ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic&SF] Exo&B2st Drama Luv รักของเรามัน...

    ลำดับตอนที่ #1 : Exo&B2st Drama Luv รักของเรามัน...ไร้ตรรกะ 60%

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 58




     
    1













     
                  รถลิมูซีนคันหรูสีดำวาวจอดเทียบตรงพรมแดงที่ปูยาวไปยังประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์หลังงามซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน  ทันทีที่ทุกคนข้างในก้าวลงจากรถแล้วก็เรียกเสียงกระหน่ำรัวชัตเตอร์ได้เป็นอย่างดี  ทำไมน่ะเหรอ??




     
                   ....ก็เพราะว่าตระกูลปาร์คกำลังเป็นที่จับตามองของสื่อน่ะสิ  ไม่ว่าจะเรื่อง ธุรกิจ ที่กำลังรุ่งพุ่งแรงเกินนักธุรกิจคนอื่นๆ  หรือ เรื่องของลูกๆตระกูลปาร์ค  ที่กำลังตกเป็นข่าวในวงสังคมไฮโซ  ที่ว่า ใครๆก็อยากเข้ามาทำความรู้จักแบบพิเศษด้วย!





                   และยิ่งวันนี้ลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวปาร์ค อย่าง ปาร์ค  ชานยอล พาคนที่ได้ชื่อว่าเป็น"หวานใจ" มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการถึงงานชั้นสูงอย่างนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งโหมไฟความสนใจของนักข่าวให้ต้องตะโกนรัวคำถามใส่ต่างๆนานา

                 



                  จนคนที่เป็นหวานใจของบุคคลที่สาวๆอยากควงคู่ด้วย เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดหน่อย ได้แต่ค้อมหัวตอบเล็กน้อยให้อย่างมีมารยาทกับเหล่านักข่าวที่รุมกันจนแทบจะพังแผงกั้นออกมาแล้ว  เห็นอย่างนั้น ชานยอลจึงกระชับมือของคนตัวเล็กไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม แล้วบีบเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ 




                  " ไม่เป็นไรนะ แบคฮยอน "




                  ชานยอลกระซิบบอกข้างหูร่างบางที่แสนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม จนคนที่ฟังแก้มขึ้นสีระเรื่อเพราะเขินกับเสียงทุ้มชวนฝันนั่น แบคฮยอนพยักหน้าเล็กน้อยแต่หนักแน่นในความรู้สึก ว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนจะส่งยิ้มหวานๆตอบให้ร่างสูงสบายใจ แต่ชานยอลรู้ดี ว่าแบคฮยอนเป็น... ร่างบางไม่ชอบอะไรแบบนี้  เสียงกดชัตเตอร์กระหน่ำรัวไม่หยุด  แสงแฟลชวูบวาบ นักข่าว หรืองานสังคมที่ต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่ที่ทนได้ ก็เพราะเขาล้วนๆ




                  เพราะที่จริงแบคฮยอนไม่ได้อยากมางานนี้เลยสักนิด และจะไม่ได้มาด้วยซ้ำ  เพราะเจ้าตัวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแวดวงพวกนี้เลย แต่เป็นเขาเองนั่นแหล่ะ ที่ขอร้อง (แกมบังคับ) ให้แบคฮยอนมา ถึงแม้ตอนแรกคนตัวเล็กจะไม่ยอมและตั้งคำถามกับเขาว่าจะให้ตนไปงานเพื่ออะไร  แต่ชานยอลก็ตอบกลับด้วยประโยคชนิดที่เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ  ตามประสาลูกคนสุดท้องที่ได้รับการตามอกตามใจมาทั้งชีวิต




                 " ก็เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ไง ว่านายเป็นแฟนฉัน! ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะมายุ่งด้วยไม่ได้อีก!" 




