ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha atlove the series 23] Happy Alley: มีสุข 23

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 - Happy Alley ยังเด็ก [Edited]

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 57


     

            

     

    Chapter 3

     

    ผมส่งไฟล์ไปที่เมลล์แล้วนะ  โอเคพี่  หวัดดีครับ”  ร่างสูงขาวของเต๋าที่พึ่งเดินจากร้านมาถึงหน้าบ้าน  ปกติแล้วเต๋าคงไม่เดินมาถ้าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แวะไปที่ร้านชานมไข่มุกเสียก่อน  พอคิดว่าจะต้องโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกครั้งก็ขอเลือกที่จะเดินดีกว่า แดดก็ไม่มีแล้ว ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แล้วอีกอย่างก็ประหยัดด้วย

     

    คชา”  ยอมรับว่าเหนื่อยกับการทำงานและจากการเดินทางอยู่ไม่น้อย  แต่หากความรู้สึกบางอย่างที่มีมากกว่าทำให้เต๋าเดินไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน  มองเห็นคนตัวเล็กนั่งหันหลังเข้าหาสระปลาเล็กๆหน้าบ้าน  แค่เห็นแผ่นหลังบางคุ้นเคยนั่นก็อดไม่ได้ที่จะร้องทัก แล้วทิ้งความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งหมดไว้ข้างหลัง

     

    พี่เต๋าคชาหันไปหาพี่ชายข้างบ้าน ที่กำลังเปิดประตู้รั้วเดินเข้ามาในตัวบ้านโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านสักคำ แต่ก็อย่างว่าเต๋ามีเหตุผลร้อยพันในการเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้อยู่แล้ว  จะต้องไปขออะไร

     

    ทำอะไรอยู่หละเราเต๋าเดินไปยังโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน วางสำภาระทั้งหมดลงก่อนจะเดินไปยังคนตัวเล็กที่กลับไปนั่งหันหลังสนใจบ่อปลาเล็กอีกครั้ง

     

    พึ่งล้างสระปลาเสร็จ กำลังนั่งคุยกับแยมส้มอยู่”  นิ้วเล็กจุ่มลงไปยังบ่อปลา แล้วใช้ปลายนิ้วจิ้มไปยังปลาทองตัวอ้วนกลมที่กำลังว่ายน้ำอยู่ 

     

    ตัวไหนนะแยมส้ม  พี่ยังแยกไม่ออกเลยว่าตัวไหนแยมส้มตัวไหนปังปิ้ง”  เต๋านั่งลงด้านข้างคนตัวเล็ก ตาคมจ้องมองปลาทองสี่ห้าตัวที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำอย่างมีความสุข  ใช่ว่าเต๋าจะไม่เคยมานั่งมองเจ้าปลาทองพวกนี้ว่ายน้ำเสียเมื่อไหร่  ตอนแรกที่คชาพาเขามาหาเจ้าแยมส้มกับเจ้าปังปิ้ง เต๋ายังประหลาดใจอยู่เลยว่ามันจะมีสักกี่คนบนโลกที่ตั้งชื่อปลาทองแบบนี้ได้นอกจากคนน่ารักข้างๆเขา

     

    ก็นี่ไง  แยมส้มจะตัวใหญ่กว่าปังปิ้ง

     

    นั่นวัฟเฟิลใช่ไหม

     

    ไม่ใช่ ๆ  วัฟเฟิลเข้าถ้ำไปแล้ว...นั่นมันโกโก้  พี่เต๋าอะจำไม่ได้สักที

     

    โอเคๆ  งั้นบอกพี่อีกที รอบนี้พี่จำได้แน่ๆ”  แล้วปากเล็กๆกับน้ำเสียงใสๆก็เริ่มอธิบายชื่อของปลาทองเพื่อนยากอีกครั้ง

     

    ก็ตัวนี้โกโก้  โกโก้ตัวใหญ่สุด แล้วนั่นก็แยมส้มกำลังจะตามวัฟเฟิลเข้าถ้ำ แล้วนั่นก็...

     

    สระปลาสกปรกมากไหมเต๋าที่จ้องหน้าคชาสักพักเอ่ยสวนคำบอกเล่าของเด็กน้อยตรงหน้า ยอมรับก็ได้ว่าเขาแทบจะไม่ได้สนใจสิ่งที่คชาพูดเลย  เพราะมัวแต่จ้องแก้มใสกับปากเล็กที่กำลังเจื้อยแจวนั่น

     

    ก็นิดนึง  ไม่ได้ล้างนานแล้ว” 

     

