คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : EP. 7 เป็นเรื่องจนได้ / 50
Ep. 7
เป็นเรื่องจนได้
ช่างเป็นการนอนหลับที่แสนยาวนานเสียจริง สำหรับธนูคนที่ร้อยวันพันปีที่ไม่ค่อยได้ป่วยกับใคร มาวันนี้กลับนอนซมเพียงเพราะกินอาหารไม่ถูกกับท้อง เปลือกตาหนาเริ่มขยับ ความรู้สึกเหมือนมีบางอย่างคลอเคลียร์อยู่ใกล้ๆ ไหนจะกลิ่นนั้นอีกที่เหมือนจะคุ้นแต่ก็ไม่คุ้น
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
และเสียงนั้นเองที่ทำให้ธนูต้องรีบลืมตาขึ้นมา ถึงกับสะดุ้งที่ทิวเขามานอนบนเตียงเดียวกับเขาแถมยังมาปั้นหน้ายิ้มใส่ให้อีก
“ลงไป” คำพูดประกาศิตดังขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับดื้อด้านไม่ยอมทำตาม
“ไม่ลงครับ ขึ้นมาแล้วจะให้ลงไปได้ยังไงครับ”
“จะลงดีๆ หรือจะให้กูถีบ”
“โฮ มีแรงขึ้นมาแล้วเหรอครับงั้นลองดูครับ” ทิวเขาอยากแกล้งเลยเปลี่ยนจากนอนข้างเป็นขึ้นมาคร่อมร่างของธนู ยิ่งได้เห็นดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจนั่นแล้ว เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมา นานแค่ไหนแล้วที่รู้สึกว่าคนตรงหน้าเย็นชากับเขา
“ทิวเขา”
“ครับ พี่ธนูเรียกผมทำไมครับ” คนถามหน้าซื่อ ไม่สนใจกับความพยายามของอีกฝ่ายที่ต้องการให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา
“มานั่งคุยกันดีๆ เถอะ อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวไอ้ซนมาเห็นจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่” ธนูว่า ทั้งที่คิดว่าแข็งแรงดีแล้วแต่แค่จะสะบัดตัวให้หลุดจากคนนั่งคร่อมก็ยังทำไม่ได้จนรู้สึกขายหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“เรื่องวันนี้ขอบคุณมึงมาก ตอนนี้กูดีขึ้นแล้ว มึงกลับไปได้” ปากนั้นเอ่ยเมื่อคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ
“ทำไมถึงเย็นชากับผมจังแม้แต่คำขอบคุณก็ยังดูแข็งๆ ไม่จริงใจเอาซะเลย”
“กูก็เป็นแบบนี้ของกูอยู่แล้ว มึงเองก็น่าจะชินแล้ว”
“ไอ้ชินมันก็ชินอยู่หรอกครับแต่ไม่คิดจะชอบผมขึ้นมาบ้างเลยหรือ” ประโยคในตอนท้าย ทิวเขามีความคาดหวังมาก ถึงยังไงก็ต้องยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าทั้งหมดที่ทำก็เพื่อให้อีกฝ่ายประทับและเผลอใจรักเขาขึ้นมาบ้าง สักนิดก็ยังดี
“เพ้อเจ่อ”
“โธ่”
“กลับไปได้แล้ว” ธนูออกปากไล่อีก ถึงคราวนี้ก็ยังเดาไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะยอมทำตามไหม นี่ขนาดพูดมากี่รอบแล้วก็ยังทำเฉย
“ไล่กันเก่งจริงๆ เลย” คนบ่นพึมพำเผลอถอนหายใจ ไม่ทันจะได้ฟังคำตอบโต้ของอีกฝ่ายสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น ทิวเขาหยิบมือถือออกมากดรับสายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มโดยมีธนูมองอยู่
‘ครับแม่ อ๋อ อยู่ที่ห้องกับพี่ธนูนะครับ พอดีพี่ธนูป่วย ผมเลยมาดูแล’ ทิวเขาว่าเหลียวสายตามามองที่คนป่วยบนเตียงที่อาการท่าจะดีขึ้นตามลำดับแต่ไม่นานก็ยื่นมือถือให้
“แม่อยากคุยด้วยนะครับ”
ธนูจำใจต้องรับมือถือของทิวเขามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะเอ่ยออกไปกับปลายสายที่ทักเข้ามา
‘ครับคุณน้า เออ ดีขึ้นแล้วครับ’ ธนูตอบมารดาทิวเขาทางปลายสาย ยังไงก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือคนหนึ่ง
‘ไม่ครับ ทิวเขาเป็นเด็กดีครับ’ เป็นคำตอบที่ทำเอาชาไปทั้งตัวแต่เพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงลูกชายจึงต้องพูดออกไปแบบนั้นแต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกเอามาพูดซ้ำอีก
“อยากฟังพี่ธนูพูดเหมือนที่บอกกับแม่ในสายอีกครั้งจัง บอกกับผมตรงๆ โดยที่ไม่ผ่านคนกลางได้ไหมครับ”
