ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : CURSE :นักสืบต้องคำสาป {WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #7 : CURSE : หลักฐานเท็จ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56




    c u r s e


    6

    หลักฐานพิสูจน์ข้อสันนิษฐาน ความลับพิสูจน์ความจริง



     
     
     
     
     
     

     
    คัทชูสีดำขลับเดินลงมาจากแมนชั่นก่อนจะวิ่งเข้าไปเคาะกระจกรถ 
     
    ชีวอนที่่รอนานแล้วก็สะดุ้งเหมือนหลุดจากภวังค์ก็ปลดล็อคประตูก่อนคนข้างนอกจะรีบก้าวเข้ามานั่งด้านข้างคนขับ
    "ทำไมนานแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวคนที่นู้นเขาก็หมดศรัทธาในตัวผมหมด"

    ชีวอนบ่นอย่างอารมณ์เสียนิดๆก่อนจะแตะเกียร์ขับรถออกมาแมนชั่น 
    "ก็ผู้หญิงมันต้องมีเรื่องให้ทำอะไรเยอะแยะนะครับ"


    คยูฮยอนหาข้ออ้างก่อนจะยู่ปากนั่งนิ่งๆอยู่ในออดี้ความเร็วสูง หัวค่ำนี้คยูฮยอนมากับเบลเซอร์สีดำที่ใส่ทับกับเชิ้ตขาว ผมที่เคยยาวปลิวสลวยบัดนี้ก็ถูกรวบตึงไว้ดูทะมัดทะแมง ว่าไปแล้วก็ดูเป็นสาวทำงานที่น่ามองไม่หยอกเลย
    บนใบหน้าไร้เครื่องสำอางค์ใดๆ มีก็แต่ริมฝีปากอิ่มที่ดูมีสีออกชมพูอมส้ม
     
    ผู้กองหน้ายาวเหลือบมามองคนข้างๆมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ แต่ครั้งนี้ซวยโดน
    คยูฮยอนในสภาพสาวสวยเต็มวัยหันกลับมามองตอบ
    "นี่ขับรถมาเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้วนะครับ"
    ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้คยูฮยอนจะต้องมานั่งบอกกฎจราจรกับตำรวจอย่างผู้กองชีวอน นัยน์ตากลมหันกลับไปเมื่อเห็นอีกคนหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถ
     
     
     
     
     
    ทั้งสองมาถึงหน้าบ้านของเจ้าทุกข์ คุณหญิงคิมเจ้าห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านกังนัม ทั้งสองเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเร่งรีบเดินขึ้นไปยังที่เกิดเหตุ เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆเดินไปเดินมากันให้ขวักไขว่ แสงแฟลชสาดเป็นระยะๆจากเหล่านักข่าวคดีอาชญากรรม ใช่นี่เป็นคดีอาชญากรรม ถึงจะยังไม่มีคนตายก็เถอะ
     
    ทั้งสองได้ฟังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนึงจนทราบว่า เมื่อเย็นวันนี้คุณหญิงคิมเจ้าของบ้านได้ยินเสียงกระจกแตกมาจากห้องข้างๆของเธอ แต่ตอนนั้นเธออาบน้ำอยู่จึงไม่ได้สนใจอะไร จนเมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอได้ยินเสียงกรี๊ดแสบแก้วหู เธอจึงออกไปดูแล้วพบว่าลูกชายของเธอเลือดไหลที่ศีรษะ เธอจึงกดเรียกรถพยาบาล และเมื่อเธอถามเรื่องราวกับแม่บ้านเจ้าของเสียงกรี๊ดเธอก็เลยต้องโทรเรียกรถตำรวจมาด้วย
     
    "แม่บ้านเขาว่ายังไงหรอครับ"  เสียงใสถามขึ้น สายตาทุกสายตาของคนแถวนั้นหันมามองกันอยู่ที่เดียว....คยูฮยอนเอ้ย แกลืมตัวอีกละ เค้าก็เอะใจว่าทำไมตอนเดินมากับผู้กองมีแต่คนมองแปลกๆ ไม่มีใครรู้จักคโยฮยอนสินะ ตำรวจทุกนายรู้จักแค่คยูฮยอนเท่านั้น 
     