    มิน่า แก้มเลยเลอะแบบนี้”   มือหนายกขึ้นไปสัมผัสแก้มใสของคชาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว  ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยแต่หากไม่ได้เขยิบถอยหนีปล่อยให้พี่ชายข้างบ้านสัมผัสแก้มนุ่มของตนเองอยู่อย่างนั้น  นิ้วโป้งเกลี่ยบางเบาตรงจุดที่คชาคิดว่าน่าจะมีรอยเปื้อนเกาะอยู่   สัมผัสบางเบาที่ผิวหน้าอีกทั้งความมุ่งมั่นตั้งใจบางอย่างในแววตาของพี่เต๋ากำลังทำให้คชาประหม่า   หากเมื่อนิ้วโป้งที่เคยสัมผัสที่แก้มเนียนหยุดเคลื่อนไหว ดวงตาคมที่จ้องมองแก้มใสจึงได้เลื่อนมาสบเข้ากับดวงตาคู่กลม  ความรู้สึกบางอย่างในแววตาของเต๋ากำลังทำให้หัวใจดวงน้อยของคชาเต้นแรงกว่าปกติ  ถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่างตอนนี้หัวใจคชาต้องระเบิดแน่ๆ

     

    นี่แหนะ!”  แล้วมือเล็กก็วักน้ำจากสระปลาไปยังใบหน้าคมขาวของเต๋า  แล้วรีบยันตัวให้ลุกขึ้นยืน  ทิ้งให้พี่ชายตัวโตนั่งยกแขนเอามือเช็ดหยดน้ำออกจากใบหน้า

     

    เข้าบ้านแล้ว  ยุงเยอะเดี๋ยวยุงกัด”  แล้วคนตัวเล็กก็รีบสาวเท้าจ้ำอ้าวเข้าบ้านไปอย่างไม่รีรอ

     

     

    ถ้าคชารู้ว่าเมื่อกี้แก้มตัวเองไม่ได้มีรอยเปื้อน  คชาจะโกรธพี่เต๋าไหมนะ?

     

    -------------------------------------------------------------

     

    เต๋าทำไรอยู่  พี่เข้าไปได้ไหม?

     

    เขามาเลยพี่  ไม่ได้ล็อค”  เต๋าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง  ตาคมละจากหน้าจอโน้ตบุ๊คไปมองพี่ชายที่เดินเข้ามาในห้องก่อนจะหยุดแล้วนั่งลงที่เตียง

     

    ทำไรอยู่วะ

     

    เคลียร์งานนิดหน่อย”  เต๋าว่าก่อนจะหันไปสนใจตัวหนังสือบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คอีกครั้ง

     

    เป็นไงบ้างแก  เข้ามาอยู่บ้านพี่จะเดือนนึงแล้ว

     

    ดีสิพี่ ดีมากเลยหละ ขอบคุณพี่ตี๋อีกครั้งนะครับ ที่ชวนน้องเต๋าคนนี้มาอยู่ด้วย”  เต๋าตอบแล้วยกมือไหว้ล้อเลียนตี๋ยกใหญ่  จนคนเป็นพี่อดไม่ได้จะยกมือขึ้นผลักมือเต๋าออก

     

    ตั้งแต่แกเลิกกับเอมไป  แกยังไม่มีแฟนใหม่หรอวะพี่ไม่เห็นแกพูดถึงใครเลย

     

    ก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง  แต่พอคุยกันแล้วเข้ากันไม่ได้ว่ะพี่ ส่วนมากบอกว่าไม่มีเวลาให้

     

    เอ้อๆ ยังงี้แหละว่ะ บางครั้งผู้หญิงก็เข้าใจยาก

     

    แล้วพี่หละ หลังจากจีบพี่มิ้นท์ไม่ติด   พี่ก็ยังจีบผู้หญิงคนไหนไม่ติดอีกเลยใช่ไหม?”  เต๋าเอ่ยทักพี่ชายตัวเองอย่างล้อเลียน

     

    เดี๋ยวเถอะแก  พี่กำลังยุ่งเว้ย กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ยังไม่อยากหาใครมาตกระกำลำบากด้วย”  ตี๋แก้ตัวออกไปอย่างนั้น  อันที่จริงก็ไม่ได้แก้ตัวไปเสียหมด เขากำลังอยากสร้างฐานะของตัวเองให้มั่นคงกว่านี้  ถ้าหากมีใครในตอนนี้ตี๋คิดว่าคงไม่มีเวลาให้เหมือนที่เต๋าบอกจริงๆ

     

    โอเคครับพี่ตี๋คนดี”  เต๋ายิ้มขำกับคำแก้ตัวของพี่ชาย

     

    แล้วกับคชาเป็นไงบ้าง  เห็นสนิทกับแกดีหนิ

     

    ก็ดีพี่  คชาก็น่ารักแบบพี่ตี๋บอกนั่นแหละ”  อดอมยิ้มขึ้นมาไม่ได้เมื่อนึกถึงน้องชายตัวเล็กข้างบ้าน

     

    อื้ม ดีแล้ว  คชาไม่ใช่คนที่จะสนิทกับใครได้ง่าย  แต่แกอย่าลืมนะเต๋าว่าคชายังเด็ก”  เต๋าละความสนใจจากโน้ตบุ๊ค  หันหน้าไปมองพี่ชาย  รู้สึกตงิดใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ตี๋พูด  เต๋าขมวดคิ้ว เป็นสัญญาณไปยังอีกคนว่าต้องการคำอธิบาย  แต่ตี๋กลับลุกขึ้นยืนตบบ่าเขาเบาๆ  บอกฝันดีแล้วเดินออกจากห้องไป ...

