ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Pop's The White Road 1 (Re-birth)

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 2 : What Do You Want ? (Part1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.39K
      9
      26 ก.ค. 51

    คุณอยากได้อะไรมากที่สุด ?

     

    เก็บคำตอบไว้ในใจ เพราะไม่ว่ามันจะดีจะร้าย เราทุกคนก็มีความอยากเป็นของตัวเองทั้งนั้น

     

    เด็กสาวบางคนอยากได้กระเป๋าเบรนด์เนมถึงขั้นยอมเป็นเด็กเสี่ย

    เด็กหนุ่มบางคนอยากมีมือถือถึงขั้นยอมเล่นพนันบอล

    ผู้หญิงบางคนอยากพิชิตใจชายหนุ่มถึงขั้นลงทุนเพิ่มขนาดหน้าอก

    และผู้ชายบางคนอยากพิชิตใจหญิงสาวถึงขั้นใส่ยานอนหลับในเหล้าที่เธอดื่ม (หลังเพิ่มหน้าอก)

     

    ผมเองก็มีความอยากอยากที่จะมีชีวิตใหม่ อยากอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อยากเจอผู้คนใหม่ๆ

    แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าชีวิตใหม่ จะเป็นอะไรที่ไกลเกินกว่าความฝันจะไปถึง 

     

    กระนั้น มันก็ดูจะเป็นสิ่งเดียวที่เหมาะกับผม

     

    ผมอยู่ที่นี่ และกำลังคุยกับคุณผ่านที่แห่งนี้

     

    ที่ๆถูกเรียกว่า ไวท์โรด

     

     

     

     

     

    Chapter 2

    What Do You Want ?

     

     

     

     

     

              ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวสิบนาทีและกุลีกุจอมาถึงล๊อบบี้ในเวลาสองนาที มีเวลาอีกแค่ยี่สิบนาทีก่อนที่คาบเรียนวิชาเอ่อการควบคุมพลังแฝงจะเริ่มขึ้น

    ผมรับได้กับการที่จะไปโรงเรียนโดยรถด่วนความเร็วแสง

    แต่ทำใจรับได้ยากจริงๆ ที่ต้องบอกใครว่ามีเรียนวิชาการควบคุมพลังแฝง

                    พอล

                    ผมหันไปตามเสียงเรียก และพบจูเลียที่กำลังโบกไม้โบกมืออยู่หน้าหอพักหญิง

                    ไง ผมยิ้มแบบผู้มีมารยาทซึ่งกำลังเร่งรีบ

                    กำลังจะไปเรียนหรอ ? เธอเดินเข้ามาด้วยหน้าตาสดใส

                    ใช่

                    แล้ว ทำไมเพิ่งลงมา?

                    ฉันสนุกสนานกับเดอะไกด์บุ๊คนิดหน่อย

                    อ๋อ คงได้รู้อะไรเยอะแยะ

                    ใช่ ฉันรู้ว่ากล้องที่ใครบางคนแอบถ่ายตอนฉันผ่าตัดมีความละเอียดสูงมาก น่าประทับใจ ว่าไหมล่ะ ?

                    อย่าซีเรียส ไม่มีใครจำเธอได้หรอก

                    ยู้ฮู จูเลีย

                    ใครบางคนส่งเสียงร้องอย่างดัดจริต จนผมเผลอดีใจ นึกว่ามีคุณตัวเพื่อนเก่าหลงข้ามมิติ

                    เพื่อนคะ ไปกันเถอะ โอ้ว!”

                     เธอยกมือป้องปากอุทานเหมือนตัวละครเวอร์ๆในบอร์ดเวย์ ดวงตาสีฟ้ากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างและมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เด็กสาวผู้นี้มีผมสีทองดัดลอนที่ดูสว่างมากยามต้องแสงอาทิตย์ ใบหน้าของเธอสวยเฉี่ยวเหมือนนางแบบ ยิ่งหุ่นสูงชะลูดภายใต้ชุดสูทสีขาว อกเป็นอก เอวเป็นเอว กับริมฝีปากแดงแปร๊ด ยิ่งทำให้เธอเหมือนนางแบบ เธอมองจูเลียที มองผมที มองจูเลีย แล้วก็มองผมอีกที ก่อนจะตะโกนออกมาดังๆว่า

                    เธอคือผู้ชายในคลิปใช่ไหม!

