ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Karate-รักนี้ที่โรงยิม

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ชมรมคาราเต้สายคาบูรางิ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 49


    ตอนที่   3  ชมรมคาราเต้สายคาบูรางิ

     

     

     

     ณ ห้องปกครองโรงเรียนสหเกรียงไกล

     

     

     

     

                "เธอลวนลามผู้หญิงทำไม  อดใจไม่ได้รึไง"  อาจารย์อัจฉราคาดคั้นเต

     

     

     

     

                "ก็บอกแล้วไงไม่ได้แม้แต่คิดอยากจะลวนลามเล้ย" เตเริ่มหมดความอดทนกับอาจาย์ท่านนี้เหลือเกินเพราะตอนที่มาและแม้กระทั่งตอนนี้ก็มีผู้หญิงมาร้องเรียก เตขา พี่เตค่ะ คอยมาเกาะแข้งเกาะขาเตพยายามไล่เธอไปหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล

     

     

     

     

                "ถ้าอาจารย์ไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะต่อสายไห้แม่อธิบายเลยก็ได้โอเคมะ?" ไม่ทันที่อาจารย์จะตอบตกลงเตก็กดโทรศัพท์หาแม่ทันที ถึงแม้จะต้องเสียศักศรีที่ไห้แม่จัดการไห้แต่ก็ดีตรงที่จะหมดเวรหมดกรรมและรีบไปจากที่นี่เสียที

     

     

     

                ("ฮัลโหล..เตลูกรักมีอะไรเหรอจ๊ะ?")

     

     

     

     

                "เดี๋ยวแม่คุยกับอาจารย์เองนะครับ....นี่ครับอาจารย์"  อาจาย์อัจฉรารับโทรศัพท์จากเตและรีบพูดทันที(อาจารย์อัจฉรายังไม่รู้ว่าแม่ของเตคือใคร)

     

     

     

     

                "คุณคือผู้ปกครองของนายเตชาเหรอค่ะ คุณรู้ไม่ค่ะ? ว่าลูกของคุณน่ะแสบแค่ไหนบุกเข้าห้องน้ำหญิงแถมยังลวนลามผู้หญิง ซ้ำยังเถียงปากแข็งว่าไม่ได้ทำแต่ผู้หญิงมาทำเขาเอง คุณต้องสั่งสอนลูกชายคุณบ้างนะค่ะ..."

     

     

     

     

               ("เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะค่ะ คุณบอกว่าลูกชายดิฉันบุกเข้าห้องน้ำหญิงแถมลวนลามด้วยเหรอค่ะ?")

     

     

     

     

               "ก็ใช่น่ะสิค่ะ  แล้วคุณน่ะควร..! "

     

     

     

     

               ("กรี๊ด! วิเศษไปเลยค่ะ  ทีหลังไม่ต้องห้ามเขานะค่ะ  ดิฉันดีใจมากเลยค่ะที่ลูกชายหันมาสนใจเพศหญิงบ้างแล้ว คนเป็นแม่โล่งอกจริงๆ! ")

     

     

     

     

               "เอ่อ..-..- คุณผู้ปกครองค่ะไอเรื่องนี้น่ะฟ้องทางกฏหมายได้นะค่ะคุณและโรงเรียนเราจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย..."

     

     

     

     

                ("เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะดิฉันจะจัดการเอง ดิฉันดารุรีขอสาบานด้วยเกียตรของตระกูล สิงหโชคมหาชนก จะไม่มีข่าวรั่วใหลและโรงเรียนนี้จะพัฒนาเทียบเทียบโรงเรียนนานาชาติถ้าหากทำไห้ลูกชายดิฉันเลิกเกลียดผู้หญิงได้")

     

     

     

                 "หา! สะ..สะ...สิงหโชคมหาชนก..เศรษ..เศรษฐีพันล้าน! เหรอค่ะ?"

     

     

     

     

                 ("ใช่ค่ะคุณครู")  เท่านั้นแหละอาจารย์อัจฉราก็อ้าปากหวอหุบไม่ทันหน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด จะไม่ไห้ซีดได้อย่างไรในเมื่อเขาทั้งด่าและตำหนิลูกชายเศรษฐีอันดับสามของโลกและเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย!!

     

     

     

     

                 "อ่ะแหะเหรอค่ะ  คุณดารุรี แหะๆความจริงแล้วลูกชายคุณก็ไม่ได้ผิดอะไรนักหนาหรอกค่ะดิฉันคงคิดมากไปเองอีกอย่างแม่ผู้หญิงพวกนั้นก็เต็มใจเองซะด้วยอะแหะ"

     

     

     

                 ("ค่ะ..เอ่อแล้วก็ถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้อีกไม่ต้องไปห้ามนะค่ะปล่อยเขาตามสบายเลยค่ะดีไม่ดีเงินเดือนอาจารย์อาจจะมากเป็นพิเศษก็ได้นะค่ะ")

     

     

     

                 "อะโฮะๆๆๆด้วยความยินดีค่ะคุณดารุรี ไม่มีปัญหา โฮะๆๆๆ"  อาจารย์อัจฉราหัวเราะออกมาด้วยสีหน้ารื่นเริงสุดๆเธอยิ้มจนแก้มเหี่ยวของเธอปริออกมาทางรอยย่นจากนั้นเธอก็วางโทรศัพท์โดยสีหน้ายังคงแสดงออกถึงการมีความสุขเธอหันมายิ้มไห้เตและเอ่ยเสียงหวานน่าขนลุกขนพองว่า

     

     

     

     

                  "ไปเรียนได้แล้วจ๊ะเตชา"  เตพยักหน้างงๆคุณแม่มีแผนอะไรรึเปล่านะ ขนาดเราบอกจนปากเปียกยังไม่เชื่อว่าเราบริสุทธิ์เลย

     

     

     

     

                  "เอ่อ แต่อาจารย์ครับเหตุผลที่ผมบุกไปที่ห้องน้ำหญิงน่ะจริงๆแล้ว พิรภาฉกกระเป๋าสตางค์ผมครับ"

     

     

     

     

                  "ยัยพิรภาเหรอ? แน่ใจนะว่านั่นไม่ใช่ข้ออ้าง  อาจารย์น่ะคุยกับแม่เธอมาแล้วมีอะไรก็ไม่ต้องปิดบังหรอกบอกมาตรงๆได้"

