คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : EP.2 คนที่บอกว่ารอก็จะรอ / 50
เย็นแล้วกับบรรยากาศในคลาสโดยติวเตอร์พี่ธนูวิศวะปีสาม หลังจากที่สอนจนจบบทเรียนไปแล้วก็ถึงเวลาเลิกเสียที มือหนากำลังเก็บหนังสือเรียนเข้ากระเป๋าเป้อย่างเรียบเรื่อย ถึงการสอนในวันนี้จะใช้เวลานานกว่าที่คิดเอาไว้เหตุเพราะคนเข้าเรียนไม่รักษาเวลา แม้จะเคยพูดถึงเรื่องนี้มาหนหนึ่งแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิมจนตอนนี้ขี้เกียจจะพูดแล้ว
"ขอบคุณมากนะครับพี่ที่มาสอนพวกเรา นี่ครับค่าตอบแทน"
ธนูรับถุงขนมมาจากตัวแทนของรุ่นน้องที่เขาอาสาติวให้เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แยกมาจากเด็กเรียนเก่งโดยการสอนในครั้งนี้คาดหวังเอาไว้ว่าผลสอบในรอบถัดไปจะอยู่ในมีนที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความขยันทบทวนและตั้งใจใฝ่หาความรู้ของพวกรุ่นน้องเอง หลังจากที่รับของตอบแทนแล้วก็สะพายเป้เตรียมเดินออกจากห้องเรียนไม่ทันจะก้าวไปไหนไกลเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
"เฮ้ยธนู มึงติวน้องเสร็จแล้วใช่ไหม" เสียงนั้นมาจากคนร่างสูงกับเสื้อช็อปสถาปัตย์กางเกงยีน ชอบมัดผมไว้ข้างหลังตามสไตล์หนุ่มเซอร์แต่เรียนดี
"เสร็จแล้วครับ" ธนูตอบหน้านิ่งมือหนึ่งยกขึ้นมาถอดแว่นตาแล้วเก็บใส่กล่องยัดใส่กระเป๋าเสื้อช๊อปแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่วันนี้มีรุ่นพี่ต่างคณะมาเยี่ยมเยียนถึงที่
"เสร็จแล้วก็ดี พอดีกูมีเรื่องให้มึงช่วยหน่อยน่ะ"
"ช่วยเหรอครับ" ธนูขมวดคิ้วทำหน้ามึน เพราะเดาไม่ออกว่าเรื่องที่รุ่นพี่สถาปัตย์ต้องการให้ช่วยคืออะไรกระทั่งได้รับความกระจ่างในเวลาต่อมา
"ขอบใจมึงมากนะ นี่ถ้าบัดดี้กูไม่มาท้องเสียไปก่อน กูคงไม่รบกวนมึงหรอก เพราะลำพังแค่มึงติวให้น้องในเอกมึงก็หนักพออยู่แล้ว"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องติวหนังสือให้น้องๆ ผมชอบอยู่แล้ว" ธนูว่าหลังจากที่รู้ว่าพี่สถาปัตย์ปีสี่ต้องการให้ช่วยเรื่องอะไร เขาก็ไม่ปฏิเสธเพราะคิดเสมอว่าการติวหนังสือให้รุ่นน้องเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของรุ่นพี่ และก็ทำแบบนั้นมาโดยตลอด
"อืม ยังไงก็ขอบคุณละกัน ไว้เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนมึงละกัน" คนว่ากำลังโอบไหล่ธนูพร้อมกับตบเบาๆ ยังมีเสียงตอบกลับมาให้รู้สึกดี
"ไม่เป็นไรครับพี่ สบายๆ ไม่ต้องคิดมาก"