                    ผมหยุดหายใจ และหลายคนรอบกายผมหยุดเดิน

                    ขอบคุณ

                    ฉันเจอร์รี่ เอเวอร์ร่า ยินดี๊ยินดีที่ได้รู้จัก

                    ผมทักทายตอบมือที่กรีดกรายออกมาอย่างเริงรื่น

    โดยไม่รู้เลยว่ามันจะทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป 

    ฉันชอบสีชมพู เธอชอบสีอะไร?เจอร์รี่ถามเมื่อเรายืนอยู่บนชานชาลา

    เอ่อสีน้ำเงิน

    มีใครบอกไหมว่าผมของเธอเป็นสีทองที่สวยมากเธอถามเมื่อรถด่วนมาถึง

    ไม่ค่อยนะ

    เธอเล่นฟิตเนสด้วยเหรอ?เธอถามเมื่อเราอยู่บนรถด่วน

    ไม่นะ

    ดูนั่นซิ เธอมีตาสีฟ้าแบบฉันเลย

    เหรอ ? ผมพยายามยิ้มเมื่อเราลงจากรถ

    ตัวเธอหอมจัง

    โอ้วพอล นั่นไงตึกเรียนของเธอ!” จูเลียทำเสียงตื่นเต้นอย่างมีความหมาย

                    โอ้ว มันลอยได้ ผมทำเป็นมีส่วนร่วมอย่างต้องการเปลี่ยนคู่สนทนา

                    ฉันชอบเวลาเธอร้อง โอ้วววว จัง เจอร์รี่ดึงผมกลับไปสนทนาต่อ

                    ตายจริง! เธอไม่ควรจะสายตั้งแต่วันแรกนะ!” จูเลียแทรก

                    ใช่ๆ นิสัยแบบนั้นไม่ดี เธอว่าไหม?

              อ้าว เจอร์รี่งง

              รีบไปเถอะ  

                    ได้ๆ ไว้เจอกัน

              อืม เจอกัน

                    บายจ๊ะสุดหล่อ

                    บาย

                    ผมกลอกตา แล้วรีบอันตรธานหายไป

              สองสาวยังคงยืนอยู่ตรงนั้น หนึ่งในสองมีแววตาเคลิ้มฝัน ยามมองแผ่นหลังของชายในฝัน

    สวรรค์มาโปรด เขาหล่อล่ำว่าที่ฉันคิดตั้งเยอะ!” เจอร์รี่กระดี๊กระด๊า มีเหตุผลอะไรไหมที่เธอปิดบังฉัน?

                    จะบ้าหรือไง?

                    จูเลียเจอร์รี่ทำเสียงจับพิรุธ

                    เอาล่ะ เธอบ้าจริงๆ

                    ก็แหงล่ะ เธอมีรีเมียสที่เป็นประธานนักเรียนทั้งคนจะสนอะไรกับเด็กใหม่สุดฮอต

    เจอร์รี่เน้นต.เต่าจนน้ำลายกระเด็นเป็นฟอง

                    ความจริงก็คือ ฉันกับรีเมียสไม่ได้เป็นแฟนกัน

                    เพื่อนขา อย่ามา เมื่อวานเธอจ้องกันยังกับคนจะจูบกัน

                    เขาเลือดออกที่ปาก จะให้ฉันจ้องที่อื่นหรือไง

              ความจริงรีเมียสก็มีส่วนให้ชวนจ้องหลายที่นะ

                    เจอร์รี่!”

                    โอเคๆ เจอร์รี่ยกสองมือยอมแพ้ เรามาตกลงกันแบบลูกผู้หญิง

                    ทั้งสองหยุดเดิน จูเลียจ้องมองเพื่อนสาวอย่างไม่ไว้ใจ

                    พอลเป็นของฉัน

                    ฮะ!?”

              จะแคร์ทำไม ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรกับเขา?

