คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2.3 หลังจากคืนนั้น
คีตภัทรมองตามคนตัวสูงที่เดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่อีกทางมาให้
จะว่าไปแล้วชายหนุ่มคนนี้ดูดียิ่งกว่าวศินหลายเท่า
หรือถ้าให้บอกอย่างไม่ปิดบังตัวเองก็คือ เขาเป็นผู้ชายในสเปกของเธอเลย
ถ้าเราได้ทำความรู้จักกันในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ก็คงจะดี
แต่ตอนนี้เธออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดมากกว่า
“นี่ครับ โทรบอกที่บ้านซะก่อนนะครับ
ทางบ้านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะไปทำอาหารมาให้ แต่คงได้แค่โจ๊กสำเร็จรูปนะ
ยังไงก็รองท้องก่อนที่ผ้าจะอบเสร็จก็แล้วกัน”
หญิงสาวคว้ากระเป๋ามากอดไว้อย่างลังเลว่าควรจะโทรที่ไหนดี
ผ้านวมหนาที่คลุมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก
ระหว่างที่กำลังหันซ้ายหันขวาเจ้าของบ้านก็เอาเสื้อคลุมมาวางให้
ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องที่เธอคิดว่าเป็นครัว
เธอจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วเปลี่ยนจากผ้าห่มเป็นเสื้อคลุมที่เขาเอามาให้
ออกมาอีกทีก็ได้กลิ่นโจ๊กสำเร็จรูปหอมกรุ่นรออยู่แล้ว
“คุณกินเองเถอะค่ะ ฉันกินไม่ลง”
ที่เธอต้องยอมให้เขาเอาผ้าไปซักให้ ก็เพราะไม่อยากให้ยายรู้ว่าเธอไปกินเหล้าจนเมา
และเมื่อครู่เธอก็โกหกยายไปแล้วว่าเมื่อคืนนอนค้างบ้านเพื่อน แต่บังเอิญโทรศัพท์แบตฯ
หมดก็เลยไม่ได้โทรไปบอก ยายบ่นเธอหลายคำแล้วก็บอกให้รีบกลับบ้าน
ความเป็นห่วงของยายทำให้เธอเกือบร้องไห้โฮออกมาอีกรอบ
“คุณอยากจะให้ผมช่วยอะไรไหม”
ธันยธรถามอย่างรู้สึกผิด นอกจากให้แต่งงานแล้วเขาน่าจะช่วยเรื่องอื่นเธอได้บ้าง
แต่ตัวเขาเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะช่วยทางไหนดีเหมือนกัน
“ไม่ค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเอง”
“งั้นถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรก็โทรมานะ
ผมจะอยู่เมืองไทยอีกแค่สองอาทิตย์แล้วก็จะบินไปต่างประเทศ เราอาจจะไม่ได้พบกันอีก”
ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับส่งนามบัตรของตัวเองให้
“ขอบคุณค่ะ”
คีตภัทรรับมาแล้วเอาใส่กระเป๋าโดยแทบไม่ได้อ่าน
เขาเองก็ไมได้พูดอะไรอีกปล่อยให้ความเงียบทำงานไปจนกระทั่งเสื้อผ้าของเธอเสร็จเรียบร้อย
“เดี๋ยวผมขับรถไปส่งให้เอง
บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ
ลาก่อนนะคะ” คีตภัทรก้มศีรษะนิดๆ ให้อีกฝ่าย เธอไม่รู้ว่าควรให้ทุกอย่างจบลงง่ายๆ
แค่นี้จริงหรือ แต่เขาบอกเธอว่ากำลังจะไปต่างประเทศในเร็วๆ นี้ ทุกอย่างก็ควรจบลงและทำเหมือนกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น
“เอ่อ เดี๋ยวครับ” ธันยธรรั้งไว้ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวไปยังประตู
“ไปอยู่เมืองนอกกับผมไหม” ไม่ใช่แค่เธอที่ชะงัก
ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงกับคำชวนของตัวเองเหมือนกัน
“คะ?” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจความหมาย
“คือผมคิดว่าตัวเองควรจะรับผิดชอบอะไรบ้าง
เอ่อ ถ้าเราไปอยู่ด้วยกัน คุณจะเรียนหนังสือต่อก็ได้
ระหว่างนั้นเราอาจจะหาทางอื่นที่ดีต่อทุกฝ่ายได้มากกว่านี้”
ชายหนุ่มชวนทั้งที่ไม่รู้ว่าข้อเสนอของตัวเองเข้าท่าไหม แต่ก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้จบไปง่ายๆ
แบบนี้ แบบที่เธอเข้าใจว่าเขาตั้งใจรังแกเธอ
คีตภัทรมองชายหนุ่มอย่างงงงัน
เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำชวนนี้จากปากเขา มันฟังดูเหมือนการขอแต่งงานทางอ้อม
หรืออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบ ทุกอย่างฟังดูดี แต่ตอนนี้เธอกลับนึกกลัวทั้งคำพูดทั้งคนที่ดูดีจนเกินไป
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันมีครอบครัวรออยู่
คงจะไปกับคุณไม่ได้”
ธันยธรเก้อไปเล็กน้อยกับคำว่า
ครอบครัว เขาลืมข้อนี้ไปได้อย่างไรนะ เธอเองก็ต้องมีครอบครัวรออยู่
ไม่เหมือนเขาที่กำลังจะหนีจากความเจ็บปวดในครอบครัวไปอยู่ที่อื่น
“งั้นก็ไม่เป็นไรครับ
แต่ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ โทรมาได้เลยนะครับ”
“ถ้าคุณอยากทำเพื่อฉันจริงๆ
ก็แค่ลืมฉันกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปให้หมดก็พอค่ะ”
ชายหนุ่มได้แต่มองตามคนที่พอพูดจบก็เดินแกมวิ่งออกจากห้องเขาไป
ประตูที่ปิดลงตามหลังเหมือนจะบอกให้รู้ว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแค่นี้
เขาถอนใจที่ไม่รู้ว่าเป็นความโล่งอกหรือหนักใจกันแน่
ก่อนจะเดินไปเก็บชามโจ๊กที่ไม่มีใครแตะแม้แต่คำเดียว
รายการต่อไปคือผ้าปูที่นอนที่ถูกโยนลงในเครื่องซักผ้า
พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นบัตรนักศึกษาของหญิงสาวที่วางลืมเอาไว้
แต่จะเอาไปคืนเจ้าของอย่างไรได้ในเมื่อเธอไปแล้ว เขาจึงหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งพร้อมกับอ่านชื่อของหญิงสาวแปลกหน้า
คีตภัทร...
หวังว่าเธอจะไม่ไปเมาที่ผับเพื่อหาทางให้ไอ้หนุ่มคนนั้นหึงอีกนะ
ความคิดเห็น