     

     

     

     

                 "จริงๆครับอาจาย์ยัยนั่นขโมยกระเป๋าตังผม!! "

     

     

     

     

    ห้านาทีต่อมา ณ ห้องปกครอง

     

     

     

     

                  "โอ๊ย!อาจารย์ค่ะหนูเป็นผู้หญิงนะจะไปมีปัญญาขโมยของอะไรใครได้"พิรภาตะโกนอธิบายขณะถูกอาจารย์อัจฉราลากเข้าห้องปกครอง

     

     

     

     

                 "มาแล้วเหรอยัยตัวดี! เอากระเป๋าตังฉันคืนมานะ"

     

     

     

                 "กระเป๋าตังอะไร?  นายพูดไห้มันดีๆหน่อย"พิรภาพูดสีหน้าไร้ความรู้สึกแต่นัย์ตาเธอล่อกแล่กไปมา

     

     

     

     

                "ก็เธอน่ะแหละฉกกระเป๋าตังฉันลองไห้ค้นตัวมั้ยล่ะ"  เตพูดพร้อมทั้งกับเดินเข้าไปหาซึ่งพิรภาก็ดิ้นสุดชีวิตถอยไปที่หน้าต่างไม่ยอมไห้เตเข้าใกล้

     

     

     

                "นายอย่ามาทำลามกใส่ฉันนะกระเป๋าตังอะไรฉันไม่มีหรอก"

     

     

     

     

               "งั้นเธอก็ไห้ครูค้นตัวหน่อย" อาจารย์อัจฉราพูดขึ้นซึ่งเตก็ยืนพยักหน้าหงึกๆไปด้วย

     

     

     

     

              "ก็ได้ค่ะ"  พิรภายืนคิดสักพักเธอก็ตอบตกลงพร้อมสีหน้าเจ้าเล่ห์เธอเดินมาและแกล้งสะดุดล้มชนเตจนลอยติดข้างฝา

     

     

     

              ตูมมมมมมม!

     

     

            

               "โอ๊ย! เดินดีๆหน่อยสิ"

     

     

     

               "ขอโทษ^^ " พิรภาพูดพร้อมกับรอยยิ้มทำไห้เตงุนงงมากจากนั้นอาจารย์อัจฉราก็ทำการค้นตัวทุกซอกทุกมุมโดยไห้เตออกไปก่อน

     

     

     

               "นายเตชาเข้ามาได้"

     

     

     

              "เห็นมั้นครับกระเป๋าตังผมน่ะ..."

     

     

     

     

               "ไม่เห็น! " อาจารย์อัจฉราตอบและขยับแว่นไห้เข้าที่

     

     

     

     

               "ก็บอกแล้วไงว่าไม่มี  นายน่ะใส่ร้ายฉัน"

     

     

     

               "เธอน่ะแหละเป็นคนเอาไปฉันเห็นอยู่!"

     

     

     

               "นายอาจจะลืมไปก็ได้นะว่ามันอยู่ในกระเป๋าลองค้นดีรึยัง?"

     

     

     

     

               "ฉันค้นจนกางเกงจะทะลุอยู่แล้วเนี่ยเห็...!! เฮ่ย! "เตพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋าไห้ดูแต่ทันใดนั้นก็พบว่ากระเป๋าตังหนังเพ้นภาพลินกิ้นปาร์กอันเดิมของเขาและเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์..ใช่แล้วก่อนจะค้นตัวยัยนี่แกล้งหกล้มแล้วก็ชนเรา! มือไวจริงๆยัยบ้านี่..!!

     

     

     

     

              "อ้าวนายเตชา แสดงว่าเธอหาเรื่องเขาล่ะสิ  ไปๆๆไปเรียนกันได้แล้ว วุ่นวายจริงๆเลย" พิรภาออกอาการยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยโดยไม่ไห้อาจารย์เห็น

     

     

     

     

                "ไม่ใช่นะครับอาจาย์ก่อนที่เธอจะไห้อาจาย์ค้ยตัวเธอเอากระเป๋านี่มาใส่..."

     

     

     

     

                "ไปได้แล้ว!! "

     

     

     

     

                 เตต้องจำใจเดินออกมา  ทั้งหงุดหงิดและเครียด(ดีนะที่ไม่จน)เขารู้สึกเจ็บใจเหลือเกินยัยนี่ทำไมถึงได้แสบแบบนี้นะ  คอยดูเถอะจะเอาคืนไห้ได้เลยยัยบ้า! หลังจากออกมาจากห้องปกครองพิรภาไม่รอช้ารีบวิ่งแจ้นออกไปทำไห้เตด่าว่าอะไรเธอไม่ได้

     

     

     

     

                หึ! กลัวความผิดล่ะสิ  เตแสยะยิ้มก่อนจะเปิดกระเป๋าตังค์เพื่อเช็คสภาพ

     

     

     

     

                 เฮ่ย!! มันไม่มีเงินสักบาทเลยนี่หว่า  ไอ้ขี้ขโมย ยัย บ้ากลับมานะจะหนีไปไหน! “ เตรีบวิ่งสุดฤทธิ์เพื่อไล่จับเธอแต่ก็ตามไม่ทันเพราะทันที่ก้าวออกมาจากอาคารผู้หญิงก็คอยมารุมล้อมเขาจนเตต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีการไล่จับของพวกเธอแทนและเมือรอดมาได้เขาก็พบว่าเธอโดดเรียนและทีโต๊ะของเตมีกระดาษโน้ตแปะอยู่เขียนไว้ว่า

     

     

     

                 เงินเยอะดีหนิ  ขอหน่อยแล้วกันไอ้กร๊วก ข้อความนี้มันทำไห้เตแทบอยากจะทุบโต๊ะตัวนี้ทิ้งแต่ก็ไม่ทำเขาเพียงแค่กำหมัดแน่นตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเหตุการณ์แบบนี้และเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ทำกับเขาแบบนี้ต่อจากแม่ที่เป็นผู้หญิงคนแรกที่กวนตินเตเพราะผู้หญิงโดยมากมันจะเกาะแกะเขามากกว่า

     

     

     

     

    หลังเลิกเรียนหน้าอาคารตึกสี่

     

