ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Pop's The White Road 1 (Re-birth)

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 4 : 9 Days From Now

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.16K
      8
      31 ส.ค. 51

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้

    เวลา 10.00 pm

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมกลับถึงหอพักตอนเที่ยงคืน

    และไม่ว่าจะเป็นเพราะความคิดถึง ความยินดี ความสุขใจ หรืออะไรก็ตาม

    มันก็ทำให้ผมตื่นตั้งแต่เช้าตรู่

     

    สิบโมงเช้าวันเสาร์นี่คือเสาร์แรกในโลกแสนประหลาด แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกขยาดมันเหมือนหลายวันก่อน ผมลุกขึ้นไปเปิดจอภาพผนังกลาง ปิดแอร์ เปิดระเบียงเพื่อสัมผัสแสงสว่าง และยิ้มต้อนรับวันใหม่ ด้วยความรู้สึกใหม่ที่สดใสที่สุด

     

    เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ

     

    และนั่นคือประโยคแรกที่ผมทักทาย กับใครบางคนที่อาจกำลังมองผมจากฟ้าไกล

     

    ใช่ ผมแทบจะเห็นเขายกนิ้วชื่นชมกลับมาให้เลย

     

    ปิ๊บ ปิ๊บ

    เสียงนาฬิกาเรียกผมให้กดตอบรับ

    ว่าไง

    นายตื่นหรือยัง อเล็กซ์ถาม

    ตื่นแล้ว

    ฉันมีเรื่องสนุกๆจะนำเสนอ

     

     

     

     

     

    Chapter 4

    9 Day From Now

     

     

     

     

     

              อเล็กซ์ไม่ได้บอกว่าเราจะไปไหน แต่บอกให้ผมรีบลงไปเจอเขาที่ล๊อบบี้

    และเมื่อผมลงมาถึง ก็พบว่าทุกคนนั่งรอกันอยู่แล้ว ยกเว้นเฟริส ?

    หมอนั่นติดถ่ายแบบ อเล็กซ์บอก

    เขามักจะป๊อบปูล่าเสมอ โทนี่เสริม ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง เจ้าของสายตาคู่นั้นไม่ใช่ใคร เจอร์รี่ เอเวอร์ร่า เพียงแต่ว่าวันนี้เธอไม่ได้จ้องมองด้วยสายตาที่อยากจะกลืนผมไปทั้งตัวเหมือนทุกวัน

                    เธอต้องการชุดใหม่ เจอร์รี่เอ่ย หลังจากเห็นผมปรากฏตัวในชุดเครื่องแบบนักเรียน

                   

    แหงล่ะ ก็ผมยังไม่มีชุดอื่นให้ใส่

     

                    เรานั่งรถไฟจากหน้าหอพักไปยังตึกรูปร่างประหลาดที่เรียกว่ามอลล์

    มันประกอบด้วยสามส่วน ตรงกลางเป็นอาคารครึ่งวงกลมสีขาววาววับ มีหน้าต่างสีฟ้าใสทรงโค้งมนประดับไปรอบๆ สิ่งที่ขนาบข้างมันคือตึกสูงลิ่วสองตึก มันดูคล้ายไม้ฉาก แต่เปลี่ยนจากเส้นตรงที่ลากจากบนสุดของแกนตั้งไปยังปลายสุดของแกนนอนเป็นเส้นโค้งที่ตีส่วนโค้งเข้าวงใน ทางเดินครอบแก้วเชื่อมตึกทั้งสองเข้าสู่อาคารวงกลมตรงกลาง ทุกอาคารถูกล้อมด้วยวงแหวนแปลกประหลาด มีภาพวีดีโอการโฆษณาสินค้ามากมายไหลไปตามวงแหวนนั้น แม้รูปร่างของมันจะแสนพิลึกพิลั่น แต่นั่นก็เป็นอะไรที่เหมาะกับไวท์โรดที่สุด

    เมื่อผ่านประตูเลื่อนเข้ามา ความเย็นชุ่มฉ่ำก็พัดเข้าสัมผัสใบหน้า

                    ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไปเรียงจากชั้นใต้ดินไปยังชั้นบนสุด ไวท์โรดกลับเริ่มจากชั้นบนสุดไปลงไปชั้นใต้ดิน! ผมเดินไปเกาะระเบียงสีแดงเพื่อจะพบว่าทุกชั้นของมอลล์เป็นวงกลมที่เรียงไล่ลำดับลงไปเรื่อยๆ มันมีทั้งหมดหกชั้นด้วยกัน มีบันไดเลื่อนในครอบแก้วลักษะคล้ายสไลเดอร์ตามสวนน้ำอยู่ตามส่วนต่างๆ มีเสาสีดำสูงลิ่วสามเสา สามารถมองเห็นเงาเเคลื่อนไหวขึ้นๆ ลงๆ ของลิฟต์แก้วสีแดงสะท้อนแสง การตกแต่งเน้นโทนสีดำแดงทันสมัย

