คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : The White Road Generation II : Chapter 17 "Nothing" Part I
Chapter 17
Nothing
รีเมียสพบว่าการเดินทางด้วยรถม้าใสวิเศษช่างเงียบสงบราวกับกำลังร่อนไปในอากาศ
ไม่มีเสียงตะกุกตะกักของเกือกม้า ไม่มีเสียงของม้าเลยด้วยซ้ำ ตัวคันรถก็ไม่มีการขยับ พวกเขาสัมผัสได้แค่ว่ามันกระเพื่อมขึ้นๆ ลงๆ ตามเส้นทาง สิ่งเดียวที่พวกเขาได้ยินก็คือเสียงสายลมที่พัดผ่านหน้าต่างไป
“มันอาจจะเป็นลางว่านี่คือการเดินทางอันแสนสุขสบาย” โนอาร์เอ่ย
ก็ใช่ ในเมื่อทุกอย่างราบรื่นขนาดนี้คงไม่มีใครคิดเป็นอื่นได้
รีเมียสไม่รู้ว่าระยะทางจากพรีดิกสู่สถานที่ลึกลับนั้นไกลเท่าไหร่ แต่เมื่อผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง พวกเขาก็เริ่มเห็นวี่แววของจุดหมาย มันเริ่มจากอยู่ดีๆ ทิวทัศน์ข้างนอกก็เปลี่ยนไป ไม่มีก้อนเมฆ ไม่มีเสียงสายลม ทุกอย่างเงียบสนิท เห็นแต่หมู่ดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด
แล้วนาทีต่อมาทั้งสองก็รู้สึกได้ว่ารถม้าก็พุ่งดิ่งลงไป!
รีเมียสกับโนอาร์แยกกันชะโงกออกไปนอกหน้าต่างคนละข้าง เพื่อจะพบว่ายานพาหนะของพวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่มหาสมุทร!
“โอ๊ะ โอ่
” รีเมียสเปล่งเสียงอย่างระทึกขวัญ
“บอกฉันที ว่าดำน้ำไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์” โนอาร์หน้าซีด
และพริบตาต่อมาภาพของผืนน้ำอันเย็นยะเยือกก็เคลื่อนเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง
วาบ!
จู่ๆ แสงสีขาวประหลาดก็สว่าง รีเมียสหลับตาหลบแสงจ้า โนอาร์มองเห็นแค่ว่ามันเป็นดวงแสงวงกลมซึ่งมีภาพเคลื่อนไหว ดูคล้ายกับจอภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างหาที่มาไม่ได้ รถม้าพุ่งตรงเข้าไป และในที่สุดทั้งสองก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาลที่ส่งผ่านออกมาจากจอภาพ!
วาบ!
แสงสีขาวโพลนกลืนกินทุกสิ่งในอึดใจ แต่เพียงวินาทีแรงดึงดูดประหลาดเมื่อครู่ก็หายไป เสียงฝีเท้าของอาชาบอกให้พวกเขารู้ว่ามันได้กลับสู่พื้นดินอีกครั้ง
และเมื่อเสียงนั้นเงียบสนิท พวกเขาก็ได้เห็นทิวทัศน์ที่แปลกไป
นอกหน้าต่างนั้นคือดงสิ่งก่อสร้างที่ไฮเทคไม่คุ้นตา รีเมียสแหงนหน้ามองฟ้า เขายิ้มร่าเมื่อเห็นภาพของทางช้างเผือกที่ทอดผ่านนภาสีน้ำเงินเข้มแปลกประหลาด โนอาร์มองเห็นทะเลดาวได้เด่นชัด พอๆ กับที่เห็นว่ามีดาวเคราะห์ดวงใหญ่ๆ มากมายกระจัดกระจายอยู่บนนั้น รีเมียสถูกความมหัศจรรย์ชักพาให้ก้าวลงจากรถม้า เมื่อมองดีๆ เขาก็พบว่าบนฟ้าไม่ได้มีแค่ดาวเคราะห์ และทางช้างเผือก
