คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 สู่โรงเรียนสหเกรียงไกล
ตอนที่ 1 สู่โรงเรียน สหเกรียงไกล
"หา!! อะไรนะ ยุบเหรอ! มันไม่ตลกเลยนะ'จารย์"
เสียงโหวกเหวกดังลั่นโรงยิมแห่งหนึ่งภายใต้นักเรียนที่อยู่ในโรงยิมต่างมีสีหน้าสลดเพราะข่าวที่ถึงกับทำไห้ชายหนุ่มผู้หนึ่งตะโกนเสียงลั่น ชายหนุ่มผมสีดำขลับนัยน์ตาคมคิ้วเข้มดวงตาเป็นสีน้ำตาลแก่เกือบดำ สูงยาวเข่าดีผิวขาวเหลือง ซึ่งใบหน้าคมๆของเขากำลังบิดเบี้ยวด้วยความโกรธระคนตกใจกับข่าวคราวที่อาจารย์ท่านหนึ่งนำมาบอกขณะกำลังฝึกซ้อม
" ฉันไม่ได้ล้อเล่นหรอกนะ เตชา!! "
ชายแก่พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากเต เพราะเขาเป็นโค้ชชมรมคาราเต้ที่โรงเรียนเดอะปริ้น โรงเรียนชายล้วนมาก็นานแถมยังเคยได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งระดับโรงเรียนทั่วประเทศมาแล้วแต่ทำไมจู่ๆผ.อ.ก็วิ่งรี่ด้วยสีหน้าเป็นกังวลเหงื่อออกพลั่กๆรีบมาบอกไห้ยุบชมรมอย่างปุบปับโดยไม่มีการพูดคุยใดๆ บอกไห้ยุบชมรมอย่างน้อย 1 ปีมันไม่ตลกเลยจริงๆนี่เท่ากับว่าปีนี้จะไม่ลงแข่งระดับทั่วประเทศ!
"ผ.อ.บอกว่าได้รับคำสั่งมาไห้ยุบชมรมอย่างน้อยหนึ่งปีน่ะ"
"จะบ้ารึไงปีที่แล้วผมเฝ้าฝึกซ้อมมาตั้งนานกะว่าจะลงแข่งปีนี้นะ!! "
"เตชา เธอน่ะมีพรสวรรค์ แต่ทว่าที่นี่ตอนนี้คงรองรับพรของพระเจ้าที่เธอมีไม่ได้หรอก" อาจารย์พูดจบก็เดินออกไปด้วยท่าทางเข้มขรึม
"อะไรฟ่ะ!!"
ชายหนุ่มอารมณ์บูดตลอดทั้งวันจนกระทั่งมาถึงบ้านที่ดูเหมือนจะเป็นคฤหาสเสียมากว่ามันใหญ่โตอลังการขนาดคนพันกว่าคนไปอยู่มีห้องนอนห้องอาบน้ำส่วนตัวอย่างสบายๆไม่อึดอัดเพราะเขาคือลูกของ ดารุรี สิงหโชคมหาชนก ผู้ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในประเทศไทย หลังจากที่สามีเธอตายเธอก็สานกิจการต่อจนกลายเป็นมหาเศรษฐีในที่สุดแต่ก็มีเรื่องกลุ้มใจอย่างเดียวนั่นก็คือ ลูกชายของเธอ เตชา สิงหโชคมหาชนก เป็นคนที่ขี้หงุดหงิดและเกลียดผู้หญิงมาตั้งแต่สมัยเด็กสาเหตุเป็นเพราะหน้าตาของเขาดีมาแต่เกิดทำไห้เด็กผู้หญิงทั้งหลายคอยรุมล้อมและด้วยความเป็นคนขี้หงุดหงิดเลยมี อคติว่าผู้หญิงนี่น่ารำคาญ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขา พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบปะหรือใกล้ชิดกับผู้หญิง
"อ๊ะ! สวัสดีค่ะคุณชาย" สาวใช้หลายคนยืนเรียงกันต้อนรับเตแต่เขาก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็วตรงรี่เข้าห้องทำงานของแม่เพราะตอนนี้เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วกับสายตาของสาวใช้
"แม่! ต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ"