    สิ่งที่โดนใจผมสุดๆ ก็คือก้อนวัตถุทรงกลมที่ลอยอยู่กลางอากาศ

    ขนาดของมันใหญ่พอๆกับเอารถสองคันมาประกบกัน จอภาพสี่มิติโอบล้อมเรียบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับมัน วัตถุนั้นก็เหมือนจอยักษ์ที่เอาไว้ฉายมิวสิควีดีโอเพลงดัง โปรโมชั่นสินค้า และโฆษณา เพียงแต่จอยักษ์ในโลกของเราไม่มีคำพูดแนวๆว่า คุณสามารถดาวน์โหลดคูปองส่วนลดสามสิบเปอร์เซ็นต์ โดยการกดเปิดไอคออม แล้วเลือกโฟลเดอร์พิเศษ ไลท์บอล ที่ปรากฏเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในมอลล์ ขอบคุณค่ะ

    และคงไม่สามารถขยายภาพนางแบบให้ใหญ่มหึมา เพื่อเดินโชว์เสื้อผ้ากลางอากาศ!

              ไปดูรอบหนังกันเถอะ จูเลียพูด แล้วเดินนำไปยังสิ่งที่ผมตั้งชื่อว่า บันไดสไลเดอร์

             

              โอ้ว พระเจ้า คุณพอล เอลแกน ทำไมคุณจึงได้ใส่ชุดนักศึกมาเที่ยวมอลล์ล่ะครับ

    เสียงหนึ่งดังขึ้นทันใด ผมหันไปทางขวา แล้วตกใจกับภาพสี่มิติของนายแบบหน้าตาทะเล้น ที่เรียบเป็นเนื้อเดียวกับความมนโค้งของอุโมงค์

              คุณพูดกับผม? ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

    ร้านจัสฟอร์ยูมีเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่นไฟแรงอย่างคุณ ซื้อวันนี้สองชิ้น รับฟรีชิ้นที่สามในราคาสามสิบเปอร์เซ็นต์

                    แล้วมันฟรียังไง ?

              กรี๊ดดดดดดดดดดด

    พลันนั้นจอภาพสี่มิติอันใหม่ก็พุ่งเข้ามากระแทกเขาออกไป เธอคือสาวผิวหมึก ผมแดง ดวงตาสุกใส กลมโต ดูสดชื่นแบบเวอร์ๆ เหมือนร่างโคลนของเหล่าพิธีกรจากควอนตุ้มเทเลวิชั่น

    พอล เอลแกน เคยมีใครบอกไหมว่าคุณหล่อเวอร์!!”

    ยิ้มเธอฉีกจนแทบจะไปถึงดาวอังคาร แต่เราสามารถทำให้คุณหล่อมากกว่านี้ได้ เพียงแค่แวะมาที่ โอ้มายก๊อด ชั้นสาม เชื่อเถอะค่ะ ถ้าพระเจ้ามีจริง พระองค์คงมาตัดผมร้านเรา เอเมน!”

              เธอส่งจูบให้ผม ก่อนจะกระเด็นหายไปเมื่อถูกแม่บ้านในชุดเซ็กซ์ซี่ขาดใจกระแทก

                    รับสเปรย์กลิ่นดอกคำฝอยผสมหอยเชอร์รี่ซักกระป๋องไหมคะ?