     

    เอ่อ นั่นแหละ  พี่ไปนอนก่อน ฝันดีๆ

     

    เต๋าวางงานทั้งหมดลงแล้ว  แต่แผ่นหลังหนายังคงพิงอยู่กับหัวเตียง สมองยังคงครุ่นคิดอยู่กับสิ่งที่ตี๋บอก

    แต่แกอย่าลืมนะว่าคชายังเด็ก
     ใช่คชายังเด็ก  ยังเด็กมากด้วย...

     

    -------------------------------------------------------------

    เช้าวันเสาร์แห่งทรวงสวรรค์ของพนักงานเงินเดือนกำลังเริ่มต้นขึ้น  วันหยุดที่เฝ้ารอกำลังยืนส่งยิ้มอยู่ตรงหน้า  แต่สำหรับยอดมนุษย์เงินเดือนตัวสูงผิวขาวภายใต้ชายคาบ้านเลขที่ 23/2ยังคงเคาะแป้นคีย์บอร์ดบันทึกข้อมูลการทำงานตั้งแต่เช้าตรู่จวบจนจะเที่ยงวัน ปลายนิ้วยังคงถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน  ดูเหมือนงานที่เต๋าแบกมาทำสุดสัปดาห์นี้จะหนักไม่น้อย  แต่ก็ทำได้เพียงอดทนและตั้งใจทำมันให้เสร็จ  คิดถึงหน้าของใครบางคนที่ตั้งใจไว้ว่าเมื่อเคลียร์งานเสร็จจะเดินไปหาที่บ้านก็ดูเหมือนจะสร้างกำลังใจให้ไม่น้อย

     

    คชา  พี่ว่าจะ...”  เต๋าที่พึ่งเคลียร์งานเสร็จ ก็รีบปรี่มาที่บ้านอีกหลังทันที  แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาในตัวบ้านก็ต้องผงะตกใจไม่น้อย  เมื่อภาพที่เห็นคือคนตัวเล็กกำลังเดินลงบันไดมาพร้อมกับเด็กผู้ชายอีกคน  พูดคุยกันสนุกสนานราวกับสนิทสนมกันมากมาย

     

    พี่เต๋า มาตั้งแต่เมื่อไหร่”  แต่ก็ดูเหมือนจะใจชื้นขึ้น  เมื่อคนตัวเล็กวิ่งดุ๊กๆมาหาทันทีที่เห็นเขาเปิดประตูเข้ามา

     

     

    พี่พึ่งเข้ามาเมื่อกี้นี่แหละ  ไม่ล็อคประตูบ้านอีกแล้วนะเรา ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้ามาจะทำยังไง?  เต๋าเอ็ดคชาเล็กน้อย สายตาที่เคลือบแฝงไปด้วยความห่วงใยทำให้คชารู้สึกผิด

     

    คชาล็อคแล้วนะ...เบน ตอนแกเข้ามาแกไม่ล็อคประตูใช่ไหม?”  คนตัวเล็กขมวดคิ้วก่อนจะหันหน้าไปหาอีกคนที่กำลังเดินลงบันไดตามมา  ส่งสายตาดุๆไปให้แล้วว่าออกไป  แต่นั่นก็ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในสายตาของคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างคชา  เต๋าอึ้งไปเล็กน้อยตั้งแต่ได้ยินชื่อของเด็กผู้ชายอีกคนแล้ว  นี่หรือคนที่ชื่อเบน...

     

    สงสัยใช่ว่ะ  โทษทีๆ”  เบนเอ่ยขอโทษก่อนจะเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของเต๋าและคชา

     

    อ่อ พี่เต๋านี่เบนเป็นเพื่อนคชา  เบนนี่พี่เต๋าเป็นน้องพี่ตี๋ เป็นพี่พี่เฟรม  พึ่งย้ายมาอยู่คชาแนะนำเสร็จสรรพแล้วหันไปมองหน้าคนตัวสูงด้านข้าง ที่กำลังจ้องมองเบนอย่างไม่วางตา

     

    เอ่อ  หวัดดีครับพี่เต๋า ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  แล้วเหมือนเบนจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ชอบมาพากลที่ออกมาทางแววตาของเต๋า  รู้สึกเกร็งไม่น้อยก่อนจะยกมือไหว้อีกคน

     

    ยินดีที่ได้รู้จักนะเบน”  เต๋าส่งยิ้มให้กับอีกคน  ในใจยังคงรู้สึกหงุดหงิดคิดถึงภาพที่คนตัวเล็กเดินลงบันไดมากับเพื่อนสนิท  นี่เบนก็เข้าไปห้องนอนคชาอีกคนแล้วใช่ไหม?

