ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คันปากอยากเล่า

    ลำดับตอนที่ #3 : คันปากอยากเล่า : ฝันอย่างไรให้แฟนตาซี Vol.1

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 57


    คันปากอยากเล่า : ฝันอย่างไรให้แฟนตาซี

     

    สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับ คันปากอยากเล่าครั้งนี้ผมสิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องเกี่ยวกับความฝันครับ  ความฝันในที่นี้ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ หรืออยากเป็นในอนาคตนะครับ แต่เป็นความฝันที่เกิดขึ้นตอนนอนหลับ บางคนนอนหลับฝันถึงคนที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งๆต่างๆที่ประสบ พบ เจอแล้วมีความสุขเมื่อตื่นขึ้นมาก็มักจะบอกว่ามันคือฝันดี  หากฝันถึงคนตายหรือเหตุการณ์ร้ายๆตามความเชื่อของหลายๆคนอาจจะมองว่าการฝันร้ายเป็นลางร้าย บ้างบอกว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี ทั้งนี้ก็สุดแท้แต่ความเชื่อของแต่ละคน....

     

    ตั้งแต่เด็กตัวผมเองก็ฝันมาแล้วหลายรูปแบบ...

    ทั้งฝันถึงคุณยายแท้ๆที่ไม่เคยเจอหน้า เดินมาหาถึงบ้านและชวนไปอยู่ด้วย

    เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็เดินไปเล่าในผู้ใหญ่ฟัง หลังจากนั้นผมก็โดนจับอาบน้ำลากไปวัดเพื่อทำบุญ

    ต่อด้วยการไปหาญาติที่เป็นสัปเหร่อ และกลับมาบ้านมาพร้อมกับสายสิญจน์หนาเตอะเต็มข้อมือ

    พอโตขึ้นมาหน่อยสักช่วงประถมผมก็ได้สัมผัสกับฝันแบบใหม่ ผมเรียกมันว่า ฝันประจำปี

    สาเหตุที่ตั้งชื่อแบบนี้ก็ตรงตามชื่อ ผมมักจะฝันถึงสัตว์ชนิดหนึ่งปีละครั้ง

    และสัตว์ชนิดนั้นก็คือ ไดโนเสาร์  (- -;)….

     

    อย่าเพิ่งติดสตั้นครับ(ฮ่าๆๆ) ผมเคยคิดหลายครั้งว่าอะไรทำให้ผมฝันถึงพวกมันและสิ่งที่ผมคิดได้ มีดังนี้

    1.ผมชอบดูสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ทุกชนิดโดยเฉพาะ สัตว์โบราณและสัตว์โลกล้านปี

    2.ผมชอบดูการ์ตูนเรื่อง Land Before Time หรือ สมัยเด็กๆ ผมมักจะเรียกการ์ตูนเรื่องนี้ว่า Littlefoot ซึ่งเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับไดโนเสาร์ และแทบทุกตอนมีทีเร็กซ์เป็นตัวร้าย

    3.ผมเกิดในยุค Jurassic Park เฟื่องฟู ถึงแม้ตัวเองจะกลัวและไม่ชอบดูหนังเรื่องนี้ แต่ทุกคนที่บ้านกลับชอบดูมากๆ มีกี่ภาคดูหมด ดังนั้นผมจึงโดนสถานการณ์บังคับให้ดูอยู่บ่อยครั้ง

      

    สามข้อที่ผมกล่าวมาอาจจะเป็นสาเหตุให้ฝันถึงไดโนเสาร์ ปกติแล้วผมจะฝันถึงมันปีละครั้ง และแต่ละครั้งเหตุการณ์ที่ผมเข้าไปอยู่ก็แตกต่างกันไป แต่ผมจำไม่ได้ทั้งหมด เท่าที่ผมพอจะจำได้ก็ประมาณ 3-4 เหตุการณ์ ผมเชื่อว่าถ้าผมลองยกตัวอย่างให้ทุกคนอ่าน หลายคนต้องหัวเราะในความแฟนตาซี ของมันแน่นนอน….. . . .

