ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Pop's The White Road 1 (Re-birth)

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 4 : 9 Days From Now ( Part 2 ) -- > รีไรท์

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 51


     

     

     

             หนังที่เราดูกันมีชื่อว่า เดอะ ซีรีส์ ออฟ ไซออน : เดอะ ลาส การ์เดียน ซึ่งดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง 
             และแน่นอน คุณไม่มีทางได้เห็นโรงหนังแบบธรรมดาทั่วไปในไวท์โรด

    ขณะที่จอภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดบนโลกมนุษย์คือไอแม็กซ์ขนาดตึกแปดชั้น จอภาพยนตร์ของไวท์โรดกลับมีขนาดมาตรฐาน แต่สิ่งที่เรียกว่า “4D” ก็ทำให้มันห่างจากคำว่ามาตรฐานลิบลับ โฟร์ดีเป็นญาติห่างๆของแว่นตา ซึ่งมีแค่เลนส์สี่เหลี่ยมบางเฉียบสองอัน มันสังเคราะห์ขึ้นจากจอภาพสี่มิติที่สามารถส่งแรงยึดติดกับใบหน้า ทำให้คุณดูเหมือนมนุษย์ต่างดาวที่สวมแว่นกันแดดไม่มีขา ซึ่งไอ้โฟร์ดีนี่แหละที่จะทำให้จอภาพธรรมด๊าธรรมดากลายเป็นจอภาพมหึมาราวกับว่าคุณได้อยู่ในจอนั้น!

    โรงภาพยนตร์ประกอบด้วยสองชั้นลักษณะคล้ายกับโรงละครโอเปร่า

    ชั้นแรกแบ่งเป็นสองฟาก และไล่ระดับลงเป็นขั้นบันได มีที่วางแขนซึ่งสามารถสั่งเครื่องดื่มหรือป๊อบคอร์น ส่วนชั้นสองเป็นที่นั่งลอยได้! – ใช่ หากคุณจะเต็มใจซื้อตั๋วแบบวีไอพี คุณก็จะได้ที่ส่วนตัวในการจู๋จี๋กับคู่รักแบบสองต่อสองกลางเวหา

    อ้อ เขามีบริการเสริมที่นั่งสามอันติด สำหรับกรณีรักสามเศร้าด้วยนะ

    มันก็แค่การหลอกตัวเองว่าเราสองรักกันอย่างกับขึ้นสวรรค์ อเล็กซ์บอก

    เวลาบ่ายโมงตรงเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน ไฟโรงภาพยนตร์ก็ดับ พร้อมกับเสียงดนตรีบรรเลงโหมโรงสุดจะคุ้นหู ไม่ต้องใช้เวลานานนัก ผมก็จำได้ทันทีว่ามันคือเพลงเดียวกับเดอะไกด์บุ๊คของอาร์คีดีมัส

    สวัสดีผู้ชมที่รัก

     และคนที่ทักทายเราด้วยใบหน้าสดชื่นเกินเหตุตอนนี้ก็คืออาร์คีดีมัส   

    ยินดีต้อนรับสู่ไวท์โรดซีนีเพล็กซ์ ดินแดนมหัศจรรย์แห่งความบันเทิง คุณสามารถเพลิดเพลินกับโฟร์ดีที่ทันสมัยกว่าใครและสามารถสั่งของว่างสุดอร่อยได้ทันใจจากที่วางแขน อาร์คีดีมัสขนาดเท่าตึกสิบชั้นพูด คุณมีเวลาห้าวินาทีในการปิดสัญญาณสื่อสารบนนาฬิกา เริ่มนับถอยหลัง ห้า

    อะไรอ่ะ ?

    พอล ปิดสัญญาณหรือยัง?” เจอร์รี่หันควับ

    ปิดยังไง?” ผมงง

    ตายห่า!” เพื่อนๆ ตื่นตระหนก

    สอง หนึ่ง

                    เอามานี่

    แต่ขณะที่อเล็กซ์คว้ามือผม อาร์คีดีมัสบนจอก็คว้าระฆังมาตีดัง

                    เป๊ง!!