"อ้าวเตกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ วันนี้เป็นไงบ้างล่ะไปหงุดหงิดอะไรมาอีก"ผู้เป็นแม่หมุนเก้าอี้กลับมาด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นไม่ได้ตื่นตกใจกับประตูที่อยู่ๆก็กระแทกออกมาปรากฏชายหนุ่มที่เป็นลูกแท้ๆของเธอเหมือนกับว่ารอคอยอยู่นานแล้ว
"ชมรมคาราเต้โรงเรียนเดอะปริ้นถูกยุบโดยไม่รู้สาเหตุ! "
"อุ๊ยว้าย! ตายจริง! งั้นก็แย่ล่ะสิ เป็นเพราะอะไรกันน้า" ดารุรีทำท่าตกใจที่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าจงใจทำ เธอเอามือจับผมที่ย้อมสีม่วงแปร๊ดเหมือนทำท่าผิดหวังกับลูกชาย "ไม่มีปัญหาหรอกจ๊ะ แม่ซะอย่างปรกติแล้วพวกโรงเรียนสหน่ะจะเป็นของรัฐบาลและของรัฐบาลก็เหมือนของแม่แหละจ่ะ" "เอ่อเด๋วนะ สห...หา!! โรงเรียนสหเหรอฮะ! " เตโวยวายขึ้นมาดังลั่นเมื่อประมวณความได้ "ว้ายตายจริง แม่ลืมไป อืมมม เมื่อมันเป็นเป็นแบบนี้ลูกคงต้องปรับตัวหน่อยแล้วล่ะ" ดารุรีทำท่าตกใจผุดลุกจากเก้าอี้และกุมขมับก่อนจะพูดอย่างรวดเร็วและมาตบที่บ่าของลุกชายพร้อมทั้งรอยยิ้มในขณะที่ชายหนุ่มตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ "อ่า...เอ่อ แม่ ผม" เตละล่ำละลักเมื่อเห็นดารุรีเอาหน้าซุกกับมือและเดินหันหลังไปยังโต๊ะทำงาน ] มือของดารุรีเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกครั้งและกดอย่างรวดเร็วโดยที่เตไม่ทันได้ตั้งตัว "แม่!! " เตที่ยืนฟังความอยู่ก็ตะโกนขึ้นมา "โนเวย์ไม่มีทาง! ผมจะไม่ยอมไปเด็ดขาด" "โฮ่! แล้วแกจะทำยังไงต่อไปล่ะ" ผู้เป็นแม่ทำท่าทางท้าทาย "ผมจะหาโรงเรียนชายล้วนเองและจะหางานพิเศษส่งตัวเองเรียนด้วย! " เตเดินออกไปด้วยหน้าตาบึ้งตึง พอพ้นประตูไป ดารุรีก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เตบ่นเสียงดังขณะเดินใจลอยกลางสวนสาธารณะเหมือนคนที่กำลังตกงานไม่มีใครรับเข้าทำงานและไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ผู้หญิงจ้องมาพอทำตาดุใส่พวกผู้หญิงพวกนั้นแทนที่จะตกใจล้มเลิกไปแต่พวกเธอกลับกรี๊ดลั่นและร้องว่า " ว้ายเท่ห์จังเลย! " อารมณ์เตก็เริ่มถึงจุดเดือดไปทุกที "หา! ทำไมมันดูเก่าๆยังงี้ล่ะ เออแต่ก็เอาวะที่สุดท้ายแล้ว" เตจำใจเดินเข้าไปเปิดประตูที่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดและเสียงไม้หักจากข้างในดูแล้วน่ากลัวจริงๆ เมื่อประตูถูกเปิดจนสุดเตก็พบว่าข้างในนั้นยิ่งกว่าอะไรดีหน้าต่างที่ผุพังไม้ที่ถูกแมลงมายกัดหยากไย้ที่เต็มเพดานกระสอบทรายที่ไส้ทะลักออกมาอุปกรณ์ต่างก็ชำรุดเสียหายเป้าขาดด้ามหักบ้างที่สำคัญที่อยู่ข้างในมีแค่สี่คน สามคนนั่งกินเหล้ากันอยู่อีกหนึ่งคนใส่หมวกสีดำและแว่นตาสวมด้วยเสื้อฮูดปิดหน้ากำลังซ้อมกับกระสอบทรายเก่าๆ ทุกคนต่างหันมามองเต "อย่าเล้ย! ดูก็รู้นี่สภาพโรงยิมที่นี่อีกอย่างหนึ่งชมรมเรามีแค่ 3 คนนะเข้าแข่งไม่ได้หรอก เพราะแข่งระดับทั่วประเทศน่ะแข่งเป็นทีมแบบทัวนาเม้นท์ ทีมละ 5 คน" ชายอีกคนพูดขึ้น "เหรอครับ" "ใช่! แต่นายต้องมีฝีมือนะ โรงยิมนั้นจะรับสมัครแบบแปลกๆจะไห้ต่อสู้ดูฝีมือถึงรับเข้าชมรมใครที่เป็นคาราเต้แบบงูๆปลาๆน่ะโดนเตะกลับมานักต่อนักแล้ว" "สบายมากครับ ขอบคุณมากนะครับผมขอตัวก่อน" "แหม! พูดยังกับว่าตัวเองเก่งนักล่ะถึงได้อยากไปสมัครที่สหเกรียงไกลน่ะ" ชายคนที่กำลังซ้อมหันหน้ามาทั้งๆที่ยังใส่หมวกกับแว่นปิดหน้าตาอยู่ "ก็ได้ผมรับคำท้า" เตคิดไปอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมาและจัดการวางกระเป๋าเป้ลง "หึ ดีอย่างนี้สิถึงเรียกว่าลูกผู้ชาย อ้อลืมบอกไปฉันชื่อพีทนะ พี่ทวนกับพี่แท่งมาเป็นกรรมการไห้หน่อยละกัน...ไม่ต้องลุกหรอกนั่งตัดสินอยู่ตรงนั้นแหละ" "โอเค" "แล้วคุณจะไม่ถอดเสื้อฮูดแว่นตากับหมวกนั่นเหรอ?" เตพูดขึ้นขณะกอดเสื้อแจ็คเก็ต "อ๋อ! เหรอครับ" เตเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากออมมือไห้ไอหมอนี่แล้ว พอเริ่มเตก็ตั้งการ์ดและกระโดดฟลุ๊กเวิร์กไปมารอจังหวะแต่ฝ่ายพีทเขากลับยืนนิ่งนิ่งกันอยู่นานเตตัดสินใจกระโดดเข้าชกบนตัดสินทันที แต่ทว่า! พริบตาเดียวพีทก็หายตัวไปและปรากฏอยู่ตรงหน้าจนเตสะดุ้งตกใจกระโดดถอยหลังแทบไม่ทัน พีทหายตัวไปอีกครั้งและเมื่อมารู้สึกอีกทีหลังก็ถูกกระแทกด้วยสันมือ เสื้อโดนดึงเอาไว้และพีทก็เอาสันมือฟันคอ ปึก! "เตะข้างหลังอะไร? ไม่เห็นรู้เรื่อง กรรมการเห็นรึเปล่าว่าเมื่อกี้ฉันทำอะไร" พีทหันไปถามชายที่ชื่อแท่ง "ก็เห็นแต่เธอเอามือฟันที่ต้นคอเท่าเอง" แท่งทำหน้าครุ่นคิดและตอบออกมาขณะที่เตร้องโอดโอยเบาๆและจับลูบที่หลัง "กรรมการก็ไม่เห็น ฉันก็ไม่ได้ทำนี่" พีทตอบพร้อมยักไหล่แต่ก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "เล่นอย่างนี้เหรอ ได้!! " เตเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาในที่สุดและคิดไว้ในใจว่าจะต้องล้มไอหมอนี่ไห้หมดรูปไปเลย เตเริ่มตั้งการ์ดอีกครั้งและกระโดดเข้าหาพีทพร้อมกับท่าเตะสูง พีทจับข้อเท้าของเตหมุนตัวทำท่าจะฟันศอกแต่สองนิ้วจิ้มเข้าที่เบ้าตาของเต "โอ๊ย!! เล่นผิดกติกาอีกแล้ว กรรมการโว้ย!!! มันจิ้มลูกตาโผม! " เตพูดทั้งที่กุมลูกตาอยู่ส่วนพีทก็เก็บอาการขำเต็มที่และเสเสร้งว่าอะไรกันไม่ได้ทำซะหน่อย "นี่ๆ อย่ามาใส่ร้ายกันซี่ นายตกต่ำถึงขนาดเล่นวิธีนี้แล้วเหรอ ฉันก็แค่เข้าฟันศอกไม่ได้จิ้มลูกอะไรของนายซะหน่อย" พีทพูดทำหน้าไม่รู้เรื่อง "ไอบ้าเอ๊ย!! " เตเริ่มโมโหเต็มที่เข้ากระโดดม้วนตัวเข้า "ไข่แกแตกแน่!!!! ย้ากกกกกกก" พีทพุ่งเข้ามาพร้อมกับแทงเข่าระดับเป้าของเต "เฮ้ย! อย่าา" ด้วยความกลัวเตรีบหุบเป้าทันที แต่พอเข่าของพีทพุ่งเข้ามากลับกลายเป็นว่าขานั้นกางออกหลังเท้าเสยคางของเตแทนตามด้วยหมุนตัวกลางอากาศฟันศอกเข้าที่หน้าพอเท้าของเตแตะพื้นพีทก็กวาดข้อเท้าจนเตล้มลงไป "1
