ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    How to love ก็เด็กมันร้าย

    ลำดับตอนที่ #7 : EP.3 คนที่อยากให้ดูแล / 100

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 64


    สุดท้ายก็ขับรถมาถึงผับจนได้ ทั้งที่ไม่ได้วางแผนมาตั้งแต่ต้น ก็แค่พาเจ้าเด็กเกเรมาหามื้อเย็นตามที่นัดกันไว้แล้วจากนั้นก็พามันไปส่งที่หอพัก แต่เหมือนโชคชะตาจะนำพาให้เรื่องราวมันมาลงเอยแบบนี้โดยที่ติวเตอร์หนุ่มไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

     

    “เลิกทำหน้าเหมือนว่าถูกบังคับได้แล้ว อุตส่าห์พามาหาความบันเทิงแท้ๆ” ธามว่า หลังจากนั้นก็เหมือนสติหลุดเพราะร้านเปิดเพลงโปรดให้แถมคนร้องก็คือนักดนตรีในดวงใจอีก แล้วโต๊ะที่นั่งจึงถูกทิ้งไว้ให้คนสองคนได้เฝ้าต่อ

     

    “เสียเวลากูฉิบหาย”

     

    เป็นเสียงบ่นจากคนที่นั่งปั้นหน้าบึ้งตั้งแต่เดินเข้ามาในผับแล้ว จะเรียกว่าไม่ชอบสถานที่แบบนี้ก็ย่อมได้เพราะเขาเป็นคนที่ไม่โปรดปราณกับเสียงดังเกินที่สมองจะรับได้ และในตอนนั้นที่มากับธามก็เพราะทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาสถานที่แบบนี้อีก ยิ่งตอนนี้การที่ต้องมานั่งมองคนตรงหน้าที่ยกแก้วเหล้าดื่มไม่หยุดจนต้องออกปากปราม

     

    “แล้วนี่มึงจะดื่มอะไรนักหนา”

     

    “เอ้า ก็พี่ไม่ดื่มนี่ ผมเสียดายของก็เลยดื่มให้ไง ยังจะว่าผมอีกนะ” ทิวเขาว่าแล้วยิ้มให้ หน้าเริ่มร้อนผ่าวแต่ก็ยังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม

     

    “ดื่มขนาดนั้น เดี๋ยวก็ได้เมาหรอก”

     

    “งั้น ถ้าผมเมา พี่ต้องดูแลผมให้ดีๆ นะ ห้ามทิ้งผมไปนะ” คนว่ายื่นหน้าไปหาพร้อมกับหยีตาใส่ ก่อนจะตกใจที่เห็นอีกฝ่ายลุกพรวดขึ้น

     

    “พี่ธนูลุกขึ้นทำไม พี่จะไปไหนเหรอ”

     

    “กูจะไปเข้าห้องน้ำ”

     

    “ให้ผมไปเป็นเพื่อนปะ” ทิวเขาถามทันที แววตาใสเหมือนลูกแก้ว

     

    “มึงอยู่นี่แหละ เฝ้าโต๊ะไป รอไอ้ธามกลับมา”

     

    “แต่ว่า...”

     

    “นี่คือคำสั่ง เพราะถ้ามึงบอกว่ามึงชอบกู มึงก็ต้องฟังกู” ธนูว่าหน้านิ่ง มือสองข้างกอดอกเอาไว้ เห็นชัดว่าหน้าตาอีกฝ่ายดูเจื่อนลง มุมปากข้างหนึ่งฉายยิ้มออกมา ยังได้ยินเสียงบ่นพึมพำจากเด้กข้างบ้าน

     

    “ทำไมชอบออกคำสั่งกับผมจัง ถ้าผมปล่อยพี่ไป พี่จะไม่ทิ้งผมไปใช่ไหม ผมจะเชื่อใจพี่ได้ไหม พี่ธนู”

     

    “พี่ไม่มีสิทธิ์มาถามคำถามนี้ เพราะอีกเดี๋ยวมึงก็รู้เอง”

     

    “พูดแบบนี้ โดนทิ้งอีกแน่ๆ”

     

    ธนูแสยะยิ้มแล้วเดินจากตรงนั้นไปโดยไม่หันหลังมามองอีกจึงไม่ได้เห็นอาการซึมของคนเริ่มเมาที่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าอาจจะโดนทิ้งขว้างอีกรอบ

     

    เฮ้อ...