              ผู้ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฏได้แก่ มิสเตอร์พอล เอลแกน ที่นั่งหมายเลขเอสิบ

                    เกิดเสียงพึ่บพับเมื่อคนทั้งโรงหันพร้อมกัน

              สปอร์ตไลท์

     อาร์คีดีมัสดีดนิ้ว ลำแสงไฟสีเหลืองสาดมา ผมตัวแข็งทื่อ ตาค้าง และกำลังจับมืออเล็กซ์

                    เขามีคู่ขาด้วย เสียงกระซิบกระซาบดังแว่วมากับสายลม ผมกับอเล็กซ์หันมามองกันช้าๆ เราต่างอ้าปากหวอ

                    โอ้ว โรแมนติก คู่รักชายหนุ่มคู่หนึ่งทอดสายตาเอ็นดูให้เราจากที่นั่งชั้นสวรรค์ แล้วเขาทั้งคู่ก็จูบกัน  
                   วินาต่อมาแสงสปอร์ตไลท์ดับลง แต่ใจผมยังเต้นตูมตามเหมือนจะตายเสียให้ได้

                    ฉันไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่แบบว่า เอ่อนายควรจะปล่อยมือกัน

    โทนี่อ้ำอึ้ง ผมกับอเล็กซ์แทบจะผลักกันกระเด็นไปคนละทาง เราต่างดิ้นรนทุกวิธีที่จะไม่มองหน้ากัน ผมเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ

    ตอนนั้นเองที่มือผมกับอเล็กซ์สัมผัสกันอีกครั้ง

    โอ้ว น่ารักที่สุด

    สองชายคู่เดิมหัวเราะคิกๆ โทนี่เสนอให้ผมสลับที่นั่งกับเจอร์รี่ ซึ่งผมก็ยินดีทำตามในทันที

    บัดนี้จอภาพยนตร์กำลังฉายหนังตัวอย่าง ผมพยายามเลื่อนตัวให้ต่ำจากพนักเก้าอี้เพื่อหลบสายตาผู้คน จนเมื่อมังกรตัวมหึมาในจอภาพพ้นไฟใส่หน้า ความร้อนและสายลมเหมือนจริงที่ซัดเข้าหา ก็ทำให้ผมลืมฝันร้ายที่ผ่านมาโดยปริยาย

    ใช่ โรงหนังไวท์โรดเป็นอะไรที่สุดยอด ยกตัวอย่างเช่นฉากที่พวกอาเทน่าเดินเข้าไปในที่พำนักของเทพคัตสึนะ เราก็จะได้สูดกลิ่นดอกซากุระเต็มปอด ตอนที่สไปค์ปลุกปล้ำกับดาร์คไนท์กลางเวหา เก้าอี้ที่โยกขึ้นลงอย่างบ้าคลั่งก็ทำให้ผมหัวเราะร่า ฉากที่เจ้าชายฟินิกซ์ถูกซัดลอยไปในอากาศ เก้าอี้ก็จะเชิดขึ้นจนขาเราลอยชี้ฟ้า มีน้ำปล่อยลงมาจากเพดาในฉากที่ฝนตก แถมพื้นยังสั่นสะเทือนเสมือนจริงในฉากที่เกิดการสู้รบ โอ้ พระเจ้า ช่างเป็นการชมภาพยนตร์ที่ระทึกขวัญที่สุด แม้จะมีคนกอดกัน จับมือกัน จูบกัน แต่ก็ไม่มีแมลงสาบ ไม่มีเสียงโทรศัพท์ ไม่มีเสียงเด็กร้องไห้ และไม่มีใครเอาไก่ทอดมากิน

    กระนั้นก็ใช่ว่าจะไร้สิ่งที่ทำให้ผมคิดถึงโรงหนังบนโลกมนุษย์

    ฉากต่อไปเจ้าชายฟินิกซ์จะถูกจับ!”