2
.3
พีทชนะ 1 อิปป้ง!" ทวนตัดสินทั้งที่ยังนั่งอยู่กับที่มองดูเตที่ลุกขึ้นมาไม่ไหว เพราะการที่พีทกล้าเล่นผิดกติกาเขาจึงคิดว่าพีทต้องเตะลูกตุ้มของเขาแน่ "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ฝีมือแค่นี้เนี่ยนะจะไปสมัครสหเกรียงไกลกลับบ้านไปเลี้ยงลูกตุ้มดีกว่าม้างฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"พีทหัวเราะเยาะเสียงดังซึ่งทำไห้อารมณ์ของเตเดือดปุดๆๆ "ก็แกเล่นผิกติกานี่หว่า! " "ฝากไว้ก่อนนะไอพีท! ฉันจะต้องล้มแกไห้ได้คอยดูสิ! " "อ๋อหรอ พ่อยอดหวงไข่ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ" และแล้วเช้ารุ่งขึ้นเตก็ต้องจำใจไปโรงเรียนที่แม่จัดหาไห้แต่ดูเหมือนว่าแม่พูดยังกับรุ้อยุ่แล้วว่าเตต้องหาโรเงรียนอื่นไม่ได้ "ดีมากจ๊ะลูกทำตัวดีๆนะโฮะๆๆๆๆๆๆ" โรงเรียนนี้แค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปก็จะมาโผล่ตรงทางถนนเดินเข้าซอยลึกไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงโรงเรียนตลอดทางที่เดินผ่านมาอารมณ์ของเตก็ต้องเดือดขึ้นเรื่อยๆเพราะสายตาของพวกผู้หญิงทีกระดี๊กระด๊ามาทางเขาบางคนก็แกล้งทำผ้าเช็ดหน้าปลิวมาตกและเดินมาเก็บบางคนถึงกลับเขวี้ยงกระเป๋าแล้วบอกว่ามันปลิว "โว้ยยย! ทีหลังก็ถือไห้มันดีเซ่ รำคาญว้อย! " เตดุผู้หญิงคนนั้นขณะเก็บกระเป๋าไห้แทนที่ผู้หญิงคนนั้นจะหวาดกลัวหน้าแตกกลับไป แต่เธอร้องขึ้นมาว่า "ว้าย! เท่ห์จัง" แล้วก็เดินกลับกระดี๊กระด๊ากับเพื่อนในกลุ่มที่ต่างพากันอิจฉาเธอ เตได้แต่กุมขมับข่มอารมณ์ไว้และตัดสินใจวิ่งสุดฤทธิ์ไปที่รั้วประตูโรงเรียนซึ่งอยู่ข้างหน้า แต่ทว่า พอเริ่มวิ่งพวกผู้หญิงก็วิ่งกรูกันตามมาต่างร้องบอกตะโกนว่า "รอด้วยสิค่ะ" "มีเบอร์มั้ยจ๊ะ" "มาเป็นแฟนกันเถอะ" บางคนก็ถือไม้เบสบอลกะจะมาตีหัวแล้วลากไปข่มขืน(- -) "เฮ้ย! อะไรวะ! ช่วยด้วยยยยยย" เตวิ่งหนีกองทัพผู้หญิงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนระยะทางพวกเธอต่างพากันกรีดร้องและคว้าส่วนต่างๆของเตแต่เตก็ไม่ยอมแพ้รีบวิ่งสลัดไห้หลุดตรงรี่เข้าหาประตูโรงเรียนท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนระแวกนั้น บางคนทีเดินมาเป็นคู่ฝ่ายผู้หญิงก็วิ่งตามกองทัพไล่จับเตจนพวกผู้ชายพากันโกรธแค้นเต(เรียกว่าซวยแล้วสิเนี่ย) "เซฟ! ในที่สุดก็หลุดมาแล้ว แฮกๆๆๆ