     

     

                 "ข้าล่ะอยากจะบ้าตายวันนี้มันวันซวยจริงๆโดยเฉพาะยัยพิรภานั่นแกล้งข้ายังไม่พอแมร่งฉกเงินข้าไปอีกอย่าไห้จับได้นะจะแก้แค้นไห้สาสมเลยคอยดู" เตสาธยายเรื่องราวซวยๆของเขาไห้เพื่อนทั้งสองฟัง

     

     

     

     

                  "เออน่ะอย่าคิดมากเลยเดี๋ยวก็ดีเอง" โอ๊ตปลอบใจเพื่อนของเขา

     

     

     

                  "เออแล้วพวกเองมีชมรมเข้ากันรึยังล่ะ" กิตรถามขึ้นมาทั้งๆที่สายตาของเขายังจับจ้องที่หนังสือวิทย์คิดจนหัวแตก

     

     

     

                 "ข้าสมัครชมรมคาราเต้เฟ้ย แล้วเองล่ะไอโอ๊ตจะไปกับข้ารึเปล่า?" เตพูดขึ้น

     

     

                 "เออไปก็ได้"

     

     

     

                 "ข้าน่ะอยู่ชมรมคาราเต้อยู่แล้วไม่ต้องหันมามองหรอก เออเดี๋ยวข้าไปก่อนนะพอดีว่าต้องไปทำงานทดลองเสต็มเซลล์น่ะ เวลาไปคัดตัวพวกเองก็ระวังไห้ดีล่ะอย่าเพิ่งช็อกตายนะถ้าเห็นกัปตันแล้ว"กิตรพูดแฝงนัยพร้อมกับยิ้มน่ากลัวเอาไว้ก่อนจะวิ่งไปทางห้องทดลองทางซ้ายมือซึ่งตรงกันข้ามกับทางไปชมรม

     

     

     

     

                "ป่ะ! ไอโอ๊ตไปเอาใบสมัครที่ห้องทะเบียนก่อนแล้วค่อยไปชมรมกัน"  เตพูดพร้อมกับเดินนำโอ๊ตไปเอาใบสมัครซึ่งต้องเดินเรียบกำแพงโรงเรียนผ่านตึกทั้งสามก่อนจะถึงห้องทะเบียน

     

     

     

               ในระหว่างที่เขาเดินมาผ่านอีกสองตึกเขาก็จะถึงห้องทะเบียนแล้ว  ทางข้างหน้าเตพบว่ามี จิ๊กโก๋  3 คนนั่งจับกลุ่มสูบบุหรี่กันอยู่พอเดินเข้าไปจนใกล้ไอ้พวกนั้นก็หันมามองเตและซุบซิบกันเตกำลังสงสัยว่าไอ้พวกนี้เป็นอิแอบจ้องจะเขมือบผู้ชายรึเปล่านะ?เพราะดูพวกนั้นมองมาที่เตเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ  แล้วจู่ๆก็มีจิ๊กโก๋คนหนึ่งในผมทรงหมาแหงนเดินเข้ามาขวางเตกับโอ๊ตขณะกำลังเดินผ่านไป

     

     

     

     

                "เดี๋ยวซี่ ไอ้หน้าหล่อจะรีบไปไหน มาคุยกันก่อนดีกว่า ได้ข่าวว่าแกดังมากนักนิเรื่องผู้หญิงนะหึ?" จิ๊กโก๋คนั้นพูด

     

     

     

              "ดูแล้วมันหน้าหมั่นไส้เนอะลุกพี่" ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามาคนนี้ตัวอ้วนหน้าตาดูโง่ๆคล้ายควาย

     

     

     

              "ถ้าลองทำหน้านั้นฟกช้ำดำเขียวจะเป็นยังไงบ้างน้า" ลูกน้องอีกคนตัวผอมแห้งพูดด้วยเสียงแหบพร่าออกมา

     

     

     

             "พวกเองรีบหลบไป ข้าไม่มีเวลามาทิ้งกับพวกขยะอย่างเอง" เตพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด

     

     

     

             "เฮ้ย! พูดงี้อยากโดนตื๊บรึไงวะ" ลูกน้องคนอ้วนพูดขึ้นและทำท่าจะเข้ามาต่อยเตแต่ลูกพี่ของมันห้ามไว้ก่อน

     

     

     

             "ใจเย็นไอ้แกลบ เดี๋ยวลูกพี่แดนสุดหล่อจัดการเอง"แดนพูดจบก็เดินมาประจัญหน้ากัยเตทั้งๆที่มันสูงแค่คอของเต

     

     

     

             "บอกตามตรงนะข้าหมั่นไส้เองว่ะ มาต่อยกันกับข้ามั้ย?ไอ้อ่อน?"

     

     

     

              "เมื่อไหร่ละ" เตตอบอย่างท้าทายดีจริงๆที่มีตัวมาช่วยปลดปล่อยอารมรณ์ของเตเพราะเขาหงุดหงิดมาทั้งวันทั้งที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เพราะเป็นผู้หญิง

     

     

     

              "ก็ตอนนี้ไง!! "  ทันที่มันพูดจบมือก็ชกเข้าที่หน้าของเตแต่เตก็รับด้วยมือและถีบแดนจนตัวปลิวไปโดนไอ้ผอมแห้ง

     

     

     

              "เฮ่ยเอง! กล้าทำลูกพี่แดนเรอะ" ไอ้หมูตอนที่ชื่อแกลบมันวิ่ง(หรือกลิ้ง)มาทำท่าจะชกเตแต่ทว่าโอ๊ตกระโดดตัวลอยถีบมันกระเด็นและจากนั้นแดนกับไอ้ผอมก็วิ่งเข้ามารุมเตซึ่งเตก็กระโดดกลางอากาศและกางขาสองข้างโดนเข้าที่หน้าทั้งสองคนจังๆต่อด้วยไอ้หมูตอนที่กำลังคร่อมตัวโอ๊ตเมื่อโอ๊ตเป็นอิสระเขาก็ร่วมวงอัดพวกจิ๊กโก๋ด้วยท่าคาราเต้ล้วนๆโดยที่พวกมันยังไม่ทันได้ตอบโต้  เตจับแดนทุ่มและใช้ขาเกี่ยวไอ้ผอมเข้ามาก่อนจะชกกระเด็นออกไปโอ๊ตถีบเข้าที่พุงโลของแกลบก่อนจะชกจนฟันมันล่วงหลุดออกมา ตอนนี้ไอ้ผอมสลบไปเรียบร้อย ส่วนไอ้แกลบหมอบราบจุกท้องลุกไม่ได้ เตทำท่าจะเข้ามาชกไอ้แดนมันก็

