ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha atlove the series 23] Happy Alley: มีสุข 23

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 - Happy Alley ตกหลุมรักครั้งที่สอง (Crush)

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 56



    Chapter 13

     

     

     

     

    หยาดฝนไหลรินตกกระทบกระจกบานโตหน้ารถเมล์สายประจำ  จากแค่โปรยปรายพอให้ได้ชุ่มฉ่ำใจเล่น  กลับกลายเป็นฝนเม็ดโตที่สามารถทำให้ใครหลายคนเปียกปอนไปทั้งตัว  เต๋าได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า

     

     

    ฝนตกอีกแล้ว...

     

     

    ขายาวก้าวลงจากรถเมล์สายประจำก่อนจะรีบกางร่มสีทึบออกอย่างไม่รีรอ  เป้ใบโปรดที่เคยอยู่ด้านหลังบัดนี้ได้ย้ายมาอยู่ด้านหน้าเพราะเกรงว่าข้าวของชิ้นสำคัญจะเปียกฝน  จุดมุ่งหมายในใจหลังจากก้าวลงจากรถคือร้านชานมไข่มุกของพี่ชาย  หากแต่ภาพของเด็กน้อยชุดนักเรียนที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ป้ายรถเมล์ด้านหน้ากลับทำให้จุดหมายเปลี่ยนแปลง

     

     

    คชา!”  เต๋าตะโกนเรียกคนที่กำลังยืนก้มหน้ายกมือบังศีรษะ  ดูเหมือนคชาตั้งใจจะป้องกันความเปียกจากการกระหน่ำของสายฝนแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก

     

    ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้” 

     

    ลืมเอาร่มมา”  ตากลมแป๋วจ้องหน้าพี่ชายคนสนิทที่วิ่งกางร่มมายังตนเอง ก่อนจะตอบเสียงซื่อ มองหน้าคนเป็นพี่ด้วยสายตาเว้าวอนเล็กน้อย มีความรู้สึกบางอย่างว่าต้องโดนพี่เต๋าดุแน่ๆ ...เพราะพี่เต๋ารู้ว่าคชาไม่ชอบพกร่ม หลายครั้งที่พี่เต๋าเตือน  หลายครั้งที่พี่เต๋ายื่นร่มให้ด้วยตัวเอง แต่คชาก็ยังลืม

     

    “เดี๋ยววิ่งไปร้านกัน”  แขนยาวเอื้อมโอบไหล่เล็กให้ชิดกับตัวเอง  ยื่นร่มออกท่ามกลางสายฝนที่ไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงแล้วเร่งนำพาเด็กขี้ลืมวิ่งหนีฝนเคียงข้างกันไป  ใจหวังให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดเพื่อที่ใครบางคนจะไม่เปียกไปมากกว่านี้

     

    ทันทีที่ถึงร้านชานมไข่มุกประจำซอยมีสุข23   เต๋าวางสัมภาระทั้งของตัวเองและคชาลงบนโซฟาที่เหมือนจะเห็นลางๆว่ามีเฟรมนั่งอยู่ แล้วก็เหมือนจะมีใครอีกสักคนซึ่งเต๋าไม่ได้ตั้งใจมองอะไรมากนักเพราะสิ่งที่สนใจตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว

     

    ไหนดูซิ เปียกหมดแล้ว”  มือหนาล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกง  แล้ววางทาบทับสัมผัสมันลงกับหน้าผากมนที่มีเม็ดฝนเกาะติดแล้วค่อยๆบรรจงไล้ลงมายังแก้มเนียน

     

    "ถึงบ้านต้องรีบอาบน้ำรู้ไหม  เดี๋ยวจะไม่สบายอีก"  ปากก็พร่ำบ่นตามประสาแต่มือยังคงไม่หยุดทำหน้าที่

     

    "อ่าห๊ะ"  คชาตอบรับแล้วแย่งผ้าเช็ดหน้าจากมือของร่างสูงไป  ช้อนตามองเต๋าเล็กน้อยก่อนจะเช็ดหน้าให้คนตัวสูงกว่าบ้าง

     

    "เด็กดื้อ...ไม่ชอบพกร่ม"  เต๋ายิ้มออกมาน้อยๆ นึกหมั่นเขี้ยวแววตาของเด็กรู้สึกผิดที่พยายามทำความดีชดเชยแล้วก็ต้องเผลอจิ้มปลายจมูกรั้นของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว 

     

    “เช็ดหน้าตัวเองเถอะ  พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อน”  ไม่นานมือหนาก็รั้งมือของเด็กสำนึกผิดที่กำลังตั้งใจเช็ดเม็ดฝนออกจากใบหน้าของเขา

     

    “ไปด้วย” เด็กน้อยว่าขึ้นทันทีแล้วรีบเกาะหลังพี่ชายคนสนิทเดินตามติดกันเข้าไปยังห้องน้ำ

     

    “มาแสดงซีนโรแมนติคให้ดูแล้วก็ชวนกันไปเข้าห้องน้ำ  อะไรของคุณเต๋าวะครับ”  น้ำแข็งแอบแซวพอเป็นพิธี  โปเต้ลอบมองแล้วส่ายหัวแอบยิ้มขำเล็กน้อย  เหตุการณ์ทั้งหมดก่อนหน้านี้น้ำแข็งและโปเต้ได้จัดเก็บบันทึกข้อมูลไว้หมดแล้ว

     

    “นั่นพี่เต๋าใช่ไหมเฟรม?” 

