คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป (เย่เรียว) [แก้ไขค่ะ! ^^]
-7-
แสงสว่างจากด้วงอาทิตย์ทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา...อานี่เช้าแล้วหรอเนี้ย! ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แสงอาทิตย์ยังคงสอดส่องเข้าตาผม แต่ว่านะ ตอนนี้ทำไมผมรู้สึกอึกอัด เอ๊ะ! แล้วนี่อกใครเนี่ย!? ใครช่วยบอกที่ว่าผมกำลังซบอกใครอยู่ อ๊ะ! จริงสิ เมื่อคืนผมจำได้ว่าผมติดอยู่บนยอดชิงช้าสวรรค์กับไอ้เจ๊กนี่ แล้วมันค้าง! หา ใช่แล้ว มันค้างอยู่ หวา~~ สูงจังเลย พอผมกำลังจะขยับตัวออกจาอ้อมกอดของไอ้เจ๊กนี่มันก็ดัน
“อ้ากกกกกกกกกกก!!!!!”
“ฮีชอล! เป็นอะไรร้องเสียงดังเชียว O_O”
“...มะ..มันโยกอีกแล้ว TT^TT ฮือ...ฉันอยากออกไปจากที่นี่ ToT” มันน่ากลัว นี่ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมตกลงไปจะทำยังไงดี ฮืออออออ~ น่ากลัว
“ไม่เป็นไรนะ นี่ก็เช้าแล้วเดี๋ยวพนักงานของสวนสนุกก็คงมาเองล่ะ”
“ตะ แต่....”
จ๊อก~จ๊อก~
ง่า~เสียงของผมถูกแทนด้วยเสียงท้องของผม ที่มันร้องเพราะต้องการอาหาร ฮือๆๆๆ ติดอยู่บนนี้แล้วจะหาของกินมาปะทังชีวิตตัวเองได้ยังไงน่ะ TT^TT
“หิวหรอ?” ก็เอออ่ะสิ ท้องร้องแบบนี้คงไม่หิวมั้ง ผมก็ได้แต่เถียงในใจเท่านั้นแหละ ถ้าขืนเถียงไปตอนนี้ผมจะพึ่งใครล่ะ ในเมื่อผมอยู่กับไอ้เจ๊กนี่แค่สองคน ดังนั้นผมจึงพยักหน้าแทนคำตอบ
“(- -)(_ _)”
“อ้อ! จริงสิ ฉันมีขนมปังอ่ะ! อะนี่ฉันให้นาย~ พอดีนังหมวยมันฝากมาให้เป็นกำลังใจในการถ่ายทำละครน่ะ เฮ้อ~~ ยังพอมีประโยชน์บ้างล่ะนะ ^^”
“แล้วของนายล่ะ
”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า นายเอาไปเถอะ”
“บ้าหรือไง! ถึงฉันจะเป็นแบบนี้น่ะนะ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวพอที่จะเอาของกินของคนอื่นมากินโดยที่เจ้าของไม่ได้กินหรอกนะ!!!”
“น่า ฉันเต็มใจให้นี่นา ถ้านายไม่รับขนมปังไป ฉันก็ไม่กินเหมือนกันแหละ”
“แล้วถ้าฉันเอาขนมปังของนายมาแล้วนายจะได้กินหรือไงล่ะ!”
