ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Karate-รักนี้ที่โรงยิม

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 สู่โรงเรียนสหเกรียงไกล

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 49


       ตอนที่  1   สู่โรงเรียน สหเกรียงไกล





                     
    "หา!!  อะไรนะ  ยุบเหรอ! มันไม่ตลกเลยนะ'จารย์"




             เสียงโหวกเหวกดังลั่นโรงยิมแห่งหนึ่งภายใต้นักเรียนที่อยู่ในโรงยิมต่างมีสีหน้าสลดเพราะข่าวที่ถึงกับทำไห้ชายหนุ่มผู้หนึ่งตะโกนเสียงลั่น  ชายหนุ่มผมสีดำขลับนัยน์ตาคมคิ้วเข้มดวงตาเป็นสีน้ำตาลแก่เกือบดำ สูงยาวเข่าดีผิวขาวเหลือง  ซึ่งใบหน้าคมๆของเขากำลังบิดเบี้ยวด้วยความโกรธระคนตกใจกับข่าวคราวที่อาจารย์ท่านหนึ่งนำมาบอกขณะกำลังฝึกซ้อม





             " ฉันไม่ได้ล้อเล่นหรอกนะ เตชา!! "





       
    ชายแก่พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากเต เพราะเขาเป็นโค้ชชมรมคาราเต้ที่โรงเรียนเดอะปริ้น โรงเรียนชายล้วนมาก็นานแถมยังเคยได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งระดับโรงเรียนทั่วประเทศมาแล้วแต่ทำไมจู่ๆผ.อ.ก็วิ่งรี่ด้วยสีหน้าเป็นกังวลเหงื่อออกพลั่กๆรีบมาบอกไห้ยุบชมรมอย่างปุบปับโดยไม่มีการพูดคุยใดๆ บอกไห้ยุบชมรมอย่างน้อย 1 ปีมันไม่ตลกเลยจริงๆนี่เท่ากับว่าปีนี้จะไม่ลงแข่งระดับทั่วประเทศ
    !




           "ผ.อ.บอกว่าได้รับคำสั่งมาไห้ยุบชมรมอย่างน้อยหนึ่งปีน่ะ"




          "จะบ้ารึไงปีที่แล้วผมเฝ้าฝึกซ้อมมาตั้งนานกะว่าจะลงแข่งปีนี้นะ!! "




          "เตชา เธอน่ะมีพรสวรรค์ แต่ทว่าที่นี่ตอนนี้คงรองรับพรของพระเจ้าที่เธอมีไม่ได้หรอก" อาจารย์พูดจบก็เดินออกไปด้วยท่าทางเข้มขรึม





          
    "อะไรฟ่ะ!!"




             ชายหนุ่มอารมณ์บูดตลอดทั้งวันจนกระทั่งมาถึงบ้านที่ดูเหมือนจะเป็นคฤหาสเสียมากว่ามันใหญ่โตอลังการขนาดคนพันกว่าคนไปอยู่มีห้องนอนห้องอาบน้ำส่วนตัวอย่างสบายๆไม่อึดอัดเพราะเขาคือลูกของ  ดารุรี   สิงหโชคมหาชนก ผู้ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในประเทศไทย หลังจากที่สามีเธอตายเธอก็สานกิจการต่อจนกลายเป็นมหาเศรษฐีในที่สุดแต่ก็มีเรื่องกลุ้มใจอย่างเดียวนั่นก็คือ  ลูกชายของเธอ เตชา  สิงหโชคมหาชนก  เป็นคนที่ขี้หงุดหงิดและเกลียดผู้หญิงมาตั้งแต่สมัยเด็กสาเหตุเป็นเพราะหน้าตาของเขาดีมาแต่เกิดทำไห้เด็กผู้หญิงทั้งหลายคอยรุมล้อมและด้วยความเป็นคนขี้หงุดหงิดเลยมี อคติว่าผู้หญิงนี่น่ารำคาญ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขา พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบปะหรือใกล้ชิดกับผู้หญิง





