ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทวดาไม่ธรรมดา

    ลำดับตอนที่ #3 : ไอ้โจ้เป็นอะไร?!?

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 54


     

     
                     ตื่น ๆ ๆ ๆ เว่ย ตื่น  พระอาจารญืเรียกแล้วเร็วๆๆๆ   เสียงเรียกจากเพื่อนๆหลายคนและเสียงฝีเท้าตึงตังวิ่งว่อนกันวุ่นเต็มไปหมด ทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่สภาพที่เห็นคนต่างคนต่างวิ่งออกไปข้างนอกบ้างก็กำลังใส่ชุดขาวกันอยู่ผมมองไปมองมาอย่าง งง ซักพักก็เหมือนมีคนมาตบหัวของผม

                    เฮ้ย ทิวตื่นเร็วๆเข้าอีก 10 นาทีเตรียมพิธีเปิดค่ายแล้วเร็วๆๆๆ ใส่สุดขาวด้วยล่ะเสียงที่พูดอยู่นี่คือเจ้าภูนั่นเองซึ่งมันก็แต่งชุดขาวเรียบร้อยแล้วผมเริ่มตื่นตัวแล้วมองหาแนวร่วมที่ยังไม่ได้แต่งชุดขาวเหมือนผม ไอ้เป้กำลังใส่เสื้อกางเกง  ไอ้กี๋กำลังหาชุดขาวอย่างเร่งรีบ ไอ้โจ้กำลังใส่กางเกงอย่างทุรักทุเล ส่วนผม ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย เมื่อเห็นอย่างนั้นผมรีบเรียกสติแล้วหันไปที่กระเป๋าเสื้อผ้ารีบหาเสื้อขาวกางเกงขาว ดีนะที่เกิดเป็นผู้ชายเวลาเปลี่ยนชุดเลยไม่ยุ่งยากเหมือนพวกผู้หญิง ผมรีบถอดเสื้อนักเรียนแล้วสวมชุดขาวทันทีส่วนกางเกง........ผมนึกได้ว่าตอนพ่อผมจะใส่กางเกงเห็นพ่อผูกผ้าขาวม้าแล้วถอดกางเกงออก ผมเลยใช้สูตรแบบพ่อคือ เอาผ้าเช็ดตัวมัดกับเอวแล้วถอดกางเกงนักเรียนออก ช่วงเวลานี้สำคัญ ต้องระวังจะมีใครมือดีมาถึงผ้าเช็ดตัวผม ผมจึงเปลี่ยนอย่างระแวดระวังแต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ผมรีบเอากางเกงขายาวสีขาวมาใส่ได้ทันการมองเวลา 8.55แล้ว หน้ายังไม่ได้ล้างเลยพี่น้องตอนนี้หน้ามันมากคงจะล้างไม่ทันแล้วล่ะ ข้าวของเสื้อผ้ากางเกงวางแม่งอย่างนั้นล่ะเพราะตอนนี้พวกเพื่อนๆเขาไปกันเกือบหมดแล้วเหลือแต่พวกผม 5 คนนี่ล่ะ จากนั้นพวกผมเลยรีบบบบบวิ่ง ไปที่หอประชุมใหญ่

    ณ เวลา 8:50

    "ตื่น เว่ย ตื่น ๆ   พระ อาจารย์เรียกแล้วเร็วๆๆๆ"   เสียงเรียกจากเพื่อนๆหลายคนและเสียงฝีเท้าตึงตังวิ่งว่อนกันวุ่นเต็มไปหมด ทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่สภาพที่เห็นต่างคนต่างวิ่งออกไป ข้างนอกบ้างก็กำลังใส่ชุดขาวกันอยู่ผมมองไปมองมาอย่าง งง ซักพักก็มีคนมาตบหัวของผม

