ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : CURSE :นักสืบต้องคำสาป {WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #8 : CURSE : พิรุธ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56


                                     CURSE



    7


    ผมรู้จักแค่ชื่อของคุณ












    เช้าวันเสาร์ วันหยุดของเหล่าข้าราชการ ชายสูงโปร่งกำลังออกมาจ้อกกิ้งในหมู่บ้านอย่างที่เคยทำทุกๆวันที่เขาตื่นเช้าได้ เมื่อวิ่งวนรอบหมู่บ้านจนรู้สึกว่าชีพจรเต้นตุบๆ ผู้กองที่ตอนนี้เขาก็เป็นแค่คุณหนูทายาทเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรไม่รู้ต่อกี่โครงการ และรวมไปถึงเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในเกาหลี



    "ชีวอน แม่มีเรื่องจะคุย ตามมา"

    เจ้าของเสียงเอ่ยทันทีที่ชายตัวใหญ่เปิดประตูเข้าบ้านมา คนตัวใหญ่เดินตามผู้หญิงตัวเล็กไปจนถึงโถงห้องนั่งเล่นก่อนที่ท่านแม่ที่เคารพรักจะหย่อนตัวลงบนโซฟา
    "คืนนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิดหลานสาวของเพื่อนสมัยมัธยมของแม่เอง เพราะฉะนั้น.."

    "คุณแม่...ผมเคยบอกแล้วนะว่าผมไม่ชอบไปงานสังคมพวกนี้"

    "เป็นงานเล็กๆ ไม่อึดอัดมากหรอก มีแต่คนที่แกรู้จักทั้งนั้น
    "
    ".....คะยั้นคะยอแบบนี้ จะให้ไปดูตัวใครอีกล่ะครับคราวนี้"

    สิ้นประโยคของลูกชายก็ทำเอาคุณนายชเวพูดไม่ออกตอบไม่ถูกไม่เลยเหมือนกัน ดูเหมือนว่าลูกชายตัวดีจะรู้ทันเขาไปซะทุกอย่าง ยิ่งคิดหาทางนัดดูตัวให้เจ้าลูกชายไม่สำเร็จ คุณนายชเวก็ยิ่งยู่ปาก ก่อนจะเล่นบทประชดประชันกลับ

    "ถ้าแกมีแฟนเหมือนลูกคนอื่นเขาบ้าง ฉันก็คงไม่ต้องทำอย่างงี้หรอก"

    "..."

    "ไม่รู้แหละ แกสามสิบกว่าแล้ว ฉันจะหาแฟนไปแกแล้วก็รีบๆแต่งงานมีหลานให้ฉันซะที"

    "แม่~ ไม่เอาน่าอย่ามาคลุมถุงชนแบบนี้ ผมจะไปอยู่กับผู้หญิงที่แม่หามาได้ยังไง ไม่ได้รักกันซะหน่อย"

    "ทำยังกับว่าแกมีแฟนของแกอยู่แล้วอย่างงั้นแหละ"

    "ก็มี.."

    "เหรอ ดี งั้นเย็นนี้พามาเลยนะ!" คุณนายที่รักของผู้กองทำเสียงเข้มก่อนจะลุกพรวดพราดออกไป คนตัวใหญ่จดจ้อง กลัวว่าแม่ของเขาจะหน้ามืดไปเพราะชอบทำหุนหันผุดลุกผุดนั่งเหมือนพวกสาวรุ่นๆ แต่คิดๆไปก็เหมือนผู้หญิงวัยทองมากกว่า





    ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ลำพังงานที่ทำอยู่ก็สร้างความเครียดให้เขาพอแล้ว นี่ยังต้องหาแฟนมาให้แม่ได้ชื่นใจอีก ..แล้วจะหาจากไหน
































    .............................................................

    "ไพ่ที่คุณเลือกคือใบนี้ใช่มั้ยครับ?" นิ้วเรียวหยิบไพ่มาใบหนึ่งก่อนจะโชว์ให้แก่ผู้ชมสาวๆ ที่ต่างกำลังทึ่งและปรบมือให้กับมายากลของคยูฮยอน
    เขาเก็บไพ่ไว้กับสำรับดังเดิมก่อนจะโค้งให้ผู้ชมเป็นนัยน์ให้รู้ว่ามายากลจบแล้วก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นพร้อมผลงาน

    เขาได้เบอร์ของสาวสวยคนหนึ่งในกลุ่มผู้ชมการแสดง งานสืบงานนี้ถือเป็นสำเร็จลุล่วง
    คยูฮยอนให้เบอร์โทรศัพท์ของหญิงสาวแก่ผู้ว่าจ้างก่อนจะรับเงินมา