"เออๆ งั้นกูไปดูน้องๆ กูก่อน ได้ติวเตอร์ธนูมาสอนแบบนี้ สอบครั้งหน้าคะแนนคงอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น" จบประโยคทั้งสองก็โบกมือลาใส่กัน รุ่นพี่ปีสี่เดินจากไปแล้วโดยที่ธนูยังมองอยู่ เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนจะยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
เวลาเดียวกัน คนนั่งรออย่างทิวเขายังไม่ไปไหน หลายชั่วโมงกับการทำหน้าเหงาอยู่ตรงนี้โดยที่ไม่วี่แววว่าจะเห็นร่างเงาของธนูโผล่มาจนอดบ่นให้ตัวเองฟังไม่ได้
"พี่ธนูนะพี่ธนู ใจคอจะให้ผมรออีกนานแค่ไหน" คนว่าทำหน้าเซ็ง จนบางทีก็นึกท้อใจแต่พอมาคิดถึงเรื่องที่รอมาได้ถึงสามปีก็เลยฮึดสู้ด้วยการทนรออีกสักหน่อยเพียงเพราะหวังไว้ลึกๆ ว่าความอดทนในวันนี้จะทำให้เขาสมหวังในวันข้างหน้า พอคิดได้แบบนี้ก็ค่อยมีแรงจูงใจขึ้นมาหน่อยแต่ว่า...มันมีบางอย่างที่กำลังเป็นอุปสรรค
โฮกๆ โฮกๆ โฮกๆ
คนที่ตั้งใจว่าจะนั่งรอไม่ไปไหน หลังได้ยินเสียงนั้นถึงกับลืมตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เพราะทิวเขานั้นตอนเด็กๆ ฝังใจกับการโดนหมากัดแล้วต้องถูกฉีดยาไปหลายเข็ม ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหมาเห่าก็จะเสียอาการและเป็นอย่างที่เห็น
"พี่ธนู เมื่อไรพี่จะมาสักที ผมจะไม่ไหวแล้วนะ โอ๊ย"
คนว่าตอนนี้ยืนอยู่บนต้นไม้แล้วโดยที่สายตายังเล็งไปที่หมาดำซึ่งยังเห่าใส่เขาไม่เลิก เล่นเอาตัวสั่นไปหมด แถมยังมาโดนมดแดงกัดเข้าให้อีก ไม่รู้เวรกรรมอะไรถึงต้องมาซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ ข้าวก็ยังไม่ได้กินแถมคนที่บอกจะเลี้ยงก็ไม่รู้ว่าจะโผล่หัวมาตอนไหน
"เฮ้ยธนู ทำไมวันนี้มึงกลับมาเร็วจังวะ"
เป็นเสียงทักของซนที่กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่เตรียมออกไปลัลล๊าข้างนอก แต่เพราะวันนี้ได้เจอธนูก่อนเคารพธงชาติมันเลยรู้สึกแปลกๆ จนต้องเอ่ยปากถามออกไป
"กูก็แค่อยากจะกลับมาก่อนที่มึงจะออกไปก่อนบ้างไม่ได้หรือไง" คนว่าเดินมาวางกระเป๋าเป้ลงที่โต๊ะหนังสือตัวเองก่อนจะเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวมาพาดบ่า นิ้วเรียวปลดมาถึงกระดุมสองเม็ดบนยังได้ยินคำถามดังมาจากเพื่อนจอมจุ้น
"เออ แต่กูก็ยังรู้สึกแปลกๆ ว่ะ ปกตินะถ้ามึงไม่มีติวหนังสือให้รุ่นน้อง มึงก็จะไปสิงตัวอยู่ที่หอสมุดกลางอยู่จนกระทั่งปิดถึงจะกลับมาที่ห้อง กิจวัตรมึงเป็นแบบนี้มาโดยตลอด แต่วันนี้มึงแปลกจริงๆ" ซนว่าแล้วหรี่ตามอง
"มึงเลิกแปลกใจในตัวกูได้แล้ว จะไปไหนก็ไป กูจะอาบน้ำนอนแล้ว"
"นั่นไง แปลกเข้าไปใหญ่ ตั้งแต่รู้จักมึงมาเคยนอนก่อนกูที่ไหนแบบนี้มันมีพิรุธ" ซนเปลี่ยนมาชี้นิ้วใส่แต่พอเพื่อนทำท่าจะกัดเขารีบหุบนิ้วกลับทันที " มีพิรุธนะมึง อย่าบอกนะว่ามึงหนีใครมา"