    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพากย์อยู่ข้างหลัง ความจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ผมรู้ว่าพระเอกจะเจออะไรก็เพราะเธอบอก ผมรู้ว่านางเอกจะสู้ชนะไหมก็เพราะเธอเล่า เธอผู้นั้นมักพูดบ่อยๆ ว่า

    ฉันอ่านหนังสือมาแล้วฉันรู้ดี

    ซึ่งเพื่อนๆเธอก็ดูจะชื่นชมในวีรกรรมอันน่ารังเกียจนี้เหลือหลาย เพราะมีเสียงแนวๆว่า

    โอ้ พระเจ้า เธอเก่งจัง

    แล้วชีก็จะตอบ

    ขอบคุณ คนชมบ่อย  

           เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมหันไปมองหลายครั้ง แต่นั่นยิ่งทำให้เธอพากย์ดังขึ้น เหมือนเธอคิดว่ามีคนสนใจ มีคนอยากรู้จัก ทั้งที่ผมทำเสียงเจ๊อะปาก เธอก็หาได้สำนึกไม่ คนอื่นอาจจะสนุกกับภาพยนตร์จนลืมสนใจ แต่ผมทำไม่ได้ เสียงของเธอเป็นมลพิษ เธอคือความผิดพลาดของพระเจ้า และผมก็ได้แต่คิดว่าควรจะมีใครทำอะไรซักอย่าง

                    ขอโทษนะคะ

                    ในที่สุดก็มีใครทำอะไรซักอย่าง

                    ช่วยเงียบหน่อยได้ไหมคะ?”

                    เสียงอ้อนวอนนั้นแสนสุภาพ มีการศึกษา น่าทะนุถนอน

    และผมผงะ เมื่อพบว่าเสียงนั้นมากจากเจอร์รี่ เอเวอร์ร่า!

                    ทำไม โรงหนังเป็นของเธอรึ?” สาวนักพากย์ท้าทายอย่างก๋ากั่น บังเกิดความตื่นตระหนกในฉับพลัน ผู้ชมพากันหันมามองพวกเรา แม่สาวปากมากกับแก๊งค์สาวไร้สมองของหล่อนทำท่ายิ้มกริ่มจองหอง ผมมองเจอร์รี่อย่างหวาดกลัว ความอึดอัดลุ้นระทึกแผ่รังสีไปทั่ว จูเลียสัมผัสบ่าเพื่อนสนิทแล้วพูดว่า

                    ใจเย็นๆนะ    

                    ปล่าวหรอก โรงหนังไม่ใช่ของฉัน เจอร์รี่ยิ้มแบบนางเอก แต่เป็นของทุกคน ที่อยากดูหนังโดยไม่ต้องมีเสียงพากย์นอกฟิล์ม

                    เพียงแค่นั้น เสียงปรบมือก็ดังสนั่น ตามด้วยเสียงหวีดร้องราวกับการแสดงที่เยี่ยมยอดที่สุดของเจอร์รี่เพิ่งจบลง ผมหัวเราะทั้งสะใจ เจอร์รี่โบกมือส่งจูบให้หลายคนที่ยกนิ้วโป้งให้ จนผมอดจินตนาการไม่ได้ว่าเธออาจจะลุกขึ้นแล้วกล่าวสุนทรพจน์

                    ไปกันเถอะ

                    ท้ายที่สุดพลพรรคผู้อวดฉลาดก็พร้อมใจเดิ่นค่อมๆก้มหน้าก้มตาจากไปอย่างปราชัย

                    ไม่ส่งนะ

                    เจอร์รี่ตะโกนไล่หลัง ผมล่ะประทับใจเธอจัง

                    ที่นี่เธอก็คงดูหนังได้สบายใจขึ้น เจอร์รี่บอก

    เป็นเวลาครู่หนึ่งที่เราสบตากัน

                   

    และผมไม่ได้คิดไปเอง ว่ามีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้น

     

    หลังจากภาพยนตร์สามชั่วโมงที่เยี่ยมที่สุดในชีวิตผมจบลง เราทุกคนก็ไปทานอาหารเย็นด้วยกันที่เดอะชิค ซึ่งเป็นร้านที่ขายทุกอย่างเกี่ยวกับไก่ มีพนักงานเสิร์ฟสาวสวยในชุดไก่ มีแมสคอร์ทเป็นไก่ยักษ์ แล้วก็มีสินค้าไก่ๆ ที่ขายโดยหุ่นยนตร์แม่ไก่เต็มไปหมด

    ร้านสำหรับคนรักไก่ เจอร์รี่บอก ตอนนี้เราได้อาหารกันครบแล้ว แน่นอน ผมยังคงยึดติดกับไก่ทอด เฉกเช่นทุกมื้อที่ผ่านมา

