คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [AuFic KHR l Reborn] HE IS A GHOST
ช้าก่อนนน หากว่าท่านรู้สึกไม่พึงประสงค์กับรูปนี้ ทางเราขอเสนออีกหนึ่งทางเลือกให้ท่าน [จิ้ม!] โดยที่ข้อมูลทุกอย่างในนั้นจะเหมือนกับในนี้เป๊ะ ต่างแค่ที่รูปกับคำอธิบายรูปลักษณ์เท่านั้นค่ะ //กราบขอโทษงามๆที่ต้องให้ไรท์ลำบากนะคะ…
“คงจะไม่ใช่ทุกคนที่ชอบอาชีพนี้ แต่ก็นะ พอบทจะเหนื่อยมันก็เหนื่อยได้ใจจริงๆนะเนี่ย ให้ตายเถอะ...!”
“… แต่ว่า การได้ทำงานที่นี่สำหรับฉันมันก็… สุขดี แบบแปลกๆละมั้ง?”
“... ห-หะ? เดี๋ยวสิ บอสจะหักเงินเดือนอีกแล้วเรอะ—”
ตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณ :: พนักงานกรมตรวจสอบความปลอดภัยทั่วไป
ชื่อ-นามสกุล [TH – EN] :: คลิฟฟอร์ด โอส์สัน | Clifford Olsson (เรียกสั้นๆว่าคลิฟ/Cliff)
นามแฝง [TH - EN] :: เคเซียส | Caesious (มันคือสีของตัวเขายังไงล่ะ!)
เสียชีวิตเมื่อวันที่ :: สมัยประมาณ 1800 [“ผ่านมาตั้งนานแล้วใครมันจะไปจำได้ฟะ”] ถึงคลิฟเองอาจจะพูดแบบนี้อยู่บ่อยๆ แท้จริงแล้วเขาจำรายละเอียดของวันนั้นได้อย่างแม่นยำเลยล่ะ ถ้าอยู่กับเขาไปนานๆแล้วก็อาจจะได้ยินเขาเอ่ยถึง ‘ต้นเดือนมิถุนายน 1809’ นิดหน่อยก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องคุยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สาเหตุการเสียชีวิต :: ตายในสงคราม เป็นสงครามระหว่างประเทศของเขากับประเทศเพื่อนบ้าน (อยู่ในยุโรปนะคะ) คลิฟเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่อาสาไปเป็นทหารเพื่อช่วยต่อกรกับข้าศึกของศัตรู แต่สุดท้ายเขาก็พลาดท่า โดนกระสุนยิงเข้ากลางหลังในขณะที่กำลังชะงักเพราะเห็นเพื่อนสนิทในกองทัพตายต่อหน้าต่อตา
แต้มบุญ / แต้มบาป :: บุญ 87 / บาป 98
รูปลักษณ์โดยรวม :: ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าที่ตัวสูงโปร่ง ร่ายกายแข็งแรงพอที่จะบอกได้ว่าเขาออกกำลังกายให้เหมาะสมกับอาชีพที่ทำอยู่ ลักษณะท่าทางกระฉับกระเฉงในเวลาจริงจัง (ซึ่งก็ไม่ได้เท่ากับเวลาทำงานเสมอไป...) ถ้านอกเหนือจากนั้น การที่จะพบเห็นเขาขยับไปมาในท่าที่ไหล่ห่อและก้าวเอื่อยๆบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ตรงนิ้วและฝ่ามือมีรอยแผลเป็นจางๆอยู่หลายที่ แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าส่วนใหญ่แล้วมันดูมาจากอุบัติเหตุอะไรเล็กๆน้อยๆมากกว่า (มีอธิบายในส่วนเพิ่มเติมค่ะ)
ดวงตาสีเข้มประกอบกับจมูกโด่ง โครงหน้าสีผิวและหลายๆอย่างบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงเรื่องชนชาติที่เขาเกิดมา (เป็นคนยุโรป ถ้าอยากละเอียดหน่อยก็ประเทศสวีเดนค่ะ) ผมสีขาวออกหม่นๆของเขาถูก (พยายาม) จัดให้ดูเรียบร้อยเสมอในตอนเช้า แต่สุดท้ายไม่ว่าจะใช้แว็กซ์ยี่ห้ออะไรอีกซักพักมันก็จะออกปรกๆหน้าผากของเขาแทน มันก็อาจจะดูเท่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องสีหน้าของเขาที่มักจะเป็นหน้าตายออกจะหงุดหงิดเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไงได้ สุดท้ายความใจร้อนในบางทีของเขา บวกกับส่วนสูงและดวงตาที่ทำให้คนขนลุกซู่ได้เวลาเขาโมโห เอ่อ ถ้าจะบอกว่าเขาดูน่ากลัวในบางครั้งก็คงจะไม่ผิดเลยซักทีเดียว...