โอยเหนื่อย! " เตหลบมาอยู่เขตหลังโรงเรียนซึ่งระหว่างทางก็ซิกแซกไปมาจนพวกผู้หญิงงงไปหมดแต่ก็ได้ยินเสียงประกาศรำไรดังว่า "ใครเห็นเด็กไหม่หน้าตาดีทีเพิ่งเข้าโรงเรียนมาเมื่อกี้กรุณาแจ้งพวกเราสมาพันธ์คนชอบคนหล่อด้วยค่ะ!! " "อะไรฟะ! เพิ่งมาโรเงรียนได้แค่ 3 วินาทีมันตั้งสมาพันธ์กันแล้วเนอะ! โว้ย ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ พวกผู้หญิงนี่มันน่าเบื่ออย่างที่คิดไว้เลย" เตต้องเอาหมวกมาปิดใบหน้าถึงจะเดินสำรวจโรงเรียนนี้ได้และคอยหลบหลีกพวกผู้หญิงซึ่งบัดนี้ก็ยังตะโกนหาอยู่และเตก็พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไปห้องประชาสัมพันธ์ประกาศว่า "ผู้หญิงทุกคนโปรดทราบ บัดนี้ เราทราบชื่อของเด็กใหม่หน้าตาดีที่เจอเมื่อเช้าแล้วค่ะ เขาชื่อ เตชา สิงหโชคมหาชนก!! " "เฮ้ย! เพิ่งลงทะเบียนเมื่อวานเนี่ยนะ อะไรกันวะไอพวกนี้" เตโวยวายออกมาพร้อมกับเขวี้ยงหมวกอย่างลืมตัว "เฮ้ยนั่นไง เตสุดหล่อ" "วี้ดว้าย พี่เตขาาาาาาาา" ผู้หญิงต่างหันมามองเตและกรูเขาหาอย่างบ้าคลั่ง "เฮ้ย ว้ากกกกกกกอย่าเข้ามา" เตพยายามวิ่งหนีอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องหมดทางหนีเพราะโดนล้อมไว้หมดทุกทิศทางเวลาหยุดไปสักพักจากนั้นพวกเธอก็พร้อมใจกระโจนเข้าใส่เต "หยุด! เดี๋ยวนี้น้า! รำคาญโว้ยยยยยยยย !! " เตตัดสินใจตะโกนสุดเสียงลั่นโรงเรียนทุกอย่างจึงสงบนิ่งในทันใด เกิดความเงียบไปซักพักแต่แล้วความเงียบก็ทลายลงเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา "เตมีแฟนรึยังค่ะ ขอจีบได้ม้า" เท่านั้นแหละผู้หญิงคนต่อๆไปต่างก็รุมถามคำถามพร้อมสายตาที่อยากจะหม่ำเตเตได้แต่กุมหูกุมขมับและหาทางฝ่าออกไป เขาตัดสินใจพุ่งเข้าชนช่องว่างและวิ่งสุดฤทธิ์ในขณะทีมีพวกผู้หญิงพันแข้งพันขาเกาะหน้าเกาะหลังพะรุงพะรังตามมา แล้วเขาก็เจอทางออก! ป้ายประกาศหน้าห้องๆหนึ่งเขียนไว้ว่า "รับสมัครนักคาราเต้ จากชมรมคาราเต้ เชิญเขียนใบสมัครและพรุ่งนี้มารับการคัดตัวได้" เตตาโตขึ้นมาทันใดแม้ตอนนี้เขายังไม่พ้นจากพวกผู้หญิงที่เกาะตามตัว เขารีบวิ่งไปคว้าใบสมัครและเขียนชื่ออย่างรวดเร็วและมาสดุดกับช่องๆหนึ่งเขียนไว้ว่า "โรงเรียนสหเกรียงไกล" "โอ้แจ่ม แจ่มจริงๆ! " เตตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจและรีบยัดใบสมัครลงกล่องท่ามกลางเสียงวี๊ดว๊ายของพวกผู้หญิง
"ฝีมือแม่ใช่มั้ยฮะ! " เตคาดคั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิดเต็มที
"เอ๋ฝีมืออะไร? ลูกหมายถึงอะไรเหรอจ๊ะ อ๋อ! อยากย้ายโรงเรียนเหรอได้สิเดี๋ยวแม่จัดไห้" เธอไม่รอช้ารีบคว้าโทรศัพท์ใกล้ตัวแล้วกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ย!ๆ ไม่ใช่ฮะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!!
