คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ชมรมคาราเต้สายคาบูรางิ
ตอนที่ 3 ชมรมคาราเต้สายคาบูรางิ
ณ ห้องปกครองโรงเรียนสหเกรียงไกล
"เธอลวนลามผู้หญิงทำไม อดใจไม่ได้รึไง" อาจารย์อัจฉราคาดคั้นเต
"ก็บอกแล้วไงไม่ได้แม้แต่คิดอยากจะลวนลามเล้ย" เตเริ่มหมดความอดทนกับอาจาย์ท่านนี้เหลือเกินเพราะตอนที่มาและแม้กระทั่งตอนนี้ก็มีผู้หญิงมาร้องเรียก เตขา พี่เตค่ะ คอยมาเกาะแข้งเกาะขาเตพยายามไล่เธอไปหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
"ถ้าอาจารย์ไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะต่อสายไห้แม่อธิบายเลยก็ได้โอเคมะ?" ไม่ทันที่อาจารย์จะตอบตกลงเตก็กดโทรศัพท์หาแม่ทันที ถึงแม้จะต้องเสียศักศรีที่ไห้แม่จัดการไห้แต่ก็ดีตรงที่จะหมดเวรหมดกรรมและรีบไปจากที่นี่เสียที
("ฮัลโหล..เตลูกรักมีอะไรเหรอจ๊ะ?")
"เดี๋ยวแม่คุยกับอาจารย์เองนะครับ....นี่ครับอาจารย์" อาจาย์อัจฉรารับโทรศัพท์จากเตและรีบพูดทันที(อาจารย์อัจฉรายังไม่รู้ว่าแม่ของเตคือใคร)
"คุณคือผู้ปกครองของนายเตชาเหรอค่ะ คุณรู้ไม่ค่ะ? ว่าลูกของคุณน่ะแสบแค่ไหนบุกเข้าห้องน้ำหญิงแถมยังลวนลามผู้หญิง ซ้ำยังเถียงปากแข็งว่าไม่ได้ทำแต่ผู้หญิงมาทำเขาเอง คุณต้องสั่งสอนลูกชายคุณบ้างนะค่ะ..."
("เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะค่ะ คุณบอกว่าลูกชายดิฉันบุกเข้าห้องน้ำหญิงแถมลวนลามด้วยเหรอค่ะ?")
"ก็ใช่น่ะสิค่ะ แล้วคุณน่ะควร..! "
("กรี๊ด! วิเศษไปเลยค่ะ ทีหลังไม่ต้องห้ามเขานะค่ะ ดิฉันดีใจมากเลยค่ะที่ลูกชายหันมาสนใจเพศหญิงบ้างแล้ว คนเป็นแม่โล่งอกจริงๆ! ")
"เอ่อ..-..- คุณผู้ปกครองค่ะไอเรื่องนี้น่ะฟ้องทางกฏหมายได้นะค่ะคุณและโรงเรียนเราจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย..."
("เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะดิฉันจะจัดการเอง ดิฉันดารุรีขอสาบานด้วยเกียตรของตระกูล สิงหโชคมหาชนก จะไม่มีข่าวรั่วใหลและโรงเรียนนี้จะพัฒนาเทียบเทียบโรงเรียนนานาชาติถ้าหากทำไห้ลูกชายดิฉันเลิกเกลียดผู้หญิงได้")
"หา! สะ..สะ...สิงหโชคมหาชนก..เศรษ..เศรษฐีพันล้าน! เหรอค่ะ?"
("ใช่ค่ะคุณครู") เท่านั้นแหละอาจารย์อัจฉราก็อ้าปากหวอหุบไม่ทันหน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด จะไม่ไห้ซีดได้อย่างไรในเมื่อเขาทั้งด่าและตำหนิลูกชายเศรษฐีอันดับสามของโลกและเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย!!
"อ่ะแหะเหรอค่ะ คุณดารุรี แหะๆความจริงแล้วลูกชายคุณก็ไม่ได้ผิดอะไรนักหนาหรอกค่ะดิฉันคงคิดมากไปเองอีกอย่างแม่ผู้หญิงพวกนั้นก็เต็มใจเองซะด้วยอะแหะ"
("ค่ะ..เอ่อแล้วก็ถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้อีกไม่ต้องไปห้ามนะค่ะปล่อยเขาตามสบายเลยค่ะดีไม่ดีเงินเดือนอาจารย์อาจจะมากเป็นพิเศษก็ได้นะค่ะ")
"อะโฮะๆๆๆด้วยความยินดีค่ะคุณดารุรี ไม่มีปัญหา โฮะๆๆๆ" อาจารย์อัจฉราหัวเราะออกมาด้วยสีหน้ารื่นเริงสุดๆเธอยิ้มจนแก้มเหี่ยวของเธอปริออกมาทางรอยย่นจากนั้นเธอก็วางโทรศัพท์โดยสีหน้ายังคงแสดงออกถึงการมีความสุขเธอหันมายิ้มไห้เตและเอ่ยเสียงหวานน่าขนลุกขนพองว่า