     

     

    วันนั้นผมกลับมาจากโรงเรียนด้วยความอ่อนเพลีย เนื่องจากอาการปวดหัวซึ่งมีสาเหตุมาจากสายตาที่กำลังสั้นลง เมื่อถึงบ้านผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงจัดแจงวางกระเป๋าไว้ข้างโซฟาแล้วเปิดพัดลม ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง

     

    “เห้ย! วิ่งเด้ วิ่งๆๆ เผ่นจนป่าราบ เผ่นจนป่าราบเลย” เสียงของผู้ชายตะโกนมาจากที่ไหนสักแห่ง เสียงของเขาคนนั้นผมรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินมาจากเกมเคาน์เตอร์ที่ผมชอบดูเพื่อนเล่นเวลาเรียนคอมฯ

     

    อะไรวะเนี่ย ผมงงกับเหตุการณ์รอบตัว รู้สึกว่าตัวผมเองนั่งอยู่ในซอกตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อชะโงกหัวออกไปดูด้านนอก ผมก็รู้สึกว่ามีใครสักคนวิ่งเฉี่ยวหัวผมไป แต่มันมืดผมมองไม่เห็นจริงๆ ผมลุกขึ้นและเดินออกมาจากซอกตู้คอนเทนเนอร์

     

    ตัวผมกำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่งที่มีตู้คอนเทนเนอร์ตั้งซ้อนเป็นชั้นๆเรียงรายมากมายสุดลูกหูลูกตา ขณะที่ผมกำลังยืนงงเสียงอึกกะทึกครึกโครมก็ดังใกล้เข้ามาจากด้านขวามือ

     

    “เผ่นจนป่าราบเลย เผ่นจนป่าราบเลย” เสียงเคาน์เตอร์ดังขึ้นมาอีกครั้ง ตามด้วยภาพเหล่ายอดมนุษย์ทั้ง ไอ้แมงมุมสไปเดอร์แมน แบทแมน และคาแรคเตอร์เกมที่เคยเล่น ทั้งนักดาบ นักเวทย์ นักธนู วิ่งกันป่าราบตามด้วยร่างของทีเร็กซ์สูงกว่าสี่เมตรวิ่งไล่หลัง เสียงเท้าฝีเท้า ตึงๆๆดังสนั่นไปทั่วบริเวณ

     

    เหตุการณ์ทั้งหมดราวกับซ้อนทับด้วยสคลิปการเดินเรื่องจาก การ์ตูนทอมแอนด์เจอรี่ ตัวละครทุกตัวที่วิ่งผ่านหน้าไปเมื่อครู่วิ่งตัดหน้าผมไปมา เดี๋ยวกรูไปทางซ้ายแล้วิ่งกลับมาทางขวาโดยที่ลำดับผู้หนีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ผู้ล่ายังคงเป็นทีเร็กซ์ร้อง แฮ่!!!~~’ วิ่งตามหลังเช่นเดิม บางครั้งก็เปลี่ยนเส้นทางวิ่งมาทางผม ผมในความฝันหลบเข้าซอกตู้คอนเทนเนอร์แล้วโผล่ออกมาดูสถานการณ์ภายนอกเป็นครั้งคราว

    ระหว่างที่ผมยืนดูการวิ่งมารธอน ผมก็นึกสงสัยอะไรบางอย่างมันมีพลังแล้วจะวิ่งหนีทำไมวะหลังจากที่ผมคิดอย่างนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เหล่ามนุษย์ผู้แข้งแกร่งมีแรงฮึดและลุกขึ้นสู้ ทั้งพลังบีม ธนู  ดาวกระจาย ใยแมงมุม กระสุนปืนปลิวให้ว่อน ทว่าสคลิปการวิ่งยังอิมพอร์ตมาจากทอมแอนด์เจอรี่ไม่เปลี่ยนแปลง

