้งๆที่ดวงอาทิตย์ยังสาดส่องลงมา
"เฮๆ ทำไมมั่นใจนักล่ะ?" มิรอลเอ่ยขึ้น พรางเข้ามาหาลูกกวาดที่ตอนนี้ยืนนิ่งไม่ไหวติ่งใดๆ
"หมายความว่ายังไงลูกกวาด" ลูกอมเอ่ยขึ้น เธอรู้สึกถึงความผิดปรกติของน้องสาวของเธอราวกับเป็นคนละคน
"..."
"เฮ้ยๆ ไม่ตลกแล้วนะเนี่ย~ น้องสาวเธอเป็นอะไรไปเนี่ย" มิรอลเอ่ยขึ้น พรางถอยห่างจากลูกกวาดที่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ดีแล้ว
"หรือว่า... ซวยแล้วคุณย่าจะมาคลายผนึกอะไรตอนนี้เนี่ย~" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางกุมหน้าผาก ผนึกที่กดพลังของลูกกวาดไว้จะคลายออกหลังจากเธอเป็นผู้ใหญ่ แต่เธอไม่คิดว่าจะนับปีการเป็นผู้ใหญ่แบบของปีศาจที่พออายุ 13 จะกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
"อะ...เอ๋?" มิรอลก็ยังถูกปล่อยให้งงต่อไป ขณะที่ลูกอมตรงเข้าไปหาลูกกวาด ก่อนจะเขย่าตัวให้ตื่นจากภวังค์
"ตื่นๆ ลูกกวาดตื่นเดี๋ยวนี้นะ" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางเขย่าตัวของลูกกวาดแรงๆ
"คะ...ค่ะ?" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น ก่อนจะขยี้ตาของตัวเองเหมือนกับอาการคนหลับไปจริงๆ พร้อมกับดวงตาของเธอที่กลับมาสดใสภายใต้แว่นตาหนาสีชมพูเมือนเดิม
"นี่ๆ เมื่อกี้เป็นอะไรไปน่ะ" มิรอลเอ่ยขึ้น
"ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิค่ะ~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น สรุปดดยรวมแล้วคือเธอจำอะไรไม่ได้เลยนั่นเอง
"ยังไงก็ช่างเถอะ รอให้มันออกมาเองดีกว่าเข้าไปเสี่ยงโดยไม่รู้อะไร" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางจูงลูกกวาดตรงไปที่แคมป์พักที่ทางหมู่บ้านใจดีจัดไว้ให้เหล่าคนที่มาออกล่า มีน้ำและอาหารบริการให้เต็มที่ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงเวลาพลบค่ำ
"ข้อนี้ผมเห็นด้วยนะ" มิรอลสนับสนุนขึ้นก่อนจะเดินตามไปพร้อมๆกับลูกอม
ณ แคมป์พัก ผู้คนต่างคลาคลั่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นนายพราณที่มาเพื่อพักผ่อนก่อนจะออกล่า
"คนเยอะจังนะค่ะ~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นพรางกวาดตามองไปรอบๆที่เรียกได้ว่าแออัด แถมมีการหาเรื่องกันอยู่เป็นพักๆ
"ให้ตายเถอะ คนอยากจะมาพักสักหน่อยนะ~" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางสอดส่ายสายตาหาที่นั่น
"นิ~ ยัยลูกอมทำไมไม่ใช่เสน่ห์ของเธอเล่า~" มิรอลเอ่ยขึ้น
"ใช้มากๆมันก็เหนื่อยนะยะ!!!" ลูกอมแหวลั่น เธอใช้เสน่ห์บ่อยๆมันออกจะน่ารำคาญสำหรับเธอ
"อ๊ะ~ ตรงนั้นว่างอยู่นะค่ะ รีบไปจองกันดีกว่า" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นชี้ไปยังโต๊ะด้านในสุดที่คลุมด้วยหนังสัตว์ทั้งหลายดูมีอำนาจไม่เบาเลยทีเดียว ที่น่าแปลกที่สุดก็คือมันออกจะหรูหราขนาดนั้นทำไมไม่มีใรไปนั่ง
"งั้นรีบไปกันเถอะนะ~" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางเดินผ่านผู้คนไปยังโต๊ะนั้น
"ดะ...เดี๋ยวสิ ผมว่ามันแปลกๆนะ" มิรอลเอ่ยห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อลูกอมพาลูกกวาดเข้าไปนั่งที่นั่นแล้ว ทำให้เขาจำยอมต้องตามไปนั่งด้วย ถึงจะรู้สึกแปลกๆไม่สบายใจเท่าไหรก็ตามที
"ก็ไปเห็นแปลกนิยะ นั่งสบายดีออก" ลูกอมเอ่ยขึ้น เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่บุด้วยหนังเสือ
"พี่ค่ะ~ หนูว่าน่าจะฟังคุณมิรอลหน่อยนะค่ะ" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น เธอยังไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้ เพราะเธอเองก็นึกแปลกใจเหมือนกัน
"โอ้ย!!~ นั่งๆไปเถอะน่า... ไม่อยากรู้หรือไงล่ะว่าทำไมไม่มีใครนั่งที่นี่" ลูกอมเอ่ยขึ้นเสียงเบาหวิ๋ว
"ก็นะ~" มิรอลเอ่ยขึ้น ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่หุ้มหนังหมีอย่างว่าง่าย
"...ค่ะ" ลูกกวาดรับคำ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสุดท้ายที่หุ้มด้วยหนังหมาป่าสีเงิน
"..."