"ไปเรียนได้แล้วจ๊ะเตชา" เตพยักหน้างงๆคุณแม่มีแผนอะไรรึเปล่านะ ขนาดเราบอกจนปากเปียกยังไม่เชื่อว่าเราบริสุทธิ์เลย
"เอ่อ แต่อาจารย์ครับเหตุผลที่ผมบุกไปที่ห้องน้ำหญิงน่ะจริงๆแล้ว พิรภาฉกกระเป๋าสตางค์ผมครับ"
"ยัยพิรภาเหรอ? แน่ใจนะว่านั่นไม่ใช่ข้ออ้าง อาจารย์น่ะคุยกับแม่เธอมาแล้วมีอะไรก็ไม่ต้องปิดบังหรอกบอกมาตรงๆได้"
"จริงๆครับอาจาย์ยัยนั่นขโมยกระเป๋าตังผม!! "
ห้านาทีต่อมา ณ ห้องปกครอง
"โอ๊ย!อาจารย์ค่ะหนูเป็นผู้หญิงนะจะไปมีปัญญาขโมยของอะไรใครได้"พิรภาตะโกนอธิบายขณะถูกอาจารย์อัจฉราลากเข้าห้องปกครอง
"มาแล้วเหรอยัยตัวดี! เอากระเป๋าตังฉันคืนมานะ"
"กระเป๋าตังอะไร? นายพูดไห้มันดีๆหน่อย"พิรภาพูดสีหน้าไร้ความรู้สึกแต่นัย์ตาเธอล่อกแล่กไปมา
"ก็เธอน่ะแหละฉกกระเป๋าตังฉันลองไห้ค้นตัวมั้ยล่ะ" เตพูดพร้อมทั้งกับเดินเข้าไปหาซึ่งพิรภาก็ดิ้นสุดชีวิตถอยไปที่หน้าต่างไม่ยอมไห้เตเข้าใกล้
"นายอย่ามาทำลามกใส่ฉันนะกระเป๋าตังอะไรฉันไม่มีหรอก"
"งั้นเธอก็ไห้ครูค้นตัวหน่อย" อาจารย์อัจฉราพูดขึ้นซึ่งเตก็ยืนพยักหน้าหงึกๆไปด้วย
"ก็ได้ค่ะ" พิรภายืนคิดสักพักเธอก็ตอบตกลงพร้อมสีหน้าเจ้าเล่ห์เธอเดินมาและแกล้งสะดุดล้มชนเตจนลอยติดข้างฝา
ตูมมมมมมม!
"โอ๊ย! เดินดีๆหน่อยสิ"
"ขอโทษ^^ " พิรภาพูดพร้อมกับรอยยิ้มทำไห้เตงุนงงมากจากนั้นอาจารย์อัจฉราก็ทำการค้นตัวทุกซอกทุกมุมโดยไห้เตออกไปก่อน
"นายเตชาเข้ามาได้"
"เห็นมั้นครับกระเป๋าตังผมน่ะ..."
"ไม่เห็น! " อาจารย์อัจฉราตอบและขยับแว่นไห้เข้าที่
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่มี นายน่ะใส่ร้ายฉัน"
"เธอน่ะแหละเป็นคนเอาไปฉันเห็นอยู่!"
"นายอาจจะลืมไปก็ได้นะว่ามันอยู่ในกระเป๋าลองค้นดีรึยัง?"
"ฉันค้นจนกางเกงจะทะลุอยู่แล้วเนี่ยเห็...!! เฮ่ย! "เตพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋าไห้ดูแต่ทันใดนั้นก็พบว่ากระเป๋าตังหนังเพ้นภาพลินกิ้นปาร์กอันเดิมของเขาและเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์..ใช่แล้วก่อนจะค้นตัวยัยนี่แกล้งหกล้มแล้วก็ชนเรา! มือไวจริงๆยัยบ้านี่..!!
"อ้าวนายเตชา แสดงว่าเธอหาเรื่องเขาล่ะสิ ไปๆๆไปเรียนกันได้แล้ว วุ่นวายจริงๆเลย" พิรภาออกอาการยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยโดยไม่ไห้อาจารย์เห็น
"ไม่ใช่นะครับอาจาย์ก่อนที่เธอจะไห้อาจาย์ค้ยตัวเธอเอากระเป๋านี่มาใส่..."
"ไปได้แล้ว!! "
เตต้องจำใจเดินออกมา ทั้งหงุดหงิดและเครียด(ดีนะที่ไม่จน)เขารู้สึกเจ็บใจเหลือเกินยัยนี่ทำไมถึงได้แสบแบบนี้นะ คอยดูเถอะจะเอาคืนไห้ได้เลยยัยบ้า! หลังจากออกมาจากห้องปกครองพิรภาไม่รอช้ารีบวิ่งแจ้นออกไปทำไห้เตด่าว่าอะไรเธอไม่ได้
“หึ! กลัวความผิดล่ะสิ” เตแสยะยิ้มก่อนจะเปิดกระเป๋าตังค์เพื่อเช็คสภาพ
