ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✷ S O N D E R ✷

    ลำดับตอนที่ #4 : Brudwerth ( รับสมัครตัวละคร )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 142
      0
      1 เม.ย. 62



    การแต่งตัวสุภาพเป็นคุณสมบัติของผู้ดีนะ!


    R E G I S T R A T I O N .




    ;-; ในที่สุดก็เจอรูปเต็ม & Cr. ค่ะ
         

    I .
       ชื่อ - นามสกุล: ร็อดนีย์ อริสโต้ โซโลม่อน / Rodney Aristo Solomon [ร็อดนีย์ / Rodney]
         อายุ: 28 ปี

         รูปร่างลักษณะ: ชายหนุ่มสูงหกฟุตนิด ๆ (183 ซม. 77 กก.) ที่อกผายไหล่ผึ่งสมมาดตลอดเวลาในสายตาของทุก ๆ คน แม้อาจจะไม่ถึงกับขั้นกำยำแต่ก็วางใจได้ว่าร่างกายภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่เจ้าตัวชอบใส่เป็นประจำต้องไม่ผอมบางหรืออ่อนแอเป็นแน่แท้ เนื้อผิวขาวนวลกับผมสีขาวออกศกปลายบ่งบอกให้รู้ว่าพวกมันได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่เกินไม่ขาดอยู่สม่ำเสมอ ดวงตาสีอำพันที่มักจะอยู่คู่กับรอยยิ้มที่แต้มมุมปากช่วยเสริมคาริสม่าขี้เล่นน่าเข้าหาได้เป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นทุกคนที่รู้จักเขาดีต่างก็เอ่ยปากว่าออร่าความเป็นยอดสุภาพบุรุษจากสวรรค์ที่แตะต้องได้นี้ถูกกลบทุกครั้งที่พี่แกเริ่มปั้นสีหน้ามีเลศนัยเมื่ออยากแกล้งใครก็ตาม...
         ร็อดนีย์เป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าบุคลิกท่าทาง วาจา และการแต่งตัวดีเพียบพร้อมตามฉบับพ่อสุภาพบุรุษอังกฤษอยู่เสมอ ในส่วนของอย่างหลังนี่แทบจะไม่เคยมีใครที่เคยเห็นเขาในอย่างอื่นนอกจากเสื้อเชิ้ตเนคไท แสล็คสีสุภาพ และรองเท้าหนังเข้าชุดเลยด้วยซ้ำ (ในวันที่อากาศเย็น ๆ ก็จะมีพ่วงเสื้อสูทมาด้วย) แต่ภายใต้เนื้อผ้าชั้นดีพวกนี้ต่างหากที่ซ่อนแผลเป็นต่าง ๆ มากมายจากทั้งความซุกซนในวัยเด็กไปจนถึงแผลจากการซ้อมเวทย์มนต์ระดับยาก ๆ ในตอนโต พูดง่าย ๆ ก็คือในส่วนของร่างกายที่มีแต่เขาเห็นเพียงคนเดียวนี่แหละที่จะมีตำหนิบนเรือนร่างที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่คิดว่าเขามี