                
    "อ๊ะ! สวัสดีค่ะคุณชาย"  สาวใช้หลายคนยืนเรียงกันต้อนรับเตแต่เขาก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็วตรงรี่เข้าห้องทำงานของแม่เพราะตอนนี้เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วกับสายตาของสาวใช้





                  
    "แม่! ต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ
    " 




                   "อ้าวเตกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ วันนี้เป็นไงบ้างล่ะไปหงุดหงิดอะไรมาอีก"ผู้เป็นแม่หมุนเก้าอี้กลับมาด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นไม่ได้ตื่นตกใจกับประตูที่อยู่ๆก็กระแทกออกมาปรากฏชายหนุ่มที่เป็นลูกแท้ๆของเธอเหมือนกับว่ารอคอยอยู่นานแล้ว





            
          "ชมรมคาราเต้โรงเรียนเดอะปริ้นถูกยุบโดยไม่รู้สาเหตุ! "




                  

    "อุ๊ยว้าย! ตายจริง! งั้นก็แย่ล่ะสิ เป็นเพราะอะไรกันน้า" ดารุรีทำท่าตกใจที่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าจงใจทำ เธอเอามือจับผมที่ย้อมสีม่วงแปร๊ดเหมือนทำท่าผิดหวังกับลูกชาย






                
    "ฝีมือแม่ใช่มั้ยฮะ! " เตคาดคั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิดเต็มที






                 
    "เอ๋ฝีมืออะไร? ลูกหมายถึงอะไรเหรอจ๊ะ   อ๋อ! อยากย้ายโรงเรียนเหรอได้สิเดี๋ยวแม่จัดไห้" เธอไม่รอช้ารีบคว้าโทรศัพท์ใกล้ตัวแล้วกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว






                 
    "เฮ้ย!  ไม่ใช่ฮะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!! …."






                 
    "ฮัลโหล...คุณผ.อ.เหรอค่ะ ลุกชายดิฉันยอมเข้าโรงเรียนสหศึกษาแล้วค่ะ....ขอบคุณมากค่ะ เรื่องงบประมาณตึกใหม่ดิฉันจะออกไห้เองค่ะ" ไม่ถึงหนึ่งนาทีการเจรจาจบลงด้วยดี






                 
    "อ...อะ... อะไรกันแม่!! ผมอยุ่ม.5 แล้วนะ "





                  "ไม่มีปัญหาหรอกจ๊ะ   แม่ซะอย่างปรกติแล้วพวกโรงเรียนสหน่ะจะเป็นของรัฐบาลและของรัฐบาลก็เหมือนของแม่แหละจ่ะ"




                 "เอ่อเด๋วนะ  สห...หา!! โรงเรียนสหเหรอฮะ!  "  เตโวยวายขึ้นมาดังลั่นเมื่อประมวณความได้





                
    "ใช่จะ!โรงเรียนที่มีทั้งหญิงและชาย "   ผู้เป็นแม่ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงเลศนัย





                
    "ไม่นะ!  แม่ก็รู้ว่าผมเกลียดผู้หญิงและอยากลงแข่งคาราเต้ด้วย"




                "ว้ายตายจริง แม่ลืมไป  อืมมม เมื่อมันเป็นเป็นแบบนี้ลูกคงต้องปรับตัวหน่อยแล้วล่ะ"   ดารุรีทำท่าตกใจผุดลุกจากเก้าอี้และกุมขมับก่อนจะพูดอย่างรวดเร็วและมาตบที่บ่าของลุกชายพร้อมทั้งรอยยิ้มในขณะที่ชายหนุ่มตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ






                
    "แม่ฟังนะฮะ  ผมเกลียดผู้หญิง!!!    โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างแม่น่ารำคาญที่สุด"  เตตะคอกสุดเสียงทำไห้รอยยิ้มเมื่อกี้หุบลงอย่างเร็วเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าหมองและก้มหน้าลง






               
    "แม่ก็แค่...อยากไห้ลูกได้อยู่ในสังคมบ้าง.."