"..."
"..."
"ทนไม่ไหวแล้ว~ ฉันจะออกไปหาข้อมูล!!" ลูกอมเอ่ยขึ้น อย่างอดไม่ไหว เพราะเวลาก็ผ่านมาเนินนานแล้ว เธอก็ไม่ใช่พวกสมาธิยาวนัก จะได้นั่งอยู่เฉยๆได้นานๆโดยไม่ได้ทำอะไรเลยแม้กระทั่งคุยหรือเอ่ยปาก
"พี่ลูกอม ทนไม่ไหวแล้วหรอค่ะ?" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น พรางเอาเฮดโฟนออกจากหูเพื่อที่จะคุยได้อย่างถนัดๆ
"ใช่! ฉันทนไม่ไหวแล้ว" ลูกอมยอมรับแต่โดยดี
"เอาเถอะ~ เธอมันพวกความอดทนต่ำนินะ เดียวฉันไปด้วย" มิรอลเอ่ยขึ้น พรางเก็บไพ่ที่กำลังนั่งจัดลงกระเป๋าไป
"ไม่ต้อง นายต้องอยู่กับลูกกวาด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะว่ายังไง?" ลูกอมเอ่ยขึ้น เพราะอดห่วงน้องสาวตนไม่ได้
"ฉันว่าทางเธอนั่นแหละที่น่าเป็นห่วงกว่า" มิรอลเอ่ยขึ้น
"ว่าไงนะยะ!!!" ลูกอมถึงกับปี๊ดแตก เมื่อโดนกล่าวหาทางอ้อม
"หยุดเถอะค่ะ คุณมิรอลตามพี่ไปเถอะค่ะ ลูกกวาดดูแลตัวเองได้" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นบ้างเพื่อยุติศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น
"เห็นม่า~ น้องเธอยังเห็นด้วยเลย" มิรอลพูดขึ้นอย่างผู้ชนะ
"ลูกกวาดเธอบังอาจสั่งพี่ตั้งแต่เมื่อไหรยะ!" ลูกอมเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ที่ออกจะขุ่นๆ
"อะ...เออ"
"เอาเถอะน่า~ ยัยป้าไป 2 คนมันเร็วกว่าอยู่แล้ว" มิรอลเอ่ยขึ้นพรางดันไหล่ของลูกอมให้เดินออกไป
"ดะ...เดี๋ยวสิยะ!!" ลูกอมไม่ได้ทันแย้งอะไรก็ถูกมิรอลพาไปไกลเสียแล้วเป็นอันว่าลูกกวาดต้องอยู่เฝ้าโต๊ะคนเดียวนั่นเอง
ปัง!!!