    ชายร่างบางเดินเตร็ดเตร่อยู่ ในวันเสาร์แบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจริงๆทางตำรวจก็จะไม่ติดต่อมา ดังนั้นคยูฮยอนผู้ว่างงานจึงต้องมาหากินกับอาชีพเดิม นักสืบเอกชน สืบให้ได้ทุกเรื่องที่ไม่ผิดจรรยาบรรณของตัวเอง






    แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรทำอยู่ดี....ทำไมนะ

    นั่งเล่นเกมอยู่บ้านก็ได้ เผาผลาญเวลาไปได้ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ในเวลานี้คยูฮยอนกลับอยากทำงานซะงั้น
    ที่จริงอยากเจอผู้กองด้วย..รึเปล่านะ


    ร่างบางสะบัดหัวเบาๆก่อนจะขมวดคิ้วข้องใจกับความคิดตัวเอง ...อยากเจอผู้กองหรอ หึ ตลกแล้ว



    RRRRRR R RRRRRRRR
    เสียงสั่นดังของเครื่องมือสื่อสารทำให้คยูฮยอนต้องหยิบขึ้นมาดูชื่อปลายทางก่อนจะเบิกตากว้าง




    ผู้กองติ๊งต๊อง

    หลอนเกินไปแล้ว เขาขนลุกจริงๆนะเนี่ย แค่นึกถึงก็โทรมาเลย


    "ฮัลโหลครับ"

    ((ว่างอยู่ใช่ไหม))

    "เอ่อ.." (น่ากลัววว) ร่างบางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อสำรวจให้แน่ใจว่าไม่ได้มีคนแอบดูเขาอยู่ แย่เลยนะถ้านักสืบอย่างเขามาถูกตามซะเอง

    ((ถ้าว่างฉันจะไปหา อยู่ไหนล่ะตอนนี้))

    "เอ่อ..สวนสาธารณะฮันกังครับ"

    ((อื้ม สิบนาทีถึงนะ พอดีมีเรื่องให้ช่วย)) พูดเองตกลงเองพร้อมวางสายไปก่อน คยูได้แต่ทำหน้างงพร้อมความรู้สึกแปลกๆเหมือนกับว่าจะมีเรื่องแปลกๆมาหาเขาอีกแล้ว














    ..............................................




    "ห๊ะ....บ้าไปแล้วหรอผู้กอง!! " ร่างบางลุกพรวดขึ้นมาจนคนในร้านไอติมแห่งหนึ่งแถวๆสวนสาธารณะฮันกังหันมามองคยูเป็นตาเดียว

    "จิ๊ เบาๆหน่อยได้ไหม"

    "บ้า! ..หลอกแม่ผู้กองเนี่ยนะ" เจ้าตัวเริ่มกลับมานั่งเหมือนเดิมพร้อมเสียงที่เบากว่าเดิม

    "ฉันรู้มันแปลกๆ แต่ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว"

    หัวขี้เลื่อย พูดไม่รู้จักคิด คยูฮยอนอยากจะว่าผู้กองออกมาอย่างนั้นแต่ปากไม่ไวพอทั้งยังเกรงใจความอาวุโสของอีกคนด้วย เหอะๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คยูฮยอนที่นั่งฟังเรื่องราวบ้าบอของผู้กองมาตั้งแต่ต้นก็อดสงสารไม่ได้

    คนรวยก็มีปัญหาของเขาเนอะ



    "แต่ถึงผมปลอมตัวไปหลอกแม่ผู้กอง ก็ไม่ได้แปลว่าแม่ผู้กองจะชอบผมนะ"

    "ไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นฉันจัดการเอง"



    อีกคนพูดเหมือนโน้มน้าวให้คยูคล้อยตามกับแผนบ้าๆที่จะต้องไปกินข้าวเย็นกับแม่ผู้กองเย็นนี้ ...ถ้าแม่ผู้กองไม่ปลื้มน่ะยังไม่เท่าไหร่หรอก ..แต่ถ้าเขาปลื้มแล้วบังคับให้ผู้กองแต่งงานกับคโยฮยอนเสียตั้งแต่คืนนี้เขาไม่แย่หรอ ยิ่งฟังจากที่ผู้กองเล่า เขายิ่งรู้สึกว่าแม่ผู้กองดูเดาใจยากแปลกๆ นึกจะทำอะไรก็ทำ



    "จะให้ผมทำยังไงบ้างครับ"

    "ก็โกหกไปว่าเราคบกันได้นานแค่ไหนแล้วได้ นายโกหกเก่งอยู่แล้วนี้"

    "!!!???"