     

    “ยังหล่อเหมือนเดิมเลย  ไม่ใช่สิ...หล่อกว่าเดิมมากๆ”  เฟรมพยักหน้าตอบรับน้ำเสียงร่าเริงสดใสของคนที่นั่งตรงข้าม  ลอบมองรอยยิ้มของเพื่อนสมัยมัธยมแล้วนึกย้อนถึงเรื่องราวในวันวาน....ฝ้ายมันเคยแอบชอบพี่เต๋านี่หว่า

     

    ---------------------------------------------------------------

     

    ร่างสูงยืนล้างมืออยู่หน้าห้องน้ำรออีกคนที่พึ่งผลัดเปลี่ยนเข้าไป  ไม่นานเด็กหัวกลมก็โผล่ออกมายืนยิ้มมองคนที่ยืนตั้งใจล้างมืออยู่  เต๋ากวักมือเรียกให้คชามายืนด้านข้างผ่านกระจกบานใส

     

    “ตัวเล็กจริงๆนะเด็ก”  เต๋าเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นภาพสะท้อนของตนเองและคชาผ่านกระจก

     

     “เล็กอะไร อีกนิดเดียวก็เท่าพี่เต๋าแล้วเห่อะ”  คชาเถียง เต๋าได้แต่หัวเราะคนตัวเล็กกว่าที่กำลังพยายามเขย่งปลายเท้าให้สูงเท่าเขา

     

    “ทำยังไงเด็กถึงจะไม่ลืมพกร่มนะ”  เสียงทุ้มถามขึ้นแล้วมองใบหน้าด้านข้างของเด็กน้อยที่กำลังก้มตัวล้างมือ

     

    “ไม่ได้ลืม  แต่วันที่พกร่มไปฝนมันไม่ตกนี่นา” คชาเถียงเสียงงุ้งงิ้งหันหน้ามองอีกฝ่ายที่กำลังมองมายังตนเอง

     

    “เถียงอีกแล้ว.....”

     

    “ถ้าครั้งหน้าเถียงพี่อีก  พี่จะดีดหน้าผากแบบนี้” ไม่ทันขาดคำเด็กน้อยก็ได้หลับตาปี๋เพราะโดนลอบทำร้ายจากพี่ชายขี้แกล้ง

     

    “พี่เต๋า มันเจ็บนะ!”  มือเล็กลูบหน้าผากป้อยๆ ริมฝีปากบ่นพึมพำไม่หยุด

     

    “โอ๋ๆ  อะ...พี่ให้ทำคืน”  ว่าแล้วก็โน้มตัวเข้าใกล้คนตัวเล็กจนแทบจะชิด...อีกนิดหน้าผากก็จะชนกันแล้ว  จากที่ตั้งใจจะเอาคืนพี่เต๋ากลับกลายเป็นว่าต้องป้องกันตัวเองจากระยะห่างที่ใกล้กันมากเกินไปแทน

     

    “ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี”  สองมือเล็กพยายามดันไหล่พี่เต๋าให้ออกห่างจากตัวเองแต่....

     

    “ตัวอุ่นๆนะ  กลับบ้านกินยาด้วยนะครับ” เหมือนแรงผลักของคนตัวเล็กไม่เป็นผลเลยสักนิดเมื่อในตอนนี้หน้าผากของคนตัวสูงกว่าได้แนบชิดกับหน้าผากของตนเองจนรับรู้ซึ่งอุณหภูมิของกันและกันเสียแล้ว  จากมือที่คอยดันไหล่หนาตอนนี้จึงทำได้แค่จับแตะไว้เบาๆแทน...อีกนิดจมูกจะชนกันแล้วนะ

     

    คชาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะดันหน้าผากตัวเองเพื่อให้หลุดออกจากระยะแนบชิด เป็นจังหวะเดียวกันที่ปลายจมูกของทั้งสองฝ่ายแตะสัมผัสกันและกันบางเบา   เต๋าหัวเราะหึหึมองเด็กหน้าแดงวิ่งดุ๊กๆออกไปหน้าร้าน  ยืนสงบสติอารมณ์ส่ายหัวให้กับสิ่งที่ตัวเองทำสักพักก่อนจะเดินตามคชาออกไป

     

    “แกล้งอะไรคุณน้องคชาครับคุณเต๋า”

     

    “เปล๊า”  เต๋าตอบไม่มองหน้าคนถาม  สายตาเพ่งมองเด็กหน้าแดงที่วิ่งไปเล่นกับลูกค้าประจำตัวน้อยอย่างน้องมังคุด  แล้วหันกลับมานั่งพักบนโซฟาตัวนิ่ม สายตาสะดุดกับผู้ไม่คุ้นตาฝั่งตรงข้ามก่อนที่น้องชายจะเป็นฝ่ายแนะนำ