     

     

     

             "ฉันยอมแล้ว..ฉันยอมแพ้แล้ว"  มันพูดพร้อมกับเอามือป้องตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย เตแสยะยิ้มก่อนจะลากโอ๊ตเดินไปต่อ

     

     

     

     

             "ฝากไว้ก่อนเถอะเอง! " แดนพูดอย่างโกรธแค้นก่อนจะกระชากลูกน้องทั้งสองไห้ลุกขึ้นมา

     

     

     

     

     

     

             เตเดินมาถึงห้องทะเบียนโดยสวัสดิภาพเขาจัดการไห้โอ๊ตเขียนชื่อในใบสมัครและเดินนำทางโอ๊ตไปชมรมคาราเต้ระหว่างที่เดินเขาก็พบว่าโรงเรียนนี้กว้างและมีชมรมมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับกีฬาและศิลปะการต่อสู้มีทั้งยูโด เทควันโด  กังฟู   บาสเก็ตบอล เทนนิส  ฟุตบอล  ว่ายน้ำและอีกมากมาย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เตสนใจมากไปกว่าคาราเต้แล้ว

     

              เพราะอะไรน่ะรึที่ทำไห้เตชอบศิลปะการต่อสู้แขนงนี้มันเป็นเรื่องเมื่อตอนเขาอายุ เพียง 5 ขวบ ตอนนั้นเตเป็นเพียงเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเรียนเก่งและบอบบางวันหนึ่งเขาเกิดถูกพวกเพื่อนในห้องอิจฉาและลวงออกมาเพื่อทำร้าย สาเหตุก็คือพวกผู้หญิงไห้แต่เตเล่นเป็นพ่อในการเล่นพ่อแม่ลูกตามประสาเด็ก เขาถูกพวกเพื่อนๆเขาซ้อมจนบอบช้ำแต่แล้วก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งอายุมากกว่าเขาปีเดียวได้ใช้วิชาคาราเต้ช่วยเขา เด็กคนนั้นถีบพวกที่กำลังแกล้งเตและต่อยสองสามหมัดจนร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องพ่อแม่

     

              ตั้งแต่ตอนนั้นเองทำไห้เขาชอบคาราเต้เขาจะไม่มีวันลืมชายในอุดมคติเลยแม้จะไม่รู้จักชื่อก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักเตเขายื่นมือมาไห้เตและพูดว่า นายกลับบ้านดีๆนะ เต ตอนนั้นเองที่เตเห็นว่ารุ่นพี่คนนั้นดูเท่ห์มาก ด้วยวิชาที่เขาใช้และการพูดจาที่มีเสน่ห์นั่นถึงแม้ตอนนี้ภาพของเด็กคนนั้นจะเลือนรางไปแล้วแต่เตก็ไม่เคยลืมเลย จากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมาทำไห้เตตั้งใจฝึกซ้อมคาราเต้และเขาก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้นั่นก็คือ แชมป์ระดับโลก แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นเขาก็ต้องได้แชมป์ระดับโรงเรียนไห้ได้และเตก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าในการแข่งนี้อาจจะเจอชายคนนั้นอีก!

     

     

     

     

              และแล้วเตกับโอ๊ตก็เดินมาถึงโรงยิม ที่เขียนป้ายไว้เป็นภาษาไทยคู่กับภาษาญี่ปุ่นว่า ชมรมคาราเต้ สายคาบูรางิ   โรงยิมดูใหญ่น่าทึ่งมากเพียงแค่อยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงฝึกซ้อมดังสนั่นข้างโรงยิมมีโรงเก็บของโรงเล็กๆและข้างนั้นก็มีห้องแต่งตัวกับห้องน้ำรวมเตกับโอ๊ตเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลียนเป็นชุดคาราเต้เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่ายังไงก็ต้องเข้าไห้ได้   เตเปลียนเป็นชุดคาราเต้สีขาวและผูกสายคาดหรือโอบิ(Obi)สีน้ำตาลและโอ๊ตสายสีเขียว(สีบ่งบอกฝีมือ เรียงกันตามฝีมือ ขาว ขาวปลายเหลือง เหลือง   เหลืองปลายเขียว  เขียว  เขียวปลายฟ้า  ฟ้า  ฟ้าปลายน้ำตาล  น้ำตาล  น้ำตาลปลายดำและดำต่อจากดำนับเป็นดำดั้งที่ 1 ที่ 2 ที่3 ตามประสบการณ์และความสามารถ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือถูกต้องกว่านี้ก็ช่วยเม้นมาบอกหน่อยนะค่ะ)จากนั้นทั้งสองก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูยิม

     

     

     

     

              แอ๊ด!

     

     

     

              มาสมัครชมรมครับ เตตะโกนเสียงดังจนคนข้างในหยุดการกระทำทุกอย่างและหันมามองเตอย่างสนใจ

     

     

     

     

               เฮ่ย! “  เตและโอ๊ตตะโกนพร้อมกันและชี้ไปที่สมาชิคคนหนึ่งในกลุ่มกำลังซ้อมกับกระสอบทรายอยุ่ มันคือจิ๊กโก๋ที่มาหาเรื่องเตตอนจะไปห้องทะเบียนนั่นเองทีแท้ก็อยู่ชมรมคาราเต้พวกมันเมื่อเห็นเตก็ตกใจแต่สักพักก็เดินออกมาประจันหน้าเตพร้อมกับพรรคพวกอีก 10 กว่าคนและพูดว่า

     

     

     

               จะมาสมัครง้านเหรอ?  แต่ที่นี่มีกฎไว้ว่าคนที่จะมาสมัครต้องล้มคนทั้งชมรมไห้ได้ซะก่อนเพื่อวัดฝีมือ

     

     

     

     

             เดี๋ยวนะลุกพี่ ไอกฎนี้มันมีด้วยเหรอ? ผมไม่เคยได้ยินเล.....แอ๊ฟ!+ ไอแกลบที่เสนอหน้าเข้ามาพูดถูกลูกพี่ของมันกระซวกท้องด้วยศอกและซุบซิบเสียงดังว่า กัปตันไม่อยู่ไม่เป็นไรหรอกน่า แถมรองกัปตันโดนลงโทษกวาดขยะอยู่ด้วย เราถือโอกาสนี้จัดการมันเข้าใจมั้ย?