                    เธอทำตายั่วยวน เผยอปาก ร้องซี๊ดเหมือนคนกินของเผ็ด และใช้สองมือลูบไล้กระป๋องสเปรย์สีขาวอวบด้วยท่วงท่าที่เร้าใจเกินกว่าจะคลาดสายตา

    เมื่อพ้นเขตอุโมงค์ ผมก็พบว่าสิ่งที่ร้ายกาจกว่าพนักงานขายตรงมีอยู่จริง  เพราะไอ้การโฆษณาถึงพริกถึงขิงมีอยู่แทบจะทุกจุดของมอลล์ ทั้งบนพื้น บนผนัง ที่นั่ง ถังขยะ ราวระเบียง เสียงตามสาย อเล็กซ์บอกว่าพวกมันถูกตั้งโปรแกรมให้สามารถเรียกชื่อของทุกคนได้ และมีระบบความจำที่ดีเลิศ ผมก็ไม่กล้าคิดว่ามันจะมีความจำดีขนาดไหน จนเมื่อโทนี่เดินเข้าไปหมากฝรั่งในร้านหนึ่ง และผมได้ยินหน้าจอสี่มิติเล็กๆที่ถามเขาว่า

    จะรับยี่ห้อสติกกี้รสมะนาวน้ำผึ้งแบบเดิมหรือเปล่าค่ะ?

    ผมจึงเข้าใจ ว่ามันมีความจำที่ดีเลิศจริงๆ!

    โอเค ถึงมันจะทันสมัย แต่ผมก็ไม่ประทับใจ จะให้ผมทำใจยังไง ในเมื่อมีหน้าจจอสี่มิติของผู้ชายปรากฏบนโถฉี่แล้วบอกว่า เล็งถูกเป้าหนึ่งครั้ง รับสิบคะแนน เก็บครบร้อยคะแนน รับถุงยางอนามัยกลิ่นมะยมออกใหม่สองกล่อง!”

    ขณะที่ผมสะดุ้งอย่างสยดสยอง เหล่าวัยรุ่นต่างส่ายร่างกายไปมาอย่างคึกคะนอง เป้าสีแดง เคลื่อนไหวไปรอบๆโถฉี่ มีเสียงโอ้ว อ้าว วี้ดวิ้ว ของโปรแกรมดังขึ้นเป็นระลอก จนมาถึงช่วงไคลแมกซ์การแข่งขัน ที่ไอ้บ้าตัวหนึ่งเล็งพลาด จนผมเกือบจะหลบฉี่มันไม่ทัน!

    ขอโทษครับ

    เขาพูดแค่นั้น แล้วก็จับอาวุธกลับไปสนุกกับเกมส์อีกรอบ ผมยืนอ้าปากหวอ รอให้ใครมาบอกว่าผมแค่ฝันไป

    บิงโก!!”

    เสียงประกาศดังขึ้น ผู้ชนะก็กระโดดดีใจ (ทั้งยังไม่รูดซิป) และนั่นส่งผลให้ฉี่ของมันสะบัดเป็นวงโค้งสวยงามในอากาศ ผมรู้สึกราวกับเห็นภาพนั้นผ่านมาช้าๆผมตะลึงตา ส่ายหน้า - ฉี่สีเหลืองหยดหนึ่งร่วงลงมา ปลายทางความฝันของมันอยู่บนปากผม!

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    ความตื่นตะลึง ทำให้ผมยิ่งแหกปากกว้างเข้าไปใหญ่

     

    และในที่สุด!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ผมไม่ขอเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าผมเดินออกจากห้องน้ำมาด้วยส่วนประสมทางอารมณ์หลากหลาย เหมือนเด็กหนุ่มเพิ่งผิดหวังความรัก เหมือนคุณแม่ที่จับได้ว่าลูกสาวท้องกับคนสวน เหมือนคุณพ่อที่พบว่าตัวเองเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เหมือนบาทหลวงที่เพิ่งทำบาป และเหมือนไมเคิลแจ๊คสันที่พบว่าการฉีดยาเปลี่ยนสีผิวทำให้เขาแย่ลงกว่าเดิม  

    นายดูเหมือนคนท้องผูกนะอเล็กซ์บอก

    ไม่สบายหรือเปล่า?  จูเลียเป็นห่วง

    เปล่า ผมถอนหายใจ เกือบจะร้องไห้รอมร่อ

    ช๊อปปิ้งจะช่วยเธอได้ เจอร์รี่เสนอ

    หลังจากซื้อตัวหนัง เราทุกคนจึงย้ายพลไปยังร้าน ไอคอน ที่มีเสื้อผ้าวัยรุ่นราคาถูกมากมายให้เลือกสรรค์ ผมยังคงทุกข์ระทมกับฝันร้ายในห้องน้ำ และปราศจากอารมณ์ร่วมกับสีสันของเสื้อผ้าโดยสิ้นเชิง

    พอลจ๋า

    เจอร์รี่เดินมาหาผมพร้อมกับกางเกงยีนส์สีดำหนึ่งตัว กับ เสื้อแจ็คเก็ตดำอีกตัว

    อะไร?