    เฮ้ย ทิวตื่นเร็วๆเข้าอีก 10 นาทีเตรียมพิธีเปิดค่ายแล้วเร็วๆๆๆ ใส่สุดขาวด้วยล่ะ
    เสียงที่พูดอยู่ นี่คือเจ้าภูนั่นเองซึ่งมันก็แต่งชุดขาวเรียบร้อยแล้ว  ผมเริ่มตื่นตัวแล้วมองหาแนวร่วมที่ยังไม่ได้แต่งชุดขาวเหมือนผม ไอ้เป้กำลังใส่เสื้อ  ไอ้ กี๋กำลังหาชุดขาวอย่างเร่งรีบ ไอ้โจ้กำลังใส่กางเกงอย่าง ทุรักทุเล ส่วนผม ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย เมื่อเห็นอย่างนั้นผมรีบเรียกสติแล้วหันไปที่กระเป๋าเสื้อผ้ารีบหาเสื้อขาว กางเกงขาวผมรีบเอากางเกงขายาวสี ขาวมาใส่ได้ทันการมองเวลา 8.55แล้ว หน้ายังไม่ได้ล้างเลย ตอนนี้หน้ามันมากคงจะล้างไม่ทันแล้วล่ะ ข้าวของเสื้อผ้ากางเกงวางแม่งอย่างนั้นเลยเพราะตอนนี้พวกเพื่อนๆเขาไปกัน เกือบหมดแล้วเหลือแต่พวกผม 5 คนนี่ล่ะ จากนั้นพวกผมเลยรีบวิ่งไปที่หอประชุมใหญ่

     

    หอประชุมใหญ่
                  อีกนิดเดียวก็จะเข้าหอประชุมใหญ่ อยู่ดีๆก็มีชายร่างใหญ่พุงโลเดินอาดๆออกมายืนเท้าสะเอวแถมยืนยังก่างขาซะกว้าง ทำให้พวกผมเกือบชนแก

    จากนั้นเวรกรรมก็เริ่มขึ้น

                “พวกแกอีกแล้วนะ......เห็นมั้ยว่าคนดีๆ เขาไปเข้าแถวหมดแล้วเพาระฉะนั้นพวกแกมาเข้าแถวกับชั้นอยู่ด้านหลังแถวไม่ ต้องไปเข้ากับคนดีหรอก ตามมานี่เสียงใหญ่ๆ แก่ๆ จะเป็นใคร    ไปไม่ได้นอกเสียจากครูปราโมทย์ ครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนผมเองวันนี้แกมาช่วยคุมเด็กเฉยๆ ทั้งโรงเรียนเรียกแกว่าตู้เกรียน เพราะเวลาตรวจผมแกชอบถากหัวนักเรียนชายเหมือนกับถากหญ้ารกๆ และพวกผมก็มีบัญชีกับแกมากพอควรแกจึงจำพวกผมได้ วันนี้เช่นกันเจอตู้เกรียนอีกแล้ว!!! 
                    สุดท้ายผมกับเพื่อนๆเลยไม่ได้ไปเข้าแถวพิธีเปิดงานเข้าค่ายพุทธธรรมทำให้พวกผมทั้ง 5 เด่นอยู่แถวเดียว  เวลาผ่านไปได้ซักครึ่งชั่วโมงเป็นอันเปิดพิธีเสร็จ แล้วพวกผมก็รีบย่องๆๆไปเข้าแถวกับเพื่อนกลุ่มปัญญา

    มาเข้าค่ายครั้งนี้อย่างที่ผมบอกต้องถือศิล 8  ต้องกินข้าวคาบเดียว ห้ามร้องเล่นเต้นกัน ห้ามนอนเตียงสูงเกิน 2 นิ้ว  ส่วนอีก 5 ข้อก็คือศิล 5 นั่นล่ะ จากนั้นพระอาจารย์สรายุทธตัวแทนพระลูกวัดก็ ให้เราเข้าแถวตามกลุ่มแล้วให้ไปกินข้าวมื้อแรกและมื้อเดียวของวันนี้ซึ่ง เป็นอาหารเจซะด้วยผลล่ะเกลียดอาหารเจหลังจากที่พวกเรากินข้าวเสร็จ  พระอาจารย์สรายุทธก็แบ่งกลุ่มให้ พวกเราไปบำเพ็ญประโยชน์ โดยกลุ่ม ของผมได้ไปทำความสะอาดลานวัดด้านหน้า

    หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปประจำจุดที่ได้รับมอบหมายซึ่งพระอาจารย์ที่ มาคุมจุดนี้คือ พระอาจารย์โชติ(โชด)คาดว่าท่านน่าจะเป็นคนสุพรรณ พระเสียงเหน่อมาก พูดแต่ละทีพวกผมล่ะฮาตามหลังจากที่ท่านให้พวกเราไปหยิบเอาไม้กวาดถังขยะ และที่ตักขยะมา  แล้วทำการลงมือกวาดลานวัด

     สำหรับพวกผมงานแบบนี้พวกผมไม่ค้อยถนัดเท่าไหร่หรอกก็แค่ไปจับๆให้พอเห็นว่าทำก็พอ  พวก ผมมักจะหาเดินเล่นไปก่อกวนพวกผู้หญิงบ้าง ไปแซวพวกแต๋วๆ บ้าง จะมีก็แต่ไอ้ภูที่มันขยันทำนัก พวกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะพวกผมก็เข้าใจมันดี  ซักพักไอ้โจ้ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว "ไม่รู้จะรีบไปไหน" ผมล่ะอุทานขึ้นมา ไอ้กี๋เลยแซวๆย้ำอีก "สงสัยข้าศึกโจมตีแรงไปมั้ง~เพราะตอนมันกินข้าวเช้าเล่นซัดเอาตั้ง 2 ถาดเลย" จากนั้นพวกผมก็เดินตะลอนๆไป   

    เดิน ไปได้ไม่นานเห็นทีท่าว่าพระอาจารย์เรียกให้เปลี่ยนฐานพวกผมจึงรีบวิ่งไปที่ ลานวัดที่ๆกลุ่มของผมอยู่โชคดีที่มาทันพวกผมเลยแอบไปเข้าแถวด้านหลังตามเคย
             “เอ๋าล่ะ ทุกค๋น ท๋ำความสะอาดได้ดี๋มากตอนนี้ก็10โมงครึ่งแล้วพระอาจารย์จะพาเดินดูวัดนะ”  พระ อาจารย์ โชติกล่าวอย่างพอใจ จากนั้นท่านก็นำทางพวกเราเดินเข้าไปในป่าเป็นการเดินป่าตื่นเต้นสำหรับผมที่ ได้เดินป่าในวัดทั้งสนุกและเจ็บเท้าแต่ก็ยอมเพราะเห็นพวกผู้หญิงว่าวิวสวย มาก ระหว่าที่พวกแถวหน้าๆกำลังเดินออกตัวไปผมเห็นไอ้เป้มันมองหาอะไรซัก อย่างผมเลยถามมันไป
                   "มองหาอะไรวะ" ไอ้เป้มันหันมามองผมแล้วถามกลับมาอีก
                   "มึงลองมองดูดิไอ้โจ้มันหายไปไหนเห็นบอกว่าไปเข้าห้องน้ำแม่งจะ ชั่วโมงแล้วส้วมดูดมันรึป่าววะ" เออ.......ใช่ของมันไอ้โจ้ไปเข้าห้องน้ำนานพอควรพวกผมเริ่มสองจิตสอง ใจจะรอหรือไม่รอหว่า? พวกเพื่อนๆก็ เริ่มเดินเข้าไปในป่าอยู่ลิบๆ ลังเลอยู่ได้ไม่นานไอ้โจ้ก็เดินมา อย่างล่อแล่ๆ หน้าตามันดูซีดๆสงสัยท้องเสีย พอมันเดินมาใกล้ๆไอ้กี๋เลยเดินไปกอดคอมันมาแล้วพวกผมก็พากันวิ่งตามเพื่อน เข้าไปในป่า

    ตามเคยล่ะครับพวกเราทั้ง5ไม่ซิ 4 คน ผมว่างานนี้ไอ้ภูเหนื่อยเอาการมันกำลังเดินอยู่
    หน้าแถวด้วยความที่ขิวไอ้ภูพวกผมเลยลากมันจากหัวแถวมาท้ายแถวเลย
    !ไอ้นี่ชอบทำตัว เด่นกว่าพวก  เดินตะลอนๆไปผมก็สังเกตไอ้โจ้ มันเงียบผิดปกติมันเดินหยิมๆติ๋มๆอยู่คนเดียวไม่พูดกับใครผมไม่แน่ใจว่าจะมี ใครคิดแบบผมรึป่าว