         ลักษณะนิสัย:
             A GOOD ATTITUDE IS SO, SO IMPORTANT: โดยปกติแล้วร็อดนีย์เป็นคนที่มักจะมีรอยยิ้มอ่อน ๆ ประดับอยู่บนใบหน้าอยู่เสมอ มันมาจากคติประจำใจที่ว่าไม่ว่าอะไร ที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม การมี Attitude ที่ดีก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ด้วยการที่ถูกสอนมาตั้งแต่แบเบาะเรื่องมารยาททำให้เขาโตมาเป็นหนุ่มที่ระมัดระวังเรื่องการประพฤติของตนจนถึงจุดที่ว่าแม้จะไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากตัวเขา เขาก็จะยังคงนั่งหลังตรงด้วยความเคยชินอย่างที่ทำมาตลอด เขาปฎิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพพอ ๆ กับที่เขาคาดหวังอยู่ในใจว่าอีกฝ่ายก็จะทำตอบกลับมา แต่โดยรวมแล้วร็อดนีย์ก็เป็นคนที่นับได้ว่าใจเย็นมากอยู่ดี เขาไม่ค่อยถือสาอะไรคนอื่นมากนักและค่อนข้างเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีต้นทุนที่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว
             MISTER CONFIDENT: ใช่ มัคงจะไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ถ้าจะให้เดาว่าคนที่เติบโตมาในตระกูลอย่างโซโลม่อนและได้รับการศึกษาที่ดีมาตลอดจะพกความมั่นใจมาอยู่ไม่น้อย การพูดตะกุกตะกักหรือพฤติกรรมที่ดูร้อนลนเป็นอะไรที่แทบจะไม่ออกมาให้เห็นจากชายคนนี้ นิสัยที่ว่านี้เองที่ผลักดันให้เขากล้าแสดงออกและพร้อมรับมือกับคำสบประมาทนานาที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเข้าใจผิดไป ถึงพวกคนที่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของร็อดนีย์อาจจะไม่เชื่อซักเท่าไหร่เขาคนนี้ก็ไม่ใช่คนหลงตัวเองเลยแม้แต่นิด เป็นประเภทที่ว่ารู้ตัวเองดีว่ามีความสามารถเก่งกล้าในด้านอะไรแต่ก็ไม่เคยคิดจะอวดหรืออะไรหรอกนะ
              OH, YOU FANCY, HUH?: ร็อดนีย์เป็นผู้ชายที่ใส่ใจและพิถีพิถันในเรื่องการแต่งตัวและการวางตัวอยู่เสมอ เขามองว่าเสื้อผ้าหน้าผมจะต้องเรียบร้อยและดูดีตามสมควรที่มันควรจะเป็นจนเรียกได้ว่าต้องแต่งกายดีเกือบตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงของในแต่ละวันเลยเชียว ทว่าจะพูดว่าเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์ก็อาจจะไม่ถูกไปทั้งหมด เพราะยังไง ๆ ร็อดนีย์ก็ไม่เคยถึงขั้นเกี่ยงงานที่ต้องใช้แรงหรือทำให้ภาพลักษณ์คุณชายเสีย ยังไงซะหน้าที่ก็คือหน้าที่ แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็ชอบให้ตัวเองดูมีภูมิฐานน่าเชื่อถืออยู่ดีละนะ!
