คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แผนการณ์กับซองสีน้ำตาล
เช้าวันใหม่ซาซึมิรีบมาโรงเรียนสภาพอากาศก็ไม่ค่อยดีเท่าไรแต่ซาซึมิก็มาโรงเรียนเช้ากว่าเมื่อวาน เธอรีบตรงไปยังล็อกเกอร์ของเธอภายในมีแต่รูปการ์ตูนปะติดเต็มไปหมด แถมมีเศษซองขนม สมุดและอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดแล้วก็มีซองสีน้ำตาลขนาด A4 วางอยู่ด้านบนข้างหน้าซองเขียนว่าลับสุดยอด ด้วยความที่บรรยากาศสลัวๆเพราะยังเช้าอยู่ ซาซึมิเริ่มรู้สึกถึงความวังเวงเข้ามาครอบงำ และไม่รอช้าที่จะเดินจากไปความลับอย่างหนึ่งที่ซาซึมิไม่เคยบอกใครคือ ซาซึมิกลัวผีขึ้นสมองทั้งๆที่ไม่เคยกลัวอะไรแต่กลับกลัวผีมีแต่...ริโอะเท่านั้นที่รู้และเป็นอีกเหตุผลที่ซาซึมิไม่เข้าห้องสมุดเพราะมันเงียบมีคนน้อยอีกต่างหาก ขณะที่กำลังเดินจ้ำอ้าวออกมาก็มีเสียงเหมือนคนกำลังเดินมาจากข้างหน้าบริเวณตรงหัวมุมก่อนถึงทางออกสนามฟุตบอลซึ่งเป็นทางออกเดียว ซาซึมิลังเล เหงื่อเริ่มซึมบนใบหน้า ตัวสั่นเท่าพร้อมกำซองสีน้ำตาลไว้แน่นทันไดนั้น! เริ่มมีเงาทอดยาวออกมาทางหัวมุม ประมาณครึ่งวินาทีปรากฏว่าเป็นริโอะกับทาคาชิซึ่งเป็นรุ่นน้องอีกซึ่งคนร้ายพอๆกับกาอาระ
“อ้าว...ซาซึมิทำไมมายืนคนเดียวอ่ะ ไม่กลัวเหรอ” ริโอะทักอย่างแปลกใจ
“ไม่กลัวบ้าอะไรเล่า! หอบจะกินอยู่แล้วเนี่ย ยิ่งเธอเดินมาฉันก็คิดว่าผีซะอีก สยองแทบตายตรงหัวมุมตรงนั้นเคยได้ยินว่ามีประวัติอยู่” ซาซึมิสยอง
“ขอโทษที” ริโอะพูดเชิงอ้อน
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ารุ่นพี่ซาซึมิกลัวผีกับเค้าด้วย” ทาคาชิทักเชิงล้อเลียน
“รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ถ้ารู้ว่าเอาไปบอกใคร ตายศพไม่สวยแน่” ซาซึมิขู่ทั้งๆที่ยังสั่นและดูไม่น่ากลัวซะเลย ทาคาชิแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งหนีไป
“ริโอะเรารีบๆไปกันเถอะ อยู่แถวนี้แล้วใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงก็ไม่รู้”
ซาซึมิคว้าแขนริโอะเดินไปยังสนามฟุตบอล
“จ้า..จ้า..” ริโอะเร่งฝีเท้าตามไปให้ทันแขนข้างซ้ายที่โดนลากไปกว่าครึ่งทางแล้ว
“เอ...แล้วนั่นซองอะไรอ่ะ” ริโอะทักขณะที่ซาซึมึพยายามเปิดซองนั้นอย่างบ้าคลั่ง
“ก็ข้อมูลของกาอาระนะสิ เกี่ยวกับนายที่เอาบัตรนักเรียนมาคืนฉันนั่นแหละ” ซาซึมิก้มหน้าก้มตาพยายามต่อไป
“นี่เดี๋ยวช่วยแกะเอามั้ย ชาตินี่ทั้งชาติจะได้อ่านมั้ยเนี่ย” ริโอะเสนอ