“ไม่รู้ไม่สน! ถ้านายไม่กินฉันก็ไม่กิน” เอ๊ะ! ไอ้เจ๊กนี่ยังไงกันนะ บอกว่าให้ก็ให้สิ มาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไปได้ - -
“นายนี่จริงๆเลยนะ ตาบ้าเอ๊ย! อ้ะจริงสิ
!” ผมว่าพลางหยิบขนมปังจากมือไอ้เจ๊กแล้ว ก็จัดการแบ่งครึ้งขนมปังเป็นสองท่อนเท่าๆกัน
“...อ่ะนี่ของนาย” ผมเอาอีกครึ่งให้ไอ้เจ๊กส่วนอีกครึ่งนึงของผม เมื่อแบ่งกันได้เรียบร้อยแล้ว เราทั้งสองคนก็กินขนมปังกันคนละท่อนที่แบ่งไว้อย่างเอร็ดอร่อย! โฮะๆๆๆ เพิ่งจะรู้ถึงคุณค่าขนมปังก็วันนี้แหละนะ! ^^
“เอ๊ะนั่น! พนักงานนี่!!!!” ไอ้เจ๊กว่าพลางชี้ให้ผมดู
“คุณครับช่วยผมด้วยยยยยยยยยยย! อ้ากก!” ผมตะโกนด้วยความดีใจจนเผลอทำให้ชิงช้าสวรรค์โยก ฮืออออ น่ากลัว~
“นายอยู่เฉยๆนะ เดี๋ยวฉันเรียกเอง...คุณครับ!!!!!!!!! มีคนติดอยู่บนนี้ช่วยพวกเราด้วย!” เสียงไอ้เจ๊กนี่ไม่ได้ใจผมเลยอ่ะ ดังนั้นผมจึงตั้งตัวดีๆและช่วยไอ้เจ๊กนี่ตะโกน
“ช่วยด้วยครับบบบบบบบบบบบบ! มีคนติดอยู่บนนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงผมและไอ้เจ๊กประสานกัน ดังพอที่จะให้พนักงานได้ยินและมองซ้ายมองขวา
“ไอ้พนักงานบ้าเอ๊ย! ฉันอยู่ตรงนี้ต่างหาก แหงนขึ้นมา แหงนขึ้นมาสิวะ!” ผมบ่นอุบอิบ
“อยู่ทางนี้ครับ!!!!!” ไอ้เจ๊กตะโกนอีกที นั่นทำให้พนักงานฉลาดพอที่จะแหงนหน้าขึ้นมาบนชิงช้าสวรรค์ - -+
“นั่นคุณไปทำอะไรบนนั้นน่ะครับ!” พนักงานใช้โทรโข่งส่งเสียงถามพวกเรา ปั๊ดโธ่เว่ย! เดี๋ยวค่อยถามได้มั้ยวะเนี้ย! คนยิ่งกลัวความสูงอยู่ - -++++
เมื่อพนักงานเห็นผมทำหน้าอย่างนั้น (เอ่อต้องเข้าใจว่ามันเป็นฟิคอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ นี่ขนาดชิงช้าสวรรค์สูงมากมันยังเห็นหน้ากันได้อ่ะ คิดดู๊) จึงเปิดเครื่องชิงช้าสวรรค์ให้แล่นลงและ เปิดประตูรับผมลงไปในที่สุด
“ตกลงคุณขึ้นไปทำอะไรบนนั้นครับ? แล้วคูณเปิดเครื่องเล่นได้ยังไงกัน? เอ๊ะแล้วถ้าเปิดเครื่องเล่นแล้วเครื่องดับได้ยังไงล่ะเนี้ย อ้อ! จริงสิเมื่อคืนผมตรวจเวรนี่นาเห็นชิงช้าสวรรค์ขยับก็เลยปิด อื้มๆๆใช่ๆ เอ๊ะ! ว่าแต่คงเป็นพวกคุณสินะครับที่เปิดเครื่องเล่นของเราเมื่อคืนนี้” จะถามมากหาพระแสงอะไรฟะ พูดเองเออเองอยู่นั่นแหละ รำคาญโว้ยยยยย!
