ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Karate-รักนี้ที่โรงยิม

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ผู้หญิงนี่น่าหงุดหงิด

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 49


        

    ตอนที่   2   ผู้หญิงนี่น่าหงุดหงิด

     

     

     

                      เช้าของวันหนึ่งที่แจ่มใสในห้องนอนสุดหรูประดับประด้วยคลิสตัลและโคมไฟระย้าเตียงนอนกว้างขวางเป็นทีนอนแบบสี่เสามีหน้าต่างถ่ายเทอากาศรับบรรยากาศที่สดชื่นจากภายนอกเข้ามาเหมือนกับจิตใจของเตที่ตอนแรกนึกว่าจะไปตายอย่างนรกซะแล้ว(อันทีจริงก็เป็นไปแล้วล่ะ)แต่ยังดีที่มีชมรมคาราเต้ปรากฏไห้เห็น ใช่แล้ว!! เขาจะได้ลงแข่งแล้วและวันนี้ถ้าเขาผ่านการคัดตัวก็จะได้อยูในชมรม   สมัครลงแข่งทีมไห้ได้  ที่สำคัญนี่เป็นโรงเรียนสหเกรียงไกลเสียด้วย! โรงเรียนที่ชมรมคาราเต้ดีที่สุดในเขตนี้(ถึงแม้เขตนี้จะมีแค่ 3 โรงเรียนก็ตามเถอะ)

     

     

     

                       "ยาฮู้ดีใจจังเลยว้อย! "  เตร้องบอกออกมาขณะยืดเส้นยืดสายและตามด้วยฝึกชกเตะกับลมที่ทำเป็นประจำทุกวัน 

     

     

     

                       "ย้าฮ้า! จะได้ลงแข่งแล้......! "   อารมณ์ของเตหยุดชะงักกระทันหันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรูปผู้หญิงในหนังสือเรียนเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะทำไห้นึกขึ้นมาได้ว่านี่คือโรงเรียนสห! มีผู้หญิงที่น่าเบื่อน่ารำคาญปนยั๊วะเยี้ยอยู่ในนั้นด้วยและเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานเตก็กลืนน้ำลายดังเอื๊อกขนพาลลุกสู้ตามๆกัน  จะทำยังไงดี?   ต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงยัยพวกนี้จะขับรถไปก็อันตรายพวกเธอคงขวางกันแน่ๆ   เดินไปแบบเมื่อวานได้เดี้ยงเหมือนเมื่อวาน   จริงสิ! ต้องหาคนมาคุ้มกัน   แล้วใครดีล่ะ? ถ้าไปบอกแม่ว่าจะเอาบอดี้การ์ดไปกันผู้หญิง...แม่ยิ่งอยากไห้เราใกล้ชิดผู้หญิงไม่ไห้แน่นอน

     

     

     

                       "ก็มันหวง.....ที่หวงเพราะรักเธอนะคนดี.....อยากไห้เธ....แกร๊ก! " เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเหมือนเสียงสวรรค์ประทานเมื่อหน้าจอโชวเบอร์ว่า ศิรศักดิ์(โอ๊ต) เพื่อนสนิทของเขานั่นเอง

     

     

     

     

     

                       "เฮ่ย! โอ๊ตเหรอ..."

     

     

     

                      ("เออข้าเอง คือ..ข้ามีเรื่องจะบอกหวะ")

     

     

     

     

     

                      "อะไรเหรอ?"

     

     

     

     

     

                      ("คือ...ข้าย้ายโรงเรียนแล้วนะ มันเป็นเหตุกระทันหันอ่ะ เลยได้ย้ายมาอยู่ โรงเรียนสหเกรียงไกล")

     

     

     

     

     

                      "สหเกรียงไกล....สห! เฮ่ยจริงดิ!! "

     

     

     

     

                      ("ก็เออดิวะ  มีไรเหรอ")

     

     

     

     

     

                      "สุดยอด! เองอยู่ที่เดียวกับข้าเลย เออไอโอ๊ตช่วยเดินไปโรงเรียนกับข้าได้มะ" เตคิดว่าโอ้สวรรค์โปรดเขาแล้วไห้โอ๊ตเดินมาเป็นเพื่อนคอยกันพวกผู้หญิงไห้

     

     

     

     

                      ("อยู่ที่เดียวกันเหรอเนี่ย  ทำไมวะ?")

     

     

     

     

     

                      "เออมาเหอะน่าเด๋วข้าค่อยเล่าไห้ฟังว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่เดียวกับเองโอเคนะ....เออหวัดดีแค่นี้แหละ"

     

     

     

     

                      เตยิ้มกับตัวเองอย่างเจ้าเล่ห์และรีบลงมือแต่งชุดนักเรียนตรงอกด้ายซ้ายปักตัวย่อ ส.ก ด้านขวาปักชื่อ เตชา  สิงหโชคมหาชนก ใส่กางเกงขาสั้นสีดำถุงเท้าสีขาวยาวเกือบถึงเข่าและรองเท้านันยางสีดำ จากนั้นก็เอาหนังสือยัดใส่กระเป๋าหนังแบบถือ และรีบแปรงฟันล้างอย่างลวก หน้าของเตไม่ต้องดูแลอะไรก็ขาวใสไร้ความมันคิ้วคมเข้มแก้วตาแวววาวไม่แปลกเลยที่เตจะถูกผู้หญิงรุมล้อมบ่อยๆ  น่าจะเรียกว่าเขาเพอเฟคเลยก็ว่าได้ทั้งรวยทั้งฉลาดกีฬาเด่นสูง  178  หนัก   69 มาตรฐานชายไทย สี่สิบเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเป็นกล้ามเนื้อแต่ความเพอเฟคนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคมเพราะถึงแม้เตจะโหดร้ายกับพวกผู้หญิงยังไงพวกเธอก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจตราบใดที่เขายังไม่เป็น ตุ๊ด!

