ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Darkness Hunter ♦ ปริศนา นักล่าอาถรรพ์ [รับสมัคร]

    ลำดับตอนที่ #2 : ->Darkness Intro

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 55


    ->Darkness Intro<-

           กริ๊ง~

         เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เช้าเป็นเหตุต้องให้ร่างบางในชุดนักเรียนชั้นม.ต้น ปกเรือใบไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ต้องรีบลัดลงมารับโทรศัพท์แต่เจ้าตัวก็ไม่วายที่จะสะดุดขาตัวเองล้มทั้งๆที่ ไม่ได้มีเหตุอะไรเลยก่อนจะถึงโทรศัพท์เพียงแค่เอื้อมมือเดียว

       "สะ...สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้น เธอเอื้อมมือมารับโทรศัพท์พรางกุมจมูกที่ชนกับพื้นเต็มๆอย่างแรงจนแดง ทำเอาน้ำตาเธอแทบไหลเลยทีเดียว

       [ฮัลโหล~ ลูกกวาดใช่ไหม?]

       "อ๊ะ~ เสียงแบบนี้พี่ลูกอม >^<"

       [ไม่ต้องดีใจเกินหน้าเกินตายะ]

       "ก็แหม~ ว่าแต่พี่ลูกอมโทรมามีเรื่องอะไรให้ช่วยหรอ?"

       [เออใช่... ลืมไปเลย วันนี้ถ้ามีใครไปที่บ้านห้ามเปิดประตูรับนะ]

       "ทำไมล่ะค่ะ?"

       [เอาเถอะน่า~ แล้ววันนี้ไม่ต้องไปเรียนอยู่บ้านให้รากงอกไปเลย]

       "เอ๋? พี่ไปหาเรื่องอะไรไว้อีกป่าวเนี่ย?"

       [ไม่ต้องถามมากน่า~ เอาเป็นว่านี่คือคำสั่งนะ]

       "ค่าๆ"

       [อ่อ... ไปล็อกบ้านด้วยนะยะ]

       "พี่ทำอย่างกับปีศาจจะมางั้นแหละ"

       [ก็ไม่เชิงหรอก~]

       "0.0 ปีศาจบุกบ้าน!!!"

       [ใช่ๆ มันน่ากลัวมาก~ ล็อกให้แน่นหนาเลยนะ]

       "ค่ะ! พี่ไม่ต้องห่วงนะใครหน้าไหนกล้าเข้ามาหนูจะจัดการให้ไม่กล้ามาอีกเลย -^-"

       [ดีมากน้องรัก ตัวที่จะไปมันเป็นนักมายากลเจี๋ยนมันให้เละ]

       "นักมายากล?"

       [เออน่า~ เอาเป็นว่ามันเล่นมายากลได้แล้วกัน]

       "รับทราบค่ะ!!!"

       [งั้นแค่นี้ล่ะ อย่าลืมนะอัดให้เละ]

       "ค่ะ!" ร่างบางรับปากเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ปลายสายจะวางไป เธอจึงถอนหายใจออกมารีบวิ่งไปล็อกประตูบ้านตามคำสั่งของพี่สาว

         ลูกกวาด เด็กสาวร่างบางระหงส์ใบหน้าเรียวสวยได้รูปผิวกระจ่างใสไร้มลทิน เรือนผมสีสำตาลอ่อนหยักศกยาวสลวยถึงเอว ดวงตากลมโตสีแดงสดเลือดหมูถูกปิดทับไว้ด้วยแว่นกรอบหนาสีชมพูเข้ม จมูกรั้นขึ้นรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางเฉียบน่าถนุถนอมราวกับกลีบกุหลาบ มักพบเธอในชุดนักเรียนปกเรือใบพร้อมกับหูฟัง และตุ๊กตาหมีไม่ว่าจะตัวเล็กหรือใหญ่อยู่เสมอๆ

       "ปิดประตูหน้าบ้านแล้วคงไม่เป็นไรแล้วล่ะนะ~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น พรางนอนฟังเพลงเล่นอยู่บนโซฟาอย่างมีความสุขพร้อมกับกอดตุ๊กตาหมีที่มีเรียง รายอยู่ทั่วทั้งห้องไปพรางอย่างอารมณ์ดี ไหนๆวันนี้เธอก็ได้หยุดก็ขอพักผ่อนให้เต็มที่สักหน่อย