."
"ฮัลโหล...คุณผ.อ.เหรอค่ะ ลุกชายดิฉันยอมเข้าโรงเรียนสหศึกษาแล้วค่ะ....ขอบคุณมากค่ะ เรื่องงบประมาณตึกใหม่ดิฉันจะออกไห้เองค่ะ" ไม่ถึงหนึ่งนาทีการเจรจาจบลงด้วยดี
"อ...อะ... อะไรกันแม่!! ผมอยุ่ม.5 แล้วนะ "
"ใช่จะ!โรงเรียนที่มีทั้งหญิงและชาย " ผู้เป็นแม่ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงเลศนัย
"ไม่นะ! แม่ก็รู้ว่าผมเกลียดผู้หญิงและอยากลงแข่งคาราเต้ด้วย"
"แม่ฟังนะฮะ ผมเกลียดผู้หญิง!!! โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างแม่น่ารำคาญที่สุด" เตตะคอกสุดเสียงทำไห้รอยยิ้มเมื่อกี้หุบลงอย่างเร็วเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าหมองและก้มหน้าลง
"แม่ก็แค่...อยากไห้ลูกได้อยู่ในสังคมบ้าง.."
"คือ..คือ ผมไม่ได้ตั้งใจฮะ..แม่..!." แกร๊ก!!
"ฮัลโหลตัวเองเหรอ......อ๋อฉันมีข่าวดีมาบอกจะลูกสาวเธอกับลูกชายฉันต่างก็โตๆกันแล้ว ฉันขอหมั้นลูกสาวเธอไห้กับลูกชายฉันอย่างไม่เป็นทางการนะจ๊ะโสรภี...ตกลงเหรอ โอเคจะขอบใจมาก" แกร๊ก!
"โฮะๆๆๆ ไม่ต้องทำท่าดีใจถึงขนาดนั้นหรอกจ๊ะเตลูกรักเดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกไปโรงเรียนก็จะได้เจอคู่หมั้นเองแหละ"
"บอกทุกโรงเรียนในประเทศนี้ ว่าหากวันนี้ใครไปขอสมัครเข้าเรียนห้ามรับเด็ดขาด! "
คงจะเป็นการยากซะแล้วที่เตจะหนีพ้นเงื้อมมือที่ยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่
---------------------------------------------------
"โธ่เว้ย! อะไรกันเนี่ย ทำไมถึงไม่มีโรงเรียนไหนรับเลย...ฝีมือแม่แน่ๆ!! แม่ตัวแสบ!"
เขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปเรื่อยๆในหัวก็คอยนึกค้นดุว่ายังมีโรงเรียนไหนอีกมั้ยที่เป็นโรงเรียนชายล้วนและมีชมรมคาราเต้ สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อยๆจนสะดุด ปึก! แต่พอเงยหน้าขึ้นรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้ายิ่งดูเย้ายวนใจสำหรับสาวๆเหลือเกิน
"โรงเรียนรามาขึ้นเสื้อ" เตอ่านชื่อโรงเรียนที่เขาสะดุดเสาของมันและก็พบว่าที่นี่แหละที่ยังไม่เคยมาและอาจจะมีชมรมคาราเต้ก็ได้และที่สำคัญมีป้ายบอกรับสมัครนักเรียน!!