     

    นึกว่าพี่เต๋าไม่อยู่บ้านซะอีก”  คชาถูกพี่มิ้นท์ลากให้ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า  ชี้นู้นชี้นี่ให้ทำไม่หยุดแต่ดูเหมือนว่าดวงตาคู่กลมก็ยังมิวายเหลือบออกไปมองบ้านอีกหลังอยู่ดี

     

    พี่ทำงานอยู่ที่ห้อง...นี่ก็พึ่งเสร็จว่าจะมาชวนเราออกไปร้านพี่ตี๋ แต่ถ้ามีแขกก็ไม่เป็นไรเต๋าเอ่ยแผ่วเบา  หันหน้าไปมองแขกที่ตนเองกล่าวถึงแล้วหันกลับมามองคนตัวเล็กตรงหน้า  ที่กำลังส่ายหน้ารัวทันทีที่ฟังเขาพูดจบก่อนมือเล็กนั้นจะยกขึ้นเกาะแขนของเขาอย่างไม่รู้ตัว

     

    ไม่ๆ  อยากกินชานมสตอร์เบอรี่อยู่พอดีเลย  เบนไปร้านพี่ตี๋กัน

     

    ห๊ะ?

     

    ร้านชานมไข่มุกของพี่ตี๋ไง ร้านน่ารักๆอยู่กลางซอยตอนเข้ามาไม่เห็นหรือไง?” 

     

    ก็ดี จะได้แวะไปหาแพรวาด้วยเบนยักไหล่ ก่อนจะเดินตามเพื่อนสนิทที่ลากแขนพี่ชายข้างบ้านออกไปก่อนหน้าแล้ว

    -------------------------------------------------------------

    แพรวา!

     

    อั๊ย!”  เบนที่เดินย่องเงียบไปข้างหลังแพรวาที่กำลังรับออเดอร์จากลูกค้าตกใจร้องกรี๊ดออกมาก่อนจะหันหลังไปหาเพื่อนสนิทขี้แกล้ง

     

    ไอ้เบน ไอ้บ้า เล่นอะไรของแก

     

    โหยย..กรี๊ดใหญ่เลยนะน้องแพรวา

     

    ทำมาเป็นพูดดี  ไหนหละของฝาก”  แพรวาที่เดินเอารายการอาหารไปยื่นให้พ่อ หันมายืนค้เอวมองหน้าเพื่อนเบนแล้วเอ่ยทวงของฝากจากเพื่อนสนิท

     

    อะไร เจอหน้าก็ทวงของฝากเลยหรอ? …พ่อเทพหวัดดีครับเบนสังเกตเห็นพ่อของแพรวาก็รีบยกมือขึ้นไหว้ทันที

     

    ไม่มีก็ไปเลยนะไอ้เบน อย่ามากวนแถวนี้”  แพรวาเงื้อมือขึ้นใส่เบน  แอบโกรธอยู่เล็กน้อยที่แกล้งตนเองเมื่อสักครู่

     

    โหดว่ะ...คชาช่วยด้วยเบนจึงรีบวิ่งไปหลบหลังคชา  สองมือยกขึ้นเกาะไหล่ขนตัวเล็กเอาไว้  โผล่หน้าออกมายังไหล่คชาเล็กน้อย  และด้วยส่วนสูงที่ต่างกันไม่มากทำให้แก้มคชากับแก้มของเบนแทบจะชิดกันอยู่รอมร่อ

     

    ชวนให้มาหากันนะ  ไม่ได้ชวนมาให้ทะเลาะกัน” 

     

    ก็คชาดูแพรวาดิว่ะ  โหดชิบหาย

     

    โหดอะไรเล่า เดี๋ยวเถอะ

     

    เต๋ามองดูสามเพื่อนสนิทที่กำลังยืนคุยกันอย่างออกรสออกชาติ  ภาพของเบนที่ใช้สองมือจับไปที่ไหล่ของคชาทำให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  ก่อนหน้านี้ที่เดินออกจากบ้านมาด้วยกันสามคน ตอนแรกคนตัวเล็กนั่นก็เกาะแขนเขาอยู่ดีๆ แต่สักพักก็ย้ายไปเดินข้างเพื่อน พูดคุยสนทนาในหัวข้อที่เขาไม่เข้าใจและไม่สามารถนำตัวเองไปร่วมกับเรื่องราวน่าสนุกเหล่านั้นได้  คนตัวสูงขาวจึงได้แต่เดินตามหลังสองเพื่อนสนิทด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

    ความรู้สึกที่เต๋าก็บอกตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยแปลกๆ  อยากจะถอนหายใจออกมาสักพันครั้ง  ทั้งๆที่คิดว่าเครียดจากเรื่องงานจะออกมาหากำลังใจแท้ๆ แต่ก็มาเป็นแบบนี้ไปได้   จ้องมองแผ่นหลังบางของคนตัวเล็กอยู่สักพักจึงตัดสินใจเดินเข้าร้านชานมไป

     

    ความรู้สึกที่หาเหตุผลอธิบายไม่ได้  มันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง ...