     

    พี่เต๋า..นี่ฝ้าย เพื่อนสมัยมัธยม” 

     

    “พี่เต๋าสวัสดีค่ะ”

     

    “หวัดดีครับ  เพื่อนสมัยมัธยมถ้างั้นก็เรียนโรงเรียนเดียวกันกับพี่สิ”

     

    “ว่าแล้วพี่เต๋าต้องจำไอ้ฝ้ายไม่ได้” เฟรมนึกแซวไปตามประสา แอบเห็นแววตาผิดหวังของเพื่อนที่คงจะแอบน้อยใจที่รุ่นพี่ขวัญใจจำตนเองไม่ได้

     

    “ฝ้ายเรียนถึงแค่มอสองก็ย้ายโรงเรียนค่ะ  แต่ว่าฝ้ายเคย...” 

     

    “เคยไปเล่นบาสกับพี่ใช่ไหม?  พี่ว่าพี่จำได้แล้วหละ ที่โรงยิมวันนั้น น้องฝ้ายที่ชู้ตมั่วแล้วได้สามแต้มใช่ไหม? ”  ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดีเต๋าก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน  นั่นทำให้หญิงสาวแยมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อรู้ว่าอีกฝ้ายจำเรื่องราวของตัวเองได้

     

    “พี่เต๋ายังเหมือนเดิมเลยนะคะ”  ฝ้ายไม่ได้หมายถึงหน้าตาหากหมายถึงรอยยิ้มของเต๋า  ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนแต่รอยยิ้มของรุ่นพี่ร่วมสถาบันคนนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง

     

    “แต่ฝ้ายสวยขึ้นนะ  พี่จำไม่ได้เลย”  เต๋าแกล้งแซวเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ  แต่หารู้ไม่ว่าประโยคที่ไม่ตั้งใจนั้นกลับทำให้คนฟังขวยเขิน

     

    นั่งคุยกันได้สักพักก็ได้เรื่องได้ราวว่าฝ้ายย้ายมาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มอสาม ได้กลับมาเจอเฟรมอีกครั้งเพราะเพื่อนนัดแนะกันในเฟ๊ซบุ๊ก  ฝ้ายก็พึ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันว่าบ้านของตัวเองอยู่ใกล้กับเฟรม เลยถือโอกาสนัดแนะเจอกันก่อนจะนัดพบปะกันกับเพื่อนร่วมห้องอีกหลายชีวิตในคืนวันพรุ่งนี้

     

    “คชา  เข้าบ้านไหม  พี่โบกแท็กซี่มา”  เสียงพี่มิ้นท์ร้องถามทันทีเมื่อเปิดประตูร้านเข้ามา

     

    “ไป”  เสียงใสตอบด้วยความไว ล่ำลามังคุดพอเป็นพิธีก่อนจะร้องถามคนที่เดินตากฝนมาด้วยกัน “พี่เต๋า พี่มิ้นท์มาแท็กซี่..เข้าบ้านด้วยกันไหม?”  เต๋าหันหน้าไปหาคชาพยักหน้าเออออให้อีกฝ่ายรับทราบว่าเขาตกลง  ก่อนจะรวบข้าวของทั้งของตนเองและของคนตัวเล็กที่รีบวิ่งออกไปขึ้นรถแล้ว .... แล้วก่อนหน้านี้จะถามเขาทำไม? 

     

    “พี่กลับก่อนนะฝ้าย ไว้เจอกัน...เจอกันที่บ้านเฟรม”

     

    “ค่ะ..หวัดดีอีกครั้งนะคะพี่เต๋า  ดีใจที่ได้เจอพี่เต๋าอีกครั้งนะคะ”

     

    “ครับ..โชคดีนะ” เต๋าโบกมือล่ำลาอีกฝ่ายก่อนจะรีบพุ่งตัวออกจากร้านไป  เฟรมแอบลอบมองอาการของเพื่อนก็อยากจะถอนหายใจออกมา ฝ้ายมองตามร่างสูงขาวของรุ่นพี่ตั้งแต่ออกจากร้านจนเข้าไปในตัวรถ  อาการยิ้มแย้มเหมือนคนกำลังตกหลุมรักของฝ้ายทำให้เฟรมถึงกับส่ายหัว....หวังว่าแกคงจะไม่ตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้งนะฝ้าย

     



    ---------------------------------------------------------------

     

     

    แกร๊ก!