     

     

     

     

                     ระหว่างทางที่เดินออกจากคฤหาสน์เตก็ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่จนทั้งสาวใช้และแม่ของเขาเข้าใจว่าเตมีความรักแล้ว! และคงจะหายเกลียดผู้หญิงแล้วด้วย   เตเดินเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินและไม่ลืมที่จะเอาหมวกกับหนังสือพิมพ์มาปิดหน้าเพราะเตไม่ได้เนื้อหอมกับผู้หญิงวัยรุ่นเท่านั้นทั้งวัยทอง วัยใกล้ฝาโลงแย้มต่างก็พากันคลั่งเตเมื่อได้เห็นหน้า  เตเดินออกมาจากรถไฟและรอโอ๊ตเพื่อนผู้ที่จะช่วยชีวิตเขาได้ และด้วยเวลาที่ผ่านไปไม่นาน

     

     

     

     

     

                   "เฮ่ย! เต หวัดดี"

     

     

     

     

                 "อ้าวมาแล้วเหรอไอโอ๊ต  มานี่ดิ๊จะบอกแผนอะไรบางอย่าง"  เตกวักมือเรียกเพื่อนของเขาเพื่อนของเขาคนนี้ไม่ได้จัดว่าหน้าตาดีตัวเตี้ยกว่าเตหน่อยและหนักกว่าเตเยอะแต่ไม่ถึงกับอ้วนหน้าตาตกกระเมื่อมายืนคู่กับเตแล้วเหมือนจะเสริมบารมีไห้เต

     

     

     

     

     

               "เออมีไรว่ามา"

     

     

     

     

               "คือ....เองช่วยมากันพวกผู้หญิงไห้ข้าหน่อยดิ" เตพูดอย่างดูเชิง

     

     

     

     

              โป๊ก! โอ๊ย!  เตร้องลั่นออกมาเมื่อมือของเพื่อนกระทบกะโหลกของเขา

     

     

     

     

               "แหมน่าหมั่นไส้ทำอย่างกับว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์เลยนะเอง   ไอเราก็อยากไห้ผู้หญิงมารุมล้อมจนต้องขอไห้เองคอยกันบ้าง"

     

     

        

               แล้วตกลงเองจากันไห้มั้ยล่ะ

     

     

     

           

               ฮือ..เองอย่าพูดแบบนี้สิข้าฟังแล้วอยากจะร้องไห้ เองกะข้าน่าจะสลับร่างกันนะ

     

     

     

     

     

                 เตและโอ๊ตเดินออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและตามคาดเพียงแค่เตเดินออกมานักล่า(เต)ทั้งหลายต่างก็โผล่กันพรึบพรับด้วยสีหน้าหื่นกามสุดๆ

     

     

     

                 ไอโอ๊ตข้านับหนึ่งถึงสามวิ่งเลยนะเฟ้ย เตกระซิบบอกโอ๊ตขณะที่เหล่าผู้หญิงค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าเข้ามาหาแต่ละคนมีผ้าเช็ดหน้าใส่อย่าสลบไม้เบสบอล ยาเสน่ห์กุญแจรถและกุญแจห้องโรงแรม รอยยิ้มของพวกเธอน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรดีโดยเฉพาะที่พวกเธอแต่งหน้ากัน ปากแดงแจ๊ด คิ้วหนาเตอะ แก้มเป็นจุดสีแดงวงใหญ่ๆไม่รู้ว่าพวกเธอแต่งหน้าเป็นรึเปล่าหรือเพราะแต่งมากไปจากสวยกลายเป็นสยอง

     

     

     

     

                1-2-3! วิ่งงงงงงงงงงงงงงง!! “ทันทีเสียงสัญญาณของเตดังขึ้นทั้งเตและโอ๊ตต่างวิงไม่คิดชีวิตพวกผู้หญิงก็ไล่ตามมาติดๆปากบอกว่า รอด้วยสิค่ะ รักเตนะ   เป็นแฟนกันเถอะ นายน่ารักมากเลย มารู้จักกันเถอะนะ แต่การกระทำของพวกเธอไม่น่าไห้หยุดคุยด้วยเลยเพราะต่างคนต่างถือไม้หน้าสาม ไม้เบสบอลง้างจะฟาดวิ่งไล่ตามมา

     

     

     

     

                เหวอ!  มันไล่ตามมาแล้วเต! “  โอ๊ตพูดขึ้นเมื่อไม้เบสบอลลอยมาแตะหัวเขา

     

     

     

     

                 กระโดดเซ่! “  เตพูดพร้อมกับฉุดดอ๊ตกระโดดมาทิ้งนระยะห่างขณะที่กำลังโดดพวกผู้หญิงก็แทบละลายหายไปตรงนั้นต่างกรี๊ดวี๊ดว๊ายลั่น

     

     

     

     

               และเป็นเหมือนเมื่อวานไม่มีผิดจำนวนคนค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเตได้ยินพวกเธอพูดว่า คนนุ้นน่ะพี่เตใครตามทันจะได้เป็นแฟนนี่เองสาเหตุสาเหตุสำคัญที่พวกผู้หญิงเยอะขึ้นเรื่อยๆ   เตวิ่งจนเหงื่อไหลไคลย้อยไม่แพ้โอ๊ตที่หายใจแทบไม่ทัน

     

     

     

     

               ทั้งสองลัดเลาะเข้ามาในโรงเรียนและวิ่งซิกแซกรอบโรงเรียนอยู่สองรอบเพื่อไห้พวกผู้หญิงตามไม่ทันและในที่สุดพวกเขาก็มาหยุดตรงที่เดิมที่เมื่อวานเตเข้ามาหยุดพัก

     

     

     

     

     

     

                แฮ่กๆๆๆ…….โอยยยยยไม่สนุกเลย! “ โอ๊ตโอดครวญขึ้นมาขณะทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้าและพยายามสุดออกซิเจนเข้าไปมากที่สุด

     

     

     

     

                 ข้าล่ะเบื่อยัยพวกนี้จริงๆผู้หญิงนี่น่าหงุดหงิดที่สุดเลยอะไรก็ไม่รู้วันๆเอาแต่ทำเรื่องไร้สาระไล่จับผู้ชายคุยนินทาคนอื่นเป็นกิจวัตร บ้างก็ตบกันเพื่อแย่งผู้ชาย แต่งหน้าซะเว่อเกินเด็กไม่ได้ออกมาสวยเล้ย แล้วแบบนี้ผู้ชายคนไหนเขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก  เตบ่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดจนโอ๊ตหูชาและประชดกลับมาว่า

     

     

     

     

     

                ลองเองเกิดมาหน้าตาทุเรศบ้างสิแล้วเองจะไม่คิดแบบนั้นเลย

     

     

     

     

     

     

               ไอความหล่อความสวยน่ะมันกินไม่ได้หรอกนะ   วัยรุ่นทุกคนแหละเวลาคบหาใครก็จะดูจากหน้าตาแต่พอแก่ตัวลงไปเริ่มมีการศึกษามีหน้าที่มีงานทำเขาก็จะหาคู่ชีวิตที่มีคุณภาพเป็นแม่และพ่อของลูกได้ไม่มีใครเขาคิดถึงหน้าตาหรอก แล้วเองน่ะยังไม่มีงานทำหาเลี้ยงตัวเองยังไม่ได้ก็ยังไม่ต้องคิดจะมีคู่อะไรกับเข.....! ไอโอ๊ต!! ”   เตเล่นพูดปรัชญาจนไม่ทันสังเกตว่าโอ๊ตหลับไปตั้งแต่ทีเขาพล่ามเรื่องความสวยความหล่อ

     

     

     

     

     

                อือ...พูดจบแล้..เหร...อห้าวววว!”