                "อ่า...เอ่อ  แม่  ผม"  เตละล่ำละลักเมื่อเห็นดารุรีเอาหน้าซุกกับมือและเดินหันหลังไปยังโต๊ะทำงาน

    ]



                
    "คือ..คือ ผมไม่ได้ตั้งใจฮะ..แม่..!."   แกร๊ก!!




                 มือของดารุรีเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกครั้งและกดอย่างรวดเร็วโดยที่เตไม่ทันได้ตั้งตัว





                
    "ฮัลโหลตัวเองเหรอ......อ๋อฉันมีข่าวดีมาบอกจะลูกสาวเธอกับลูกชายฉันต่างก็โตๆกันแล้ว ฉันขอหมั้นลูกสาวเธอไห้กับลูกชายฉันอย่างไม่เป็นทางการนะจ๊ะโสรภี...ตกลงเหรอ โอเคจะขอบใจมาก"  แกร๊ก!




                  "แม่!! "   เตที่ยืนฟังความอยู่ก็ตะโกนขึ้นมา





                 
    "โฮะๆๆๆ ไม่ต้องทำท่าดีใจถึงขนาดนั้นหรอกจ๊ะเตลูกรักเดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกไปโรงเรียนก็จะได้เจอคู่หมั้นเองแหละ"





                  "โนเวย์ไม่มีทาง!  ผมจะไม่ยอมไปเด็ดขาด"




                  "โฮ่!  แล้วแกจะทำยังไงต่อไปล่ะ" ผู้เป็นแม่ทำท่าทางท้าทาย




       

                  "ผมจะหาโรงเรียนชายล้วนเองและจะหางานพิเศษส่งตัวเองเรียนด้วย! "



                  เตเดินออกไปด้วยหน้าตาบึ้งตึง พอพ้นประตูไป  ดารุรีก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง





                 
    "บอกทุกโรงเรียนในประเทศนี้ ว่าหากวันนี้ใครไปขอสมัครเข้าเรียนห้ามรับเด็ดขาด! " 






                 
    คงจะเป็นการยากซะแล้วที่เตจะหนีพ้นเงื้อมมือที่ยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่





                         
    ---------------------------------------------------





               
    "โธ่เว้ย! อะไรกันเนี่ย  ทำไมถึงไม่มีโรงเรียนไหนรับเลย...ฝีมือแม่แน่ๆ!! แม่ตัวแสบ!"




                เตบ่นเสียงดังขณะเดินใจลอยกลางสวนสาธารณะเหมือนคนที่กำลังตกงานไม่มีใครรับเข้าทำงานและไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ผู้หญิงจ้องมาพอทำตาดุใส่พวกผู้หญิงพวกนั้นแทนที่จะตกใจล้มเลิกไปแต่พวกเธอกลับกรี๊ดลั่นและร้องว่า  " ว้ายเท่ห์จังเลย! "  อารมณ์เตก็เริ่มถึงจุดเดือดไปทุกที





              
    เขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปเรื่อยๆในหัวก็คอยนึกค้นดุว่ายังมีโรงเรียนไหนอีกมั้ยที่เป็นโรงเรียนชายล้วนและมีชมรมคาราเต้  สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อยๆจนสะดุด ปึก
    ! แต่พอเงยหน้าขึ้นรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้ายิ่งดูเย้ายวนใจสำหรับสาวๆเหลือเกิน





               
    "โรงเรียนรามาขึ้นเสื้อ"   เตอ่านชื่อโรงเรียนที่เขาสะดุดเสาของมันและก็พบว่าที่นี่แหละที่ยังไม่เคยมาและอาจจะมีชมรมคาราเต้ก็ได้และที่สำคัญมีป้ายบอกรับสมัครนักเรียน!!