“ก็ดี กาอาระมันเอากาวตราแมวติดรึไงฟ่ะ แน่นชะมัด” ซาซึมิยื่นซองให้
ริโอะอย่างไม่พอใจกาอาระ
ริโอะแค่กระตุกสายที่ยื่นออกทางด้านข้างของซองก็เปิดได้แล้ว
“ทำได้ไงอ่ะ” ซาซึมิอึ้งไปพักใหญ่
“ยัยบ๊องเอ้ย...ง่ายแค่นี้เอง” ริโอะพูดอมยิ้ม
“ช่างเถอะ มาดูดีกว่าว่านายคนนั้นเป็นใคร” ซาซึมิรีบดึงกระดาษข้างในออกมาแล้วดูพร้อมๆกับริโอะ
ข้างในมีรูปของยูคินาระเป็นผู้ชายที่ดูดีมากๆผมยุ่งๆเล็กน้อย หน้ามีสีชมพูเจือจ่างเล็กดูผอมแห้งแรงน้อย ริโอะจ้องรูปหลายใบอยู่นาน ส่วนซาซึมิดูผ่านๆตั้งแต่แผนแรกยันแผ่นสุดท้าย
“เย้..ยิปปี้ ได้ข้อมูลของนักเรียนใหม่ทุกคนเป็นของแถมด้วยอ่ะ” ซาซึมิดูพอใจกับข้อมูลที่ได้รับมากๆ “มาดูดีกว่าว่านายยูคินาระนี่มันเป็นใคร”
ซาซึมิมองหาประวัติของยูคินาระที่ซ่อนอยู่ใต้กองประวัตินักเรียนใหม่ทั้งชั้น
“อ่า...นี่ไง นี่ไง เจอแล้ว!” ริโอะพยายามดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา
“ไหนๆๆๆ ขอดูด้วยจิ” ซาซึมิขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อดูข้อมูลด้วย
ประวัติของคุณโทโมฮิสะ ยูคินาระ เพศ : ชาย อายุ: 16ปี
เกิด : 13 กรกฎาคม 2532 สูง : 182 ซม. หนัก : 46 กก. บิดา: คุณโทโมฮิสะ ฮิมโซ อาชีพ: นักธุรกิจมารดา : คุณโทโมฮิสะ คาเนะ อาชีพ: แพทย์ พี่น้อง: - ความสามารถพิเศษ : เล่นไวโอลิน กัปตันทีมฟุตบอล บาสเกตบอล ภาษา : ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี อิตาลี
มากจากโรงเรียน : ยางาริ เกียวโต เข้าเกรด : 10
“ห๊า...พูดได้ตั้ง 5 ภาษา เก่งจังแถมเป็นกัปตันทีมฟุตบอลด้วย หมอนี่น่าจะรวยน่าดู ตั้งชักชวนให้มาเป็นพวกเราดีกว่า เราต้องเก็บตัวเงินตัวทองไว้พึ่งพาในอนาคต” ซาซึมิพูดทำหน้าฝัน
“ยัยติ๊งต๊องใครเค้าจะยอมเป็นเธอให้เกาะกินฟรีๆหล่ะ” ริโอะพูดแล้วใช้มือกวาดไปในอากาศจนกระทบหัวซาซึมิอย่างจัง
“โอ๊ยยย~ ก็ แหม...ดูท่าทางนายนั่นมันปัญญาอ่อนนี่นา”ซาซึมิพูดเข้าข้างตัวเอง “แล้วก็ได้ข่าวว่าหมอนั่นเข้าชมรมบาสเกตบอลด้วยนะ และก็บังเอิญที่ฉันเป็นกัปตันทีมซะด้วยสิ ไม่รอดฉานหรอก”ซาซึมิพูดต่ออีก
“ถ้าหมอนั่นตกเป็นลูกกะจ๊อกเธอเมื่อไร ฉันจะซื้อหนังสือการ์ตูนเล่มล่าสุดให้เลยอ่ะ มีจำนวนจำกัดนะย่ะ ขอบอก!” ริโอะท้า
“ได้อยู่แล้ว” ซาซึมิรับคำท้าอย่างมั่นอกมั่นใจสุดๆ “บ่ายนี้ชั่วโมงชมรมแรกซะด้วย ฉันวางแผนไว้อย่างดีแน่นอน” ซาซึมิพึมพำด้วยความมั่นใจอีกขั้น
จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งดูรายชื่อแล้วก็ประวัติของนักเรียนที่เข้าเกรด 10 ใหม่ซึ่งต้องใช้เวลานานมั่กๆ ริโอะเห็นว่าไร้สาระเกินไปจึงหยิบหนังสือเรียนมานั่งอ่านแทน ตอนนี้คนเริ่มมาโรงเรียนเพิ่มมากขึ้นจนเต็มไปหมด แล้วก็มีมือเล็กเอื้อมมาทางด้านหลังของซาซึมิและจับไหล่อย่างแรง
“อ๊ายยย~” ซาซึมิร้องด้วยความตกใจ
“แหม แค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้” กาอาระตำนิ
“ก็มาเงียบๆ ยังกับ... เออ ช่างมันเถอะ แล้วมาทำไมเนี่ย” ซาซึมิฉุน
“อ้าว มารับของแลกเปลี่ยนน่ะดิ ลืมได้ไงอ่ะ” กาอาระตำนิรอบที่สอง
“เออๆ เอาไป แล้วรีบๆเอามาคืนนะ” ซาซึมิมองซ้ายมองขวาก่อนเอาหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดให้กาอาระ ก่อนที่กาอาระจะเดินจากไป ซาซึมิก็จับแขนกาอาระอย่างแรงแล้วพูดอย่างกินเลือดกินเนื้อแถมรัวเร็ว “ห้ามยับ ห้ามฉีก ห้ามขาด ห้ามเปื้อน แล้วโปรดนำกลับมาคืนให้ครบทุกแผ่นด้วยอย่างคราวที่แล้วหายไปตั้ง 4 แผ่น เอาไปกินรึไง ถ้ารู้ว่าหายไปแม้แต่แผ่นเดียว ก็อย่าหวังว่าจะได้อ่านหนังสือฉันอีก” พอซาซึมิพูดจบก็หยุดหอบพักใหญ่แล้วกลับไปดูข้อมูลต่อ
“คับๆๆๆ คร๊าบ..บ... รุ่นพี่ซาซึมิผู้เปรียบเสมือนแม่คนที่สองของผม” กาอาระประชดประชันอย่างเต็มที่
“ชิ ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” ซาซึมิโต้กลับตามหลังกาอาระที่วิ่งไปไกล
ริโอะลดหนังสือให้อยู่ระดับสายตาตรวจสอบดูว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นแล้วกลับไปอ่านต่อ จนถึงเวลาโรงเรียนเข้าทุกคนเข้าเรียนตามปกติเนื่องจากวันแรกที่ซาซึมิถูกทำโทษเลยไม่รู้ว่าใครเข้าใหม่ในห้องเรียนเดียวกับเธอบ้าง
“เฮ้ย นายยูคินาระอยู่ห้องเดียวกับพวกเรานี่”ซาซึมิทักอย่างตกใจ
“อ้อ จริงๆด้วย” ริโอะดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“อืม ส่วนนักเรียนใหม่ปีนี้มีน้อยจัง แค่ฝาแฝด 1 คู่ ผู้ชาย 2 คน รีบนั่งดีกว่า...ป่ะ”ซาซึมิตรงไปที่นั่งตรงขอบหน้าต่างแล้วนั่งคู่กับริโอะตามเคย ด้วยความที่ซาซึมิเป็นคนอัธยาศัยดีจึงทักทายอย่างเป็นมิตรกับนักเรียนใหม่ทุกคน
“ดีจ้า! ฉันชื่อซาซึมินะนั่งตรงขอบหน้าต่างนี่เองมีอะไรปรึกษากันได้เลย... ฉันยินดีช่วยเสมอฉันรู้ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนนี้ทั้งหมดเลยนะ อย่างให้พาทัวร์ส่วนไหนของโรงเรียนก็บอกกันได้นะ” ซาซึมิพูดแบบไม่หยุดหายใจ
“สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อริโอะนะ อย่าไปฟังยัยบ๊องนี้มากก็แล้วกัน นานๆไปอาจจะไม่เต็มเต็งเหมือนยัยซาซึมิ” ริโอะพูดล่อเล่น
“สวัสดีคับ” เสียงประสานกันเหมือนท่องมา “ผมชื่อ ซายะ ผมชื่อ ฮานะ” “ยินดีที่ได้รู้จักและฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคับ” ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่ดูไม่ค่อยเต็มบาทเหมือนซาซึมิ
“นี่พวกนายเล่นบาสเป็นมั้ย เข้าชมรมบาสสิ ฉันเป็นกัปตันทีมด้วยนะ ประมาณปลายปีก็จะมีการแข่งขันกับโรงเรียนอื่นด้วยนะ กำลังขาดคนอยู่พอดี” ซาซึมิรายงานเป็นชุด
“บาส” “อ้อ” “ฉันเล่นเป็น” “ฉันก็ได้” “แต่ไม่เก่งนะ” “ฉันก็เหมือนกัน” “แล้วเธอเป็นถึงกัปตันทีมเลยหรอ” “โห..” “เก่งเนอะ” “อิจฉาจัง” “ช่วยสอนให้พวกเราได้มั้ยอ่ะ” “นะๆๆๆๆๆ” ทั้งคู่พูดสลับกันไปสลับกันมาจนน่าปวดหัว
“จ้า...จ้า...แล้วจะสอนให้นะ” ซาซึมิรีบตอบรับเพื่อนใหม่
“อ้าว แล้วนายหล่ะชื่ออะไรหรอ” ซาซึมิถามคนที่นั่งข้างๆยูคินาระ
“นิโนมิยะคับ” เขาตอบสั้นๆและกำลังยุ่งอยู่กับการเปิดกระเป๋าที่ดูเหมือนซิบติดอะไรบางอย่าง
“อืม...แล้วนายอ่ะ เจอกันอีกแล้วนะ” ซาซึมิทักยูคินาระ
“คงงั้น ได้ยินว่าเธอเล่นบาสด้วยนิ ฉันก็เล่นได้เหมือนกันนะแล้วถ้าจะเข้าชมรมต้องทำไงบ้างอ่ะ” ยูคินาระถาม
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวริโอะจะจัดการให้” ซาซึมิอมยิ้มให้ริโอะกับแผนแรกที่จะชวนยูคินาระเป็นพวกด้วย “นิโนมิยะแล้วนายสนใจเล่นบาสมั้ย” ซาซึมิถาม
“อ้อ คงไม่หละ ฉันไม่เก่งกีฬาเท่าไร คิดว่าคงจะไปเข้าชมรมบอล” นิโนมิยะตอบกวนๆ นิโนมิยะเป็นคนที่สูงมากพอๆกับยูคินาระแต่ดูผอมแห้งยังกับไม้เสียบพริก
“อ้าว ไม่เก่งกีฬาแล้วเข้าชมรมบอลทำไมอ่ะ” ซาซึมิงงเล็กน้อย
“ก็นั่นสิ ฉันยังงงตัวเองอยู่เลย” นิโนมิยะ
“ตัดสินใจได้เมื่อไรก็บอกกันก็แล้วกันนะ ริโอะเป็นผู้จัดการทีมมีอะไรปรึกษาได้” ซาซึมิแนะนำให้เรียบร้อย
พอพูดจากันได้สักพักอาจารย์ก็เข้าสอนตามปกติ... เวลาในการเรียนผ่านไปถึงช่วงพักกลางวัน ซาซึมิและริโอะไปนั่งที่ประจำตรงม้าหินอ่อน วันนี้ซาซึมิทำข้าวห่อสาหร่ายมา ส่วนริโอะทำซูชิมา ทั้งคู่นั่งกินอาการด้วยกันอยู่สักพัก ซายะกับฮานะซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไรก็เดินตรงมาหา