     

     

    ร่างสูงเปิดประตูเข้ามายังตัวบ้านเลขที่ 23/2  ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่ฝ่าฟันกับการจราจรวันศุกร์สิ้นเดือนร่วมชั่วโมง  มือหนาปลดเนคไทบริเวณคอด้วยความเคยชินโดยไม่ได้สนใจมองแขกที่ยืนอยู่ในบ้านสักนิด

     

    “เอ่อ...พี่เต๋าสวัสดีค่ะ”

     

    “อ้าว  ฝ้าย”  เต๋าตกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนของน้องชายคนเมื่อวานยืนนิ่งมองตนอยู่  “โทษทีๆ  พี่ไม่ทันได้มอง”  เต๋าหันหลังจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาทางฝ้าย

     

    “พี่เต๋าจะกินน้ำหรอคะ  ให้ฝ้ายเทให้ไหมคะ?”  เต๋ายังไม่ได้ทันตอบอะไร แก้วน้ำเย็นก็ลอยยื่นมาหน้าเขาเสียแล้ว  “ขอบคุณนะ”  เต๋ากระดกน้ำรวดเดียวหมดแก้วเนื่องจากอาการเหนื่อยล้า  ทำให้คนมองยิ่งชื่นใจ

     

    “นี่จะออกไปข้างนอกกันหรอ?”  เต๋าจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเฟรมเกริ่นเรื่องการนัดรวมตัวกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมไว้

     

    “ค่ะ  ฝ้ายมารอไปพร้อมเฟรม เฟรมอาบน้ำอยู่ค่ะ”

     

    “เที่ยวกันวันศุกร์สิ้นเดือนแบบนี้ ระวังตัวดีๆนะ” ลมหายใจราวกับสะดุดเมื่อรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงตนเอง  เผลอยิ้มออกมามากเกินไปจนเต๋าทำหน้าสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร

     

    “ค่ะ  ฝ้ายจะระวังตัว ขอบคุณนะคะพี่เต๋า” เต๋าพยักหน้าเป็นมิตร ยกแก้วน้ำขึ้นจิบอีกรอบส่วนฝ้ายก็ยังคงลอบมองเต๋าไม่วางตา

     

    เสียงเคาะประตูสองสามทีเรียกให้ทั้งเต๋าและฝ้ายหันไปมอง  เจ้าบ้านยังไม่ทันได้เดินไปเปิดประตูให้  เด็กน้อยในชุดนักเรียนก็ถือวิสาสะเดินอุ้มแมวเข้ามาในตัวบ้านแถมยังยิ้มกวนให้เขาอีก

     

    “ก๊อก ก๊อก ยังไม่อนุญาตเข้ามาได้ยังไงครับ”  ยังเดินไม่พ้นประตูบ้านดีก็ถูกพี่เต๋าล้อมดักไว้เสียแล้ว

     

    “พี่เต๋า  อย่าพึ่งแกล้ง...ฝากคะน้าก่อน  คชาปวดฉี่”  คชาพูดรัวเร็วแล้วรีบส่งแมวให้เต๋า  ก่อนจะวิ่งร้อยเมตรเข้าห้องน้ำไป   เต๋าลูบหัวแมวน้อยในอ้อมแขนสองสามที นึกขำท่าทางของคนตัวเล็กเมื่อครู่ พึ่งออกจากบ้านตัวเองมาแท้ๆ แต่ดันมายืมห้องน้ำบ้านเขาใช้เสียงอย่างนั้น...เด็กหนอเด็ก

     

    เต๋ายืนอุ้มแมวขนฟูรอคนตัวเล็กหน้าห้องน้ำ  ไม่นานเด็กน้อยก็ออกมา  “เรียบร้อย...เอาคะน้ามานี่เลย”  คชาเช็ดมือลวกๆที่กางเกงนักเรียนแล้วรีบขอแมวสุดที่รักคืนทันที แถมยังดันเต๋าให้พ้นจากทางเดิน  

     

    พึ่งรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตนเองและพี่เต๋ายืนอยู่  ดวงตากลมแป๋วจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วยิ้มให้  ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มให้ตอบกลับไม่ต่างกัน ถึงจะไม่รู้จักแต่รอยยิ้มเป็นสิ่งที่คชาเลือกที่จะมอบให้ฝ้ายเป็นสิ่งแรก

     

    “นี่พี่ฝ้ายเป็นเพื่อนเฟรม”  เต๋าเดินมายืนข้างคชาเผลอโอบไหล่บางด้วยความเคยชิน  เอ่ยแนะนำแต่ละคนให้รู้จักกัน  “นี่น้องคชา  บ้านอยู่ข้างๆ”  คชายกมือไหว้ฝ้ายทันทีเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะน้องคชา” คชายิ้มให้ฝ้ายอีกครั้ง ก่อนจะคิดได้ถึงสาเหตุที่มาเคาะประตู  คิดได้ดังนั้นปลายเท้าเล็กจึงเขย่งขึ้นเพื่อกระซิบบางอย่างให้เจ้าของลำแขนอบอุ่นรับรู้  เต๋าโน้มตัวหาอีกฝ่ายอย่างรู้งาน  หัวเราะออกมาน้อยๆหลังจากฟังสิ่งที่คชาพูดจบ .....เด็กขี้อายก็ยังคงเป็นเด็กขี้อาย

     

    “คชาชวนฝ้ายไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” เต๋าขยายความให้หญิงสาวที่ยืนมองเหมือนลุ้นอะไรสักอย่างรู้

     

    “เสียดายจัง วันนี้พี่มีนัดกับเพื่อนแล้ว ไว้วันหลังนะน้องคชา”  หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อย 