                    เธอบ้าไปแล้ว เขาไม่ใช่กางเกงในนะที่เธอนึกอยากจะใส่ก็ใส่ได้

                    ฉันจะใส่ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ เจอร์รี่ถลาเข้ากอดจูเลียพลางยิ้มตื้นตันแบบนางงามเพิ่งสวมมงกุฏ รักเธอ เด็กสาวส่งจูบดังๆ แล้วลัลล้าจากไป ทิ้งให้จูเลียยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น  

     

     

    แผนที่บอกให้ผมใช้ทางแยกทิศตะวันตกเฉียงเหนือของไวท์พอยต์เพื่อขึ้นแคปซูลวาร์ปไปยังตึกไฟท์เตอร์ จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นหก แล้วเข้าห้องที่ชื่อ ห้องซีมูเลชั่นสปีด หมายเลขสิบ

    แม้ขั้นตอนจะดูง่ายดาย แต่ความจริงๆก็คือผมหลงไปตึกของสาขาพลังจิต แถมลงลิฟต์ชั้นผิด จนนาฬิกาส่งสัญญาณเตือนว่าเหลือเวลาอีกหนึ่งนาที ผมจึงปรี่ขึ้นบันได และเมื่อมันเริ่มนับถอยหลังสิบวิ ผมก็ผลักประตูที่มีป้ายเขียนว่า ห้องซีมูเลชั่นสปีด หมายเลขสิบ

    สายตาหลายสิบคู่หันควับมามองผมราวกับทหารที่ถูกสั่งขวาหัน

    ในห้องวงกลมอันกว้างใหญ่ไม่มีใครซักคนเปล่งเสียงออกมา ผมถูกความประหม่าฉุดให้หยุดระหว่างประตูห้อง ชายในชุดสูทสีขาวกับเนคไทสีแดงจ้องมองผม ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ทำลายความเงียบด้วยคำว่า

    มิสเตอร์พอล เอลแกน?

    เอ่อครับ

    เชิญ

    ผมกลืนน้ำลายแล้วเดินเข้าไป ประตูห้องปิดลงและส่งเสียงก้องกังวาน ผมพยายามที่จะไม่สบตาพวกนักเรียนที่มองผม ตอนนี้ผมไม่เห็นใครนอกจากเท้าตัวเองตลอดการเดินทางอันแสนยาวไกล ในที่สุดผมก็มาถึงหลังห้อง ซึ่งเหมาะกับนักเรียนใหม่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

    ผมแหงนหน้ามองไปรอบๆ เพื่อจะพบกับผนังสีดำทึบที่ไม่เหมือนห้องไหน มีเส้นแสงสีแดงเล็กๆวิ่งไปมาช้าๆบนผนัง เพดานห้องนั้นสูงมาก และหน้าห้องที่ชายสูทขาวยืนอยู่ ก็มีโพเดียม

    คริสตัลสีขาวรูปทรงดูคล้ายกับเอ่ออมยิ้มจูบาจุ๊บ

    ทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วใช่ไหมว่าต้องได้คะแนนสองแสนขึ้นไปจึงจะได้สิทธิในการสอบกลางภาค ชายคนนั้นพูดและนักเรียนทุกคนตอบรับ เอาล่ะ แยกย้ายกันไปฝึกได้

    เสียงปิ๊บ ปิ๊บดังไปทั่ว ไอคอมสี่มิติมากมายปรากฏกลางอากาศ พวกนักเรียนเรืองแสงสีขาวขึ้นมาทีละคนๆ เมื่อชายหนุ่มสัมผัสส่วนที่เป็นทรงกลมบนแท่นคริสตัล ทุกคนในห้องก็หายไป

    โอเค ผมชินแล้ว

    มิสเตอร์พอล เอลแกน

    ครับ ผมขานรับ แล้วเดินไปตามมือที่กวักเรียก

    ฉันอลัน แม๊กเนสเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ ยินดีต้อนรับสู่สาขาไฟท์เตอร์

    อาจารย์แม๊กเนสเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับอาร์คีดีมัสเกือบทุกอย่าง เขาบึกบึนกว่า ผิวแทนกว่า ดูแข็งแรงกว่า มือหยาบ ไว้เคราประปราย ดูคล้ายช่างประปาผู้สง่าในสูทงานเลี้ยงบริษัท

    ถ้าอาร์คีดีมัสเป็นเจมส์ บอนด์ อลัน แม็กเนสก็เป็นอินเดียน่า โจนส์ ที่ไม่มีแส้กับหมวกปีก 