ส่วนสูง / น้ำหนัก :: 188 ซม. / 78 กก. (สูงยาวเข่าดีตามฉบับหนุ่มฝรั่งค่ะ—)
รหัสประจำตัววิญญาณ :: C
นิสัย :: คลิฟเป็นหนุ่มที่เรียกได้ว่าสีหน้า Default คือหน้าตาย (ไม่ใช่หน้าตายแบบไร้อารมณ์นะคะ ออกเป็นแนวหน้าตายแบบดูหงุดหงิดๆตลอดเวลาต่างหาก น้องไม่ได้โกรธอะไรใครหรอกค่ะ แค่เกิดมาหน้าตาแบบนี้55555) ที่มักจะพูดในลักษณะคูลๆปนกวนพร้อมกับการเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม แต่หากเมื่อถึงเวลาต้องเอาจริงเขาก็เป็นคนที่สุภาพได้ โดยอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้วอย่าแปลกใจไปถ้าเขาพูด+แสดงสีหน้าอารมณ์มากกว่าปกติเมื่อลับหลังคนใหญ่คนโตไปแล้ว
เขาเฉยๆกับการพบปะผู้คนต่างๆ ทักษะการพูดก็จะไม่สูงไม่ต่ำ และโดยปกติเป็นคนพูดไม่มากไม่น้อย อยู่ตรงกลางๆ (และมีติดสบถในบางครั้ง) แต่ถึงอย่างนั้นการเข้าสังคมส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อเรื่องการงานเสียมากกว่า มีความรับผิดชอบสูงมากและโดยรวมก็นับได้ว่ามีระเบียบ แต่ในขณะเดียวกัน หากไม่ใช่เรื่องที่เขาจริงจังเขาก็จะไม่ได้มีระเบียบหรือตั้งใจทำมันซักเท่าไหร่ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็แอบมีมุมตลกๆที่บางทีดันมองเรื่องที่เขาไม่ควรจะต้องจริงจัง กลายเป็นตั้งใจชนิดเอาเป็นเอาตายมาแล้วก็มี
ด้วยประวัติของเขาแล้ว การเติบโตในครอบครัวเล็กๆที่ไม่ได้มีเงินมากมายและต้องพึ่งเขาเป็นเสาหลักของบ้านทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ มีวินัย และไม่สุรุ่ยสุร่าย และก็อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยละมั้งที่ทำให้คลิฟเป็นคนที่ไม่เรื่องมากกับชีวิตซักเท่าไหร่ การอยู่แบบพอมีพอกินแค่นี้ก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว ส่วนในช่วงชีวิตที่อยู่ในกองทัพ หนึ่งในบทเรียนที่คลิฟได้จากมันคือการเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง ประสบการณ์ตอนนั้นทำให้เขาได้รู้ตัวว่าสัญชาตญาณเป็นหนึ่งในข้อดีไม่กี่ข้อของเขาที่เอาจริงแล้วก็ 'ดีใช้ได้'
[ถ้าเกิดว่า... เขาเลือกที่จะเชื่อในความคิดแรกที่โผล่มาในหัวเขาตอนรุ่งเช้าของวันที่ 1 มิถุนายน ปี 1809 บางที...]