    "จริงมั้ยล่ะ เมื่อก่อนนายยังต้มฉันจนเชื่อสนิทเลยว่านายมีญาติชื่อคโยฮยอน"



    ทำไมต้องมาช่วยเหลือคนปากเสียแบบนี้ คยูยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ทำไมเขาถึงไม่ชกหน้าหล่อๆให้มันรู้แแล้วรู้รอดไปเลย
    "แล้วถ้าผมไม่ช่วยละครับ"

    "ฉันจะเปิดโปงนาย"

    ..

    ..









    .
    .
    "ไม่เอา สั้นไป"
    "..."

    "ไม่เอา สีหวานไป" รอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่คยูต้องเดินออกมาจากห้องลองเสื้อแล้วหมุนๆจนจะมึนหัวตายอยู่แล้ว


    "แม่ผู้กองชอบแบบไหนครับ ผมจะได้จัดให้ถูก"
    "อะไร...นี่ไม่ได้ให้แต่งตัวเอาใจแม่ฉันหรอกนะ"
    "อ้าว..งั้น.."
    "เอาใจฉันต่างหาก"

    ฟัดดดดดดดดดดดดด ผมอยากชกหน้าตำรวจครับ T_T





    เล่นแต่งตัวตุ๊กตากันจนหนำใจ สุดท้ายร่างบางก็ออกมาพร้อมเดรสแขนตุ๊กตาสีโอรส ทีนี้ก็แค่รอพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น

    "ระหว่างรอ ซ้อมก่อน..ฉันไม่ชอบกินอะไร"

    "ของเผ็ดๆ"

    "ถูก แล้วยังไงอีก"

    "ผู้กองชอบแมวแต่แพ้ขนมันเลยไม่เลี้ยง อาหารที่แพ้ไม่มี ตอนเด็กๆเคยเป็นโรคหอบ ผู้กองเกิดวันศุกร์ กรุ๊ปเลือดบี.."

    "ยังไงอีก"

    "ลืมแล้วครับ"

    "อืม ไม่เป็นไร ใช้ได้แล้วล่ะ" ว่าเสร็จก็เปิดประตูรถให้อีกคนเข้าไปนั่ง
    ".." คยูทำหน้าเซงๆก่อนจะเงยหน้ามองพระอาทิตย์ที่เริ่มตกลง .


    ทุกๆวันเมื่อกับการนับถอยหลัง



    และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน



    เขาเคยชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับคโยฮยอนแล้ว เขาอยากจะเสียใจ แต่ไม่ว่าเขาจะร้องไห้คร่ำครวญไป


    ทุกๆวันมันก็เป็นไปตามคำสาปเช่นเดิม น้ำตาไม่สามารถช่วยเขาได้ ตกเย็นเขาต้องกลายเป็นผู้หญิง


    "เป็นอะไรไป ทำไมซึมๆ" เสียงเข้มปลุกให้ร่างบางตื่นจากความคิดของตัวเอง
    "ป่าวค่ะ"

    "พูดครับก็ได้"

    "ไหนตอนนั้นบอกไม่ชินไงครับ"

    "..ฉันกำลังปรับตัว"

    ได้ยินอีกคนพูดคยูถึงกับหลุดขำออกมาเล็กน้อย จริงๆแล้วผู้กองก็เป็นคนตลกดี
    เขามักจะทำหรือพูดอะไรที่น่าขำออกมา ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวรึป่าวนะ



    แค่รอยยิ้มเพียงเล็กน้อยที่ผุดออกมาจากคยูที่นั่งข้างๆ ก็ทำให้ผู้กองยิ้มกว้างได้มากขึ้นไปอีก ไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำให้อีกคนยิ้มได้หลังจากที่เห็นนั่งซึมมานาน

    "พระอาทิตย์จะตกดินแล้วครับ"

    "อื้ม"

    "ผมไม่เคยมีใครอยู่ด้วยในเวลาแบบนี้เลย"

    "เหรอ ..ฉันคนแรกสินะ" ผู้กองยิ้มภูมิใจแต่ทว่ากลับไม่ใช่สิ่งที่อีกคนต้องการจะสื่อ

    "ครับ แต่ว่าผมจะกลายเป็นผู้หญิงต่อหน้าผู้กองนะ.."
    ผู้กองขับรถช้าลงเรื่อยๆก่อนจะแวะจอดข้างทาง หันกลับมามองอีกคนตอนนี้ยังเป็นเด็กผู้ชายอยู่ แต่อีกไม่กี่นาทีนี้ เขาจะเป็นผู้หญิงแล้ว