    นักเรียนทุกคนในสาขานี้มีพลังแฝงที่ต่างกันออกไป แต่จากข้อมูลที่ท่านอาร์คีดีมัสส่งมาให้ รู้สึกว่าเธอจะยังไม่รู้จักมันดีเท่าไหร่

    ก้อประมาณนั้นครับ ผมยิ้มอย่างประหม่า

    โชคดีที่เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไวท์โรด เรามีเครื่องมือที่จะช่วยให้เธอรู้จักพลังของตัวเองได้เร็วขึ้น อาจารย์แม็กเนสกดเรียกบางอย่างออกมาจากนาฬิกาแล้วส่งให้ผม นี่คืออาวุธของเธอ

    ผมพลิกมองถุงมือประหลาดดูอย่างฉงนสนเท่ห์ มันเป็นสีขาวและมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนที่เป็นหลังมือประกอบด้วยปุ่มปฏิบัติการที่ราบไปกับพื้นผิว มีตัวหนังสือ เส้นกราฟมากมายปรากฏอยู่บนนั้น คล้ายกับการก๊อปปี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วุ่นวายมาวางไว้บนถุงมือ

    ไฟท์เตอร์แต่ละคนมีอาวุธแตกต่างกัน ของเธอคือไวท์โกรฟซึ่งสร้างโดยประมวลผลจากดีเอ็นเอรวมทั้งการระเบิดพลังแฝงของเธอที่ผ่านมา มันสามารถทนความร้อนได้อย่างดีและไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำลายมันได้

    เอ่อหมายความว่าผมมีพลังในการสร้างความร้อนงั้นเหรือครับ?

    ผมรู้สึกว่าพูดประโยคนั้นได้ยากพอๆ กับที่จะถามใครบางคนว่า ผมได้สี่จุดศูนย์ศูนย์เหรอ ?

    เป็นไปได้สูง ลองใส่มันดู ผมทำตามที่เขาบอก

    และเมื่อสวมถุงมือเข้าที่ นาฬิกาผมก็สั่น!

    ตั้งแต่นาทีนี้ข้อมูลของเธอได้ถูกบันทึกลงซีมูเลชั่นสปีดคิ้วผมขมวดเป็นเครื่องหมายคำถาม โลกเสมือนจริง ที่ทุกสิ่งเป็นได้มากกว่าความจริง

    อาจารย์แม็กเนสสั่งให้ผมเปิดไอคอม แล้วเข้าโฟลเดอร์วิชาการควบคุมพลังแฝง ผมใช้นิ้วสัมผัสโปรแกรม ซีมูเลชั่นสปีด หน้าจอของผมขึ้นคำว่า กำลังโหลด และพริบตาต่อมาตัวผมก็เรืองแสงสีขาวราวกับถูกฟอกสี!

    เอ่ออาจารย์ครับ

    ผมเสียงสั่นอย่างต้องการความช่วยเหลือ

    ขอให้สนุก มุมปากของอาจารย์โค้งเป็นรอยยิ้ม และเมื่อเขาสัมผัสวงกลมบนแท่นคริสตัล ผมก็ถูกแรงปริศนากระชากเข้าที่กลางลำตัว ทั่วทุกมุมมองพลันเจิดจ้าขาวโพลน!

     

    ยินดีต้อนรับมิสเตอร์พอล เอลแกน

     

    เสียงคอมพิวเตอร์ฟังดูหลอกหูทักทาย ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง

    และพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องเรียนอีกต่อไป

    ที่แห่งนี้เป็นทุ่งหญ้าสีเหลืองอ่อนกว้างใหญ่ ไกลออกไปคือผืนป่าสีเขียวชอุ่ม และสุดเขตแดนคือภูเขาสีม่วงอ่อนมหึมา ท้องฟ้าปลอดโปร่งสว่างสดใสแทบจะไร้เมฆ สายลมพัดผ่านไปเห็นเป็นลอนคลื่นบนผืนหญ้า กลิ่นของธรรมชาติและสัมผัสจากแสงแดดนั้นเด่นชัด เหมือนที่ผมเคยรู้สึกตอนอาร์คีดีมัสพาไปเที่ยวญี่ปุ่น

    ผิดก็แค่ตอนนี้มีผมคนเดียว ทั้งเสียว ทั้งเปลี่ยว ราวกับอลิซในแดนมหัศจรรย์

              มิสเตอร์เอลแกน

                    เสียงอาจารย์แม็กเนสดังขึ้น

                    ครับ ผมตอบทั้งที่มองไม่เห็นเขา เอาซิ เมื่อเช้าผมยังคุยกับมนุษย์สี่มิติได้ แค่คุยคนเดียวจิ๊บจ๊อยจะตาย!   