“เราขอนั่งด้วยคนได้ป่ะ” ทั้งคู่ถามด้วยความหิว
“อ้อ ได้สิ” ริโอะตอบอย่างเต็มใจแทนซาซึมิที่ข้าวปั้นเต็มปากไม่สามารถพูดได้ตอนนี้
“อืม...พอกินข้าวเสร็จ เดี๋ยวฉันจะพาไปสำรวจโรงเรียนเอามั้ย?” ซาซึมิเสนอ
“อ่า” “ดีเหมือนกัน” “ช่ายยย~” “แล้วริโอะ” “ไปด้วยกันป่าว” ซายะหรือว่าฮานะสักคนที่ถามริโอะขึ้นมา
“หา...อ๋อ คงไม่ได้ไปด้วยหรอกจ๊ะ ปกติตอนกลางวันฉันจะเข้าห้องสมุดน่ะ”ริโอะตอบอย่างใจลอย
“นี่ นี่ นี่ พวกนายชอบอ่านการ์ตูนเรื่องไรบ้าง ฉันมีเกือบทั้งหมดเลยนะ หนุกทั้งนั้นเลย” ซาซึมิควักหนังสือการ์ตูนหลายเล่มออกจากกระเป๋า
“โห...มีDeath Noteด้วย” “เฮ้ย! Fullmetalก็มีอ่ะ” “เธอนี่” “เจ๋งสุดๆไปเลยเนอะ” “งั้น” “ไม่เกรงใจหล่ะนะ” ว่าแล้วซายะกับฮานะก็นั่งอ่านหนังสือพร้อมกับกินข้าวปั้นคลุกปลาแซลมอนอย่างเอร็ดอร่อย
“อืม ฉันอิ่มแล้วหล่ะ งั้นขอตัวไปห้องสมุดก่อนนะ แล้วเจอกัน” ริโอะลุกไปอย่างเร่งรีบ
ถัดจากโต๊ะของซาซึมิไปทางขวาสองสามที่นั่งนิโนมิยะก็ซ่อนสายตาที่หนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งดูท่าทางเคร่งเครียดมากๆ ซาซึมิที่ทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็วนั่งรอซายะกับฮานะกินข้าวให้เสร็จแต่ดูเหมือนคงจะอีกนานเพราะกว่าสองคนนั้นจะเอาข้าวเข้าปากได้ก็ประมาณ 2 นาทีต่อ 1 คำน้อยๆ ซาซึมิที่อ่านเสร็จด้วยความว่องไวก็หยิบเศษกระดาษมาพับเป็นเครื่องบินเล่นหลายลำ แล้วก็ปาไปในอากาศอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียว
“โอย เครื่องบินใครเนี่ย” นิโนมิยะกุมมือที่หน้าผากซึ่งเริ่มกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆไปแล้ว
“อ้าวนิโนมิยะเองเหรอ ขอโทษทีนะ พอดีไม่ทันเห็นอ่ะ” ซาซึมิดูขำขันอย่างไม่สำนึกผิดเลย
“นั่งหัวโด่อยู่นี่แท้ๆ ไม่เห็นได้ไงฟ่ะ รึว่าเราเป็นพิษจากที่เราเพาะกายมาตลอดซัมเมอร์” นิโนมิยะบ่นพึมพำพร้อมสำรวจร่างอันผอมแห้งของตัวเอง
“อะไรนะ ฉันไม่ได้ยินอ่ะ” ซาซึมิทัก
“อ้อ ป่าวพูดสักหน่อย” นิโนมิยะตอบปัด ซาซึมิที่เหมือนขี้เกียจเล่นเครื่องบินกระดาษรอฝาแฝดก็หันมากวนนิโนมิยะแทน
“นี่ๆ นายอ่านอะไรอยู่เหรอ” ซาซึมิถามพร้อมก้มดูที่ปกหนังสือ”เฮ้ย...คงไม่ใช่เดธโน้ตหรอกนะ” ซาซึมิแกล้งตกใจ “นายชอบเหมือนกับฉันเลยแต่ตอนนี้ฉันอ่านจบแล้ว” การที่จะพูดเวลาคนอ่านกำลังอ่านหนังสือถือว่าเป็นการก่อกวนยิ่งถ้าหนังสือเล่มนั้นกำลังถึงตอนสำคัญคงไม่มีใครอยากให้ขัด