               
    เขาเดินเข้าไปเช็คในโรงเรียนและถามไถ่คนนู้นคนนี้บ้างว่าทางไปชมรมคาราเต้อยู่ตรงไหน โดยสภาพโดยรอบแล้วเหมือนโรงเรียนยากจนไม่มีผิดทุกอย่างดูเก่าผุพังทั้งตึกยันเก้าอี้เลยก็ว่าได้นักเรียนก็รู้สึกจะน้อยกว่าปรกติเดินไปเรื่อยๆก็ใจหายเหมือนเดินในบ้านผีสิงอย่างไงอย่างงั้น พอมาถึงทุ่งร้างหลังโรงเรียนที่มีห้องๆหนึ่งเหมือนห้องเก็บของขนาดเล็กมีป้ายติดไว้ว่า   
    "ชมรมคาราเต้"





                "หา! ทำไมมันดูเก่าๆยังงี้ล่ะ  เออแต่ก็เอาวะที่สุดท้ายแล้ว"




                เตจำใจเดินเข้าไปเปิดประตูที่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดและเสียงไม้หักจากข้างในดูแล้วน่ากลัวจริงๆ





               
    "ขออนุญาตครับ! "




               เมื่อประตูถูกเปิดจนสุดเตก็พบว่าข้างในนั้นยิ่งกว่าอะไรดีหน้าต่างที่ผุพังไม้ที่ถูกแมลงมายกัดหยากไย้ที่เต็มเพดานกระสอบทรายที่ไส้ทะลักออกมาอุปกรณ์ต่างก็ชำรุดเสียหายเป้าขาดด้ามหักบ้างที่สำคัญที่อยู่ข้างในมีแค่สี่คน  สามคนนั่งกินเหล้ากันอยู่อีกหนึ่งคนใส่หมวกสีดำและแว่นตาสวมด้วยเสื้อฮูดปิดหน้ากำลังซ้อมกับกระสอบทรายเก่าๆ ทุกคนต่างหันมามองเต





             
    "มีอะไรรึนาย"  ชายคนที่นั่งกินเหล้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น





             
    "เอ่อคือ....ผมอยากจะย้ายโรงเรียนมาอยู่ที่นี่เพื่อเข้าแข่งคาราเต้ระดับประเทศน่ะครับ"




               "อย่าเล้ย! ดูก็รู้นี่สภาพโรงยิมที่นี่อีกอย่างหนึ่งชมรมเรามีแค่ 3 คนนะเข้าแข่งไม่ได้หรอก เพราะแข่งระดับทั่วประเทศน่ะแข่งเป็นทีมแบบทัวนาเม้นท์ ทีมละ 5 คน" ชายอีกคนพูดขึ้น






             
    "เอ่อแล้วนั่น..."  เตพูดพร้อมกับชี้ไปที่ชายคนที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่มองดูแล้วมีความรู้สึกแปลกๆเพราะเขาตัวเล็กไหล่แคบคล้ายๆผู้หญิง






             
    "อ๋อมันไม่ได้อยุ่โรงเรียนเราแค่มาเยี่ยมลูกพี่ลุกน้องมันเท่านั้นเองนี่ไง"  ชายคนแรกพูดพร้อมกับชี้ไปที่ชายคนที่สามกำลังนอนนหลับเมาแอ๋อยู่





             
    "นี่ถ้าอยากแข่งละก็ลองไปโรงเรียนสหเกรียงไกลสิ  โรงเรียนนั้นน่ะเป็นโรงเรียนที่ชมรมคาราเต้ดีที่สุดในเขตนี้แล้ว
    "





              "เหรอครับ"





             "ใช่! แต่นายต้องมีฝีมือนะ โรงยิมนั้นจะรับสมัครแบบแปลกๆจะไห้ต่อสู้ดูฝีมือถึงรับเข้าชมรมใครที่เป็นคาราเต้แบบงูๆปลาๆน่ะโดนเตะกลับมานักต่อนักแล้ว"