“เฮ่ย!! มันไม่มีเงินสักบาทเลยนี่หว่า ไอ้ขี้ขโมย ยัย บ้ากลับมานะจะหนีไปไหน! “ เตรีบวิ่งสุดฤทธิ์เพื่อไล่จับเธอแต่ก็ตามไม่ทันเพราะทันที่ก้าวออกมาจากอาคารผู้หญิงก็คอยมารุมล้อมเขาจนเตต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีการไล่จับของพวกเธอแทนและเมือรอดมาได้เขาก็พบว่าเธอโดดเรียนและทีโต๊ะของเตมีกระดาษโน้ตแปะอยู่เขียนไว้ว่า
“เงินเยอะดีหนิ ขอหน่อยแล้วกันไอ้กร๊วก” ข้อความนี้มันทำไห้เตแทบอยากจะทุบโต๊ะตัวนี้ทิ้งแต่ก็ไม่ทำเขาเพียงแค่กำหมัดแน่นตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเหตุการณ์แบบนี้และเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ทำกับเขาแบบนี้ต่อจากแม่ที่เป็นผู้หญิงคนแรกที่กวนตินเตเพราะผู้หญิงโดยมากมันจะเกาะแกะเขามากกว่า
หลังเลิกเรียนหน้าอาคารตึกสี่
"ข้าล่ะอยากจะบ้าตายวันนี้มันวันซวยจริงๆโดยเฉพาะยัยพิรภานั่นแกล้งข้ายังไม่พอแมร่งฉกเงินข้าไปอีกอย่าไห้จับได้นะจะแก้แค้นไห้สาสมเลยคอยดู" เตสาธยายเรื่องราวซวยๆของเขาไห้เพื่อนทั้งสองฟัง
"เออน่ะอย่าคิดมากเลยเดี๋ยวก็ดีเอง" โอ๊ตปลอบใจเพื่อนของเขา
"เออแล้วพวกเองมีชมรมเข้ากันรึยังล่ะ" กิตรถามขึ้นมาทั้งๆที่สายตาของเขายังจับจ้องที่หนังสือวิทย์คิดจนหัวแตก
"ข้าสมัครชมรมคาราเต้เฟ้ย แล้วเองล่ะไอโอ๊ตจะไปกับข้ารึเปล่า?" เตพูดขึ้น
"เออไปก็ได้"
"ข้าน่ะอยู่ชมรมคาราเต้อยู่แล้วไม่ต้องหันมามองหรอก เออเดี๋ยวข้าไปก่อนนะพอดีว่าต้องไปทำงานทดลองเสต็มเซลล์น่ะ เวลาไปคัดตัวพวกเองก็ระวังไห้ดีล่ะอย่าเพิ่งช็อกตายนะถ้าเห็นกัปตันแล้ว"กิตรพูดแฝงนัยพร้อมกับยิ้มน่ากลัวเอาไว้ก่อนจะวิ่งไปทางห้องทดลองทางซ้ายมือซึ่งตรงกันข้ามกับทางไปชมรม
"ป่ะ! ไอโอ๊ตไปเอาใบสมัครที่ห้องทะเบียนก่อนแล้วค่อยไปชมรมกัน" เตพูดพร้อมกับเดินนำโอ๊ตไปเอาใบสมัครซึ่งต้องเดินเรียบกำแพงโรงเรียนผ่านตึกทั้งสามก่อนจะถึงห้องทะเบียน
ในระหว่างที่เขาเดินมาผ่านอีกสองตึกเขาก็จะถึงห้องทะเบียนแล้ว ทางข้างหน้าเตพบว่ามี จิ๊กโก๋ 3 คนนั่งจับกลุ่มสูบบุหรี่กันอยู่พอเดินเข้าไปจนใกล้ไอ้พวกนั้นก็หันมามองเตและซุบซิบกันเตกำลังสงสัยว่าไอ้พวกนี้เป็นอิแอบจ้องจะเขมือบผู้ชายรึเปล่านะ?เพราะดูพวกนั้นมองมาที่เตเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วจู่ๆก็มีจิ๊กโก๋คนหนึ่งในผมทรงหมาแหงนเดินเข้ามาขวางเตกับโอ๊ตขณะกำลังเดินผ่านไป
"เดี๋ยวซี่ ไอ้หน้าหล่อจะรีบไปไหน มาคุยกันก่อนดีกว่า ได้ข่าวว่าแกดังมากนักนิเรื่องผู้หญิงนะหึ?" จิ๊กโก๋คนั้นพูด
"ดูแล้วมันหน้าหมั่นไส้เนอะลุกพี่" ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามาคนนี้ตัวอ้วนหน้าตาดูโง่ๆคล้ายควาย
"ถ้าลองทำหน้านั้นฟกช้ำดำเขียวจะเป็นยังไงบ้างน้า" ลูกน้องอีกคนตัวผอมแห้งพูดด้วยเสียงแหบพร่าออกมา
"พวกเองรีบหลบไป ข้าไม่มีเวลามาทิ้งกับพวกขยะอย่างเอง" เตพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
"เฮ้ย! พูดงี้อยากโดนตื๊บรึไงวะ" ลูกน้องคนอ้วนพูดขึ้นและทำท่าจะเข้ามาต่อยเตแต่ลูกพี่ของมันห้ามไว้ก่อน
"ใจเย็นไอ้แกลบ เดี๋ยวลูกพี่แดนสุดหล่อจัดการเอง"แดนพูดจบก็เดินมาประจัญหน้ากัยเตทั้งๆที่มันสูงแค่คอของเต
"บอกตามตรงนะข้าหมั่นไส้เองว่ะ มาต่อยกันกับข้ามั้ย?ไอ้อ่อน?"
