คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : หวั่นไหว (?)
-6-
(Hangeng’s talk)
ตอนนี้ผมอยู่ที่ทำงานล่ะ ผมเพิ่งจะอัดรายการเสร็จไปเมื่อสองนาทีที่แล้ว หึหึ เห็นหน้าฮีชอลแล้วขำชะมัด ยัยนี่ไม่เคยคิดเลยสินะว่าผมจะมีแฟนเพลงเยอะขนาดนี้ เล่นมองผมอย่างอึ้งๆสลับกลับแฟนเพลงที่มาเชียร์ผมในวันนี้ไปมา
“อึ้งหรือไงที่เห็นฉันมีแฟนเพลงเยอะแบบนี้ ^^” ผมเดินไปถามนางพญาตัวดี
“อะไรกัน ใครอึ้งเปล่าอึ้งซักหน่อย!” ยัยนี่รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน เฮอะ! แต่ปิดผมไม่ได้หรอกนะ เพราะดูจากหน้าตาและท่าทางแล้ว มันไม่ค่อยจะตรงกบัคำพูดของยัยนี่ซักเท่าไหร่เลย เชื่อก็โง่แล้วล่ะครับถ้างั้นน่ะ - -
“อ่าหรอ!”
“ก็ใช่น่ะเซ่! นี่นายเลิกกวนประสาทฉันซักทีได้มั้ย เสร็จงานนี้แล้วนายยังจะมีถ่ายละครที่สวนสนุกอีกนะ แต่คงจะเป็นตอนกลางคืนล่ะ อืมท่าฉันจำไม่ผิดละครเรื่องนี้นายคู่กับยูริล่ะมั้งนะ”
“แหม~ ความจำดีจังเลยนะคุณผู้ช่วยผู้จัดการ!”
“เฮอะ! ก็ทำงานแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุดสิยะ! ฉันน่ะเป็นคนทำงานดีนะจะบอกให้ถ้าไม่มีใครมากวนประสาทฉันก่อนน่ะนะ!!” ให้ตายเถอะยัยนี่น่ะ! เข้าขั้นหลงตัวเองชะมัดเลย แต่มก็ชอบนะที่ยัยนี่เป็นแบบนี้น่ะ มันดูไม่เฟคดี ผมไม่ชอบคนเฟคน่ะ! มันยังไงก็ไม่รู้ ถึงยัยนี่จะปากจัดแต่ผมรู้ว่ายัยนี่ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก!
“โอเคๆ สวนสนุกตอนกลางคืนคนคงไม่เยอะใช่มั้ย?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ แต่ก็คงไม่เยอะหรอกมั้ง ก็มันตอนกลางคืนนี่ ใครเขาจะไปเที่ยวสวนสนุกกันตอนกลางคืนล่ะยะ!”
“ก็ดี ฉันไม่ชอบที่ที่คนวุ่นวาย”
“ใครอยากรู้ไม่ทราบ” ฮีชอลพึมพำเบาๆ แต่อย่านึกนะว่ามจะไม่ได้ยินน่ะ หูผมดีจะตาย
“ก็บอกไว้เฉยๆ เออนี่ตอนนี้ก็ว่างแล้วไปกับฉันหน่อยดิ”
“ไปไหน O_O” ยัยนี่ทำตาโต ถ้าคิดไม่ผิดคงจะคิดว่าจะไปทำมิดีมิร้ายแน่ๆเลยอ่ะ หน้าตาแบบนี้ก็คิดลึกใช่เล่นนะเนี้ยคุณนางพญา - -
“ฉันไม่ทำอะไรอย่างที่นายคิดหรอกน่า”
“อะ อะไรกันใครคิด ฉันไม่ได้คิดเลยนะว่านายจะทำมิดีมิร้ายฉันน่ะ ไม่ได้คิดซักหน่อย”
“เอ๋? ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่านายคิดอะไร”
“...นี่จะไปไม่ไปเล่า >///<” รีบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะฮีชอล!
“ตามมาสิ ^^”
ณ หอดูดาว (จำลอง)
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฮีชอลถาม
“พ่อกับแม่ฉันเคยพาฉันมาที่นี่ล่ะ! แต่ตอนนี้ท่านเสียแล้ว และก็นะฉันอยากจะมาที่นี่อีกครั้งด้วย แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไร O_O” โห! ดูท่าทางอยากรู้จริงๆนะเนี้ย!