    สังเกตที่นาฬิกา เธอจะพบว่ามันเปลี่ยนไป

    โอ้ว จริงด้วย ตอนนี้เก้าโมงสิบนาที เมื่อกี้ยังเก้าโมงห้านาทีอยู่เลย!”

    ฉันหมายถึงรายละเอียดใหม่ๆ เสียงอาจารย์ดูเซ็งๆ

     

    09:10 am

     

    LP       2000 / 2000

    PO                        0

    AR                 1000

    SC                        0           

     

     


                                                                                                                                                

     

     

     

     

     

    เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ไหม?

    ก็ไม่บ่อยครับความจริงคือผมแทบจะไม่ได้เล่น

    ระบบมันจะคล้ายๆกัน ซีมูเลชั่นสปีดคือระบบคอมพิวเตอร์ที่ย่อโลกหลายๆใบมาไว้ในโปรแกรมเดียว โดยเธอสามารถรู้สึกทุกอย่างได้เหมือนจริง ได้สนุกกับมันจริงๆ รายละเอียดเกี่ยวกับมันไปศึกษาในเดอะไกด์บุ๊คแล้วกัน

    แน่ะ โฆษณาแฝง

     “LP คือ Life Point พลังชีวิต ยิ่งมีมากเธอก็ยิ่งจะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น

    เอ่อช่วยเจาะจงคำว่ามีชีวิตอยู่ได้นานหน่อย จะได้ไหมครับ?

    เธอจะตายช้าลง

    ขอบใจ

    PO คือ Power Gauge ยิ่งเธอใช้พลังแฝงมาก มันก็จะยิ่งเพิ่ม ถ้ามากในระดับหนึ่งมันจะกลายเป็นคะแนนให้เธอ

    เอ่อครับ ผมเกาหัวแกร่กๆ

    “AR คือ Armor Gauge เป็นพลังป้องกัน ถ้ามันลดลงเหลือศูนย์เมื่อไหร่ เธอจะป้องกันตัวเองไม่ได้ไปหนึ่งนาที และถูกตัดคะแนนด้วย

    อืมม…”

    อันสุดท้ายคือ SC หรือ Score เป็นคะแนนรวม เธอต้องเก็บให้ได้ครบสองแสนถึงจะมีสิทธิสอบกลางภาค

    เอ่อ ที่บอกว่าตายน่ะครับ มันหมายถึง ?

    ไม่ต้องกลัว ก็แค่ออกจากระบบ

    เอ่อ ผมถอนหายใจ แล้วผมต้อง เอ่อ โจมตีหรือป้องกันตัวเองจากอะไรครับ?

    เริ่มจากตัวที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก่อนแล้วกัน

    ผมถลึงตาเมื่อประจักษ์ว่าที่แห่งนี้ไม่ได้มีผมคนเดียวอีกต่อไป

    !?

    ผมรู้สึกได้ถึงดวงตาสังหารที่จ้องมองผมจากข้างหลังเงาอันใหญ่โตมหึมาของอะไรไม่รู้ทอดทับผมจนปิดแสงแดดได้มิด เสียงคำรามต่ำๆของมันฟังเหมือนเสียงสัตว์ประหลาดในหนัง เมื่ออาจารย์แม๊กเนสบอกว่าทุกอย่างเหมือนจริง ผมก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นลมหายใจและกลิ่นสาปของมันจริงๆ

    ขอให้สนุก

    แล้วอาจารย์ก็จากไปผมค่อยๆหันไปข้างหลังด้วยท่าทางเหมือนตุ๊กตาไขลาน

    โอ้พระเจ้า

    สิ่งแรกที่ผมเห็นคือดวงตาสีแดงชุ่มเลือดซึ่งโดดเด่นบนตัวที่ดำสนิท มันคือกระทิงสูงเจ็ดเมตร! เขาสีแดงของมันโค้งขึ้นไปอย่างสง่าดูน่ากลัว ทั้งตัวอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทรงพลัง ปลายขาทั้งสี่ของมันปกคลุมด้วยขนสีเพลิง และ โอ้ นั่นไฟใช่ไหมที่ปลายห่างมันน่ะ!