“ครับผมเปิดเอง ^^” ไอ้เจ๊กนี่ยังจะยิ้มอยู่ได้ - -++
“คุณเปิดทำไมกันครับ ไม่รู้หรือไงว่าทางสวนสนุกไม่ให้เปิดเครื่องเล่นตอนกลาง อ้อ! แล้วคุณเข้ามาในสวนสนุกตอนกลางคืนได้ยังไง เอ๊ะ! แต่ผมว่าคุณหน้าคุ้นๆนะ อ้อ! ใช่ฮันเกิงที่เป็นนักร้องแล้วก็เป็นนักแสดงใช่ไหมครับ! คุณคงเข้ามาได้เพราะมาถ่ายละครเมื่อคืนสินะครับ แต่คนทำไมต้องป่วนสวนสนุกด้วยล่ะเนี้ย ผมจะไม่โกรธคุณก็แล้วกันนะครับ เพราะน้องสาวผมชอบคุณมากแต่คราวหลังก็...”
“หยุดพูดมากสักที่จะได้มั้ย รำคาญโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย!” ผมรำคาญจัดจนต้องโวยเสียงดังและรีบลากแขนไอ้เจ๊กเดินออกไปจากที่นั่นทันที แต่ยังไม่วาย ไอ้พนักงานปัญญาอ่อนนั่นยังตะโกนไม่เลิก
“เฮ้! คุณครั้บ คุณจะเดินหนีอย่างนี้ไม่ได้นะครับ มาเสียค่าปรับก่อนสิครับ เพราะคุณเล่นเครื่องเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนะครับ....เฮ้อย่าหนีสิครับ!...คุณครับ
.”
“หุบปากโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย!” ผมหันไปตะโกนใส่ไอ้พนักงานจอมเจือก! ในขณะที่เท้าก็กำลังวิ่งอยู่ และมือก็กำลังจับแขนไอเจ๊กอยู่ เอ๋? จับแขนไอ้เจ๊ก
“อ้ากกกกกก! ไอ้เจ๊กนายหลอกแต๊ะอั๋งฉัน!!!!!”
“เฮ้! อย่าโยนความผิดๆดื้อสิคร้าบ!!”
(end Heechul’s talk)
(Donghae’s talk)
อะ! ทำไมพี่ฮันเพิ่งกลับบ้านนะ แปลกจัง แสดงว่าเมื่อคืนก็ไม่ได้กลับมาบ้านน่ะสิ! พี่ฮันไปไหนมาเนี้ย
“ทำไมถึงเพิ่งกลับล่ะพี่ฮัน!? O_O”
“ยังไม่ไปเรียนอีกหรอนังหมวย”
“อื้อ! หมวยไปเรียนแล้ว เหลือแต่แฝด!!” ผมประชดพี่ชายแท้ๆของผมไป
“กวนแล้วนะนังหมวย!”
“ก็เห็นอยู่นี่ว่าเค้ายังไม่ไปเรียน นี่ยังไม่ตอบเค้าเลยนะว่าทำไมถึงเพิ่งจะกลับบ้านเนี้ย!?” หนอยพี่ชายตัวดีของผมยังไม่ตอบคำถามผมเลย เปลี่ยนเรื่องซะและ - -+
“..คือเมื่อวานพี่ติดอยู่ที่สวนสนุกน่ะสิ!”
“ติดที่สวนสนุก? ไปทำอีท่าไหนถึงได้ไปติดอยู่ในสวนสนุกล่ะเนี้ยพี่ฮัน! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าพี่ไม่ได้กลับบ้านหรอเนี้ย เฮ้! แล้วหาอะไรกินหรือยังพี่ฮัน ระวังเป็นโรคกระเพาะนะ!!” ผมรีบพูดออกไป เพราะเป็นห่วงพี่ชายกลัวว่ายังไม่ได้กินอะไร
“ก็ไปถ่ายละคร และเล่นอะไรนิดหน่อย เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน เมื่อเช้ากินขนมปังแล้ว เฮ้อ..พี่ตอบหมดแล้วเลิกถามเถอะนะ แค่วันนี้เจอไอ้พนักงานถามมากก็จะบ้าตายอยู่และ (แต่ไม่แสดงออก)” ได้ยินดังนั้นผมจึงไม่ถามอะไรอีก
อ่าตอนนี้ผมมาถึงมหาลัยแล้ว! เรียวหายไปไหนกันนะ ปกติเรียวจะมาก่อนผมนี่นา แปลกจังวันนี้ โอ๊ะ! นั่นไงมาแล้ว ไปทำอะไรมาเนี่ยหน้าแดงเชียว
“เรียว!! ไปทำอะไรมาหน้าแดงเชียวนะ! แถมวันนี้ยังมาช้ากว่าฉันอีก!”
