NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความปรารถนาสุดขอบจักรวาล

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 02: คืนแห่งโชคชะตา (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 67


     แสงเลเซอร์สีเขียวตัดกับไฟนีออนสีม่วงวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นของ 'The Neon Galaxy' ไนต์คลับสุดหรูใจกลางมหานครธารา เมืองหลวงของสหพันธรัฐไทเทีย ราวกับแสงออโรร่าเหนือท้องฟ้า เสียงเพลงเบสหนักๆ กระแทกจังหวะอิเล็กทรอนิกส์ ดังกระหึ่มไปทั่ว กลิ่นหอมหวานของค็อกเทลผสมกับกลิ่นควันบุหรี่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ

    บนเวที นักเต้นในชุดรัดรูปสีเงินวาววับกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลง เรียกเสียงเชียร์และผิวปากจากผู้ชมเป็นระยะๆ กลุ่มสาวๆ ในชุดเดรสสั้น โยกย้ายไปตามจังหวะ ดึงดูดสายตาหนุ่มๆ ในไนต์คลับ

    ทั่วทั้งคลับ เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังเซ็งแซ่ บ้างก็จิบเครื่องดื่ม บ้างก็เต้นรำอย่างเมามัน บ้างก็ส่งสายตาให้กันและกัน สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา

    ภาคินนั่งจิบวิสกี้สีอำพัน ที่มี กลิ่นหอมอ่อนๆ หอมกรุ่น รสชาติเข้มข้น ภายในมุมบาร์ที่ค่อนข้างเงียบสงบ เขามองดูผู้คนเต้นรำอย่างสนุกสนาน แต่ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ขณะที่ความคิดของเขาเอาแต่นึกถึงการทดลองที่ล้มเหลว และ"สิ่งนั้น"ที่แฮ็กเข้ามาในระบบที่ห้องทดลองของเขา ความกังวลและความไม่สงบในใจของเขาดูจะแตกต่างจากบรรยากาศรอบตัวอย่างสิ้นเชิง

    "รู้อย่างนี้ ฉันน่าจะไปทดลองที่บ้านของฉันดีกว่า" ภาคินพึมพำกับตัวเอง เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความรู้สึกผิดและความกังวลถาโถมเข้ามาในใจ เขาได้แต่ภาวนาว่าความเสียหายจะไม่ร้ายแรงเกินไป

    กวิน เพื่อนสนิทของเขาวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา “เป็นไงบ้าง ผ่อนคลายขึ้นบ้างไหม?” เขายิ้มให้ภาคินอย่างเป็นห่วง “เห็นเหม่อๆ แบบนี้ตั้งแต่ออกมาจากแล็บแล้วนะ”

    "ฉันก็พยายามอยู่ แต่มันยาก" ภาคินมองไปยังแก้ววิสกี้ในมือ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “ฉันเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องการทดลองที่ล้มเหลว และเรื่องพวกนั้นที่แฮ็กเข้ามาในระบบ พวกมันเป็นใครกันนะ? ต้องการอะไรจากเรา?” เขาเงยหน้ามองกวิน หวังว่าเพื่อนสนิทอาจจะมีคำตอบให้เขาได้

    “เรื่องนั้นฉันให้ทีมไอทีของบริษัทเร่งตรวจสอบอยู่” กวินกล่าวปลอบโยนพร้อมกับบีบไหล่ภาคินเบาๆ “ระบบของเราแน่นหนา ไม่ใช่ใครจะเจาะเข้ามาได้ง่ายๆ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราก็รู้ว่าพวกมันเป็นใคร”

    "หวังว่าอย่างนั้นนะ” ภาคินพึมพำ แม้จะยังมีความกังวลอยู่บ้าง แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณสำหรับกำลังใจจากเพื่อน

    "เอาล่ะ อย่าคิดมากเลยน่า” กวินตบบ่าเพื่อนเบาๆ ให้กำลังใจ “คืนนี้เรามาสนุกกันดีกว่า ฉลองความสำเร็จของนายไง! โปรเจกต์ที่นายทุ่มเทมาทั้งปีสำเร็จได้ด้วยดีขนาดนี้ ต้องฉลอง!” เขายกแก้ววิสกี้ขึ้น “ชนแก้ว!”