     

     

     

     

     

               หัดฟังที่คนอื่นเขาพูดบ้างเซะ! “

     

     

     

     

     

                นี่ข้าน่ะเห็นเองพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ 2 ขวบแล้วนะว่าคนอื่นเขายังเด็กเองมันก็เด็กหัดทำตัวไห้เหมือนวัยรุ่นทั่วไปมั่งเดะเป็นผู้ใหญ่แล้วค่อยมาคิด

     

     

     

     

     

     

             อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!

     

     

     

                

     

              เฮ่ยเขาเรียกไห้ไปเข้าแถวรีบไปเถอะ  โอ๊ตพูดเสร็จก็เตรียมถลาออกไปแต่เตคว้าตัวเอาไว้

     

     

     

     

     

               อะไรอีกวะ! “

     

     

     

     

               ไห้ข้าใส่หมวกก่อนดิออกไปแบบเปิดเผยงี้เดี๋ยวข้าก็โดนทึ้งอีกล่ะ

     

     

     

     

     

     

               ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...เป็นประชา..รัฐ ผไทของไทยทุกส่วน..อยู่ดามรงโคงว้ายด้า...

     

     

     

     

              เฮ่ยไอโอ๊ตเองว่าแถวผู้หญิงมันค่อยๆใกล้เข้ามารึเปล่าวะ  เตถามโอ๊ตที่เข้าแถวอยู่ด้านหน้าของเขาเมื่อเริ่มรู้สึกว่าแถวผู้หญิงที่ขนาบข้างห่างแถวผู้ชาย   10  ก้าว  บัดนี้มันเหลือแค่ 3 ก้าวเฉพาะบริเวณรัศมีใกล้ๆกับเต

     

     

     

     

     

               ข้าว่านะ ถ้าเพลงจบเองโกยขึ้นห้องเลย  ห้องเรียนเราห้อง  432 ใช่ป่ะโอ๊ตกระซิบบอกเต

     

     

     

     

     

              อืม  ตึก   4   ชั้น  3   ห้องที่ 2

     

     

     

     

     

              ...สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี...เถลิงประเทศชาติไทย..ทวี...

     

     

     

           

     

                เตรียมนะไอโอ๊ต! “ เตพูดขึ้นมาเมื่อเริ่มรู้สึกถึงรังสีของสาวที่แผ่เข้ามาบ่งบอกไห้รู้ว่าทันทีที่เพลงจบพวกเธอตจะเข้ามาตะครุบแน่

     

     

     

               มีไชย...ไช..โย

     

     

     

     

                ทันทีที่เสียงเพลงจบความวุ่นวายก็เกิดขึ้นโดยเตและโอ๊ตโกยออกจากแถวอย่างสุดชีวิตตามด้วยกระบวนทัพผู้หญิงที่ตะโกนต่อๆกันว่า  นั่นไงพี่เตจับมาไห้ได้!  เขาทั้งสองเฉียดโดนไม้เบสบอลหลายครั้งที่พวกผู้หญิงปามาตามด้วยคำพูดที่ว่า  เดี๋ยวสิค่ะรอด้วย  จาหนีไปไหนล่ะเตสุดหล่อ

     

     

     

                 ทุกอย่างดูโกลาหลไปหมดทั้งครูหมาแมวถูกชนระเนระนาดมีเสียงวี๊ดว๊ายดังมาแต่ไกลเหมือนอยุ่ในป่าอนุรักษ์ชะนีไม่มีผิดเลย พวกเขาต้องคอยหลบวนไปวนมากว่าจะขึ้นบันได้ของตึก 4 ได้

     

     

     

     

                 แต่ในที่สุดก็รอดมาได้เพราะมันถึงเวลาเรียนแล้วสาวๆต่างพากันปาของใส่เตด้วยความเสียดายที่ไล่ตามไม่ทัน   โอ๊ตเพิ่งคิดได้วันนี้เองว่าความหล่อน่ะเป็นภัยหลังจากได้เห็นหัวปูดเขียวคล้ำของเพื่อนแต่ไม่ว่าจะมีแผลเท่าไหร่มันก็ไม่ได้บั่นทอนความหล่อของเตเพื่อนสุดเพอเฟคของเขาคนนี้เลย  พวกเขาทั้งสองเปิดประตูห้องเรียนออกและก็พบว่านักเรียนมากันครบแล้วและมีอาจารย์ท่านหนึ่งกำลังเช็คชื่ออยู่เธอใส่แว่นทรงกลมแหลมมัดผมเป็นมวยใส่กระโปรงยาวกลีบรอบและเสื้อลายลูกไม้แขนตุ๊กตาสีเหลือง

     

     

     

     

     

                อ้าวมาก็ดีแล้ว!  นี่นักเรียนทุกคน นี่คือเด็กใหม่ที่ผ.อ.ฝากเข้ามานะเดี๋ยวจะไห้เขาแนะนำตัว เอ้าเชิญ! อาจารย์ท่านนั้นพูดด้วยเสียงแหลมเล็กบาดแก้วหูและทำไม้ทำมือบอกใบ้ไห้เตออกมาพูดหน้าชั้น  ซึ่งเพียงแค่เก้าออกมาก็มีเสียงกรีดร้องเบาๆในลำคอของสาวๆแต่พวกเธอก็ไม่กล้าทำอะไรได้มากกว่าส่งสายตาหยาดเยิ้มไห้เตเพราะมีสายตาของอาจารย์คอยปรามๆอยู่

     

     

     

     

     

               ผมชื่อ เตชา  สิงหโชคมหาชนกครับย้ายมาจากโรงเรียนชายล้วน เดอะปริ้น

     

     

     

     

                ยินดีที่ได้รู้จักนะนายเตชาครุชื่อ  อัจฉรานะเป็นที่ปรึกษาของ  5/2  เอ้ามีใครมีคำถามอะไรมั้ย!?   ทันที่ที่อาจารย์อัจฉราพุดจบก็มีสาวๆยกมือกันไห้พรึบพรับซึ่งหน้าของเตก็เริ่มจะบูดเบี้ยวเพราะเขาเริ่มเบื่อแล้วอยากเรียนแล้ว

     

     

     

     

     

               หนูมีคำถามค่ะ  ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาเธอแต่งหน้าหนาเตอะมัดแกะสองข้างตัดผมหน้าม้า

     

     

     

     

                ว่ามา  อาจารย์อัจฉราผายมือไห้พูด

     

     

     

     

     

               เตมีแฟนรึยังค่ะ..แล้วบ้านอยู่ที่ไหน?