    ปิ๊บ ปิ๊บ

    จู่ๆ เสียงจากนาฬิกาก็ดังขึ้น และตามด้วยเสียงบรรยาย

    ซูวีรัส เป็นสัตว์นักล่า ระดับความยากห้า เขาของมันมีพละกำลังมหาศาล เคลื่อนไหวรวดเร็ว และสามารถใช้หางไฟในการโจมตี ปกติซูวีรัสจะอยู่อย่างสันโดษ ยกเว้นฤดูผสมพันธุ์ที่จะอยู่เป็นหมู่ นอกจากจะชอบกินพืชแล้ว ซูวีรัสยังโปรดปรานเนื้อสัตว์อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากหลักฐานทางธรณีวิทยาที่ตัวผู้จะกินลูกตัวเอง

    เยี่ยม

    ผมขยับมือทักทายเพื่อนใหม่ ซึ่งไม่มีสมองพอจะแยกแยะว่าอะไรคือของกินอะไรคือลูก

    !!

    ทันใดนั้นเจ้ากระทิงก็พ่นลมหายใจ จนผมปลิวออกไป! – ผมรีบดีดตัวลุกจากพื้นหญ้าอีกครั้ง หลังจากฟังเรื่องการโจมตี การใช้พลังแฝง การป้องกัน และนานาความรู้จากอาจารย์แม็กเนส ผมก็ได้ข้อสรุปสำหรับการเป็นมาธาดอร์ที่ดี นั่นก็คือ

    เผ่น!

    สองขาผมก้าวสลับสับเหวี่ยงราวกับหนูถีบจักร! เจ้ากระทิงดำส่งเสียงคำรามกึกก้อง และพื้นดินก็พลันสั่นสะเทือนเมื่อมันออกวิ่ง! – ฝูงนกสีขาวตัวน้อยๆแตกฮือกระพือปีกขึ้นมาจากทุ่งหญ้าดูตระการตา ผมวิ่งฝ่าพวกมันไปโดยไม่คิดหันหลัง เสียงฝีเท้าของซูวีรัสดังตูม ตูม ยังกับเสียงลูกตุ้มที่กระหน่ำกระแทกกระทั้น! ประสบการณ์สอนให้ผมรู้ว่าสัตว์ที่จะวิ่งแบบนั้นได้ก็มีแต่ตกมันกับติดสัตว์เท่านั้น! ชายป่าอยู่ห่างไปไม่ไกล  ผมเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด ก่อนจะกระโจนเข้าไปราวกับบิน

    โฮก!

    เจ้ากระทิงแหกปากร้องเกรี้ยวกราดเมื่อมันชนกับต้นไม้ ขณะที่ผมยืนหอบทั้งสะใจว่าสัตว์ขนาดมันคงไม่สามารถตามเข้ามาได้ 

    ไปลดความอ้วนซะ!”

    ผมตะโกนด่า ปากอ้ากว้างเพื่อกอบโกยลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะหันหลังเข้าป่า

    โครม!

    เสียงแห่งการทำลายหยุดผมในทันใด ผมสะบัดหน้ากลับไป และพบว่าซูวีรัสใช้สองเขาทรงพลังขวิดต้นไม้ให้ขาดสะบั้น!

    เขาของซูวีรัสสามารถใช้ทำลายศิลา หินผา และต้นไม้ได้

    โปรแกรมเพิ่งบอก!

    ผมกลับเข้าสู่ยุทธการณ์เผ่นแล้วรอดอีกครั้ง แสงอาทิตย์เผยให้เห็นสภาพป่าที่อัดแน่นไปด้วยไม้ใหญ่ เสียงโวยวายของเจ้ากระทิงและเสียงทำลายดังมาแต่ไกล ผมมองซ้าย มองขวา อย่างไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ไม่มีอุโมงค์ ไม่มีถ้ำ หรืออะไรที่พอจะหลบซ่อนได้ มีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด

    ต้นไม้!