       "นอนมากเดี๋ยวอ้วนนะครับสาวน้อย~" เสียงนุ่มทะเล้นดังขึ้นข้างๆหูของลูกกวาด พร้อมกับหูฟังของเธอที่ค่อยๆถูกถอดออกโดยที่เธอไม่ได้รู้ตัวเลย

       "ไม่หรอกๆ~ ระบบเผาผลาญลูกกวาดดีจะตาย" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับซุกหน้าลงในตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ใบหน้าของเธอแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความสุขมาทีเดียว

       "งั้นหรอครับ~ น่าอิจฉาจังนะ"เสียงทะเล้นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

       "ใช่ไหมล่ะๆ~ อ๊ะ!" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมา ก็เป็นอันต้องหงายลงไปพร้อมกับโซฟาโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยความตกใจ ก็พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอใครไม่รู้อยู่ตรงหน้าห่างกันไม่ถึงเซน

       "555+ เธอนี่ตลกชะมัด~" ร่างสูงหัวเราะร่าพรางเช็ดน้ำตาที่ไหลปริ่มออกมา

       "คะ...คุณเป็นใครค่ะ? เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไงค่ะ?" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น ก่อนจะกลับมานั่งกอดตุ๊กตาหมีอยู่กับพื้นด้วยความงุนงงกับคนตรงหน้าที่ถือ วิสาสะเข้ามาในบ้านเธอ

       "ฉันชื่อมิรอลนะเป็นเพื่อนพี่สาวเธอน่ะ ก็เห็นหลังบ้านไม่ได้ล็อคอะนะ"ร่างสูงเอ่ยขึ้น เขามีผิวที่ขาวเรียกได้ว่าขาวมากดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนจ้าวสำอางค์ อยู่ในชุดนักมายากลสีครีม สวมหมวกทรงสูงสีครีมเช่นเดียวกัน เรือนผมสีเงินยาวประบ่าถูกมัดรวบเอาไว้ นัยน์ตาสีอำพันสวยน่ากลงไหล รวมๆแล้วเขาเป็นคนที่หล่อมากทีเดียว

       "ตายแล้ว!!! ลืมล็อคหลังบ้านซะสนิทเลย" ลูกกวาดอุทานขึ้นอย่างตกใจ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจการมีตัวตนของคนตรงหน้าเท่าไหรนัก

       "ดะ...เดี๋ยวสิ" มิรอลไม่ทันได้แย้งอะไรร่างบางก็พรวดพราดออกจากห้องไปแล้ว ตามมาด้วยเสียงโครมครามมากมาย ซึ่งล้วนเป็นเสียงความซุ่มซ่ามของลูกกวาดที่เดี๋ยวก็ตกบันได เดี๋ยวก็ลื่นล้ม เดี๋ยวก็วะดุดขาตัวเอง ชนนู่นชนนี่และอีกมากมาย

       "ฟู่~ ล็อกเสร็จแล้วล่ะนะค่ะ"ลูกกวาดเอ่ยขึ้น พรางปาดเหงื่ออย่างโล่งอก

       "ฮะๆครับ ^^;;" มิรอลเอ่ยขึ้นใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มดูจะหนักใจไม่น้อยกับน้องสาวของ เพื่อนสุดแสบตรงหน้าเขา ที่พอเอามาเทียบกันแล้วต่างกันราวกับฟ้าดิน ทั้งรูปร่างหน้าตา และที่สำคัญนิสัยคนละขั้วกันเลย

       "ว่าแต่...เอ๊ะ!" ลูกกวาดอุทานขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้หันไปชี้หน้าของมิรอล

       ...เข้ามาในบ้าน เป็นนักมายากลใช่เลย!...

       "เดี๋ยวๆ ผมไม่ได้มาร้ายนะ" มิรอลเอ่ยขึ้นเพราะดูท่าอีกไม่นานเด็กสาวตรงหน้าเขาคงได้ร้องลั่นบ้านแน่ๆ แต่มันก็คงไม่เป็นผลดีต่อเขานักเสียด้วย

       "ละ...แล้วมาทำไมค่ะ" ลูกกวาดเอ่ยขึ้น น้ำตาที่ปริ่มขอบตาของร่างบางทำเอามิรอลแทบจะไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว

       "ก็นะ~ ฉันไม่พูดอ้อมค้อมล่ะนะ..." มิรอลเอ่ยขึ้นเว้นช่วงขึ้นไปมองลูกกวาด แต่เป็นเขาที่ต้องตกใจแถมแอบขำเข้าไปอีกเพราะเธอดูเหมือนจะตั้งใจฟังแบบสุดๆ ไม่วอกแวกเลยทีเดียว แถมใบหน้าของเธอตอนนี้ก็ดูน่ารักไม่หยอก

