คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อเเรกพบ
ชื่อเรื่อง place of love
โดย แก้ว กรรณนิกา
ตอนที่ 1
ร่างกลมของคนบนเตียงที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มสีฟ้าอ่อนเช่นเดียวกันกับสีของผนังห้อง ร่างนั้นกำลังหลับสบายเหมือนอยู่ในความฝันอันแสนหวานของยามรัตน์ติกาล ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเหมือนจะระบายรอยยิ้มน้อยๆออกมา แต่แล้วร่างบนเตียงก็ต้องสะดุ้งตื่นจากนิทราแสนสุข เพราะเสียงของใครบางคนที่ร้องเรียกเธอ
“ยายลูกแก้ว เมื่อไรแก่จะตื่น”
“มาอาบน้ำได้แล้วลูก”
ใช่แล้ว...เสียงที่รบกวนการนอนหลับของเธอนั้นไม่ใช่จากใครที่ไหน จากพ่อของเธอเอง
ร่างบนเตียงขยับตัวอย่างเสียมิได้ ก่อนตอบรับออกไปด้วยน้ำเสียงที่เบาเต็มที
“แก้วตื่นแล้ว”
“ตื่นแล้วก็ลุกมาอาบน้ำสิลูก”
“แก้วตื่นนานแล้ว พ่อนั้นแหละ! อาบน้ำช้าแก้วรอนานแล้วเลยหลับต่อไปอีกหรอกค่ะ....ไม่ได้ตื่นสายนะ”
ร่างในชุดนอนสีฟ้าลายหัวใจสีชมพูน่ารัก เดินลงมาที่ส่วนล่างของบ้านสองชั้น ก่อนจะลังเลอยู่ช่วงเสี้ยววินาทีระหว่างประตู้ห้องน้ำกับประตู้ห้องครัว...เธอเลือกประตูห้องครัวและตรงไปที่ตู้เย็นเครื่องใหญ่นั้นทันที
เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายของการปิดภาคเรียน เธอได้ดูรายการโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพและความงามของผู้หญิงรายการหนึ่ง เขาบอกว่าการดื่มน้ำหนึ่งแก้วหลังตื่นนอนจะช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้สะดวกและทำให้เรารู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้นในเช้าวันใหม่ และเธอคิดว่ามันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันนี้ วันที่ เธอต้องไปปฐมนิเทศที่โรงเรียนแห่งใหม่ที่เธอเลือกเรียน ทั้งที่เธอเรียนจากโรงเรียนเก่าจนถึงปี2 แล้วแท้ๆแต่เพราะการย้ายงานทางราชการของพ่อทำให้เธอต้องมาเรียนปี3ที่โรงเรียนแห่งใหม่และ การพบเจอกับเพื่อนใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จัก เป็นสิ่งที่ยากเสมอสำหรับเธอ นางสาวกรพินธุ์ อินทรีย์บุญชัย หรือที่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทต่างเรียกเธอง่ายๆว่า “ลูกแก้ว”
“น้ำหนึ่งแก้ว”
เธอพึมพำออกมาเบาๆเมื่อยกแก้วน้ำ “หวาน”สีแดงสดจรดริมฝีปากอวบอิ่ม ก่อนดวงตาหรี่ปรือเหมือนคนใกล้จะหลับ มองผ่านอาหารมากมายไปพบกับกล่องขนมกล่องใหญ่ที่ “พี่วิท”พี่ชายสุดที่รักของเธอหิ้วกลับมาจากที่ทำงานเมื่อวานนี้และไม่ลังเลที่จะหยิบมันออกมา และเริ่มลงมือจัดการกับขนมเค้กช็อกโกแล็ต ของพี่ชายสุดที่รักจนเกลี้ยง สุดท้ายเธอไม่ลืมที่จะนำกล่องเค้กแสนอร่อยนั้นฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงภายในถังขยะ ก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำชั้นล่างของบ้าน