     

    จู่ๆภาพก็ตัดไปที่เนินเขาสูงพร้อมกับหญิงสาวชุดดำยืนมองเหตุชุนละมุนข้างล่าง “หึ!!” เธอหัวเราะในลำคอ และเธอผู้นั้นก็คือ.... Catwoman (ผมเองก็ไม่ทราบว่าเธอมาทำไม เพราะหนังจากที่เธออกโรงผมก็ตื่นมาทันการ์ตูนช่อง9ตอนเย็นพอดี อาเมน)

     

     

    ว้าว! อย่างกับหนังรวมพลังซุปเปอร์ฮีโร่ สมัยนั้นยังไม่มีไอลอนแมน ไม่อย่างนั้นไอลอนแมนคงมาวิ่งหนีไดโนเสาร์กับเค้าด้วยแน่ๆ

     

    ในแต่ปีความแฟนตาซีก็จะแตกต่างกันไป อย่าดูถูกทีเร็กซ์ของผมนะครับ ไดโนเสาร์ชนิดนี้ช่างมีความสามารถล้นเหลือ มีอยู่ปีหนึ่งผมฝันว่ากำลังหนีทีเร็กซ์ที่ไล่กินคนแบบไร้เหตุผล.... ผมคิดว่ามันคงหิวล่ะ แต่ผมก็ยังไม่อยากเป็นอาหารไดโนเสาร์หรอกนะ ผมจึงวิ่งหนีสุดแรงเกิดไปๆมาผมขึ้นมาอยู่ในรถได้ยังไงก็ไม่รู้ ใครเป็นคนขับผมก็ไม่รู้อีกเช่นกัน รู้เพียงว่าผมนั่งอยู่เบาะหลังของรถเก๋งคันนี้โดยมีทีเร็กซ์โมโหหิววิ่งตามไม่หยุด ทว่าขึ้นรถหนีได้ไม่นานความซวยก็บังเกิด ถนนข้างหน้ามีรถจอดนิ่งไม่ติงไหว ขยับเขยื้อนไม่ได้นับร้อย ผมที่ติดอยู่ในรถรีบเปิดประตูออกมาและวิ่งหนีไปตามช่องว่างระหว่างรถ เจ้าทีเร็กซ์ที่วิ่งมาตามหลังมาก็ไม่ยอมแพ้ มันกระโดดขึ้นเดินหลังคารถไล่หลังเหล่ามนุษย์ที่วิ่งอลหม่านอยู่ไม่ไกลนัก ผมเองก็วิ่งแบบไม่คิดชีวิต จู่ๆเสียงรอบกายก็มีอะไรสักอย่างแปลกไป.... เสียงฝีเท้าของไดโนเสาร์หายไป!! ‘เป็นไปไม่ได้ผมหันกลับไปมองด้านหลังปรากฏว่าไม่มีไดโนเสาร์สักตัว.... ไม่จริงน่าผมคิด... ใช่ครับมันไม่จริงที่ไดโนเสาร์ตัวเบ้อเร่อจะหาวับไปแบบไร้ร่องรอย....

     