"เมื่อไหร่ละ" เตตอบอย่างท้าทายดีจริงๆที่มีตัวมาช่วยปลดปล่อยอารมรณ์ของเตเพราะเขาหงุดหงิดมาทั้งวันทั้งที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เพราะเป็นผู้หญิง
"ก็ตอนนี้ไง!! " ทันที่มันพูดจบมือก็ชกเข้าที่หน้าของเตแต่เตก็รับด้วยมือและถีบแดนจนตัวปลิวไปโดนไอ้ผอมแห้ง
"เฮ่ยเอง! กล้าทำลูกพี่แดนเรอะ" ไอ้หมูตอนที่ชื่อแกลบมันวิ่ง(หรือกลิ้ง)มาทำท่าจะชกเตแต่ทว่าโอ๊ตกระโดดตัวลอยถีบมันกระเด็นและจากนั้นแดนกับไอ้ผอมก็วิ่งเข้ามารุมเตซึ่งเตก็กระโดดกลางอากาศและกางขาสองข้างโดนเข้าที่หน้าทั้งสองคนจังๆต่อด้วยไอ้หมูตอนที่กำลังคร่อมตัวโอ๊ตเมื่อโอ๊ตเป็นอิสระเขาก็ร่วมวงอัดพวกจิ๊กโก๋ด้วยท่าคาราเต้ล้วนๆโดยที่พวกมันยังไม่ทันได้ตอบโต้ เตจับแดนทุ่มและใช้ขาเกี่ยวไอ้ผอมเข้ามาก่อนจะชกกระเด็นออกไปโอ๊ตถีบเข้าที่พุงโลของแกลบก่อนจะชกจนฟันมันล่วงหลุดออกมา ตอนนี้ไอ้ผอมสลบไปเรียบร้อย ส่วนไอ้แกลบหมอบราบจุกท้องลุกไม่ได้ เตทำท่าจะเข้ามาชกไอ้แดนมันก็
"ฉันยอมแล้ว..ฉันยอมแพ้แล้ว" มันพูดพร้อมกับเอามือป้องตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย เตแสยะยิ้มก่อนจะลากโอ๊ตเดินไปต่อ
"ฝากไว้ก่อนเถอะเอง! " แดนพูดอย่างโกรธแค้นก่อนจะกระชากลูกน้องทั้งสองไห้ลุกขึ้นมา
เตเดินมาถึงห้องทะเบียนโดยสวัสดิภาพเขาจัดการไห้โอ๊ตเขียนชื่อในใบสมัครและเดินนำทางโอ๊ตไปชมรมคาราเต้ระหว่างที่เดินเขาก็พบว่าโรงเรียนนี้กว้างและมีชมรมมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับกีฬาและศิลปะการต่อสู้มีทั้งยูโด เทควันโด กังฟู บาสเก็ตบอล เทนนิส ฟุตบอล ว่ายน้ำและอีกมากมาย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เตสนใจมากไปกว่าคาราเต้แล้ว
เพราะอะไรน่ะรึที่ทำไห้เตชอบศิลปะการต่อสู้แขนงนี้มันเป็นเรื่องเมื่อตอนเขาอายุ เพียง 5 ขวบ ตอนนั้นเตเป็นเพียงเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเรียนเก่งและบอบบางวันหนึ่งเขาเกิดถูกพวกเพื่อนในห้องอิจฉาและลวงออกมาเพื่อทำร้าย สาเหตุก็คือพวกผู้หญิงไห้แต่เตเล่นเป็นพ่อในการเล่นพ่อแม่ลูกตามประสาเด็ก เขาถูกพวกเพื่อนๆเขาซ้อมจนบอบช้ำแต่แล้วก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งอายุมากกว่าเขาปีเดียวได้ใช้วิชาคาราเต้ช่วยเขา เด็กคนนั้นถีบพวกที่กำลังแกล้งเตและต่อยสองสามหมัดจนร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องพ่อแม่
ตั้งแต่ตอนนั้นเองทำไห้เขาชอบคาราเต้เขาจะไม่มีวันลืมชายในอุดมคติเลยแม้จะไม่รู้จักชื่อก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักเตเขายื่นมือมาไห้เตและพูดว่า “นายกลับบ้านดีๆนะ เต” ตอนนั้นเองที่เตเห็นว่ารุ่นพี่คนนั้นดูเท่ห์มาก ด้วยวิชาที่เขาใช้และการพูดจาที่มีเสน่ห์นั่นถึงแม้ตอนนี้ภาพของเด็กคนนั้นจะเลือนรางไปแล้วแต่เตก็ไม่เคยลืมเลย จากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมาทำไห้เตตั้งใจฝึกซ้อมคาราเต้และเขาก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้นั่นก็คือ แชมป์ระดับโลก แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นเขาก็ต้องได้แชมป์ระดับโรงเรียนไห้ได้และเตก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าในการแข่งนี้อาจจะเจอชายคนนั้นอีก!
และแล้วเตกับโอ๊ตก็เดินมาถึงโรงยิม ที่เขียนป้ายไว้เป็นภาษาไทยคู่กับภาษาญี่ปุ่นว่า “ชมรมคาราเต้ สายคาบูรางิ” โรงยิมดูใหญ่น่าทึ่งมากเพียงแค่อยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงฝึกซ้อมดังสนั่นข้างโรงยิมมีโรงเก็บของโรงเล็กๆและข้างนั้นก็มีห้องแต่งตัวกับห้องน้ำรวมเตกับโอ๊ตเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลียนเป็นชุดคาราเต้เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่ายังไงก็ต้องเข้าไห้ได้ เตเปลียนเป็นชุดคาราเต้สีขาวและผูกสายคาดหรือโอบิ(Obi)สีน้ำตาลและโอ๊ตสายสีเขียว(สีบ่งบอกฝีมือ เรียงกันตามฝีมือ ขาว ขาวปลายเหลือง เหลือง เหลืองปลายเขียว เขียว เขียวปลายฟ้า ฟ้า ฟ้าปลายน้ำตาล น้ำตาล น้ำตาลปลายดำและดำต่อจากดำนับเป็นดำดั้งที่ 1 ที่ 2 ที่3 ตามประสบการณ์และความสามารถ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือถูกต้องกว่านี้ก็ช่วยเม้นมาบอกหน่อยนะค่ะ)จากนั้นทั้งสองก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูยิม
แอ๊ด!
“มาสมัครชมรมครับ” เตตะโกนเสียงดังจนคนข้างในหยุดการกระทำทุกอย่างและหันมามองเตอย่างสนใจ
“เฮ่ย! “ เตและโอ๊ตตะโกนพร้อมกันและชี้ไปที่สมาชิคคนหนึ่งในกลุ่มกำลังซ้อมกับกระสอบทรายอยุ่ มันคือจิ๊กโก๋ที่มาหาเรื่องเตตอนจะไปห้องทะเบียนนั่นเองทีแท้ก็อยู่ชมรมคาราเต้พวกมันเมื่อเห็นเตก็ตกใจแต่สักพักก็เดินออกมาประจันหน้าเตพร้อมกับพรรคพวกอีก 10 กว่าคนและพูดว่า
“จะมาสมัครง้านเหรอ? แต่ที่นี่มีกฎไว้ว่าคนที่จะมาสมัครต้องล้มคนทั้งชมรมไห้ได้ซะก่อนเพื่อวัดฝีมือ”
“เดี๋ยวนะลุกพี่ ไอกฎนี้มันมีด้วยเหรอ? ผมไม่เคยได้ยินเล.....แอ๊ฟ!+” ไอแกลบที่เสนอหน้าเข้ามาพูดถูกลูกพี่ของมันกระซวกท้องด้วยศอกและซุบซิบเสียงดังว่า “กัปตันไม่อยู่ไม่เป็นไรหรอกน่า แถมรองกัปตันโดนลงโทษกวาดขยะอยู่ด้วย เราถือโอกาสนี้จัดการมันเข้าใจมั้ย?”
