คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SouL III,,Accident
เวลาล่วงเลยไปจน 5 โมงกว่าๆ
“เฮ้ย ของกูเส็ดแล้วนะเว่ย ของพวกมึงอ่ะ เส็ดยัง” เอสตะโกนบอกเพื่อนๆ
“ของกูแปลรวบอีก2หน้าว่ะ” อั๋น เพื่อนคนนึงก้อตะโกนกลับมา
ป้องทำหน้าเหรอหราแล้วบ่นออกมา“อะรัยวะ จะเส็ดกันแล้วอ่อ ของกูเหลืออีกบานเลย แม่ง...ง”
เพื่อนๆพากันขำซะยกใหญ่ก่อนที่เป๊กจะสมน้ำหน้า ”ก้อคัยเค้าใช้ให้มึงคุยแต่กับแฟนอ่ะ งานมึงอยู่พาร์ทต้นๆด้วยดิ ถ้าส่วนของมึงไม่เส็ดก้อใส่ส่วนของคนอื่นไม่ได้นะเว่ย ให้ว่องเลยมึง ตัวก้อใหญ่ ทำอะรัยกั้กช้าแล้วยังจะไม่สนใจอีก ชาติหมาจิงๆ” เป๊กว่าพลางส่ายหัวทำเอาเพื่อนๆขำกันกลิ้ง
“เออ ไอ้เทพบุตร ไอ้หล่อที่สุด ไอ้ตุ๊ดตีนควาย” ป้องพยามด่ากลับแต่ก้อไม่เป็นผล
“เฮ้ยเป๊ก มึงเป็นตุ๊ดตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” อั๋นถามแล้วขำ เป๊กหันมาตอบ ”ก้อเมื่อกี๊ตอนมันบอกกูแหละ 55” แล้วเป๊กก้อขำและก้อทุกคนก้อหันไปสนใจงานของตัวเองกันต่อไป ยกเว้นเอสที่เดินไปเดินมา ไปหาของกินมาประเคนเพื่อนๆชุดใหญ่จนสุดท้าย 6 โมงเกือบครึ่งงานจึงเส็ดหมดแล้วก้อนำมารวบรวมไปให้อั๋นเอากลับไปจัดเรียง
ตามยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา “เฮ้ย งั้นวันนี้กูไปละนะ มีนัดว่ะ แม่ง สายตายห่าเลย” แล้วตามก้อรีบคว้าโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนเพื่อนๆ งง
“นัดกะสาวที่ไหนอีกวะน่ะ?? ท่าทางจะสำคัญนะเนี่ย” เพื่อนๆแอบบ่นตามหลังไป
ตามขับรถออกมาอย่างรวดเร็วแล้วซิ่ง แซงปาดซ้าย ปาดขวาไปเรื่อยจนไปติดอยู่ที่4แยกหนึ่งแล้วมีเด็กนำดอกกุหลาบมาขาย ตามรีบเปิดกระจก
“น้อง ดอกเท่าไหร่เนี่ย” ตามถามน้องที่มองมาด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“ดอกละ10ค่ะพี่ เหลือ20 ดอกเอง หนูจะได้กลับบ้านซะที” น้องมองด้วยสายตาวิงวอนมากกว่าเดิม
ตามที่ขี้สงสารคนเป็นทุนเดิมจึงควักแบงค์พันออกมา1ใบกับแบงค์ร้อยอีก2ใบแล้วส่งให้เด็กคนนั้นพร้อมกับบอกว่า “สองร้อยอ่ะ น้องเอาไปจ่ายไอ้พวกแกงค์ที่มันคุมน้องนะ ส่วนอีกพันนึงอ่ะ พี่ให้”แล้วตามก้อรับดอกกุหลาบทั้งหมดมาวางไว้ข้างตัวก่อนปิดกระจกแล้วไฟก้อเขียวพอดีตามจึงออกรถไป
เวลาเกือบทุ่มครึ่งตามมาถึงสถานที่แห่งนึงที่เป็นที่แห่งความทรงจำที่ตามไม่มีวันจะลืมเลือน สถานที่ที่พรากชีวิตคนที่ตามรักที่สุดไป สถานที่ที่เอา “แม่” ไปจากตาม
