ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    How to love ก็เด็กมันร้าย

    ลำดับตอนที่ #16 : EP. 8 ชมรมติวเตอร์ / 50

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 64


    ตอนที่ 8

    ชมรมติวเตอร์

     

     

    เช้าในวันต่อมาธนูเจอซนที่ชมรมติวเตอร์ที่กำลังจะต้อนรับน้องๆ ปีหนึ่งเข้าชมรม ทันทีที่เห็นหน้าคนป่วยเสียงจากอีกคนก็ทักขึ้นอย่างไม่รีรอ

     

    “หายดีแล้วเหรอมึงถึงมาชมรมได้” ซนว่า ลอบมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เมื่อคืนกลับมาถึงห้องก็ดึกแล้วว่าจะเคาะประตูถามไถ่อาการก็เกรงใจ พอเช้ามาก็ถูกเพื่อนในชมรมโทรตามอีกจึงไม่ทันได้เข้าไปหา

     

    “หายแล้ว” ธนูตอบสั้นๆ เดินมาหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็คดูความเรียบร้อยยังคงมีเสียงพูดจากซนตามมา

     

    “หายดีแน่นะมึงไม่ใช่มาเป็นลมเป็นแล้งในชมรมล่ะ อายน้องมันตาย”

     

    “เห็นกูอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอไง” ธนูเอียงหน้ามามองแวบหนึ่งก่อนจะวางเอกสารกรอกใบสมัครเข้าชมรมแล้วเดินมาดูบอร์ดที่ตั้งโชว์โดยมีซนเดินตามหลังมาติดๆ

     

    “ไม่ได้คิดแบบนั้นแต่ป่วยไงร่างกายมันก็อาจจะทนไม่ไหว ไม่ได้บอกว่ามึงอ่อนแอแต่มึงกำลังป่วยอยู่ อีกอย่างน้องทิวเขาไม่ได้ทำอะไรมึงแน่ใช่ไหม”

     

    “ก็มึงนั่นแหละ แทนที่จะดูแลกูปล่อยน้องมันมาเข้าใกล้กูได้ยังไง” ธนูหันมาโวยวายใส่ซน เรื่องปล่อยห้องให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายยังไม่ได้สอบสวนเอาความและคิดว่าถึงจะเอาเรื่องก็ไม่มีประโยชน์เพราะยังไงเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว

     

    “ก็น้องมันเป็นห่วงมึงนี่นา ห่วงจนกูยังพูดไม่ทันจบน้องมันก็ขอกุญแจห้องจากกูไปแล้ว” ซนว่ายังจำภาพในตอนนั้นไม่ลืม น้องปีหนึ่งกับใบหน้าวิตกกังวลแกมตึงเครียดหลังจากได้ทราบข่าวอาการป่วยของรุ่นพี่ที่แอบชอบ เป็นใครในตอนนั้นก็เป็นต้องใจอ่อนกันทั้งนั้น

     

    ธนูได้ฟังเช่นนั้นถึงกับนิ่ง ไม่คิดว่าทิวเขาจะเป็นห่วงเขามากขนาดนั้นเคยคิดว่าเป็นเด็กข้างบ้านที่ไม่เอาไหน วันๆ เก่งแต่เรื่องชกต่อยจนวันที่เขาล้มป่วยและได้รับการดูแลเอาใจใส่ถึงไม่ได้ร้องขอแต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะทำไปด้วยความเต็มใจ

     

    เป็นแบบนี้แล้วควรรู้สึกยังไง

     

    /พี่ธนู ผมจะเข้าชมรมพี่นะครับ/

     

    เป็นข้อความที่ได้อ่านจากมือถือของธนูเองแล้วจู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างออกมา หากเรื่องที่เด็กทิวเขานั่นสอบติดเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเขาไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค ครั้งนี้ก็อยากทดสอบความสามารถกันอีกสักครั้ง

     

    “ไอ้ซน ปีนี้กูว่ากูจะเปิดสนามสอบสำหรับน้องปีหนึ่งที่อยากเข้าชมรมติวเตอร์”

     

    “สนามสอบ” ซนทำหน้างงไม่คิดว่าการเลือกรับน้องเข้าชมรมติวเตอร์จะต้องถึงขั้นเปิดสนามสอบทั้งที่ก่อนหน้านี้แค่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดก็เพียงพอแล้ว

     

    “ปีนี้กูแค่อยากได้น้องที่มีความสามารถพอจะเป็นติวเตอร์พร้อมกับกูได้” ธนูให้เหตุผล แม้จะเห็นเพื่อนขมวดคิ้วใส่ เขาหันมาสนใจกับบอร์ดที่เอามาขึ้นโชว์จนชะงักกับคำตอบโต้ของเพื่อนที่ยังไม่ยอมหยุดพูด

     