    "ไม่ชินหรอ" ผู้กองถามพร้อมมองดวงตากลมของอีกคนที่ดูกังวลใจ

    "..ครับ"

    "งั้นนายก็ต้องปรับตัวเหมือนกันน่ะสิ"




    "เอางี้ จ้องตาฉันนะ"









    ว่าแล้วทั้งสองก็ต่างมองเงาของตัวเองที่สะท้อนมาจากนัยน์ตาของอีกคน มองอย่างยาวนานจนนับเวลาไม่ถูก
    แววตาเท่านั้น ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง





    ไม่ว่าจะเช้า หรือเย็น




    จริงๆด้วย ผู้กองเข้าใจแล้ว ..กับสิ่งที่อีกคนละเมอบอกเมื่อวันก่อน
    ไม่มีคโยฮยอน




    .....ในเวลานี้ แม้ว่าริมฝีปากของอีกคนจะดูอิ่มสวยขึ้น เรือนผมจะยาวลงมาจนพันกัน ขนตาจะงอนขึ้นไป หรือร่างกายของอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่นัยน์ตานั้นยังใสเหมือนเดิม

    คยูฮยอน ก็คือ คยูฮยอน






    up


    ดวงตากลมใสนั่นเลื่อนหลบสายตาของชีวอนทันทีที่เขาเห็นเงาของผู้หญิงที่อยู่ในนัยน์ตาคม



    .....



    ทั้งสองนั่งเงียบกันไปตลอดทางไปบ้านของผู้กอง ..ไม่รู้ว่าไม่มีเรื่องจะพูดหรือต่างฝ่ายต่างคิดอะไรอยู่กันแน่
    ยิ่งร่างบางนึกถึงช่วงที่เขาต้องเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่างต่อหน้าผู้กองก็ยิ่งอาย เขาไม่เคยอยู่กับใครในช่วงเวลานี้เลย







    ทำไมผู้กองไม่เหมือนอย่างที่เขาคิดนะ ....โดยทั่วไปต้องกลัวเขาไปแล้ว




    คนที่มีคำสาปแปลกๆติดตัวมาแบบนี้ ใครๆเห็นก็ต้องกลัวทั้งนั้น แต่ทว่า

    ตอนที่จ้องตาผู้กองตอนนั้น เขาไม่เห็นความหวั่นกลัวของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย





    "ถึงแล้ว ไปเลยมั้ย" เสียงเข้มเรียกคนที่จมอยู่ในความคิดตัวเองให้มีสติขึ้นมาอีกครั้ง

    ร่างบางหันไปพยักหน้าเบาๆก่อนจะหายใจเอาอากาศเข้าไปให้เต็มปอด
    รอให้ผู้กองมาเปิดประตูรถให้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือหยาบที่ยื่นรออยู่แล้ว



    ทั้งสองกุมมือกันเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่สุดที่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านจัดสรร


    มือของคยูฮยอนนั้นเย็นจนคนตัวใหญ่สัมผัสได้ เขาเผลอกุมมืออีกคนให้แน่นโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะอยากแผ่ความอุ่นในมือหยาบของตนเท่านั้น

    เดินกุมมือกันไปตามทางเดินเรื่อยๆก่อนจะเข้าไปถึงส่วนของห้องทานข้าวใหญ่ ผู้หญิงตัวเล็กผู้เป็นที่รักของชีวอนกำลังนั่งรออยู่แล้ว


    "มาแล้วครับแม่"

    "นั่งๆเลย จินจ้ะ ไปจัดจานมาเพิ่มสองชุดนะ" คุณนายชเวดูแฮปปี้ร่าเริงทันทีเห็นคนทั้งคู่เดินเข้ามา
    นึกว่าเจ้าลูกชายจะโม้ไปอย่างงั้น ...ที่ไหนได้มีแฟนกะเขาจริงๆซะด้วย

    "รบกวนด้วยนะคะ" โค้งให้ช้าๆก่อนจะค่อยหาเก้าอี้นั่งลงอย่างสุภาพ คยูฮยอนเลือกนั่งฝั่งขวามือของคุณนายชเวโดยที่ชีวอนนั่งอยู่ตรงข้าม

    คุณนายยิ้มแย้มให้สาวน้อยก่อนจะหยิกลูกชายตัวดีให้ช่วยแนะนำสาวน้อยคนนี้อย่างเป็นทางการ


    "แม่ครับนี่ คยูฮยอนนะครับ " ร่างบางที่ก้นยังไม่ถึงพื้นเก้าอี้ดีก็ต้องเด้งตัวมามองหน้าคนตัวสูงอย่างงุนงง



    เมื่อกี้แนะนำผมว่าไงนะ ...