“ฉันนะชอบคิระสุดๆเลย เท่+หล่อ+ฉลาดด้วยอ่ะ แต่ L ก็เก่งเหมือนกันนะฉันนะอยากฉลาดให้ได้เท่าสองคนนั้นจัง แต่สุดท้ายก็น่าเสียดายที่ L ต้องตายซะแล้ว” ซาซึมินั่งทำตาลอยข้างๆ นิโนมิยะที่ดูเหมือนจะรำคาญเต็มที
“ฉันก็เสียใจที่ L ตายแต่ฉันว่าเธอต้องตายก่อน L แน่ถ้ายังไม่หยุดพูดยัยบ๊องเอ้ยยย~” นิโนมิยะหลบสายตาหลังหนังสือต่อไป
“ก็ได้ ก็ด๊ายยย~ อีตาปัญญาอ่อน”ซาซึมิพูดแล้วแลบลิ้นล้อเลียนนิโนมิยะ
ซาซึมิกลับไปนั่งกับฝาแฝดแล้วก็พับเครื่องบินปามาที่นิโนมิยะทุก 30 วินาทีจนตอนนี้มีเครื่องบินกระดาษเต็มโต๊ะนิโนมิยะแล้ว
“นี่ๆอ่านจบกันรึยังลืมไปแล้วเหรอว่าต้องไปชมรมบาสก่อน” ซาซึมิเริ่มหมดความอดทนกับการรอแล้ว
“อ้อ” “โทษที” “ลืมไปเลย” “ไปกันเถอะ” ซาซึมิเก็บหนังสือแล้วก็เดินไปกับฝาแฝดตรงไปที่สนามบาส
“ดะ ดะ เดี๋ยวก่อน” เสียงคนเรียกตามหลังซาซึมิ “เดี๋ยวก่อน เธอน่ะ ซาซึมิ” นิโนมิยะวิ่งอย่างหอบแฮ็กตามหลังมา
“อ้าว นายอีกแล้วมีอะไร” ซาซึมิมองนิโนมิยะที่หอบกระเป๋าตูมวิ่งมา
“ฮืม ฉันมีคำถามอยากจะถามเธอสักอย่าง” นิโนมิยะพูดทั้งๆที่หอบอยู่น้อยๆ
“ถามมาเล้ยยย~ ซาซึมิซะอย่างพร้อมที่จะแถลงไขทุกปัญหาที่คาใจ” ซาซึมิโปรโมทตัวเองเล็กน้อย
“ไม่ยากหรอก แค่อยากรู้ว่าห้องน้ำชายอยู่ไหน” นิโนมิยะเริ่มวิ่งอยู่กับที่แสดงถึงอาการที่ธรรมชาติเรียกร้องอย่างสุดๆ
“อะ อ้อ ผ่านสนามบาสพอดี ไปด้วยกันดิ” ทั้งซาซึมิและฝาแฝดมีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มกันทุกคนแต่ก็พยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างเต็มที่
จากนั้นทุกคนก็รีบจ้ำอ้าวไปยังจุดหมายของแต่ละคนด้วยความรวดเร็ว
“ไปทางนั้นตรงไป เลี้ยวซ้าย ตรงไปเลี้ยวซ้ายอีกที ตรงไปแล้วเลี้ยวขวา ห้องน้ำชายอยู่ทางซ้ายสุดทางเดินนั้นแหละ” ซาซึมิพูดรัวแล้วเดินจากไปกับซายะและฮานะ
“แล้วจะไปถูกมั้ยเนี่ย” นิโนมิยะรีบวิ่งไปทางที่ซาซึมิบอกถึงแม้จะงงๆแต่เรื่องแบบนี้ค่อยไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน
ซาซึมิพาซายะกับฮานะไปทดสอบทักษะการเล่นบาสนานจนถึงเย็นโดยที่ริโอะก็หายเข้าห้องสมุดไปนานตั้งแต่กลางวันแล้วเหมือนกัน
“เฮ้อ วันนี้เหนื่อยแล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมต่อนะ พวกนายเล่นได้ดีแล้วหล่ะวันนี้แค่ต้องเพิ่มเทคนิคอีกนิสหน่อย” ซาซึมิพูดพลางเก็บสำภาระต่างๆ
