[Fic Stony]My last important

ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 อเวนเจอร์

บทที่ 2

รุ่งเช้า

            “อือ...”แอนโทนี่ครางพลางลูบหัวเบาๆ เมื่อคืนดันจัดหนักไปหน่อย เลยยังแฮงค์ไม่หาย ดัมมี่หยิบแก้วน้ำและยาแก้แฮงค์มาให้ แอนโทนี่มองด้วยความภาคภูมิใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าดัมมี่จะไม่เผลอทำแก้วแตกแล้ว เสียงของจาร์วิสรายงานวันเวลาและสภาพอากาศตามปกติ ตอนนี้จะเที่ยงแล้ว และเพพเพอร์...เลขาสาวเพื่อนสมัยเด็กและเป็นคนที่แอนโทนี่ไว้ใจทีสุดโทรจิกโทนี่ให้ไปประชุมกว่าร้อยสาย...เรื่องบริษัทถ้าทำเอกสารเสร็จเดี๋ยวเพพก็อารมณ์ดี

            “เจ้านายครับ ชิลล์ติดต่ออยากพบไอรอนแมนเป็นการส่วนตัวครับ” เสียงของจาร์วิสรายงานขึ้น โทนี่ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการซ่อมเครื่องปรับอุณหภูมิอัตโนมัติเงยหน้าขึ้นแล้วขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

             “ทางนั้นติดต่อผ่านนายงั้นหรอ?” เธอถามกลับ

            “ครับ ชิลล์อยากพบไอรอนแมนเป็นการส่วนตัว ทางนั้นร้องขอให้ปิดเป็นความลับไม่ให้คุณรู้ครับ เขาอยากพบเพียงแค่ไอรอนแมนเท่านั้น” เมื่อแอนโทนี่ได้ยินดังนั้นเธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ปกติไอรอนแมนในสายตาของทุกคนคือบุรุษเหล็กที่มากด้วยความลับ ไม่มีใครรู้ตัวจริงหรือกระทั่งเบอร์ติดต่อ แต่ทุกคนก็คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับบริษัทสตาร์ค อินดัสตรี้เพราะไอรอนแมนจะเลือกจู่โจมอาชญากรรมที่ขโมยเทคโนโลยีด้านอาวุธของสตาร์คเท่านั้น ถึงแม้ว่าหน่วยวิทยาการพัฒนาอาวุธจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่อาวุธก็ยังคงอยู่และถูกขโมยออกไปบ้าง ถูกลักลอบออกไปบ้าง ส่วนสาเหตุที่ทุกคนรู้ว่าแอนโทนี่ สตาร์คเป็นแฟนของไอรอนแมนเพราะว่าเธอเมาในผับบ่อยครั้งและหลายๆครั้งไอรอนแมนก็พาเธอมาส่งที่บ้าน ทั้งยังมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถติดต่อกับไอรอนแมนได้

            “เขาติดต่อผ่านนายยังไง หรือมีคนแฮกระบบเข้ามา” แอนโทนี่เค้นถาม จาร์วิสรายงานด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เปล่าครับ เจ้าหน้าที่เดินมาบอกผมโดยตรงตอนที่ผมไปรับคุณที่บาร์ ตอนนั้นคุณหลับอยู่ครับ แถมยังสะดุ้งตื่นตอนที่กำลังคุยกันและอาเจียนใส่....”

            “พอๆ จาร์วิสฉันเข้าใจล่ะ ถ้าพวกชิลล์อยากเจอไอรรอนแมนนัก เอาชุดเกราะมาให้ฉัน” แอนโทนี่รีบหยุดให้เอไอคู่ใจพูดถึงเหตุการณ์อันน่าอายที่เธอจำไม่ได้

            “เจ้านาย...ถึงชุดเกราะจะสามารถป้องกันอันตรายได้ แต่การใส่ชุดเกราะทำให้เจ้านายไม่ปลอดภัยมากกว่าเดิมนะครับ” จาร์วิสเอ่ยเตือน แต่เมื่อแอนโทนี่ยืนยันคำสั่งอีกครั้ง จาร์วิสก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะเขาเป็นเพียงเอไอที่ต้องทำตามความต้องการของเจ้านายเท่านั้น ไม่สามารถโต้แย้งได้ในทุกกรณี แม้ว่าโปรแกรมจะส่งสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงแค่ไหน แต่สุดท้าย โทนี่ก็สวมชุดเกราะและบินไปพบชิลล์อยู่ดี