    เดิน ไปก็ไกลพอควรในที่สุดก็มาถึงยอดหน้าผา บรรยากาศดีมากฟ้าครึ้มๆลมเย็นๆทำเอาผมอยากนอนซะตรงนั้นเลย กำลังจะเดินไปรับลมเย็นๆซักหน่อยไอ้กี๋ก็ลากผมมานั่งที่ลากต้นไม้ใหญ่ สิ่งที่มันบอกผมเล่นเอาตกใจนิดๆเพราะสิ่งที่ผมคิดผมไม่ได้คิดอยู่คนเดียว!!! มันถามผมว่าว่า 
               ”ไอ้โจ้มันเป็นแปลกๆผิดปกติรู้สึกมั้ยผมก็ตอบมันไปอย่างที่คิด แล้วมันก็บอกอีกว่าตั้งแต่ไอ้โจ้หายไปเข้าห้องน้ำ มันก็เป็นแปลกๆชนิดที่ว่าเพื่อนนอกกลุ่มยังสังเกตได้
                  เป็นอย่างนี้มันน่าแปลกมั้ยล่ะ!!? ผมก็เลยเรียกเพื่อนๆในกลุ่มที่เหลือมาคุยกันแล้วตกลงกันว่าดูๆมันไปก่อน เผื่อมันจะดีขึ้น ว่าแล้วก็ทำการสลายม๊อบ

    หลังจากที่สลายม๊อบแล้วพระอาจารย์โชติก็เรียกให้เดินมาที่หอประชุมใหญ่ พวกผมเลยพากันเดินต่อแถวออกมาจากป่า......

    ณ หอประชุมใหญ่
                 กว่าจะมาถึงหอประชุมใหญ่เล่นเอาเหนื่อยแทบตายเจ็บก็เจ็บเท้าเฮ้อออออ ตอนนี้สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เลยพอๆกัน  เหงื่อท่วมตัวจากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วย   กลิ่นตัวเหม็นกันท่วนน่า เล่นเอาพวกพวกผู้หญิงไม่มีใครกล้าผ่านเลยล่ะหลังจากที่นั่งๆนอนๆไม่นานพระอาจารย์ทั้ง 5 ก็ขึ้นเวทีกัน อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แล้วพระอาจารย์ สรายุทธก็ได้ประกาศภารกิจยามเย็นนี้ของวันนี้
              วันนี้พระอาจารย์ได้เห็นเหงื่อที่รินไหลออกมาจากตัวของทุกคน พระอาจารย์ภาคภูมิใจมาก( พวกผู้ชายโห่ตามๆกัน) เอาล่ะ5โมง เย็นนี้ของให้ทุกคนมาที่หอประชุม กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้ากลุ่มไหนมาช้าจะถูกหักแต้มวันนี้เป็นวันพระขอให้ทุกคนตั้งใจทำวัดเย็น ด้วยเอาล่ะเชิญทำธุระส่วนตัวได้”  พอท่านพระอาจารย์พูดจบ  พวกเราก็ต้องแยกกันเป็นกลุ่มอีกผมกับพวกๆแทบจะคลานออกจากหอประชุมแต่ก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวเขามาว่าบ้า

               ระหว่างทางที่ผมกับกี๋เดินคุยๆกันไอ้เป้กับไอ้ภูก็โผ่ขึ้น มาหน้าตาทั้ 2 ต่างมีเล่ห์นัยๆจะเป็นเรื่องไหนไปได้นอกจากเรื่องไอ้โจ้
             "แล้วตอนนี้ไจ้มันไปไหนล่ะ" กี๋ถามขึ้น 
             "ไม่รู้ว่ะหายไปอีกแล้ว" ไอ้ภูมันตอบขึ้นมาพวกผมก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ดูทีท่าไปก่อนหลังจากนั้นพวก ผมทั้ง 4 ก็พากันไปอาบน้ำ~~~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×