“งั้น” “พวกเราก็” “ขอตัวกลับก่อนนะ” “วันนี้หนุกมากเลย” “แล้วค่อยเจอกัน” “บ๊ายบายซาซึมิจัง” วายะกับฮานะวิ่งออกไปพร้องพูดคุยกันตามธรรมดา
“จ้า จ้า ค่อยเจอกัน” ซาซึมิก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป
ด้วยความหวาดกลัวความมืดประกอบกับอยู่ที่สนามบาสคนเดียว ซาซึมิจึงรู้สึกเหมือนมีเงาอะไรอยู่ข้างหลังแต่ก็ไม่กล้าหันไปดูจึงรีบเก็บของต่อไป จนลูกบาสลูกหนึ่งตกกลิ้งไปในเงาด้านหลัง ซาซึมิยิ่งกลัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กำลังรวบรวมความกล้าไปเก็บลูกบาส จู่ๆก็มีมือที่ถือลูกบาสยืนมาทางด้านข้าง ซาซึมิถึงกับยืนตัวแข็งเหมือนถูกสาปให้เป็นหิน
“นี่ รุ่นพี่ซาซึมิจะเอาลูกบาสมั้ยเนี่ย” กาอาระทักถามอย่างรำคาญ
“ช่ายยย~ เห็นยืนอึ้งอยู่ตั้งนานแล้ว” ทาคาชิเสริม
“เฮ้อ โล่งอกพวกนายสองคนนี่เอง ช่างเหอะแล้วมาทำไมเงียบๆ มีไรอีก” ซาซึมิรับลูกบาสยัดเข้ากระเป๋า
“เรามีข่าวเด็ดที่รับรองว่ารุ่นพี่ซาซึมิไม่อยากพลาดแน่ๆ” ทาคาชิพูดขึ้น
“ข่าวอะไรหล่ะ” ซาซึมิถามอย่างตื่นเต้น
“หืมม์ ของแบบนี่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนสักหน่อยสิ ก็กว่าจะไปสืบมาได้นะงานหินเลยอ่ะรอบนี้” กาอาระบอก
“นี่ หนังสือการ์ตูนเล่มเก่าเพิ่งเอาไปเองนะ” ซาซึมิเริ่มทวงของคืน
“เออ ก็แล้วแต่ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร เราไม่เดือดร้อนอยู่แล้วเนอะ ทาคาชิ” กาอาระพูดพยักหน้ากับทาคาชิ
“โห๋ย ยังงี้ใครจะไม่อยากรู้อ่ะแล้วคราวนี้จะเอาอะไร” ซาซึมิถามไม่พอใจนิดๆ
“ก็ไม่มากไม่น้อย โปสเตอร์ทานูกิ 2 แผ่นเอง” ทาคาชิพูด
“โห...นั่นมันแผ่นตั้ง 20 เยนเชียวนะถามฉันก็มีแค่ 5 แผ่นที่หายากด้วย” ซาซึมิพูดอย่างเสียดายของขึ้นมาด้วยนิสัย
“เราก็ไม่ได้บังคับนี่นา...” กาอาระทำเสียงอ่อน ด้วยความที่รู้นิสัยของซาซึมิว่ายอมแลกทุกอย่างกับข่าวหรือความลับที่มีคนรู้น้อย
“ฉันขอลองคิดดูก่อนก็แล้วกันนะ” ซาซึมิลังเล
“รีบๆนะ เวลามีจำนวนจำกัด”กาอาระกับทาคาชิก็วิ่งจากไปทิ้งให้ซาซึมิคิดหนักอยู่คนเดียว
เย็นวันนั้นซาซึมิต้องเดินกลับบ้านคนเดียวทั้งๆที่ไม่รู้ว่าริโอะหายไปไหนเกือบทั้งวัน
“กลับมาแล้วค่า...” ซาซึมิหอบกระเป๋าลากสังขารเข้าบ้านด้วยความเหนื่อยล้าจากการซ้อมบาสเกตบอล “วันนี้ไม่กินข้าวเย็นนะค่ะ” ซาซึมิเดินขึ้นห้องนอนเลย
“อ้าว ไม่กินข้าวเหรอจ๊ะ” แม่ของซาซึมิถามตามหลัง