     

     

     

     

               หมายความว่าจะไห้ฉันอัดพวกแกได้ใช่มะ?เตพูดพร้อมกับหักนิ้วมือดังกร๊อบๆ

     

     

     

     

               เอง! อวดดีนะ วันนี้แหละจะเช็ครวมยอดไปเลย เฮ่ย! พวกเราจัดการมัน!! “   คนสิบคนกับคนสองคนก็ตะลุมบอนกันในขณะที่คนอีกประมาณ 10 กว่าคนนั่งเชียอย่างสะใจ

     

     

     

     

              เฮเอาเลยๆ! “

     

     

     

               พวกจิ๊กโก๋รุมเข้ามาทุกทิศทางเตกับโอ๊ตก็ทั้งต่อยทั้งอัดกลับไป เตจับล็อกคอแดนและทุ่มใส่คนที่กำลังเข้าตามด้วยถีบซ้ำจนไปโดนคนข้างหลังอีกสองสามคน  โอ๊ตหมุนตัวเตะและชกซ้ำสามสี่รอบจนหมอบกับพื้น

     

     

     

     

        ย้ากกกกกกกกกก!  ตายซะเถอะ

     

     

     

     

                คราวนี้มีคนสามคนมารุมเตพร้อมๆกันเตปัดหมัดพวกเขาทั้งสามและหมุนตัวตามการเคลื่อนไหวก่อนจะล็อกขาคนหนึ่งไว้และเหวี่ยงอีกสองคนปลิวออกไปจากนั้นเขาก็ใช้ตัวคนคนนั้นเป็นอาวุธแทนโดยการจับเหวี่ยงไม่ไห้โดนโอ๊ตที่กำลังกระโดดขึ้นลงเพื่อเตะและป้องกันตัว

     

     

     

     

                 โอ้ก!...หยุด...เหวี่ยง...ได้แล้ว*0*....มะ..มึน  ชายคนที่ถูกเหวี่ยงพุดขึ้นขณะที่ถูกเหวี่ยงไปชนหน้าเพื่อนเขาคนหนึ่ง

     

     

     

     

                อ้ากกกก! อย่าเอาหน้าโสโครกนั่นมาโดนนะ!! “

     

     

     

     

                แว้ก! แมร่งเหวี่ยงไอเขียวมาแว้ว หลบเร็ว!! “

     

     

     

     

               เฮ่ย! นี่เพื่อนพวกแกนะรักกันมากไม่ใช่เรอะ เตพูดพร้อมกับเหวี่ยงไปเรื่อยจนมันน้ำลายฟูมปากกระเด็นไปทุกทิศทางแม้แต่คนดูยังกระโดดหลบแทบไม่ทัน

     

     

     

               หลบมาทางนี้ก็...ย้ากกกกกกกกก

     

     

     

    พลั่ก! พัวะๆๆๆ  ตูมมม!!

     

     

     

                โอ๊ตพูดพร้อมกับใช้โอกาสนี้อัดใส่คนที่หลบน้ำลายเพื่อนของพวกมันมา

     

     

     

     

     

                   เวลาผ่านไปพร้อมกับเสียงเฮลั่น จิ๊กโก๋ 10 คนหอบหมดแรงแทบเท้าเตและโอ๊ตสภาพตอนนี้มีน้ำลายกระจายทั่วบริเวณคนที่โดนหน้าของเขียวคนที่เตเหวี่ยงไปมาโดนเข้าที่ปากต่างโก่งคอจะอ้วกออกมาไห้ได้เตและโอ๊ตทั้งสองดูไม่จืดเลยเสื้อผ้าหลุดลุ่ยมีรอยฟกช้ำบนหน้าเล็กน้อย

     

     

     

     

              ว่าไง! พวกเองจะสุ้อีกแมะ เตพูดใส่แดนที่พยายามลุกขึ้นมา

     

     

     

     

               เฮ่ย! พวกเราทั้งหมดมันบอกว่าจะสุ้กับคนทั้งยิมแน่ะ  มันบอกว่าพวกนี้น่ะกระจอก แน่จริงเข้ามาไห้หมดเลยดีกว่า  แล้วมันยังบอกอีกนะว่ากัปตันของเราน่ะกระจอกไห้มาสุ้เลยดีกว่า!! “แดนตะโกนด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายและคนทั้งยิมก็ลูกฮือ

     

     

     

                เฮ่ย! อะไรวะยังไม่ได้พูดอะไรเลย! “ เตและโอ๊ตพูดออกมาพร้อมกันด้วยสีหน้างุนงง

     

     

     

     

              เฮ่ย! พูดงี้ได้ไงวะ   อย่ามาดูถูกกัปตันเรานะถ้าแกอยากจะสุ้กัปตัน พีท เราล่ะก็ต้องฝ่าด่านพวกเราไปก่อนเฟ้ย!!” พวกคนทั้งยิมต่างโวยวายกันขึ้นมาโดยไม่ฟังที่เตและโอ๊ตพูด

     

     

     

     

             อ๋อ! กัปตันพวกแกชื่อพีทเหรอ?  ดีเลยงั้นเข้ามาอยากจะสะสางกับมันนานแล้วไอ้พีทมันมาอยู่ที่นี่นี่เอง

     

     

     

     

               ย้ากกกกกกกกก! เตรียมตัวรับกรรมไว้เลยเอง!! “  พวกคนทั้งยิมกรูกันเข้ามาหา เตและโอ๊ตที่หันหลังชนกันเพื่อรับศึกหนัก

     

     

     

               ไอเพื่อนเวรหาแต่เรื่องไห้ข้านะเอง! - -“ โอ๊ตพูดขึ้นมาขณะถีบไอกร็วกคนหนึ่งกระเด็นออกไป

     

     

     

