ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    How to love ก็เด็กมันร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : EP.1 คำสัญญาที่ให้ไว้

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 64



    "พี่ธนู"

     

    เสียงคุ้นหูดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเล่นเอาคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเรียนอยู่นั้นถึงกับชะงักกึกแล้วเงยหน้าขึ้น พยายามใช้สายตาคมกวาดหาที่มาของเสียงนั้นแต่กลับไร้วี่แวว หรืออาจเป็นเขาเองที่หูแว่ว

     

    ตลอดสามปีที่เรียนอยู่ที่นี่ นอกจากห้องสมุดที่ชอบไปสิงสถิตบ่อยแล้วก็เห็นจะมีที่นั่งใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์อีกที่ที่ชอบมานั่งเล่นอ่านหนังสือเป็นประจำ

     

    และวันนี้ที่นั่งก็ยังว่างเหมือนเดิม อาจเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลรับน้องใหม่จึงไม่แปลกที่คนส่วนหนึ่งจะถูกเกนให้ไปอยู่ประจำเอกเพื่อเตรียมการต้อนรับและกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง แต่สำหรับพี่ปีสามอย่างธนู ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรก็จะไม่มีทางไปโผล่อยู่ที่นั่นเด็ดขาด

     

    "เฮ้ย ไอ้ธนู กูนึกแล้วเชียวว่ามึงต้องมาสิงตัวอยู่ที่นี่แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ" คนพูดคือซน เพื่อนสนิทสุดของธนูแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาเล่นเอาหน้าเหวอ

     

    "ถามหากูแบบนี้จะให้กูติวหนังสือเหรอ"

     

    "หยุดความคิดนั้นเลยมึง อย่าเอาเรื่องเรียนมาพูดกับกู สโลแกนของกู ตำรามีแค่ในห้องเรียนเท่านั้น ส่วนนอกห้องกูไม่รู้จัก"

     

    "แล้วมึงมาถามหากูทำไม" ธนูถามหน้านิ่ง บนโต๊ะยังมีตำราเรียนอีกสองเล่มวางอยู่

     

    "ก็แค่อยากมาชวนมึงไปดูหน้าน้องปีหนึ่งกันหน่อย ตั้งแต่พวกพี่ๆ เรียกน้องมันมาเรายังไม่ได้ไปดูน้องมันเลยนะ อีกอย่างน้องมันต้องมาขอลายเซ็นพี่ปีสามด้วย เดี๋ยวจะไม่รู้จัก" ซนว่า จ้องคนตรงหน้าอย่างอยากรู้คำตอบ 

     

    "ไม่ไป จะอ่านหนังสือ"

     

    "แล้วมึงจะขยันอ่านไปถึงไหนวะ ถึงมึงไม่อ่านวันเดียวมึงก็ใช่ว่าจะตก ระดับหัวกะทิอย่างมึงแล้ว หลับตาทำข้อสอบยังได้เลย เพราะฉะนั้น อย่ามีข้ออ้างเพื่อน ยังไงวันนี้มึงก็ต้องไปดู" ซนยังคะยั้นคะยอ ส่วนคนที่นั่งอ่านหนังสือก็ยังยืนยันคำเดิม

     

    "กู...ไม่...ไป" ธนูบอกหน้านิ่งแล้วถึงกับตกใจที่ถูกไอ้ซนแย่งหนังสือมาถือไว้ เล่นเอางงเพราะยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แน่ชัดของการมาป่วนในครั้งนี้

     

    "ไอ้ซน เอาหนังสือกูคืนมา กูต้องใช้สอนน้องปีสอง" ธนูว่าหน้าเครียด แบมือขอ

     

    "ถ้าอยากได้มึงก็ตามมาเอาดิ" ซนว่าพร้อมกับชูหนังสือในมือยั่วคนตรงหน้า แล้วรีบวิ่งออกไปทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเริ่มขยับเท้าตามมาจนถึงที่ 

     

    "ไอ้สัด" ธนูสบถขบกรามแน่นกำลังจะตรงไปหาเพื่อนจอมก่อกวนก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

     

    "น้องๆ ครับ ขอเสียงปรบมือต้อนรับพี่ธนูสุดหล่อของพวกเราด้วยครับ" คนถูกเอ่ยถึงจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า จำใจต้องมายืนอยู่ข้างหน้าเพื่อแนะนำตัว

     