“ปละ เปล่านะ! ฉันไม่ได้ไปทำอะไรซักหน่อย” เอ๊ะ! แล้วทำไมต้องพูดติดๆขัดๆ ด้วยล่ะเนี้ย แปลกจังเลย อืม...
“งั้นหรอ...อื้ม แต่ชั่งมันเถอะรีบเข้าเรียนเถอะเดี๋ยวจะสาย!”
“โอ๊ะ! นั่นคิบอมกับเยซองนี่นา คิบอ...!” อะไรกันเรียวอุคเป็นอะไรไปเนี้ย พอผมจะเรียกคิบอมก็ดันเอามือมาปิดปากผมซะนี่ แปลกจัง!
“อย่าทักเลยนะ ฉะ ฉันไม่อยากเจอหน้าไอ้ซาลาเปานั่นน่ะ >///<” ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะเนี้ย เรียวของผม!
“ทำไมล่ะ!?” ผมถามด้วยความสงสัย วันนี้เรียวอุคมาแปลกมาก... จริงๆนะ
“ก็เปล๊า ฉันก็แค่ไม่อยากเจอหน้า! ปกติฉันก็ไม่อยากเจอหมอนั่นอยู่แล้วนี่!!! จะถามทำไมกันล่ะ.....อ้ะ! ไหนบอกจะรีบเข้าเรียนไง รีบเข้าเรียนกันเถอะ เดี๋ยวจะเรียนไปทัน อาจารย์จะว่าเอาได้นะว่าเราเข้าสายน่ะ!! รีบไปกันเถอะ แหะๆๆ ^^” เรียวอุครีบลากผมเข้าห้องเรียน
(end Donghae’s talk)
ในห้องเรียน
ในขณะร่างเล็กทั้งสองเรียนกันอยู่นั้น เรียวอุคไม่ได้สนใจในบทเรียนเลย เข้าหูซ้ายก็ทะลุหูขวา เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะเรียวอุคมัวแต่คิดเรื่องเมื่อวานน่ะสิ ที่เขาดันโดนขโมยจูบไปอย่างหน้าตาเฉย แถมเจ้าตัวก็ยังไม่ขัดขืนซะด้วย ตอนนี้เรียวอุครู้สึกสับสนมากกับอาการที่ตัวเองเป็นอยู่ ปกติถ้าเป็นเขาคนเดิม เขาก็ต้องปฏิเสธจูบนั้นสิแต่ว่าคราวนี้มันต่างไป....
“เรียวอุค!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ดงเฮเรียกเรียวอุคเสียงดัง จนเรียวอุคสะดุ้ง
“ฮะ! มีอะไรหรอดงเฮเรียกเสียงดังเชียว”
“ถ้าไม่เรียกเสียงดังแล้วแกจะหันมามองฉันมั้ยเล่า! เรียกเป็นสิบกว่ารอบแล้วก็ไม่ได้ยิน ที่อาจารย์สอนฉันก็เห็นแกเหม่ออย่างเดียว ให้ตายสินี่ใช่เรียวคนเดิมหรือเปล่าเนี้ย!”