[เพื่อนสนิทของเขาก็อาจจะไม่ต้องตายท่ามกลางสมรภูมิรบ]
[และคลิฟเองก็อาจจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ พร้อมกับความขมขื่นจากการได้เรียนรู้ว่าเขาได้ทอดทิ้งครอบครัวและทุกๆคนไปพร้อมกับชีวิตของตัวเองในวันนั้น]
เขาเป็นคนหัวร้อนง่าย แต่กระนั้นก็เป็นประเภทที่ไม่ค่อยแสดงออกนอกจากคิ้วที่ขมวดและการเงียบผิดปกติ (เป็นประเภทพอโกรธแล้วว๊ากในใจซะมากกว่า) ถ้าเกิดเขาโมโหมากจริงๆมันก็จะมีการจ้องราวกับจะฆ่ากินเลือดกินเนื้อและการด่าทอเล็กๆมาด้วย แต่โชคดีที่ถึงจะโมโหง่าย เขาก็ใจเย็นลง (ปลง) ง่ายด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องเป็นอะไรที่เขาเกลียดมากถึงขั้นสุดคลิฟถึงอาจจะเริ่มใช้กำลังที่มหาศาลของเขา
(แต่ทว่า ถึงบางทีอาจจะเอื่อย หรือซีเรียสกับบางเรื่องจนดูตลก หรือเลือดร้อนจนพร้อมที่จะต่อย เอาจริงๆแล้วคลิฟก็แอบเป็นคนที่มีจิตใจดีและชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ถ้าพูดแบบนี้กับเขาไปเขาก็จะสวนกลับทันควันเลยว่า “ฉันน่ะไม่ใช่คนดีหรอก” พร้อมกับส่ายหัวติดตลก ราวกับว่าเขาไม่เคยคิดว่าการที่เขาเป็นคนดีเป็นอะไรอย่างอื่นได้นอกจากมุขตลก)
เป็นคนประเภทที่เมื่อเจอสถานการณ์ที่มีผลกระทบลำบากอย่างหนักโดยตรงจะกัดฟันเงียบ แล้วตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหานั้นๆ แต่ทว่า… ก็อาจจะมีน้ำตาคลอๆเบ้าตอนที่ทำไปด้วย (?) ใช่แล้ว! คลิฟแท้จริงแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างบ่อน้ำตาตื้นเลยแหละ แต่ทุกครั้งที่เขาสัมผัสได้ว่าตาเริ่มร้อนผ่าวๆ คลิฟจะรีบขอตัวไป ‘ทำธุระ’ ด้วยเสียงเนิบๆอย่างวิถีคนคูล (?) ก่อนที่จะกลับมาห้านาทีให้หลัง (เขาจะพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดมาก แต่บางครั้งมันก็มีเสียงฟึดฟัดน้ำมูกหลุดมาบ้างล่ะนะ) เรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ทำให้เขาเหวออย่างผิดลุคได้ถ้ามีใครพูดถึง
สรุปนิสัย: คลิฟคนคูล จริงจังคือจริงจัง ไม่จริงจังคือเฉื่อย ขี้โมโหแต่หายง่าย บ่อน้ำตาตื้น
ลักษณะการพูดจา ::
จะแทนตัวเองว่า ฉัน/ผม ขึ้นอยู่กับความเคารพที่มีต่ออีกฝ่ายหรือ/และกาลเทศะ
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมคลิฟ” เขาพูดด้วยเสียงเนิบๆพร้อมกับเลิกคิ้วข้างหนึ่ง มือข้างขวาถูกยื่นออกมาตามธรรมเนียมการทักทายที่สุภาพ
“เฮ้ยๆ… แบบนั้นก็ได้หรอฟะ…” เขาหน้าเอือมๆพร้อมกับเกาหลังหัวแบบงงๆ “แน่ใจนะว่าทำแบบนี้แล้วพวกเราจะไม่โดนเฉดหัวออกจากงานน่ะ?”
คลิฟมองหน้าตัวเองในกระจกก่อนจะถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “สรุปนี่เราหน้าดูดุตลอดเวลาจริงหรอเนี่ย?” แน่นอนว่าเขาใช้เวลาอีกซักพักเพื่อหาข้อสรุปของคำถามนั้นอย่างจริงจังอยู่หน้ากระจกคนเดียว (...)