     

     

     

     

               มันเป็นเรื่องส่วนตัวผมมีสิทธิ์ที่จะไม่บอก

     

     

     

     

     

              แล้วเตชอบอะไร หรือเกลียดอะไรค่ะ เพื่อนของเธอพูดขึ้นมา

     

     

     

     

              ผมชอบความสงบและ   เกลียดผู้หญิง!!   เตตะคอกลั่นห้องจนทุกคนสะดุ้งเฮือกแต่ทันทีทันใดพวกเธอก็หันไปซุบซิบกันเสียงดังว่า  ว้ายเท่ห์จังเลยเนอะเธอ  ดูหน้าตาหงุดหงิดนั่นสิน่ารักที่สุด เตได้แต่ถอนหายใจและเอามือกุมหน้าผาก

     

     

     

    ปัง!!ๆๆๆ  เสียงไม้เรียวกระทบโต๊ะดังขี้นทุกอย่างจึงเงียบลงด้วยฝีมืออาจารย์อัจฉราเพียงเท่านี้เตก็พอเดาออกว่าอาจารย์ท่านนี้ต้องดุแน่ๆขนาดนักเรียนแสบแบบนี้ยังจ๋อย

     

     

     

     

     

                   คือ  ผมชื่อ  สิรศักดิ์   ทวนธานีครับ   โอ๊ตเอ่ยแนะนำตัวบ้าง

     

     

     

     

                   เอ้าใครมีคำถามอะไรมั้ย  อาจารย์อัจฉราพูดจบนักเรียนทุกคนก็ส่ายหน้าเป็นประวิงจนโอ๊ตแทบอยากจะร้องไห้กลางห้องเสียจริงๆ

     

     

     

     

     

                     เอาล่ะเดี๋ยวนาย ศิรศักดิ์เธอไปนั่งข้างนายชิราวุฒนะอาจารย์อัจฉราบอกและชี้ไปทางชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอ่านตำราเรียนอย่างขมักขะเม้นโดยไม่สนใจอะไรรูปร่างดูสำอางใส่แว่นหนาเตอะผิวขาวจั๊วะนัยน์ตาสีดำเป็นประกาย

     

     

     

     

     

     

                      โอ๊ตเดินเข้าไปใกล้ๆเรื่อยและพอเห็นหน้าชัดๆเขาก็ตกใจอุทานออกมาและเมื่อชายหนุ่มคนนั้นเงยหน้าเขาก็อุทานเช่นเดียวกันต่างคนต่างชี้หน้ากันท่ามกลางความสนใจของคนทั้งห้อง   เตเห็นหน้านายคนนั้นชัดๆก็อุทานออกมาเหมือนกัน

     

     

     

     

     

     

                      ไอกิตรเองย้ายมาอยู่นี่เองเหรอ! “  โอ๊ตทักด้วยรอยยิ้ม

     

     

     

     

     

                      โชคดีอะไรอย่างนี้วะเพื่อนเลิฟ กิตรทักตอบและทั้งสองก็ลุกขึ้นมากอดกันคนทั้งห้องต่างตบมือบางคนถึงกับน้ำตาใหลด้วยความซึ้งใจในมิตรภาพ

     

     

     

     

     

     

                      เอ้าหยุดๆๆ! นั่งที่ได้แล้ว  อาจารย์อัจฉราเป็นตัวขั้นจัง

    หวะเสมอและเธอก็พุดต่อด้วยเสียงอันดังเมื่อโอ๊ตนั่งที่แล้ว

     

     

     

     

     

     

                     เตชาเธอไปนั่ง.....อาจารย์อัจฉราสอดส่องสายตาหาที่ว่างและเหมาะสมกับเตถึงพวกสาวๆต่างทำที่ข้างๆตัวเองไห้ว่างและส่งสายตาอ้อนวอนไปไห้อาจารย์อัจฉราแต่แล้วสายตาของเธอก็มาหยุดลงที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ติดริมหน้าต่างหลังห้องเธอกำลังนอนหลับเป็นทองไม่รู้ร้อนผมยาวเคลียบ่าที่มัดรวบและผูกโบว์สีน้ำเงินถูกระเบียบเรียบร้อยอกเสื้อคอปกแขนตุ๊กตาด้านซ้ายสลักชื่อว่า พิรภา     ดวงแก้วกมล เธอสวมกระโปรง 6 จีบสีกรมท่าตัวยาวเลยเข่าและถุงเท้าที่สั้นแค่ตาตุ่ม

     

     

     

     

     

     

                    เธอไปนั่งกะยัยพิรภา เกิดสีหน้าหมดหวังและอารมณ์เสียของผู้หญิงทั้งห้องพวกเธอส่งสายตามุ่งร้ายมาที่พิรภาเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเพราะถูกเรียกชื่อ

     

     

     

     

     

                  เตเดินด้วยอารมณ์หงุดหงิดและพยายามหลบมือไม้ของหญิงสาวที่ยื่นออกมาขณะเขากำลังเดินไป เตเดินไปหาเด็กสาวที่กำลังสลึมสะลือและเมื่อเขานั่งลงเธอก็หันมาจ้องหน้าเต

     

     

     

     

                เฮ่ย! “  เธออุทานออกมาเสียงดังและโดนสายตาของอาจารย์ปรามไว้เธอชี้หน้ามาที่เตซึ่งเตก็คิดอยู่ในใจว่ายัยนี่จะจับเราแน่เลย

     

     

     

     

     

                 พิรภานั่งก้มหน้าและคิดในใจ  ไอหมอนี่ที่เจอกันที่โรงเรียนรามาขึ้นเสื้อนี่หว่า   ยังไม่เข็ดรึไงนะแพ้แล้วยังมีหน้ามาสมัครโรงเรียนสหเกรียงไกลอีก  แต่แล้วเธอก็เกิดความคิดดีๆและหัวเราะอย่างคนโรคจิตเบาๆซึ่งเมื่อเตได้ยินเขาก็เริ่มแขยงว่าเธอคนนี้จะทำอะไรไห้เขาหงุดหงิดอีก