             SUCH A TEASE: พอใครซักคนเริ่มได้รู้จักกับเขามากขึ้น ได้คุยกับเขาบ่อยขึ้น จุดนั้นแหละที่ความน่าหมั่นไส้ของร็อดนีย์จะเผยออกมาในไม่ช้า ด้วยนิสัยของเจ้าตัวที่กล้าพูดอะไร ๆ (ยังดีที่ยังรู้กาลเทศะอยู่) อยู่แล้ว มันก็จะมาพร้อมกับที่เขาชอบแซวชอบกวนคนอื่น ๆ อยู่เป็นนิจ ประเด็นคือไอ้ 'สุภาพบุรุษ' นี้ชอบไปแกล้งให้อีกฝ่ายหงุดหงิดเล่น ๆ ด้วยรอยยิ้มยียวนที่มุมปากและแววตาที่มีความขี้เล่นมากกว่าปกติอย่างกับว่าชอบใจเวลาเห็นคนหน้าขึ้นโมโหเพราะเขา นับเป็นภาพที่กวนเบื้องล่างใช่เล่นอยู่เหมือนกัน...
             A GOOD HEAD ON HIS SHOULDERS: เหนือสิ่งอื่นใด ทุกการกระทำของเขาต้องขึ้นอยู่กับตรรกะที่สมเหตุสมผลอยู่เสมอ เอาเข้าจริงเขาก็เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ประพฤติตัวสมกับที่คุณครูควรอยู่ (เกือบ) ตลอด ๆ ไม่ว่าจะคอยให้คำสั่งสอนทั้งในบทเรียนและนอกตำรา ไปจนถึงให้คำแนะนำและพร้อมรับฟังนักเรียนที่มีปัญหา หรือแม้กระทั้งนักเรียนที่อาจจะยังไม่กล้าเข้าหาเขาด้วยซ้ำ เขาจริงจังกับหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองมาก ๆ และไม่เคยคิดว่างานเป็นอาจารย์ที่นี่เป็นงานที่ 'เหนื่อย' เลยแม้แต่น้อย... แม้ในความจริงแล้วตัวเองจะเคยเผลอฟุบหลับไปกับโต๊ะทำงานตอนนั่งตรวจทานเอกสารการเรียนการสอนอยู่หลายครั้งก็ตามที (มีความบ้างานนิดส์นึง) นอกเหนือไปจากนี้ ร็อดนีย์ยังภัคดีกับสถาบันมาร์รอธมากด้วย ถ้าเกิดว่ามันเกิดถึงจุดวิกฤตอะไรขึ้นมา เขาจะเป็นหนึ่งในคนที่ยอมสละชีวิตเพื่อโรงเรียนหรือพวกเด็กนักเรียนแน่ ๆ ...
             STILL HUMAN AFTER ALL: แต่พูดก็พูดไป เพราะด้วยหลาย ๆ องค์ประกอบของความเป็นรอดนีย์นี่แหละที่ทำให้หลายคนรู้สึกสนิทกับเขายาก นี่คงจะเป็นข้อเสียที่แก้ยากที่สุดในตัวเขาแล้วละนะ อารมณ์ประมาณผู้ชายที่เปิดใจและพร้อมทำความรู้จักกับทุกคนตลอดเวลา แต่ดันให้ความรู้สึกว่าการจะสนิทกับเจ้าตัวจริง ๆ ดูจะเป็นอะไรที่คงไม่เกิดขึ้นง่าย ๆ มันอาจจะเกิดมาจากที่เขามาจากตระกูลที่ร่ำรวย หรือความมารยาทดีที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเขาปฎิบัติกับสิ่งที่ชอบและไม่ชอบต่างกันอย่างไรในบางครั้ง หรืออาจจะเพราะนิสัยความบ้างานของเขาด้วยซ้ำ ตัวร็อดนีย์เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม แต่เขาแอบคิดเล็ก ๆ ว่ามันคงเป็นเพราะทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดรวมกันนั่นเอง และด้วยเหตุนั้นเขาคงจะไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้ซักเท่าไหร่ (เข้าหาง่ายแต่เข้าถึงยาก เพื่อนเยอะแต่เพื่อนที่สนิทจริง ๆ น้อย)