    เนื่องจากผมเองก็มีประสบการณ์เคยปีนต้นไม้หนีนักเลงอยู่บ้าง ฉะนั้นการปีนต้นไม้หนีกระทิงก็คงใช้ทักษะไม่ต่างกัน แม้มันจะเป็นกระทิงสูงเจ็ดเมตรก็เถอะ! เสียงร้องของซูวีรัสดังก้องกังวานราวกับแหกปากผ่านลำโพงชั้นดี ไม่กี่อึดใจผมก็สามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาถึงกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง พุ่มใบไม้หนาทึบช่วยอำพรางตัวผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมนอนคว่ำลงสังเกตการณ์ผ่านช่องระหว่างใบไม้ และเห็นว่าแนวต้นไม้กำลังพังใกล้เข้ามาๆ

    จนในที่สุดเจ้ากระทิงก็มาอยู่ใต้ตัวผม!

    มันทำจมูกฟุดฟิด มองไปทั่ว ท่าทางหงุดหงิด ผมเม้มปากตัวเองไว้สนิท กลั้นหายใจ และเกร็งทุกส่วนของร่างกาย

    แต่เมื่อเหลือบมองแผ่นหลัง ผมก็เห็นนกสีขาวตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้นั้น

    ใจผมเต้นระส่ำพลางหาหนทางจะส่งกระแสจิตไปบอกให้มันอยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งบิน อย่าเพิ่งกินหนอน อย่าเพิ่งถ่ายของเสีย แต่เจ้านกน้อยก็ทำลอยหน้าลอยตา กระโดดด๊อกแด๊กไปมาเหมือนของเล่นที่แถมกับชุดแฮปปี้มีล หากเพียงมันทำตัวเป็นจุดสนใจมากกว่านี้ เจ้ากระทิงคงจะเงยหน้าขึ้น และมันคงทำกับผมเหมือนที่ทำกับต้นไม้พวกนั้น! 

    ( อย่าขยับได้ไหม ขอร้องล่ะ)

    ผมส่งกระแสจิตไปหาเจ้านกไฮเปอร์ ช่วงนาทีแห่งความตื่นเต้นดำเนินไปครู่ใหญ่ ผมรู้สึกว่าใกล้จะตายเพราะขาดอากาศ

    เจ้ากระทิงถอนหายใจแรงๆอีกครั้ง แล้วในที่สุดมันก็จากไป

    (เฮ่อ)

    ผมพ่นลมปากอย่างแผ่วเบา หลับตาพัก ก่อนจะลืมตาอีกครั้ง และพบว่ากำลังสบตากับงูยักษ์

                    โอ๊ะ โอ่

                   

              ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ตรงนี้เมื่อไหร่ แต่รู้ว่ามันกำลังเลียลิ้นแผล็บๆอย่างหิวกระหาย!

    สัญชาตญาณสั่งให้ผมแข็งอีกครั้ง สองแขนของผมโอบกิ่งไม้ไว้แน่น เจ้างูยักษ์ที่สีแทบจะกลืนไปกับเนื้อไม้คลานเข้ามาอย่างลื่นไหล เชี่ยวชาญ และมีจังหวะ ผมเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาสีดำมันวาวคู่โตนั้น เจ้างูค่อยๆชูคอขึ้น พริบตาต่อมามันก็แหกขากรรไกรออก! – โอ้ว พระเจ้า มันมีฟันยาวเฟื้อยเป็นร้อยซี่ แต่ละซี่เคลือบพิษสีม่วงซะหยาดเยิ้ม! ผมหน้าเบ้หลับตาปี๋ด้วยความกลัว สมองผมประเมินผลอย่างรวดเร็วว่าระหว่างโดนงูกัดตาย กับโดนกระทิงขวิดไส้แตกอันไหนจะทรมานน้อยกว่ากัน

    แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบ เจ้างูก็กรีดร้องและฉกหัวลงมา!

                    !!

              เสียงร้องเฮือกสุดท้ายดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงผม

                    เป็นเสียงเจ้านกน้อยแฮปปี้มีลนั่นต่างหาก

                    สมน้ำหน้า!