    ภาคินฝืนยิ้ม มุมปากกระตุกเล็กน้อย ยกแก้วขึ้นแตะกับแก้วของกวินเบาๆ "ดื่มเพื่อ..." เสียงแก้วกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊งเบาๆ กลบเสียงเพลงและเสียงผู้คนรอบข้างไปชั่วขณะ ภาคินพยายามกลืนความกังวลลงไปพร้อมกับวิสกี้ในแก้ว เขาหวังว่าคืนนี้เขาจะสามารถลืมเรื่องวุ่นวายทั้งหมดและสนุกไปกับเพื่อนได้จริงๆ

    "คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง" กวินกล่าวอย่างองอาจ น้ำเสียงมั่นใจราวกับเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ แก้ววิสกี้ในมือเขาสั่นสะเทือนเล็กน้อย ราวกับสะท้อนถึงความตื่นเต้นของเขา

    "แน่ใจนะว่าจะเลี้ยงไหว" ภาคินหยอกเพื่อน พร้อมกับยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่ากวินไม่ได้พูดเกินจริง บริษัท L&P เติบโตอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปี จนตอนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้อุปกรณ์มือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจากบริษัทของพวกเขา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้กับความสามารถในการบริหารงานของเพื่อนสนิทคนนี้

    "แน่นอน! ฉันได้เงินเดือนจากนายมาเยอะมากจนเปิดไนต์คลับแข่งกับที่นี่ได้หลายแห่งเลย!" กวินพูดเล่นพลางยักคิ้วหลิ่วตา ราวกับเขาเริ่มมึนเมา เสียงเพลงในไนต์คลับดังกระหึ่ม แต่เสียงหัวเราะกังวานของภาคินดังขึ้นมากลบเสียงเพลงนั้น เขาหัวเราะให้กับท่าทางตลกๆ ของเพื่อน ก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกับกวินอีกครั้ง

    เสียงเพลงและเสียงหัวเราะรอบตัวพลันเลือนหายไป ภาคินเผลอคิดถึงอดีต ภาพตอนที่ทั้งสองยังเป็นนักศึกษาไฟแรง ผู้มีความฝันอยากจะสร้างบริษัทเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อความก้าวหน้าของโลกใบนี้ แต่อดีตที่สวยงามอยู่ได้ไม่นาน หลังจากสร้างบริษัทได้ไม่ถึงปี เขาก็ต้องจำใจจากทุกอย่าง ฝากกวินดูแลบริษัทต่อ เพื่อไปตามหาพ่อแม่ใน The Warzone

    The Warzone ดินแดนที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ความอดอยาก และสงครามกลางเมืองบนเกาะลึกลับที่ทางการทั่วโลกปกปิดไว้ ความสุขในปัจจุบันไม่อาจลบล้างความเจ็บปวดในอดีตได้ ภาพของกวินที่ยืนโบกมือลาเขาในวันนั้นยังคงติดตา ภาคินรู้สึกผิดที่ต้องทิ้งเพื่อนไว้กับภาระอันหนักอึ้งเพียงลำพัง

    "เงินเดือนจากฉันมันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นคราวหน้าขอยืมไปทำวิจัยหน่อยสิ!" ภาคินพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกอันหนักอึ้งด้วยเสียงหัวเราะ แต่แววตาของเขายังคงทิ้งร่องรอยของความเจ็บปวดเอาไว้

    "โหย นายรวยมหาศาล! จนคนอื่นตามไม่ทันเลย ยังจะมาขอยืมฉันอีกเหรอ? ไม่มีทาง!" กวินพูดขึ้น ทันใดนั้นเอง เสียงเรียกเข้าดังขึ้นขัดจังหวะเสียงหัวเราะของทั้งคู่ กวินเหลือบมอง L&P Phone รุ่นพิเศษที่มีเพียงพนักงานระดับสูงที่ใช้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นชื่อบนหน้าจอ ความตื่นเต้นแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะลุกขึ้นพรวด ภาคินขมวดคิ้ว มองตามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ใครกันที่ทำให้เพื่อนสนิทของเขามีท่าทีเปลี่ยนไปขนาดนี้

    "ขอโทษทีนะคิน เมียฉันโทรตามน่ะ ขอตัวรับสายก่อนนะ" กวินกล่าวขอตัวก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ เขาพยายามไม่แสดงอาการ แต่ใบหน้าของเขาดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ราวกับมีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สบายใจ

    ภาคินมองตามหลังเพื่อนไปด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันกลับมาจิบวิสกี้ของตนเอง รสขมของเครื่องดื่มเหมือนจะสะท้อนถึงความกังวลที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับกวิน หรือว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับบริษัท? หรือว่า... กวินแค่ลืมรายงานภรรยาว่าจะมาเที่ยวกับเขา? ความคิดนี้ทำให้ภาคินคลายกังวลลงเล็กน้อย เขายกยิ้มมุมปากให้กับความขี้ลืมของเพื่อน