"เธอ/นายตรงนั้นน่ะ!" ในมือของเขามีร่มสีน้ำเงินเทาอยู่หนึ่งคัน ซึ่งถ้าเขาเผลอออกแรงมากกว่านี้อีกนิดหนึ่งมันก็คงจะหักพังไป "มาทำอะไรอยู่ตรงนี้?!" เสียงของเขาดังพอที่จะไม่โดนกลบโดยสายฝนที่กระหน่ำรอบตัว ใบหน้าของเขาดูขุ่นมัวไปด้วยความหงุดหงิด เขาสบถอย่างหัวเสียตลอดทางจนกว่าเขาจะวิ่งฝ่าฝนมาถึงอีกฝ่ายและยัดร่มใส่มือให้อย่างรีบร้อน
“... ขอตัวครับ” คลิฟพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบก่อนจะใส่เกียร์หมาเดินเร็วออกไปจากห้อง ว่ากันว่าที่เขาอยู่ๆก็ขอตัวในวันนั้นเพราะเขาดันไปดูโฆษณาประกันชีวิตเข้า...
ตัวอย่างเวลาดีใจ:
"เค้กชิฟฟ่อน..." คลิฟกระซิบด้วยน้ำเสียงนุ่มที่แทบจะไม่เคยมีใครได้ยิน เขามองกล่องขนมในมือของคนตรงหน้าด้วยสายตาลุกวาวราวกับได้กลับไปเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง มือข้างหนึ่งของเขายื่นออกมาน้อยๆเหมือนจะเอื้อมไปรับกล่องสีหวาน... ก่อนที่จะรู้สึกตัวแล้วรีบชักกลับ เขาเกาคอตัวเองพร้อมๆกับหูที่เริ่มมีสีแดงระเรื่อ
"... นี่คือซื้อมาให้ฉันหรอ?" เขาเบือนหน้าหนีก่อนที่จะค่อยๆหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มบาง น่าแปลกใจที่มันเป็นรอยยิ้มที่ต่างจากปกติของเขาอย่างเห็นได้ชัด มันไม่เหมือนกับสีหน้าที่เขาทำเวลาได้ยินอะไรที่น่าสนใจ และมันก็ไม่เหมือนกับสีหน้าที่เขาทำเวลาประชดประชันใครเลยแม้แต่น้อย... "อา ขอบคุณนะ" ถึงแม้ว่าจะยังเขินนิดๆ ชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างออกมา
… และรอยยิ้มนั้นมันก็ดูเข้ากับเขาเป็นพิเศษจริงๆ
ตัวอย่างเวลาโกรธ:
ชายหนุ่มผมขาวหม่นมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโมโหเลือดร้อน มือที่ถูกกำแน่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตค่อยๆคลายออกและถูกกำขึ้นอีกครั้งจากการที่เขาพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองลง
‘ให้ตายสิ… นึกว่าจะไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ในวันหยุดแล้วนะเนี่ย...’ เขาสบถในใจอย่างหัวเสีย คลิฟกระแอมเบาๆเพื่อเรียกความสนใจของกลุ่มคนนั้นก่อนจะก้าวช้าๆเข้าไปหาคนที่ดูท่าจะเป็นหัวโจก
“นายน่ะ… คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรไปรังแกคนอื่นเขา—?”
เขายกหมัดของตัวเองขึ้นมากันด้วยความเร็วเหนือมนุษย์เมื่ออีกฝ่ายหันมาทำร้ายเขาแทน คลิฟค่อยๆจับไม้หน้าสามด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าโทสะเต็มที่ก่อนจะบีบไม้จนมันกลายเป็นเสี่ยงๆ เลือดสีแดงที่ไหลซิบจากมือทำให้เขาดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเป็นหลายเท่า…
“เหอะ!” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาก่อนที่จะง้างหมัดของตนเองขึ้น “ได้… อยากสู้นักใช่มั้ย—?!”