       "ค่ะ!" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นฟังอย่างตั้งใจ

       "ฮะๆก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถเธอหรอกนะ แค่จะให้ช่วยตามมาด้วยหน่อย" มิรอลเอ่ยขึ้น แต่ไม่ได้บอกไปทั้งหมดว่าจะมารับตัวเธอไปเป็นคู่หูสืบคดีชั่วคราวแทนพี่สาว ของเธอที่ไม่ยอมรับคดีนี้ ทั้งๆที่เขาอยากจะรับจะตายเพราะค่าข้างสูงลิบเลยทีเดียว

       "แต่พี่ลูกอมบอกให้อยู่บ้านห้ามออกไปไหนนะค่ะ" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นยกเหตุผลตามประสาเด็กซื่อๆ แต่เธอก็เด็กจริงๆนั่นแหละในเมื่อเธอพึ่งอายุ 13 ได้ไม่นานนี้นี่เอง

       "ไม่เป็นไรหรอกมีผมอยู่ด้วยทั้งคน ยัยลูกอมไม่ว่าอะไรหรอก"มิรอลเอ่ยขึ้น

       "แต่พี่บอกว่าวันนี้ปีศาจจะบุกบ้านนะค่ะ" ลูกกวาดพูดขึ้นอีกครั้งอย่างเอาจริงเอาจัง

       ...เล่นบอกน้องงี้เลยหรอยัยป้า...

       "งั้นหรอ~ ยิ่งอยู่บ้านไม่ได้ใหญ่เลยนะครับ" มิรอลเอ่ยขึ้นใช้มุกประมาณเดียวกับลูกอมเพื่อล่อร่างบางให้ไปกับเขาให้จนได้

       "งั้นรอแป๊ปนึงนะค่ะ"ลูกกวาดเอ่ยขึ้นก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องด้านบนำอะไรโครม ครามๆจนไดยินมาถึงด้านล่าง ทำเอามิรอลเหงื่อตกชักเริ่มกังวนแล้วว่าเขาคิดถูกหรือผิดที่มาตามให้เธอคน นี้ไปเป็นคู่หูชั่วคราว

       "เออ..."

       ผ่านไปสักพักใหญ่เสียงโครมครามด้านบนก็เงียบลงไปจนมิรอลนึกใจเสีย ก่อนที่เสียงดังโครมใหญ่จะดังขึ้นจนเขาสะดุ้งโหยงตกใจ
    นึกว่าลูกกวาดจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว โดยเฉพาะว่าเท่าที่ดูแล้วเธอเป็นคนที่ซุ่มซ่ามมากทีเดียว กลัวเธอจะเป็นอะไรไปเสียก่อนที่เขาจะได้ไปทำงานน่ะสิ

       "มาแล้วค่ะ"เสียงใสเอ่ยขึ้น พร้อมกับร่างบางในชุดเดิมแต่มีกระเป๋าเป้รูปหมี กับหูฟังสีชมพูพ่วงมาด้วยดูแล้วเหมือนการเตรียมไปทัศนศึกษาของเด็กมัธยมยัง ไงยังงั้น

       "งะ...งั้นไปกันเถอะครับ" มิรอลเอ่ยขึ้นพรางวาดมือครั้งเดียวประตูกลอนประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดออกราว กับมายากลเลยทีเดียว ทำเอาลูกกวาดอดที่จะตะลึงไม่ได้ หากแต่คงจะดีกว่านี้ถ้าด้านหลังนั้นไม่มีเจ้าของร่างบางที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงน้องสาวสุดๆยืนขวางอยู่ล่ะก็นะ

       "พี่ลูกอม~" ลูกกวาดพอเห็นพี่ตัวเองที่ไม่ได้เจอมาเป็นเดือนถึงกับกระโดดเข้าหา แต่มันคงจะแฮปปี้กว่านี้ถ้าพอกระโดดออกไปลูกอมดันหลบทำเอาลูกกวาดหน้าคว่ำลงไปกับพื้นวิญญาณหลุดลอยไปแล้ว

       "บังอาจมากนะยะ" ลูกอมเอ่ยขึ้นผมสีครีมยาวสลวยโบกสบัดไปตามสายลมที่จู่ๆก็พัดมา ดวงตาสีมรกต
    วาวโรจน์ภายใต้แว่นใสโดดเด่น ทำให้เธอตอนนี้อยู่ในมาดของนางพญาเต็มตัวเลยทีเดียว จนมิรอลอดจะกลืนน้ำลายฝืดๆไม่ได้