     

     

     

     

                   ในระกว่างการสอนวิชาภาษาอังกฤษกับมิสเตอร์เจฟฟรี่พวกผู้หญิงต่างใช้กลอุบายต่างๆนาๆเพื่อไห้ได้ใกล้ชิดกับเต  บางคนเผลอทำผ้าเช็ดหน้าตก  ดินสอหล่น  ไม้บรรทัดปลิวและก็วานไห้เตเก็บไห้ซึ่งของที่ตกเหล่านี้กองเป็นภูเขาเลากาโต๊ะของพิรภาดูคล้ายกองขยะไปแล้ว  2-3ครั้งแรกเตก็เก็บไห้อยู่หรอกพอมากๆเข้าเขาก็ใช้เท้าเขี่ยออกไปมันมากขึ้นไปอีกเขาก็เริ่มปิดหูไม่สนใจอะไรจ้องไปที่กระดานดำถึงแม้คำสอนเหล่านั้นไม่ได้เข้าหูเลยแม้แต่นิดก็ตาม ที่มารับภาระแทนคือพิรภาที่โดนพวกดินสอปากกาเหล่านั้นตกใส่หัวแต่สีหน้าของเธอยังคงไร้ความรู้สึก

     

     

     

     

                    การสอนผ่านไปครึ่งชั่วโมงดินสอปากกาไม้บรรทัด ผ้าเช็ดและอื่นๆจำนวน 100  กว่าอันมาอยู่ที่โต๊ะของพิรภาสีหน้าไร้ความรู้สึกของเธอเริ่มหงุดหงิดตามเต  คราวนี้หนักกว่าเดิมพวกผู้หญิงคิดกลยุทธใหม่โดยการเข้าไปถามเตบอกว่าไม่เข้าใจตรงนั้นตรงนี้แรกๆก็สามสี่คนหลังๆก็ปาไปครึ่งห้องทั้งๆที่เจฟฟรี่ถามเป็นภาษาอังกฤษซึ่งทุกคนน่าจะรู้เรื่องว่าใครมีอะไรสงสัยมั้ยได้สัก 10 กว่ารอบ   พอเจฟฟรี่จะสอนต่อโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นและเจฟฟรี่ก็เดินออกจากห้องไป

     

     

     

     

     

     

                     นายไม่ชอบผู้หญิงเหรอ เตผู้หวงไข่ พิรภาพูดขึ้นมาสีหน้าไร้ความรู้สึกในขณะที่คนทั้งห้องเริ่มเล่นส่งเสียงดังพวกผู้หญิงก็จับหลุ่มวี๊ดว๊ายเตกัน   แต่เมื่อเตได้ยินคำว่าหวงไข่ก็นึกเอะใจเธอคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับวันนั้นรึเหล่านะหรือว่ามาแอบดูอยู่หรือเธอแค่พูดตลกๆเท่านั้น

     

     

     

     

     

                     ไม่ใช่ไม่ชอบนะ  แต่เกลียดเลย! “  เตพูดกลับสีหน้าเริ่มหงุดหงิดกว่าเดิม

     

     

     

     

     

                    งั้นแม่นายก็ตายแล้วสิ พิรภาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเดิมๆแต่คนฟังถึงกับอารมณ์ขึ้นเตผุดลุกจากเก้าอี้จนคนทั้งห้องหันมามอง

     

     

     

     

     

     

                      ที่ฉันเกลียดผู้หญิงไม่ได้หมายความว่าญาติๆที่เป็นผู้หญิงของฉันจะตายนะ!! “  เตตะคอกใส่พิรภาที่สีหน้ายังเมินเฉยมองตรงไปที่กระดานดำ  แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้เธอก็หันมามองเตพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก

     

     

     

     

     

                      เหรอ! งั้นพ่อนายก็คงตายแล้วสิใช่มั้ย  ปากบอกเกลียดผู้หญิงแต่นิสัยนายน่ะเหมือนผู้หญิงเด๊ะเลย จู้จี้ขี่บ่นหงุดหงิดง่าย หรือว่า...นาย แอบเป็น..!!”พอเตได้ยินเท่านั้นแหละเขาก็ระเบิดออกมาเลยด้วยการทุบโต๊ะแต่พิรภาก็ยังคงสีหน้าเดิมๆไร้ความรู้สึกแต่ในใจของเธอนั้นลิงโลดเพราะได้แกล้งคนสำเร็จแล้วใบหน้านั้นถ้ามองดีๆจะเห็นรอยยิ้มร้ายกาจของเธอ

     

     

     

     

     

                    ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงแต่มาพูดจาอย่างนี้อย่านึกว่าฉันจะไม่กล้านะ

     

     

     

     

     

                   ก็แล้วไม่ทำเลยล่ะคนที่มีจิตใจเป็นผู้หญิงน่ะสามารถมีเรื่องกับฉันได้เลยนะ จะตบกันที่ไหนดีล่ะตัว

     

     

     

     

     

                   นี่เธอ!! “  เตโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่พิรภากล่าวหาเขาเสียๆหายขณะที่คนทั้งห้องฮือฮากันยกใหญ่พวกผู้หญิงบ่นว่าอยากจะช่วยเป็นเนืองๆแต่ก็บอกว่าใครจะกล้ามีเรื่องกับยัยนั่นล่ะ

     

     

     

     

    ปัง!!! ๆ เสียงแปลงลบกระดานกระทบโต๊ะโดยฝีมือของเจฟฟรี่ที่พึ่งเข้ามา

     

     

     

     

     

    “This  time  is  study English!” เขาพูด นักเรียนทุกคนจึงหยุดการกระทำทุกอย่างและนั่งที่อย่างสงบเตได้แต่ข่มอารมณ์ไว้ขณะที่พิรภายังคงไร้ความรู้สึก

     

     

     

     

     

             เตนั่งลงอย่างหงุดหงิดพลางมองค้อนพิรภาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จกานั้นเจฟฟรี่ก็สอนต่ออย่างปกติ พิรภาก็เริ่มปฏิบัติการยั่วเตต่อเธอพึมพำเป็นเพลงเบาๆแต่เตได้ยินว่าเกลียดตุ๊ด! เกลี๊ยดเกลียดๆ เกลียดตุ๊ด! “เท่านั้นไม่พอเธอยังแกล้งหยิบกวีและกระจกขึ้นมาบอกว่า  แต่งซักหน่อยสิผมของหล่อนน่ะเป๋แล้วนะ

     

     

     

     

              นี่เธอ! พอซักทีเถอะรำคาญ  เตทนไม่ไหวก็ระเบิดออกมาได้ยินกันทั้งห้องและเจฟฟรี่ก็หันมาส่งสายตาก่อนจะเรียกเขา

     

     

     

     

     

              “you!   read   this  page now” 

     

     

     

     

     

               เอ่อ..อ่า..ok”  เตตอบทั้งที่อารมณ์ยังค้างส่วนพิรภายังทำหน้านิ่งเฉยแบบเดิม

     

     

     

     

     

     

                “John Carpenter was educated at Western Kentucky university. He began making short films in 1962. He won an academy award for Best Live-Action Short Subject in 1970, for The Resurrection of Broncho Billy (1970). Carpenter formed a band in the mid-1970s called The Coupe de Villes. Since the 1970s, he has had numerous roles in the film industry including writer, actor, composer, producer, and director.”