     

    คนถอนหายใจยกแก้วเหล้าขึ้น ใช้สายตาจ่อนึงที่ของเหลวในนั้นซึ่งเหลืออยู่แค่ครึ่งก่อนจะดื่มรสดเดียวจนเกลี้ยง ทางด้านของธนูตอนนี้มาถึงหน้าห้องน้ำชายแล้วแต่ไม่ทันได้ทำอะไรก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นพร้อมๆ กับเครื่องในกระเป๋ากางเกงสั่น มือหนาล้วงเอาออกมาก่อนจะกดรับสาย

     

    ‘อยู่ไหนวะตอนนี้ ทำไมเสียงมันดังขนาดนั้น’ ซนถามด้วยความอยากรู้ ตอนที่กลับมาถึงคอนโดแล้วเคาะประตูเรียกธนูแต่กลับว่างเปล่า จนต้องโทรไปหาแล้วยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เพราะเสียงเพลงที่เล็ดลอดเข้ามาทางปลายสายนั่น

     

    ‘กูอยู่ข้างนอก มึงอ่าโทรมามีอะไร’ ธนูว่ากำลังยืนต่อแถวข้าหงน้าห้องน้ำ

     

    ‘คือว่ากู...ไม่ได้เอากุญแจห้องไปไง ตอนแรกคิดว่ามึงจะอยู่ห้อง กูก็เลยไม่ได้เอาไปตั้งแต่แรก’

     

    ‘เออ งั้นมึงรอเดี๋ยวกูกำลังจะกลับพอดี’ ธนูว่าแล้วกดวางสาย คิดเอาไว้ว่าหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็ไม่คิดจะกลับไปที่โต๊ะอีกแล้วปล่อยเวลาล่วงเลยไปสักพักถึงค่อยโทรไปบอกธามว่ามีธุระด่วนต้องออกมาจากผับก่อนถึงตอนนั้นจะไหว้วานให้ช่วยไปส่งไอ้เด็กขี้เมาที่หอพัก ความคิดนั้นมาเป็นฉากๆ พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากแต่แล้วทุกอย่างกลับดับวูบเพียงกำลังถูกใครบางคนลากตัวออกมา

     

    ธนูหันไปมองด้วยความตกใจแล้วถึงกับหน้าซีด เพราะสิ่งที่เห็นคือสิ่งที่เขาพยายามหนีมาโดยตลอด ร่างสูงโปร่งถูกลากตัวออกมาจากการต่อแถวก่อนจะถูกรุ่มร่ามโดยมือของผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตาดี

     

    “ดีใจจังที่เจอกันที่นี่ ไปนั่งกินด้วยกันนะ” คนว่าเสียงอ้อน กำลังเกาะแขนชายคนที่ชอบ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันที่นี่เลยไม่ปล่อยให้โอกาสมันหลุดลอยไป

     

    “เออ ไม่ดีกว่า กำลังจะกลับน่ะ” ธนูว่าพยายามแกะมือของเธอออกจากการเกาะกุม มีหลายเรื่องที่เกินความคาดหมายทั้งที่มันควรจบตั้งแต่ที่ร้านอาหารนั่นแล้ว

     

    “งั้น...กลับด้วยคนสิ ไปส่งให้หน่อยนะ น๊า...ธนูคนดี”

     

    เสียงนั้นฟังแล้วอ้อนหนักขึ้นไปอีกแถมยังเอาหน้ามาซบลงที่หน้าอกกว้างของเขา ธนูรู้สึกไม่ดีรีบผลักหญิงสาวออกห่าง เล่นเอาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ

     

    “เออ ขอโทษด้วยนะเรย์ คือเรามากับรุ่นน้องนะ แล้วก็กำลังจะกลับด้วย ต้องพาน้องมันไปส่งให้ถึงที่ ขอตัวนะ” จบคำ ธนูก็รีบเดินออกจากตรงนั้นไม่หันมามองหน้าเรย์อีก เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะสลัดกลุ่มผู้หญิงพวกนั้นที่ชอบมาขายขนมจีบให้ เพราะไม่เคยชอบอะไรแบบนี้ก็เลยเมินเฉยมาตลดสามปีเต็ม ก็เพราโฟกัสแค่เรื่อเรียนกับการเป็นติวเตอร์ให้กับรุ่นน้องเท่านั้น

     

    “มึง กูไม่ได้มอมเหล้าน้องมันนะ กูเองก็เพิ่งกลับมาที่โต๊ะว่าจะมากินเหล้าย้อมใจหน่อย แต่น้องมันดันกินไปหมดเลยสามแก้ว” ธามบอกทันทีกลัวธนูจะเข้าใจผิด แต่นอกจากจะไม่ว่าแล้วยังพูดจาดีอีกด้วย