    สาวสวยยิ้มอายๆก่อนจะเดินหลบไปอยู่หลังผู้กองราวกับจะให้ผู้กองช่วย
    "อ่อ เธอมากับผมครับ เป็นนักสืบเอกชนเหมือนกับคยูฮยอน" ชีวอนสัมผัสได้ถึงมือเล็กๆที่กำชายเสื้อเขาแน่นจึงต้องเริ่มหาเรื่องมากลบเกลื่อนคนอื่น
    เจ้าหน้าที่ทุกคนพยักหน้าเข้าใจไปถึงบางอ้อก่อนจะเดินไปเดินมาดั่งเดิม แต่ทว่านายตำรวจคนเดิมยังยืนเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้ฟังต่อ
    แม่บ้านที่กรี๊ดจนคุณหญิงตกใจต้องเดินไปดูบอกว่า เธอเดินไปตามระเบียงทางเดินเพื่อที่จะลงไปยังห้องครัว พอผ่านห้องของคุณหนูก็พบว่าประตูนั่นเปิดอ้าออก เธอจึงเดินไปดูแล้วก็พบว่าเลือดออกที่ศีรษะของคุณหนูเป็นอย่างมาก เธอกรี๊ดเพราะเธอเข้าใจว่าคุณหนูต้องช็อคเลือดตายไปแล้วแต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เธอได้ยินเสียงหอบของคุณหนูประกอบกับคุณหญิงที่วิ่งเข้ามาพอดี เธอจึงโทรเรียกรถพยาบาล
     
    เมื่อฟังจนได้ความคยูฮยอนก็กระซิบบอกผู้กองว่าอยากไปดูต้นตอของเสียงกระจกแตก ผู้กองได้ยินเช่นนั้นก็จัดการสั่งให้นายตำรวจชั้นผู้น้อยนำทางไป  ตอนนี้คยูอยากจะทำอะไรก็ต้องผ่านชีวอนตลอด แหงล่ะ ถ้าเขามาทำอะไรตามใจ มีหวังคนที่นี่คงได้หมันไส้เขามากกว่านี้แน่
     
    เมื่อเข้าไปสอบถามทั้งคยูกับผู้กองก็หันมามองหน้ากันอย่างแปลกใจ เพราะห้องที่กระจกแตกควรจะเป็นห้องของเหยื่อ แต่นี่กลับเป็นห้องของลูกชายคนกลางของบ้านคุณคิม
     
    นี่มีเรื่องต้องคุยกันส่ะหน่อยแล้ว ผู้กองคิดอย่างงั้นจึงได้จัดแจงให้เหล่านายตำรวจชั้นผู้น้อยไปเรียกทุกคนในบ้านให้มารวมกันที่โถงห้องนั่งเล่น

     
    "นี่คุณตำรวจเรียกพวกเรามาทำไมครับเนี่ย มันมีเรื่องอะไรนักหนาหรอครับ
    แค่น้องชายคนเล็กของเราหัวแตก"
    "นั่นสิ ไม่มีใครตายซักหน่อย คุณแม่ก็เว่อร์จริงๆ" 
    สองพี่น้องของตระกูลคิมบ่นอย่างเสียอารมณ์ทันทีที่เดินเข้ามา คนโตที่พูดก่อนหน้านี้หยิบมวนบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะขวานหาไฟแช็คในกระเป๋ากางเกง 
    ชายผู้เป็นน้องคนกลางที่อายุไล่เลี่ยกันหยิบไฟแช็คจากกระเป๋าตัวเองก่อนจะจุดบุหรี่ให้อีกคน กลิ่นนิโคตินฟุ้งตลบอบอวนเต็มห้อง คยูฮยอนเมื่อได้กลิ่นบุหรี่ก็ยู่จมูกก่อนที่คัทชูสีดำขลับจะเดินเตาะแตะไปเปิดหน้าต่างออกเงียบๆ 
    "ถึงยังไงทางเราก็ต้องสอบถามไว้ก่อนนะครับ "
    ชีวอนนั่งลงบนโซฟาเมื่อ ชายทั้งสองเข้ามาแล้ว ภายในห้องนี้มีคุณหญิงคิม แม่บ้าน หลานสาวของคุณคิมที่มาเที่ยวโซล และสองสุดท้ายที่เข้ามาก็คือลูกชายคนโตและคนกลางของคุณนาย
    คยูฮยอนกับเจ้าหน้าที่อีกสองสามคนยืนฟังอยู่ในห้องด้วย และผู้กองชีวอนก็เปิดฉาก
    "ขอถามแต่ละคนนะครับ เมื่อเย็นๆประมาณห้าโมง ทุกคนกำลังทำอะไรอยู่บ้างครับ?"
    "ดิฉันบอกกับตำรวจอีกท่านไปแล้วว่าตอนนั้นดิฉันอาบน้ำอยู่" คุณนายเป็นประเดิมตอบคำถามตามด้วยคุณแม่บ้านที่เธอบอกว่าตอนนั้นกำลังเก็บผ้าของพวกคุณๆไปซัก
    "หนูนอนเล่นอยู่ในห้องค่ะ พอดีฟังเพลงเสียงดังมากเลยไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย"