“เอ่อ...ขะ ขอโทษ”
“ใครกันทำให้เรียวเพื่อนของฉันเป็นได้ถึงขนาดนี้ ปกติแกมีเคยเหม่อเลยนี่นา ใครกันๆๆ ทำให้เรียวเหม่อ!!” ดงเฮพึมพำด้วยความสงสัย แต่เสียงของดงเฮก็ดังพอที่จะทำให้คนข้างๆอย่างเรียวอุคได้ยิน และเมื่อเรียวอุคได้ยินดังนั้นก็นะแดงเป็นมะเขือเทศเลยทีเดียว
“ไปกินข้าวกันเถอะนะ >///<” เรียวอุครีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เพื่อนรักสงสัยต่อ
(Ryeowook’s talk)
หวัดดีครับผมเรียวอุคทุกคนคงเคยเจอบ่อยแล้ว แต่ก็เพิ่งจะมีตัวตนจังๆก็ตอนนี้แหละนะ เข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนี้ผมกับหมวยด๊องเพื่อนรักของผมกำลังเดินเร่ร่อน (?) ในโรงอาหารเพราะกำลังตัดสินใจว่าจะกินร้านไหนดี
“กินอะไรดีล่ะหมวย” ผมถามเพื่อนรักผม
“นั่นสินะ! อ๊ะนั่น คิบอมมมม!” เฮ้ย! ไม่ทันแล้ว หมวยเรียกคิบอมเรียบร้อยแล้ว แต่..ทำไมไม่เห็นไอ้หน้าซาลาเปาเนี้ย! โอ้ย ผมจะคิดถึงมันทำไมเนี้ย ในเมื่อคิบอมอยู่คนเดียวก็ดีแล้วนี่นา..!
“ว่าไงดงเฮ ^^” คิบอมตอบดงเฮ ดูท่าสองคนนี้จะสนิทขึ้นมาเรื่อยๆนะเนี้ย - -+ (แหม~ นายก็เหมือนกันแหละเรียวอุค สนิทกะเยเย่ขึ้นเรื่อยๆ)
“อ่า มากินข้าวคนเดียวหรอ ^^”
“อ๋อ มาสิบคนน่ะ”
“
L
” หมวยทำหน้าบึ้งไป
“ฮะๆๆ ก็เห็นอยู่ว่ามาคนเดียวยังจะถามอีกนะ - -+”
“เออนี่! ฉันขอตัวก่อนนะ เพิ่งนึกได้ว่าลืมของไว้ที่ห้องน่ะ” ผมพูด เพราะกะว่าจะปล่อยให้สองคนนี้คุยกันสองคน อยู่ต่อไปผมก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว แถมเหมือนเป็น กขค. ยังไงก็ไม่รู้ ก็ดูสิ เจอคิบอม ผมก็พูดอะไรไม่ได้เลย ก็สองคนนั้นเล่นคุยกันสองคน - -+
“ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย” หมวยถามผม
“ไม่เป็นไรนายคุยกับคิบอมไปเถอะ ^^” ผมบอกและเดินออกจากโรงอาหาร อืม..ไปเดินเล่นที่สวนของมหาลัยดีกว่าเน๊อะ! ^^ เอ๊ะแต่ก่อนที่จะไปสวนแวะซื้อขนมปังกินดีกว่า
“ป้าครับ! ผมขอขนมปังไส้ช็อคโกแลตหนึ่งชินนะครับ ^^!” ผมพูดกับป้าคนขาย
“ได้จ้า!...รอก่อนนะจ๊ะ ^^”
“ครับป้า! ^^” อ่า อาหารมื้อกลางวันของผม เลือกได้ซักทีแฮะว่าจะกินอะไร โฮะๆๆๆๆ สุดท้ายก็ไม่พ้นขนมปังเจ้าเก่าที่ผมมาซื้อเป็นประจำ
“นี่จ่ะ! ได้แล้ว คราวหลังมาซื้ออีกนะจ๊ะ”