     

    “เออ กูไม่ได้จะว่ามึง เอาเป็นว่ากูจะพามันกลับตอนนี้เลยละกัน แล้วมึงล่ะไอ้ธามจะกลับเลยไหม”

     

    “กูว่ายังว่ะ พอดีต้องอยู่รอขอลายเซ็นพี่เขา นานๆ จะได้มีโอกาสแบบนี้ก็ขอทำตัวเป็นติ่งสักคืน”

     

    “ถ้างั้นกูกลับกละ”

     

    “ยังไงก็ฝากดูแลน้องทิวเขาด้วยละกัน ไปส่งให้ถึงที่นะมึง น้องกูคนนี้กูบอกไว้เลยว่าจะส่งมันเข้าประกวดเดือนมหาลัย” ธามว่ายิ้มๆ มองธนูกำลังประคองคนเมาให้ลุกขึ้นแต่ดูจากสภาพคงไม่ไหวแล้ว งานนี้คงต้องเอาใจช่วยลุ้นให้ธนูพามันกลับไปโดยสวัสดิภาพ

     

    “เออ กูจะพยายามประคับประคองไม่ทำให้หน้ามันแหกละกัน” คนตอบปั้นหน้าตึง เดือดร้อนต้องพามาที่ผับไม่พอยังต้องรับภาระแบกมันกลับไปในสภาพที่เมามายแบบนี้อีก ระหว่างนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้นอีกทำเอาคนที่คิดว่าจะช่วยประคองไปส่งที่รถจำต้องเปลี่ยนใจในทันทีทันใด

     

    “เฮ้ยมึง เพลงโปรดกูมาแล้ว มึงคงต้องแบกมันกลับไปที่รถแล้วละ สู้ๆ นะเพื่อน” คนว่าตบไหล่เพื่อนไปสองครั้งแล้วรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทิ้งความยุ่งยากให้กับธนู

     

    “ดีๆ ทั้งนั้นที่ส่งมาให้กู” ธนูเปรย ยังคงประคองร่างของทิวเขาอยู่ “มึงก็อีกคน รู้ว่าคออ่อนก็ยังจะดื่มมันเข้าไปอีก” หางตาเอียงหาคนที่จู่ๆ ก็คอพับไปซบลงกับไหล่กว้างของเขา ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเท้าหนาเตรียมเดินออกไปอย่างทุลักทุเลเพราะคนขี้เมาดันทุ้มน้ำหนักตัวมาที่เขาหมด หากไม่ติดว่ารับปากกับผู้ใหญ่แล้วจะปล่อยไว้ตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

     

    แล้วธนูก็พาทิวเขามาถึงรถจนได้ ร่างอ่อนปวกเปียกถูกยัดลงที่เบาะนั่งข้างคนขับ เล่นเอาคนพามาเหงื่อแตก มือหนาเอื้อมไปหยิบสายคาดตัวมาแต่จังหวะนั้นกลับได้ยินเสียงงึมงำอยู่ในลำคอ

     

    “พี่ธนู ผม...”

     

    “มึงจะพูดอะไร” ธนูถามหน้านิ่ง ในระยะที่ใบหน้าใกล้กันมากขนาดนี้ก็ไม่คิดว่าคนที่หลับอยู่ดีๆ จะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ว่าริมฝีปากของเรานั้นชนกัน

     

    ธนูตาโตด้วยความตกใจสุดขีดที่ถูกจู่โจมด้วยจูบแบบนั้น ก่อนจะผลักทิวเขาออกไป อ้าปากเตรียมจะด่าแต่กลับได้ยินเสียงกรนให้รู้สึกแค้นเพราะไม่สามารถทำอะไรคนเมาได้

     

    “บ้าที่สุด” ธนูปิดประตูรถใส่ดังปังก่อนจะเดินอ้อมมานั่งประจำที่คนขับ ค่อยๆ เอียงหน้าไปมองยังคนหลับตายด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ต้องมาเสียจูบแรกให้กับคนเมาหมดสภาพแบบนี้ ถ้าอยู่ในสภาพปกติก็คงจะต่อยปากแตกไปแล้ว ไม่ใช่ยังมาหลับสบายอยู่แบบนี้ คิดแล้วมันน่าเจ็บใจที่สุด

     

    เจ้าเด็กเวร...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×