              ใจเย็นน่าเพื่อน^^ “  เตตอบหลับพร้อมกับใช้มือ ทั้ง สองข้างชกคนสองคนออกไป

     

     

     

               ย้ากกกกกกกแกตาย!! “  คราวนี้พวกมันเล่นรุมมาทั้งหมดเตตัดสินใจกระโดดไต่หัวพวกมันทีละคนพอมาถึงคนสุดท้ายก็ทุ่มแรงทั้งหมดพลักมันจนล้มทับต่อๆกันไปจนโอ๊ตหลบแทบไม่ทัน

     

     

     

       ตุบๆๆๆๆ! “โอ๊ย! แมร่งเหยียบหัวข้า

     

     

     

       พลั่กๆๆๆๆ

     

     

    เฮ่ยอย่าทับมา แว้กกกกกกกก!! “  ตูมมมมมมมมม

     

     

     

     

             เฮ่ยๆๆๆ! ไอเตทำไรบอกกันมั่งเด่ะไอ้หมูมันจะทับข้าอยู่แล้วนะ!! “

     

     

     

             แหะ  มองไม่เห็นโหสิน่า  เตพูดจบก็หันตัวกลับหลังถีบเข้าที่ท้องของไอสองคนที่มารอบทำร้ายข้างหลัง

     

     

     

        พลั่ก!   แอ๊ฟฟ!!

     

     

     

     

            แก!  เจอท่ากระโดดถีบหน่อยเป็นไงย่าห์! “    พอหันหลังกลับมาเตก็พบมีคนกระโดดถีบพุ่งมาทางเขาเตเพียงจับข้อเท้ามันและหมุนตามแรงจนมันเสียหลักพุ่งชนเพื่อนๆอีกสามสี่คน

     

     

     

            แว้ก!!  เหวอ..! แอ้ก! “   พลั่กๆๆๆ

     

     

     

     

             เฮ่ยพวกเรากระโดดตะครุบมันเล...อ๊อฟ!!    ขณะที่แดนกำลังสั่งการไม่ทันจบเตก็จับหักคอมันและถีบข้อพับเตะซ้ำจนกลิ้งติดกำแพงจากนั้นเตก็ชูนิ้วกลางท้าทายพวกที่เหลือ

     

     

     

     

              เข้ามาเล้ย ไอ้ตูดหมึก

     

     

     

     

                เฮ่ยแมร่งท้าหวะ! จัดการมันเลยย้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! “   คนทั้งยิมกระโดดเข้ามาเพื่อจะตะครุบเต เตกระโดดขึ้นกลางอากาศสปริงตัวเหนือหัวพวกคนทั้งยิม

     

     

     

                 มา! ตายซะไห้หมด  พอพูดจบเขาก็หมุนตัวกลางอากาศซึ่งขาที่กางอยู่นั้นก็โดนหัวพวกที่ล้อมอยู่  เตสปินตัวเตะจนพวกคนทั้งยิมหลบไม่ทันและล้มลงพร้อมกันเมื่อเตลงถึงพื้น

     

     

     

     

                 เฮือก....มึ..น...อ้อก!! “ ทุกคนที่โดนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน

     

     

     

                  โห เด็ดหวะไอเต  โอ๊ตส่งเสียงชื่นชมขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังรับมือกับพวกที่เหลือโดยไม่มองพวกเขาเลย โอ๊ตใช้มือหนึ่งกันการโจมตีอีกมือหนึ่งสวนกลับด้วยท่าหมัดกับศอกถ้ามามากๆเข้า เขาก็ใช้ขาเตะกวาดหรือไม่ก็เตะข้อพับและซ้ำที่หน้าอีกทีเป็นอันจอด

     

     

     

     

                  เฮ่ย! ไอ้เตระวัง!! “  โอ๊ตตะโกนขึ้นมากระทันหัน

     

     

     

     

                  หือ? ....อ้ากกกกกกกก!! “ ผัวะ!!   

     

     

                   เตโดนไม้หน้าสามฟาดที่หัวทางด้านหลังคนที่ทำนั้นคือไอ้แกลบที่พึ่งฟื้นขึ้นมานั่นเอง   เตถึงกลับสลบล้มลงไปกองกับพื้นโอ๊ตเห็นดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีและตะโกนเสียงดัง

     

     

     

     

     

                  เวรเอ๊ย!! “   โอ๊ตสบดพร้อมกับง้างหมัดจะต่อยไอ้แกลบ

     

     

     

     

      หมับ!  พลั่ก !!   โอ๊ย!!!

     

     

     

                 โอ๊ตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่กำลังง้างจะชกนั้นก็ถูกไอ้ผอมถึงข้อเท้าจนล้มหน้าฟาดกับพื้น

     

     

     

     

                 เฮ่ย!  ลากมันมาดิ๊  แดนสั่งไอ้แกลบขณะกำลังลุกขึ้นมา

     

     

     

     

                  แกลบจัดการล็อกมือโอ๊ตจากด้านหลังและอุ้มไปหาแดนทันที่มาถึงตัวแดน

     

     

     

                  ผัวะ!  อ้าก! ผัวะ!! อุ๊ฟ  ผัวะ  พลั่ก แพล่ก เพล็ก!! โอ้ก!

     

     

                 แดนจัดการอัดโอ๊ตเข้าไปหลายหมัดด้วยความหมั่นไส้ทั้งหน้าทั้งท้องระบมไปหมด 

     

     

       

                ไงล่ะ! หายซ่ารึยังล่ะเอง   เพื่อนเองโชคดีนะที่แมร่งสลบไปก่อนไม่งั่นโดนหนักกว่านี้แน่  เฮ่ย ถ้าเองไม่อยากเจ็บตัวก้มกราบแทบเท้าข้าสิฮ่าๆๆๆๆแดนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่ลูกน้องทั้งสองของเขายังคงนิ่งเงียบ

     

     

     

     

                ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....เฮ่ย!..”  เมื่อแดนรู้สึกว่าตัวเองหัวเราะอยู่คนเดียวก็รีบพยักหน้าหงึกๆเรียกไอ้สองคนไห้หัวเราะตามแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ

     

     

     

                 มีอะไรเหรอลูกพี่? ไอ้แกลบถาม แดนถอนหายใจและพยักหน้า

     

     

     

                 ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....ยังคงหัวเราะคนเดียว  ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าไอ้สองตัวและพูดกระซิบว่า

     

     

     

     

                หัวเราะสิไอ้แกลบ ไอ้ผอม! “

     

     

     

                 อะอ๋อ..ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ทั้งแกลบและผอมหัวเราะบ้าคลั่งพร้อมกัน

     

     

     

                 หึๆ ว่าไงล่ะจะยอมกราบตรงนี้แมะ  แดนพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เท้าของเขา  พร้อมกับมืออีกข้างที่จับคางโอ๊ตเงยหน้าขึ้นมา

     

     

     

                  ถุย!  แผละ!   แว้กกกกกกกก!!