    ในขณะนั้นเอง หญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาภาคิน ท่ามกลางเสียงเพลงและผู้คนมากมายในไนท์คลับ ดวงตากลมโตของเธอเป็นประกายราวกับดวงดาวภายใต้แสงไฟสลัว ใบหน้าสวยคม ผิวขาวเนียนละเอียด และเรือนร่างสง่างามราวกับหงส์ฟ้า เธอยืนเสยผมอย่างเขินอาย

    "สวัสดีค่ะ ดื่มคนเดียวเหรอคะ?" เสียงของเธอหวานใส ภาคินเงยหน้าขึ้นมองเธอ รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับกลอง ก่อนจะยิ้มตอบอย่างสุภาพ

    ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดผุดขึ้นมาในหัว ภาพเหตุการณ์เลือนรางแวบเข้ามาในความคิด เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ รอยยิ้มสดใสและผมเปียยาวสยาย เธอกำลังยื่นดอกไม้ให้เขา...

    "เอ่อ...ครับ กำลังรอเพื่อนอยู่ครับ" ภาคินตอบตะกุกตะกัก เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

    "อ้อ ค่ะ" หญิงสาวยิ้มแนะนำตัวเอง "ฉันชื่อพลอยค่ะ"

    "ภาคินครับ"

    พลอยทวนชื่อเขาในใจ 'ภาคิน...' อารมณ์มากมายถาโถมเข้ามาในใจของพลอยราวกับคลื่นทะเล ความโกรธ ความแค้น ความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็น

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณภาคิน" พลอยพูดพลางส่งยิ้มหวานให้ภาคิน "ถ้าไม่รังเกียจ ฉันขออนุญาตเข้ามานั่งด้วยนะคะ" เธอมองไปที่เก้าอี้ว่างข้างๆ ภาคิน ราวกับรอคำอนุญาต

    "เอ่อ...เชิญครับ" ภาคินตอบขณะหัวใจของเขายังคงเต้นแรง

    พลอยทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ภาคิน ราวกับนกน้อยที่กำลังหาที่พักพิง ภาคินรู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของพลอยที่อยู่ใกล้ๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวเธอโชยมาแตะจมูกเขา กลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับกลิ่นเครื่องเทศ กลิ่นที่ทำให้เขานึกถึงบางสิ่งในอดีต แต่เขานึกไม่ออกว่าคืออะไร

    "น้ำหอมของคุณหอมกรุ่นและอบอุ่น..." ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน "มันทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เหมือนเคยได้กลิ่นนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ภาพในอดีตมันเลือนรางเหลือเกิน" ภาคินยกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด

    แต่ละคำพูดของเขาเหมือนเข็มแหลมทิ่มแทงหัวใจของพลอย ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดในอดีตหวนคืนมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง ใบหน้าของเธอซีดเผือด มือที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋า กำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ

    'ไม่ เขาต้องจำไม่ได้ เขาไม่มีทางจำได้' พลอยพยายามสะกดความรู้สึก ขณะที่ฝืนยิ้ม "คุณภาคินนี่ชมเก่งจังเลยนะคะ จริงๆ มันก็เป็นน้ำหอมที่เพื่อนแนะนำมาให้น่ะค่ะ" แม้จะพยายามควบคุม แต่น้ำเสียงของเธอกลับสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

    ภาคินมองพลอยด้วยความสนใจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่รอยยิ้มและดวงตาของเธอ ราวกับกำลังค้นหาความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน "เพื่อนของคุณคงมีรสนิยมดีมากเลยนะครับ" เขาพูดพลางยิ้มให้เธอ "แล้วเพื่อนของคุณคนนี้... เขาหรือเธอเป็นยังไงบ้างครับ?"

    พลอยลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ "เอ่อ... เธอเป็นคนร่าเริงและสดใสค่ะ ชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ" พลอยพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น

    ภาคินพยักหน้ารับ "ฟังดูเป็นคนดีมากๆ เลยนะครับ" เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ "ผมว่า... เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ? ผมรู้สึกคุ้นเคยกับคุณมากๆ"

    พลอยรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตอบ "ไม่หรอกค่ะ ฉันว่าเราคงไม่เคยเจอกันมาก่อน" เธอพยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนความกังวลในแววตา

    ภาคินมองลึกเข้าไปในดวงตาของพลอย เขาสัมผัสได้ถึงความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในนั้น "บางที... เราอาจจะเคยเจอกันในความฝันก็ได้นะครับ" เขาพูดติดตลก พยายามคลายบรรยากาศตึงเครียด

    พลอยหัวเราะแห้งๆ "บางทีก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ค่ะ"