“หมายความว่าจะไห้ฉันอัดพวกแกได้ใช่มะ?”เตพูดพร้อมกับหักนิ้วมือดังกร๊อบๆ
“เอง! อวดดีนะ วันนี้แหละจะเช็ครวมยอดไปเลย เฮ่ย! พวกเราจัดการมัน!! “ คนสิบคนกับคนสองคนก็ตะลุมบอนกันในขณะที่คนอีกประมาณ 10 กว่าคนนั่งเชียอย่างสะใจ
“เฮเอาเลยๆ! “
พวกจิ๊กโก๋รุมเข้ามาทุกทิศทางเตกับโอ๊ตก็ทั้งต่อยทั้งอัดกลับไป เตจับล็อกคอแดนและทุ่มใส่คนที่กำลังเข้าตามด้วยถีบซ้ำจนไปโดนคนข้างหลังอีกสองสามคน โอ๊ตหมุนตัวเตะและชกซ้ำสามสี่รอบจนหมอบกับพื้น
“ย้ากกกกกกกกกก! ตายซะเถอะ”
คราวนี้มีคนสามคนมารุมเตพร้อมๆกันเตปัดหมัดพวกเขาทั้งสามและหมุนตัวตามการเคลื่อนไหวก่อนจะล็อกขาคนหนึ่งไว้และเหวี่ยงอีกสองคนปลิวออกไปจากนั้นเขาก็ใช้ตัวคนคนนั้นเป็นอาวุธแทนโดยการจับเหวี่ยงไม่ไห้โดนโอ๊ตที่กำลังกระโดดขึ้นลงเพื่อเตะและป้องกันตัว
“โอ้ก!...หยุด...เหวี่ยง...ได้แล้ว*0*....มะ..มึน” ชายคนที่ถูกเหวี่ยงพุดขึ้นขณะที่ถูกเหวี่ยงไปชนหน้าเพื่อนเขาคนหนึ่ง
“อ้ากกกก! อย่าเอาหน้าโสโครกนั่นมาโดนนะ!! “
“แว้ก! แมร่งเหวี่ยงไอเขียวมาแว้ว หลบเร็ว!! “
“เฮ่ย! นี่เพื่อนพวกแกนะรักกันมากไม่ใช่เรอะ” เตพูดพร้อมกับเหวี่ยงไปเรื่อยจนมันน้ำลายฟูมปากกระเด็นไปทุกทิศทางแม้แต่คนดูยังกระโดดหลบแทบไม่ทัน
“หลบมาทางนี้ก็...ย้ากกกกกกกกก”
พลั่ก! พัวะๆๆๆ ตูมมม!!
โอ๊ตพูดพร้อมกับใช้โอกาสนี้อัดใส่คนที่หลบน้ำลายเพื่อนของพวกมันมา
เวลาผ่านไปพร้อมกับเสียงเฮลั่น จิ๊กโก๋ 10 คนหอบหมดแรงแทบเท้าเตและโอ๊ตสภาพตอนนี้มีน้ำลายกระจายทั่วบริเวณคนที่โดนหน้าของเขียวคนที่เตเหวี่ยงไปมาโดนเข้าที่ปากต่างโก่งคอจะอ้วกออกมาไห้ได้เตและโอ๊ตทั้งสองดูไม่จืดเลยเสื้อผ้าหลุดลุ่ยมีรอยฟกช้ำบนหน้าเล็กน้อย
“ว่าไง! พวกเองจะสุ้อีกแมะ” เตพูดใส่แดนที่พยายามลุกขึ้นมา
“เฮ่ย! พวกเราทั้งหมดมันบอกว่าจะสุ้กับคนทั้งยิมแน่ะ มันบอกว่าพวกนี้น่ะกระจอก แน่จริงเข้ามาไห้หมดเลยดีกว่า แล้วมันยังบอกอีกนะว่ากัปตันของเราน่ะกระจอกไห้มาสุ้เลยดีกว่า!! “แดนตะโกนด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายและคนทั้งยิมก็ลูกฮือ
“เฮ่ย! อะไรวะยังไม่ได้พูดอะไรเลย! “ เตและโอ๊ตพูดออกมาพร้อมกันด้วยสีหน้างุนงง
“เฮ่ย! พูดงี้ได้ไงวะ อย่ามาดูถูกกัปตันเรานะถ้าแกอยากจะสุ้กัปตัน พีท เราล่ะก็ต้องฝ่าด่านพวกเราไปก่อนเฟ้ย!!” พวกคนทั้งยิมต่างโวยวายกันขึ้นมาโดยไม่ฟังที่เตและโอ๊ตพูด
“อ๋อ! กัปตันพวกแกชื่อพีทเหรอ? ดีเลยงั้นเข้ามาอยากจะสะสางกับมันนานแล้วไอ้พีทมันมาอยู่ที่นี่นี่เอง”
“ย้ากกกกกกกกก! เตรียมตัวรับกรรมไว้เลยเอง!! “ พวกคนทั้งยิมกรูกันเข้ามาหา เตและโอ๊ตที่หันหลังชนกันเพื่อรับศึกหนัก
“ไอเพื่อนเวรหาแต่เรื่องไห้ข้านะเอง! - -“ โอ๊ตพูดขึ้นมาขณะถีบไอกร็วกคนหนึ่งกระเด็นออกไป
“ใจเย็นน่าเพื่อน^^ “ เตตอบหลับพร้อมกับใช้มือ ทั้ง สองข้างชกคนสองคนออกไป
“ย้ากกกกกกกแกตาย!! “ คราวนี้พวกมันเล่นรุมมาทั้งหมดเตตัดสินใจกระโดดไต่หัวพวกมันทีละคนพอมาถึงคนสุดท้ายก็ทุ่มแรงทั้งหมดพลักมันจนล้มทับต่อๆกันไปจนโอ๊ตหลบแทบไม่ทัน
ตุบๆๆๆๆ! “โอ๊ย! แมร่งเหยียบหัวข้า”
พลั่กๆๆๆๆ
“ เฮ่ยอย่าทับมา แว้กกกกกกกก!! “ ตูมมมมมมมมม
“เฮ่ยๆๆๆ! ไอเตทำไรบอกกันมั่งเด่ะไอ้หมูมันจะทับข้าอยู่แล้วนะ!! “
“แหะ มองไม่เห็นโหสิน่า” เตพูดจบก็หันตัวกลับหลังถีบเข้าที่ท้องของไอสองคนที่มารอบทำร้ายข้างหลัง
พลั่ก! แอ๊ฟฟ!!