     

    “ฮะ”  คชาพยักหน้ารับยิ้มตอบกลับให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร  แอบเอาขาหน้าของแมวสุดที่รักไถไปกับเสื้อพี่เต๋าเหมือนอายอะไรสักอย่าง

     

    “งั้นพี่ขอตัวก่อนนะฝ้าย พาเด็กขี้อายไปกินข้าวก่อน...  เที่ยวให้สนุกนะ” 

     

    “ค่ะ  ทานข้าวให้อร่อยนะคะทั้งพี่เต๋าทั้งน้องคชาเลย”  ฝ้ายยืนเหม่อมองตามแผ่นหลังอบอุ่นของรุ่นพี่สุดเท่ห์  ภาพพี่เต๋าที่เดินโอบน้องคชาออกไปทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นแปลกประหลาด อดใจไม่ได้ที่จะจินตนาการว่า ถ้าหากวันนึงคนที่เดินเคียงข้างพี่เต๋าเป็นตนเองบ้างคงรู้สึกดีไม่น้อย

     

    “พี่เต๋าดูอบอุ่นจังเฟรม  ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย”  ฝ้ายเพ้อบอกเฟรมที่พึ่งลงจากบันได

     

    “หน้าเคลิ้มไปแล้วฝ้าย...” 

     

    “พี่เต๋าบอกให้ฉันดูแลตัวเองด้วยนะแก  เขินชะมัด”

     

    “ฝ้าย...นี่แกตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้งหรือไง?” เฟรมเริ่มถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    “ถ้าฉันบอกว่าใช่แกคิดว่าไง  ....ฉันอาจจะไม่ได้ตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้ง  แต่ฉันอาจจะยังไม่เลิกชอบเขาเลยก็ได้”

     

    “แก....” ท่าทางเขินอายของฝ้ายกำลังทำให้เฟรมรู้สึกแปลกๆ เหมือนจะคาดเดาสิ่งที่ฝ้ายกำลังอยากจะถามได้ “.....พี่เต๋ามีแฟนแล้วยัง”  แล้วก็เป็นตามที่เฟรมคาดไว้ 

     

    “ยัง”  คำตอบของเฟรมเรียกรอยยิ้มของฝ้ายให้เบิกบานมากขึ้นเท่าตัว แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงฉับพลัน   “แต่มีคนที่ชอบแล้ว  ทำใจเถอะเพื่อน” 

     

    “ใคร? ใครอะเฟรม แกบอกมาก่อน”  เฟรมก้มหน้าก้มตาเก็บของ เลี่ยงไม่ตอบคำถาม  “ไอ้เฟรม...แกบอกมาก่อน พี่เต๋าชอบใคร สวยไหม น่ารักมากไหม”  ฝ้ายเริ่มเขย่าแขนเพื่อนเพื่อเค้นหาคำตอบ

     

    “สายแล้วฝ้าย  เดี๋ยวเพื่อนจะรอ”

     

    “แกก็ตอบมาก่อนดิ  พี่เต๋าชอบใคร”

     

    “ลองสังเกตดีๆ แกก็น่าจะรู้”  เฟรมทิ้งท้ายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ  ทิ้งให้เพื่อนยืนนิ่งสงสัย....

     

    พี่เต๋าชอบใคร?

     

    บทสนทนาของเฟรมและฝ้ายควรจะเป็นเรื่องที่มีคนรับรู้เพียงสองคน  หากไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อพี่มิ้นท์ใช้คชาให้มาเอาชามที่ลืมไว้เมื่อหลายวันก่อน  คนตัวเล็กจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด

     

     

     

    ...พี่ฝ้ายชอบพี่เต๋าหรอกหรอ...

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------

     

    “ฝ้าย!

     

    “พี่เต๋า หวัดดีค่ะ”  หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินพี่เต๋าร้องทัก  ไม่นึกว่าจะบังเอิญเจอพี่เต๋าแถวนี้

     

    “นี่ฝ้ายกำลังจะไปไหน”

     

    “กำลังจะไปหาเฟรม”  แอบตอบน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะยังคงตกใจ

     

    “งั้นขึ้นมาเลย” เต๋าว่าแล้วตบเบาๆที่เบาะจักรยานด้านหลัง   ฝ้ายอ้ำอึ้ง ตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆพี่เต๋าก็ชวนซ้อนท้ายจักรยานคนที่แอบชอบชวนซ้อนท้ายจักรยานแค่คิดว่าต้องนั่งไปด้วยกันขามันก็สั่นแล้ว

     

    “เดินไปไกลนะ  แดดร้อนด้วย ขึ้นมาเถอะ” เต๋าชวนฝ้ายอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ  “ค่ะๆ” ฝ้ายตอบรับแล้วขึ้นซ้อนท้ายจักรยานทันที

     

    “ตอนที่พี่ออกมาเฟรมมันยังไม่ตื่นเลย แต่ตอนนี้น่าจะอาบน้ำแล้ว”  เต๋าบอกในขณะที่ตนกำลังมุ่งมั่นตั้งใจออกแรงปั่นจักรยาน