     

     

     

     

                  โอ๊ตถุยน้ำลายใส่หน้าแดนจนมันออกอาการตุ๊ดกระโดดถอยหลังทำท่าขยะแขยงเมื่อมันเช็ดเสร็จมันก็ถือไม้หน้าสามกลับมาด้วย

     

     

     

                 เวรเอ๊ย!  อย่าอยู่เลยเอง! “

     

     

     

                 ผัวะๆๆ  !!    อั่ก!

     

     

     

                 แดนใช้ไม้หน้าสามระดมตีโอ๊ตแบบไม่ยั้งจนไอ้แกลบกับไอ้ผอมหลบแทบไม่ทัน  สภาพโอ๊ตตอนนี้กำลังนอนตัวงอปัดป้องไม้หน้าสามที่ตีเข้ามา  จนหน้าตาบอบช้ำไปด้วยเลือดและรอยฟกรอยจ้ำเขียวๆ   และแล้วก็มาถึงการตีครั้งสุดท้ายซึ่งแดนก็ง้างสุดมือเตรียมจะฟาดเข้าที่หัวไห้สลบไปเลย

     

     

     

                 ย้ากกกกกกกก!! “ 

     

     

    ฟ้าว!   หมับ!!!

     

     

     

                  เหวอ..! “

     

     

     

                   เตลุกขึ้นมาจับไม้ที่กำลังจรดกระหม่อมของโอ๊ตแววตาตอนนี้ของเตต้องบอกว่าหน้ากลัวสุดๆ  คิ้วขมวดเข้าหากันแววตาดูโหดเหี้ยมใบหน้ามีเลือดไหลจากหัวและปาก

     

     

     

     

                    พวกเองเล่นอย่างนี้เหรอ?...ได้! “  พอเตพูดจบเขาก็จัดการใช้ศอกกระทุ้งหัวแดนถีบข้อพับจนล้มล็อกคอและบิดใช้เข่าแทงข้างหลังจนนอนหมอบราบจากนั้นเตก็จับแขนข้างหนึ่งของแดนและใช้ขาล็อกเตยืดแขนของแดนเพื่อหักกระดูกหัวไหล่

     

     

     

    กร๊อบบบบบ!!1    อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!  อ๊า!!  เจ็บๆๆๆๆๆๆ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!

     

     

     

                    อ๊า!  แขน...แขน...ข้า...อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!! “    แขนของแดนหลุดเรียบร้อยมันบิดแบบน่าสยดสยองบวกกับเสียงร้องอันโหยหวนของแดนจนไอ้แกลบกับไอ้ผอมสยองไปด้วย

     

     

     

     

                   เตเดินเข้าไปหาสองคนที่เหลือแม้จะมีเสียงของแดนดังอยู่เป็นเนืองๆไอ้แกลบกับไอ้ผอมก็ตั้งการ์ดทั้งๆที่ขาของพวกมันค่อยๆก้าวถอยหลังอย่าไม่รู้ตัว

     

     

     

                   ฟ้าววววววววววว!

     

     

     

                  เตวิ่งด้วยความเร็วจนทั้งสองไม่ทันตั้งตัวเตวิ่งไปโผล่ตรงหน้าไอ้แกลบและชกหน้า ไปสิบกว่าทีซึ่งเร็วมากจนไอ้แกลบคิดว่าต่อยไปแค่ทีเดียวจากนั้นไอ้ผอมก็ล้มนอนหมดท่า เตเอียงคอไปมาดังกร๊อบๆและขยับสายไห้เข้าที่ ไอ้แกลบเห็นท่าไม่ดีจึงบุกเข้าไปก่อน

     

     

     

     

                  ย้ากกกกกกกกกก

     

     

     

                 หมับ!

     

     

                เตจับมือไอ้แกลบและดึงเข้ามาใช้เข่าแทงที่ท้องและศอกลงเข้าที่หัว  เตมุดลงไปจับขาไอ้แกลบและใช้ลำตัวยันมันนอนและจัดการหักกระดูกหัวเข่า  ซึ่งยังไม่ทันที่จะหักไอ้แกลบก็ร้องโหยหวนแข่งกับแดนลูกพี่ของมันซึ่งตอนนี้กำลังร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตา

     

     

     

     

                  อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก!!! “

     

     

     

                   เฮ่ย! อะไรกันน่ะหยุดนะ!! “  ชายหนุ่มรูปร่างสูงไหญ่ประมาณ 180-190 ร่างกายกำยำตัวดำคล้ำปากหนาแถมบนใบหน้ายังมีรอยบากที่ดูแล้วน่ากลัวเขาตะโกนออกมาได้ทันเวลาพอดี

     

     

     

     

                   นี่มันเกิดอะไรขึ้น   คุณเป็นใคร...นี่เป็นฝีมือคุณเองเหรอ? ชายคนนั้นพูดอย่างสุภาพผิดกับหน้าตาที่ดูโหดๆ

     

     

     

                   แล้วนายล่ะเป็นใคร? เตพูดพร้อมกับปล่อยไอ้แกลบที่เมื่อได้รับอิสรภาพก็รีบไปหาไอ้ผอมทันที

     

     

     

     

                   ผมเป็นรองกัปตันของที่นี่   แล้วนี่คุณทำสามาชิกของผมเหรอ? ชายคนนั้นตอบพร้อมมองพวกคนในยิมด้วยแววตาสงสาร

     

     

     

     