“แก! เจอท่ากระโดดถีบหน่อยเป็นไงย่าห์! “ พอหันหลังกลับมาเตก็พบมีคนกระโดดถีบพุ่งมาทางเขาเตเพียงจับข้อเท้ามันและหมุนตามแรงจนมันเสียหลักพุ่งชนเพื่อนๆอีกสามสี่คน
“แว้ก!! เหวอ..! แอ้ก! “ พลั่กๆๆๆ
“เฮ่ยพวกเรากระโดดตะครุบมันเล...อ๊อฟ!! “ ขณะที่แดนกำลังสั่งการไม่ทันจบเตก็จับหักคอมันและถีบข้อพับเตะซ้ำจนกลิ้งติดกำแพงจากนั้นเตก็ชูนิ้วกลางท้าทายพวกที่เหลือ
“เข้ามาเล้ย ไอ้ตูดหมึก”
“เฮ่ยแมร่งท้าหวะ! จัดการมันเลยย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! “ คนทั้งยิมกระโดดเข้ามาเพื่อจะตะครุบเต เตกระโดดขึ้นกลางอากาศสปริงตัวเหนือหัวพวกคนทั้งยิม
“มา! ตายซะไห้หมด” พอพูดจบเขาก็หมุนตัวกลางอากาศซึ่งขาที่กางอยู่นั้นก็โดนหัวพวกที่ล้อมอยู่ เตสปินตัวเตะจนพวกคนทั้งยิมหลบไม่ทันและล้มลงพร้อมกันเมื่อเตลงถึงพื้น
“เฮือก....มึ..น...อ้อก!! “ ทุกคนที่โดนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“โห เด็ดหวะไอเต” โอ๊ตส่งเสียงชื่นชมขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังรับมือกับพวกที่เหลือโดยไม่มองพวกเขาเลย โอ๊ตใช้มือหนึ่งกันการโจมตีอีกมือหนึ่งสวนกลับด้วยท่าหมัดกับศอกถ้ามามากๆเข้า เขาก็ใช้ขาเตะกวาดหรือไม่ก็เตะข้อพับและซ้ำที่หน้าอีกทีเป็นอันจอด
“เฮ่ย! ไอ้เตระวัง!! “ โอ๊ตตะโกนขึ้นมากระทันหัน
“หือ? ....อ้ากกกกกกกก!! “ ผัวะ!!
เตโดนไม้หน้าสามฟาดที่หัวทางด้านหลังคนที่ทำนั้นคือไอ้แกลบที่พึ่งฟื้นขึ้นมานั่นเอง เตถึงกลับสลบล้มลงไปกองกับพื้นโอ๊ตเห็นดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีและตะโกนเสียงดัง
“เวรเอ๊ย!! “ โอ๊ตสบดพร้อมกับง้างหมัดจะต่อยไอ้แกลบ
หมับ! พลั่ก !! โอ๊ย!!!
โอ๊ตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่กำลังง้างจะชกนั้นก็ถูกไอ้ผอมถึงข้อเท้าจนล้มหน้าฟาดกับพื้น
“เฮ่ย! ลากมันมาดิ๊” แดนสั่งไอ้แกลบขณะกำลังลุกขึ้นมา
แกลบจัดการล็อกมือโอ๊ตจากด้านหลังและอุ้มไปหาแดนทันที่มาถึงตัวแดน
ผัวะ! อ้าก! ผัวะ!! อุ๊ฟ ผัวะ พลั่ก แพล่ก เพล็ก!! โอ้ก!
แดนจัดการอัดโอ๊ตเข้าไปหลายหมัดด้วยความหมั่นไส้ทั้งหน้าทั้งท้องระบมไปหมด
“ไงล่ะ! หายซ่ารึยังล่ะเอง เพื่อนเองโชคดีนะที่แมร่งสลบไปก่อนไม่งั่นโดนหนักกว่านี้แน่ เฮ่ย ถ้าเองไม่อยากเจ็บตัวก้มกราบแทบเท้าข้าสิฮ่าๆๆๆๆ”แดนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่ลูกน้องทั้งสองของเขายังคงนิ่งเงียบ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....เฮ่ย!..” เมื่อแดนรู้สึกว่าตัวเองหัวเราะอยู่คนเดียวก็รีบพยักหน้าหงึกๆเรียกไอ้สองคนไห้หัวเราะตามแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ
“มีอะไรเหรอลูกพี่?” ไอ้แกลบถาม แดนถอนหายใจและพยักหน้า
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....”ยังคงหัวเราะคนเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าไอ้สองตัวและพูดกระซิบว่า
“หัวเราะสิไอ้แกลบ ไอ้ผอม! “
“อะอ๋อ..ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ทั้งแกลบและผอมหัวเราะบ้าคลั่งพร้อมกัน
“หึๆ ว่าไงล่ะจะยอมกราบตรงนี้แมะ” แดนพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เท้าของเขา พร้อมกับมืออีกข้างที่จับคางโอ๊ตเงยหน้าขึ้นมา
ถุย! แผละ! แว้กกกกกกกก!!