            แอนโทนี่ร่อนลงบนเครื่องบินเฮลิแคริเออร์ของชิลล์ด้วยชุดเกราะไอรอนแมน อันที่จริงเธอมีชุดเกราะแบบที่ตรงกับสัดส่วนของเธอ แต่โทนี่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นคนประดิษฐ์ชุดเกราะเหล่านี้ แอนโทนี่ยอมให้ทุกคนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงของไอรอนแมนดีกว่ามีคนรู้ความสามารถแท้จริงของเธอ เพราะอย่างนั้น เธอเลยไม่ได้มีโอกาสได้ใส่ชุดเกราะชุดนั้น ไม่สิ ไม่ใช่แค่ชุดนั้น หลายชุดเลยต่างหาก ว่าแล้วโทนี้ก็ขยับตัวเล็กน้อยด้วยความอึดอัดก่อนค่อยๆร่อนลงบนยาน

            เมื่อเธอมาถึง เจ้าหน้าที่หน่วยชิลล์ที่คุ้นหน้าก็เดินเข้ามาต้อนรับ เธอคนนั้นคือ มาเรีย ฮิล เจ้าหน้าที่ฮิลเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับนิค ฟิวรี่ ผู้บัญชาการหน่วยชิลล์ทั้งหน่วย มากที่สุด เจ้าหน้าที่ฮิลมาพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียดเป็นเอกลักษณ์ จนแอนโทนี่แอบพนันกับจาร์วิสว่าเธอต้องมีรอยตีนกาก่อนอายุ 30 แน่ๆ

            เมื่อมาเรียพาเธอมาถึงห้องประชุม จำนวนคนในห้องประชุมทำให้เธอผิวปาก ตรงหัวโต๊ะมีนิค ฟิวรี่นั่งอยู่ คนร่วมประชุมมีหญิงสาวผมแดงสุดเซ็กซี่ ชายผมดำกำลังขัดลูกธนูอยู่ ชายตัวเล็กสวมแว่นที่กำลังกัดเล็บมือด้วยความประหม่า ชายหนุ่มผมทองยาวในชุดยุคโบราณและชายหนุ่มกล้ามโตผมทอง

            “คุณมาสาย ไอรอนแมน” นิค ฟิวรี่เอ่ยติ โทนี่ในร่างไอรอนแมนยักไหล่ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้อย่างไม่ใส่ใจ “โทษที พอดีต้องดูแลคนป่วยนิดหน่อยน่ะ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะ” ไอรอนแมนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เสียงที่เปล่งออกมาผ่านเครื่องแปลงความถี่ของเสียง ทำให้เสียงออกมาเหมือนจาร์วิสเป๊ะ เพียงแต่สำเนียงบริติชของจาร์วิสก็ทำเอาโทนี่ลำบากอยู่นิดหน่อย อีกอย่างที่โทนี่เอ่ยเช่นนั้นกับนิค เพราะจาร์วิสเล่ามาว่าคนที่เธออ้วกใส่เมื่อคืนคือนิค ฟิวรี่นั่นเอง

            “งั้น...เรามาเริ่มแนะนำตัวก่อนไหม ผมยังไม่รู้จักใครสักคนเลยนี่ แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าถูกเรียกมาเรื่องอะไร หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องเรียกค่าปรับเพราะผมไปบินป่วนเส้นทางการบินหรอกนะ อ้อ! ผม ไอรอนแมน ยินดีที่ได้รู้จัก” โทนี่พูดอย่างไม่ดูสถานการณ์ที่เคร่งเครียดและบรรยากาศอันมืดทะมึนระหว่างกลุ่มคนเหล่านั้น ชายแว่นท่าทางประหม่าเอ่ยเสียงแผ่ว “สวัสดีครับ ผม บรูซ แบนเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีแกมม่าครับ”  พอมีคนเกริ่นนำ คนที่เหลือก็เริ่มแนะนำตัวบ้าง

            หญิงสาวผมสีแดงเพลิงตัดสั้น สวมชุดรัดรูปสีดำชื่อ นาตาชา โรมานอฟ ชายที่นั่งตรงข้ามเธอที่กำลังขัดลูกธนูอย่างขะมักเขม้นชื่อ คลินต์ บาร์ตัน ข้างๆคลินต์คือชายผมทองยาวสวมชุดโบราณคือ ธอร์ เทพเจ้าจากแอสการ์ด(ตรงจุดๆนี้โทนี่เหมือนจะไม่เชื่อสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้แย้งอะไรออกไป)และคนสุดท้ายคือชายผมทองตัดสั้นเกรียนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอคือ สตีฟ โรเจอร์

            เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จ ฟิวรี่ก็เริ่มเข้าเรื่องทันที “ที่ฉันเรียกพบพวกนายทุกคน เพราะว่าฉันอยากจะคุยเรื่องฮีโร่ พวกนายทุกคนในที่นี้ล้วนทำงานในทิศทางเดียวกัน แต่หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว ทำไมพวกเราถึงไม่ลองร่วมมีกัน ผมมีบางอย่างให้คุณดู...”ฟิวรี่กดที่ปุ่มกด ภาพโฮโลแกรมฉายถึงผู้ก่อการร้ายที่กำลังขนเทคโนโลยีของสตาร์คอยู่ "นั่นของฉันนี่” ไอรอนแมนพูดเสียงแผ่วกับตัวเอง ฟิวรี่พูดต่อ “ดูที่สัญลักษณ์บนตัวผู้ก่อการร้าย พวกนี้คือพวกไฮดร้า ก่อตั้งมานานพร้อมๆกับชิลล์ เป็นพวกสมาคมของพวกวายร้ายหัวกะทิ หากพวกนายต่างคนต่างต่อสู้เช่นนี้ ฉันกลัวว่าเราจะขัดขากันเอง เพราะฉะนั้นฉันขอเสนอให้ทุกคนในที่นี้รวมกลุ่มกันเพื่อเตรียมรับมือกับอาชญากรพวกนี้ในนามอเวนเจอร์”

            “นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ เราไม่มีทางร่วมมือกันได้หรอก” บาร์ตันพูดออกตัวด้วยความไม่พอใจ โทนี่เห็นด้วยกับบาร์ตัน การจะนำพวกเรารวมกลุ่มก็เหมือนกับการจับปูใส่กระด้ง รั้งแต่จะพากันตายหมด

            “ผมเห็นด้วยกับบาร์ตัน เราไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกลุ่มเลยนี่ ต่างคนต่างอยู่น่ะดีแล้ว ผมจัดการเพียงส่วนที่ผมจำเป็นต้องจัดการเท่านั้น คุณก็อยู่ในส่วนของพวกคุณ แฟร์กันดี” โทนี่พูดเสริม แต่สตีฟก็ได้พูดขัดขึ้น “พวกคุณยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของไฮดร้าดี ในอดีตทุกคนช่วยกันถอนรากถอนโคน แต่เห็นได้ชัดว่ามันไร้ผล ไฮดร้ายังคงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้”

            โทนี่หันขวับไปยังสตีฟ ก่อนอดพูดเหน็บแนมไม่ได้ “แหม พูดอย่างกับนายเคยอยู่ในยุคสมัยนั้นแหละ” สตีฟเองก็หันมาเชิงจะเอาเรื่องเช่นกัน โทนี่จ้องตากลับอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนที่จะได้มีการวางมวย ฟิวรี่ก็ได้พูดห้ามเอาไว้ก่อน ชิส์ เห็นแก่ฟิวรี่หรอกนะ

            “ผมเข้าใจว่าคุณรักสันโดษไอรอนแมน แต่ถ้าผมจะบอกว่า การตายของโฮเวิร์ดและมาเรีย สตาร์คมีความเกี่ยวข้องกับไฮดร้าล่ะ” นิค ฟิวรี่พูดอย่างใจเย็น เหมือนว่าเขาจะค่อยๆหงายไพ่ในมือออกมาช้าๆ แอนโทนี่ชะงัก ลำคอแห้งผาก ชื่อของพ่อแม่ที่เสียไปเพราะอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังอายุ 20 ปีต้นๆ และหลังจากเหตุการณ์นั้น เรื่องเลวร้ายที่เธอไม่อยากนึกถึงก็ตามมาติดๆ

            “ผมเข้าใจว่าพวกเขาตายเพราะอุบัติเหตุ” ไอรอนแมนพยายามเฉไฉ “อีกอย่างถ้าคุณมีหลักฐานก็ควรเอามาให้ผมตรวจดูนะ เพราะผมก็มีสิทธิรู้ทุกเรื่องของแอนโทนี่ สตาร์ค”

            “ไม่จนกว่าคุณจะยอมร่วมมือกับผม”นิคต่อรองอย่างไม่ยอมแพ้ โทนี่แบะปากในชุดเกราะ แต่เรื่องที่นิคพูดก็อาจมีส่วนเป็นจริงเช่นกัน เพราะพ่อของเธอก็เคยทำงานที่นี่มาก่อน บางทีเขาจะรู้จักพ่อดียิ่งกว่าเธอเสียอีก แต่จะให้เธอร่วมมือกับคนเหล่านี้ก็คงยาก และไหนจะข้อเรียกร้องหลายๆอย่างที่ตามหลังมาอีกล่ะ แต่โทนี่ก็ใจถึงพอที่ตอบรับข้อเสนออันบ้าบิ่นนี้ “โอเคร ผมตกลง แอนโทนี่ สตาร์คจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายและจะสนับสนุนสิ่งที่คุณต้องการ ทุกอย่างยกเว้นเทคโนโลยีของสตาร์ค ทีนี้คุณก็ส่งมอบทุกสิ่งเกี่ยวกับพ่...โฮเวิร์ดและมาเรีย สตาร์คมาให้ผม”