     

    -------------------------------------------------------------

    บรรยากาศร้านชานมไข่มุกประจำซอยที่ลูกค้ายังคงคึกคัก  ด้วยความที่ร้านยังคงใหม่อีกทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจึงทำให้ผู้คนยังคงแวะเวียนมาหาสถานที่หลบแดดบวกกับลิ้มลองความหอมหวานของชานมไข่มุกร้านนี้อย่างไม่ขาดสาย

    คุณเฟรมครับมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ

     

    อ้าวพี่เต้ นี่เฟรมก็ทำตามที่พี่บอกแล้วนะ มันจะไม่ใช่ได้ยังไง

     

    คุณเฟรมสลับส่วนผสมกันนะครับ

     

    อ้าวหรอ  ตกลงอันนี้3  ไอ้นี่ใช่ไหม?” 

     

    ครับ

     

    เดี๋ยวพี่เต้  บอกกี่ทีแล้วว่าไม่ต้องเรียกคุณนำหน้าชื่อ

     

    โทษทีครับคุณเฟรม แต่ผมยังไม่ชิน

     

    ก็เต้มันเป็นคนสุภาพไม่ได้หยาบเหมือนแก ”  เป็นตี๋ที่ว่าเหน็บแหนมน้องชายตัวเอง  แต่เฟรมก็ใช่ว่าจะสนใจนี่นะเรื่องปกติของพี่น้องบ้านนี้

     

    คุณเฟรม คุณเฟรม ทีไรขนลุกเลยนะพี่เต้  เหมือนตัวเองเลอค่าบอกไม่ถูกเฟรมหัวเราะออกมา ก่อนจะหันไปเห็นพี่ชายอีกคนที่กำลังผักประตูร้านเข้ามา

     

    อ้าว พี่เต๋างานเสร็จแล้วหรอ นึกว่าวันนี้จะไม่ออกมาซะอีก

     

    อื้อ..เสร็จแล้ว”  น้ำเสียงเรียบเฉยถูกส่งออกไปเล่นเอาคนฟังสามคนหันหน้ามองกันอย่างสงสัย

     

    คุณเต๋ารับอะไรไหมครับ”  พนักงานโปเต้เอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นเต๋านั่งลงไปยังเก้าอี้

     

    เหมือนเดิมก็ได้เต้”  โปเต้พยักหน้ารับ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบส่วนผสมของชานมเผือก แต่เป็นเฟรมที่แย่งไปเสียก่อน

     

    มาๆพี่เต้  ผมขอแก้มืออีกรอบ

     

    ไอ้เฟรม  ให้แกทำแล้วเต๋ามันจะได้กินไหมเนี่ย”  ตี๋ที่พึ่งเดินเอาชานมสองแก้วไปเสิร์ฟลูกค้าที่โต๊ะถามน้องชายตนเอง

     

    กินไม่ได้ก็ทำใหม่ดิพี่  คนกำลังฝึกวิชาอยู่ต้องเข้าใจ ใช่ไหมพี่เต้?” 

     

    ครับๆ”  พนักงานประจำแอบส่ายหัวแต่ก็ต้อง ปล่อยให้น้องชายเจ้าของร้านลงมือทำชานมเผือกแก้วของเต๋าต่อ แล้วคอยเตือนนู้นห้ามนี่แทน

     

    เป็นไรวะเต๋า มีปัญหาเรื่องงานหรอ เห็นทำหน้าแปลกๆตั้งแต่เดินเข้าร้านมาแล้วตี๋เดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วถามอีกคนที่เขาสังเกตว่าสีหน้าไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก

     

    เปล่าพี่ ไม่มีอะไรเต๋าลอบถอนหายใจอย่างแผ่วเบา  นึกหงุดหงิดตัวเองอยู่มากที่อยู่ๆก็แสดงความรู้สึกไม่พอใจและอารมณ์เสียจนคนรอบข้างจับสังเกตได้แบบนี้ 

     

    เหมือนพี่เห็นแว๊บๆว่าแกเดินมากับคชา

     

    คุยกับเพื่อนอยู่ร้านลุงเทพ”  ตี๋พยักหน้าเออออ จับสังเกตอาการของน้องชายสักพักแล้วลุกขึ้นหันไปมองสามเพื่อนสนิทร้านด้านข้าง  ทำให้พอจะเดาสาเหตุอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดของน้องชายตนเองได้ 