         ประวัติความเป็นมาร็อดนีย์ อริสโต้ โซโลม่อน เด็กชายเจ้าของผมสีขาวนุ่มและดวงตาอำพันน่ารักน่าชังที่เกิดมาในคฤหาสน์หลังใหญ่ของวงศ์ตระกูล 'โซโลม่อน' ในเฟียเซอร์รี สกุลที่ได้ฐานะดีมาด้วยการทำธุรกิจการค้าขายร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ มาแต่ช้านาน ด้วยความที่เขาเป็นลูกชายคนเดียว ร็อดนีย์เติบโตมากับลูกพี่ลูกน้องในรั้วบ้านที่ถูก Home-school ด้วยกันทั้งหมดในวัยอนุบาลและประถม ถ้าจะไปซักถามเรื่องในวัยเด็กของเขากับเหล่าป้า ๆ ลุง ๆ ที่รักและช่วยดูแลมาตั้งแต่แบเบาะ ทุกคนก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่างร็อดน่ะ ถ้าไม่มัวแต่วิ่งเล่นในสนามกับคนอื่น ๆ จนหัวขมำก็คงจมปลักอยู่กับหนังสือซักเล่มจนหลงวันหลงเวลาเป็นแน่แท้ ในหลาย ๆ ครั้งที่ร็อดนีย์เผลออ่านหนังสือที่เขาไปเจอเข้าจนลืมที่จะต้องไปเรียนตามเวลา มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแม้แต่นิดที่จะเห็นคุณแม่ของเขาลากและดึงหูลูกชายตัวแสบออกจากห้องสมุดเพื่อไปเข้าคลาสกับญาติ ๆ พร้อมกับดุเรื่องความสำคัญของการตรงต่อเวลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า (แต่สาบานได้ว่าเขาไม่เคยตั้งใจโดดเรียนนะ!)
         แน่นอน ด้วยที่มาขนาดนี้หากจะเรียกว่าเขาคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดก็คงจะไม่ผิด แต่อย่างน้อยก็ต้องเข้าใจด้วยว่าอย่างคุณแม่คนสวยที่เคารพรักของร็อดนีย์นั้น เธอมีความคิดว่าเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกหลานโซโลม่อนโตไปเป็นผู้ใหญ่นิสัยเสียเอาแต่ใจโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เธอตั้งใจหาครูดี ๆ ที่จะสามารถสอนเรื่องมารยาทการวางตัวและเจตคติที่เหมาะสมให้กับเด็ก ๆ เหล่านี้ได้ นอกเหนือจากนี้ก็จะมีร็อดนีย์นี่แหละที่โดนขัดเกลาเป็นพิเศษโดยคุณแม่ของเขาจนความสุภาพอัธยาศัยดีนี้มันฝังเข้าเส้นเลือดไปเรียบร้อย
         ในช่วงมัธยมและมหาวิทยาลัยนั้นเป็นธรรมเนียมโซโลม่อนว่าเหล่าเด็ก ๆ จะต้องถูกส่งไปเรียนในโรงเรียน Public เพื่อให้ได้พบปะแลกเปลี่ยนกับสังคมข้างนอกบ้าง ใครที่สนใจเวทย์มนต์ก็จะถูกส่งไปเรียนตามนั้น ส่วนใครที่ไม่ก็อาจจะได้เรียนแนวบริหารเพื่อมาช่วยต่อยอดธุรกิจที่บ้าน ร็อดนีย์เองก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกส่งมาเรียนไม่ใช่ที่อื่นใดแต่เป็นที่สถาบันฝึกสอนเวทย์มนต์คาถามาร์รอธในยาเกียรานั่นเอง ซึ่งที่นี่นี่แหละที่เขาค้นพบว่าเขาได้หลงรักการสอนหนังสือจากเหตุการณ์ที่มีเพื่อนมาขอให้ช่วยติววิชาหนึ่งที่เขาถนัดอยู่หลายครั้ง ด้วยโชคเข้าข้างที่ทางบ้านเองก็โอเคกับอาชีพที่เขาใฝ่ฝัน ร็อดนีย์จึงตัดสินใจเรียนต่อสายที่เขาถนัดและรักมานานจนจบมาเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ในโรงเรียนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะได้มาเป็นอาจารย์ด้วยตัวของเขาเองในที่สุด
         ถึงแม้อาจจะเคยโดนสบประมาทมาบ้างโดยเฉพาะด้วยเรื่องฐานะและที่มา (ตัวอย่าง: "รวยขนาดนั้นคิดว่ามันจะทำอะไรเป็น? สงสัยคงมีคนป้อนข้าวตั้งแต่เด็กจนโตด้วยซ้ำ เผลอ ๆ แค่ซักผ้ายังไม่รู้เลยว่าทำเป็นหรือเปล่า" "ได้เป็นเพราะยัดเงินน่ะสิ จะเป็นแบบอื่นไปได้ไง" "ดูแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมขนาดนี้คงไม่พ้นเป็นพวกหลงตัวเองแน่" ฯลฯ) แต่ร็อดนีย์ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเพราะคำพูดพวกนี้ เขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นนอกจากตัวเองและคนที่เขารัก นั่นคือสิ่งที่หนุ่มคนนี้ยึดถือในใจมาโดยตลอดและไม่ค่อยถือสาอะไรกับคนพวกนั้นด้วยซ้ำ เพราะยังไงเขาก็รู้ว่าข่าวลือและการนินทาก็ไวไฟกว่าที่คน ๆ หนึ่งจะทำการอะไรอยู่แล้ว ถึงกระนั้นก็ยังดีที่ด้วยความมีอัธยาศัยไม่ถือตัวและคำพูดคำจาน่าฟังที่ได้มาจากคลาสหฤโหดของที่บ้านนั้นเองที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในแง่ดี ๆ ซะส่วนใหญ่ในรุ่นชั้นของตัวเอง ["ไม่ถึงกับว่าดังหรอก แต่ผมทำความรู้จักกับคนง่ายและกล้าแสดงออกเลยมีเพื่อนเยอะน่ะ" //ยิ้มเปรมปรีดิ์จนตาหยี]