    “เหตุผลแค่นี้จริงๆ เหรอ กูก็นึกว่ามึงทำแบบนั้นก็เพื่อกันใครบางคนให้ออกห่างจากตัวมึงและไม่ต้องมามองหน้ากูแบบนั้นเลย กูเป็นเพื่อนมึงตั้งสามปีมีเหรอเรื่องแค่นี้กูจะอ่านใจมึงไม่ออก”

     

    “นั่นก็ด้วย” หมดคำจะแก้ตัว ธนูเลยยอมรับออกไปแบบนั้นก็แค่อยากทดสอบความสามารถกันอีกสักครั้งและก็เพื่อตัดสินใจกับอะไรบางอย่าง

     

    “มึงกลัวใช่ไหม”

     

    “กลัวอะไร”

     

    “ก็กลัวใจมึงว่าจะเผลอไปชอบน้องมันเข้าจริงๆ นะสิ” ซนจี้จุดเห็นเลยว่าคนฟังถึงกับหน้าถอดสี เขายิ้มมุมปากเดินมาโอบไหล่แล้วพูดต่อไปอีก “ถึงกูจะโง่ในด้านวิชาการแต่ด้านของความรู้สึกกูฉลาดนะเว้ย”

     

    “พูดมากไปทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้วไป” ธนูตัดบทไม่อยากสาวความยาว สะบัดตัวออกจากการจับกุมแล้วเดินจากไปโดยมีซนยืนมองแล้วยิ้มมุมปาก

     

    ด้านของสามหนุ่มปีหนึ่งแต่คนละคณะตอนนี้มายืนอยู่ที่หน้าชมรมว่ายน้ำแล้ว มีผู้คนมากมายยืนต่อแถวเพื่อลงนาม แล้วประโยคหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากปากของหวาย

     

    “ตกลงมึงจะเข้าชมรมว่ายน้ำจริงๆ เหรอ” หวายถามทิวเขาเพราะตอนที่มีสายเรียกเข้าจากคนในชมรมว่ายน้ำโทรเข้ามาหาทิวเขาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากเพื่อนว่าจะเข้าชมรมนี้จริงหรือแค่แวะมาดูเฉยๆ แต่หลังจากที่มันเอามือถือขึ้นมาโชว์ข้อความที่ส่งหาพี่รหัสของเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องคิดอะไรอีก

     

    “โอเค มึงจะเข้าชมรมติวเตอร์ แล้วมึงจะมาที่ชมรมว่ายน้ำอีกทำไม เสียเวลา”

     

    “กูก็อยากมาดูหน้าไอ้คนที่โทรชวนกูเข้าชมรมไงอยากถามด้วยว่าไปได้เบอร์กูมาจากไหน” ทิวเขาเอ่ยจบก็กดเบอร์โทรหาพี่คนนั้นทันทีโดยมีเพื่อนทั้งสองยืนลุ้นอยู่ข้างๆ ไม่นานเกินรอปลายสายก็ตอบรับเสียงเรียบ

     

    “ตอนนี้ผมอยู่ชมรมว่ายน้ำแล้วนะครับว่าแต่พี่อยู่ไหนครับ” ทิวเขาถามขึ้น ลุ้นว่าปลายสายจะตอบกลับมายังไง เขาแค่มาเพื่อดูหน้าและอยากถามไถ่เพียงแค่ประโยคเดียวจากนั้นก็จะไปไม่ขอยุ่งเกี่ยว ถึงยังไงในใจก็ยังมุ่งมั่นที่จะเข้าชมรมติวเตอร์ให้ได้ ดังนั้น ชมรมไหนๆ ก็จะไม่เอามาเป็นตัวเลือกอีก

     

    “น้องก็ลองหันหลังมาสิ”

     

    ประโยคนั้นทำคนฟังชะงักแต่ก็ยอมหันหลังตามที่บอก เพียงแวบแรกที่เห็นกับคนร่างสูงคิ้วดกจมูกโด่งเป็นสันและสายตาคู่นั้นที่รู้สึกไม่ชอบใจตั้งแต่วินาทีแรก ทิวเขาเก็บมือเข้ากระเป๋าแล้วเดินตรงเข้าไปหาแต่จังหวะนั้นกลับสะดุดตาใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่คนนั้น

     

    “ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่ได้เบอร์โทรศัพท์ผมมาจากที่ไหนแต่ว่าผมจำพี่ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังพี่ได้ เขาคือหนึ่งในสามคนนั้นที่รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้และถ้าให้ผมเดา พี่สินะเจ้าของรถตู้คันนั้น” ทิวเขาเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อม ยังเดาความคิดของคนตรงหน้าไม่ถูกว่าจะมาไม้ไหนแต่ข้อสันนิษฐานของเขาไม่มีทางผิดเพี้ยนไปแน่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×