     

    ไอ้เต๋าเอ้ยไอ้เต๋า”  ตี๋พึมพำออกมาแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะ  แล้วหันไปต้อนรับลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามา

     

    เต๋านั่งปล่อยอารมณ์ความคิดกับตัวเองสักพัก ถอนหายใจออกมาประปราย  ตาคมเหลือบมองร้านด้านข้างบ้างจนท้ายที่สุดพ่ายแพ้ความคิดตนเองจนต้องย้ายมานั่งยังเก้าอี้อีกฝั่ง  เมื่อยิ่งมองยิ่งดูเหมือนอารมณ์จะขุ่นมัวและฟุ้งซ่านมากขึ้น  ภาพของคชาที่พูดคุยสนิทสนมกับเบนตามประสาเพื่อนสนิทหากเขาคงผิดเองที่คิดอะไรไปต่างๆนาๆ   อีกทั้งคำพูดของพี่ตี๋เมื่อวันก่อนตีกลับเข้ามาอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง... พี่ตี๋พูดถูกคชายังเด็กอยู่  ยังเด็กเกินไป 

     

    -------------------------------------------------------------

    ในขณะที่พูดคุยถามไถ่สารทุกข์  สุขดิบ  บวกกับทวงของฝากกันอย่างเพลิดเพลินสนุกสนาน  คชาก็เริ่มสังเกตได้ว่าพี่ชายข้างบ้านไม่ได้ยืนอยู่ข้างหลังตนอย่างที่ควรจะเป็น   ปล่อยให้เพื่อนสองคนคุยกันอีกสักพักแล้วจึงเอ่ยปากชวนให้เปลี่ยนบรรยากาศเข้ามาคุยกันต่อในร้านชานมของพี่ตี๋

     “พี่ตี๋  พี่เต๋าหละฮะ?” คชาที่ปรี่เข้ามาในร้านชานมก่อนใครเพื่อนเอ่ยถามตี๋ เมื่อมองเข้ามาในตัวร้านแล้วไม่พบพี่ชายข้างบ้านที่เดินมาด้วยกัน

     

    อยู่หลังร้านนะ

     

    คชามาสั่งเร็ว  จะได้คุยต่อกำลังมันส์แพรวาเรียกคชาที่กำลังมองไปยังบานประตูหลังร้าน  ตอนแรกคนตัวเล็กตั้งใจว่าจะเดินไปหาพี่ชายข้างบ้านแต่ก็ต้องถอยหลังกลับแล้วเดินไปหาเพื่อนอีกสองคนแทน

     

    คชาเอาเหมือนเดิมฮะพี่เต้”  สั่งเสร็จสรรพเรียบร้อย สามเพื่อนสนิทก็มองหาโต๊ะว่าง แล้วนั่งลงพูดคุยกันต่อทันที

    แม้หูยังคงฟังเรื่องเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวฮ่องกงของเบน  พยักหน้ารับพอให้อีกฝ่ายรับรู้บ้างว่าตนเองยังสนใจในบทสนทนา  แต่ทว่าดวงตาคู่เล็กยังคงเหลือบมองไปยังประตูหลังร้าน  แอบหวังให้พี่เต๋าเดินออกมาเสียที  แต่ก็ดูเหมือนจะไร้วี่แววจวบจนสามเพื่อนสนิทหมดสิ้นบทสนทนาจะออกจากร้าน   คชาจึงเดินไปถามพนักงานประจำร้านอีกครั้ง

    พี่เต้ๆ  พี่เต๋าเข้าไปทำอะไรหลังร้านตั้งนาน  ทำไมยังไม่ออกมาฮะ

     

    อ่อ  คุณเต๋าไม่ได้อยู่หลังร้านครับ  ออกไปตั้งนานแล้ว” 

     

    อ้าว  ไม่เห็นบอกกันเลย”  คชาเอ่ยอย่างแผ่วเบา  นึกสงสัยในความผิดปกติบางอย่างตั้งแต่เดินออกมาจากบ้านจวบจนมาถึงร้านชานมไข่มุก  วันนี้เขากับพี่เต๋าคุยกันแทบจะนับประโยคได้เลยนี่นา

     

    -------------------------------------------------------------

     

    วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวัน  ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดไม่มีทั้งแสงสว่างจากดวงดาวและดวงจันทร์  เต๋าก็เป็นคนเดิมที่ออกมายืนให้ท้องฟ้าสีดำโอบล้อม มุ่งมั่นทำภารกิจประจำตัวเดิมๆ  ตั้งใจจะรีบตากผ้าให้เสร็จแล้วรีบเข้าบ้าน แต่พอหน้าที่เสร็จสิ้นขามันกลับไม่ไปตามสมองสั่ง  เต๋ายังคงยืนพิงประตูแหงนหน้ามองท้องฟ้าสลับกับหลังบ้านของบ้านอีกหลัง