         ชอบ: หนังสือทุกประเภท เขาน่ะหลงรักในตัวอักษรมาก ๆ (เรื่องนิสัยอ่านหนังสือจนลืมเวลานี่ตอนนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแล้วค่ะ แต่นานน๊านทีก็ยังเผลอทำอยู่ดีนะ ฮา) / เนคไท โบว์ไททุกชนิด / การได้สอนในสิ่งที่ตัวเองชอบให้ผู้อื่น ไม่ว่านักเรียนจะซนหรือจะเรียบร้อยเขาก็รักในการสอนอยู่ดีนั่นแหละ / อโรม่าหอม ๆ เพราะมันทำให้สบายใจออกเนอะ?
         เกลียด: การแบ่งแยก / คนที่ตัดสินคนอื่นด้วยภายนอกหรือประวัติที่มา ["กี่คนแล้วนะที่แปลกใจเวลาผมบอกว่าผมไม่ชอบคนประเภทนี้..."] / พวกอาจารย์ที่ไม่เคยเห็นใจหรือคิดถึงตัวเด็ก ๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ ๆ / อะไรที่ไม่เรียบร้อย อย่างผ้าที่ถูกพับแบบขอไปที มันก็จะตะหงิด ๆ ใจอยู่หน่อย ๆ ...
         กลัว: ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคนที่เขารักและเป็นห่วง (ครอบครัว เพื่อน เหล่านักเรียน ฯลฯ)
         แพ้: คุณแม่ของตัวเอง / เวลาโดนนักเรียนหมู่มากขอร้องอ้อนวอน ["แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งหรอกนะครับ ฮ่ะ ๆ!"]
         สายเวทย์: Worshiper # 2 (แต่ถ้าคนแต่งเห็นดีว่าเป็นสายอื่นดีกว่าเหมาะกว่าหรือยังไง เชิญเปลี่ยนได้เลยนะคะ เรามะซีเรียสเน้อ)
         อาวุธ: ไม้เท้าสูงเลยสะโพกเล็กน้อย หน้าตาเป็นไม้สีดำสวยที่มีหัวเป็นจิ้งจอกกับมงกุฎเล็ก ๆ ที่เคลือบสีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลโซโลม่อนไว้ (ตามรูปเลยละกันค่ะถถถ) ["จะว่าไปแล้ว เรื่องของอาวุธก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักเรียนทุกคนควรจะได้เรียนนะครับ... โดยเฉพาะอาวุธจำพวกที่นักเรียนทุกคนควรระวังน่ะ"]
         ความสามารถพิเศษ:
             - พูดได้หลายภาษา (ที่คล่องเลยก็คงจะมีภาษากลาง ฟาเบียง แซคการ์ จากที่ชอบเรื่องอักษรศาสตร์และที่ที่บ้านมีทำการค้าด้วยบ่อย ๆ ส่วนอีกภาษาที่พอจะพูดได้ฟังออกแต่เขียนอ่านไม่ได้เท่าไหร่ก็คงจะเป็นอย่างภาษานาร์ก)
             - มีเซ้นส์การแต่งตัวที่ดีเยี่ยม!
             - เก่งเรื่องการอ่าน/ใช้ระดับภาษาต่าง ๆ อย่างเช่น การเขียนจดหมายราชการ เขียนบัตรร่วมเชิญเข้างานแต่งงาน ไปจนถึงการแต่งกลอนหรือบทกวีงาม ๆ เลย
             - ความรู้รอบตัวเยอะเป็นพิเศษ
         บท: อาจารย์ (อาจจะสอนพวกวิชาแนว ๆ ประวัติของภาษา/การอ่านเวทย์)
         เพิ่มเติม:
             - ทางครอบครัวและเพื่อนที่สนิทจริง ๆ จะเรียกเขาว่า 'ร็อด' ส่วนชื่อกลาง 'อริสโต้' นี่ไม่เคยมีใครใช้หรอก
             - ร็อดนีย์เป็นครูประเภทที่พยายามเข้าหาเด็กนักเรียนอยู่เสมอ แถมยังชอบดุ ๆ พวกตัวแสบที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยหรือพวกเกเรนอกลู่นอกทาง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะพยายามไม่ใช้คำพูดที่ทำให้เด็กเกิดปมขึ้นมาอยู่แล้ว (คือดุแต่ไม่ด่าค่ะ นาน ๆ ทีถึงจะขึ้นเสียง)
             - ในความคิดของเราตอนที่เรานั่งเขียนข้อมูลพวกนี้เนี่ย คาร์ของร็อดนีย์คือฟีลประมาณอาจารย์หนุ่มที่มีเด็กนักเรียนบางกลุ่มแอบกรี๊ดกันเล็ก ๆ แบบ โหหห นอกจากสกุลดี เป็นสุภาพบุรุษ แล้วยังเก่งอีก! แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็จะโดนกลบด้วยความน่าหมั่นไส้/กวนบาทาของนางในบางครั้งนี่แหละค่ะ เป็นตัวละครที่อาจจะดูมิติเดียวแต่เออเนอะเขาก็มีปมและข้อตำหนิของเขาอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็พยายามเต็มที่ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเหล่านักเรียนที่เคารพรักอยู่เสมอ ๆ :')
             - อันนี้คงไม่ได้ใช้ในเรื่อง55555 แต่เอาเป็นว่าร็อดนีย์นี่โอเคหมดทั้งชายหญิงและอื่น ๆ นะคะ นางเคยมีแฟนอยู่ประปราย (เลิกรากันเพราะส่วนใหญ่จะเป็นความสัมพันธ์แบบไม่จริงจังอะไรมาก) แต่ตอนนี้กลับมาใช้ชีวิตแบบหนุ่มโสดเอาแต่การงานพอก่อนค่ะไม่งั้นเดี๋ยวขุ่นแม่ของนางกริ้ว---
         ถ้าลูกของคุณติด แต่ไม่ติดในบทที่ต้องการ อยากให้เราใส่บทอื่นให้ หรือว่าจะรับกลับคะ?: ใส่บทอื่นได้เลยค่ะ! เอาร็อดนีย์ไปต้มยำทำแกง (?) อะไรได้หมดเลย