    เธอไม่กลัวหรือไง ตอนที่หาเรื่องยัยพวกนั้น อเล็กซ์ถามทั้งเคี้ยวตุ้ยๆ

    เมื่อฉันรำคาญ ฉันมักจะหาทางขจัดต้นเหตุแห่งความน่ารำคาญเสมอ เจอร์รี่ตอบ และฉันก็มั่นใจว่ามีหลายคนที่แอบแช่งให้เก้าอี้ของพวกเหล่าตีลังกาซักห้าตลบ แต่เมื่อการมองด้วยสายตาไม่ใช่สัมฤทธิ์ผล ฉันจึงคิดว่าการเปิดศึกตาต่อตาน่าจะช่วยได้

    เธอหมายถึงอะไร จูเลียสงสัย การมองด้วยสายตาน่ะ

    พอลไง เจอร์รี่หันมามองผม ฉันเห็นนะว่าเธออยากจะฆ่าแม่พวกนั้น

    เอ่อฉันก็แค่รำคาญน่ะ ผมพูดเมื่อใช้มีดหั่นเนื้อไก่

    ก่อนจะชะงัก เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้

    นี่เธอแอบมองฉันเหรอ?”

    แต่คำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบ เพราะทันทีที่เฟรนช์ฟรายห้าจานถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมกัน ความสงสัยของผมก็กลืนหายไปกับสายลม

    เมื่อกี้เธอพูดอะไรหรือเปล่า?” เจอร์รี่ถามด้วยแววตาใสซื่ออย่างสุจริต

    เปล่า และผมเลือกที่จะปล่อยให้มันผ่านไป

    เป็นไง วันเสาร์แรกของนายสนุกไหม?” รีเมียสถาม

    เยี่ยมเลย มีเรื่องน่าประทับใจเต็มไปหมด ทั้งเรื่องโฆษณาในอุโมงค์ เรื่องถูกประจานในโรงหนัง เรื่องกลายเป็นคู่ขาของอเล็กซ์ อ้อ อย่าลืมเรื่องหยดน้ำอำพันในห้องสุขา อันนั้นน่ะ ความประทับใจระดับตำนานเลยทีเดียว

    ดีใจที่เห็นเธอมีความสุข เจอร์รี่พูด

    ขอบใจ ผมยิ้ม  

    นาทีนี้เมื่อได้สบตาทุกคน ผมก็เข้าใจบางสิ่งที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องบอก

    มีประกายแห่งความห่วงใยมากมายอยู่ในแววตาเหล่านั้น ผมรู้สึกได้ถึงมัน และผมตื้นตันที่ได้เห็นมัน การที่พวกเขาชวนผมออกมาวันนี้ จุดประสงค์คงไม่ได้มีแค่ดูหนัง

    แต่เพื่อให้ผมรู้สึกดีขึ้นจากเรื่องเมื่อวานต่างหาก

    เธอไม่ได้น้อยใจฉันใช่ไหม ที่ฉันแบบว่า เอ่อ ไม่ได้ไปกับเธอเมื่อวาน จูเลียอ้ำอึ้ง

    ฮะ ไม่ ไม่เลย ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ

    ฉันแค่คิดว่าเธออยากแสดงความรู้สึกส่วนตัวในแบบที่ผู้ชายไม่อยากให้ผู้หญิงเห็นน่ะ

    จูเลียหัวเราะแห้งๆ ผมประทับใจจนพูดไม่ออก

    เป็นความคิดของเจอร์รี่และฉันก็เห็นด้วย

    คราวนี้ผมยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่

    เมื่อเราสบตากัน ผมก็พบว่าเจอร์รี่จ้องมองผมด้วยแววตาที่สุขุมกว่าทุกครั้ง

    และก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงรู้สึกอุ่นใจเวลาที่เธอยิ้มให้     

    ถ้านายมีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้นะ รีเมียสพูด

    และห้ามปิดบังอะไรพวกเราเป็นอันขาด จูเลียกำชับ

    อย่างน้อยก็ให้เรารู้ว่านายมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร เราจะได้ช่วยหาทางแก้ได้ อเล็กซ์บอก