             "สบายมากครับ   ขอบคุณมากนะครับผมขอตัวก่อน"




             "แหม! พูดยังกับว่าตัวเองเก่งนักล่ะถึงได้อยากไปสมัครที่สหเกรียงไกลน่ะ"  ชายคนที่กำลังซ้อมหันหน้ามาทั้งๆที่ยังใส่หมวกกับแว่นปิดหน้าตาอยู่





             
    "ครับ!  ถึงยังไงปีนี้ผมก็ต้องลงแข่งทั่วประเทศไห้ได้ผมอยุ่ม.5 แล้วรออีกปีไม่ไหวหรอก"   เตตอบแบบมั่นใจ





             
    "งั้นก็มาสู้กันหน่อยเป็นไงใช้กติกาแบบสายคาบูรางิสู้กันสามนาทีชนะ1 อิปป้ง (คะแนนตัดสินที่เมื่อสามารถทำไห้คู่ต่อสู้ล้มลงเกินสามวินาที หรือไม่สามารถสู้ต่อไปได้ถือว่าชนะ) 2 วาสะอาริ (หนึ่งวาสะอาริคือทำไห้คู่ต่อสู้เสียหลักหรือล้มลงแต่ไม่เกิน 3 วินาที  2 วาสะอาริเป็นหนึ่งอิปป้งเท่ากับชนะ)   ไม่ใส่เครื่องป้องกันใช้ศอกได้"  ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เตและยื่นกำปั้นไปข้างหน้า "เอามั้ยล่ะ เพราะถ้านายชนะฉันได้ก็ไปสมัครที่สหเกรียงไกลได้"




             "ก็ได้ผมรับคำท้า"  เตคิดไปอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมาและจัดการวางกระเป๋าเป้ลง




            

              "หึ ดีอย่างนี้สิถึงเรียกว่าลูกผู้ชาย อ้อลืมบอกไปฉันชื่อพีทนะ  พี่ทวนกับพี่แท่งมาเป็นกรรมการไห้หน่อยละกัน...ไม่ต้องลุกหรอกนั่งตัดสินอยู่ตรงนั้นแหละ"




              "โอเค"



              "แล้วคุณจะไม่ถอดเสื้อฮูดแว่นตากับหมวกนั่นเหรอ?"  เตพูดขึ้นขณะกอดเสื้อแจ็คเก็ต




              "อ๋อ อย่างนายน่ะไม่ต้องหรอก  แค่ 1 นาทีก็จอดแล้ว"




              "อ๋อ!  เหรอครับ"  เตเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากออมมือไห้ไอหมอนี่แล้ว





              
    ทั้งสองมายืนประจันหน้ากันและชายที่ชื่อทวนก็พูดทั้งๆที่กอดขวดเหล้าอยุ่





           
    "เอ้าคำนับ....เริ่มได้! "




            พอเริ่มเตก็ตั้งการ์ดและกระโดดฟลุ๊กเวิร์กไปมารอจังหวะแต่ฝ่ายพีทเขากลับยืนนิ่งนิ่งกันอยู่นานเตตัดสินใจกระโดดเข้าชกบนตัดสินทันที แต่ทว่า! พริบตาเดียวพีทก็หายตัวไปและปรากฏอยู่ตรงหน้าจนเตสะดุ้งตกใจกระโดดถอยหลังแทบไม่ทัน  พีทหายตัวไปอีกครั้งและเมื่อมารู้สึกอีกทีหลังก็ถูกกระแทกด้วยสันมือ  เสื้อโดนดึงเอาไว้และพีทก็เอาสันมือฟันคอ  ปึก!