     

    “ค่ะ”   ตั้งแต่ย้ายตัวเองมานั่งซ้อนท้ายพี่เต๋า  ฝ้ายก็ยังไม่พูดอะไรออกมาอาจเป็นเพราะอาการเขินอาย

     

    “แดดเริ่มแรง  เกาะดีๆนะฝ้ายเดี๋ยวพี่จะพาซิ่ง”  ฝ้ายที่ยังเขินอายอยู่ทำอะไรไม่ถูกนอกเสียจากเกาะไปที่ไหล่กว้างของเต๋า  สองตาจ้องมองแผ่นหลังอบอุ่นไม่วางตา พยายามควบคุมตัวเองสุดกำลังไม่ให้ซบลงไป .... เหมือนจะลืมเรื่องที่พี่เต๋ามีคนที่ชอบแล้วไปเสียสนิท

     

     

    เมื่อถึงที่หมายต่างฝ่ายก็ต่างลงจากรถจักรยาน  ร่างสูงยังไม่เข้าบ้านทันที  ปลายนิ้วจิ้มกดโทรศัพท์ก่อนจะมองขึ้นไปยังหน้าต่างห้องนอนของคชาที่ยืนเปิดม่านมองออกมาทางเขาพอดี  

     

    “เข้าไปรอในบ้านดีกว่าฝ้าย  เดี๋ยวพี่หาอะไรเย็นๆให้กิน”  เต๋าวางมือจากโทรศัพท์แล้วชักชวนรุ่นน้องเข้าบ้าน

     

    “พี่เต๋าแวะซื้อชานมไข่มุกมาหรอคะ?”  ฝ้ายถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นถึงพลาสติกบรรจุชานมไข่มุกห้อยอยู่จักรยาน

     

    “อ่อ  ของคชาหนะ”  รู้สึกตงิดใจกับความสัมพันธ์ของพี่เต๋าและน้องคชาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น

     

    “ฝ้ายนั่งรอที่โซฟาก่อนเลย  เดี๋ยวพี่หาน้ำให้กิน”  

     

    “ไม่เป็นไรค่ะพี่เต๋า  เดี๋ยวฝ้ายจัดการเอง”  เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับอีกฝ่าย   ฝ้ายจึงไม่รีรอรีบเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าใส่แก้วด้วยตัวเองทันที   ก้มหัวให้เต๋าเล็กน้อยก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งโซฟากลางบ้าน

     

    “ชานม ชานม ชานม ชานม ชานมสตรอเบอร์รี่ของคชาอยู่ไหน?”  เสียงใสดังขึ้นก่อนที่ตัวคนพูดจะปรากฏ  เด็กน้อยเดิมอุ้มแมวเข้ามาในบ้านแล้วเดินพุ่งตรงไปยังพี่ชายใจดีที่อุตส่าห์เสียสละปั่นจักรยานตากแดดออกไปซื้อชานมไข่มุกรสโปรดมาให้ตนเอง แค่ไลน์ไปบ่นว่าอยากกินชานมไข่มุกพี่เต๋าก็อาสาออกมาซื้อให้ทันทีเพราะเห็นว่าคชากำลังอ่านหนังสืออยู่

     

    “ถามถึงของกินก่อนเลยนะเด็ก”  เต๋าขยี้กลุ่มผมสีดำด้วยความเอ็นดูก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบสิ่งที่คชาต้องการให้  เขย่าแก้วพลาสติกพอให้ชานมกับสตรอเบอร์รี่เข้ากันอีกทั้งยังจิ้มหลอดเป็นเซอร์วิสพิเศษให้อีก.... ใจดีกว่าพี่เต๋าไม่มีอีกแล้วเนาะ

     

    “ขอบคุณครับ”  คชาวางแมวตัวกลมลงบนพื้นแล้วรับแก้วชานมรสโปรดมาดูดทันที

     

    “อร่อยไหม?

     

    “อร่อยที่สุด”

     

    “กินด้วยได้ไหมครับ”  สิ้นคำขอร้องหลอดของแก้วชานมก็จ่อเข้าที่ริมฝีปากของเต๋าทันที   เต๋าเขยิบตัวให้ชิดเด็กน้อยตรงหน้ามากขึ้นกว่าเดิม  ปกติถ้ายืนใกล้กันขนาดนี้คชาต้องแสดงอาการอะไรออกมาบ้างแต่ครั้งนี้ไม่เป็นแบบนั้น  ระยะห่างที่ใกล้กันกว่าปกติไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กเลี่ยงหนีแต่อย่างใด  แถมยังพูดเชิญชวนแล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆให้เขาอีกต่างหาก

     