     

    พี่เต๋า  นึกว่าจะขึ้นนอนแล้วซะอีก”  คนตัวเล็กที่พึ่งเปิดประตูหลังบ้านออกมาเอ่ยทัก  เรียกให้เต๋าที่ยืนเหม่อรู้สึกตัว

     

    พี่กำลังจะไปแล้วหละ  พอดีพึ่งตากผ้าเสร็จเต๋าโกหกคำโต   มือหนาเอื้อมไปหยิบตะกร้าผ้า เตรียมตัวจะเปิดประตูเข้าบ้านหากแต่เป็นเสียงของอีกคนที่ทักเอาไว้ก่อน

     

    ทำไมกลับมาไม่บอกมือหนาที่กำลังยื่นไปสู่ลูกบิดประตูชะงักลง ก่อนที่ร่างสูงจะหันไปทางคนตัวเล็ก

     

    หันมาอีกทีพี่เต้ก็บอกว่าพี่เต๋าออกไปทางหลังร้านแล้ว

     

    เห็นคุยกับเพื่อนอยู่เลยไม่อยากเข้าไปกวน

     

    ได้ไงเล่า  มาด้วยกันจะกลับก็บอกกันก่อนดิ”  ปากเล็กเบะออกอย่างขัดใจ  ยกแขนขึ้นกอดอกด้วยความเคยชิน

     

    ไว้ครั้งหน้าจะบอกนะเต๋าตั้งท่าจะจับลูกบิดประตูอีกครั้ง  แต่เป็นน้ำเสียงแผ่วเบาของคนตัวเล็กที่รั้งเขาไว้อีกหน  น้ำเสียงแบบที่เขาไม่เคยได้ยินจากคชามาก่อน

     

    พี่เต๋า...เป็นอะไร  โกรธอะไรคชาหรือเปล่า?” คชาเดินมาเกาะที่ริมรั้วอีกครั้ง  แววตาที่เคยสดใสนั่นดูหม่นลงจนเต๋าตกใจ  ขายาวกระตุกก้าวเท้าไปหาอีกคนทันที

     

    เปล่า.....ดึกแล้วเข้าบ้านได้แล้วนะเรา

     

    จะไม่บอกจริงๆหรอว่าเป็นอะไร

     

    ไม่มีอะไรครับ พี่จะไปโกรธอะไรเรา...ดึกแล้วเข้าบ้านได้แล้วนะ”  เต๋ามองเด็กน้อยที่ยืนก้มหน้ามองพื้นเหมือนตัวเองทำความผิด  มือข้างที่ว่างจากการถือตะกร้ากำลังจะยกขึ้นลูบศีรษะกลมนั่นด้วยความเคยชิน  แต่อะไรบางอย่างสั่งให้เขายั้งมือเอาไว้ก่อน

     

    ไม่ได้โกรธจริงๆใช่ไหม?  งั้นอย่าเป็นแบบนี้อีกนะ”  เด็กน้อยตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายที่อยู่อีกฝากฝั่งรั้ว

     

    แบบนี้...แบบไหน?

     

    ก็แบบที่เฉยๆ เงียบๆ มีอะไรไม่บอก...แล้วก็หายไปทั้งที่ควรจะยืนอยู่น้ำเสียงแผ่วเบากับแววตาไร้เดียงสาของคชาทำให้เต๋าหลุดยิ้มออกมา  ยอมรับว่ามันทำให้อารมณ์ขุ่นมัวที่มีอยู่ลดลงไปมาก

     

    โอเคครับ”  ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ที่ยกมือไปหาศีรษะกลมของอีกฝ่าย  นี่คชาจะทำตัวเด็กให้เขารู้สึกผิดไปถึงไหนกัน

     

    งั้นพรุ่งนี้เลี้ยงชานมสตอร์เบอรี่หน่อยสิฮะ”  เกือบจะดีใจที่อีกฝ่ายมาง้อ แต่ที่ไหนได้เหมือนโดนเด็กหลอกให้เลี้ยงขนม

     

    มาง้อพี่ หลอกให้พี่เลี้ยงหรอเนี่ย

     

    เปล่านะ...ก็วันนี้ที่พี่เต๋ามาหาที่บ้านเพราะจะมาชวนไปกินชานมไม่ใช่หรอ

     

    แล้ว....”  เต๋าเลิกคิ้วด้วยความสงสัยกับถ้อยคำที่ยังไม่ชัดเจน

     

    ก็ยังไม่ได้กินด้วยกันเลยไม่ใช่หรอฮะ”  หัวกลมก้มต่ำลงจนไม่เห็นแววตาสดใส  คชากำลังเขินกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปแต่จะทำยังไงได้ก็พูดออกไปแล้ว 

     

    อ่า...นั่นสิเนาะคนตัวเล็กเงยหน้ามามองคนตัวสูงกว่าที่กำลังยืนอมยิ้มอยู่

     

    ว่าแต่ชอบจังเลยนะชานมสตอร์เบอรี่เนี่ย  อร่อยมากหรอ?