    “….อืม ผมยิ้มกลับไปด้วยหัวใจพองโต

    แม้เจอร์รี่จะไม่พูดอะไร แต่แววตาของเธอก็สื่ออะไรได้มากมาย ความรู้สึกดีๆ จากทุกคนทำให้ผมเขินอายจนก้มลงมองเจ้าน่องไก่

    เป็นน่องไก่แบบเดียวกับที่เออร์เน็ตเคยทำให้ทาน

    แต่ผมไม่ได้มองมันด้วยความเศร้าใจ หรือว่าโหยหาอาลัย 

     

    ผมแค่จะบอกมันว่า

     

     

    พ่อครับ ผมมีคนกินไก่เป็นเพื่อนแล้วล่ะ

     

                   

                    เมื่อเสร็จจากมื้อเย็น อเล็กซ์ก็ภูมิใจเสนอ ซีมูเลชั่นฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฮอตที่สุดในไวท์โรด

                    เราไปที่นั่นแทบจะทุกเย็น อเล็กซ์บอก

                    มันเป็นสิ่งเสพติด โทนี่เสริม

                    แต่แล้วแผนเดิมที่เราทั้งหกจะได้สนุกด้วยกันก็ต้องล่ม เมื่อรีเมียสได้รับการติดต่อจาก

    อาร์คีดีมัสว่า

                    เราต้องเข้าประชุมด่วน

                    ตอนนี้น่ะเหรอ?” อเล็กซ์งง รีเมียสพยักหน้า

                    มีเรื่องอะไร เขาถึงเรียกประชุมในวันหยุด เจอร์รี่ขุ่นเคือง

                    คงเป็นเรื่องสำคัญ รีเมียสถอนหายใจอย่างครุ่นคิด

                    ไว้โอกาสหน้าก็ได้ จูเลียยิ้ม

                    รีบไปเถอะ โทนี่บอกอย่างเข้าใจ แล้วทั้งสามกรรมการนักเรียนก็แยกตัวออกไป

                    เป็นอย่างนี้บ่อยๆ เหรอ?” ผมถาม

                    ปล๊าว อเล็กซ์บอก ช่างเหอะ เราไปกันแค่นี้ก็ได้

                    แม้จะเหลือกันแค่สามคน แต่ความกระตือรือร้นของอเล็กซ์กับโทนี่ก็ไม่ได้ลดลง

    พวกเขายังคงพูดคุยถึงแผนการณ์อย่างสนุกสนาน เช่น จะเก็บคะแนนซักเท่าไหร่? จะเอาคะแนนไปแลกซื้ออะไร? นายรู้ไหมว่าสามารถได้ของรางวัลที่ทำให้วิ่งเร็วขึ้นจากไวเปอร์? และวันนี้เซิร์ฟเวอร์จะแจกของรางวัลที่ชื่อ มัลติเพิลทรี มันคือการสนทนาที่ผมไม่มีวันเข้าใจ เหมือนกับเด็กเรียนที่อยู่กลางแก๊งผู้ชายบ้าบอล คุณจะรู้ได้ไงว่าใครเบอร์อะไร? จะรู้ได้ไงว่าใครเคยทำประตูมาแล้วเท่าไหร่ ? หรือจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นขวัญใจชาวสีม่วง
              ไม่เลย คุณไม่ทางรู้ 
              และเมื่อใดที่คุณไม่รู้ คุณก็จะถูกตัดออกจากวงสนทนา ราวกับว่าคุณเป็นชาวต่างดาวที่สื่อสารกันคนละภาษา

    แต่น แตน แต๊น

    อเล็กซ์ผายสองมืออย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเราเดินทางมาถึงอาคารทรงไม้ฉากด้านทิศตะวันออก