    “คนละคำ...คำนี้ของพี่เต๋า....คำนี้ของคชา” เสียงใสบอกแล้วยื่นแก้วชานมสลับกันชิมไปมาระหว่างตนเองและพี่ชายตัวสูง    “คำนี้ของเด็ก....คำนี้ของผู้ใหญ่”  เสียงใสยังคงเรียกสรรพนามของตัวเองกับร่างสูงสลับไปมา  เสียงหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กกำลังเล่นสนุกทำให้เต๋าเผลอจ้องอีกคนไม่วางตา  ส่วนเจ้าของตากลมก็ได้แต่เลิ่กลั่กไปมาเมื่อสบตาเข้ากับอีกฝ่าย 

     

    “ดูดนานนะ แอบกินไข่มุกใช่ไหม?”  คชาแกล้งกลบเกลื่อนขู่เสียงฟ่อเหมือนหวงลูกกลมๆสีดำในแก้วหนักหนา  “พี่เต๋า พี่เต๋า พี่เต๋า”  ทั้งว่า ทั้งทุบ ทั้งตี แต่คนที่ตัวสูงกว่ากลับไม่มีทีท่าจะปล่อยแก้วง่ายๆ  อมหลอดเอาไว้ไม่ปล่อยแถมยังจ้องคนตัวเล็กตาไม่กระพริบอีกต่างหาก

     

    “ปล่อยแล้วๆ  นี่ทำร้ายร่างกายพี่เพราะชานมไข่มุกหรอ” เต๋าแทบสำลักตอนโดนคชาตี  หากคนตัวเล็กไม่ได้สนใจ  พยักหน้าให้แล้วยังตีคิ้วให้เขากวนๆอีก

     

    “ของใครใครก็หวง”  คนพูดเหมือนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ตนเองเอ่ยออกมามากนัก แต่เต๋ากลับขมวดคิ้วงงเล็กน้อย

     

    “ครับ  ขี้หวงจริงๆเลยนะ”  ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นเขี้ยวจนต้องหยิกเบาๆที่ปลายจมูกรั้นนั้นสักที

     

    สลับกันลิ้มชิมรสของชานมคนละคำสองคำ เถียงกันไปมาคนละสองสามประโยค  ปล่อยเสียงหัวเราะคิกคักกันออกมาสนุกสนานอยู่สองคน  ราวกับลืมไปเสียสนิทว่ามีใครอื่นอยู่ด้วย

     

    “คือ คือ...ฝ้ายว่าเฟรมอาบน้ำนานเกินไป ฝ้ายว่าจะขอขึ้นไปตามค่ะ”  ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาฝ้ายตลอด  หญิงสาวมองดูการกระทำของรุ่นพี่ที่ตนเองแอบชอบกับน้องชายข้างบ้านก็เหมือนจะรู้คำตอบของคำถามที่ถามเฟรมไว้เมื่อวาน

     

    “เดี๋ยวคชาไปตามพี่เฟรมให้ครับ”  กลับเป็นคชาที่อาสาไปตามเฟรมแทน ว่าแล้วก็ยื่นฝากแก้วชานมไว้กับร่างสูงโดยไม่ลืมที่จะทิ้งคำขู่แสนน่ากลัวเอาไว้  “ห้ามกินชานมหมด ถ้าพี่เต๋ากินหมดคชาจะกระโดดกัดหู” 

     

    “ดุจริงเลยนะ  กระโดดให้ถึงหละเด็ก”  เต๋าตะโกนไล่ตามหลังคนที่วิ่งขึ้นบันไดไป  แล้วเดินมานั่งที่โซฟากลางบ้านเป็นเพื่อนฝ้าย

     

    “น่ารักจังเลยนะคะ”  ฝ้ายก้มหน้าแล้วพูดสิ่งที่ร่างสูงไม่เข้าใจ

     

    “ครับ?” 

     

    “ก็พี่เต๋ากับน้องคชาเวลาอยู่ด้วยกันดูน่ารักมากเลยค่ะ.....พี่เต๋าดูเอ็นดูน้องคชามากเลยนะคะ  น่าอิจฉาน้องคชาจัง”  ฝ้ายพูดยาวยืดดั่งเช่นใจคิด  ทำให้เต๋าถึงกับอ้ำอึ้งเมื่อรู้ว่าฝ้ายดูออกว่าตนเองคิดยังไงกับน้องชายตัวเล็กข้างบ้าน

     

    “เอ่อ....” 

     

    “ฝ้ายดูออกค่ะ  แต่อาจจะดูออกช้าเกินไปนิดหน่อย”  หญิงสาวก้มหน้าแอบลอบถอนหายใจ  พยายามรักษาอาการไว้ไม่ให้ผิดปกติ  ความรู้สึกหน่วงๆเหมือนมีอะไรแตกสลายอยู่ภายในแบบนี้ควรจะชินกับมันเสียที

     

    “ดูแปลกๆเหมือนกันนะที่ชอบผู้ชายด้วยกัน” 

     

     “ฝ้ายก็ไม่รู้ว่ามันแปลกไหม...แต่อย่าสนใจเลยค่ะ  แค่รักกันก็พอ”

     

    “แต่คชายังเด็กพี่ก็ไม่รู้ว่า.....”