แต่ยังหลังคาโดมที่ขาวอ่อนที่ครอบทั้งเมืองไว้อีกด้วย
“พระเจ้า ที่นี่ที่ไหนกันแน่
” รีเมียสครางอย่างตื่นตาตื่นใจ
“อย่าถาม นี่ก็ครั้งแรกของฉันเหมือนกัน” โนอาร์พูด
“มากันแล้ว”
เสียงปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง เมื่อรถม้าใสแจ๋วเดินจากไป มันก็เผยให้เห็นว่ามีคนมากมายยืนตั้งแถวรอพวกเขา คนเหล่านั้นล้วนสวมผ้าคลุมสีดำเหมือนๆ กัน สวมกางเกงสีดำเข้ารูปที่ยัดขาเข้าไปในรองเท้าบูทสีดำเลยเข่าเหมือนๆ กัน แต่เสื้อตัวในของแต่ละคนต่างกัน บ้างก็เป็นเชิ้ต บ้างก็เป็นเสื้อแบบย้อนยุคไปถึงสมัยหลุยส์ที่สิบสี่ และบางคนที่หุ่นดีก็ถือโอกาสโชว์ซะ
แต่ไม่มีใครโดดเด่นเท่าหญิงสาวที่เรียกพวกเขา
เสื้อตัวในของเธอเป็นผ้าเนื้อแข็งสีน้ำเงิน ส่วนแขนยาวและพองเหมือนชุดเจ้าชายโบราณ ตรงคอติดกระดุมปกและประดับด้วยผ้าทำเป็นระบาย เธอไว้ผมสีน้ำเงินสั้นโฉบเฉี่ยว และดวงตาสีเดียวกันนั้นก็คมกริบน่าเกรงขาม
โนอาร์นิยามเธอในใจว่า ‘คีตาร์ต่างดาว’
“ฉันฮาดรอน” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบยิ่งกว่าเสียงตอบรับอัตโนมัติจากโทรศัพท์มือถือ “ยินดีต้อนรับสู่ฮิกซ์สตริง”
โนอาร์กับรีเมียสเดินเข้าไปหาเจ้าบ้านอย่างงามสง่า และหยุดเพื่อแนะนำตัว
“ผมโนอาร์ โพรวิส”
“ผมรีเมียส เดเซอร์ริส ยินดีที่ได้
”
แต่เมื่อรีเมียสยื่นมือออกไป ความผิดปกติบางอย่างก็บังเกิด
“รีเมียส?” โนอาร์ฉงนเมื่อจู่ๆ รีเมียสก็หยุดเคลื่อนไหว
!?
และโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดมากนัก เขาก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
“แกทำอะไรเขา?” โนอาร์สลัดฝ่ามือไปจ่อหน้าฮาดรอนในทันใด
“เขาต่างหากที่กำลังจะทำอะไร”
สิ้นเสียงของฮาดรอน สัมผัสประหลาดก็กระชากเขาให้หันกลับไปมองรีเมียส!
เปรี้ยง!
เสียงปะทะของพลังจิตดังสนั่น อำนาจของมันเหวี่ยงโนอาร์ลอยละลิ่วไปไกล รีเมียสสาดพลังจิตเข้าใส่อีกครั้ง!
“นายทำบ้าอะไร!?”
โนอาร์สามารถหลบการโจมตีนั้น รีเมียสพุ่งตามในทันใด และนั่นคือช่วงเวลาที่โนอาร์เห็นว่าสีตาของรีเมียสเปลี่ยนไป
มันกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มแปลกประหลาด ดังเช่นสีตาของฮาดรอน!
แฟลช!
เส้นแสงสีขาวนับพันพุ่งเข้ารวมตัวกันที่กลางอกของโนอาร์ และพริบตาก็ระเบิดอย่างรุนแรง! บึ้ม! แสงสีขาวสว่างวาบที่กึ่งกลางของฟากฟ้า มีร่างหนึ่งร่วงลงมา - และมีอีกร่างที่พุ่งตามไป
“ขอโทษนะรีเมียส”
แสงของพลังสีขาวปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของรีเมียสอีกครั้ง - และในวินาทีเดียวกันนั้น ร่างของโนอาร์ก็ถูกปกคลุมด้วยควันสีดำ!
แฟลช!
