คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 - Happy Alley สุขสันต์วันเกิด
Chapter 11
กลิ่นหอมของเนยลอยอบอวลบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 23/3 เรียกให้คนที่พึ่งฝ่าฟันวิกฤตรถติดหลังเลิกงานต้องตัดสินใจเดินเลยบ้านของตัวเองมาหยุดอยู่หน้าบ้านอีกหลัง ปลายนิ้วชี้กดออดเป็นสัญญาณให้สมาชิกที่อยู่ข้างในรับรู้ว่ามีผู้มาเยือน
หัวกลมโผล่พ้นบานประตูไม้มองหาเจ้าของเสียงออด ยิ้มขำออกมาเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นทรงผมของร่างสูง ปลายเท้าเล็กเดินมายังประตูรั้วหน้าบ้าน คชาที่อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมเป็นภาพที่คุ้นชินสำหรับเต๋าแต่หากไม่ใช่ในเวลาจวนจะสามทุ่มแบบนี้
“ขำอะไร พี่เห็นนะ” เต๋าถามขึ้นทันทีเมื่อคชาเดินมาถึงประตู้รั้ว
“ก็มันตลก”
“ตลกอะไรเด็ก”
“ก็ทรงผมพี่เต๋า...” เมื่อรู้ถึงสาเหตุเต๋าก็รีบจับผมตัวเองทันที มือหนาพยายามจัดทรงให้มันเข้าที่แต่คงไม่มีประโยชน์ วินมอเตอร์ไซค์ที่ใช้บริการก่อนหน้านี้คงเนรมิตรทรงผมใหม่ให้เขาเป็นของแถม
“ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย ว่าจะไปตัดผมหลายครั้งแล้วก็ยังไม่ได้ไป...หรือพี่ควรตัดสกินเฮดดี” คำถามของคนเป็นพี่เรียกให้คชาเบิ่งตามองอีกคนทันที สมองเริ่มจินตนาการภาพของคนตรงหน้ากับผมทรงสกินเฮด แล้วก็ต้องรีบส่ายหน้าพัลวันจนคนที่มองอยู่อดหัวเราะไม่ได้..นี่พึ่งจะเจอหน้ากันก็ทำเขายิ้มไปหลายครั้งแล้วนะเด็ก
“ไม่โอเคหรอ พี่ว่าดีออกนะ จะได้ไม่ต้องไปตัดบ่อยๆ”
“ไม่โอเคสุดๆ” คชาส่ายหน้าตอบอีกครั้งเพื่อยืนยันคำตอบตัวเองอีกหน
“กลัวพี่ไม่หล่อหละสิ?” เต๋าตีคิ้วเจ้าเล่ห์ถามคนตัวเล็กทันที
“ตอนนี้หล่อแล้วหรอ?” สิ้นประโยคเต๋าก็แทบอยากจะเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว เจอคชาตอบกลับมานิ่งๆก็ทำเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่เต๋าก็คือเต๋า ร่างสูงนิ่งไปสักพักแล้วก่อนจะตอบกลับอีกคน
“ปฏิเสธสิว่าพี่ไม่หล่อ” คชาหน้ามุ่ยมองอีกคน นึกหมั่นไส้พี่เต๋าในใจเล็กๆ อยากจะตอบกลับอีกคนเพียงแต่นึกไม่ออกว่าจะตอบยังไง...ก็คชาไม่อยากโกหกนี่นา
“เดี๋ยวหัวยุ่ง” คชาสะบัดศีรษะเล็กน้อยก่อนตากลมจะช้อนมองคนเป็นพี่เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ศีรษะ
“จะได้เท่าเทียมกันไง แล้วทำไมยังอยู่ในชุดนักเรียน พึ่งกลับมาหรอ?” เต๋าถามแล้วก้มมองคนตัวเล็กในชุดนักเรียน ถึงแม้จะไม่ได้เต็มยศเพราะเสื้อที่รุ่ยออกมาอยู่ข้างนอกแต่เขาก็ไม่เคยเห็นคชาในชุดนักเรียนจนค่ำมืดแบบนี้
“กลับมาตั้งแต่ห้าโมงแล้ว แค่ยังไม่อยากเปลี่ยนเฉยๆ” เต๋าพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ “แล้วนี่จะไม่ให้พี่เข้าบ้านหรอครับเด็ก?”