โอ๊ตถุยน้ำลายใส่หน้าแดนจนมันออกอาการตุ๊ดกระโดดถอยหลังทำท่าขยะแขยงเมื่อมันเช็ดเสร็จมันก็ถือไม้หน้าสามกลับมาด้วย
“เวรเอ๊ย! อย่าอยู่เลยเอง! “
ผัวะๆๆ !! อั่ก!
แดนใช้ไม้หน้าสามระดมตีโอ๊ตแบบไม่ยั้งจนไอ้แกลบกับไอ้ผอมหลบแทบไม่ทัน สภาพโอ๊ตตอนนี้กำลังนอนตัวงอปัดป้องไม้หน้าสามที่ตีเข้ามา จนหน้าตาบอบช้ำไปด้วยเลือดและรอยฟกรอยจ้ำเขียวๆ และแล้วก็มาถึงการตีครั้งสุดท้ายซึ่งแดนก็ง้างสุดมือเตรียมจะฟาดเข้าที่หัวไห้สลบไปเลย
“ย้ากกกกกกกก!! “
ฟ้าว! หมับ!!!
“เหวอ..! “
เตลุกขึ้นมาจับไม้ที่กำลังจรดกระหม่อมของโอ๊ตแววตาตอนนี้ของเตต้องบอกว่าหน้ากลัวสุดๆ คิ้วขมวดเข้าหากันแววตาดูโหดเหี้ยมใบหน้ามีเลือดไหลจากหัวและปาก
“พวกเองเล่นอย่างนี้เหรอ?...ได้! “ พอเตพูดจบเขาก็จัดการใช้ศอกกระทุ้งหัวแดนถีบข้อพับจนล้มล็อกคอและบิดใช้เข่าแทงข้างหลังจนนอนหมอบราบจากนั้นเตก็จับแขนข้างหนึ่งของแดนและใช้ขาล็อกเตยืดแขนของแดนเพื่อหักกระดูกหัวไหล่
กร๊อบบบบบ!!1 อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!! อ๊า!! เจ็บๆๆๆๆๆๆ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!
“อ๊า! แขน...แขน...ข้า...อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!! “ แขนของแดนหลุดเรียบร้อยมันบิดแบบน่าสยดสยองบวกกับเสียงร้องอันโหยหวนของแดนจนไอ้แกลบกับไอ้ผอมสยองไปด้วย
เตเดินเข้าไปหาสองคนที่เหลือแม้จะมีเสียงของแดนดังอยู่เป็นเนืองๆไอ้แกลบกับไอ้ผอมก็ตั้งการ์ดทั้งๆที่ขาของพวกมันค่อยๆก้าวถอยหลังอย่าไม่รู้ตัว
ฟ้าววววววววววว!
เตวิ่งด้วยความเร็วจนทั้งสองไม่ทันตั้งตัวเตวิ่งไปโผล่ตรงหน้าไอ้แกลบและชกหน้า ไปสิบกว่าทีซึ่งเร็วมากจนไอ้แกลบคิดว่าต่อยไปแค่ทีเดียวจากนั้นไอ้ผอมก็ล้มนอนหมดท่า เตเอียงคอไปมาดังกร๊อบๆและขยับสายไห้เข้าที่ ไอ้แกลบเห็นท่าไม่ดีจึงบุกเข้าไปก่อน
“ย้ากกกกกกกกกก”
หมับ!