    "คยูฮยอนหรอจ้ะ ชื่อเหมือนเด็กผู้ชายเลยแหะ"
    "หรอครับ แต่ผมว่าชื่อน่ารักดีนะ" ผู้กองเอ่ยพร้อมหันไปยิ้มให้คนฝั่งตรงกันข้าม

    ร่างบางได้แต่ยิ้มรับแหยๆ ทำไมอีกคนไม่บอกว่าเขาชื่อคโยฮยอน..

    หลังจากนั้นดูเหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่น คุณนายชเวไม่ได้ซักถามอะไรมาก แค่เรื่องอาชีพแล้วก็ครอบครัวนิดๆหน่อย


    "แล้วหนูคยูมาคบลูกชายฉันได้ยังไงจ้ะ"


    ...ก็นั่นน่ะสิ



    "คะ? ก็ทำงานร่วมกันมาหลายเดือนแล้วน่ะค่ะ ผู้กองเขาต้องอาศัยนักสืบเอกชนอย่างหนูมาช่วยงานบ่อยๆ"

    "แม่อยากรู้จริงๆว่าลูกชายแม่จีบผู้หญิงยังไง"

    "คะ? ก็.." ร่างบางเริ่มจับปลายผมม้วนไปมา ไม่รู้จะแสดงความเขิน หรือคิดบทพูดต่อไปไม่ออกกันแน่

    "จริงๆ คยูเขามาจีบผมก่อนน่ะแม่" เสียงเข้มที่เงียบหายไปนานบนโต๊ะอาหารก็ได้จังหวะหาบทพูดให้ตัวเอง


    ร่างบางขมวดคิ้วมอง ..อย่ามาพูดอะไรไม่เข้าท่านะ

    "ไม่จริงค่ะ ..ผู้กองนั่นแหละเริ่มก่อน" หันไปบอกคุณป้าที ก่อนจะหันกลับมาทำเสียงดุใส่ซีวอนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้


    "เอ๋?? เรียกลูกชายฉันว่าผู้กองหรอจ้ะ ทำไมดูไม่ค่อยสนิทกันเลยล่ะจ้ะ?"

    "..เอ่อ"

    "หนูน่าจะอายุน้อยกว่าลูกชายฉันใช่ไหมจ้ะ งั้นก็เรียกว่าพี่ซีวอนซิจ้ะ"

    อืมม.... ร่างบางที่คุยกับคุณป้าคนสวยอยู่นานก็หันไปมองชีวอนที่นั่งเอาใจช่วยอยู่ฝั่งตรงข้าม







    " ..พี่ซีวอน"

    "ดีมากจ้ะ ^^"

    คุณนายดูมีความสุขตอนมื้ออาหารนี้ เธอนั่งคุยกับสาวน้อยที่ถือเป็นสาวคนแรกเลยที่ลูกชายคนเดียวของเขาพามาบ้าน แม้ทั้งสองจะยังดูไม่ค่อยสนิทสนมกันอย่างที่เธอหวังไว้ในตอนแรก

    หลังจากทานผลไม้ตบท้ายมื้อค่ำอันแสนพิเศษเสร็จ คุณนายชเวก็กำลังจะชวนให้สาวน้อยคยูอยู่คุยกันก่อนแต่ทว่า ผู้ชายตัวสูงกลับขัดจังหวะทั้งคู่เสียก่อน

    "เดี๋ยวต้องรีบกลับนิ ใช่มั้ยคยู?"

    "คะ? ...อ่อ ค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะคุณป้า ไว้คราวหน้านะคะ"

    ร่างบางมองคุณป้าที่กำลังเบะปากเสียดายที่ผู้กองมาขัดจังหวะของพวกเขาก่อนจะยิ้มลาอย่างเกรงใจ ผู้กองขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ในขณะที่คุณป้าอาสาเดินออกไปส่งให้ถึงหน้าประตู





    "คยูฮยอนจ้ะ.."

    "คะ?"

    "ผู้กองเขาบังคับอะไรหนูรึป่าว "

    "ก็..ไม่นี่คะ"

    "เหรอจ้ะ ..ดีแล้วล่ะจ้ะ ป้านึกว่ารายนั้นเขาจะไปจ้างเพื่อนที่ทำงานมาหลอกป้าซะอีก ถ้าเป็นแบบนั้นป้าเสียดายแย่เลยนะ"




    ....


    คุณป้าทำไมเซ้นดีอย่างนี้





    คยูฮยอนพูดไม่ออก คุณป้าเป็นคนฉลาดแต่ทำไมถึงมีลูกชายซื่อบื้อได้ขนาดนี้นะ..