“บ้านตัวเองก็มีนะผู้ใหญ่ เข้าบ้านตัวเองไปสิ”
“โห..นี่ไล่กันเลยหรอ พี่แค่ได้กลิ่นหอมๆเลยเดินตามกลิ่นมา”
“จมูกดีจริงๆนะ”
“คชา..พี่ไม่ใช่คะน้านะ”
“พี่เต๋า คะน้าเป็นแมวนะ”
“แล้วพี่เป็นอะไรครับ” คชาเงียบไปสักพักเหมือนใช้ความคิดก่อนจะตอบอีกคนออกไป
“เป็นผู้ใหญ่หน้าแมว” เต๋าส่ายหน้าให้กับคำตอบของคชา ก่อนจะอ้อนเพื่อขอเข้าบ้านคนตัวเล็กอีกครั้ง
“เด็กครับ....ผู้ใหญ่เมื่อยนะ เราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะนะ เปิดประตูให้พี่หน่อยนะ”
“ไม่ได้ ไม่ให้เข้า ไม่คุยแล้ว ดึกแล้ว เด็กจะไปนอนแล้ว”
“อ้าว...เด็กทำไมใจร้ายแบบนี้” เต๋าถอนหายใจทำหน้าตาหดหู่เกินจริง...
“ก็มันดึกแล้วจริงๆ เด็กจะไปนอน ผู้ใหญ่ก็ต้องไปนอนนะ นอนไวๆพรุ่งนี้จะได้อารมณ์ดี” เต๋ายิ้มให้กับประโยคของคนช่างพูดตรงหน้า คชาจะรู้ไหมว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีวันพรุ่งนี้ แค่มีคชายืนยิ้มอยู่ตรงหน้าแค่เท่านี้เขาก็อารมณ์ดีแล้ว
“คร้าบ ...ไปก็ได้ อย่านอนดึกนะเด็ก ฝันดีครับ”
“ฝันดีฮะ”
-------------------------------------------------------------------
ตาคมก้มมองนาฬิกาแล้วยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เต๋าสูดลมหายใจรับเอาอากาศบริสุทธิ์ของเช้าวันใหม่เต็มปอด วันใหม่ของเต๋าวันนี้เริ่มต้นเร็วกว่าทุกๆวัน ร่างสูงขาวในชุดพร้อมทำงานยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านเลขที่ 23/2 แววตามุ่งมั่นฉายออกมาจากดวงตาคู่คม เขาตั้งใจจะทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีกว่าทุกวัน...ก็แค่นั้น
“พี่เต๋า” เสียงใสคุ้นหูเรียกชื่อเต๋าเสียงดัง คนตัวเล็กวิ่งออกจากประตูบ้านตรงมาหาร่างสูงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องวิ่งเร็วขนาดนั้นก็ได้มั้ง” เต๋าทักทายคนตัวเล็กที่วิ่งดุ๊กๆมาทางเขา คชาขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อยที่เห็นพี่เต๋าตื่นเช้ากว่าปกติ ก็ทุกวันพี่เต๋าจะออกไปทำงานช้ากว่าคชาไปโรงเรียนเป็นชั่วโมง แต่วันนี้คชายังไม่พ้นประตูก็เห็นพี่เต๋ายิ้มหล่ออยู่หน้าบ้านแล้ว
“ตื่นเช้าจัง ....อ่อ ตักบาตรหรอฮะ?” คชาเอ่ยทักทายคนตรงหน้า ก่อนจะถามเมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเต๋า
“ครับ...เด็กจะไปโรงเรียนแล้วหรอ” คชาพยักหน้าตอบแล้วขมวดคิ้วถามคนตัวสูงตรงหน้า
“แล้วทำไมวันนี้ถึงตื่นมาตักบาตร”
“ไม่รู้สิ สงสัยนอนเร็วแล้วอารมณ์ดีเหมือนที่เด็กแถวนี้บอกมั้ง” คชายิ้มหวานให้คนตรงหน้า อันที่จริงคชาก็พอจะรู้อยู่ว่าทำไมถึงเห็นพี่เต๋าตื่นมาตักบาตรเช้านี้...แต่ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า :)
“ตักบาตรด้วยกันไหมเด็ก” เสียงทุ้มนุ่มชวนคนตัวเล็กตรงหน้า คชายิ้มน้อยๆแล้วพยักหน้าตอบตกลงก่อนจะเดินไปยืนข้างอีกคน
หลังจากตักบาตร รับพร เสร็จเรียบร้อย...ทั้งเต๋าและคชาก็เดินเคียงข้างกันมาตามซอยมีสุข 23 เสียงพูดคุยกับเสียงหัวเราะยังคงดังขึ้นประปราย ก่อนจะเริ่มเบาลงเมื่อทั้งสองถึงจุดหมายปลายทาง
“ตั้งใจเรียนนะเด็ก” เต๋าบอกคนตัวเล็กเมื่อมองเห็นรถเมล์สายประจำกำลังเคลื่อนตัวมายังตำแหน่งที่ยืนอยู่
“ตั้งใจทำงานนะผู้ใหญ่”
“ครับผม...”