โนอาร์ยกสองแขนประสานบังหน้าเมื่อถูกห่าแสงแห่งการทำลายพุ่งเข้าโอบล้อมกาย เขาสลัดแขนออก พลันนั้นพลังของรีเมียสก็หายไป พร้อมกับการปรากฏของโนอาร์โฉมใหม่ในคราบของเดย์วอ
แมเนติกคิเนซิส!
การโต้กลับเกิดขึ้นรวดเร็วทันใด รีเมียสถูกพลังจิตกระแทกออกไป เกิดเสียงดังเพล้งเมื่อวัตถุทรงสี่เหลี่ยมเรืองแสงมากมายปลิวตามตัวเขา รีเมียสกลับมาตั้งหลักกลางอากาศ - และพบว่าวัตถุประหลาดเหล่านั้นได้กระจายไปทั่วทิศทาง กลายเป็นวงกลมสี่มิติที่กักขังเขาไว้อย่างไร้ทางหนี เดย์วอหันกลับไปมองฮาดรอนด้วยสายตาอาฆาต - ฮาดรอนยังคงนิ่งเฉยเมื่อเดย์วอคว้าดาบทมิฬจากความว่างเปล่าในอากาศ เดย์วอหายไปตัวมาอยูเหนือร่างฮาดรอนในพริบตา ดาบทมิฬฟาดลงมา!
เปรี้ยง!!
ฮาดรอนสามารถหยุดดาบทรงพลังนั้นไว้ด้วยนิ้วชี้
เธอกำลังอยู่ในท่วงท่าเหมือนเวลาเราให้สัญญาณเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างหนึ่งคัน ดวงตาของเดย์วอเบิกโตอย่างอึ้งตะลึงงัน ไม่ใช่แค่เพราะเธอหยุดดาบเขาได้ แต่เพราะพลังบางอย่างจากนิ้วชี้ของเธอกำลังทำให้ดาบของเขาละลาย แล้วก็หายไป
ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เพียงอึดใจเดย์วอก็หยุดเคลื่อนไหว สีดวงตาของเขาเปลี่ยนไป
กลายเป็นสีเดียวกับดวงตาของฮาดรอน
พรึ่บ
ดาบทมิฬปรากฏขึ้นกลางอากาศ เมื่อฮาดรอนกลอกตาไปมอง มือของเดย์วอก็เอื้อมไปหยิบมัน ฮาดรอนกลอกตากลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง เดย์วอกำดาบไว้มั่น
“ราตรีสวัสดิ์”
เมื่อฮาดรอนเอ่ยเช่นนั้น เดย์วอก็เสียบดาบทะลุร่างตัวเอง!
“อั่ก
” เด็กหนุ่มโค้งตัวอย่างเจ็บปวด ดวงตาของเขาเหลือกถลน และกระพริบสลับระหว่างสีดำกับสีเงิน จนเมื่อมันกลับมาเป็นสีปกติดังเดิม สีดำที่ปกคลุมร่างเดย์วอ รวมทั้งดาบทมิฬก็หายไป โนอาร์ร่วงลงมาจากอากาศและกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ริมฝีปากของเด็กหนุ่มแยกออกจากกันเมื่อเขาพยายามจะเปล่งเสียง แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอด สายตาของโนอาร์เหลือบมองขึ้นไปยังร่างที่อยู่ตรงหน้าราวกับตั้งคำถามว่า ‘ทำไม
” เขาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดที่สาหัสก็กระชากเขาให้ทรุดลงอีกครั้ง
และในที่สุดดวงตาของเขาก็ปิดลง
“อัสลาร์” ฮาดรอนเอ่ย
“ได้เลย” ชายหนุ่มผมทองที่เปลือยร่างกายท่อนบนขานรับอย่างรู้กัน
อัสลาร์เงยหน้ามองรีเมียสก็พยายามฝ่าวงล้อมกรงพลังจิตอย่างบ้าคลั่ง นิ้วมือขวาทั้งห้าของอัสลาร์แยกออกจากกัน เขายกมันขึ้นทาบตำแหน่งของรีเมียสบนฟ้า แล้วชิดนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางเข้าด้วยกัน
เพียงแค่นั้นร่างของรีเมียสก็ทรุดลงหมดสติไปกับพื้นกรง
ความคิดเห็น