                   เตพูดอย่างรวดเร็วด้วยสำเนียงที่หากไม่เห็นหน้าคงนึกว่าเป็นชาวอังกฤษอย่างแน่นอนเขาทำไห้คนทั้งห้องไม่เว้นแต่เจฟฟรี่ทำหน้าเอ๋อไปเลยคนที่ไม่สนใจมีอยู่คนเดียวคือ พิรภานั่นเอง

     

     

     

    “Ok   sit down” เจฟฟรี่พูดตะกุกตะกักเล็กน้อยส่วนเตก็บอกThank you เบาๆ

     

     

     

     

         จากนั้นเตก็หย่อนก้นลงบนเก้าอี้อย่างรวดเร็วทันใดนั้น

     

     

     

        อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!! “  เตร้องลั่นอย่างคนบ้าพร้อมทั้งสปริงตัวยืนตรงลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วทั้งที่เพิ่งจะลงนั่งเพียงวินาทีเท่านั้น

     

     

     

     

      ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆ 5555+ พิรภาหัวเราะจนตัวงออยู่กับที่นั่งขณะที่คนอื่นๆในห้องตกใจกันและทุ่มความสนใจมาที่เต เตหันไปที่เก้าอี้ก็พบ เป๊ก ตัวเป้งๆ4-5ตัวหงายด้านอันแหลมคมอยู่ตรงที่ที่เขาเคยหย่อนก้นนั่งและบางตัวมีเศษผ้าของเขาติดอยู่ด้วยความโกรธของเตพลุ่งพล่านขึ้นมาทันใดมือหนึ่งกำหมัดแน่นตัวสั่นระริกอีกมือจับก้นที่ถูกเป๊กทิ่มอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม เขาหันขวับมาที่พิรภา

     

     

     

     

         เธอเป็นคนเอาเป๊กมาวางไว้ใช่มั้ย!!   เตตะคอกใส่พิรภาและหยิบเป๊กตัวหนึ่งยื่นไห้พิรภาดู ตอนนี้คนในห้อง ผู้ชายก็พยายามเก็บอาการขำไว้ ส่วนผู้หญิงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเตบางคนถึงกับร้องไห้กลัวว่าเตจะเจ็บ..ก้น..

     

     

     

        เห? นายพูดเรื่องอะไรของนายน่ะ  เป๊ก! ตายจริงนายเอามาโรงเรียนด้วยเหรอแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเรียนงานบ้านเลยนะจะเอามาปักคลอสติสรึไง?    พิรภาตอบด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่ไร้ความรู้สึกหลังจากชักดิ้นชักงอจนพอใจแล้ว

     

     

     

         ก็เธอไม่ใช่เรอะ! ที่เป็นคนเอามาน่ะ! อย่านึกว่าเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะใม่กล้าทำอะไรเธอนะ

     

     

     

     

          ไหนบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงไง นี่เข้ามาอยู่ไม่ทันครบวันก็คิดสัปดนกับฉันซะแล้ว พิรภาพูดด้วยสีหน้าเดิมๆซึ่งในสายตาคนทั่วไปนึกว่าเธอกำลังกวนTeenแต่จริงๆแล้วเธอเป็นอย่างนี้อยู่แล้วและไม่มีใครเคยเดาความคิดเธอออกเลย แม้แต่เตที่ตอนนี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเขาไม่รู้จะจัดการกับผู้หญิงคนนี้ยังไงดี นี่เป็นวันอะไรของเขาที่มาเจอแต่ผู้หญิงน่าหงุดหงิดทั้งวันโดยเฉพาะเธอคนนี้

     

     

     

         เธอจะเอายังไงกับฉัน! เตถามด้วยความเหลืออด

     

     

     

         บ้าสินายไห้ฉันพูดเรื่องอะไรลามก! “

     

     

     

         จะบ้าเรอะ! ฉันหมายถึงเธอต้องการอะไรกันแน่ถึงมากวนฉันอย่างนี้น่ะ

     

     

     

         “Stop! “  เจฟฟรี่ตะโกนออกมาดังๆเมื่อพบว่าคนทั้งห้องเริ่มเสียงดังกันมากขึ้นบ้างซุบซิบกันว่าสงสารพี่เตจังไปมีเรื่องกับยัยนั่น เราไม่กล้าช่วยซะด้วยสิ  แต่เมื่อได้ยินเสียงเจฟฟรี่ทุกคนก็ยอมกลับสุ่สภาพเดิมเตได้แต่เก็บอารมณ์ไว้ขณะปัดเป๊กทิ้งและพึมพำในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะไห้พิรภาได้ยิน  พิรภาก็พึมพำกลับ ฉันไม่ใช่ธนาคารนะไม่มีดอกเบี้ยไห้นายหรอก แต่หน้าเธอยังคงเดิมและไม่มองหน้าเตด้วยซ้ำ แต่คำพูดนี้ทำไห้เตหันขวับเส้นเลือดในหัวเต้นตุบๆ เขารู้สึกทั้งโกรธและหงุดหงิดเท่าที่เคยเป็นมาเลย

     

     

     

         และตลอดทั้งคาบเช้าไม่ว่าเขาจะทำอะไรเธอก็จะก่อกวนหรือไม่ขัดขวางไม่ว่าจะตอบคำถามอะไรเธอก็จะถกปัญหาขึ้นมาใหม่จนตอบไม่ได้

     

     

     

            ...สมการนี่เท่ากับ Xยกกำลังสองครับ

     

     

            แล้วทำไมมันถึงได้อย่างนั้นล่ะ  พิรภาถามเมื่อเตพูดจบ

     

     

     

           ฉันอธิบายไปแล้ว เตตอบอย่างข่มอารมณ์

     

     

     