“เจอกันตอนเย็นนะ กลับบ้านเร็วๆด้วย” เต๋ายืนยิ้มกริ่มให้คนตัวเล็กตรงหน้า ใจอยากจะเอื้อมมือไปขยี้หัวกลมๆนั่นแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทัน เพราะขายาวได้ก้าวขึ้นรถสายประจำเรียบร้อยแล้ว
ตาคู่กลมมองตามรถเมล์ที่เคลื่อนที่ออกไป ก่อนที่เพื่อนคนสนิทจะสะกิดที่บ่า
“แหนะ...ยืนยิ้มกับรถเมล์แบบนี้ วิ่งตามไปเลยป่ะ?” คชาหันไปยังเสียงคุ้นเคยของเพื่อนสนิทที่นัดเจอกันที่ป้ายรถเมล์ทุกวัน แต่ยังไม่ได้ทันได้ตอบอะไรก็ต้องรีบจูงกันวิ่งขึ้นรถเมล์ อันที่จริงแพรวาแอบมองเพื่อนรักตัวเองสักพักแล้วเพียงแต่ไม่อยากเข้ามาทัก
“แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ออกมาพร้อมกับพี่เต๋าหละ?”
“วันนี้วันพิเศษของเขามั้งเลยตื่นเช้า” แพรวามองเพื่อนหน้าตาแสดงออกถึงความสงสัยจนคชาต้องเฉลยให้ฟัง ก่อนจะปล่อยให้เพื่อนรักร้องอ๋อเสียงยาวส่วนตัวเองก็นั่งยิ้มกอดกระเป๋าตลอดทาง
“วันนี้วันเกิดพี่เต๋า”
....ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี....
-------------------------------------------------------------------
‘กลับบ้านไวๆนะไอ้น้องชาย’ ...พี่ตี๋
‘เย็นนี้เจอกันที่บ้านนะพี่เต๋า’ …เฟรม
‘เจอกันที่บ้านนะเต๋า’ …พี่มิ้นท์
เต๋าระบายยิ้มมองข้อความในโทรศัพท์มือถือ...
แค่ดีใจที่จำได้ แค่ดีใจที่ไม่ลืม แล้วก็ดีใจที่ปีนี้มีคนจำได้เพิ่มอีกคน
‘กลับบ้านไวๆนะ คุณผู้ใหญ่หน้าแมว >w<’ …คชา
-------------------------------------------------------------------
เสียงลูกบิดหมุนประตูบ้านดังขึ้นเป็นสัญญาณให้คนในบ้านเตรียมพร้อมต้อนรับผู้มาเยือน
“สุ ข สั น ต์ วั น เ กิ ด!!” เสียงร้องต้อนรับจากสมาชิกทั้งหกคนดังขึ้นพร้อมกัน เต๋าสะดุ้งเล็กน้อย หลับตาปี๋ชั่วขณะเมื่อรู้สึกถึงริบบิ้นจากชักเปรี๊ยะที่ลอยมาแปะหน้า
“สุขสันต์วันเกิดน้องสุดที่รัก เข้ามาด่วนเพราะทุกคนรอแกมาเปิดงานอยู่” ตี๋รีบเดินไปกอดคอน้องชายให้เดินเข้ามาในบ้าน เต๋ามองดูโต๊ะกินข้าวประจำบ้านที่ปกติก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไรมากมาย แต่วันนี้กลับยิ่งดูเล็กลงแทบไม่มีพื้นที่เหลือเนื่องจากเมนูอาหารสารพัดมากมาย
กลิ่นน้ำซุปจากหม้อสุกี้ลอยตลบอบอวลไปทั่วบ้าน เรียกให้น้ำย่อยของสิ่งมีชีวิตในบ้านปะทุออกมาไม่อยาก ใช้เวลาไม่นานสมาชิกทุกคนก็ประจำตำแหน่งพร้อมจัดการอาหารตรงหน้า แต่สารพัดเมนูบนโต๊ะก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการสร้างเสียงบันเทิงและเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย หยอกล้อดังขึ้นตลอดระยะเวลาบนโต๊ะอาหารนำทีมทัพด้วยลูกน้องมือชงอย่างน้ำแข็ง ที่ดูเหมือนจะพยายามดึงเรื่องทุกอย่างเพื่อมาทำให้ตลกสร้างเสียงหัวเราะสำหรับค่ำคืนวันพิเศษวันนี้
“คอนเซปต์งานคืนนี้คือ สนุกได้ไม่พึ่งสุรา เพราะแอเรียนี้มีเด็กอายุไม่ถึง18อยู่” ตี๋พูดออกมาแล้วยกแก้วน้ำอัดลมชนกับแก้วของน้ำแข็ง
“พี่ตี๋บอกมาว่าพี่เต๋าถือศีลอยู่ จริงหรอครับพี่เต๋า” เต๋าหลุดหัวเราะแทบจะพุ่งน้ำใส่หน้าน้ำแข็ง ตาคู่คมมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเอง ก่อนจะคชาจะเป็นฝ่ายหลบสายตาแล้วก้มลงจิ้มลูกชิ้นในหม้อใบโต แต่นั่นก็ไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มของคชาเมื่อได้ฟังคำตอบของเขาได้
“ไม่ได้ถือศีล...แต่เหล้ามันไม่ดี เดี๋ยวนี้กินโอวัลตินแทนแล้ว”
...........