    "คยู หนูก็ช่วยดูแลพี่เขาด้วยนะ เห็นอย่างนั้นแล้วพี่เขาน่ะขี้เหงามากๆเลย"

    "...เหรอคะ"

    "จ้ะ ป้าผิดเองแหละที่เมื่อก่อนทำแต่งานปล่อยให้พี่เขาคนเดียวเล่นคนเดียวตลอด"
    คุณป้าเริ่มไหล่ตกเมื่อนึกถึงความผิดที่ตอนนั้นเอาใจใส่ซีวอนน้อยเกินไป แต่ที่เขาทำงานหนักน่ะก็เพื่อลูกชายคนเดียวของเขาทั้งนั้น

    "มาแล้วคร้าบบ ผมไปส่งคยูก่อนนะครับแม่" ร่างสูงวิ่งเขามาหาผู้หญิงทั้งสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน


    "ไปส่งน้องดีๆน้า"

    ร่างบางโบกมือบ๊ายบายคุณป้าในขณะที่ตัวเองกำลังนั่งอยู่ในออดี้ของอีกคน

    รถเคลื่อนออกไปจนถึงถนนใหญ่ ร่างบางยังคงยิ้มอิ่มอกอิ่มใจ วันนี้รู้สึกอบอุ่นมากๆเลย

    "ยิ้มอะไรอยู่ได้ตั้งนาน"

    "ครับ? " ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเก็กสีหน้าเรียบเฉยพร้อมค้านเบาๆอยู่ในใจ...ยิ้มบ้างก็ไม่ได้หรือไง


    "ดูเหมือนแม่ฉันจะชอบนายมากนะ ตอนกินข้าวเขาแทบไม่หันมามองฉันเลย"

    "ผมก็ชอบคุณป้ามากครับ"


    "หรอ.."

    ผู้กองตอบแค่นั้นก่อนจะเป็นฝ่ายที่อมยิ้มอยู่คนเดียวบ้าง

    "ว่าแต่ทำไมผู้กองไม่บอกว่าผมชื่อคโยฮยอนล่ะครับ"

    "ทำไมล่ะ อยากให้ฉันแนะนำอย่างงั้นหรอ"

    "ป่าวครับ ..ก็แค่สงสัยนิดหน่อย"




    ...



    เหตุผลที่ผู้กองพูดไปอย่างนั้น ..ตัวเขาเองรู้ดีที่สุดว่าเป็นเพราะอะไร

    "ผู้กอง..ตรงนั้นเขามุงดูอะไรกันนน่ะครับ"

    "นั่นสิ มีรถตำรวจอยู่ซะด้วย"



    ผู้กองจอดรถเลียบฟุตบาทอยู่หน้าจุดที่คนกำลังมุงดูกันมากมาย รถตำรวจจอดอยู่เต็มสองข้างทาง
    ร่างบางลงจากรถก่อนจะก้าวเร็วๆไปยังกลุ่มคนที่มุงอยู่มากมาย


    ร่างบางที่ประคองตัวเองอยู่บนส้นสูงห้านิ้วบวกกับชุดเดรสที่ดูไม่สะดวกในการเคลื่อนตัวเอาเสียเลย คยูฮยอนเดินเข้าไปใกล้ๆชายตัวใหญ่ที่ยืนสูงอยู่ด้านนอกสุดในกลุ่มคนมุง เธอพยายามจะแทรกตัวเข้าไปแต่ทว่าชายตัวใหญ่ข้างหน้าเธอกลับเดินก้าวเท้าออกจากกลุ่มมุงนั้นจนชนร่างบางเข้าไปเต็มๆ


    "อ๊ะ.." นึกว่าจะขาพลิกแล้วลงไปกองกับฟุตบาทซะแล้วแต่ทว่าความอุ่นที่คุ้นจากมือหยาบนั้นกำลังจับแขนทั้งสองของเธอไว้จากด้านหลัง




    "ขอทางด้วยครับ" ผู้กองเอ่ยก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งแหวกฝูงคนที่มุงอยู่ในขณะที่แขนแกร่งที่ข้างยังคงโอบร่างบางไว้ ทั้งสองแทรกเข้ามาจนอยู่หน้าสุดจนได้ สิ่งคนกำลังมุงดูอยู่นี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าดูเลย...