    "ว่าแต่... คุณภาคินชอบดื่มอะไรคะ? เผื่อฉันจะช่วยเลือกอะไรให้เข้ากับบรรยากาศคืนนี้ได้" พลอยถามพลางส่งยิ้มหวานที่แฝงไปด้วยความประหม่าเล็กน้อยให้ภาคิน พยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากบทสนทนาที่เริ่มทำให้เธออึดอัด

    “วิสกี้ก็ได้ครับ"  ภาคินตอบ พลางส่งยิ้มบางเบาให้พลอย

    พลอยพยักหน้า "ฉันขอค็อกเทล ‘Angel’s Kiss’ ค่ะ" เธอบอกกับบาร์เทนเดอร์ พลางลอบมองปฏิกิริยาของภาคินอย่างรวดเร็ว

    “‘Angel’s Kiss’ เหรอ ชื่อเพราะดีนะครับ” ภาคินพูด แต่ภายในใจกลับรู้สึกตื่นตระหนก ภาพใบหน้าของรุ่นพี่ในสถานที่ศึกษาแห่งหนึ่งและเพื่อน ๆ ของเธอลอยเข้ามาในหัว ตามมาด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินเขาตลอดเวลา เขาไม่เคยลืมเหตุการณ์ในคืนนั้น คืนที่เขา… มือของเขาพลันกำแก้ววิสกี้แน่นจนขึ้นข้อขาว กระจกเย็นเฉียบกดทับรอยแผลเป็นรูปร่างประหลาดที่กลางฝ่ามือ ปลุกความทรงจำอันเจ็บปวดให้หวนคืนมา

    พลอยหัวเราะเบาๆ “ค่ะ ฉันชอบชื่อนี้ มันฟังดูหวานๆ ดี” รอยยิ้มของเธอดูเจ้าเล่ห์อย่างบอกไม่ถูก ราวกับรู้ความลับบางอย่างที่ภาคินไม่รู้ ดวงตาของเธอเป็นประกายวาววับ ราวกับงูพิษที่กำลังจ้องมองเหยื่อ

    “พลอยทำงานอะไรเหรอครับ” ภาคินถาม สายตามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา

    พลอยยกแก้วค็อกเทลขึ้นจรดริมฝีปาก ดวงตาเป็นประกายขบขัน “เดาสิคะ ฉันดูเหมือนคนทำงานอะไร”

    ภาคินแสร้งทำท่าครุ่นคิด “อืม...” เขาละสายตาจากใบหน้าสวยคม ไล่มองไปตามเรือนร่างเพรียวบางที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดราตรีสีดำ ก่อนจะสบตาเธออีกครั้ง “ไม่รู้สิครับ บอกหน่อยได้ไหม”

    พลอยหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเธอราวกับเสียงกระดิ่งแก้วกระทบกัน “ถ้าฉันบอก คุณก็คงไม่เชื่อหรอกค่ะ”

    ภาคินยกยิ้มมุมปาก “ลองพูดมาสิครับ เผื่อผมจะเชื่อก็ได้” เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของพลอย พยายามจับสังเกตปฏิกิริยาของเธอ

    พลอยหลบสายตา ก่อนจะวางแก้วค็อกเทลลงบนโต๊ะ “เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าค่ะ คืนนี้ฉันแค่อยากสนุก” เธอพูดพลางส่งสายตายั่วเสน่ห์

    ในระหว่างนั้นกวินกลับมาที่โต๊ะ สีหน้าเคร่งเครียด แต่พอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ภาคิน เขาก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่เพื่อนของเขาเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้ว

    "ว่าไงครับคุณผู้หญิง มาอยู่เป็นเพื่อนคินเหรอ? ดีเลย ผมฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ มันขี้เหงา แถมยังติดงานงอมแงม" กวินพูดพลางตบบ่าภาคินเบาๆ สายตาของเขา ที่มองพลอยแวบหนึ่ง แฝงไปด้วยความใคร่รู้ใคร่เห็นอย่างปิดไม่มิด

    ภาคินรู้สึกได้ถึงสายตาของพลอย ที่จ้องมองมาที่เขา ราวกับต้องการรู้ว่าเขาจะตอบสนทนากับเพื่อนอย่างไร เขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะหันไปกระซิบถามกวินเบาๆ "ดา บ่นอะไรนายไหม"

    กวินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำหน้าเหมือนเด็กถูกริบของเล่น "ตั้งแต่วันนี้ไปฉันอดเล่นเกมหนึ่งสัปดาห์"