“เพ้อเจ่อกลับไปได้แล้ว” คนว่าโยนมือถือคืน แล้วเอื้อมมือมาหยิบมือถือของตัวเองมาอัพเดตความเคลื่อนไหวถึงกับแปลกใจที่มีสายเรียกเข้าจากหมอบีตั้งหลายสาย กำลังจะกดเบอร์โทรหาแต่ก็ยังเห็นทิวเขายืนอยู่ไม่ไปไหน
“ยังอยู่อีกเหรอ”
“ทำไมถึงได้ชอบไล่ผมจัง คนอุตส่าห์เป็นห่วง ทั้งเช็ดตัว ทั้งห่มผ้าให้ จะซึ้งซะหน่อยก็ไม่มี”
“เช็ดตัว นี่มึง” ธนูเพิ่งสังเกตว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมอีกแล้ว หากรู้สึกตัวก็คงต่อต้านอย่างสุดแรงแต่ไอ้เจ้าเด็กบ้านั่นมาทำอะไรแบบนี้ได้ยังไง
“ไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย ผู้ชายเหมือนๆ กัน แล้วพี่ก็ตัวร้อนมากด้วย ผมกลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไปก็เลยเช็ดตัวให้ ยังจะมาโกรธผมอีกนะ”
“นายนี่มัน...เอาเถอะ กลับไปได้แล้วถือว่านี่เป็นคำขอร้อง” ก็ไม่รู้จะต้องใช้ไม้ไหนแล้วที่จะให้ทิวเขากลับไปเสียทีเลยเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนแทน
“ก็ได้ครับ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็โทรมาหาผมได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะผมยินดีให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“อืม”
“อืมแล้วก็อย่าทำเป็นลืมละพี่”
“เออ ไปได้แล้ว” คนตอบโต้ขานเสียงยาว ชักเริ่มรำคาญเต็มที นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องเป็นหนี้บุญคุณเจ้าเด็กข้างบ้านแถมดูท่าว่าจะเป็นบุญคุณที่ต้องทดแทนกันยาวๆ
“โอเคครับ ผมไม่กวนพี่แล้วก็ได้” ทิวเขาตบท้ายด้วยยิ้มหล่อๆ แล้วเดินจากไป คราวนี้เขาไปจริงๆ เพราะคิดว่าหากยังเสนอหน้าอยู่ต่อคงทำให้อีกฝ่ายรำคาญแน่ ทางด้านของธนูตอนนี้บอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกยังไงกับทิวเขา โกรธ โมโห หรือควรขอบคุณในความดื้อด้านนั่นแต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ชอบเอามากๆ นั่นคือการจับเขาแก้ผ้าไปแบบนั้น
“บ้าจริง” ธนูพึมพำจะขอบคุณหรือโกรธก็ทำได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายก็จำต้องปล่อยไป นิ้วเรียวกดเบอร์โทรหาหมอบี พอปลายสายตอบกลับจึงเอ่ยขึ้น
‘ขอโทษด้วยที่ไม่ได้รับสายเลย ว่าแต่ติวเป็นยังไงบ้าง ทำคนเดียวไหวหรือเปล่า ได้ยินว่ารอบนี้คนติวเยอะใช้ได้’
คนถูกถามตอนนี้กำลังยืนยิ้มให้กับกับภาพตรงหน้า แล้วตอบคำถามเพื่อนที่ถามมา
‘ไม่เป็นไร ตอนนี้มีผู้ช่วยแล้ว ทำหน้าที่ได้ดีมากทีเดียว ธนูเองพักนี้ดูเหนื่อยๆ นะยังไงก็พักก่อนเถอะ’
‘ก็จริง พักนี้รู้สึกอยากนอนมาก ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะหมอบี’
‘อืม ไม่เป็นไรจริงๆ ไว้ค่อยมาทำโปรเจคหน้าด้วยกันอีก โอเคบาย’ หมอบีวางสายแล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่หวายเดินเข้ามาหา
“ผมแจกชีทเสร็จแล้ว ส่วนกระดาษคำตอบนั่นผมก็รวบรวมมาวางใกล้ๆ กับหนังสือเรียนของพี่แล้ว ทีนี้ผมไปได้หรือยัง” หวายถามหน้านิ่ง รู้สึกเหมือนมีพันธะติดตัวยังไงยังงั้น แต่เพื่อความรักที่ยิ่งใหญ่ของเพื่อนที่มีให้พี่รหัสสุดโหดของเขา เลยต้องมาทำเรื่องแบบนี้
“ยัง เพราะน้องยังต้องไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่ก่อนครับ”
“หา” ประโยคนั้นถึงกับทำเอาหวายต้องอุทานออกมาด้วยความไม่เข้าใจขณะที่อีกคนมีเพียงรอยยิ้มมุมปาก
ส่วนทิวเขาตอนนี้ลงมาอยู่ข้างล่างแล้ว ถือว่าภารกิจในการดูแลคนที่ชอบมานานผ่านพ้นไปด้วยดี แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกดีด้วยไหมแต่แค่ไม่เป็นอะไรมากก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าความคิดแบบนี้จะมาอยู่ในหัวของเขาได้ นักศึกษาเภสัชปีหนึ่งได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง วันเวลาสามารถทำให้คนเราใจเย็นได้จริงๆ
ความคิดเห็น