            
    " เฮ้ย เตะข้างหลังมันผิดกติกานี่"  เตโวยวายขึ้นมาหลังจากเกือบจะล้มลงและถูกนับเป็นวาสะอาริ




             "เตะข้างหลังอะไร?  ไม่เห็นรู้เรื่อง  กรรมการเห็นรึเปล่าว่าเมื่อกี้ฉันทำอะไร"    พีทหันไปถามชายที่ชื่อแท่ง




             "ก็เห็นแต่เธอเอามือฟันที่ต้นคอเท่าเอง"  แท่งทำหน้าครุ่นคิดและตอบออกมาขณะที่เตร้องโอดโอยเบาๆและจับลูบที่หลัง




             "กรรมการก็ไม่เห็น  ฉันก็ไม่ได้ทำนี่"  พีทตอบพร้อมยักไหล่แต่ก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์




              "เล่นอย่างนี้เหรอ ได้!! "  เตเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาในที่สุดและคิดไว้ในใจว่าจะต้องล้มไอหมอนี่ไห้หมดรูปไปเลย




             เตเริ่มตั้งการ์ดอีกครั้งและกระโดดเข้าหาพีทพร้อมกับท่าเตะสูง   พีทจับข้อเท้าของเตหมุนตัวทำท่าจะฟันศอกแต่สองนิ้วจิ้มเข้าที่เบ้าตาของเต




              "โอ๊ย!!  เล่นผิดกติกาอีกแล้ว  กรรมการโว้ย!!! มันจิ้มลูกตาโผม! "    เตพูดทั้งที่กุมลูกตาอยู่ส่วนพีทก็เก็บอาการขำเต็มที่และเสเสร้งว่าอะไรกันไม่ได้ทำซะหน่อย




               "นี่ๆ  อย่ามาใส่ร้ายกันซี่  นายตกต่ำถึงขนาดเล่นวิธีนี้แล้วเหรอ  ฉันก็แค่เข้าฟันศอกไม่ได้จิ้มลูกอะไรของนายซะหน่อย"  พีทพูดทำหน้าไม่รู้เรื่อง




              "ไอบ้าเอ๊ย!!  "  เตเริ่มโมโหเต็มที่เข้ากระโดดม้วนตัวเข้า
    ถีบอย่างที่พีทไม่ทันได้ตั้งตัว    แต่พีทก็ตีลังกากลับหลังหลบได้หวุดหวิดและพอตั้งหลักได้พีทเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาเตและตะโกนว่า




              "ไข่แกแตกแน่!!!! ย้ากกกกกกก"      พีทพุ่งเข้ามาพร้อมกับแทงเข่าระดับเป้าของเต





               "เฮ้ย! อย่าา"    ด้วยความกลัวเตรีบหุบเป้าทันที แต่พอเข่าของพีทพุ่งเข้ามากลับกลายเป็นว่าขานั้นกางออกหลังเท้าเสยคางของเตแทนตามด้วยหมุนตัวกลางอากาศฟันศอกเข้าที่หน้าพอเท้าของเตแตะพื้นพีทก็กวาดข้อเท้าจนเตล้มลงไป





               "12.3 พีทชนะ 1 อิปป้ง!"  ทวนตัดสินทั้งที่ยังนั่งอยู่กับที่มองดูเตที่ลุกขึ้นมาไม่ไหว เพราะการที่พีทกล้าเล่นผิดกติกาเขาจึงคิดว่าพีทต้องเตะลูกตุ้มของเขาแน่




              "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ  ฝีมือแค่นี้เนี่ยนะจะไปสมัครสหเกรียงไกลกลับบ้านไปเลี้ยงลูกตุ้มดีกว่าม้างฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"พีทหัวเราะเยาะเสียงดังซึ่งทำไห้อารมณ์ของเตเดือดปุดๆๆ




              "ก็แกเล่นผิกติกานี่หว่า! " 





             
    "นี่อย่ามาขี้แพ้ชวนตีหน่อยเลย   แล้วไม่ต้องมาบอกหรอกนะว่าไม่ถนัดกติกาของสายคาบูรางิที่นับว่าโหดที่สุด  เพราะการแข่งทั่วประเทศปีนี้จะใช้กติกาแบบสายคาบูรางิ! "