                 ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจแบคฮยอน หรือมองว่าร่างบางนั้นพร้อมจะไปจากเขาได้ทุกเมื่อ หัวใจรักของแบคฮยอนน่ะ บริสุทธิ์ และไม่มีความเคลือบแคลงกับรักที่มีให้เขา แต่ชานยอลไม่ชอบพวกคนที่มาขายขนมจีบให้แฟนเขาอยู่บ่อยๆต่างหาก ครั้งแรกที่เขาพบกับแบคฮยอน เพราะเจ้าตัวมาเป็นติวเตอร์ภาษาให้กับลู่ฮาน พี่ชายคนที่สองของบ้าน ตอนนั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายเท่าตอนนี้ ร่างสูงยังได้เห็นกับตาเลยว่า คนตัวเล็กนั้นมีคนมารุมจีบขนาดไหนทั้งผู้หญิงผู้ชาย และตอนนี้ผ่านเลยมากว่าสองปี ดูเหมือนพวกคนเหล่านั้นจะมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย แม้จะรู้ว่าชานยอลเป็นคนยังไง และถึงแม้แบคฮยอนจะปฏิเสธไปกี่รอบ พวกมันก็ยังกล้าเสนอหน้ามารับร่างบางหลังติวหนังสือให้ลู่ฮานเสร็จ ถึงหน้าประตูบ้านเขา



                เพราะอย่างนั้น คนที่แสนจะหวงของๆตัวเองอย่างคุณชาย ปาร์ค  ชานยอล ถึงได้พาคนรักของตนมาที่งานใหญ่แห่งนี้ เพื่อเป็นการประกาศให้คนที่ไม่รู้จะได้รู้ว่าแบคฮยอนเป็นของเขา ส่วนคนที่รู้อยู่แล้ว....



               จะได้ให้มันเป็นความจริงตอกย้ำให้เจ็บมากยิ่งขึ้น!





               แต่!!!

               ก็อาจจะยกเว้นคนๆนี้ไว้สักคนนึง...


              

               ร่างสูงในชุดทักซิโดสีดำเรียบหรู แสนจะดูดี จนเรียกให้ลูกไฮโซในงานแถวนั้นทุกคนต้องหันไปลอบมองนาทีละหลายรอบ ของ ซน  ดงอุล หยิบสมาร์ทโฟนของตนที่ราคาแพงระยับขึ้้นมาจากกระเป๋ากางเกง  แล้วกดโทร.ออกหาใครบางคนที่ตนกำลังรอ ขณะจิบบรั่นดีในแก้วทรงสูงไปพลาง  สายตาคมไม่ได้โฟกัสที่ใดเป็นพิเศษ ไม่ได้มองไปยังกลุ่มคุณหนูแสนสวยในค่ำคืนนี้ที่กำลังรอคอยให้เขาสบตาด้วยด้วยซ้ำ ที่จริงแล้ว นอกจากเขากำลังรอสายคนๆหนึ่งอยู่ เขากำลังรอที่จะเห็นหน้าใครอีกคนต่างหาก! คนที่ผู้หญิงทุกคนอยากเป็น!

               หวานใจของ ปาร์ค  ชานยอล

               พยอน  แบคฮยอน!!

               

              ใบหน้าหล่อคมคายกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นตระกูลปาร์คเดินเข้ามาในงาน หนึ่งในนั้น มี พยอน  แบคฮยอนอยู่ด้วย  คนที่เขาจำหน้าได้ไม่มีวันลืม แม้จะไม่เคยพานพบหรือรู้จักกันมาก่อน แต่เพียงรูปและข้อมูลที่มี มันก็เพียงพอแล้วสำหรับความรู้สึกนี้.... ความรู้สึกเกลียด!



              ดงอุลกระตุกยิ้มร้ายอีกครั้ง ก่อนจะยกบรั่นดีขึ้นกรอกลงคอรวดเดียวจนหมด


                

              หึ ควงแขนกับคนที่ดีไม่เท่าลูกชายตระกูลปาร์ค มันคงน่าอายมากสินะ...