เวลาหมุนเวียนผ่านไปจนถึงเวลาเย็นย่ำ ร่างของหมูป่าตัวใหญ่ถูกโยนลงบนโต๊ะที่พวกเขานั่ง จนเจ้าของร่างในชุดนักเรียนที่อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น เพราะอากาศที่ไม่ร้อนหรือเย็นไปแถมเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ก็ช่างนุ่มเสียเหลือเกิน ขณะที่ลูกอม และมิรอลออกไปหาข่าวสารที่อื่นก็ทิ้งให้เธออยู่นี่ มันก็ต้องมีกันบ้างที่เธอจะเคลิ้มง่วงไป
"คะ...ค่ะ?" ลูกกวาดสะดุ้งตื่นขึ้นลืมตาโพล่งอย่างตกใจ
"เย็นแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมด้วย พวกเราจะจับกลุ่มกันที่ชายป่าล่อมันออกมา" ร่างสูงยักษ์เอ่ยขึ้น ดวงตาคมกริบดูน่ากลัวไม่ได้ทำให้ร่างบางนึกหวาดหวั่นเลย เธอกลับมองเขาด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงมาบอกเธอเรื่องนี้
"ค่ะ?" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นอย่างงงๆเหมือนคนพึ่งตื่น
"ฟังดีๆนะฉันจะไม่พูดใหม่... พวกเราจะจับกลุ่มที่ชายป่าแล้วล่อเจ้าหมาบ้านั่นออกมา เข้าใจไหม?" ร่างยักษ์เอ่ยขึ้นเน้นชัดถ้อยชัดคำ
"ค่ะ ทราบแล้วค่ะ" ลูกกวาดรับคำเข้าใจ แต่ก็ยังคงงงว่าเขามาบอกเธอทำไมกัน
"เธอรู้ใช่ไหมว่าการล่อก็ต้องมีเหยื่อ..." ร่างยักษ์ตวัดสายตาคมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"ค่ะ..."
"เพราะฉะนั้น เธอ! ที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย! ต้องเป็นตัวล่อ!!!" ร่างยักษ์เอ่ยขึ้นเน้นกระแทกเสียงจนร่างบางอดที่จะตกใจไม่ได้ ที่เธอโดนแจ๊กพอตเข้าให้โดยไม่ได้ตั้งจเสียแล้ว
"ตะ... แต่ฉันไม่ได้มากับพวกคุณ...." ลูกกวาดเอ่ยขึ้นไม่ทันจบก็โดนแทรกขึ้น
"ทำไม!!! เธอมีปัญหาอะไรหรือไง!" ร่างยักษ์เอ่ยตะวาดเสียงเข้มเอ่ยขึ้นจนร่างบางสะดุ้งเฮือกก่อนจะเดินจากไป แต่ก็ไม่วายจับข้อมือบางของลูกกวาดลากตามไปด้วยอย่างไม่คิดจะปราณี
"ปะ... ปล่อยนะค่ะ" ลูกกวาดจับข้อมือของตัวเองพยายามที่จะแกะมือหนาที่จับกุมเอาไว้ออก
"ไร้ประโยชน์อย่างเธอทำหน้าที่นี้น่ะดีแล้ว!!!" ร่างยักษ์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้หยุดให้ร่างบางได้หายใจตรงไปยังี่ชายป่าผ่านเหล่าผู้คนไปอย่างเดียว แน่นอนผู้คนที่มองมาไม่ได้เป็นมิตรเลย
"โอ้ย!!! ก็บอกให้ปล่อยไง" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นเสียงแข็งพร้อมกับใช้แรงของเธอหยุดร่างยักษ์ก่อนจะตวัดเตะเข้าที่กลางลำตัวของเจ้ายักษ์อย่างอัตโนมัติ จนมันต้องปล่อยมือของเธอที่ตอนนี้แดงก่ำออกด้วยความจุก
"ธะ...เธอ"
"บอกดีๆให้เดินเองก็ได้นิค่ะ มันเจ็บนะ" ร่างบางเอ่ยเสียงอ่อนราวกับเป็นคนละคน มองข้อมือของตนที่ตอนนี้แดงเจ็บจนเธอน้ำตาคลอออกมา
"ลูกกวาด~ ทำไมไม่รออยู่ที่โต๊ะ" ร่างบางเฉิดฉายเดินเข้ามากับนักมายากลหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