30นาทีผ่านไป
ร่างอวบอิ่มของเธอก็ออกมาจากห้องอาบน้ำ ด้วยสภาพที่พร้อมแล้วสำหรับการไปโรงเรียนวันแรก ก่อนจะออกมายืนมองกระจกใบใหญ่หน้าห้องน้ำนั้น พร้อมกับคิ้วที่เริ่มขมวดมุนเข้าหากัน เพราะภาพที่สะท้อนออกมาจากเงากระจกคือ “หนูน้อยอาราเรห์”เพียงเปลี่ยนจาหชุดเอี่อมมาเป็น เสื้อเชิตแขนยาวสี่ขาวสะอาดกับกระโปรงลายสะก๊อตตัวเท่ากางเกงในที่เชยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา และถุงเท้ายาวสีขาวกับสูทสี่กรมท่า
“ให้ตายใครออกแบบชุดนักเรียนกันนะ ไม่มีรสนิยมเอามากๆเลยนะ”
เธอบ่นได้ไม่นานนักเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นจากทางบันไดทางลงที่ปรากฏร่างสูงสง่าและแม้จะเพิ่งตื่นนอน ฟันยังไม่ได้แปลง หน้ายังไม่ได้ล้าง พี่ชายของเธอก็ยังดูดีที่สุดเสมอ หากเพียงแต่เวลาที่หุบปากเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ
“อรุณสวัสดิ์ น้องลูกหมูของพี่”
“หนูชื่อลูกแก้วหรอกค่ะ ไม่ใช่ลูกหมู และถ้าอยากรู้ว่าตัวมีน้องชื่อลูกหมู รึเปล่าก็ไปถ้าคุณพ่อสิค่ะ...อาจจะมีที่แอบซ้อนไว้ก้ได้”
“โธ่ๆ...อย่างอนน่า ลูกหมู! เอ๊ย...ลูกแก้วของพี่ วันนี้ไปปฐมนิเทศหรอจ๊ะ ให้พี่ไปส่งเอาไหมค่ะ”พี่วิทมักจะลงท้ายประโยคที่พูดกับฉันว่า “ค่ะ” เสมอ...เวลาที่อยากจะเอาใจกัน
“ใครจะไปรอพี่วิทล่ะค่ะ...ลูกแก้วจะไปกับคุณพ่อค่ะ”
“อย่างนั้นไปดีมาดีนะค่ะ น้องลูกหมูของพี่”
‘ลูกหมูอีกแล้วนะ’เธอคำรามในใจก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงวิ่งมาหอมแก้มขาวเนียนของพี่ชายสุดที่รักฟอดใหญ่ แล้วหันหลังกลับวิ่งไปที่ประตูใหญ่ของบ้าน แล้วหันมาหาคนร่างสูงที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ที่เชิงบนไดอีกครั้ง ดวงหน้างดงามของวัยสาวระบายรอยยิ้มกว้างก่อนจะตะโกนเสียงดังออกไป
“ขอบคุณมาก สำหรับขนมเค้กค่ะ อร่อยที่สุดในโลกเลย...แหมเสียดายจังที่จะมีคนอดกิน”
ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายสุดที่รักของเธอใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการทำความเข้าใจกับประโยคดังกล่าว ก่อนจะวิ่งไปกระชากบานประตูตู้เย็นและมองหาขนมเค้กจากฝรั่งเศษที่ลูกน้องคนหนึ่งในบริษัทซื้อมาให้เป็นของฝาก และแน่นอนว่ามันไม่มีเหลือแม้แต่เศษซากของช็อกโกแล็ตด้วยซ้ำ
“โธ่...ยายลูกแก้ว!!น้องกินหมดคนเดียวได้ไงนะ”เขาถามเพราะสงสัยจริงๆ
‘ยายน้องน้อยตัวแสบ มันน่าจะจำมาตีเข่าจริงๆ’
“ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ทุกคน สู่โรงเรียนintercommunicationบริหารธุรกิจ เมื่อทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว กรุณาเข้าไปรอการปฐมนิเทศภายในหอประชุม ณ.อาคาร6 ชั้น 1และโปรดนั่งตามเลขที่ประจำตัวนักเรียนที่ทางโรงเรียนได้แจ้งให้ทราบแล้ว ขอบคุณครับ”