........
.....
เสียงพูดคุย หัวเราะขบขันยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าคืนนี้จะสนุกได้ไร้แอลกอฮอล์อย่างที่ตี๋บอกไว้จริงๆ แถมยังสนุกได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยด้วย...ก็แค่ขุดเรื่องสมัยเก่าก่อนของแต่ละคนมาเผากัน แค่นี้เสียงหัวเราะก็ดังไม่หยุดแล้ว
เต๋านั่งฟังเรื่องสมัยมัธยมของน้ำแข็งสักพัก ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมายังหน้าบ้าน สูดหายใจให้อากาศเย็นๆยามค่ำคืนเข้าปอด ก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้า ...ท้องฟ้ายามค่ำคืนใจกลางเมืองหลวงที่ยังคงไร้แสงดาวเหมือนเช่นเคย
และปีนี้แม่คงลืมวันเกิดเขาอีกปี ...
เต๋าส่ายหัวยิ้มน้อยๆให้กับนิสัยขี้ลืมของแม่ตนเอง เต๋าไม่ได้โกรธที่แม่ลืมวันเกิด สำหรับเขามันเป็นแค่วันธรรมดาที่คอยวนมาเพื่อเตือนตัวเองให้มีสติและสำรวจพัฒนาการของตัวเอง ส่วนอารมณ์งอแงไม่ได้เป่าเทียนกับอาการงอนคนรอบข้างที่ลืมวันเกิดคงหมดไปตั้งแต่ขึ้นมัธยมแล้ว มือหนาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะต่อสายไปยังคนสำคัญของชีวิต คนที่ทำให้เขามีวันนี้
“แม่...ทำอะไรอยู่” ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพียงแค่เริ่มประโยคทักทายเสียงเขาก็สั่นแปลกๆ
“เบิ่งละครอยู่ คือโทรมาดึกแท้หละลูก ฮักกะเลิกงานเบาะ?”
(ดูละครอยู่ ทำไมโทรมาดึกจังเลยลูก พึ่งเลยงานหรอ?)
“บ่ครับ เลิกโดนแล้ว...ละครม่วนบ่แม่”
(“ไม่ครับ เลิกนานแล้ว...ละครสนุกไหมแม่”)
“ก็บ่ปานใด๋ ไคกว่าบ่มียังเบิ่ง แล้วเต๋าเฮ็ดหยังอยู่หละลูก”
(ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรดู แล้วเต๋าทำอะไรอยู่หละลูก?)
“แม่...มื้อนี้วันเกิดเต๋า แม่ลืมอีกแล้วแม่นบ่ครับ”
(“แม่...วันนี้วันเกิดเต๋า แม่ลืมอีกแล้วใช่ไหมครับ”) เต๋าหลุดหัวเราะยิ้มส่ายหน้าให้กับคนปลายสาย ถ้าจำไม่ผิดวันเกิดเขาปีที่แล้ว แม่สัญญาว่าจะไม่ลืม แล้วเหมือนจะไม่ใช่แค่ปีที่แล้วแต่รวมไปถึงปีที่แล้ว แล้ว แล้วด้วยสิ
“แม่นติ๊ลูก ...เต๋าแม่ลืมอีกแล้ว”
(“ใช่หรอลูก...เต๋าแม่ลืมอีกแล้ว”)
“ก็บ่ได้ว่าอิหยัง...เต๋ารู้ว่าแม่หยุ่ง”
(“ไม่เป็นไร เต๋ารู้ว่าแม่ยุ่ง”)
“เต๋าก็หยุ่งแม่นบ่ เป็นจั๋งใด๋หละลูก”
(“เต๋าก็ยุ่งเหมือนกันใช่ไหม เป็นยังไงบ้างหละลูก?)