“...ฉันไม่มีเพื่อนน่ะ แฮ่!”
“อีตาบ้า! พูดให้ฉันอยากรู้ทำไมเนี้ยยย!?” นางพญาโวยวายซะและ ความจริงก็คือ ผมมาที่นี่ตอนเด็กๆน่ะ แล้วเจอกับใครบางคนเข้า เธอน่ารักมากเลยนะ ตอนนั้นผมหนีพ่อกับแม่มาเพราะเรื่องเข้าใจผิดบางอย่าง และเด็กผู้หญิงคนนั้นก็คอยเล่นเป็นเพื่อนผมเสมอ จากนั้นผมก็กลับจีนไป และผมอยากเจอเธออีกครั้ง! ผมคิดว่าฮีชอลเหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้นนะ ทั้งท่าทาง ลักษณะ นิสัยขี้โวยเนี้ย! แต่ผิดกันตรงที่ว่าฮีชอลเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง ผมเลยพาฮีชอลมาที่นี่ ไม่รู้สิว่าทำไมผมถึงต้องพาฮีชอลมาที่นี่ด้วยก็ไม่รู้อ่ะ
“นี่นายรู้หรือเปล่าว่า เราน่ะยืนอยู่บนเปลือกโลกนะ!(เจ๊เอามาจากคิบอม - -)” อะไรกันเนี่ยยัยนี่ อยู่ดี ๆ มาพูดถึงโลก - -
“นึกไงถึงพูดเรื่องนี้เนี่ย”
“ก็แหม! ที่นี่มันหอดูดาวฉันก็เลยอยากจะพูดถึงจักรวานน่ะสิ!”
“อ่า ฉันรู้น่าว่าเรายืนอยู่บนเปลือกโลก ส่วนในโลกน่ะจะเป็นพวกดินน้ำ ไฟอะไรอย่างเนี้ย อ้อนี่แกนของโลกเราน่ะ ร้อนที่สุดเลยนะ”
“นี่ ฉันสงสัยอย่างอ่ะ เรายืนอยู่บนเปลือกโลกแล้วทำไม ไม่เห็นดาวดวงอื่นชัดๆล่ะ!”
“ให้ตายเถอะ นายเรียนเข้าสมองบ้างมั้ยเนี่ย! คืองี้นะ เราอยู่บนเปลือกโลกก็จริงแต่ว่าก็ยังมีชั้นบรรยากาศหลายชั้นปกคลุมโลกเราอยู่ ถ้าจำไม่ผิดนี่ประมาณ 7-8 ชั้นมั้งนะ”
“นี่แล้วทำไมเขาถึงต้องเรียกว่าจักรวาล หรือกาแลกซีล่ะ”
“เฮ้อ~ นายนี่ถามมาจังเลย...กลุ่มดาวต่างๆรวมกันก็จะกลายเป็นกาแลกซี กาแลกซีที่เราอยู่น่ะเป็นรูปวงรีนะ โลกเราอยู่นิดเดียวเองของกาแลกซี่อ่ะ มันเล็กมากเลยนะ เหมือนแบบว่าอยู่ในซอกหลืบเลย แทบไม่เห็นน่ะ! แต่คนเราก็เก่งนะ เพราะสามารถสร้างกล้องโทรทัศน์ส่องดูกาแลกซีอื่นได้น่ะ กาแลกซีข้างๆของกาแลกซีของเราชื่ออะไรนะ ฉันจำไม่ได้อ่ะ....” ผมพูดพลางหันไปมองหน้าที่แสนสวยของฮีชอล ให้ตายเถอะ ฟังจนหลับเลยหรอเนี้ย!