ชอบ ::
เค้กชิฟฟ่อน [“อ่า… มันเป็นขนมที่กินตอนเด็กๆบ่อยน่ะ”] เรียกง่ายๆว่ามันเป็นขนมที่ทำให้เขานึกถึงอดีตในวัยเยาว์ ช่วงเวลาสงบสุขที่ยังไม่มีสงครามในประเทศของเขา… อีกเรื่องหนึ่งคือตอนเด็กนั้นเขาร้องอยากกินบ่อยจนได้ฉายาว่า ‘ชิฟฟ่อน’ เลยทีเดียวเชียว (ถ้าโดนเรียกอย่างนั้นตอนนี้คงขึ้นหน้าแดงๆเพราะเขิน ฮิ้ว—)
พวกพัซเซิ้ลต่างๆอย่างรูบิค มันไม่ใช่อะไรหรอก เขาแค่ชอบหาอะไรบิดๆจับๆให้มือไม่ว่าง จะได้ไม่รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่มีอะไรทำยังไงล่ะ
การตื่นเช้า เพราะมันติดกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้วในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ใช้ชีวิตแบบทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อครอบครัวต่อด้วยการฝึกวินัยอยู่ในกองทัพ
ไม่ชอบ ::
การให้คำสัญญา เพราะเขาเจ็บใจจากที่เคยผิดสัญญากับครอบครัวของตัวเองว่าจะรอดจากสงครามกลับมาให้ได้ ซึ่งด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขามักจะเลี่ยงการต้องให้และรับคำสัญญาอยู่เสมอๆ [“จะให้สัญญากับซักคนมันก็ทำได้แหละ… แต่ถ้าไม่มั่นใจยิ่งกว่า 100% ว่าจะทำตามได้ก็ขอผ่านดีกว่า”]
เวลาที่ไม่มีอะไรให้เขาทำ เพราะมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
ดอกไม้ เพราะเขาแพ้เกสรของมัน (แต่เขาดูจะไม่ได้อะไรมากกับกุหลาบ มันดูจะมีความหมายกับเขามากกว่าดอกไม้พันธุ์อื่นๆ…)
เกลียด ::
คนที่ทำร้าย/รังแก/ดูถูกคนอื่นโดยไร้เหตุผล มันอาจจะเป็นเพราะสมัยก่อนครอบครัวของเขาและของคนอื่นๆที่ไม่ได้รวยอะไรมากถูกข่มเหงรังแกอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะจากพวกคนที่คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นอย่างไร้เหตุผล เวลาเจอคนแนวๆนี้มักจะทำให้เขารู้สึกเลือดร้อนขึ้นมานิดหน่อย
ความขัดแย้งที่ทำให้คนอื่นพลอยโดนผลร้ายไปด้วย [“ถ้าจะทะเลาะกันก็อย่ามาทำให้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องต้องทนลำบากไปด้วยเซ่!”] พูดง่ายๆมันก็เพราะเขายังโกรธที่เขาและอีกหลายๆคนที่เขารู้จักต้องมาบาดเจ็บล้มตายเพราะสงครามที่แท้จริงแล้วเกิดมาจากคนนอกนั่นแล
กลัว ::
ฝันร้าย… เกือบทุกครั้งที่เขาล้มตัวนอนเขาจะฝันไปถึงเหตุการณ์ในตอนที่เขาตาย แต่ส่วนที่ยังหลอนเขามาถึงทุกวันนี้คือนาทีที่เพื่อนสนิทในกองทัพของเขาตายต่อหน้าต่อตาเขายังไงล่ะ... [เลี่ยงการนอนหลับต่อหน้าคนอื่นโดยสิ้นเชิงถ้าเป็นไปได้ เวลาฝันแบบนี้ก็จะตื่นมาพร้อมเหงื่อแตกและหายใจแรง ทั้งตัวจะสั่นและต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะสงบตัวเองลงได้]
เวลารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าและไม่สามารถช่วยคนที่เขาเป็นห่วงจากปัญหาหรือภัยต่างๆได้ ซึ่งสาเหตุก็เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนที่เขาตายอยู่ดีนั่นแหละ... [ตื่นตระหนกอย่างผิดลุคมากๆ จะดิ้นรนและทำทุกวิธีทางเพื่อให้ตัวเองไม่ ‘ไร้ประโยชน์’]
แพ้ :: แพ้ดอกไม้ จมูกจะแดงและก็จะคันตามหน้าและตัวเล็กน้อย บางทีก็จาม
งานอดิเรก :: เล่นกีฬา, อ่านนิยายทุกประเภท, แก้พัซเซิ้ลต่างๆที่เขาหาซื้อได้ (ถ้ากำลังเดินห้างอยู่แล้วไปเจอรูบิครูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน (?) คลิฟเองก็จะตาวาวอยากได้ไม่ใช่เล่น)
อาวุธ :: กระบองเหล็กพับเก็บได้ (แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก แค่หมัดตัวเองก็พอแล้ว—) หรืออะไรก็ตามที่หยิบจับได้ตอนนั้นนั่นแหละ
ความสามารถ :: มีพละกำลังมหาศาลและความเร็วที่มากกว่าคนปกติ หากต้องใช้หนึ่งในสองอย่างนี้/ทั้งสองพร้อมกันเยอะๆก็จะติดเหนื่อยจัดไปช่วงเวลาหนึ่ง
เพิ่มเติม ::
คลิฟมีรูบิคเยอะมาก;;; เยอะชนิดว่าถ้าพังก็ยังมี ‘อันสำรอง’ ออกมาได้อยู่เรื่อยๆ
แต่เรื่องแก้ปริศนาหรือพัซเซิ้ลต่างๆนี่ของโปรดเขาเลยจริงๆ แถมยังเก่งมากด้วย อีกนิดนึงก็คงเข้าร่วมแข่งเล่นรูบิคเยาวชนได้แล้วล่ะ— [“อายุเกินแล้วเห้ย!”]