     

    อร่อยสิไม่งั้นคชาไม่ชอบหรอก..ถ้าอยากรู้ว่าอร่อยจริงไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ชิมนะ”  เต๋ามองหน้าคชาสักพักจนคนตัวเล็กต้องหลบแววตาคนตัวสูงกว่าอีกหน  เต๋ากำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เหมือนมีบางสิ่งบอกให้เขาใช้เวลาทบทวนก่อน แต่เหมือนท้ายที่สุดก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้

     

    แล้วถ้าพี่ชอบขึ้นมาต้องทำยังไงครับ  คชาเงยหน้าขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินอีกคนพูดจบ ดวงตาคู่สบเข้ากับอีกฝ่าย  ใบหน้าคมเข้มกับดวงตาที่จดจ้องมองมาหาตนเองของพี่เต๋าทำให้สมองของคชาเหมือนถูกพักงานไปชั่วขณะ

    เต๋าไม่ได้ถามถึงเรื่องชานมรสโปรดของคชา

    แล้วถ้าชอบคชาขึ้นมา  พี่เต๋าคนนี้ต้องทำยังไงครับ”  นี่คือสิ่งที่เขาอยากรู้มากกว่า

     

    ถ..ถ้าชอบก็สั่งสิฮะ”  ดวงตาสดใสที่เลิ่กลักไม่อยู่นิ่ง น้ำเสียงติดขัดกุกกักอีกทั้งแก้มเนียนที่ขึ้นสีระเรื่อนั้นอีก เต๋าหัวเราะให้กับอาการประหม่าของคนตัวเล็ก  อยากรู้เหลือเกินว่าสมองนั่นคิดอะไรอยู่ทำไมถึงได้ทำท่าทางน่ารักออกมาได้แบบนั้น  

     

    เจอกันพรุ่งนี้ฮะคนตัวเล็กหมุนตัวไปมาซ้ายขวาด้วยความประหม่าเล็กน้อย

     

    ครับ เข้าบ้านได้แล้วเนาะ...เต๋ายิ้มให้อีกคน รอยยิ้มอารมณ์ดีเกินเหตุจนเหมือนลืมไปว่าก่อนหน้านี้อารมณ์ตนเองนั้นขุ่นมัวมากเพียงใด   คชายิ้มหวานตอบกลับแล้วเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะโผล่หน้าออกมาทางบานประตูอีกครั้ง มองมายังร่างสูงขาวของเต๋าที่ยังคงยืนติดชิดรั้วเช่นเดิมไม่ไปไหน  เต๋าเพียงแค่อยากให้คนตัวเล็กเดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนแล้วหลังจากนั้นเขาถึงจะเดินเข้าบ้านของตนเอง

     

    ฝันดีฮะ”  ประตูสีขาวค่อยๆถูกปิดลงอย่างช้าๆพร้อมกับเสียงลงกลอนตามมา  เต๋าเดินยิ้มเข้าบ้านของตนเองเมื่อเห็นอีกคนปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย  คืนนี้เต๋าคงต้องนั่งทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง ลองทิ้งรายละเอียดบางอย่างไปบ้าง  รายละเอียดบางอย่างที่ยังดูซับซ้อนเกินกว่าที่จะครุ่นคิดในช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นแบบนี้...

     

     

    คชายังเด็กเกินไปก็จริง...แต่เต๋าคิดว่าเขาคงจะโตพอแล้วหละ   ;)

     

     

    -------------------------------------------------------------

     

    ตอนนี้ยากจัง T_T … ตกลงพี่เต๋าเขาเป็นคนยังไงกันแน่หรอคะอยากรู้ 5555  ให้มันเป็นไปแบบนี้เรื่อยๆแล้วกัน หมุนไปหมุนมาเหมือนเข็มนาฬิกาที่กำลังปรับตั้งเวลา (อะไรเนี่ย)  ตอนแรกที่ตั้งใจจะแต่งมันไม่ใช่แบบนี้แต่พอแต่งออกมาแล้วมันเป็นแบบนี้ 5555 แต่ก็นั่นแหละอารมณ์ล้วนๆ ...ฝากอีกที  ดีใจที่มีคนเข้ามาอ่านมาคอมเม้นท์ บางครั้งโลกความจริงมันโหดร้าย  อยู่กับคชาในจินตนาการบ้างก็มีความสุขดี (ฮ่า)

     

    ปล. ฝากโปเต้ด้วยนะ >///////<

    @CHICKIMILK

            

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×