           แต่ที่นายบอกมันไม่ใช่นี่   สมการตัวนี้ต้องใช้วีธีนี้แล้วก็เอามาบวกกันถ้าไห้เอาไปลบแล้วคูณอย่างนั้น สมการข้อนี้ก็ทำได้เหมือนกันดูสิ พอทำมาถึงตรงนั้นแล้วเราก็เอามาบวกกันคำตอบก็ออกมาเหมือนกันน่ะสิ พิรภาพูดพร้อมกับชี้ไปที่หนังสือและสมุดที่มีสมการต่างๆมากมายซึ่งเตดูแล้วนี่มันมั่วชัดๆ! แต่ที่เธอพูดแบบมีหลักการทำไห้คนทั้งห้องซุบซิบกันบางคนพูดว่านี่เตโง่กว่ายัยขี้เลื่อยนั่นที่ได้เกรด 1 วิชาคณิตศาสตร์เนี่ยนะ

     

     

     

    ปัง!  เสียงไม่เรียวกระทบโต๊ะทำไห้นักเรียนนั่งที่โต๊ะอย่างเรียบร้อยรวมทั้งเตที่พยายามข่มอารมณ์

     

     

     

    นี่มันชั่วโมงฉันนะ เรียนต่อได้แล้วฉันแค่ต้องการคำตอบเฉพาะข้อนี้เท่านั้นไม่ต้องถกปัญหาอื่นขึ้นมาหรอก เอ้า เปิดไปหน้าที่ 38! “

     

     

     

    ออดดดดดดดด!

     

     

     

        เสียงสวรรค์ดังขึ้นอีกครั้งนักเรียนทุกคนออกปากเฮลั่นพวกสาวๆรีบกรูเข้าล้อมรอบเตและส่งเสียงชวนเตไปกินข้าวเที่ยงในความคิดของเตพวกเธอส่งเสียงระงมดังดั่งเปรตในนรก  เขาตัดสินใจตะโกนดังๆเพื่อไห้ผู้หญิงพวกนั้นตกใจและดึงมือโอ๊ตลากออกมาจากฝูงชะนีและตรงรี่เข้าห้องโรงอาหาร

     

     

     

         แฮ่กๆๆๆ...โอย..เหนื่อยๆ ทั้งโอ๊ตและเตหอบจนตัวงอเมื่อมาถึงโรงอาหาร ที่นี่เป็นโรงอาหารที่ใหญ่ไม่แพ้โรงเรียนเดอะปริ้นของเขาเลย มีร้านขายอาหารเรียงยาวกันเป็นตับและมีอาหารทุกอย่างเท่าที่ในโลกนี้เคยมีมาทุกร้านต่างแหกปากชวนนักเรียนอย่างกับอยู่ในตลาดนัดหรือตลาดสดไม่มีผิด  และตอนนี้เตกับโอ๊ตและกิตรที่วิ่งตามมาเมื่อกี้ก็รู้สึกแล้วว่าตอนนี้ไม่มีที่นั่งเลย  ซ้ำมีพวกผู้หญิงมากหน้าหลายตาเกือบทั้งโรงต่างทำท่าทางเชื้อเชิญเขาทั้งสามไห้ไปนั่งและมีผู้หญิงมาชวนเตมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งเตก็บอกปัดไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะเพียงแค่เห็นสายตาของพวกเธอเตก็สยองกินข้าวไม่ลงแล้ว

     

     

     

               บอกว่าไม่ไปไงเลิกมาเซ้าซี้ได้แล้ว รำคาญ!! “  เตบอกไล่ผู้หญิงคนที่ 25 ได้แล้วที่มาชวนเขาและทำท่าทางยั่วยวนแต่ในสายตาของเตเหมือนชะนีซกมกไม่มีเสื้อใส่เสียมากกว่า

     

     

     

     

               โอย...แล้วเมื่อไรจะหาที่นั่งได้ฟ่ะเนี่ย โอ๊ตยานคางอย่างเบื่อหน่ายเพราะเขาก็เริ่มเมื่อยและเหนื่อยกับการหาที่นั่งปราศจากสิ่งมีชีวิตที่เตเพื่อนเลิฟเกลียด(ผู้หญิง)

     

     

     

     

              ไอเต ทำไมแกไม่ตอบตกลงผู้หญิงซักคนวะเราไม่มีที่จะกินข้าวแล้วนะ ข้าหิวไส้กิ่วหมดแล้ว คาบต่อไปเรียนวิทย์ด้วยต้องใช้สมองแต่สมองไม่มีพลังงานมันก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่นะกิตรบ่นอย่างเด็กเรียนที่หิวข้าว

     

     

     

     

             แกก็ลองมองยัยพวกนั้นดูสิ  มีตัวไหนบ้างทีไม่คิดจะเขมือบฉันดูหน้าพวกนี้สิ  กิตรทำตามที่เตว่าและก็สะดุ้งเล็กน้อยเขาพบว่าพวกนี้กำลังจ้องเตตาเป็นมันน่าจะเรียกว่าทั่วโรงอาหารเลยก็ว่าได้  พวกเธอตอนนี้ดูแล้วเหมือนปิศาจด้วยหน้าตาและท่าทางของเธอทำไห้กิตรสยองไปด้วย แต่ทันใดนั้นเหมือนสวรรค์มาโปรดอีกครั้งกิตรมองเห็นโต๊ะว่างตัวหนึ่งและรอบๆโต๊ะตัวนั้นมีแต่ผู้ชายซะด้วย

     

     

     

     

           ไอเตมีโต๊ะว่างว้อยยยยยยยยยย  กิตรตะโกนบอกไห้เพื่อนรู้เหมือนกับว่าพวกเขาเจอโอเอซิสกลางทะเลทราย  เตและโอ๊ตวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อจองโต๊ะนั้นก่อนจะมีใครแย่งไปหรือพวกผู้หญิ้งมาขอนั่ง

     

     

     

            พวกเขาข้ามโต๊ะแล้วโต๊ะเล่าท่ามกลางความแตกตื่นของคนที่กินข้าวอยู่  ใกล้แล้วอีกนิดเดียวมือของเตจะสัมผัสโต๊ะแล้วขาของเขาลอยล่องมาตามแขนกำลังจะลงสุ่พื้นพร้อมมือที่แตะโต๊ะ อีกนิด...อีกนิด...จะถึง ถึงแล้วแตะโต๊ะแล้ว....

     

     

     

    ตูมมมมมมมมม  พลั่ก   โอ๊ยยยยยยยยยยยย!!