                   รองกัปตันเองรึ    กัปตันพวกแกอยู่ไหนเรียกไห้มันมาสู้กับข้า ข้าเป็นสมาชิกใหม่ของที่นี่ไอ้เจ้าพวกนี้มันบอกว่าถ้าล้มมันได้แล้วค่อยไปสู้กับกัปตันของมัน

     

     

     

     

                   จะสู้กับกัปตันพีท?   คงต้องผ่านด่านผมแล้วล่ะ  ดูท่าคุณจะเก่งไม่ใช่ย่อยล้มคนทั้งยิมได้...แต่เพราะแบบนี้ผมคงนิ่งนอนใจไม่ได้หรอกเพื่อศักศรีของยิม   ผมขอท้าคุณสู้กันตัวต่อตัวอย่างเป็นทางการใช้กติกาของคาราเต้สายคาบูรางิ! “   ชายคนนั้นตอบด้วยสีหน้าที่ดุดันขึ้นเขาจะเอาจริงแล้ว

     

     

     

     

                 โฮ่เอางั้นรึ?  แล้วจะดวนกันตรงไหนดีล่ะ  เตพูดยิ้มที่มุมปากอย่างท้าทาย

     

     

     

                 ตรงนี้เลยครับ  ขอทราบชื่อคุณหน่อยได้มั้ย?  ผมชื่อป๊อด

     

     

     

                 เออข้าชื่อเตจำไว้ไห้ดีแล้วกัน  คนที่จะมาเป็นกัปตันไหม่ของพวกแกน่ะ

     

     

     

     

                ผ่านผมไปไห้ได้ก่อนเถอะครับ  อ้อ! เดี๋ยวนะครับ  ป๊อดเข้าไปหาแดนที่สลบด้วยความเจ็บพร้อมกับน้ำลายที่ฟูมปากแดนจัดการต่อข้อกระดูกไห้เข้าที่และใช้สายสีเหลืองของแดนมาพันแขนไห้ก่อนจะเดินมาประจันหน้ากับเตและตั้งการ์ดขวา

     

     

     

     

                  ซึ่งเตก็พยักหน้าและทำหน้าทำปากประมาณว่าแหมพลเมืองดีต่อกระดูกเป็นซะด้วย

     

     

     

     

               เราต่างเป็นกรรมการซึ่งกันเละกันนะ   งั้นเริ่มเลยดีกว่า เริ่มได้!!“  เตพูดพร้อมจู่โจมทันทีด้วยการชกบนป๊อดที่ไม่ทันตั้งตัวก็เซถอยหลังไปสามก้าว

     

     

     

     

                 หึ เป็นไงล่ะ เตพูดด้วยความลำพองจ้องไปที่ป๊อดซึ่งกำลังเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปาก

     

     

     

     

                 แค่นี้เหรอครับ?

     

     

     

                 อะไรของเองเตพูดมีอาการตกใจเล็กน้อยเพราะป๊อดดูจะไม่เป็นอะไรเลย

     

     

     

     

                หมัดคุณน่ะแรงแค่นี้เหรอครับ ป๊อดพูดกลับมาตั้งการ์ดเหมือนเดิม

     

     

     

     

                เตมีอาการอ้าปากค้าง หมัดนั่นน่ะเขาชกสุดกำลังเลยนะทำไมไอ้หมอนี่ถึงไม่รู้สึกอะไรเลยมันอึดขนาดนั้นเชียวเหรอ?  ไม่น่ะ เป็นไปได้ ของอย่างนี้ต้องลองดู

     

     

     

     

               ย้า! “  เตตัดสินใจเตะช่วงท้องเขาสะโพกและกางขาเตะเข้าสีข้างอย่างแรง

     

     

     

                ฟ้าววววววว!  หมับ!

     

     

     

                 ป๊อดหมุนตัวถอยหลังจับข้อเท้าของเตและดึงเข้าหาตัวพร้อมกับ

     

     

     

                 ผัวะ! พลั่ก!

     

     

     

                ป๊อดดึงเข้ามาและและชกที่ใบหน้าของเตพร้อมกับฟันศอกด้วยมืออีกข้างก่อนจะถีบออกไป  ซึ่งเตก็ถอยหลังไปเรื่อยๆทั้งที่ยังมึนๆเพื่อไห้ตัวเองทรงตัวได้เขาจะยอมล้มไม่ได้เพราะทันทีที่ล้มจะถูกนับเป็นวาสะอาริซึ่งท่ามันทำวาสะอาริได้อีกครั้งเดียวหรือเวลาหมดพอดีมันก็จะชนะไปเลย

     

     

     

     

                ตอนนี้เหลือเวลาอีก  2 นาที  32 วิเสียเวลากว่าที่คิดนะครับ  ป๊อดพูดพร้อมกับยิ้มเยาะอย่างมั่นใจ

     

     

     

                  เหอะ! นั่นเป็นคำพูดที่เหมาะกับฉันมากกว่า  เมื่อกี้ฉันประมาทแกไปหน่อย คราวนี้จะเอาจริงเต็มร้อยเลย! “  เตพูดเมื่อเริ่มหายมึนเขาตั้การ์ดด้านขวาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป พร้อมกับแผ่รังสีอำมหิตที่ป๊อดรู้สึกได้

     

     

     

     

                  โฮ่ ขอผมดูหน่อยเหอะฝีมือตอนเอาจริงของคุณน่ะ  ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยไม่ทำอะไรเหมือนกับว่าทั้งคู่จะสู่กันทางสายตา   แวบหนึ่งที่ไอ้แกลบซึ่งกำลังจ้องดูการต่อสู้นี้อยู่มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีสายฟ้าวิ่งผ่านระหว่างสายตาของคนทั้งคู่

     

     

     

                 

                    เตรับศึกหนักซะแล้วที่ผ่านมายังไม่มีใครเป็นคู่มือของเตที่ตอบโต้เขาได้ถึงขนาดนี้ทั้งร่างกายและฝีมือ ป๊อดไอ้หมอนี่มันของจริงแฮะ เตคิดหวาดๆอยุ่ในใจเหงื่อของเริ่มผุดออกมาจากรูขุมขน เตแอบกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอ  ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอกที่นานๆจะได้เจอคนเก่งๆ แต่..ท่าจะยากซะแล้วสิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                   

     ////////////////////////////////////////////


    ช่วยโหวตแอ่นเม้นด้วยนะจ๊ะ 

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×