“ครับป้า” ว่าแล้วผมก็หยิบขนมปังมากินพลางเดินไปที่สวนของมหาลัย
เอ๊ะนั่น! อีตาบ้าหน้าซาลาเปา กำลังกอดกับผู้หญิงอยู่นี่! แล้วกอดกับใครกันนะ! ที่ไอ้บ้านี่ไม่ยอมไปกินข้าวกับคิบอม ก็เพราะว่ามากอดกับผู้หญิงคนนี้เองน่ะหรอ ทำไมกัน!! ทำไมทำแบบนี้ล่ะ เมื่อวานยังบอกชอบผมอยู่เลย แต่วันนี้กลับกอดผู้หญิงอีกคน
แล้วนี่ผมเป็นอะไรไป ทำไมผมต้องโกรธด้วยล่ะ แล้วทำไม ร่างกายผมถึงได้อ่อนแอลงถึงขนาดนี้ กะอีแค่ไอ้หน้าซาลาเปาก่อนกับผู้หญิง ทำไมผมเหมือนจะไม่มีแรงเลยล่ะ แล้วทำไมน้ำใส่ต้องออกมาจากดวงตาด้วยนะ ทำไม ทำไมกัน... ผมรีบปาดน้ำตาลวกๆ คนแบบนั้นน่ะ จำไปสนใจทำไมกัน...ผมได้แต่คิดอย่างนั้น...
และเมื่อไอ้หน้าซาลาเปาคลายอ้อมกอดจากผู้หญิงคนนั้น ก็หันมาทางเข้าสวน ก็เจอผมเข้าพอดี ผมไม่อยากขัดจังหวะจึงรีบเดินหนี
“เรียวอุค!!! เดี๋ยวก่อนเรียวอุค!!! มันไม่ใช่แบบที่นายคิดนะ!!!”
ตอนนี้แค่เสียงของไอ้หน้าซาลาเปานั่นผมก็ไม่อยากได้ยิน ทำไมกัน ทำไมไม่กลับไปกอดกับผู้หญิงของนายต่อไปล่ะ จะมาตามคนอย่างผมทำไม....
“เรียวอุค!!! หยุดแล้วฟังฉันก่อนได้มั้ย!!!” ยังไม่เลิกตามมาอีกหรือไง เฮอะ!
“อย่ามายุ่งกับฉันกลับไปหาผู้หญิงของนายซะ!!!!” ผมหันกลับไปตะโกน เฮอะ! ทำไมกัน ไล่แล้วยังไม่ไปอีกหรือไง
และแล้วไอ้ซาลาเปาก็ตามผมทันจนได้ มันเอามือมาจับต้นแขนของผม และเรียกชื่อผมอีกครั้ง ผมรู้น่า จำชื่อตัวเองได้ ไม่เห็นต้องมาย้ำ - -++
“มีอะไร ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน!”
“มันไม่ใช่นะ มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะฟังฉันก่อนนะเรียวอุค อย่าโกรธฉันได้มั้ย!!”
“หรอ...แล้วฉันคิดอะไรหรอ? แล้วทำไมฉันต้องฟังนายด้วย? แล้วทำไมนายต้องมาแก้ต้วกับฉันด้วย แล้วฉันทำไมต้องโกรธนาย...เราเป็นอะไรกันงั้นหรอ ก็ไม่ได้เป็น!” ผมพูดเสียงเย็นชาใส่ไอ้หน้าซาลาเปา
“
”
“ตอบสิ!”
“..นั่นสิ เราไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่านะ....” อะไรของมันอีกเนี้ย
“...” ผมเงียบ รอว่าไอ้หน้าซาลาเปาจะพูดอะไร
“...นายน่ะ..ทำตัวเหมือนกำลัง....’หึง’ฉันเลยนะ!!!!!” อะ อีตาบ้านี่ จะบ้าหรือไง บ้าไปใหญ่แล้ว ผมเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ!