     

     

     

    ทันทีที่มือแตะโต๊ะก็มีกระเป๋าหนังปริศนาพุ่งเข้าที่ท้องเตเต็มๆขณะอยู่กลางอากาศทำไห้เขาเบรกอย่างกะทันหันทำไห้เพื่อนที่ตามาล้มลงพร้อมกับเตที่รับแรงจากกระเป๋าที่พุ่งมาด้วยความเร็ว180 ก.ม.ต่อช.ม.

     

     

     

            กระเป๋าใครวะ! “ เตตะโกนออกมาพร้อมกับลุกจากพื้นมือข้างหนึ่งหยิบกระเป๋ามืออีกข้างกุมหน้าท้องที่แสบๆร้อนๆและจุกมาก

     

     

     

     

          ฉันเห็นโต๊ะตัวนี้ก่อน  เพราะฉะนั้นฉันต้องได้นั่ง! “  เสียงใสๆไร้ความรู้สึกดังขึ้นเบื้องหน้าเตเห็นพิรภายืนเท้าสะเอวอยู่บนโต๊ะอาหารตัวยาวตัวนี้

     

     

     

            ฉันมาก่อนนะ เตเถียงกลับไปเพราะตอนนี้เขาหิวมากแล้ว

     

     

     

            นี่ถามจริงเถอะถ้าฉันไห้โต๊ะตัวนี้ไปนายจะกินข้าวได้เหรอ?  พิรภาถามพร้อมกับลงมาจากโต๊ะยืนประจันหน้ากับเตขณะที่ตอนนี้คนทั้งโรงอาหารจ้องมองมาที่พวกเขาเหล่าผู้หญิงทั้งหลายต่างจ้องพิรภาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเพราะเธอมาหาเรื่องเตและพวกเธอเหล่านั้นต่างตะโกนบอกเตว่า  มานั่งโต๊ะฉันก็ได้นะเตสุดหล่อ

     

     

     

          ทำไมฉันถึงจะกินไม่ได้ล่ะ  ต้องกินได้อยู่แล้วตอนนี้ฉันหิวมากเธอช่วยไปไกลๆก่อนฉันจะลงมือกับเธอ

     

     

     

     

          ก็ได้  ฉันจะไห้โต๊ะตัวนี้ไปแต่นายจะกินข้าวไม่ได้หรอก

     

     

     

     

          ทำไม?  พิรภาเพียงแต่ทำหน้าเจ้าเล่ห์และทันใดนั้นเธอก็วิ่งกระแทกเตอย่างรวดเร็วจนเขาเซเกือบล้มแต่เพื่อนๆเขาพยุงไว้

     

     

     

           ยัยบ้าเอ๊ย!”  เตสะบดเสียงดังไล่หลังพิรภาที่วิ่งตรงไปที่ห้องน้ำหญิง  และเมื่อหันมามองรอบๆตัวเขาก็พบว่าพวกผู้หญิงกำลังกรูเข้ามาช่วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวเตรีบตะโกนสุดเสียงพร้อมกับทุบโต๊ะ

     

     

    ปัง!

     

     

     

    ไปกันได้แล้ว  ไปไห้หมดเลยไป๊! “  ถึงแม้พวกเธอจะยอมกลับไปนั่งที่แต่เสียงก็ดังไม่หยุดพวกเธอต่างทำหน้าสยดสยองเข้าไปไหญ่และวี๊ดว๊ายกันว่า  น่ารักจังเลยเนอะเธอ

     

     

     

         เตถอนหายใจก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อควักเงินจากกระเป๋าสตางค์ไปจับจ่ายหาของลงท้อง แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจ  กระเป๋าตังหายไปไหน?   เมื่อกี้...ยัยนั่นชน..รึว่า!!

     

     

     

             อ้ากกกกก   ยัยบ้านั่น ขโมยกระเป๋าตังฉัน!! “  เตร้องโวยวายก่อนจะวิ่งรี่ตรงเข้าที่ห้องน้ำหญิง เขากระชากประตูเปิดทีแรกพวกผู้หญิงก็ตกใจกันแต่พอรู้ว่าเป็นเตพวกเธอกลับโชว์เนื้อหนังและกรูเข้าหาเต  และแล้วเตก็เห็นพิรภาอยุ่ตรงมุมสุดของห้องน้ำเธอกำลังล้วงเงินในกระเป๋าเขาอยู่

     

     

     

           ยัยบ้า! เอากระเป๋าตังฉันคืนมานะ เตพูดและพยายามเดินไปหาพิรภาขณะที่พวกผู้หญิงเกาะกันพะรุพะรังเหมือนหมัดเกาะหมาเน่า

     

     

     

          พิรภาตกใจเล็กน้อยก่อนจะกระโดดข้ามหัวทั้งเตและพวกผู้หญิงไปทางประตูและตะโกนสุดเสียงโดยที่เตไปห้ามไม่ทันเพราะถูกพวกชะนีคลอเคลียอยุ่

     

     

     

          กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดช่วยด้วยพวกโรคจิตบุกห้องน้ำหญิงค้ากรี๊ดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆ!!! “เท่านั่นแหละทั้งผู้ชายทั้งครูกรูกันเข้ามาและพิรภาก็อาศัยจังหวะนั้นหลบหนีไป

     

     

     

       เฮ่ย! ยัยบ้ากลับมานะ ไอ้ขี้ขโมย! “

     

     

     

       อ๋อเตชาเด็กใหม่นี่เอง  นี่เล่นข่มขื่นผู้หญิงกลางวันแสกๆเลยเรอะอาจารย์ท่านหนึ่งพูด  ถึงแม้พวกผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเกาะเตแต่ทว่าในสายตาของคนอื่นกลับมองว่าเขาพยายามข่มขืนพวกเธอทั้งๆที่มีเป็นโขยงแถมยังกอดหอมเตอย่างเต็มใจ

     

     

     

        ไม่ใช่นะอาจารย์  เข้าใจผิดแล้ว 

     

     

     

       ไปห้องปกครองเดี๋ยวนี้แล้วปล่อยพวกเธอไปซะ! “

     

     

     

     

     ผมไม่ได้รั้งยัยพวกนี้ไว้ซะหน่อย อยากไห้มันออกไปด้วยซ้ำจะหายใจม่ายออกแล้ว

     

     

     

    โหแก้ตัวน้ำขุ่นๆ รีบปล่อยพวกเธอเดี๋ยวนี้

     

     

     

    อะไรกันโว้ยยยยยยยยยยยยยยย!!ทำใมวันนี้มันซวยอย่างนี้วะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

            

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×