    II .
         คิดอย่างไรกับการที่สภานำคทาบรุดเวิร์ธที่โด่งดังนั้นมาเก็บไว้ในโรงเรียน คิดว่าทำถูกแล้วหรืออันตราย? แล้วอยากจะเห็นมันกับตาซักครั้งในชีวิตไหม?
         - ชายหนุ่มเอียงหัวพิจารณาเมื่อได้ยินคำถาม ท่าทีของเขาดูตึงกว่าปกติเล็กน้อยแม้ใบหน้าคมจะยังคงมีรอยยิ้มอัธยาศัยดีแต้มอยู่ "น่าแปลกนะ จากคทาที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนและโรงเรียนต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก ทำไมคทาบรุดเวิร์ธถึงถูกนำมาอยู่ที่นี่? ... แปลก ใช่ ผมคิดว่ามันแปลกครับ"

    มือของเขาดึงเนคไทตัวเองให้เรียบกว่าเดิมในขณะที่สายตาก็ยังไม่ละไปจากคู่สนทนา ดูก็รู้ว่าเพราะพฤติกรรมนี้เป็นแค่ความเคยชินที่เจ้าตัวมีมานานแล้ว "โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้อยากเห็นมันอะไรขนาดนั้นหรอก... เว้นเสียก็แต่ว่า--" จู่ ๆ นิ้วเรียวยาวก็หยุดนิ่งไปกับความคิดที่โผล่ขึ้นมาในหัว พร้อมกับรอยยิ้มน่ามองที่หายไปภายในชั่วพริบตาที่เขาเงียบไป เป็นวินาทีเดียวที่ดวงตาสีอำพันคู่นั้นไม่ได้มีแววขี้เล่นเหมือนปกติ หากแต่มันจริงจังและเงียบขรึมอย่างผิดวิสัยจนน่ากลัว

    ก่อนที่จะมีเสียงถอนหายใจเบา ๆ "จะอย่างไรก็ตาม" และบุคลิกที่ทุกคนคุ้นเคยก็กลับมาที่เดิมอีกครั้งอย่างกับว่ามันไม่เคยจากไปไหน เขาสรุปคำตอบด้วยสีหน้าที่ดูสบาย ๆ แม้เสียงทุ้มที่เปล่งออกมากลับไม่เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดก็ตาม

    "... ความปลอดภัยของนักเรียนก็ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด"

         อาหารที่ชอบกินที่สุดคืออะไร เพราะอะไร?
         - "หืม?" ดวงตาสีเหลืองโตขึ้นเล็กน้อยให้กับคำถาม "ก็คงจะเป็นทาร์ตแอปเปิ้ลที่คุณแม่ของผมเคยทำให้ทานอยู่บ่อย ๆ ละมั้ง ยิ่งทานพร้อมกับชาหอม ๆ เข้าไปให้ตัดรสกันนี่ผมว่ายิ่งกว่าคำว่าอร่อยเลยด้วยซ้ำ จะว่าไปผมก็ไม่ได้ไปหาคุณแม่ที่บ้านมาซักพักแล้วนะ" เขาทิ้งท้ายด้วยการพยักหน้าช้า ๆ กับตัวเองราวกับกำลังหวนนึกถึงความหอมหวานในวัยเด็กอยู่กลาย ๆ





    การมีมารยาทและเจตคติที่ดีเป็นการกระทำที่พึงประสงค์นะครับนักเรียนทั้งหลาย!














    S
    N
    A
    P
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×