    ผนังโดยรอบเป็นจอภาพขนาดตึกสี่ชั้น พวกมันถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน แต่ละส่วนแสดงภาพเคลื่อนไหวต่างๆกัน ทั้งภาพของคนมากมายที่กำลังต่อสู้กับปีศาจนกยักษ์ ภาพฝูงงูบินสีเขียวที่แหวกว่ายกระโจนทะยานไปตามทะเลคลั่ง ภาพสนามรบที่เต็มไปด้วยผู้คน รวมถึงภาพปีกาซัสสีแดงหกปีกที่กรีดร้องเสียงแหลม มันดูราวกับมหกรรมหนังตัวอย่างในนิทรรศการภาพยนตร์แห่งชาติ เพียงแต่ไม่ใช่ภาพยนตร์ แต่มันคือเกมส์! เกมส์ที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ คนในจอภาพเหล่านั้นคือคนจริงๆ! – อเล็กซ์เดินนำพวกเราฝ่าฝูงชนพลุกพล่านไปยังสิ่งที่ผมเคยเห็นในไวท์พอยต์มาแล้วหลายครั้ง มันคือเสาที่เกิดจากการรวมตัวของจอภาพทรงลูกบาศก์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางบ่อน้ำวงกลมขนาดมหึมา สิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นของเหลวสีฟ้าเหนียวหนืดและมีริ้วแสงสีขาวไหลเวียน ละอองแสงสีขาวมากมายลอยละล่องขึ้นจากบ่อน้ำไปตามความสูงของเสาดูสว่างสไว ใจกลางเสาคือใบหน้าผู้หญิงซึ่งปรากฏอยู่ในหลายๆ ที่ของไวท์โรด เธอกำลังพูดว่า

     

    ลุ้นเป็นผู้โชคดีรับของรางวัลมัลติเพิลทรี ถึงสองทุ่มตรงของวันนี้

     

    เรามีเวลาอีกสามชั่วโมง อเล็กซ์ก้มลงดูนาฬิกา เมื่อนายเข้ามาในซีมูเลชั่นฮอลล์เมื่อไหร่ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งตรงเข้าสู่นาฬิกาไวท์โรดโดยอัตโนมัติ กดปุ่มเรียกไอคอมขึ้นมา นายจะพบโฟลเดอร์ซีมูเลชั่นฮอลล์

    ผมทำตามที่อเล็กซ์บอก และได้พบโฟลเดอร์นั้นซึ่งเป็นสีแดงสด

    คลิกเข้าไป

    เมื่อผมคลิกก็มีหน้าจอใหม่ปรากฏ พร้อมกับชื่อของผมมุมขวาบน

    นายจะเห็นว่ามีเซิร์ฟอยู่หลายชื่อด้วยกัน แต่เพราะฉันพานายเปิดซิง นายต้องเลือกสิ่งที่ฉันแนะนำ ในที่นี่คือเซิร์ฟเวอร์เอเรส

    แล้วมันต่างจากเซิร์ฟเวอร์อื่นยังไง?” ผมถาม

    มันต่างตรงที่ว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เป็นของพวกขาโหด อเล็กซ์บอก

    เราโปรดปรานความท้าทาย แล้วก็นิสัยเสพความตื่นเต้น โทนี่เสริม

    แต่ฉันไม่เคยเล่น ผมแย้ง

    มันก็คล้ายๆ กับซีมูเลชั่นสปีดที่นายเรียนนั่นแหละ เพียงแค่มีคนเยอะหน่อย

    สัตว์ประหลาดเยอะหน่อย

    ฆ่ากันเยอะหน่อย

    และก็กระทบกระทั้งกันเยอะหน่อย

    แต่เล่นบ่อยๆ นายก็จะเจ๋ง

    อย่างเช่นพวกเรา

    ทั้งสองพร้อมใจวางมือบนบ่าผม แล้วหัวเราะฮึๆ อย่างเจ้าเล่ห์

    ไม่ต้องห่วง เทพคุ้มครองของนายอยู่นี่แล้ว

    อเล็กซ์ชี้นิ้วโป้งเข้าหาตัวเอง โทนี่ก็เช่นกัน โอเค ชีวิตผมคงตกต่ำถึงขั้นมีเทพเป็นชิปมั้งซะแล้ว

    ว้าว ดูนั่นซิใคร?