       "แหมๆ แค่ยืมตัวนิดๆหน่อยๆเองนะยัยป้า" มิรอลเอ่ยขึ้น ยิ่งทำเอาลูกอมโมโหเลือดขึ่นหน้าเข้าไปใหญ่ มาลักพาตัวน้องเธอไปยังไม่เท่าไหร บังอาจมาว่าเธอป้ายอมไม่ได้เด็ดขาด
    ! งานนี้ได้มีนองเลือดแน่ๆ

        "ว่าไงนะยะ
    !" ลูกอมถึงกับโผเข้าไปบีบคอมิรอล ไม่ได้สนใจน้องสาวตัวเองเลยที่หัวกระแทกกับพื้นวิญญาณหลุดลอยไปซะแล้ว

       "อ้าก
    !!! ปีศาจจะฆ่าผมแล้ว" มิรอลโดนบีบคอแทบจะร้องไห้เลยทีเดียว งานนี้มีหวังเขาชะตาขาดแน่ๆ

       "ตายๆๆๆๆๆ
    !!!" ลูกอมยิ่งเพิ่มโทษเข้าไปอีก เมื่อโดนเรียกว่าป้าไม่พอยังตามมาด้วยปีศาจงานนี้ได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่ๆ

       "แอ๊ก~" และแล้วมิรอลก็ได้ตายสมใจลูกอม

       "อะ...อ้าว~ คุณมิรอลเป็นอะไรไปแล้วอ่ะค่ะ?" ลูกกวาดที่พึ่งฟื้นสติเอ่ยขึ้น มองมิรอลที่นอนหมอบอยู่กับพื้น

       "อย่าไปสนตัวพันธุ์นี้เลย
    ! พี่ว่าเราออกไปหาอะไรทานกันดีกว่า" ลูกอมเอ่ยขึ้น

       "อื้มๆ ไปทานอะไรดีอ่ะค่ะ" ลูกกวาดพูดขึ้นดูเหมือนร่างที่นอนอยู่จะโดนลืมไปสนิทเลยทีเดียว ตอนนี้เขาคงรู้แล้วว่า 2 พี่น้องคู่นี้เหมือนกันตรงที่ไม่แยแสสิ่งรอบข้างเนี่ยแหละ

       "ไปทานเค้กร้านนั้นกันดีไหม? ร้านนั้นน่ะ" ลูกอมเอ่ยขึ้นชวน

       "อ๋อ~ ร้านนั้นน่ะเอง" ลูกกวาดตอบ

       "ใช่ๆ ร้านนนั้นอร่อยมากเลย" ลูกอมเอ่ยขึ้นเสริม

       "นั่นสินะค่ะ~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นว่าการสนธนานี้เป็นการสนธนาที่มีแต่พวกเธอทั้ง2คนที่รู้ไป

       "ไปกันเถอะ~" และแล้ว 2 พี่น้องก็ควงกันออกไป ทิ้งให้คนที่บาดเจ็บสาหัตถ์นอนตายอยู่ที่เดิมราวกับไร้ตัวตนไปเลยทีเดียว

       "ดะ...เดี๋ยวสิ แอ๊ก~
    !"

          ณ ร้านเค้กสวีตตี้

       "เพราะงั้นช่วยหน่อยเถอะนะ" มิรอลล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพื่อขอร้อง 2 พี่น้องอย่างจนใจ เพราะงานนี้ถ้าเขาไปทำคนเดียวคงไม่สำเร็จแน่ๆ

       "เรื่องอะไรล่ะยะ" ลูกอมเอ่ยขึ้น พรางนั่งจิบชาอย่างสบายใจ

       "น่านะ~ ของานนี้งานเดียวจริงๆ" มิรอลเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างจน
    ใจ

       "พี่ลูกอมเขาก็น่าสงสารนะค่ะ" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจ

       "ลูกกวาดใจอ่อนเกินไปแล้วนะ" ลูกอมเอ่ยขึ้นอดไม่ได้ที่จะหันไปเขกหัวน้องตนเอง

      "โอ้ย~ ก็มันน่าเห็นใจจริงๆนินา ช่วยเขาเถอะนะ~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นช่วยอ้อนอีกแรง