“บ่ปานใด๋แม่”
(“ไม่เท่าไหร่หรอกแม่”)
“เต๋า ลูกรู้แม่นบ่ว่าแม่บ่ได้หวังอิหยังหลาย ลูกมาได้ซ่ำนี้แม่ก็ดีใจแล้ว แค่ลูกเป็นคนดี มีคุณธรรม บ่เฮ็ดให้ไผเดือดร้อน แม่ก็ภูมิใจแล้ว มาได้ซ่ำพี้ก็ดีกว่าที่แม่คิดหลายแล้วเด้อเต๋า”
(“เต๋า...ลูกรู้ใช่ไหมว่าแม่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย ลูกมาได้แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว แค่เป็นคนดี มีคุณธรรม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แค่นี้แม่ก็ภูมิใจมากแล้วนะ ลูกมาถึงวันนี้ได้แม่ก็ภูมิใจมากแล้วนะเต๋า”)
ยังไม่ทันสิ้นประโยคของผู้ให้กำเนิด น้ำตาหยดน้อยก็รวงเผาะผ่านแก้มขาว...ทุกครั้งที่เต๋ารู้สึกเหนื่อย หรือกดดันจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง คำพูดของแม่จะคอยปลอบโยนเขาอยู่เสมอ..แม่มักพูดเสมอว่าแม่ภูมิใจที่เขามีวันนี้ได้ ไม่ว่าใครจะบอก จะพูดถึงลูกคนนี้ยังไงแต่สำหรับแม่ การที่ได้มองเห็นเต๋ามีวันนี้ได้ แค่นี้แม่ก็ภูมิใจแล้วก็ดีใจมากพอแล้ว
‘แค่คำว่า ภูมิใจ จากใครบางคน ก็ทำให้คนคนหนึ่งเหมือนมีแรงก้าวเดินต่อได้ตลอดชีวิต’
แต่ในฐานะของลูกคนหนึ่ง...เต๋าอยากทำให้มันดีกว่านี้...เต๋าสัญญา
“แม่...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่ทำให้เต๋ามีวันนี้นะแม่ เต๋ารักแม่นะครับ” เต๋าเอ่ยบอกปลายสาย พยายามทำเสียงไม่ให้สั่นสุดชีวิต
“ขอบคุณที่ทำให้แม่มีวันนี้เหมือนกันนะครับเต๋า...แม่ก็รักเต๋านะลูก สู้ๆนะยอดมนุษย์เต๋าของแม่” เต๋าหัวเราะออกมาอีกครั้งกับฉายาที่แม่เรียกตนเอง นี่ถ้าอยู่ต่อหน้าแม่เขาคงทำท่าอุลตร้าแมนให้ดูด้วยสินะ
“สุขสันต์วันเกิดเด้อลูกชาย แม่สัญญาว่าปีหน้า แม่สิบ่ลืมเด้อลูก”
(“สุขสันต์วันเกิดนะคุณลูกชาย แม่สัญญาว่าปีหน้าแม่จะไม่ลืมนะลูก”)
“สักปีเด้อแม่ เต๋าสิถ่า”
(“สักปีนะแม่ เต๋าจะรอ”) สองแม่ลูกหัวเราะผ่านโทรศัพท์ออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมา เต๋าคุยกับแม่สองสามประโยคก่อนจะวางสายไป ให้แม่ที่บ่นว่าง่วงหนักหนาไปนอน ...ประโยคคำว่าภูมิใจของแม่ยังคงวนเวียนไปมาอยู่ในหัวจนอดไม่ได้ที่ต้องยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนจะคิดได้ว่าออกมานานพอสมควรจึงตัดสินใจหันหลังเตรียมเดินเข้าบ้าน
เต๋าระบายยิ้มออกมาบางเบาก่อนจะยกมือปาดน้ำตาลวกๆเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า คชาในชุดนักเรียนมัธยมไม่ต่างจากเมื่อวานกำลังยืนมองมาที่เขา และดูเหมือนว่าจะยืนฟังนานแล้วด้วยสิ
“คุณผู้ใหญ่หน้าแมวแปลงร่างเป็นเด็กชายเต๋าน้อยขี้แงซะแล้ว” คชาหัวเราะคิกคักก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาอีกคน
“แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์ไม่ดีรู้ไหม” คชาส่ายหน้าไม่สนใจ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าแล้วใช้มือบางจับไปแก้มขาวของเต๋า นิ้วโป้งพยายามปาดน้ำตาเหมือนที่อีกคนเคยทำให้ตัวเอง เต๋าอึ้งไปชั่วขณะกับการกระทำของร่างเล็กตรงหน้า แล้วหัวใจก็ต้องเต้นแรงมากกว่าเดิมเมื่อมืออีกข้างยกขึ้นมากุมแก้มเขาไว้
“สุขสันต์วันเกิดนะคุณผู้ใหญ่หน้าแมว มีความสุขมากๆนะฮะ” เต๋ายิ้มให้กับคนตรงหน้าก่อนจะยกมือขึ้นประครองใบหน้าของอีกคนไว้ไม่ต่างกัน
“ขอบคุณครับ..คุณเด็ก” เต๋าว่าแล้วหยิกเบาๆที่แก้มใสของคนตัวเล็ก ก่อนที่ทั้งสองจะปล่อยมือออกจากแก้มแต่ละฝ่ายพร้อมกัน ...เต๋ารู้สึกแปลกๆทำตัวไม่ถูกชอบกลจนต้องเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ไว้
“ดีใจจังที่วันนี้มีเรา ดีจังที่วันนี้มีคชา......บ้าชิบ! นี่พี่พูดอะไรออกไป เขินว่ะ” เต๋าเผลอหลุดบอกความในใจกับคนตัวเล็ก ก่อนจะพึมพำหลบตาไปมาต่อหน้าอีกคนอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ มือหนายกขึ้นเกาศีรษะแก้เขินน้อยๆก่อนจะได้ยินประโยคพึมพำเสียงเบาจากอีกคน
“ไม่คิดว่าคนฟังจะเขินเหมือนกันหรือไง”
“เมื่อกี๊คชาว่าอะไรนะ”
“ไม่ได้ว่าอะไรนะ”
“แล้ววันเกิดไม่มีของขวัญให้พี่หรอครับ?”