              ผมหายใจถี่รัวและยันตัวขึ้นนั่ง เมื่อมองตามเจ้างู ก็พบว่ามันเลื้อยขึ้นไปตามความสูงของต้นไม้โดยไม่สนใจผมอีกต่อไป

    บัดนี้ความเงียบทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ผมกระหน่ำหายใจออกเหมือนคนเสียสติ

                    แวราตรอน เป็นสัตว์นักล่าระดับศูนย์ มันสามารถพรางกายเข้ากับสภาพแวดล้อม มีความว่องไว มีพิษมากแต่ไม่ทำร้ายมนุษย์

                    จู่ๆเสียงบรรยายก็ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย!

              แวราตรอน สามารถพบได้ทั่วไปในป่าของหุบเขามอนสเตอร์

    ผมตกใจลนลานหาทางปิดเสียง

    บ่อยครั้งที่มันจะเข้ามาเล่นกับมนุษย์เหมือนเพื่อนผู้ซื่อสัตย์

    เวรแล้วไง ไม่รู้นรกอะไรทำให้เสียงดังขึ้น!

                    ขออภัยที่รายงานช้า เนื่องจากระบบขัดข้อง

              ในที่สุดเสียงบรรยายก็หายไป

     

                    และถูกแทนที่ด้วยเสียงลมหายใจของเพื่อนเก่า

     

                    ไฮ….”

                    ผมฝืนยิ้มให้กระทิงยักษ์ที่ยืนด้วยสองขาเพื่อสบตาผมในระยะประชิด

                    นายตาแดงนี่ มีความรักหรือ?

     

                    โฮก!!

     

                    เสียงคำรามของมันพร้อมกับลมกรรโชกที่พัดผมให้ลอยละลิ่วปลิวตกจากต้นไม้! – หัวผมฟาดกับก้อนหิน แต่ก็ไม่เจ็บ ไม่แตก ไม่มีเลือดไหล ผมลุกขึ้นอีกครั้งได้อย่างมหัศจรรย์แล้ววิ่งต่อไป! – ซูวีรัสตะกุยสี่เท้าพุ่งผ่านผืนป่าและพังทลายปราการแห่งพฤกษาพินาศ! แสงสว่างจากทุ่งอีกฟากอยู่ไม่ไกลผมกำลังจะโผออกไป แต่กลายเป็นว่าถูกเจ้ากระทิงคลั่งขวิดจนลอยละลิ่ว!

              เหวอ!”

                    ผมร้องลั่นในความระดับความสูงเป็นสิบๆเมตร! สายลมพัดขึ้นมาปะทะหน้า - และภาพของทุ่งหญ้าเคลื่อนใกล้เข้ามาเมื่อผมกำลังกระแทกพื้น!

                    ตุบ!

    ช่างเป็นความรู้สึกที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปถึงกะโหลก แต่ก็อีก ผมไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีเลือดออก ผมส่ายหัวแรงๆหลายครั้ง ก้มมองดูนาฬิกา

    เฮ้ย LF ผมเหลือพันเดียว!

              !!

              ทันใดนั้นเสียงฟิ้วประหลาดก็ดังจากฟากฟ้า ผมเงยหน้า และพบต้นไม้ใหญ่ลอยใกล้เข้ามา!

              เปรี้ยง!

              อะไรบางอย่างพุ่งเข้าระเบิดมันจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยเสียงเลื่อนลั่น!

                    ไง ซูวี่

                    เสียงใครไม่รู้ดังขึ้น

    ขณะที่เศษไม้โปรยปรายใส่ผมเหมือนหยาดฝน! – เจ้ากระทิงยักษ์พุ่งออกจากผืนป่า เสียงฟิ้วฟ้าวดังแหวกอากาศและพริบตาขาข้างหนึ่งของมันก็ถูกตัดขาด!

              ต้องอย่างนั้น

                    ซูวีรัสไถลและล้มลงดังตึงจนผมกระเด้งขึ้นจากพื้น!

    บัดนี้มีเด็กหนุ่มสองคนยืนประกบผม คนหนึ่งมีผมสีน้ำตาลอ่อน อีกคนผมสีดำรองทรง

                    เฟริสจัดการให้ที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×