เสียงประกาศดังออกมาจากลำโพงขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั่วไปภายในโรงเรียนดังขึ้น ส่งผลให้ร่างที่อยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เป็นวันแรก ต้องหยิบบัตรประจำตัวนักที่พึ่งได้รับขึ้นมาดูอีกครั้งอย่างละเอียด
“นางสาวกรพินธุ์ อินทรีย์บุญชัย เลขประจำตัว ic198978”
เมื่อทบทวนจนขึ้นใจแล้วกรพินธุ์จึงลุกขึ้นจากซุ้มไม้ประดับที่ตนนั่งอยู่ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้และในขณะที่กำลังจะออกเดินนั้นเอง ร่างของเธอก็ถูกชน เข้าอย่างแรงจากผู้ชายคนหนึ่ง จนล้มลงไปนั้นในสภาพที่เธอรู้ตัวเองดีว่ามันคงไม่เรียบร้อยแน่ๆ
“โทษทีนะ เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่า?”ผู้ชายคนนั้นถามฉัน
“เจ็บใจสิย่ะ เอาตาไว้ที่บ้านรึไง เดินไม่ดูคนแบบนี้”
“นี่เธอก็ขอโทษดีๆแล้วไง.ชนแค่นี้ทำเป็นลุกไม่ขึ้นรึไง”
“เออดิ” โอ๊ย ทนไม่ไหวขอดูหน้าคนใจดำหน่อยเถอะ คิดได้แบบนั้น ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้านายนั้น แต่สิ่งที่เธอเห็นนั้นกลับกลายเป็น ชายหนุ่มที่คงจะอยู่ในวัยใกล้30 แต่งตัวด้วยมาดที่ดูสะดุดตาด้วยความภูมิฐาน ที่เธอคิดว่าเหมือนเจ้าชายอาหรับในจินตนาการของเธอเป็นที่สุด...ผิวสีแทน ผมซอยหยักโสกนิดๆสีดำสนิทดั่งขนกากับดวงตายาวลึกที่ล้อมรอบด้วยขนตาที่ดกหนาที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาและยัง นัยตาสีดำประกายน้ำเงินที่เปรียบเสมือนท้องนภายามค่ำคืน แล้วก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรที่น่าอายออกไป ร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอก็ทำลายความเงียบนี้ด้วยน้ำเสียงที่ติดจะรำคาญอยู่ในที
“จะนั่งมองอีกนานไหม....ฉันไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะ”ชายคนนั้นพูด
พร้อมกันสายตาที่เลือนจากใบหน้าขาวนวลไปที่กระโปรง และนั้นทำให้เธอนึกขึ้นมาได้ว่าท่านั่งที่ปรากฏแก่คนตรงหน้าของตัวเองมันคงจะทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน และดูจากสีหน้าของนายนั้นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านายนั้นเห็นอะไร
“ตาบ้า ห้ามมองนะ!!”หน้าที่เริ่มแดงของเธอแดงมากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาเมื่อมองร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่รีบร้อนจนดูเป็นการตะกายที่จะลุกขึ้นจากพื้นของเด็กสาว
“นาย เห็นรึเปล่า”....โธ่ วันนี้ใส่กางเกงในสีขาวด้วยสิ
“เห็น....ถ้าเธอหมายถึง กางเกงในสีขาว ติดละบาย ลายลูกไม้ ล่ะก็นะ”น้ำเสียงเรื่อยเอ่ยมา
“นายบ้า....ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”...ปกติเขาต้องบอกว่าไม่เห็นสิย่ะ
“ก็เธอถามว่าเห็นรึเปล่า...ก็ในเมื่อเห็นจริงๆฉันก็ตอบตามตรงสิ...นี้ยังไม่รวมถึง...”