    ศพคนตาย เหมือนผู้ตายจะกระโดดลงมาตาย






    แสงแฟลชจากกล้องของนักข่าวสายอาชญากรรมถ่ายรัวไปที่ศพจนระยิบระยับแสบตาคยูฮยอนไปหมด เธอกระพริบตาถี่ๆก่อนจะมองดูผู้ตายอีกครั้ง


    เหล่าทีมชันสูตรพลิกศพเข้ามาล้อมศพก่อนจะดำการพลิกไปมาก่อนจะเอ่ยแจ้งกับทางตำรวจแถวนั้น
    "เธอตกลงมาก็จริงแต่..

    สาเหตุการตายจริงๆของเธอมาจากการขาดอากาศหายใจเมื่อหลายชั่วโมงก่อนนะครับ"

    เป็นอีกครั้งที่ผู้กองกับคยูหันมามองหน้ากันโดยไม่นัดหมาย ...หมายความว่านี่เป็นการอำพรางรูปคดีสินะ
    ชีวอนสะกิดนายตำรวจที่ยืนคุยกับทีมชันสูตรอยู่ นายตำรวจคนนั้นพอเห็นว่าเป็นผู้กองก็ถึงกับโค้งให้ต่ำจนหัวจะติดเข่าตัวเอง


    "ขอผมพบพยานผู้พบศพคนแรกก่อน" ทั้งสองเดินออกมาจากฝูงคนโดยมีนายตำรวจคนนั้นนำทางให้
    ทั้งสองได้พูดคุยกับพยานจนทราบเรื่อง ...ตอนนั้นเธอกำลังจะเดินเข้าแมนชั่น แล้วศพของเหยื่อก็ตกลงมาพอดี แต่เธอตกใจกลัวเกินกว่าจะเรียกสติเงยหน้าขึ้นไปมองว่าเหยื่อตกลงมาจากชั้นอะไร

    เมื่อได้สอบถามจากเจ้าของแมนชั่นก็ทราบว่าผู้ตายเป็นผู้เช่าห้องในแมนชั่นนี้ ห้องพักของเธออยู่ที่ชั้นสาม
    มันคงจะสูงน้อยเกินไปเพราะสภาพของศพที่เหมือนตกมาจากที่ที่สูงกว่านั้น

    หรือจะเป็นที่ดาดฟ้านะ

    คยูฮยอนกำลังใช้ความคิดทันทีหลังจากได้ข้อมูลต่างๆจากเหล่าพยาน
    เมื่อคยูฮยอนเอ่ยขอเจ้าของแมนชั่นให้พาเขาไปยังดาดฟ้าของตึก ชายที่ถูกขอร้องก็ทำหน้าเจื่อน

    "พอดีบนดาดฟ้าตอนนี้มีน้ำขังมากเลยครับคุณผู้หญิง คงจะไม่สะดวก"

    "แปลว่าทุกคนที่พักที่นี่ก็ไม่ได้ขึ้นไปที่ดาดฟ้าเลยหรอคะ"

    "ครับ ก็แค่ช่วงนี้แหละครับ ฝนมันตกบ่อย"

    "ถ้าอย่างนั้นตอนสี่โมงเย็น คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ"

    "เอ๋?? คุณผู้หญิงสงสัยผมหรอครับ"

    "เอ่อ..แค่สอบถามไว้เฉยน่ะค่ะ"

    คดีในวันนี้ทำให้คยูฮยอนกลับมามีบทบาทอีกครั้ง ช่วงนี้จะมีแต่ผู้กองที่ออกโรงพูดจาเท่ห์ๆตลอด แต่วันนี้เขากลับมาทวงตำแหน่งแล้ว เขาเล่นจัดการเดินเรื่องทุกอย่างจนเจ้าหน้าที่ตำรวจแถวนั้นงงเป็นตาแตก บางคนอยากจะเดินไปห้ามไม่ให้คยูมาก้าวก่ายด้วยซ้ำ ..แต่ผู้กองขอไว้

    "จะได้ปิดคดีเร็วๆไง นะ" เป็นคำพูดที่ผู้กองใช้พูดกับเหล่าตำรวจที่ดูไม่พอใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่งตัวราวกับเพิ่งมาจากงานสังสรรค์ไฮโซมาแย่งหน้าที่เขาไปทำหมด

    สุดท้ายร่างบางก็เดินเข้ามาหาผู้กองด้วยใบหน้าสีดูยิ้มแย้ม เขามากระซิบที่ข้างหู..

    คนตัวสูงยืนกระแอมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ต่างๆหันมาสนใจ
    "ผมรู้แล้วใครคือคนที่ฆ่าเหยื่อ"



    ...