“แม่ครับ ตามคิดถึงแม่จังเลย” ตามยืนเกาะขอบสะพานแห่งหนึ่งที่มีรถวิ่งไปมาน้อยนิดย่านชานเมือง
“เมื่อไหร่ตามจะได้เจอแม่อีก ตามคิดถึงแม่” ตามยืนพูดกับขอบสะพานนี้อยู่คนเดียวมา 3 ปีแล้ว ตังแต่วันที่แม่ของเขาจากไป
ขอบสะพานบริเวณนี้เป็นส่วนที่ดูใหม่กว่าส่วนอื่นๆของสะพาน เพราะมันถูกเปลี่ยนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลังจากอุบัติเหตุนั้น
ตามได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงจุดที่เคยมีช่องว่างใหญ่ที่โดนรถของพี่ชายพุ่งเสยขอบกั้นทางนั้นลงไปในแม่น้ำ ก่อนจะร้องออกมาดังลั่น
“ม๊าคร๊าบ...บ...บ...บ” ตามรู้ดีว่าถึงจะเรียกยังงัย ผู้เป็นแม่ก้อไม่มีทางจะกลับมาตอบคำเรียกขานของเขาได้อีกแล้ว ภาพในวันเก่าๆที่ตามไม่อยากจะนึกถึงกลับมาอีกครั้ง
ภาพที่เวลาตามทำการบ้านไม่ได้ก้อจะร้องเรียกแม่ หญิงสาวหน้าตาใจดี และยิ้มเก่งก้อจะเดินเข้ามาหาในเวลาไม่เกิน10วินาที พร้อมกับคำกล่าวอย่างห่วงใย
“ว่ายังงัยคนเก่ง มีปัญหาตรงไหน หื๊อ...?? มาให้มาม๊าดูซิ” ว่าแล้วหญิงสาวก้อคว้าสมุดการบ้านลูกชายไปดูก่อนจะลงมือสอนเป็นฉากๆ
ภาพตอนที่ตามกำลังเครียดเรื่องเลือกคณะ ว่าจะสอบตรงหรือสอบเอนท์ ก้อจะมีมาม๊าเข้ามานั่งข้างๆ แล้วคอยช่วยตัดสินใจ
“ม๊าๆถ้าเป็นนักกฎหมายอย่างม๊าอ่ะ ม๊าว่าตามจะเป็นได้ป่ะ” ลูกชายถามแม่อย่างกังวล
“หือ...ไม่เห็นเคยพูดเลย ว่าอยากเป็นน่ะ ฮึ ถ้าจะเลือกเพราะอยากให้ป๊ากับม๊าภูมิใจน่ะ ไม่ต้องนะลูก ถ้าลูกชอบด้านศิลปะ ลูกก้อน่าจะเรียนทางด้านนั้นนะ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยอย่างทัดทาน
“หรือม๊าไม่อยากให้ตามเป็นนักกฎหมาย ตามอยากเป็นผู้พิพากษานะ” ลูกชายพูดกับแม่อย่างลองเชิง
“ฮื่อ...ก้ออยากให้เรียนพวกนี้นะ แต่ม๊าก้อรู้ว่ามันเป็นชีวิตลูกนะ ถ้าลูกไม่ชอบ ก้อไม่ต้องฝืน ลูกก้อรู้ว่า ป๊ากับม๊าไม่ว่าอะรัยอยู่แล้ว” หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยน
“โห...ม๊า อย่าคิดแบบนั้นดิ ตามก้อชอบนะพวกศิลปะอ่ะ แต่ตามคิดว่า อย่างตามน่าจะทำได้ดีกว่านั้น นี่ตามไม่ได้หลงตัวเองนะ 555 แต่ตามคิดว่า ตามเรียนพวกนั้นน่ะ เอาแบบเป็นเวลาเสริมก้อได้ ตามอยากเรียนอะรัยซักอย่างให้มันเป็นงานที่มีหลักมีฐาน ส่วนงานศิลปะ ตามว่า เอาไว้เป็นงานอดิเรกดีกว่า” ตามว่าแล้วยิ้มร่าให้แม่ ทำเอาผู้เป็นแม่ต้องยิ้มตามก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบความเห็นของลูกชาย