หญิงสาวที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วพอจะเดาออกว่าสิ่งที่นายนั้นเห็นจะเป็นอะไรก็จำต้องยกมือขึ้นมาเป็นการบอกให้นายนั้นหยุดพูดก่อนที่เธอจะอายไปมากกว่านี้
“นายช่วยลืมเรื่องบ้านี้ไปที่จะได้ไหม”
“...ทำไมต้องลืมล่ะ?”
“เพราะฉันอายนะสิย่ะ!”...นายนี่แต่งตัวก็ดีไม่น่าจะโง่นะ
“แล้วถ้าฉันไม่ลืมล่ะ...เธอจะทำไม?”
“ฉันก็คงจะต้องฆ่านายเดี่ยวนี้”
“..............................................”
“หวังว่าคงเข้าใจ ฉันไปก่อนนะ”เธอปล่อยให้นายนั้นยืนอยู่ต่อไป ก่อนจะเดินตรงมาที่หน้าอาคาร4 ด้วยไม่คิดแม้แต่จะหันหลังกลับไป...แต่เธอมั่นใจจริงๆว่านายรูปหล่อนั้นจะต้องมองอยู่เป็นแน่
ห้องประชุมที่เธอต้องการหานั้นไม่ยากอย่างที่คิดเพราะมันมีเพียงห้องเดี่ยวเท่านั้นและกินเนื้อที่ถึง1ชั้นอาคารเลยที่เดียวของอาคารแห่งนี้ เธอดึงบานประตูออกเบาๆ อากาศเย็นสดชื่นจากเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่หลายเครื่องที่ทำงานเงียบกริบ ปะทะเข้ากับใบหน้าเธอเข้าอย่างจังและก็ดีที่ความเย็นนั้นจะช่วยดับความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
Ic 198978...เก้าอี้ตัวแรกติดหมายเลข Ic 198000 โธ่แบบนี้ที่นั่งของเธอคงอยู่หลังเป็นแน่...แต่มันตรงไหนกันล่ะ
แล้วก็เหมือนสวรรค์ส่งนางฟ้านางสวรรค์มาช่วยเธอ เมื่อร่างของใครบางคนเดินออกมาจากหลังเครื่องฉายภาพเครื่องใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าเวที หญิงสาวผู้นั้นทักขึ้นก่อน
“สวัสดีค่ะ ...มีอะไรให้ช่วยไหมค่ะ?”
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นนักศึกษาปี3ที่มาใหม่นะค่ะ ฉันกำลังมองหาที่นั่งอยู่ค่ะ แต่เก้าอี้เยอะแบบนี้มันเลยลายตาเป็นหมด”
“เลขประจำตัวอะไรค่ะ ..ฉันจะพาไปหาที่นั่งค่ะ”
“198978ค่ะ”
“อ๋อ...ที่นั่งแถวสุดท้ายเลยค่ะ รู้สึกจะอยู่ประมาณสามตัวสุดท้ายนะค่ะ”ร่างตรงหน้าที่ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ยังสูงกว่าเธอเกือบ
เก้าอี้สามตัวสุดท้ายนั้นติดหมายเลข 198978 198979 198800 แปลว่าที่นั่งของเธอจะต้องอยู่ก่อนที่นั่งตัวสุดท้ายสองตัว...ดีจัง เธอไม่ชอบนั่งที่นั่งริมๆเท่าไร เพราะเวลาที่มีการถามหรือตอบคำถามอะไรคนถามมักจะเลือกคนตอบที่นั่งริมทุกที่เลย. และแน่นอนว่าตอนนี้เธอยังไม่อยากกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนตั้งแต่วันแรกหรอกนะ...แม้จะเป็นไปแล้วกับตาบ้าคนเมื่อเช้าก็เถอะ
------------------------------------------------------
ความคิดเห็น