    ทว่าสิ่งที่เป็นปริศนาคาใจก็อยู่กับผมได้ไม่นานนัก เมื่อเสียงสัตว์โลกล้านปีที่หายตัวไปเมื่อครู่ดังขึ้นด้านหลังของผมอีกครั้ง... ทันที่ที่ผมมองไปตามต้นเสียงความสงสัยในใจก็สลายไปทุกประการ ผมจ้องไดโนเสาร์ตัวเท่าบ้านที่เดินอยู่บนสายไฟข้างถนนอย่างมึนงง มันเดินบนนั้นได้ไงวะผมในความฝันเกิดอาการสงสัย หากใครนึกสภาพไม่ออกว่าภาพที่ผมเห็นเป็นยังไง ให้นึกถึงเวลาคุณเห็นกระรอกเดินเล่นบนสายไฟริมถนน แต่เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตบนสายไฟจากกระรอกตัวเท่าฝ่ามือเป็นไดโนเสาร์ตัวสูงประมาณสามเมตรดูก็แล้วกันครับ ส่วนสายไฟไม่ต้องห่วงครับเดินได้ไม่ขาดแค่หย่อนมากกว่ากระรอกเดินเล็กน้อยเท่านั้น(บางครั้งผมก็แบบสงสัยว่าสายไฟในฝันทำด้วยอะไร ทำไมถึงทนทายาดเยี่ยงนั้น) ทั้งหมดที่ผมเล่ามันออกโอเวอร์ไปสักนิด หากมองในโลกแห่งความเป็นจริง... ทว่าสิ่งที่ผมเห็นมันอยู่ในความฝันนี่สิ ผมคิดว่าบางทีความฝันนี้อาจจะสอนให้ผมเอาใจเขามาใส่ใจเราก็ได้มั้ง? ทีเร็กซ์อาจจะเดินบนหลังรถลำบากก็เลยไปเดินบนสายไฟแทน เท่าที่ผมเห็นมันเดินบนสายฟ้าน่าจะสะดวกกว่าเดินบนหลังคารถนะ เพราะมันเดินตามผมได้เร็วกว่าตอนเดินบนหลังคารถเยอะเลย แต่มัน...ไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจสำหรับผมที่กำลังหนีสักเท่าไหร่  - -;

     

                ความฝันที่ผมเล่ามาข้างต้นเป็นความฝันช่วงประถมถึงม.ต้นครับ ซึ่งถือว่าแฟนตาซีหลุดโลกพอสมควร แต่พอช่วงม.6 ผมเริ่มฝันเป็นเรื่องเป็นราวจนตัวเองต้องตกใจ ตัวผมในความฝันสนุกไปกับมัน บางครั้งถึงขั้นตื่นขึ้นมาแล้วนอนต่อเพื่อนจะได้ฝันต่อเนื่องไปจนจบเรื่อง เหมือนกับผมกำลังดูหนังอยู่ก็ว่าได้ ยิ่งช่วงหลังๆตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมานี้ผมฝันเป็นเรื่องเป็นราวบ่อยจนสามารถนั่งพิมพ์สเตตัสขึ้นเฟสบุ๊คเอามัน พร้อมติดแท็ก “#ฝันอย่างไรให้แฟนตาซี” ให้เพื่อนที่สนิทๆกันได้สะพรึงกับความฝันอันโคตรจะแคชั่นแฟนตาซีของผมอีกด้วย

     

                ในปีนี้ผมได้ ฝันประจำปี ไปแล้วเรียบร้อย แถมผมชอบฝันประจำปีของปีนี้เสียด้วย บอกได้เลยว่ามันมาก เปิดเรื่องมาก็แผ่นหนีไดโนเสาร์กันป่าราบ แถมเกือบโดนแด๊กอีกต่างหากดีว่ามีคนมาช่วยไว้ทัน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อรอดกลับมาได้แล้วก็ต้องมีการเอาคืนกันบ้างเล็กๆน้อย ผมจึงถูกคนที่ช่วยไว้สั่งให้ไปช่วยไล่ฆ่าไดโนเสาร์ด้วยดาบคาตานะ เป็นไงครับแอคชั่นเวอร์ๆ ระเบิดภูเขา เผาป่า บึ้มตึก ยิงRPG ส่องสไนเป่าขมองไดโนเสาร์กันมันหยด

     

                ทว่าสิ่งที่ผมฝันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามันกลับแฟนตาซียิ่งกว่าที่เคย.... ราวกับว่าผมหลุดเข้าไปในโลกอีกโลกหนึ่งซึ่งผมไม่เคยไป....

     

    To Be Continue...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×