              ดงอุลมองครอบครัวปาร์คเดินเข้าไปทักทายครอบครัวนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่อีกฟากหนึ่งของห้องโถง  ตาคมทันเห็น ชานยอล โน้มตัวลงไปปัดไรผมที่บังตาให้พยอน  แบคฮยอน ก่อนคนตัวเล็กกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูง แล้วอมยิ้มเขินๆ



              แต่ในสายตาดงอุลแล้ว รอยยิ้มนั่น ไม่ต่างอะไรจากมารยาที่คนตัวเล็กสร้างขึ้น ทั้งๆที่คนรอบตัว เมื่อมองรอยยิ้มของแบคฮยอนแล้ว กลับรู้สึกว่าโลกนี้มันสว่างสไวและน่าอยู่กว่าเดิม



              มองหน้าแฟนนายเข้าไว้นะ ปาร์ค  ชานยอล จำให้ดีๆล่ะ นายจะไม่ได้เห็นคนๆนี้ไปอีกพักใหญ่เลยล่ะ!




              ' ฮัลโหล'


              ' นายอยู้ไหนแล้ว ' ดงอุลถามปลายสาย ด้วยเสียงทุ้มต่ำ


              ' ฉันอยู่ในงานแล้ว...เห็นรึยัง ตรงซุ้มดอกไม้ ' คนปลายสายตอบกลับ


              ' อืม แล้วนายล่ะ เห็นไอ้ชานยอลรึยัง? ' 


              ' เห็นแล้วล่ะ เขาก็...ใช้ได้เลยนี่ ถึงว่า--'


              คิ้วเข้มขมวด ถึงว่าอะไร? ' พูดให้มันดีๆนะ ยัง  โยซอบ '


              ' เปล่าหรอก ลืมมันไปซะ ถือว่าฉันยังไม่ได้พูดอะไรให้นายเคืองหูล่ะกัน 


              แต่ว่า....


              นายแน่ใจแล้วนะ ดงอุล ที่จะทำอย่างนี้ '


              ' ถ้านายกลัวเรื่องชื่อเสียงตัวเองจะเสียหายล่ะก็ ฉันจะชดใช้ให้เท่าที่นายต้องการเลย-- '


              ' ฉันไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแล้วล่ะ แต่ฉันเป็นห่วงนายต่างหาก --- บางทีการแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่จะทำให้นายรู้สึกดีขึ้น หรือจะพาพี่ชายนายกลับมาได้หรอกนะ! '


              ' นายไม่เข้าใจหรอก โยซอบ นายไม่มีวันเข้าใจ ความรู้สึกนั้นของฉัน.....'


              ' แล้วนายจะให้ฉันเริ่มแผนเมื่อไหร่ '


              ' เมื่อนายเห็นว่ามีโอกาส '


              ' คำตอบนายไม่ค่อยวอนอวัยวะเบื้องล่างเท่าไหร่เลยนะ '


              ' หึ ยังไงก็แล้วแต่ รถจอดรออยู่ด้านนอกนะ '




              ร่างสูงวางสายจากโทรศัพท์ แล้วเก็บสมาร์ทโฟนลงกระเป๋ากางเกงดังเดิม ก่อนจะหยิบเหล้าเชอร์รี่จากเด็กเสิร์ฟขึ้นมาดื่ม สลับกับมองใบหน้าหวานของพยอน   แบคฮยอน ที่อยู่ฝั้งตรงข้ามห้องโถง มือก็กอบกุมกับไอ้ชานยอล ปากก็ขยับคุยกับพี่ชายของมันอย่างสนุกสนาน




              มีความสุขซะจริงนะ




              ทำตัวอย่างกับคนไม่เคยทำให้ใครเขาทุกข์ทรมาณเพราะตัวเองจนต้องฆ่าตัวตาย




              นายมีความสุขมากใช่มั้ย? พยอน แบคฮยอน



              เหมือนความทุกข์ไม่เคยมีบนโลก...เหมือนรู้แค่ว่ารัก...ไม่มีอกหัก...ไม่เจ็บปวด




              ถ้าอย่างนั้นแล้ว...




              ฉันจะเป็นคนสอนบทเรียนเหล่านั้นให้กับนายเอง!!!




              .
              ....





              เหมือนที่นายทำกับพี่ชายฉันไงล่ะ!!!