    เสียงใสแจ๋วเอ่ย เด็กสาวอายุราวๆ 17 เธอเป็นหลานสาวที่เข้ามาเที่ยวบ้านคุณป้าในช่วงปิดเทอม ท่าทางเป็นคนซน ผิวขาวเนียน ผมยาว และรูปร่างที่ดูโตเป็นสาวยิ่งทำให้เธอดูใกล้เคียงกับคโยฮยอน 
    "ผมเพิ่งกลับมาจากบริษัท" พี่ชายคนโตเอ่ย ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นระรอกๆ 
    "ผมดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นสอง" พี่ชายคนกลางเอ่ยก่อนจะหยิบบุหรี่มาสูบบ้าง
     


     
    ผู้ชายบ้านนี้มันติดบุหรี่กันหมดเลยรึไง คยูฮยอนขมวดคิ้วคิดในใจก่อนจะหันหน้าหนีไปที่ริมหน้าหน้าต่างที่เขายืนห่างจากที่นั่งสอบถามกันอยู่นานแล้ว ผู้กองเหลือบไปมองเป็นระยะแล้วทำหน้าราวกับถามอยู่ในใจว่า 'ทำไมไม่มาช่วยกันตรงนี้?'
    ช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น ทุกคนต่างก็อยู่คนเดียว ไม่มีใครมีพยานมายืนยันที่อยู่ในตอนนั้นได้
    เริ่มยุ่งยากแล้วสิ ผู้กองทำหน้าใช้ความคิดอยู่นานก่อนจะถามต่อ
     
    "คุณรู้เมื่อไหร่ครับว่ากระจกที่ห้องคุณแตก แถมยังมีหินเข้ามาในห้องอีก"

    ลูกชายคนกลางถูกถามก็ให้ความร่วมมือไป
    "รู้ตอนหัวค่ำที่มีเสียงเอะอะของคุณแม่แล้วก็แม่บ้าน ผมเลยลงมาดูก็เห็นว่ามีเรื่องขึ้น และพอเดินกลับไปที่ห้องตัวเองก็เลยพบว่ามีคนปาหินเข้ามาในห้องผม"
    ลูกชายคนกลางเล่าเป็นฉากๆก่อนบุคคลที่ดูหัวเสียที่สุดในห้องจะเอ่ยขึ้นมา
    "ผมว่าคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้มันก็มีแต่คนนอกเท่านั้นแหละ ทั้งเรื่องกระจกกับเรื่องน้องผมหัวแตก"
    "ใจเย็นครับ ทางเรายังหาข้อมายืนยันไม่ได้นะครับว่านี่เป็นฝีมือคนนอก" ผู้กองเอ่ยอย่างใจเย็น
    "แล้วนี่เมื่อไหร่จะสอบสวนพวกเราเสร็จล่ะครับ ผมยังมีงานที่ต้องกลับไปเคลียร์ต่อนะ" หนุ่มใหญ่ในบ้านเอ่ยก่อนจะสูดนิโคตินเข้าปอดอีกครั้ง
     
    คยูฮยอนแม้จะยืนดูอยู่ไกลๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติของสายใยของคนในบ้านนี้
    ดูพี่น้องแท้ๆจะไม่ได้เป็นห่วงน้องชายเขาที่อาจจะตายก็ได้ถ้าเจอช้ากว่านี้
    พอนัยน์ตากลมสอดส่องลงไปทางด้านล่างหน้าต่างของพบว่าด้านนี้มีสวนดอกไม้อยู่ 
     
    การสอบสวนผ่านไปได้ด้วยความเหน็ดเหนื่อยของผู้กองที่ต้องคอยต่อกรกับการตอบคำถามของแต่ละคนก่อนคนตัวใหญ่จะมองหาคยูฮยอนอีกครั้งและพบว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ริมหน้าต่างแล้ว 
    ยังไงคืนนี้ก็คงยังไม่ได้คำตอบอะไร
    ผู้กองถอนหายใจไปทีนึงจัดแจงร่ำลาเหล่าเพื่อนร่วมงานก่อนจะเดินออกไปตามหาคนที่มาด้วยกัน
    ขายาวเดินไปเรื่อยๆในสวนที่อยู่ข้างๆบ้านหลังใหญ่ เขาเดินไปจนพบคยูในร่างสาวน้อยที่กำลังยืนเงยหน้าอยู่