    เธอตอบคำถาม โดยการยัดเยียดผมเข้าไปในห้องลองชุดพร้อมกับเสื้อผ้าพวกนั้น

    พอดีหรือเปล่า?

    เสียงเธอดังมาจากข้างนอก ผมถอดเสื้อเชิ้ตนักศึกษาออกแล้วสวมแจ๊กเก็ตแทน

    ว้าว มันพอดีตัวผมเลย

    ใส่ได้นะ ผมบอก นึกว่ามีแต่ซีดีเสื้อผ้าซะอีกที่รู้ขนาดร่างกายผม

    ให้ฉันดูหน่อยซิ

    ผมเปิดประตู เจอร์รี่รีบเดินเข้ามาดู เธอส่งเสียงอืมๆ ตลอดที่พลิกผมดูซ้ายขวา และเมื่อเราสบตาเธอก็พูดว่า

    หล่อเวอร์!”

    เธอประกบมือเสียงดัง ผมหัวเราะเคอะเขิน

    ฉันมีอะไรจะให้เธอลองอีกเยอะเลย

    แล้วนาทีที่แสนวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อเจอร์รี่คว้าเสื้อผ้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าให้ผมลองใส่ เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ไม่มีตัวไหนใหญ่หรือเล็กกว่าไซส์จริงของผมเลยแม้แต่ตัวเดียว มันทำให้ผมอดคิดไม่ว่าเจอร์รี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสรีระ แม้ขณะที่เธอพูดว่า

    กางเกงในสีดำตัวนี้เหมาะกับเธอ

    โอ้ พระเจ้า มันก็เป็นไซส์ที่พอดีเหมือนกัน

    เธอรู้ไซส์ฉันได้ยังไง? ผมถาม

    ฉันลวนลามเธอทางสายตาเธอบ่อยๆ จนรู้ขนาดของร่างกาย รวมทั้งบั้นท้าย เจอร์รี่ตอบอย่างซื่อสัตย์  ส่วนเรื่องกางเกงในนั่น เป็นการศึกษาจากคลิปที่เราก็รู้กันอยู่

    ผมอยากจะฆ่าตัวตายที่ถามเธอจริงๆ!

    เท่าไหร่คะ? เจอร์รี่ถามเมื่อวางเสื้อผ้าเกือบยี่สิบชิ้นบนเคาน์เตอร์

    หกพันเคค่ะพนักงานบอก ผมตะลึง!

              นี่ค่ะ เจอร์รี่ยื่นไวท์การ์ดออกไป

                    เดี๋ยวก่อนๆๆๆๆ ผมรีบเข้าไปขวาง

              อะไร?

                    เธอจะจ่ายให้ฉันหรือไง?

              ใช่ซิจ๊ะ ที่รัก เจอร์รี่เบียดผมไปข้างๆ แล้ววางไวท์การ์ด พนักงานเอื้อมมือมาหยิบ

              นั่นมันตั้งหกพันะนะ ผมคว้าไวท์การ์ดมา พนักวานหยิบอากาศที่ว่างเปล่า

                    ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันรวย เจอร์รี่ริบไวท์การ์ดคืน แล้ววาง พนักงานเอื้อมมาหยิบ

                    ไม่ได้นะ ผมชักฉุนขาด คว้าไวท์การ์ดกลับมา พนักงานเท้าสะเอว

                    เพราะ? เจอร์รี่เลิกคิ้ว

              เพราะว่ามันแพง ฉันไม่ได้ต้องการอะไรขนาดนี้หรอกน่า ผมพยายามอธิบาย

              งั้นก็หยิบไวท์การ์ดเธอออกมาซิ

                    โอเค ผมรู้แล้วเธอกำลังเล่นอะไร ใช่ ผมเพิ่งมาใหม่ ผมมีเงินแค่หมื่นเค แต่ไอ้เสื้อผ้าบ้าบอนี่หกพันเค เธอคิดว่าผมต้องกลัวจะไม่มีเงินใช้แน่ๆ เธอคิดว่าคงไม่กล้าใช่ไหมล่ะ ได้ อยากท้าทายผมก็จะจัดไป

                    แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ มันต้องกดปุ่มอะไรหนอ ?