    "เป็นเจ้าของแมนชั่นไงล่ะ ..คิดดูนะ ตอนที่คยู..ขอขึ้นไปดูดาดฟ้าน่ะ เขาดูมีพิรุธแปลกๆแถมยังปฏิเสธการพาขึ้นไปด้วย แถมเมื้อกี้ผมยังเหลือบไปเห็นขากางเกงของเจ้าของแมนชั่นนะ..มีรอยเลือดติดอยู่ ผมว่ามันชัดเจนมาก"

    ร่างสูงเอ่ยทุกอย่างไม่มีตกหล่น ทุกคำที่เขาพูดมาจากคยูฮยอนทั้งนั้น ใช่ มาจากที่คยูมากระซิบบอกเมื่อกี้
    ร่างทรงของคยูฮยอนทำหน้าที่ไม่มีบกพร่อง ในที่สุดก็ไล่บี้จนคนร้ายยอมมอบตัวแต่โดยดี




    เฮ้อออ คืนนี้เหนื่อยจังเลย

    ร่างบางสูดเอาอากาศเย็นๆเข้าไปเต็มปอดก่อนจะขอผู้กองแวะเข้าร้านสะดวกซื้อ ผู้กองพยักหน้ารับทราบก่อนจะขอไปนั่งรอในรถ


    มือหยาบขยับเนคไทก่อนจะปรับระดับของที่นั่งคนขับ ....พลางนึกถึงเรื่องวันนี้ก็ได้แต่อมยิ้ม 

    ใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อผู้กองนึกถึงน้ำเสียงของอีกคนที่ตอนนี้คงซื้อของอยู่ในร้านสะดวกซื้อ

    พี่ซีวอน

    พี่ซีวอน พี่ซีวอน



    เสียงของคยูฮยอนตอนเรียกเขาแบบนั้นมันยังคงก้องอยู่ในหู ...ปกติเด็กนั่นเอาแต่เรียกเขาอย่างห้วนๆว่าผู้กองๆๆ

    ร่างบางเดินออกมาพร้อมในมือถือถุงใบใหญ่จากร้านสะดวกซื้อ ข้างในมีพวกอาหารแช่แข็ง ขนม เครื่องดื่ม กะตุนเต็มที่เวลาเขาต้องอยู่บ้านทั้งวัน




    "หนู.." เสียงที่เบาฟังดูอิดโรย ทำให้ส้นสูงห้านิ้วนั้นหยุดเดิน หันรีหันขวางก่อนคยูฮยอนจะพบเจ้าของเสียง

    "เรียกหนูหรอคะ??" เดินไปหาหญิงที่ดูชราภาพ สีขาวที่ย้อมไปทั่วทุกเส้นผมนั่นพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อ

    "ปีนี้เบญจเพสแล้วใช่มั้ย"

    คำถามนั่นย้อนให้คยูต้องขมวดคิ้ว เบญจเพสคือ 25 ใช่มั้ย...อืม เดี๋ยวนะ







    "คุณยายรู้ได้ไงครับ!!" เอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจก่อนจะรีบเอามืออุดปากตัวเองเพราะเผลอพูดครับออกมา

    "หนูอย่าเลือกผิดเชียวนะ"

    "หืม?? เลือกอะไรหรอค..คะ"

    "หนูอยากจะใช้ชีวิตแบบไหนล่ะ



    กลางวัน ...หรือกลางคืน"





    "คุณยาย!! หมายความว่าไงครับ"

    "หนูเลือกให้ดีนะจ้ะ"

    ทันทีที่คุณยายพูดจบ ร่างที่ดูชราภาพก็ค่อยๆเดินหายไปกับความมืดของหลืบตึก



    ...พร้อมทิ้งคำพูดประหลาดเอาไว้ให้กับคยูฮยอน











    เขาเลือกได้ ....หมายความว่ายังไง













    TBC

    เย้ๆๆๆๆ ดำเนินเรื่องมาครึ่งเรื่องแล้วน้า ใจหายล่ะซิ ครึ่งเรื่องแล้วแต่ความสัมพันธ์ของวอนคยูยังคงช้าเหมือนเต่าคลาน แต่ก็ดูมั่นคงดีน้า ตอนนี้คดีเน้นน้อยมากเลย ฮ่าๆๆๆ หลังๆเราจะเน้นวอนคยูแล้วน้า แต่คดีก็ยังมีให้อ่านเพลินๆจ้า และต่อไปนี้ไรท์จะบรรยายแต่ชื่อคยูนะจ้ะแม้ว่าตอนนั้นนางจะมีคโยเป็นร่างทรงก็ตาม ฮ่าๆๆๆ เพราะฉะนั้นเตรียมงงได้เลย 55555555  รักรีดเดอร์ทุกคนค่า <3




















    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×