              
    เตตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธและความอัปยศครั้งนี้เขาจะไม่ลืมชื่อพีทจนกว่าจะล้มมันได้แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ไหวแล้วตาข้างซ้ายและกระดูกสันหลังบวมเป่งจนไม่มีแรงทวนกับแท่งช่วยกันพยุงปีกพาเตออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเหยียดหยามของพีทที่ดั่งลั่นกระทบจิตใจ




    "ฝากไว้ก่อนนะไอพีท!   ฉันจะต้องล้มแกไห้ได้คอยดูสิ! " 

               "อ๋อหรอ  พ่อยอดหวงไข่ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ"

          และแล้วเช้ารุ่งขึ้นเตก็ต้องจำใจไปโรงเรียนที่แม่จัดหาไห้แต่ดูเหมือนว่าแม่พูดยังกับรุ้อยุ่แล้วว่าเตต้องหาโรเงรียนอื่นไม่ได้

                "ดีมากจ๊ะลูกทำตัวดีๆนะโฮะๆๆๆๆๆๆ"

         โรงเรียนนี้แค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปก็จะมาโผล่ตรงทางถนนเดินเข้าซอยลึกไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงโรงเรียนตลอดทางที่เดินผ่านมาอารมณ์ของเตก็ต้องเดือดขึ้นเรื่อยๆเพราะสายตาของพวกผู้หญิงทีกระดี๊กระด๊ามาทางเขาบางคนก็แกล้งทำผ้าเช็ดหน้าปลิวมาตกและเดินมาเก็บบางคนถึงกลับเขวี้ยงกระเป๋าแล้วบอกว่ามันปลิว 

                "โว้ยยย! ทีหลังก็ถือไห้มันดีเซ่   รำคาญว้อย! "  เตดุผู้หญิงคนนั้นขณะเก็บกระเป๋าไห้แทนที่ผู้หญิงคนนั้นจะหวาดกลัวหน้าแตกกลับไป  แต่เธอร้องขึ้นมาว่า

               "ว้าย!   เท่ห์จัง"   แล้วก็เดินกลับกระดี๊กระด๊ากับเพื่อนในกลุ่มที่ต่างพากันอิจฉาเธอ

               เตได้แต่กุมขมับข่มอารมณ์ไว้และตัดสินใจวิ่งสุดฤทธิ์ไปที่รั้วประตูโรงเรียนซึ่งอยู่ข้างหน้า แต่ทว่า พอเริ่มวิ่งพวกผู้หญิงก็วิ่งกรูกันตามมาต่างร้องบอกตะโกนว่า

               "รอด้วยสิค่ะ"

               "มีเบอร์มั้ยจ๊ะ"

               "มาเป็นแฟนกันเถอะ"  บางคนก็ถือไม้เบสบอลกะจะมาตีหัวแล้วลากไปข่มขืน(- -)

                "เฮ้ย!  อะไรวะ!   ช่วยด้วยยยยยย"   เตวิ่งหนีกองทัพผู้หญิงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนระยะทางพวกเธอต่างพากันกรีดร้องและคว้าส่วนต่างๆของเตแต่เตก็ไม่ยอมแพ้รีบวิ่งสลัดไห้หลุดตรงรี่เข้าหาประตูโรงเรียนท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนระแวกนั้น บางคนทีเดินมาเป็นคู่ฝ่ายผู้หญิงก็วิ่งตามกองทัพไล่จับเตจนพวกผู้ชายพากันโกรธแค้นเต(เรียกว่าซวยแล้วสิเนี่ย)

                "เซฟ!  ในที่สุดก็หลุดมาแล้ว   แฮกๆๆๆโอยเหนื่อย! "

            เตหลบมาอยู่เขตหลังโรงเรียนซึ่งระหว่างทางก็ซิกแซกไปมาจนพวกผู้หญิงงงไปหมดแต่ก็ได้ยินเสียงประกาศรำไรดังว่า