    เสียงอันแสนสดใสดังขึ้นอย่างจงใจให้เราได้ยิน เชื่อเหอะ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด
             “นายมาทำอะไรที่นี่ พอล เอลแกน ฉันไม่เห็นจะมีม้าหมุนหรือชิงช้าเด็กเล่นเลยซักอัน โฮการ์ดหัวเราะเย้ยหยัน สมุนของมันหัวเราะตาม

    พอนายใส่ชื่อเสร็จ ก็กดโอเค จากนั้นก็เลือกเพื่อนที่จะเป็นกลุ่มเดียวกับนาย ซึ่งก็คือฉันสองคน อเล็กซ์อธิบายต่ออย่างไม่ใส่ใจภัยคุกคาม ผมทำตาม

    ว้าว ใจกล้านี่หว่า เล่นเซิร์ฟเวอร์เอเรส โฮการ์ดพูดเสียงดัง มันกับลูกน้องหัวเราะ ผมสูดหายใจเข้าอย่างอดกลั้น

    โอเค ตอนนี้เราอยู่กลุ่มเดียวกันแล้ว จากนั้นก็คลิก ตกลง อเล็กซ์พูดต่อ เขาแสดงท่าทีเมินเฉยได้เนียนมาก

    เฮ้ย พูดด้วยไม่พูดตอบ หยิ่งหรือไงวะ โฮการ์ดผลักผมเบาๆ แต่ก็มากพอจะทำให้เซ

    นายรู้กฏที่นี่ดี อเล็กซ์เดินเข้ามาขวางด้วยสายตาดุดัน

    ถ้าโปรแกรมอ่านชีพจรได้ว่าพอลตกอยู่ในอันตราย คนที่จะซวยก็คือนาย โทนี่เสริม

    ไม่ยากเกินจะเข้าใจใช่ไหม?” อเล็กซ์เลิกคิ้ว โทนี่ดันผมไปหลบข้างหลัง

    อะไร๊ สตีฟสัน ทำไมแกถึงลดตัวไปคบกับพวกปลายแถว?” โฮการ์ดเดินเข้าประชิด ยามที่อกของทั้งคู่ชนกัน มันก็เห็นได้ชัดว่าโฮการ์ดทั้งสูงกว่า แข็งแรง และป่าเถื่อนกว่าอเล็กซ์หลายเท่า 
             เหมือนการเอาจิ้งจกมายืนข้างควายถึก

    แกจะทำไมฉัน?” โฮการ์ดกระซิบเผ็ดร้อนแต่แผ่วเบา แววตาของเขาช่างดุร้าย

                    ถ้านายคิดจะท้าทาย ทำไมไม่ไปเจอกันในเกมส์ล่ะ?” อเล็กซ์ยิ้มมุมปาก โทนี่ตาลุกวาวขึ้นมาทันใด

                    โอ้ว้าว เจอกันในเกมส์กับไอ้ไก่อ่อนที่ใช้ทรายสู้กับฉันเนี่ยนะ โฮการ์ดทำขนลุกจนโอเวอร์ ผมแทบจะได้กลิ่นไหม้ของความแค้นที่ประทุอยู่ข้างใน

                    อ๋อ นี่น่ะเหรอ ไอ้คนที่พี่บอกว่าใช้ทรายน่ะ เด็กหนุ่มที่ดูอ่อนกว่าหัวเราะ เขาสูงประมาณร้อยเจ็บห้าเซนติเมตร ตัวผอม ผมสีดำเซ็ตตั้งแบบโฮการ์ด ดูก็รู้ว่าเป็นความผิดพลาดอีกอย่างของพระเจ้า

                    ใช่ ชาเร็ต นี่แหละ ไอ้ไก่อ่อนที่บอก โฮการ์ดตอบ 

                    พนันกันไหมล่ะ?” โทนี่เสนอ ถ้านายชนะ ฉันจะยกเกราะมิธธิลให้นาย

                    ส่วนฉันจะให้แหวนคอมแมนเดอร์อเล็กซ์เสริม ถึงผมจะไม่รู้เลยว่าสองสิ่งนั้นคืออะไร แต่ก็มันคงมีค่าพอจะทำให้โฮการ์ดกับพรรคพวกตื่นตะลึงได้