เขาเดินเข้าไปเช็คในโรงเรียนและถามไถ่คนนู้นคนนี้บ้างว่าทางไปชมรมคาราเต้อยู่ตรงไหน โดยสภาพโดยรอบแล้วเหมือนโรงเรียนยากจนไม่มีผิดทุกอย่างดูเก่าผุพังทั้งตึกยันเก้าอี้เลยก็ว่าได้นักเรียนก็รู้สึกจะน้อยกว่าปรกติเดินไปเรื่อยๆก็ใจหายเหมือนเดินในบ้านผีสิงอย่างไงอย่างงั้น พอมาถึงทุ่งร้างหลังโรงเรียนที่มีห้องๆหนึ่งเหมือนห้องเก็บของขนาดเล็กมีป้ายติดไว้ว่า "ชมรมคาราเต้"
"ขออนุญาตครับ! "
"มีอะไรรึนาย" ชายคนที่นั่งกินเหล้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
"เอ่อคือ....ผมอยากจะย้ายโรงเรียนมาอยู่ที่นี่เพื่อเข้าแข่งคาราเต้ระดับประเทศน่ะครับ"
"เอ่อแล้วนั่น..." เตพูดพร้อมกับชี้ไปที่ชายคนที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่มองดูแล้วมีความรู้สึกแปลกๆเพราะเขาตัวเล็กไหล่แคบคล้ายๆผู้หญิง
"อ๋อมันไม่ได้อยุ่โรงเรียนเราแค่มาเยี่ยมลูกพี่ลุกน้องมันเท่านั้นเองนี่ไง" ชายคนแรกพูดพร้อมกับชี้ไปที่ชายคนที่สามกำลังนอนนหลับเมาแอ๋อยู่
"นี่ถ้าอยากแข่งละก็ลองไปโรงเรียนสหเกรียงไกลสิ โรงเรียนนั้นน่ะเป็นโรงเรียนที่ชมรมคาราเต้ดีที่สุดในเขตนี้แล้ว"
"ครับ! ถึงยังไงปีนี้ผมก็ต้องลงแข่งทั่วประเทศไห้ได้ผมอยุ่ม.5 แล้วรออีกปีไม่ไหวหรอก" เตตอบแบบมั่นใจ
"งั้นก็มาสู้กันหน่อยเป็นไงใช้กติกาแบบสายคาบูรางิสู้กันสามนาทีชนะ1 อิปป้ง (คะแนนตัดสินที่เมื่อสามารถทำไห้คู่ต่อสู้ล้มลงเกินสามวินาที หรือไม่สามารถสู้ต่อไปได้ถือว่าชนะ) 2 วาสะอาริ (หนึ่งวาสะอาริคือทำไห้คู่ต่อสู้เสียหลักหรือล้มลงแต่ไม่เกิน 3 วินาที 2 วาสะอาริเป็นหนึ่งอิปป้งเท่ากับชนะ) ไม่ใส่เครื่องป้องกันใช้ศอกได้" ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เตและยื่นกำปั้นไปข้างหน้า "เอามั้ยล่ะ เพราะถ้านายชนะฉันได้ก็ไปสมัครที่สหเกรียงไกลได้"
"อ๋อ อย่างนายน่ะไม่ต้องหรอก แค่ 1 นาทีก็จอดแล้ว"
ทั้งสองมายืนประจันหน้ากันและชายที่ชื่อทวนก็พูดทั้งๆที่กอดขวดเหล้าอยุ่
"เอ้าคำนับ....เริ่มได้! "
" เฮ้ย เตะข้างหลังมันผิดกติกานี่" เตโวยวายขึ้นมาหลังจากเกือบจะล้มลงและถูกนับเป็นวาสะอาริ
ถีบอย่างที่พีทไม่ทันได้ตั้งตัว แต่พีทก็ตีลังกากลับหลังหลบได้หวุดหวิดและพอตั้งหลักได้พีทเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาเตและตะโกนว่า
"นี่อย่ามาขี้แพ้ชวนตีหน่อยเลย แล้วไม่ต้องมาบอกหรอกนะว่าไม่ถนัดกติกาของสายคาบูรางิที่นับว่าโหดที่สุด เพราะการแข่งทั่วประเทศปีนี้จะใช้กติกาแบบสายคาบูรางิ! "
เตตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธและความอัปยศครั้งนี้เขาจะไม่ลืมชื่อพีทจนกว่าจะล้มมันได้แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ไหวแล้วตาข้างซ้ายและกระดูกสันหลังบวมเป่งจนไม่มีแรงทวนกับแท่งช่วยกันพยุงปีกพาเตออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเหยียดหยามของพีทที่ดั่งลั่นกระทบจิตใจ
ความคิดเห็น