สูบบุหรี่บ้างเป็นครั้งครา แต่ไม่ได้ติดอะไรขนาดนั้น
เวลาโมโหบางทีจะเผลอบีบของที่อยู่ในมือแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ (เป็นเพราะตัวเองแรงเยอะผิดธรรมชาติด้วย) เพราะฉะนั้นก็เลยจะมีผ้าพันแผลที่มือเป็นครั้งเป็นคราวจนชินละครับ
ดอกกุหลาบมีความหมายกับเขามากเป็นพิเศษ ถ้าให้ถูกต้องเรียกว่าสำคัญมากขนาดที่เขาโอเคกับมันทั้งๆที่เขาเองก็แพ้เกสรดอกไม้ และมักจะเลี่ยงการเข้าใกล้ไม่ว่าจะเป็นดอกใดก็ตาม (นอกเหนือจากกุหลาบ) เลยด้วยซ้ำ สาเหตุเป็นเพราะกุหลาบเป็นดอกที่หนึ่งใน ‘คนสำคัญของเขา’ ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ชอบเป็นพิเศษ [ซึ่งคนนั้นๆก็คือคุณแม่ของเขานั่นเอง]
Quiz :: ไหนลองพรีเซนต์ตัวเองให้น่ารับเข้าทำงานหน่อยค่ะ
Ans :: ชายหนุ่มที่กำลังกวาดสายตาไปรอบๆอยู่หันมาพยักหน้าให้เมื่อได้ยินคำถาม “ผมชื่อคลิฟฟอร์ด โอส์สัน มีประสบการณ์ในกองทัพตอนที่ยังมีชีวิตอยู่… แล้วก็ ผมมีความสามารถเป็นพละกำลังและความเร็วครับ” เขาส่งยิ้มสุภาพตามมารยาทให้เมื่อพูดเสร็จ ก่อนที่จะกลับมาทำหน้าปกติภายในเสี้ยววินาที
Quiz :: มั่นใจไหมคะว่าจะรับมือแก๊งค์วิญญาณได้ บอกไว้ก่อนนะคะว่าวุ่นวายไม่แพ้ตอนเทศกาลsale 90%ของห้างแน่นอน
Ans :: คลิฟยักคิ้วให้กับการเปรียบเทียบของอีกฝ่าย เขาดูประหลาดใจแต่รอยยิ้มที่มุมปากบอกว่าเขาก็แอบเห็นด้วยเช่นกัน “เรื่องวุ่นวายนี่ผมก็เคยได้ยินชื่อเสียงมาบ้างเหมือนกันครับ แต่ผมก็คิดว่าความสามารถของผมน่าจะมีส่วนช่วยในการรับมือได้อยู่นะ”
Quiz :: อาจมีการขูดรีดทรัพย์สินทางเงินเดือนเล็กน้อย กรุณารับให้ได้และทำใจเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ ถ้าไม่ได้ยังไงเชิญช่องสามเข้าคิวรับตั๋วไปนรกได้เลยค่ะ /ผายมือ.