                    น่าสน โฮการ์ดยิ้มข่มความตื่นเต้น            

                    แต่ถ้าแพ้ อเล็กซ์ยกนิ้วชี้ นายต้องเรียกพอลว่าพ่อ

                    อเล็กซ์!?” ผมหันขวับ อเล็กซ์กางแขนมากั้นทั้งยังไม่ละสายตาจากอีกฝ่าย

                    ว่าไง?” โทนี่เลิกคิ้วราวกับจะคะยั้นคะยอ โฮการ์ดมีสีหน้าทะมึนทึง เขาเหมือนหมาบ้าที่พร้อมจะแยกเขี้ยวกัดคออีกฝ่ายตลอดเวลา เขาสบตาผม สบตาอเล็กซ์ ทำอย่างนี้หลายครั้งจนกลายเป็นช่วงนาทีอันแสนอึดอัด

                    โถ่เอ๊ย นายมันโตแต่ตัว ไปกันเถอะ อเล็กซ์กับโทนี่พร้อมใจกันยักไหล่ หันหลังให้พวกนั้น แล้วกลับมาสนใจกับหน้าจอไอคอมอีกครั้ง

                    ก็ได้ในที่สุดโฮการ์ดก็รับคำท้า 
             ผมไม่ได้ตาฝาดที่เห็นอเล็กซ์ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

                    ต้องอย่างนั้น อเล็กซ์หันกลับไปหน้าระรื่นกวนประสาท

                    กติกาล่ะ?” โฮการ์ดถาม

                    แบ่งทีม ทีมละสามคน ทีมไหนเอามัลติเพิลทรีออกมาได้ ทีมนั้นชนะ อเล็กซ์ชูสามนิ้ว

           ฉันก็ขอเพิ่มเดิมพัน โฮการ์ดกอดอก ถ้าพวกแกชนะ นอกจากฉันจะเรียกไอ้หน้าขาวนั่นว่าพ่อแล้ว ฉันยังจะให้ของทั้งหมดที่ฉันมีกับมันด้วย

                    ถึงอเล็กซ์กับโทนี่จะทำขรึม กระนั้นดวงตาก็เก็บความตื่นตะลึงไม่อยู่

                    แต่ถ้าพวกแกแพ้ นอกจากจะเสียของหายากสองอย่างนั้นแล้ว โฮการ์ดเว้นช่วงอย่างชวนติดตาม เจ้านั่นจะต้องโค้งคำนับทุกครั้งที่เจอฉันกับน้องชายทั้งสอง

                    เมื่อถูกมันชี้หน้า ผมก็หายใจกระตุก

                    พี่ครับ เด็กชายที่ตัวเล็กที่สุดในพวกมันร้อง เขามีใบหน้ารูปไข่ใสสะอาด แววตาอินโนเซนต์ ผมสีทองหนา ดูรวมๆ เหมือนตุ๊กตา ผมตกใจที่ได้ยินเขาเรียกโฮการ์ดว่า พี่เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ลูกแกะตัวน้อยน่ารัก จะเป็นพี่น้องกับหมีควายตัวยักษ์ติดสัดได้เลย

                    ไม่ต้องห่วงอาเดรย์ โฮการ์ดวางมือบนหัวน้องชาย ตบยุงตายง่ายยังไง เกมส์นี้ก็ง่ายอย่างนั้น               

                    ตกลง อเล็กซ์ตอบ ผมแทบจะกรี๊ด!

              ไม่ต้องห่วง เราชนะใส โทนี่กระซิบข้างหู ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

                    เซิร์ฟเวอร์เอเรส อเล็กซ์บอก

                    ขาประจำอยู่แล้ว โฮการ์ดยิ้มเยาะ แล้วมันกับน้องชายสองคนก็ป้อนข้อมูลลงไอคอม

                    เชื่อใจฉันโอเค๊?” 
             อเล็กซ์หันมาขยิบตา ผมพยักหน้ากลืนน้ำลายดังเอื้อก

                    เมื่อกระบวนการลงทะเบียนเสร็จสิ้น เราสองทีมก็สบตาราวกับจะฆ่ากัน

                    ห้า อเล็กซ์เอ่ย

                    สี่ โฮการ์ดยิ้ม

                    สาม โทนี่นับต่อ

                    สอง โฮการ์ดนับ

                    หนึ่ง

     

    พวกเขากดปุ่ม ตกลง พร้อมกัน แล้วเราก็ทั้งหกก็พลันถูกแสงสีขาวโอบล้อม!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×