            “แบบนี้มันไม่ถูกต้อง” สตีฟ โรเจอร์พูดขึ้น อะไรอีกฮะเจ้าผมทองผมทรงทหาร คนเค้ากำลังเจรจากันอยู่จะมาขัดทำไม “คุณไม่ใช่โทนี่ สตาร์ค แต่คุณตัดสินใจทุกอย่างแทนเธอหมด อีกทั้งคุณยังเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เปิดเผยทั้งชื่อหรือหน้าตา แบบนั้นมันอันตรายหากปล่อยข้อมูลให้อยู่กับคนอย่างคุณ” สตีฟพูดในเรื่องที่สมเหตุสมผล ดูเหมือนว่านาตาชาจะเห็นด้วย เธอพยักหน้าและพูดงึมงำ “ฉันเห็นด้วย นายเป็นใครไม่มีใครรู้ หากสักวันหนึ่งมีคนมาแทนที่นายเราก็ไม่อาจรู้ได้เลย” แหม พูดคำว่าเรา นี่แอบไปจับมือกันตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ บางทีนี้อาจเป็นฉากที่ฟิวรี่สร้างขึ้นเพื่อตบตา หรือไม่ก็เธอตกลงที่จะเข้าร่วมกลุ่มอเวนเจอร์ตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นเธอก็เป็นคนของชิลล์อยู่ก่อนแล้ว

            เรื่องยุ่งยากตามมาติดๆเลยแฮะ แอนโทนี่กรุ่นคิดอย่างหนัก ดูเหมือนชิลล์ต้องการรวบกลุ่มต่อต้านไฮดร้า และอยากจะรู้ตัวจริงของไอรอนแมนด้วย ตัดมาที่กลุ่มคนที่ไม่รู้จะไว้ใจได้ไหม แต่เท่าที่สังเกตดูเหมือนว่าแบนเนอร์กับธอร์จะไม่รู้เรื่องนี้ คลินต์ บาร์ตัน เจ้านั้นดูไม่เห็นด้วยกับการตั้งกลุ่มแต่จากการพูดคุยอย่างสนิทสนมกับโรมานอฟแสดงว่าต้องรู้เรื่องอะไรบางอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสตีฟ โรเจอร์ รายนี้รู้ทุกอย่างอย่างแน่นอน สังเกตจากการพูดที่ดูกำกวมและดูปกป้องแอนโทนี่ สตาร์คเกินเหตุนั่นด้วย ไม่ว่าจะนั่งคิดนอนคิดยังไงเธอมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

อย่าบอกนะว่าเป็นพวกคลั่งไคล้เธอนะ

            แอนโทนี่มองสตีฟด้วยความหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม ก่อนรวบรวมความคิดและค่อยๆพูดเจรจาอย่างใจเย็น “เอาอย่างนี้ไหม ถึงผมจะมีชุดเกราะ แต่คนที่สนับสนุนผมคือแอนโทนี่ และเธอก็มีสิทธิรู้ในทุกๆเรื่องที่ผมรู้ เรื่องอเวนเจอร์ผมอยากให้ลองคุยกับเธอโดยตรงดีกว่า” แอนโทนี่แนะ ถ้าหลังจากนี้ชิลล์ไม่ติดต่อมา ไอรอนแมนก็จะลุยเดี่ยวต่อไป โทนี่คิดไว้อย่างนั้น

            นิค ฟิวรี่กรุ่นคิดชั่วครู่ ระหว่างที่แอนโทนี่กำลังรอ สายด่วนจากเพพเพอร์ก็ดังขึ้นมาภายในหมวกเกราะ โทนี่ปิดที่แปลงเสียงและปิดกั้นเสียงออกจากชุดเกราะก่อนพูดคุยสายกับเพพเพอร์

            “เอ่อ...ว่าไงเพพ”

            ‘ว่าไงอะไรล่ะแอนนี่ เธอมีประชุมระหว่างบริษัทนะ ตอนนี้อีตาโรคจิตจัสติน แฮมเมอร์นั่นกำลังพูดถึงเธอเสียๆหายๆอยู่ การประชุมเพิ่งเริ่มไม่ถึงนาที มาตอนนี้ด่วนเลย!’

            “เดี๋ยวสิ!....” ยังไม่ทันขาดคำ เพพเพอร์ก็ตัดสายทิ้งไปทันที ท่าทางทางนั้นจะยุ่งวุ่นวายจริงๆแฮะ แอนโทนี่ตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนพูดกับนิค “ถ้าตัดสินใจยังไงก็อย่าลืมบอกผมด้วยล่ะ”

            ว่าแล้วโทนี่ก็ออกไปทันที ยังไงการประชุมต่อก็โน้มน้าวใจไอรอนแมนไม่ได้อยู่แล้ว หากพวกเขาต้องการไอรอนแมนจริงๆก็คงต้องติดต่อจากแอนโทนี่ สตาร์ค เท่านั้น