"หนูรออยู่นะค่ะ ถ้าไม่โดนลากมา.." ลูกกวาดเอ่ยขึ้นอย่าใสซื่อ ดวงตาปริ่มไปด้วยน้ำตาใสๆ
"หมายความว่ายังไงยะ! คนที่ว่าเนี่ยน้องฉันหรอยะ!!!" ลูกอมตะวาดลั่นไมอายใคร
"ก็น้องเธอมันตัวเล็กทำอะไรไม่ได้ เธอกับเจ้านักมายากลนั่นก็เหมือนกัน ทำประโยชน์ให้พวกเราหน่อยไม่ได้หรือไงวะห๊ะ!!!" ร่างยักษ์ที่มีบาดแผลบนใบหน้าข้างซ้ายยาวลงไปถึงต้นคอเอ่ยขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดมองทั้ง 3 คนด้วยแววตาที่แข็งกร้าว ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"ทำอะไรไม่ได้งั้นหรอวะ!!!" คราวนี้มิรอลถึงกับขึ้น เข้าไปเผชิญหน้ากับร่างยักษ์อย่างไม่เกรงกลัว
"เออ! ว่าใครทำอะไรไม่ได้ยะ!!" ลูกอมก็ร่วมด้วยอีกคนดวงตาวาวระยับของเธอฉายแววความเกรี้ยวกราดของนางพญาจนน่ากลัว
"ก็พวกแกนั่นแหละ!!!" ทั้งกลุ่มนายพราณต่างเกรี้ยวกราด หรือแม้กระทั่งแต่ลูกอมกับมิรอลพวกเขาไม่เคยโดนหยามหน้าขนาดนี้มาก่อน งานนี้คงไม่จบด้วยคำพูดดีๆแน่คงต้องนองเลือดซะก่อนจะเข้าใจ
"อะไรวะ!" หมัดกรุ่นๆของมิรอลถูกปล่อยออกไปอย่างไม่รั้งรอ เขามองเห็นจุดอ่อนของร่างยักษ์ได้อย่างชัดเจนทีเดียว
กึก...!
หมัดกรุ่นๆถูกหยุดลงอย่างฉับพลันด้วยมือบางขาวนวลที่มองยังไงก็ไม่น่าจะหยุแรงดังกล่าวของผู้ชายอก 3 ศอกได้ แต่เธอกลับหยุดมันได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว คนคนนั้นคือนางพญาสาวแสนสวยอย่างลูกอม ดวงตาสีมรกตของเธอพราวระยับ มองน้องสาวของตนที่ดูแปลกๆไป
"หยุดมิรอล... วันนี้เราไม่ได้มาเพื่อสู้กับคนพวกนี้" ลูกอมเอ่ยขึ้น
"ชิ..." มิรอลสถบออกมาอย่างเสียไม่ได้
"หมาป่าสีเงิน... กำลังออกมา"ลูกกวาดเอ่ยขึ้นเสียงเบาหวิ๋วราวกับว่าไร้วิญญาณ ทำให้ลูกอมและมิรอลต่างหันไปมองยังชายป่า ดวงตานับสิบคู่สีแดงฉานจับจ้องมองออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น กลิ่นเลือด กลิ่นสาบสางของหมาป่าคละคลุ้งไปทั่วกลายเป็นกลิ่นเหม็นที่น่าชวนอ้วก แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมากังวนเรื่องแบบนี้
สิ่งที่ควรกังวนที่สุดก็คือพวกเขาจะทำอย่างไร จะรอดไปได้อย่างไร คืนนี้คงเป็นคืนที่ยาวนาน และนองเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานตลอดทุ่งหญ้าชายป่าแห่งนี้ หรือแม้กระทั่งผู้คนในหมู่บ้านเองก็ตาม ถ้าไม่มีใครสักคนหยุดมันค่ำคืนนี้คงเป็นค่ำคืนอันแสนโศกเศร้าหมดสิ้นทุกๆสิ่ง...
-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦
ตอนแรกเสร็จไปแล้วนะครับ
หวังว่าคงจะถูกใจกันไม่มากก็น้อย
ผมตั้งใจแต่งเต็มที่เพื่อรีดเดอร์นะครับ
สุดท้ายก็ โหวต+เม้น ตอนต่อไปจะได้มาไวๆ
เพราะกำลังใจเต็มเปี่ยมนะครับ
ตอนแรกเสร็จไปแล้วนะครับ
หวังว่าคงจะถูกใจกันไม่มากก็น้อย
ผมตั้งใจแต่งเต็มที่เพื่อรีดเดอร์นะครับ
สุดท้ายก็ โหวต+เม้น ตอนต่อไปจะได้มาไวๆ
เพราะกำลังใจเต็มเปี่ยมนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น