“ม่ายมี”
“แย่จังเลย พี่อุตส่าห์รอ...”
“รอต่อไปนะ”
“คงต้องรอของขวัญจากเด็กตลอดชีวิตแน่ๆ”
“รอได้ป่ะหละ? ถ้าคิดว่ารอแล้วคุ้มค่าก็รอ” คชากอดอกถามคนตรงหน้า แล้วก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่นหลบหนีสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายเมื่อได้ฟังคำตอบของอีกคนทันที
“การรอคอยมีความหมายและคุ้มค่าเสมอสำหรับพี่”
“พี่ๆให้มาตามไปเป่าเค้ก” คชาก้มหน้าบอกอีกคนเสียงเบา หวังสักนิดว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพี่เต๋าจะมองไปทางอื่นบ้าง ทางไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ตัวเอง
“ไปสิ” เต๋าฉวยคว้ามือคนที่กำลังจะเดินเข้าบ้านไว้ คชาเงยหน้ามองเต๋าสลับกับมือของตัวเองที่อีกคนจับไว้
“ไปสิ หมายถึง ไปด้วยกันสิ” แล้วก็ต้องยอมปล่อยให้คนตัวสูงจูงมือตัวเองเข้าบ้านไป
-------------------------------------------------------------------
“หายไปนานเลยนะครับคุณเต๋า แอ๊ะๆ” โปเต้ร้องแซวทันทีเมื่อเห็นเต๋าและคชาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน แถมยังจับมือกันอีก
“เต๋าเว้ยยย...ใจเย็น พี่สาวเขาก็อยู่ เกรงใจพี่เขานิดนึง” ตามมาด้วยพี่ชายสุดที่รักของเต๋าที่เอ่ยแซวแล้วมองไปยังมิ้นท์ที่กำลังง่วนกับการปักเทียนลงบนเค้กก้อนโต คชาจึงรีบดึงมือออกจากมือเต๋าแล้วเดินเร็วไปหาพี่สาวตนเองทันที
“เค้กน่ากินจังครับพี่มิ้นท์”
“จะไม่ให้น่ากินได้ยังไง เค้กก้อนนี้ไม่ธรรมดานะเต๋าเพราะมีเด็กบางคนแถวนี้มาอ้อนพี่ให้ช่วยสอนทำ แถมยังให้ทำช่วยอีก” คชากอดแขนพี่สาวตัวเองแน่นไม่กล้ามองหน้าพี่เต๋า ขนาดไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองยังรู้สึกเลยว่าใจเต้นแรงเกินปกติ
“มิน่า...สตรอเบอร์รี่เต็มเค้กเลย” เต๋าแซวเด็กที่กำลังทำตัวติดพี่สาว เมื่อมองเห็นหน้าเค้กครีมสีขาวประดับด้วยสตรอเบอร์รี่ล้อมรอบ
“ก็คชาชอบกินสตรอเบอร์รี่นี่นา”
“พี่ก็ชอบครับ”
“ชอบสตรอเบอร์รี่หรือชอบคนทำครับน้องเต๋า”
“ใช่ครับคุณเต๋า เอาให้ชัด เอาให้เคลียร์” เสียงแซวของตี๋และโปเต้ที่ดังขึ้นอีกครั้งเรียกให้คนที่ยืนก้มหน้ายอมเงยหน้าขึ้นมาทันที หากแต่เต๋ายังคงนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร ก่อนสัญญาณเครื่องช่วยชีวิตจากพี่สาวคนสวยใจดีจะดังขึ้น
“แกล้งกันอยู่นั่นแหละ...มาเป่าเค้กเถอะเต๋า ปล่อยตี๋เพ้อเจ้อไป” สมาชิกทุกคนเดินมารวมตัวกันที่โซฟากลางห้องรับแขก ช่วยกันจุดเทียนคนละเล่มก่อนจะร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยูวเสียงดัง
ร่างสูงยืนอธิษฐานขอพรตามคำเรียกร้องของทุกคน ก่อนจะก้มลงเป่าเทียนท่ามกลางเสียงปรบมือร้องเย้วๆของลูกน้องกับเจ้านายร้านชานม
“พี่เต๋าสุดที่รักของน้องเฟรม สุขสันต์วันเกิดนะจุ๊บๆ” น้องชายสุดกวนเดินมากอดคอร่างสูงก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำท่าจะจุ๊บแก้มเต๋า
“เห้ยไอ้เฟรม ขนลุก”
“แหมะ แหม...ที่กับน้องหละขนลุกที่กับคนอื่นหละ...” เฟรมว่าก่อนจะปรายตามองไปยังน้องชายตัวเล็กข้างบ้านที่ยืนไม่รู้เรื่อง ก่อนจะร้องโอดโอยออกมาเสียงเบาเมื่อโดนเต๋าตีไปที่หน้าผาก
“ตัดเค้กเถอะเต๋า น้ำแข็งเริ่มน้ำลายยืดแล้ว”