“อิ่มแล้วค่า...” ซาซึมิตอบตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่พยาธิในท้องทันเรียกร้องอย่างหนัก
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง “ซาซึมิพูดค่ะ” เสียงอันเหนื่อยล้าของซาซึมิรับโทรศัพท์
“ซาซึมิเหรอ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้เดินกลับด้วย พอดีคุณพ่อฉันเพิ่งกลับมาจากโอซาก้าท่านก็เลยอยากให้ทานข้าวพร้อมกัน ฉันเลยไม่ได้บอกเธอก่อนน่ะ” ริโอะโทรมาขอโทษยกใหญ่
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก พอดีฉันซ้อมบาสต้องกลับบ้านเย็นพอดีอ่ะ” ซาซึมิตอบ
“จ้า...งั้นแค่นี้ก่อนนะ บาย” ริโอะวางหูพอดี
“บาย...” ซาซึมิลา
เกือบ 2 ชั่วโมงที่ซาซึมินั่งคิดเหตุผลในการแลกโปสเตอร์กับข่าวลับของกาอาระและทาคาชิแต่เหตุผลที่ควรจะแลกมีมากกว่าครึ่งของเหตุผลที่ไม่ควรแลกซะอีกซึ่งแต่ละเหตุผลไร้สาระทั้งนั้น ด้วยความที่ดึกมากและซาซึมิยังไม่ได้กินอะไรจึงออกไปซื้อทาโกยากิกินทั้งชุดนอน
“เอาทาโกยากิ 1 ที่ค่ะใส่ห่อกลับบ้านนะค่ะ” ซาซึมิแบกท้องไปร้านขายทาโกยากิ
“เอาทาโกยากิกับช็อกโกแลตกับบ้าน 2 ที่คับ” อีกเสียงที่ดูเหมือนจะหิว
เหมือนกันดังขึ้น
“อ้าว นิโนมิยะคุงมาได้ไงเนี่ย” ซาซึมิแปลกใจเล็กน้อย
“ปกติก็จะบินมานะ แต่วันนี้เดินมาดีกว่าอ่ะ” นิโนมิยะตอยกวนๆในชุดนอนเหมือนกัน
“อ้าวเหรอ” ซาซึมิยืนอมยิ้ม “แล้วบ้านนายอยู่แถวๆนี้เหรอ บ้านฉันอยู่ในซอยนี้เกือบๆหลังสุดท้ายโน้นแน่ะ บ้านริโอะอยู่สองซอยถัดไปเอง” ซาซึมิสาธยายยาวยืด
“ฉันก็เพิ่งย้ายมาอยู่ซอยนี้เหมือนกันบ้านหลังสุดท้ายเลย” นิโนมิยะตอบ
“ไอ่บ้านร้างหลังนั้นเหรอ ฉันไม่ได้ไปแถวนั้นตั้งแต่อายุ 6 ขวบได้มั้งก็ปาเข้าไป1.. 2.. 3.. เอ...ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว” ซาซึมินับนิ้วมือมั่วไปหมด
“ถ้างั้นเธอคงไม่รู้หรอกว่า 10 ปีอะไรมันเปลี่ยนไปบ้างนะ” นิโนมิยะตอบ
“อือ คงงั้น เอ...งั้นพรุ่งนี้ก็เดินกลับด้วยกันดิ จะได้ไม่เหงา” ซาซึมิเสนอ
“อือ ก็ดีเหมือนกัน” นิโนมิยะตอบ
“ไปแล้วนะ ค่อยเจอกัน บายจ้า...” ซาซึมิเดินไปกินไป
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนรถไฟสายด่วนพิเศษ วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันไม่มีอะไรพิเศษนอกจากเรียนๆซ้อมๆบาสๆกินๆเล่นๆไปวันๆ สัปดาห์นี้ซาซึมิง่วนอยู่กับการซ้อมบาสและการ์ตูนไร้สาระไปมากจนเกือบลืมว่ายังไม่ได้สะสางความลับกับกาอาระและทาคาชิเลย
ความคิดเห็น