“ฮีชอล...” ผมเรียกชื่อฮีชอลเบาๆ เฮ้อ~ ตอนไม่มีฤทธิ์นี่ก็ดีเหมือนกันนะ น่ารักดี ผมว่าพลางค่อยๆก้มหน้าลงไปมองหน้าที่สวยสง่า และเหมือนมีแรงดึงดูดให้ผมใกล้เข้าไปอีกเรื่อยๆ จนในที่สุดริมฝีปากของผมก็ประกบไปที่ริมฝีปากเบาๆ
(end Hangeng’s talk)
(Heechul’s talk)
เฮ้ย! ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย ตื่นมาอีกทีก็มืดแล้ว อ๋าๆ ต้องไปทำงานอีกนี่นา แล้วนี่ผมอยู่ที่ไหนล่ะเนี้ย ผมมองไปรอบๆ มันไม่เหมือนหอดูดาวที่ผมไปกับไอ้เจ๊กนั่นเลยนิ พูดถึงหอดูดาว ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้วนะเนี้ย ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ พ่อกับแม่ยังมีชีวิต ผมก็ไปกับพ่อแม่นะ เปลี่ยนไปเยอะเลยแหละหอดดาวน่ะ เฮ้ย! ผมาจะมาคิดเรื่องหอดูดาวทำไมเนี้ย มาดูดีกว่าว่าที่นี่มันที่ไหนน่ะ! อืม...มีชิงช้าสวรรค์ มีรถไฟเหาะ มีอะไรเสียวๆ เยอะแยะ อ้อ! ที่แท้ที่นี่ก็คือสวนสนุกนั่นเอง และข้างหน้าก็คือกองถ่ายละครสินะ เฮ้อ~ ถึงว่าทำไมตอนนี้ผมถึงได้นอนอยู่คนเดียวที่แท้คนอื่นเขาไปทำงานกันหมดนี่เอง โอ๊ะ! แย่ละ ทำงานหรอ! ใช่แล้วนี่มันเวลางานของผมนี่!
คิดได้ดังนั้นผมจึงรีบลุกออกจากรถ คาดว่าน่าจะเป็นของไอ้เจ๊ก และรีบวิ่งไปทางกองถ่ายละคร
“ขอโทษนะคยู ฉันปล่อยให้นายทำงานคนเดียวเลย แหกๆ”
“ไม่เป็นไรๆ นายก็ช่วยเตือนฮันเกิงเรื่องกองถ่ายของที่นี่แล้วไม่ใช่หรอ”
“อ่า แล้วนายกินข้าวหรือยังล่ะเนี้ย”
“เพิ่งไปกินกับมินนี่มาน่ะ”
“อ้อ! อะ อ้าว มินนี่ นายก็อยู่ที่นี่หรอเนี้ย?” ผมหันไปและเจอกับซองมินเข้าก็เลยทักซองมิน โอ๊ะ! กอดหมอนฟักทองมาด้วยแฮะ
“หวาดดีพี่ซิน แหม~ เพิ่งตื่นล่ะสิ ไปเที่ยวกับพี่ฮันหนุกมั้ยล่ะ”
“เอาเหอะน่า! แล้วนั่นหมอนฟักทอง...?”
“อ้อ! ก็หมอนที่คยูซื้อให้น่ะ ฉันชอบมากเลยล่ะพี่ซิน”
“แหงล่ะ~ ถ้าไม่ชอบนายก็คงจะไม่เดินกอดมาหรอกจริงมั้ยล่ะ! แหมอิจฉาจริงๆเลยคู่เนี้ย จะหวานไปไหน เมื่อไหร่ฉันจะมีแบบนี้มั่งน้า~”
“พี่ฮันไง”
“มินนี่ จะบ้าหรือไง ไอ้เจ๊กนั่นไม่ใช่สเป็กพี่สักนิดเลยนะ! บ้าไปใหญ่แล้ววว!” ผมโวยใส่มินนี่ บ้าหรือไงกัน ผมกับไอ้เจ๊กเนี้ยนะ!? ถึงตายก็คงไม่มีวันหรอก
“ฮะๆๆๆๆๆ พี่ซินระวังนะ ตามคำโบราณน่ะ!
. เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นนะพี่ซิน! ฮะๆๆๆๆๆๆๆ”
“นี่ถ้ายังไม่หยุดพูดเรื่องนี้พี่จะฆ่าเราจริงๆนะมินนี่ >///<”
“เฮ้!! ฮีชอลอย่าทำไรฟักทองมินนี่ของผมน้า~~~” เอาเข้าไปปกป้องกันเข้าไปคู่นี้ ใช่สิ ก็พวกนายมันคนรักกันนิ ก็ต้องปกป้องกันเป็นธรรมดา
“คยู...ซึ้งจังเลยอ่า ฮ่าๆๆๆ คยูปกป้องฉันด้วย รักคยูจังเลย ^^” หวานเข้าไป
“อ่า! ผมก็รักมินนี่ของผมนะ ^^” เออ เอาเข้าไป หวานไม่เห็นใจบุคคลที่สามเลยสินะ เบื่อคนรักกันโว้ยยยย!