“โถ พี่มิ้นท์ครับ น้ำลายยืดนั่นมันหมาแล้วหรือเปล่าครับ” น้ำแข็งหน้าหงอยก่อนจะยกน้ำอัดลมซดย้อมใจ
“ไม่อยากตัดว่ะ ตัดไม่ลง ...ขอเก็บไว้ได้ไหม” เต๋ามองเค้กวันเกิดตรงหน้า รู้สึกเสียดายหากต้องตัดมันเป็นชิ้นๆและกลืนกินมันลงไปจริงๆ...บอกตามตรงคือหวงเค้กก้อนนี้ หวงมันตั้งแต่รู้ว่าใครเป็นคนทำให้
“ไม่ได้หรอก ทำมาให้กินนะ”
“ครับๆ กินนะ” คชาบอกอีกคนเสียงดุ เป็นสัญญาณให้เต๋าเริ่มลงมือตัดเค้กทันที
“พี่เต๋า มันไม่ได้ตัดแบบนั้น” คชาว่าเอ็ดอีกคนที่จับมีดตัดเค้กท่าทางแปลกๆ มือบางเอื้อมจับไปยังด้ามมีดที่อีกคนถืออยู่แล้วลงมือช่วยร่างสูงตัดเค้ก โดยที่อีกคนยังคงไม่ยอมปล่อยมือไปไหน หนำซ้ำยังยิ้มออกมาหน้าระรื่นอีกต่างหาก
“คุณตี๋ครับ...ผมว่าภาพนี้มันใช่”
“ตำแหน่งมันใช่ด้วย”
“ทุกอย่างมันคือใช่ว่ะพี่...” เสียงซุบซิบของสามสี่สิ่งมีชีวิตดังขึ้นในขณะที่เต๋ากับคชาช่วยกันตัดเค้ก ก่อนเค้กสีขาวกับสตรอเบอร์รี่ลูกโตในจานใบเล็กจะยื่นมาตรงหน้าตี๋ เรียกให้เสียงซุบซิบนั้นหายไป
“เนื่องด้วยพี่ตี๋อาวุโสสุดในที่นี้ เต๋าให้พี่ตี๋ก่อน”
“โอ้โหวว...อาวุโสเลยหรอวะ อาวุโสก็อาวุโส กินก่อนวินสุด” เต๋าแจกจ่ายเค้กให้สมาชิกทุกคนแล้วเริ่มลงมือชิมรสชาติของเค้กฝีมือสองพี่น้อง เสียงบ่งบอกความฟินของความอร่อยดังขึ้นประปราย เรียกรอยยิ้มจากคนทำได้ไม่ยาก
ตาคมกำลังมองเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังจัดการสตรอเบอร์รี่ลูกที่สามอย่างตั้งใจ ระบายยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อสังเกตเห็นครีมเค้กสีขาวที่ติดอยู่ข้างมุมปากคนตัวเล็ก ปลายนิ้วแตะบางเบาที่มุมปากของคชาแล้วเกลี่ยครีมสีขาวออก เรียกให้คชาเงยหน้ามองเจ้าของปลายนิ้ว
“เอาอีกไหม” เต๋าถามเด็กน้อยแล้วยื่นผลไม้โปรดของจากชิ้นเค้กของตัวเองไปยังคชา คชาส่ายหน้า จับที่มือหนาของเต๋าหมุนมันจับพลิกแล้วจ่อสตรอเบอร์รี่สีแดงสดไปยังริมฝีปากหนาของเต๋าแทน ริมฝีปากได้รูปอ้ารับสตรอเบอร์รี่ลูกโตก่อนจะงับมันเข้าไปเต็มคำ
“อร่อย J”
กว่าจะช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดเคลียร์ข้าวของเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยจวนจะเข้าวันใหม่ ลูกน้องคู่ซี้กลับบ้านไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ล้างจานเสร็จ พี่มิ้นท์ก็กลับเข้าบ้านไม่ต่างกับเฟรมและพี่ตี๋ที่ขอตัวขึ้นห้องไปแล้วเช่นกัน
ตอนนี้คงเหลือแต่เพียงเต๋ากับคชาและแมวตัวกลมขนฟูที่นอนหมอบอยู่กลางโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน
“ขอบคุณสำหรับเค้กนะครับเด็ก” เต๋าบอกขอบคุณคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ นึกถึงภาพที่เมื่อวานคชาเลี่ยงไม่ให้ตนเองเข้าบ้าน นี่คงเป็นเพราะแอบทำเค้กวันเกิดก้อนนั้นให้เขาสินะ
“ไม่เป็นไรฮะ ขอโทษที่ไม่มีของขวัญให้ด้วย แต่คชาไปเดินเลือกตั้งนานนะ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้” คชาบอกอีกคนพลางลูบขนแมวน้อยที่คล้ายกำลังจะเคลิ้มหลับ
“ไม่ต้องขอโทษ เรื่องแค่นี้เอง แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ดีมากแล้วจริงๆ” เต๋าหันไปยิ้มให้กับคนตัวเล็กข้างกาย สองสายตาที่สบเข้าหากันทำให้คชาหาทางหลบโดยการพิงซบไปยังบ่าของร่างสูง
“เมื่อเช้าพี่เต๋าขอพรว่าอะไร?”