"กูไม่ได้หนี" ธนูปั้นหน้านิ่ง หันมาสนใจกับการถอดเสื้อตัวเอง ในใจตอนนี้คิดถึงเด็กข้างบ้านที่ไม่รู้ว่าป่านนี้ยังจะรออยู่ที่เดิมหรือถอดใจไปหาอะไรกินเองแล้ว แต่ก็ภาวนาว่าให้น้องมันเลือกทำอย่างหลัง
"เออ ไม่บอกก็ไม่บอก กูขี้เกียจซักไซ้แล้ว แต่คืนนี้ดึกหน่อยนะ พอดีนัดไอ้พัด มันพารุ่นน้องมาเลี้ยงหรือมึงเปลี่ยนใจจะไปนั่งกินน้ำชาโง่ๆ กับพวกกูวะ"
"เชิญพวกมึงเหอะ กูขี้เกียจไม่อยากออกไปไหนแล้ว" ธนูว่าแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจซนอีก
"แปลก" ซนว่าพร้อมกับหรี่ตามอง
สามสิบนาทีผ่านไป ธนูเดินออกมาจากห้องน้ำกำลังจะมุ่งหน้าไปหยิบชุดนอนในตู้ไม้ เสียงมือถือก็ดังขึ้น เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูถึงกับชะงักเพราะเป็นปลายสายที่ไม่คิดว่าจะโทรเข้ามา
'เออสวัสดีครับ น้าเรียม' คนเอ่ยเดินมานั่งลงที่ปลายเตียง
'ธนูหรือลูก น้าเรียมเองนะ น้าจะโทรมาถามว่าเราได้เจอกับทิวเขาหรือยัง รู้ใช่ไหมว่าน้องสอบติดที่เดียวกับธนู นี่ก็ไปตั้งหลายวันแล้ว น่าเลยอยากรู้ว่าธนูได้เจอน้องแล้วหรือยัง'
'เออ เจอแล้วครับ' ธนูว่า เม้มปากเข้าหากัน ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
'ดีจริง เนี่ยน้าต้องขอบคุณธนูเลยนะที่ช่วยขัดเกลาความคิดของทิวเขามัน น้าอยากให้ธนูรู้เอาไว้เลยว่าที่ลูกชายน้าสามารถสอบเข้ามหาลัยได้เพราะน้องมันเชื่อฟังคำพูดของธนูว่าให้มันสอบเข้ามหาลัยให้ได้ ที่น้องตั้งใจเรียนก็เพราะว่าธนูบอกน้อง เนี่ย น้าก็ไม่คิดว่ามันจะเชื่อฟังธนูมากขนาดนี้ ยังไงน้าก็ฝากให้ธนูช่วยดูๆ ทิวเขามันด้วยนะ ถือว่าน้าขอร้อง ได้ไหมธนู'
'เออ ได้ครับ' ทุกคำพูดที่ได้ฟังทำเอาสะอึก จนรู้สึกผิดเลยที่ตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป
'ได้ฟังแบบนี้แล้วน้าก็สบายใจ งั้นน้าไม่รบกวนแล้วละ ถ้าธนูเจอทิวเขาอีกก็ช่วยบอกให้มันโทรมาหาน้าบ้าง น้าคิดถึงน่ะ'
'ครับ แล้วผมจะบอกให้ครับ สวัสดีครับ' คนวางสายถึงกับถอนหายใจออกมา จากที่ได้ฟังคำพูดของน้าเรียมก็ทำให้นึกถึงบทสนทนาระหว่างเขาและทิวเขาในวันนี้
“พูดเองนะ ว่าจะรอ”
“ครับ และผมก็เชื่อด้วยว่าพี่ธนูต้องรีบสอนน้องๆ ของพี่ให้เสร็จโดยเร็วเพื่อจะได้พาผมไปเลี้ยงข้าว”
“งั้นมึงก็รอไป กูมาเมื่อไรมึงก็ได้ไปกินข้าวเมื่อนั้นแหละ”
บทสนทนาเหล่านั้นทำเอาคนคิดถึงกับหน้าหน้าเซ็งก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกรอบ หากเด็กเกเรคนนั้นยังรอเขาอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หากเป็นแบบนั้นจริงก็คง...รู้สึกผิด
"มึงคงไม่รอจริงๆ ใช่ไหม"
ความคิดเห็น