    "ฮ่าๆ สมควรแล้วล่ะมั้ง ใครใช้ให้ลืมเธอแบบนั้นล่ะ" ภาคินแกล้งหัวเราะ พลางยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ พลอยมองบทสนทนาของทั้งสอง มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กๆ แต่ก็เพียงชั่ววินาที ก่อนจะกลับมาเรียบเฉยเหมือนเดิม

    "โอ้ย ไม่ไหวๆ แบบนี้ฉันต้องรีบกลับแล้วล่ะ เดี๋ยวโดนบวกเพิ่มเป็นเดือนแน่" กวินพูด ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

    "รีบไปเถอะ เดี๋ยว 'คุณนาย' โทรมาตามอีกฉันก็ช่วยพูดไม่ได้นะ" ภาคินแซว

    "เออ! แล้วห้ามบอกเธอล่ะว่าฉันพานายมาคลับล่ะ" กวินกล่าวลา พลางหันไปส่งยิ้มเจ๋อๆ ให้พลอย ก่อนจะรีบเดินออกจากไนต์คลับ ราวกับกลัวว่าภรรยาจะตามมาเจอ

    ภาคินหันกลับมาหาพลอย ตั้งใจจะคุยกับเธอต่อ แต่ทันใดนั้น ความเจ็บปวดก็แล่นแปลบปลาบเข้าที่ขมับ ราวกับมีใครเอาค้อนทุบเข้าที่ศีรษะ เขายกมือขึ้นกุมขมับแน่น พยายามจะหยุดภาพความทรงจำที่พร่าเลือน ที่โผล่ขึ้นมาในหัว

    "เพื่อรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว!"

    เสียงตะโกนก้องกังวาน ดังสนั่นหวั่นไหว ภาพกลุ่มคนในชุดขาวดำ กำลังยืนล้อมวง ร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง ปรากฏขึ้น ก่อนจะเลือนหายไปในความมืด

    พลอยรีบเอื้อมมือมาจับแขนภาคิน "คุณภาคิน เป็นอะไรไปคะ ไม่สบายหรือเปล่า" น้ำเสียงของเธอ เต็มไปด้วยความห่วงใย แต่การสัมผัสนั้น กลับเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง

    ภาคินรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มนวลและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ  จากตัวพลอย ‘ดอกมะลิ…’ ความทรงจำเกี่ยวกับดอกมะลิกลับมาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร

    "พี่คิน อย่าลืมหนูนะ! สัญญากับหนูแล้วนะ ว่าจะไม่ทิ้งหนูไปไหน" เสียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ดังก้องอยู่ในหัว แววตาใสซื่อ รอยยิ้มสดใส และผมเปียสองข้าง ปรากฏขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหายวับไปกับความมืด

    "คุณภาคิน ไหวไหมคะ?" พลอยถาม น้ำเสียงของเธอ ฟังดูเป็นห่วงเป็นใย แต่แววตา กลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึก

    "ไหว... ครับ..." ภาคินตอบ เสียงสั่นเล็กน้อย เขาพยายามฝืนยิ้ม แต่ร่างกายกลับเย็นเฉียบ ราวกับถูกแช่แข็ง

    "ไอ้ปีศาจ! แกฆ่าแม่ฉัน!" เสียงกรีดร้องของเด็กหญิง ดังก้องอยู่ในหู ราวกับเสียงสาปแช่งจากนรก

    พลอยเห็นสีหน้าทรมานของภาคิน มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย "คุณภาคิน ไหวแน่เหรอคะ หน้าคุณซีดมากเลย" เธอถาม แสร้งทำเป็นห่วงใย ขณะที่มือของเธอ เลื่อนขึ้นมาแตะที่แขนของเขา

    ภาคินสะดุ้ง ดึงแขนกลับทันที "ไม่... ไม่เป็นไร ผมแค่..." เขาพยายามหาคำพูดมาอธิบาย แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

    "งั้น...ให้ฉันไปส่งที่โรงแรมไหมคะ" พลอยเสนอ "อรยาส่งโลเคชั่นมาให้ฉันแล้ว"

    ภาคินลังเล เขาไม่แน่ใจว่าควรจะไว้ใจพลอยดีหรือไม่ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาคงไม่มีทางเลือก "ครับ... รบกวนด้วย"

    พลอยเรียกแท็กซี่ พยุงภาคินขึ้นรถ ก่อนจะบอกโลเคชั่นโรงแรม ตลอดทาง เธอเอาแต่จ้องมองภาคิน ดวงตาของเธอ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ภาคินอ่านไม่ออก ทั้งความโกรธ ความเศร้า และความสะใจ ปะปนกันไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×