“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี”
“แค่วันนี้วันเดียวหรอฮะ”
“ไม่รู้สิ แต่ตอนนั้นคิดได้แค่นี้จริงๆ พี่ไม่ชอบขอพร ปกติไปวัดก็ไม่ได้ขอพรอะไรอยู่แล้ว”
“แล้ววันนี้ดีไหม...หมายถึงว่าวันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับพี่เต๋าไหม”
“ดีครับ ดีมากๆ ดีจนไม่อยากให้ผ่านวันนี้ไป” เต๋าอมยิ้มเหลือบมองคนที่นั่งซบไหล่ตนเอง ที่กำลังแอบยิ้มไม่ต่างกัน
“พี่เต๋า!!” คชาเด้งตัวออกมาจากบ่าของเต๋ารวดเร็วจนร่างสูงตกใจ
“คะน้ามีของขวัญวันเกิดจะให้พี่เต๋าด้วย แต่พี่เต๋าต้องหลับตาก่อน” คชาสั่งอีกคนแล้วอุ้มแมวตัวเล็กที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วให้ตื่นขึ้นมา
“หือ?”
“หลับตาก่อน” เต๋าหลับตาลงตามคำขอของอีกคน รับรู้ถึงบางอย่างที่เข้ามาใกล้หน้าก่อนจะ...
จุ๊บ
สัมผัสนุ่มนิ่มจากปลายจมูกจรดลงบนฝีปากได้รูปของเต๋า ร่างสูงลืมตาขึ้นมองคนตัวเล็กที่อุ้มแมวน้อยให้มาจุ๊บปากเขาแล้วยิ้มเอ็นดูให้
“สุขสันต์วันเกิดนะฮะพี่เต๋า...จากคะน้า”
“เด็กเอ้ยยยย” เต๋ายกมือขยี้หัวกลมๆของอีกคนแบบที่เขาชอบทำ แล้วโอบคนตัวเล็กเข้ามากอด ร่างเล็กในอ้อมกอดสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น
“เห็นว่าเป็นวันเกิดหรอกนะเลยยอม”
“อยากเกิดทุกวันแล้วสิ” เสียงหัวเราะของทั้งเต๋าและคชาปรากฏขึ้นพร้อมกัน ค่ำคืนวันดีๆของใครหลายคนกำลังจะผ่านพ้นไป...ความสุขมาได้ ก็จากไปได้...แต่ทุกครั้งที่ความสุขหายไป ก็หวังว่าเธอจะรีบมานะ...ความสุข
วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆนะ....
สุขสันต์วันเกิด J
-------------------------------------------------------------------
Happy Birthday ผู้ชายแสนดี ..พี่เต๋าของผองเรา
ที่จริงก่อนจะลงตอนนี้ตั้งใจจะลงก่อนสองตอน แต่ชีวิตในต่างแดนมัน Hard timeไปนิด
อันที่จริงก็แอบแต่งไว้แล้วแต่ยังไม่เสร็จหวังว่ามันคงจะเสร็จบ้าง TUT …
วันนี้คงเป็นวันที่ดีของใครหลายคน... สุขสันต์วันเกิดนะพี่เต๋าเต๋า <3.
ป.ล. ตอนนี้แอบมีซับไตเติ้ล นั่งคิดอยู่นานว่าจะให้พี่เต๋าคุยกับแม่เป็นภาษาไหนดี แต่เลือดอีสานในตัวมันแรง เลยออกมาเป็นแบบนี้... 555
@CHICKIMILK
ความคิดเห็น