ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์บันดาลรัก

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2.3 หลังจากคืนนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 64


    ตอนที่ 2.3

    คีตภัทรมองตามคนตัวสูงที่เดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่อีกทางมาให้ จะว่าไปแล้วชายหนุ่มคนนี้ดูดียิ่งกว่าวศินหลายเท่า หรือถ้าให้บอกอย่างไม่ปิดบังตัวเองก็คือ เขาเป็นผู้ชายในสเปกของเธอเลย ถ้าเราได้ทำความรู้จักกันในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ก็คงจะดี แต่ตอนนี้เธออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดมากกว่า

    “นี่ครับ โทรบอกที่บ้านซะก่อนนะครับ ทางบ้านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะไปทำอาหารมาให้ แต่คงได้แค่โจ๊กสำเร็จรูปนะ ยังไงก็รองท้องก่อนที่ผ้าจะอบเสร็จก็แล้วกัน”

    หญิงสาวคว้ากระเป๋ามากอดไว้อย่างลังเลว่าควรจะโทรที่ไหนดี ผ้านวมหนาที่คลุมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก ระหว่างที่กำลังหันซ้ายหันขวาเจ้าของบ้านก็เอาเสื้อคลุมมาวางให้ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องที่เธอคิดว่าเป็นครัว เธอจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วเปลี่ยนจากผ้าห่มเป็นเสื้อคลุมที่เขาเอามาให้ ออกมาอีกทีก็ได้กลิ่นโจ๊กสำเร็จรูปหอมกรุ่นรออยู่แล้ว

    “คุณกินเองเถอะค่ะ ฉันกินไม่ลง” ที่เธอต้องยอมให้เขาเอาผ้าไปซักให้ ก็เพราะไม่อยากให้ยายรู้ว่าเธอไปกินเหล้าจนเมา และเมื่อครู่เธอก็โกหกยายไปแล้วว่าเมื่อคืนนอนค้างบ้านเพื่อน แต่บังเอิญโทรศัพท์แบตฯ หมดก็เลยไม่ได้โทรไปบอก ยายบ่นเธอหลายคำแล้วก็บอกให้รีบกลับบ้าน ความเป็นห่วงของยายทำให้เธอเกือบร้องไห้โฮออกมาอีกรอบ

    “คุณอยากจะให้ผมช่วยอะไรไหม” ธันยธรถามอย่างรู้สึกผิด นอกจากให้แต่งงานแล้วเขาน่าจะช่วยเรื่องอื่นเธอได้บ้าง แต่ตัวเขาเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะช่วยทางไหนดีเหมือนกัน

    “ไม่ค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเอง”

    “งั้นถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรก็โทรมานะ ผมจะอยู่เมืองไทยอีกแค่สองอาทิตย์แล้วก็จะบินไปต่างประเทศ เราอาจจะไม่ได้พบกันอีก” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับส่งนามบัตรของตัวเองให้

    “ขอบคุณค่ะ” คีตภัทรรับมาแล้วเอาใส่กระเป๋าโดยแทบไม่ได้อ่าน เขาเองก็ไมได้พูดอะไรอีกปล่อยให้ความเงียบทำงานไปจนกระทั่งเสื้อผ้าของเธอเสร็จเรียบร้อย

    “เดี๋ยวผมขับรถไปส่งให้เอง บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ ลาก่อนนะคะ” คีตภัทรก้มศีรษะนิดๆ ให้อีกฝ่าย เธอไม่รู้ว่าควรให้ทุกอย่างจบลงง่ายๆ แค่นี้จริงหรือ แต่เขาบอกเธอว่ากำลังจะไปต่างประเทศในเร็วๆ นี้ ทุกอย่างก็ควรจบลงและทำเหมือนกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น

    “เอ่อ เดี๋ยวครับ” ธันยธรรั้งไว้ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวไปยังประตู “ไปอยู่เมืองนอกกับผมไหม” ไม่ใช่แค่เธอที่ชะงัก ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงกับคำชวนของตัวเองเหมือนกัน

    “คะ?” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจความหมาย

    “คือผมคิดว่าตัวเองควรจะรับผิดชอบอะไรบ้าง เอ่อ ถ้าเราไปอยู่ด้วยกัน คุณจะเรียนหนังสือต่อก็ได้ ระหว่างนั้นเราอาจจะหาทางอื่นที่ดีต่อทุกฝ่ายได้มากกว่านี้” ชายหนุ่มชวนทั้งที่ไม่รู้ว่าข้อเสนอของตัวเองเข้าท่าไหม แต่ก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้จบไปง่ายๆ แบบนี้ แบบที่เธอเข้าใจว่าเขาตั้งใจรังแกเธอ

    คีตภัทรมองชายหนุ่มอย่างงงงัน เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำชวนนี้จากปากเขา มันฟังดูเหมือนการขอแต่งงานทางอ้อม หรืออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบ ทุกอย่างฟังดูดี แต่ตอนนี้เธอกลับนึกกลัวทั้งคำพูดทั้งคนที่ดูดีจนเกินไป

    “ขอบคุณนะคะ แต่ฉันมีครอบครัวรออยู่ คงจะไปกับคุณไม่ได้”

    ธันยธรเก้อไปเล็กน้อยกับคำว่า ครอบครัว เขาลืมข้อนี้ไปได้อย่างไรนะ เธอเองก็ต้องมีครอบครัวรออยู่ ไม่เหมือนเขาที่กำลังจะหนีจากความเจ็บปวดในครอบครัวไปอยู่ที่อื่น

    “งั้นก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ โทรมาได้เลยนะครับ”

    “ถ้าคุณอยากทำเพื่อฉันจริงๆ ก็แค่ลืมฉันกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปให้หมดก็พอค่ะ”

    ชายหนุ่มได้แต่มองตามคนที่พอพูดจบก็เดินแกมวิ่งออกจากห้องเขาไป ประตูที่ปิดลงตามหลังเหมือนจะบอกให้รู้ว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแค่นี้ เขาถอนใจที่ไม่รู้ว่าเป็นความโล่งอกหรือหนักใจกันแน่ ก่อนจะเดินไปเก็บชามโจ๊กที่ไม่มีใครแตะแม้แต่คำเดียว รายการต่อไปคือผ้าปูที่นอนที่ถูกโยนลงในเครื่องซักผ้า พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นบัตรนักศึกษาของหญิงสาวที่วางลืมเอาไว้ แต่จะเอาไปคืนเจ้าของอย่างไรได้ในเมื่อเธอไปแล้ว เขาจึงหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งพร้อมกับอ่านชื่อของหญิงสาวแปลกหน้า

    คีตภัทร...

    หวังว่าเธอจะไม่ไปเมาที่ผับเพื่อหาทางให้ไอ้หนุ่มคนนั้นหึงอีกนะ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×