                    ผมลองกดปุ่ม T อ๊ะ ไม่ใช่ ส่งสัยต้องปุ่ม I นี่ไงๆ เจอแล้ว โฟลเดอร์ห้องเก็บของ โอเค นี่แหละไวท์การ์ด ในที่สุดก็ได้มันมา

                    เอาไป เจอร์รี่ยื่นถุงเสื้อผ้าให้ ผมกระพริบปริบๆ ก็เธอน่ะเสร็จช้า

                    เธอยัดถุงเสื้อผ้าเหล่านั้นใส่มือผม แล้วก่อนที่ผมจะทันพูดอะไร เจอร์รี่ก็ชิงหันหลัง ทั้งทิ้งท้ายว่า

                    มีปุ่มลัดอยู่บนสายรัดน่ะ

                    เธอก้มลงมองตาม


    เออ
    จริงว่ะ

     

                    ในขณะที่พอลยืนถอนหายใจให้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

    ไกลออกใป ใครบางคนกำลังมองเขาผ่านสร้อยสีเงิน

    เป็นเวลาพักใหญ่ที่จูเลียไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าพอลเหมาะกับสร้อยเส้นไหน เธอหยิบ

    สร้อยเส้นแล้วเส้นเล่าทาบกลางอากาศ ให้ตรงกับตำแหน่งเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไกลๆ จะเป็นสร้อยแนวฮิปฮอป แนวคลั่งศาสนา แนวโมเดิร์น แนวรักสัตว์ หรือว่าแนวเมโทรเซ็กซ์ชวล

                   

              จูเลียรีบทิ้งสร้อยแนวเมโทรเซ็กซ์ชวลรูปไม้กางเกงเขน ซึ่งดูก้ำกึ่งไปทางไบเซ็กซ์ชวลมากกว่า ท้ายที่สุดก็มาหยุดที่สร้อยรูปตัวพี ซึ่ดูจะเข้ามากับพอลมากมาย

                    ทำอะไรอยู่? รีเมียสเดินเข้ามา จูเลียรีบกำสร้อยเก็บ

                    เลือกต่างหูน่ะ? เธอบอก พลางสุ่มคว้าต่างคู่หนึ่งมาอวด สวยไหม?

                    รีเมียสขมวดคิ้ว ดูหน้านิ่วยิ่งกว่าตอนแก้โจทย์เคมี

                    เอ่อไม่รู้ซิ เธอชอบหรือเปล่าล่ะ?

                    ฉันก็…” ตอนแรกจูเลียไม่รู้ว่าเธอหยิบอะไร แต่เมื่อก้มดูแล้วพบว่ามันคือต่างหูรูปดาว แววตาเธอก็เปลี่ยนไป ฉันชอบนะ

              ใช่ จะไม่ชอบได้ยังไง สร้อยอันนี้สวยจะตาย มันมีประกายบางอย่างที่ดึงดูดเธอไว้ จนเด็กสาวลืมเสียงรอบกายไปเลย

                    ถ้าเธอชอบ มันก็ดีกับเธอ รีเมียสบอก จูเลียหันไปมอง จะซื้อหรือเปล่า?

                    ฮะอ๋อ ไม่หรอก

                    อ้าว

                    ฉันเสียเงินไปเยอะแล้วล่ะ จูเลียอวดถุงช๊อปปิ้ง รีเมียสส่งเสียงเข้าใจ ไว้วันหลังก็ได้ โอ๊ะ ตายจริง!”

                    เธอร้องเมื่อก้มมองนาฬิกา

                    อีกห้านาทีหนังจะเข้า รีบไปกันเถอะ

                    จูเลียรีบวางต่างหู และห้อยสร้อยรูปตัวพีไว้ที่เดิม แม้ตอนนี้เธอจะรีบเดินไปเรียกอเล็กซ์กับโทนี่ แต่สิ่งที่เด็กสาวทิ้งไว้ ยังไม่อาจทำให้รีเมียสละความสนใจ

                    ต่างหูรูปดาวนั้นน่าจะเข้ากับจูเลียมาก แสงของมันวาบวับไสว ไม่มีใครเหมาะกับมันเท่ากับจูเลีย รีเมียสแทบจะนึกภาพยามจูเลียเฉิดฉายบนทางเดินไวท์โรดได้เลย

    คำถาม ก็คือ เธอจะรังเกียจไหม หากเขาซื้อให้ ?

    รีเมียสยิ้มให้กับความคิดในใจ

     

                    แต่แล้วเขาก็สงสัย

                   

                    สร้อยรูปตัวพีนั่นล่ะเธอหยิบมาทำไม ?

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×