“ถ้าลูกคิดแบบนั้น ม๊าจะว่าอะรัยได้ ลูกน่ะ เก่งอยู่แล้ว แค่เรียนกฎหมาย ไม่ยากหรอก ลูกชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วนี่ นะ ตั้งใจนะลูก” ผู้เป็นแม่ยิ้มน้อยๆให้ลูกชาย ตามจำได้ติดตาว่ารอยยิ้มแบบนั้น เป็นรอยยิ้มที่แม่เค้าชอบยิ้มเวลาพอใจอะรัยมากๆ ทำให้ตามจำเพียงรอยยิ้มประทับใจนั้นไว้เพียงอย่างเดียว
ภาพวันนั้นลอยกลับขึ้นมาในหัวตามอีกครั้ง ภาพที่ ตามกับป๊า มาถึงที่นี่ตอนประมาณทุ่มครึ่งเศษแล้วเห็นต้นนั่งอยู่กับตำรวจหลายคน หน้าตาซีดเซียว เปียกโชกไปทั้งตัว และหน่วยกู้ภัยอีกมากมายที่กำลังทำงานอยู่ภายในแม่น้ำใต้สะพานแห่งนี้
ตามวิ่งเข้าไปหาพี่ชายก่อนจะถาม “พี่ต้น เป็นไงมั่ง ไม่เป็นรัยใช่มั้ย แล้ว...ม๊าล่ะ...ม๊าไปไหน” แต่ผู้ถูกถามได้แต่นั่งเงียบ ตัวสั่นระริก “พี่ต้น มาม๊าล่ะ” ตามแตะตัวพี่ชายแล้วสิ่งที่ตามไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก้อเกิดขึ้น
ชายร่างใหญ่ตรงหน้ากอดผวาเข้ามาตามแล้วร้องไห้
“เอ่อ คุณผู้หญิง ตอนนี้เราช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำได้แล้ว แต่อาการอยู่ในขั้นโคม่าครับ น้ำเย็นมาก และก้อเอ่อ...รู้สึกเหมือนเทอจะเอาตัวเข้ามาบังหน้าลูกชายตอนที่รถโดนชนด้วย เลยทำให้อาการยิ่งหนัก ตอนนี้ก้อต้องรอจนกว่าจะถึงมือหมอแหละครับ” นายตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับนฤบดินทร์ แต่ทั้งตามและต้นก้อได้ยินบทสนทนานั้นด้วย
“พี่ต้น...” ตามทำได้แค่เรียกชื่อพี่ชายที่กอดตัวเองอยู่และกำลังร้องไห้อย่างหนัก โดยไม่ได้ฟังว่าเขาคุยกะรัยกันต่อแล้ว
“ป๊า...ต้นขอโทด ถ้าต้นไม่ขับเร็ว...ถ้าต้นไม่เมา...” ต้นได้แต่พูดแล้วสะอึกสะอื้น ผู้เป็นพ่อจึงได้แต่ดึงตัวลูกชายมากอดแล้วลูบหัวเบาๆ
“ไม่เป็นรัยต้น เชื่อป๊า เดี๋ยวม๊าก้อกลับมา นะลูก ไม่เป็นรัย “ ทั้งๆที่รู้สึกเครียดไม่แพ้กัน แต่ตอนนี้ก้อต้องทำหน้าที่พ่อ ปลอบลูกชาย
ส่วนตาม...ได้แต่นิ่ง ปกติตามสนิทกับแม่มาก มีอะรัยจะคุยกับแม่ตลอด แต่ตอนนี้ ชีวิตแม่ที่ตามรักมากว่าชีวิตตัวเอง อยู่ในกำมือของมัจจุราช แล้ว
Continue SouL IV,,Tell me the Truth
ความคิดเห็น