“คุณนางพญา ทำไมมายืนเป็น กขค. พวกเขาอย่างนี้ล่ะเนี้ย” ไอ้เจ๊กมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มาพูดและลากแขนชัดออกมาจากวงคู่รักหวานเลี่ยน!
“เรื่องของฉันน่า!”
“อ่า อยากมีแบบเขาบ้างนั้นน่ะ” แน่ะทำมาเป็นอ่านใจฉันออกตาบ้านี่! เป็นหมอดูหรือไงถึงได้ทายแม่นซะเหลือเกิน
“ถ้าให้ทาย นายกำลังคิดว่าฉันเป็นหมอดูอยู่ใช่มั้ย ^^” นั่นพูดไม่นั่นขาดคำ
“ทำเป็นรู้ดี”
“นี่ๆ! ตอนนี้เป็นฉากของนางเอกคนเดียว ผมไม่มีฉากให้แสดงแล้ว ไปเล่นเครื่องเล่นเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”
“หืออออออ?”
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! ช่วยด้วยยยย! ไอ้เจ๊กลงไปแกตายแน่ ทำไมแกล้งฉันแบบนี้วะ เสียวโว้ยยยยย อ้ากกก ไม่นะมันจะตีหลังกาแล้ว อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! พระเจ้าช่วยผมด้วยยยย!” พระเจ้าครับช่วยมด้วยไอ้เจ๊กนี่มันแกล้งผม มันลากผมมาเล่นรถไฟเหาะ ฮือๆ ไอ้เจ๊กนี่ดันเปิดเครื่องเป็นอีกนะ โฮๆ ตอนแรกมก็ไม่ขึ้นหรอก แต่มันมาหยามผมอ่ะ ผมก็เลยต้องขึ้น TT^TT
“นายนี่น้า!!” ไอ้เจ๊กมันพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้ ไม่ได้ยิน ลมตีหน้า อ้ากกกกกกกกกกกกกกก น่ากลัว~~~
อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! ทุกอย่างในท้องของผมบัดนี้ได้ออกมาหมดแล้ว โฮ! เวียนหัว
“เป็นไรมากมั้ยเนี่ยฮีชอล”
“ก็เพราะนายนั่นแหละไอ้เจ๊กบ้า! นายทำให้ฉันต้องอ้วกออกมา โฮฮฮฮฮ!”
“เอาเถอะ เพื่อเป็นการไถ้โทษ งั้นฉันจะพานายไปเล่นเครื่องเล่นเบาแทนแล้วกันนะ! ^^ ดีมั้ย?”
“แล้วแต่นายเถอะ ฉันไม่มีสิทธิ์แย้ง - -“ เถียงไปก็เท่านั้น เพราะยังไงผมก็จะต้องโดนจับขึ้นจนได้
“งั้นขึ้นเครื่องนั้นกัน รอฉันแปปนะ ไปเปิดเครื่องก่อน”
“ชิงช้าสวรรค์งั้นหรอ...” อะไรน่ะ ชิงช้าสวรรค์นั่นน่ะหรอ เครื่องเล่นชิ้นต่อไป โอ้ย ใช่ว่าจะเตี้ยๆซะที่ไหนกันล่ะ สูงลิบลิ่วเลยเหอะ!
“สูงจังเลยแฮะ!” สบายจริงๆเลยนะพ่อคู๊ณณณณ!
“TT^TT”
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น? กลัวความสูงหรือไง”
“ปะ เปล่า” เปล่าบ้าอะไรล่ะ ความจริงแล้วกลัวโคตรๆเลยต่างหาก ฮือออ ถ้ามันขึ้นไปถึงบนสุดแล้วเครื่องมันดับขึ้นมาจะเป็นยังไงกัน ต้องแย่แน่ๆ
พรึบ!!