     
                       50%                      




    เรื่องที่ว่าทุกคนอยากจะเข้ามาทำความรู้จักกับลูกๆทั้งสามของตระกูลปาร์ค อันได้แก่ คริส  ลุ่ฮาน และชานยอล นั้น  เป็นความจริง  แต่ก็ใช่ว่าอยากจะเข้ามาทำความรู้จักก็เข้ามาได้ง่ายๆเหมือนเดินผ่านประตู เพราะ คุณหญิง ปาร์ค  นารัน แม่ผู้บังเกิดเกล้าของคนทั้งสามนั้น คัดคนที่เธอจะยอมให้รู้จักกับลูกเธอชนิดที่ว่าข้อสอบของโอลิมปิคทุกวิชายังยอมแพ้ ยกธงขาวให้ แต่...ก็ยกเว้นกรณีหนึ่งคือ เธอชอบคนๆนั้นเป็นพิเศษอย่างไม่มีเหตุผล ตัวอย่างน่ะเหรอ? ก็เช่น พยอน  แบคอยอน

             

              กับจาง  ฮยอนซึง ยังไงล่ะ !

     

              ฉะนั้นแล้ว คริส ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนโตสุดของบ้านตระกูลปาร์ค จึงต้องมายืนข้างๆมารดาผู้บังเกิดเกล้าที่กำลังพูดคุยกับครอบครัวจาง ครอบครัวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างสนุกสนานในแบบผู้ดี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พาเขามาดูตัวคนที่แม่ปลื้มหนักหนาอย่างจาง  ฮยอนซึง นั่นเอง

              ร่างสูงไม่ได้สนใจคนตรงหน้ามากนัก  คริสรู้แค่ว่าฮยอนซึงมีใบหน้าสวยเกินผู้หญิงบางคน ร่างเพรียวแบบบาง เย็นชาและดูเย่อหยิ่งจนไม่น่าคุยด้วย นั่นคือทั้งหมดที่ลูกชายคนโตสุดแห่งตระกูลปาร์คตัดสินอยอนซึงในแวบแรกที่เห็นตอนกลับมาจากอเมริกา แล้วก็ถูกแม่จับตัวพาไปนัดบอดกับคนตรงหน้า ที่ตอนนั้น ทำหน้าตาราวกับว่า การนัดบอดกับเขา เป้นความทุกข์ที่สุดในชีวิตแล้ว...

              ใช่ว่าฮยอนซึงทุกข์คนเดียวซะที่ไหน เขาเองก็ไม่ต่างกัน แผนเซอรืไพรส์วันเกิดไอรีนต้องพังลงไม่เป้นท่าก็เพราะนัดบอดบ้าๆนั่นแหล่ะ..

     

              “ คริส ! ทักทายน้องสิ ”

              คำสั่งจากผู้เป็นแม่  ได้หรือที่จะไม่ทำตาม  ถึงคริสจะไม่อยากทำก็เถอะ แต่ร่างสูงก็ฝืนใจทำมันลงไป

             
              “ เอ  โย่ว หวัดดี ”
     

              เตรียมจะเข้าไปแท็กมือด้วยแต่เมื่อเห็นสีหน้าไม่เล่นและไม่เข้าใจมุขของฮยอนซึงด้วยแล้ว ร่างสูงก็ถึงกับต้องหยุดชะงักไปทันที พร้อมชักมือกลับมา รู้สึกหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ คริสพยายามอย่างมากที่จะไม่อารมณ์เสียให้คนตรงหน้าเห็นได้ชัด




          10%


     

    น่าเกลียดมาก มาต่อแค่ 10% และยังไม่จบพาร์ทอินโทรคู่คริสซึงเลยยย-__-

    ค่อยคุยกันหลังจากครบ 100% นะคะ อีกครึ่งที่เหลือ จะเป็นพาร์ทของอินโทรของคู่คริสซึง ลู่ฮาน เซฮุน และก็ กีกวังค่ะ แอบสปอยล์ไว้เล็กน้อย


    * อย่าลืม อ่านแล้วเม้นด้วยนะคะ *




     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×