Ans :: “อ-อ่า…” เขาหยุดชะงัก ก่อนที่คิ้วที่ขมวดเข้าด้วยกันจะค่อยๆคลายลง “เข้าใจแล้วครับ…” คลิฟมองมือที่ผายออกมาอย่างอึ้งๆพร้อมกับเหงื่อตกเล็กน้อย
สวัสดีค่ะชาวโลก ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เราชื่อรันรัน หรือจะเรียกอาร์ซีก็ได้ค่ะ!
:: หวัดดีค่า เรียกเราว่าเซ็นได้นะ ♥
คำถามเบสิคมันต้องมีทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้ไม่มีหรอกค่ะ (?)--//อะแฮ่ม เรื่องของเรื่องคืออยากทราบแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครตัวนี้น่ะค่ะ
:: มันเกิดมาจากที่เราต้องการหาแรงบันดาลใจในการเขียนเพื่อแก้เครียดน่ะค่ะ5555 แล้วบังเอิญมาเจอเรื่องนี้พอดี พออ่าน Details เสร็จแล้วก็รู้สึกว่า ‘ของอย่างนี้มันต้องเขียน!’ เลยค่ะ หลังจากนั้นพอไปเจอรูปที่ถูกใจความคิดก็พรั่งพรู (?)
ถ้าไม่ติดมีสองทางเลือกนะคะ คือหนึ่งรับกลับ สองมาร่วมขบวนการตัวประกอบกับเรา---เลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ ตัวเลือกที่สองสามารถเลือกบทที่อยากเป็นได้เลยนะคะ (ห้ามเลือกบทตัวร้ายนะคะ! 5555)
:: เป็นตัวประกอบก็ได้ค่ะชิลๆ5555 เป็นแนวเพื่อนข้างบ้านใครซักคนสำหรับใช้ในตอนตลกๆก็ได้นะ หรือคนแต่งเห็นสมควรว่ายังไงก็จัดเลยค่ะ เราไม่ซีจริงๆ555555
อยากได้คำจำกัดความของน้องหน่อยน่ะค่ะ!
:: คลิฟ หนุ่มหัวขาวคนคูล ขี้หัวร้อน แต่บ่อน้ำตาตื้นเหลือเกินพ่อคู้ณณ
เนื้อเรื่องอาจจะมีฟิลลิ่งที่ผสมๆ กันหน่อยนะคะ โดยปกติโทนมู้ดจะละมุนติดคอมเมดี้เรื่อยๆ ประสาชีวิตประจำวัน แต่ก็มีดราม่าแทรกมาช่วงๆ ตลอด แต่เรื่องตอนจบ..ไม่ต้องห่วงค่ะ อย่างน้อยในสายตาเรามันก็Happy Endเนอะ
:: หวายยย แอบดูมีเลศนัยอ่ะ— ล้อเล่นๆนะคะ5555 ไม่ต้องห่วงค่ะ โดยส่วนตัวเราชอบแนวนี้อยู่แล้ว จัดเลยค่ะ! เดี๋ยวจะคอยเป็นกำลังใจให้~
สุดท้ายนี้อยากบอกว่ารักยู ขอกอดสักที----/แค่ก ลล.ค่ะ 5555 ยังไงขอขอบคุณที่มาร่วมสนุกกับทางเรามากนะคะ เลิ้ป ♥
:: กอดๆนะคะ ขอบคุณทางนั้นเช่นกันค่า ♥
[นี่เพลงประชดชีวิตคลิฟนะคะ ไม่ได้มีนาง/ชายที่รักอะไรหรอก
ประมาณว่าออกแนวคุยกับโชคชะตาตัวเองมากกว่า ฮา]
Cut me open, take my heart.
Don't you let it go to waste.
ผ่าฉันสิ เอาหัวใจของฉันไปเลย
แล้วอย่าเสียมันไปนะ
Make it worth all of the
pain, when you walk away.
ทำให้มันคุ้มกับความเจ็บปวด
ตอนที่เธอเดินจากฉันไป
I'm so bad at letting go.
How do you make it look so easy?
ฉันไม่เก่งเรื่องการปล่อยวางอดีตเลย
เธอทำยังไงมันถึงดูง่ายขนาดนั้นนะ?
ความคิดเห็น