     

     “สู้ๆนะคะพี่เต๋า  ฝ้ายเอาใจช่วย”

     

    “ขอบคุณครับ...ว่าแต่เขินเหมือนกันนะเนี่ยที่พูดเรื่องอะไรแบบนี้” เต๋ายิ้มขำก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน

     

    “ไม่ต้องเขินแล้วค่ะ  น่ารักดี”  รู้สึกเหนื่อยในใจอยู่มากแต่ฝ้ายก็ต้องทำเป็นฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ...แอบชอบคนที่มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องผิดปกติเสียหน่อย เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ

     

     

    เด็กน้อยยืนแน่นิ่งยังไม่ได้ขึ้นไปตามเฟรมตามที่บอกไว้  ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินบทสนทนาของพี่เต๋าและพี่ฝ้าย  ... ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง

     

     

     

    “ขอโทษนะครับพี่ฝ้าย”

     

     

    ---------------------------------------------------------------

     

    เฟรมกับฝ้ายออกจากบ้านไปนานพอสมควรแล้ว  ตอนนี้จึงเหลือแค่ผู้ใหญ่ขี้แกล้งกับเด็กขี้หวง  ที่กำลังนั่งเงียบลูบหัวแมวสุดที่รักมาได้สักพักแล้ว

     

    “เด็ก... เด็ก”

     

    “หือ?” 

     

    “เหม่ออะไร  เปิดการ์ตูนไว้ทำไมไม่ดู”  คชาเงยหน้าขึ้นมองทีวีจอใหญ่  แล้วจู่ๆก็โพล่งถามสิ่งที่อยากรู้โดยไม่ทันคิดออกมา

     

    “พี่เต๋าว่าพี่ฝ้ายสวยไหม?

     

    “ว่าไงนะ”  เต๋าถามออกไปไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่คชาพูดแต่งงมากกว่า

     

    “เปล่าๆฮะ  ไม่มีอะไร”  คชาตอบเฉไฉเหมือนไม่มีอะไร  ส่วนเต๋าก็เหมือนจะจับทางได้แล้วว่าหัวสมองกลมๆนั่นกำลังคิดอะไรอยู่  คิดได้ดังนั้นก็ไม่รีรอที่จะโน้มตัวลงให้แนบชิดคนข้างกายก่อนจะกระซิบเสียงเบาให้คนฟังใจสั่นเล่น

     

    พี่ไม่ได้ชอบคนสวย  พี่ชอบคนน่ารักครับ”  เด็กน้อยนั่งอมยิ้มไม่ยอมหันหน้าไปมองคนพูด  เต๋านั่งยิ้มทำได้เพียงเขยิบเข้าใกล้อีกฝ่ายมากกว่าเดิมก่อนจะเอื้อมกุมมือบางไว้  

     

    “ให้มันเป็นสีชมพูให้โลกใบนี้เป็นสีชมพู!”  เสียงร้องเพลงโหวกเหวกดังขึ้นจากหน้าประตู  “โลกใบนี้มันชมพูเสียจริง”  แล้วซ้ำอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนว่าจะไม่เข้าหูน้องรักเท่าไหร่นัก...ถ้าไอ้เต๋ามันจะจ้องน้องคชาแบบนั้น หมั่นไส้เว้ย!!!

     

    “กลับมาเร็วนะพี่” เต๋าถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ตี๋ตั้งใจร้องเพลงแซว

     

    “กลับมาเร็วหรือกลับมาขัดจังหวะครับน้องเต๋า”  ตี๋เลิกคิ้วถามคนเป็นน้องที่แสดงสีหน้าออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย

     

    “ทั้งสองอย่าง..”

     

    “นั่น ...ช่วงนี้น้องพี่ออกตัวแรงจริงๆ   พี่กลับมาเอาของแป๊บเดียวเดี๋ยวพี่ตี๋คนนี้ก็จะออกไปแล้วครับน้องเต๋า  ขอขัดจังหวะนิดนึงหวังว่าคงจะไม่โกรธกัน”  ตี๋ทิ้งท้ายแล้วเดินตรงขึ้นห้องไปทันทีตามที่บอก

     

    ร่างสูงหันหน้ากลับมาอีกครั้งก็พบว่าเด็กที่เขากุมมืออยู่ก่อนหน้านี้ หนีไปอุ้มแมวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เต๋าลอบมองคนตัวเล็กที่กำลังหยอกล้อแมวน้อยตัวกลม...ปลายนิ้วที่แกล้งแหย่จิ้มท้องแมวตัวเองเล่น  รอยยิ้มที่ดูมีความสุขทุกครั้งเมื่อเห็นเจ้าตัวกลมสนุกสนานไปกับตนเอง

     

     

     

    น่ารัก....

     

    พี่ชอบคนน่ารักจริงๆนะคชา...

     

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------

     

     

    ตอนที่สิบสาม TwT… ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ฮ่าๆๆ
    มีความสุขมากมายเมื่ออ่านคอมเม้นท์ตอนที่แล้ว ขอบคุณที่ยังกลับมาอ่าน ขอบคุณที่คิดถึงกันนะคะ ...ดีใจจริงๆ 

     

    ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง? ฝากด้วยนะคะ J


     @CHICKIMILK
     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×