เตจับมือไอ้แกลบและดึงเข้ามาใช้เข่าแทงที่ท้องและศอกลงเข้าที่หัว เตมุดลงไปจับขาไอ้แกลบและใช้ลำตัวยันมันนอนและจัดการหักกระดูกหัวเข่า ซึ่งยังไม่ทันที่จะหักไอ้แกลบก็ร้องโหยหวนแข่งกับแดนลูกพี่ของมันซึ่งตอนนี้กำลังร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตา
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก!!! “
“เฮ่ย! อะไรกันน่ะหยุดนะ!! “ ชายหนุ่มรูปร่างสูงไหญ่ประมาณ 180-190 ร่างกายกำยำตัวดำคล้ำปากหนาแถมบนใบหน้ายังมีรอยบากที่ดูแล้วน่ากลัวเขาตะโกนออกมาได้ทันเวลาพอดี
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณเป็นใคร...นี่เป็นฝีมือคุณเองเหรอ?” ชายคนนั้นพูดอย่างสุภาพผิดกับหน้าตาที่ดูโหดๆ
“แล้วนายล่ะเป็นใคร?” เตพูดพร้อมกับปล่อยไอ้แกลบที่เมื่อได้รับอิสรภาพก็รีบไปหาไอ้ผอมทันที
“ผมเป็นรองกัปตันของที่นี่ แล้วนี่คุณทำสามาชิกของผมเหรอ?” ชายคนนั้นตอบพร้อมมองพวกคนในยิมด้วยแววตาสงสาร
“รองกัปตันเองรึ กัปตันพวกแกอยู่ไหนเรียกไห้มันมาสู้กับข้า ข้าเป็นสมาชิกใหม่ของที่นี่ไอ้เจ้าพวกนี้มันบอกว่าถ้าล้มมันได้แล้วค่อยไปสู้กับกัปตันของมัน”
“จะสู้กับกัปตันพีท? คงต้องผ่านด่านผมแล้วล่ะ ดูท่าคุณจะเก่งไม่ใช่ย่อยล้มคนทั้งยิมได้...แต่เพราะแบบนี้ผมคงนิ่งนอนใจไม่ได้หรอกเพื่อศักศรีของยิม ผมขอท้าคุณสู้กันตัวต่อตัวอย่างเป็นทางการใช้กติกาของคาราเต้สายคาบูรางิ! “ ชายคนนั้นตอบด้วยสีหน้าที่ดุดันขึ้นเขาจะเอาจริงแล้ว
“โฮ่เอางั้นรึ? แล้วจะดวนกันตรงไหนดีล่ะ” เตพูดยิ้มที่มุมปากอย่างท้าทาย
“ตรงนี้เลยครับ ขอทราบชื่อคุณหน่อยได้มั้ย? ผมชื่อป๊อด”
“เออข้าชื่อเตจำไว้ไห้ดีแล้วกัน คนที่จะมาเป็นกัปตันไหม่ของพวกแกน่ะ”
“ผ่านผมไปไห้ได้ก่อนเถอะครับ อ้อ! เดี๋ยวนะครับ” ป๊อดเข้าไปหาแดนที่สลบด้วยความเจ็บพร้อมกับน้ำลายที่ฟูมปากแดนจัดการต่อข้อกระดูกไห้เข้าที่และใช้สายสีเหลืองของแดนมาพันแขนไห้ก่อนจะเดินมาประจันหน้ากับเตและตั้งการ์ดขวา
ซึ่งเตก็พยักหน้าและทำหน้าทำปากประมาณว่าแหมพลเมืองดีต่อกระดูกเป็นซะด้วย
“เราต่างเป็นกรรมการซึ่งกันเละกันนะ งั้นเริ่มเลยดีกว่า เริ่มได้!!“ เตพูดพร้อมจู่โจมทันทีด้วยการชกบนป๊อดที่ไม่ทันตั้งตัวก็เซถอยหลังไปสามก้าว
“หึ เป็นไงล่ะ” เตพูดด้วยความลำพองจ้องไปที่ป๊อดซึ่งกำลังเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปาก
“แค่นี้เหรอครับ?”
“อะไรของเอง”เตพูดมีอาการตกใจเล็กน้อยเพราะป๊อดดูจะไม่เป็นอะไรเลย
“หมัดคุณน่ะแรงแค่นี้เหรอครับ” ป๊อดพูดกลับมาตั้งการ์ดเหมือนเดิม
เตมีอาการอ้าปากค้าง หมัดนั่นน่ะเขาชกสุดกำลังเลยนะทำไมไอ้หมอนี่ถึงไม่รู้สึกอะไรเลยมันอึดขนาดนั้นเชียวเหรอ? ไม่น่ะ เป็นไปได้ ของอย่างนี้ต้องลองดู
“ย้า! “ เตตัดสินใจเตะช่วงท้องเขาสะโพกและกางขาเตะเข้าสีข้างอย่างแรง
ฟ้าววววววว! หมับ!
ป๊อดหมุนตัวถอยหลังจับข้อเท้าของเตและดึงเข้าหาตัวพร้อมกับ
ผัวะ! พลั่ก!
ป๊อดดึงเข้ามาและและชกที่ใบหน้าของเตพร้อมกับฟันศอกด้วยมืออีกข้างก่อนจะถีบออกไป ซึ่งเตก็ถอยหลังไปเรื่อยๆทั้งที่ยังมึนๆเพื่อไห้ตัวเองทรงตัวได้เขาจะยอมล้มไม่ได้เพราะทันทีที่ล้มจะถูกนับเป็นวาสะอาริซึ่งท่ามันทำวาสะอาริได้อีกครั้งเดียวหรือเวลาหมดพอดีมันก็จะชนะไปเลย
“ตอนนี้เหลือเวลาอีก 2 นาที 32 วิเสียเวลากว่าที่คิดนะครับ” ป๊อดพูดพร้อมกับยิ้มเยาะอย่างมั่นใจ
“เหอะ! นั่นเป็นคำพูดที่เหมาะกับฉันมากกว่า เมื่อกี้ฉันประมาทแกไปหน่อย คราวนี้จะเอาจริงเต็มร้อยเลย! “ เตพูดเมื่อเริ่มหายมึนเขาตั้การ์ดด้านขวาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป พร้อมกับแผ่รังสีอำมหิตที่ป๊อดรู้สึกได้
“โฮ่ ขอผมดูหน่อยเหอะฝีมือตอนเอาจริงของคุณน่ะ” ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยไม่ทำอะไรเหมือนกับว่าทั้งคู่จะสู่กันทางสายตา แวบหนึ่งที่ไอ้แกลบซึ่งกำลังจ้องดูการต่อสู้นี้อยู่มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีสายฟ้าวิ่งผ่านระหว่างสายตาของคนทั้งคู่
เตรับศึกหนักซะแล้วที่ผ่านมายังไม่มีใครเป็นคู่มือของเตที่ตอบโต้เขาได้ถึงขนาดนี้ทั้งร่างกายและฝีมือ ป๊อดไอ้หมอนี่มันของจริงแฮะ เตคิดหวาดๆอยุ่ในใจเหงื่อของเริ่มผุดออกมาจากรูขุมขน เตแอบกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอ ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอกที่นานๆจะได้เจอคนเก่งๆ แต่..ท่าจะยากซะแล้วสิ
ช่วยโหวตแอ่นเม้นด้วยนะจ๊ะ
ความคิดเห็น