             "ใครเห็นเด็กไหม่หน้าตาดีทีเพิ่งเข้าโรงเรียนมาเมื่อกี้กรุณาแจ้งพวกเราสมาพันธ์คนชอบคนหล่อด้วยค่ะ!!  "

             "อะไรฟะ!  เพิ่งมาโรเงรียนได้แค่ 3 วินาทีมันตั้งสมาพันธ์กันแล้วเนอะ!  โว้ย ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ   พวกผู้หญิงนี่มันน่าเบื่ออย่างที่คิดไว้เลย"

               เตต้องเอาหมวกมาปิดใบหน้าถึงจะเดินสำรวจโรงเรียนนี้ได้และคอยหลบหลีกพวกผู้หญิงซึ่งบัดนี้ก็ยังตะโกนหาอยู่และเตก็พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไปห้องประชาสัมพันธ์ประกาศว่า

                "ผู้หญิงทุกคนโปรดทราบ บัดนี้  เราทราบชื่อของเด็กใหม่หน้าตาดีที่เจอเมื่อเช้าแล้วค่ะ  เขาชื่อ  เตชา  สิงหโชคมหาชนก!! "

                "เฮ้ย!   เพิ่งลงทะเบียนเมื่อวานเนี่ยนะ  อะไรกันวะไอพวกนี้" เตโวยวายออกมาพร้อมกับเขวี้ยงหมวกอย่างลืมตัว

                "เฮ้ยนั่นไง  เตสุดหล่อ" 

               "วี้ดว้าย   พี่เตขาาาาาาาา"  ผู้หญิงต่างหันมามองเตและกรูเขาหาอย่างบ้าคลั่ง

               "เฮ้ย  ว้ากกกกกกกอย่าเข้ามา"   เตพยายามวิ่งหนีอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องหมดทางหนีเพราะโดนล้อมไว้หมดทุกทิศทางเวลาหยุดไปสักพักจากนั้นพวกเธอก็พร้อมใจกระโจนเข้าใส่เต

               "หยุด!  เดี๋ยวนี้น้า!  รำคาญโว้ยยยยยยยย !!  "  เตตัดสินใจตะโกนสุดเสียงลั่นโรงเรียนทุกอย่างจึงสงบนิ่งในทันใด

               เกิดความเงียบไปซักพักแต่แล้วความเงียบก็ทลายลงเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา

              "เตมีแฟนรึยังค่ะ   ขอจีบได้ม้า"    เท่านั้นแหละผู้หญิงคนต่อๆไปต่างก็รุมถามคำถามพร้อมสายตาที่อยากจะหม่ำเตเตได้แต่กุมหูกุมขมับและหาทางฝ่าออกไป เขาตัดสินใจพุ่งเข้าชนช่องว่างและวิ่งสุดฤทธิ์ในขณะทีมีพวกผู้หญิงพันแข้งพันขาเกาะหน้าเกาะหลังพะรุงพะรังตามมา   แล้วเขาก็เจอทางออก! ป้ายประกาศหน้าห้องๆหนึ่งเขียนไว้ว่า

              "รับสมัครนักคาราเต้  จากชมรมคาราเต้ เชิญเขียนใบสมัครและพรุ่งนี้มารับการคัดตัวได้"

              เตตาโตขึ้นมาทันใดแม้ตอนนี้เขายังไม่พ้นจากพวกผู้หญิงที่เกาะตามตัว เขารีบวิ่งไปคว้าใบสมัครและเขียนชื่ออย่างรวดเร็วและมาสดุดกับช่องๆหนึ่งเขียนไว้ว่า

              "โรงเรียนสหเกรียงไกล"

               "โอ้แจ่ม แจ่มจริงๆ! "  เตตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจและรีบยัดใบสมัครลงกล่องท่ามกลางเสียงวี๊ดว๊ายของพวกผู้หญิง

            

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×