“บะ...บ้า! นายเอาอะไรมาพูด ใครหึงนายกัน ไม่ใช่สักหน่อย ไม่มีด้วย ฉันเปล่าหึงนายนะ”
“ไม่เชื่อ ไม่งั้นทำไม่นายต้องอารมเสียใส่ฉันด้วยล่ะ!”
“นายอย่ามาตู่นะ ฉันไม่ได้หึงนายสักหน่อยไอ้บ้า ไอ้หน้าซาลา...!” ผมยังไม่ทันด่าจบ ไอ้หน้าซาลาเปานี่ก็เอาปากของมันมาประกบปากของผม ผมใช้แรงที่มีอยู่ดันหน้าอกของมันแต่ก็ไม่มีผล และรสจูบที่อ่อนหวานนี้ ทำให้ตัวผมอ่อนยวบ มือของผมจากที่ผลัก ก็กลับกลายเป็นโอบคอไอ้หน้าซาลาเปา นี่ผมเป็นอะไรไป...
“ทีนี้ฟังฉันได้หรือยังล่ะ....อุคกี้! ^^”
“
>///<” ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่ยืนหน้าร้อนผ่าว ครั้งที่สองแล้วนะตาบ้านี่!
“เมื่อกี้น่ะ คือพี่สาวฉันเองชื่อทิฟฟานี...แล้วพอดีพี่สาวฉันเพิ่งกลับมาจากอังกฤษเลยแวะมาหาฉัน และเมื่อเจอกัน พี่ทิฟฟานีก็เลยวิ่งเข้ามากอดฉันด้วยความคิดถึงยังไงล่ะ...นายน่ะเข้าใจผิด...มันจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีเนี่ยที่นายเข้าใจผิด...อืมม แต่ฉันว่าเป็นเรื่องดีล่ะนะ เพราะมันทำให้ฉันรู้ว่านายก็มีใจให้ฉันเหมือนกัน ^^”
“คะ ใครมีใจให้นายกัน อย่ามามั่วนะ! >///<” ไอ้บ้านี่ พูดออกมาได้ยังไงกันว่าผมแอบมีใจให้มันเหมือนกันน่ะ! (หรือไม่จิงล่ะเรียว)
“แล้วใครกันนะน้ำตาไหลเพราะฉันกอดกับผู้หญิงคนอื่นน่ะ อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะ เอ...แล้วใครกันนะโมโห เพราะฉันกอดกับผู้หญิงคนอื่นน่ะ แล้วใครกันนะที่จูบตอบฉะ...”
“พะ พอได้แล้วไอ้หน้าซาลาเปาบ้า! >///<” ใครใช้ให้พูดเรื่องแบบนี้กันเล่า ผมก็อายเป็นเหมือนกันนะ!
“ตกลงนายก็ชอบฉันใช่ไหมล่า ^^”
“
บะ บ้า!”
“นายน่ะ ปากแข็งจริงๆเลยนะ ชอบก็บอกมาเหอะน่า”
“>///<” ไอ้บ้านี่
“
นี่เรียวอุค ลองคบกับฉันได้มั้ย ขอแค่นายลองเปิดใจ
” ไอ้หน้าซาลาเปาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“
”
“...ได้มั้ย”
“ให้ตายสิ ฉันเกลียดนายที่สุดเลยไอ้บ้า!” ผมพูดพร้อมกับกอดไอ้หน้าซาลาเปา ถึงผมจะพูดแบบนี้ก็เถอะนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่ ผมดันเผลอใจไปให้กับไอ้หน้าซาลาเปานี่เข้าซะแล้ว
“พูดแบบนี้ ตกลงแล้วใช่มะ...”
“เออ!”
(end Ryeowook’s talk)
------------------------------------------------------------------------------------
อาคราวนี้คู่เย่เรียวเด่นนะคะ!
อ่านแล้วก็เม้นกันด้วยนะคะ...
ว่างๆไรเตอร์จะมาอัพต่อค่ะ ^^
ความคิดเห็น