       "ช่วยหน่อยเถอะนะ~" มิรอลเอ่ยขอร้องขึ้นอีกคน

       "ก็ได้ๆ" ในที่สุดลูกอมก็จำต้องยอมเพราะขืนไม่ยอมลูกกวาดได้งอนเธอพอดี ถึงจะเห็นอย่างนี้เธอก็เป็นคนที่รักน้องมากๆ แถมเวลาลูกกวาดโกรธหรืองอนมันน่ากลัวขนาดหนักเลยน่ะสิ

       "เย่
    !!!" ลูกกวาดกับมิรอลเฮขึ้นอย่างดีใจ ทำเอาคนทั้งร้านหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียวกัน

       "...เงียบๆหน่อยก็ได้ยะ ฉันอายนะยะ" ลูกอมถึงกับมุดหน้าหนีไม่ทัน ก็จะทำไงได้เธอเองก็ไม่ใช่จะหน้าหนาเป็นเซนๆอย่างลูกกวาดกับมิรอลนิที่จะทำอะไรไม่เคยจะอาย

       "งั้นไปกันเลยไหมค่ะ?"ลูกกวาดเอ่ยถามขึ้น

       "เดี๋ยวๆลูกกวาดใครบอกจะให้เราไปด้วย" ลูกอมเอ่ยขัดขึ้น

       "ทำไมล่ะค่ะ? หนูอยากไปนินา" ลูกกวาดเอ่ยขึ้นพรางเบะปากจะร้องไห้

       "เธอจะทำเด็กร้องไห้นะ ยัยลูกอม"มิรอลเอ่ยขึ้น เขากับลูกกวาดเป็นปี่เป็นขลุ่ย

       "ยะ...อย่าร้องนะ ก็ได้ๆแค่คราวนี้นะ" ลูกอมจำต้องยอมน้องสาวตัวเอง เพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้มีหวังเธอได้อายมากกว่าเดิมแน่ๆ

       "ยะ..."

       "หยุดๆ อย่าดีใจให้มากนักฉันอายนะ" ลูกอมตั้งท่าห้ามเอาไว้ ก่อนที่น้องเธอจะทำเรื่องอีกรอบ

       "ค่าๆ~ ว่าแต่ปีศาจที่ไหนจะมาบ้านหรอค่ะ?" ลูกกวาดเอ่ยถามขึ้นอย่าใสซื่อสุดๆ

       "นะ...นี่ยังไม่รู้อีกหรอว่าโกหก" มิรอลพูดขึ้นถึงกับอึ้งไปกับความซื่อของเด็กคนนี้

       "พี่โกหกลูกกวาดหรอ ฮึก~" ลูกกวาดเอ่ยขึ้ย ถึงกับเป็นเรื่องเมื่อน้ำตาเริ่มคลอเบ้าเสียแล้ว

       "เอาแล้วไงล่ะ อย่าร้องนะลูกกวาด"ลูกอมเอ่ยขึ้น พยายามเข้าไปโอ๋ลูกกวาด

       "พี่โกหกหนู ฮึกๆ~"

       "ดะ...เดี๋ยวลูกกวาด ทำเรื่องแล้วไง ไอ่นักมายากลบ้าเอ้ย
    !!!" ลูกอมถึงกับหมดปัญญา หันไปโบกมิรอลเต็มแรง

       "ก็ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ" มิรอลเอ่ยขึ้น พยายามจะเข้าไปโอ๋ลูกกวาดแต่ดูจะไม่เป็นผล

       "อย่าร้องๆ" ลูกอมพยายามห้าม ถึงเธอจะรู้ว่ามันจะไม่เป็นผลแน่ๆ เพราะเธอไม่เคยโอ๋น้องสาวคนนี้สำเร็จสักที

       "แง~~~~~~
    !!!!!!!!!!!!!!!" และแล้วก็เป็นอันต้องหูแตกกันไป เพราะเสียงปรกติของเธอคนนี้ก็ออกจะดังอยู่แล้ว อาการร้องไห้โฮเป็นเด็กๆของเธอจึงทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงอย่ารุนแรง จนคนทั้งร้านเป็นอันต้องหูอื้อหูตึงกันไปชั่วคราวตามๆกัน นิทานเรื่องนี้จึงสอนว่า อย่าโกหกผู้อื่นมันไม่ดี(รึป่าว?)


    -♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-♦-
    ตอนแรกเสร็จไปแล้วนะขอรับ
    ไม่รู้จะถูกใจกันไหม
    เพราะนี่ก็เป็นนิยายเรื่องแรกของผม
    ติชมกันได้มาเต็มที่เลยนะครับ
    เม้น+โหวตสักนิดจิตแจ่มใสนะครับ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×