    "สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อพี่ธนูเรียนอยู่ปีสาม และถ้าน้องๆ มีปัญหาเรื่องเรียนก็มาปรึกษาพี่ได้ตลอดนะครับ" 

     

    "แล้วถ้ามีปัญหาเรื่องหัวใจละครับปรึกษาพี่ธนูได้ไหมครับ" ประโยคนั้นเป็นของคนขี้กวนอย่างซน ที่กำลังยิ้มยั่วให้อยู่แถมในมือยังชูหนังสือเล่มที่ไปแย่งเอาจากธนูมา ยังไงครั้งนี้ก็จะไม่ปล่อยให้ความโสดของเพื่อนลอยนวลเป็นอันขาด 

     

    "ว่ายังไงละครับ พี่ธนูสุดหล่อ"

     

    ธนูทำหน้าบึ้ง แววตาดุดันจ้องมาที่ซนอย่างเอาเรื่องแต่เพราะประโยคที่เพื่อนตัวแสบถามมานั้นยังไม่ได้รับความจ่างจึงยังได้ยินคำถามนั้นซ้ำอีกครั้ง

     

    "เรื่องเรียนเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องอื่นถ้ายังมาถามให้รำคาญหูอีกละก็จะโดนว้ากกลับทันที ไม่ไว้หน้าใครด้วย" ปากวา่แต่สายตาจับจ้องที่เพื่อนจอมป่วนไม่นานก็รีบวิ่งไล่ออกไปจากละแวกนั้นไม่สนกับสายตาหลายคู่ที่มองกันอย่างงงๆ

     

    "เออ...ปรบมือจ้า" หนึ่งในชุดรุ่นพี่ปีสามที่ตะโกนออกไปพร้อมกับตบมือนำ ทางด้านของธนูยังวิ่งไล่ซนไม่เลิก จนอีกฝ่ายยอมแพ้ขอคืนหนังสือเล่มนั้นไป

     

    "มึงนี่มันยังไง กูอุตส่าห์ปูทางให้ หน้าตาก็ออกจะหล่อแต่ไหงถึงไม่ยอมมีแฟนซะที" ซนว่าเดินมานั่งหายใจหอบที่เก้าอี้ข้างเพื่อน

     

    "แล้วมันไปหนักหัวมึงรึไงไอ้ซน"

     

    "ก็ไม่ได้หนักหัวกูหรอกแต่มึงกลัวอะไรวะ กับแค่มีแฟน"

     

    "กูไม่ได้กลัวแต่กูไม่อยากแบ่งเวลา มึงคิดดูนะไอ้ซน ถ้ากูมีแฟน กูต้องสูญเสียเวลาส่วนหนึ่งให้กับแฟนแทนที่กูจะได้เอาเวลาส่วนนั้นไปให้ความรู้น้องๆ มันไม่ดีกว่าหรอ" ธนูถาม สองมือเร่งเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเพราะกลัวจะโดนซนหยิบไปอีก

     

    "กูละเบื่อกับมึงจริงๆ"

     

    "เบื่อกูเพราะมึงไปพนันไว้กับไอ้พัดมาใช่ไหมล่ะ"

     

    "นี่รู้ได้ไงวะ" ซนหน้าเหวอขึ้นอีกครั้งด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าธนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย ลำพังแค่เขากับไอ้พัดก็ไม่น่าจะมีใครอีกที่รู้

     

    "ก็ไอ้พัดนี่แหละที่บอกกู แล้วมึงก็โง่ที่ไปพนันฝั่งให้กูมีแฟน รู้ทั้งรู้ว่ากูไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่"

     

    "เออ ในเมื่อรู้แล้วก็ช่วยอนุเคราะห์ให้กูหน่อยเหอะ ถ้าแพ้มันคือกูต้องจ่ายหมื่นหนึ่งเลยนะ" คนว่าสีหน้าดูหดหู่มาก

     

    "ช่วยไม่ได้ อยากโง่ไม่คิดให้ดีเอง" ธนูว่าพร้อมกับสะพายเป้ไขว้หลัง  ยกมือขึ้นดูเวลาในระหว่างนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

    "แต่ผมว่าเพื่อนพี่เลือกถูกฝั่งแล้วนะครับ"

     

    ประโยคนั้นเองที่ทำให้ธนูรีบหันไปมองแล้วถึงกับชาไปทั้งตัว

     

    "ไอ้ทิวเขา"

     

     

     

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×