อ้า ผมตกใจจึงเผลอกอดไอ้เจ๊กไป พูดไม่ทันขาดคำ ฟะ ไฟ ทำไมมันดับล่ะ แถมเครื่องก็หยุดด้วย หรือว่า .....ไม่น้า!!!!!!!!!!!! ไม่จริงน่า เครื่องดับ ใครมาดับเครื่องวะ!!! อ้ากกกก ผมจะลงๆๆๆๆ
“ไฟดับซะแล้ว - - “
“นี่นาย ทำไม ไม่นะฉันไม่อยากติดอยู่บนนี้ ฉันไม่ต้องการติดอยู่บนนี้ เอาฉันลงปายยยยยยยยย ฉันกลัวความสูงๆๆ ฉันยอมรับแล้ว กลัวความสูงจริงๆนะ ทำยังไงดี TT^TT” ผมโวยวาย ก็จะให้ทำไงล่ะก็คนมันกลัวนี่นา
“ใจเย็นๆนะแล้วค่อยๆคิดว่าจะทำยังไงต่อ” ฮือจะให้ใจเย็นได้ไงกันเล่า
“ชะ ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยย ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยย มีคนติดอยู่บนนี้ ช่วยด้วยยยยยยยยยย” ผมตะโกนให้คนช่วย
“ไม่มีใครได้ยินหรอก สูงขนาดนี้”
“อ้ะ! จริงสิ โทรศัพท์ ใช่แล้วโทรศัพท์!” ผมพูดพลางควานหาโทรศัพท์
“ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มา อยู่บนรถ” ไอ้เจ๊กนี่พูดพลางพยายามค้นกระเป๋า
“อ้ะ ฉันเอาโทรศัพท์มา!” ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เอ... แต่ทำไมกดปุ่มเท่าไหร่ไฟก็ไม่เห็นติดเอ๊ะหรือว่า
“...แบตหมด!” โอ๊ยยย! ทำไมซวยอย่างนี้นะ ไอ้เจ๊กก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มา โทรศัพท์ผมก็แบตดันมาหมดตอนนี้ได้ยังไง โฮกกกก! แล้วผมจะทำยังไงดีเนี้ย น่ากลัวจะตายชักอยู่ข้างบนแบบนี้ มันสูงเวอร์อ้า!!!!
“งั้นเราก็คงต้องรอจนถึงพรุ่งนี้แล้วล่ะว่าจะมีคนมาเปิดเครื่องเล่นนี้หรือเปล่า - -“
“ฮะ ฮันเกิง ฉันกลัวความสูง~ TT^TT” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเรียกชื่อไอ้เจ๊ก
“ไม่ต้องกลัวนะฮีชอล มีฉันอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ไง” เครง~เครง~
“อ้ากกกกก! มันโยกอ่ะฮันๆๆๆ ฮือๆ ฉันไม่อยากอยู่บนนี้” เมื่อผมขยับตัว มันดันโยกซะนี่ ด้วยความตกใจผมจึงเผลอกอดไอ้เจ๊กไปโดยไม่รู้ตัว โฮ มืดก็มืด สูงก็สูง น่ากลัวอ่ะ!
“ใจเย็นๆนะฮีชอล ไม่เป็นไรหรอก มันไม่มีอะไร มันก็แค่โยกเท่านั้นเอง~”
“ฉะ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ TT^TT” ผมท้อแล้วจริงๆนะ มันสูงมากเกิดไปสำหรับผม (?)
“ใจเย็นๆนะฮีชอลอยู่เฉยๆ” ไอ้เจ๊กกอดผม อืมม... มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแฮะ! ตอนนี้ทุกอย่างเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของทั้งสองคนที่เต้นโครมคราม
เฮ้ย! ที่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย ใจมันเต้นแรงผิดปกติหรือว่า ...ผมจะหวั่นไหว
ไม่ใช่หรอก ไม่จริงหรอกน่า ผมแค่กลัวมากเกินไปก็เท่านั้นเอง ใช่แล้วเพราะความกลัวความสูงก็เลยทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะก็เท่านั้นเอง!!
----------------------------------------------------------------------------------
ฝากเม้นกันด้วยนะคะ แต่ตอนนี้
ไรเตอร์ง่วงมากเลย
บ๊ายบาย ไปนอนก่อนล่ะ!
(':
ความคิดเห็น