     
    "มาทำอะไรอยู่ตรงนี้"

    ผู้กองเอ่ยทักก่อนจะเลิกคิ้วมองเมื่ออีกคนเอามือหอมๆของตัวเองมาปิดปากผู้กอง
    "เบาๆครับ" พูดจบอีกคนก็ปล่อยมือก่อนจะหันไปมองยังหน้าต่างด้านบนอีกครั้ง ผู้กองเงยหน้ามองตามก่อนจะพยักเข้าใจว่าเด็กน้อยมาทำอะไรที่นี่ 
    "หน้าต่างชั้นสองที่มีกระจกแตกอยู่ตรงนั้นคงเป็นห้องของลูกชายคนกลาง และชั้นล่างก็คาดว่าจะเป็นห้องของเหยื่อ และข้างๆก็เป็นห้องของคุณนายคิม.."

    เสียงเล็กๆแต่ไม่แหลมเอ่ยเบาๆพร้อมชี้ให้ผู้กองมองตาม
     
    "แล้วไหนห้องของหลานสาวคนนั้นนะ" ชีวอนเอ่ยเป็นเชิงถาม 
    "ผมว่าเป็นห้องตรงนั้นครับ" มือเนียนชี้ไปยังข้างๆห้องที่กระจกแตก ผู้กองมองตามมือก่อนจะหันมามองอย่างข้องใจ


     
    "รู้ได้ไงเนี่ย" มันเป็นอย่างงั้นจริงๆตอนที่คยูฮยอนลงไปข้างล่างแล้ว
    ผู้กองก็ได้เดินไปคุยกับแม่เด็กสาวอีกนิดหน่อยเรื่องคดี ใช่ ห้องเธออยู่ข้างๆห้องของพี่ชายคนกลาง

    คยูฮยอน หรือจะคโยฮยอนก็ตามที เธอยักไหล่ก่อนจะพูดต่อ
    "ถ้าทุกอย่างมันเป็นอย่างที่ผมสงสัยล่ะก็.."
    "เริ่มสงสัยใครแล้วหรอ"
    "ก็มีบ้างแล้วครับ"
    "นี่คโยฮยอน.."
    "...อะไรครับ?"
    "เลิกพูดครับทั้งๆที่เป็นผู้หญิงแบบนี้ซะทีเถอะ" ผู้กองกับคโยฮยอนยืนคุยกันเบาๆอยู่ข้างสวน คยูนิ่วหน้ามองผู้กอง
    "ทำไมล่ะครับ"  
    ผู้กองเห็นสายตาของคยูก็พลอยต้องเบียนหน้าหนีไปมองทางอื่น



    "...มันไม่ชิน" 



     
    "..ก็ได้ค่ะ" ผู้กองได้ยินเสียงเล็กๆนั่นก็เกิดใจสั่นขึ้นมาอย่างประหลาดก่อนจะหันกลับมามองอีกคนที่กำลังหาวเหมือนแมวง่วง =.= 




     
    จะกลางวันหรือกลางคืน เด็กคนนี้ก็ขี้เซาเหมือนกัน

     
     "ง่วงแล้วหรอ ปะ เดี๋ยวไปส่งบ้าน"
    "=_= จะกลับแล้วหรอครับ..คะ"  คนที่ดูงัวเงียตอบชีวอนด้วยคำถาม 
    "อื้ม วันนี้ไว้แค่นี้ก่อน ..ไปกันเถอะ" ร่างสูงหันหลังกลับเพื่อจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่กลับต้องชะงักเมื่ออีกคนดึงมือเขาไว้
    "เดี๋ยวก่อนครับ ผมมีเรื่องให้ช่วย" 
     
     
    .



     
    .
    .



     
    .
     
    .
    .


     
    ร่างเล็กบอบบางแต่ยังคงส่วนเว้าโค้งกำลังหลับใหลอยู่บนเตียงกว้าง ผมที่เคยถูกรวบไว้ก่อนหน้านี้ถูกปล่อยลากยาวคลุมไหล่ คโยฮยอนกำลังหายใจเข้าออกอย่างเรียบนิ่ง


    นอนสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆจนกระทั่งร่างบางต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโลหะที่กระทบกันดัง

     
    คโยฮยอนลืมตาขึ้นมากระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับให้ชินกับความมืดในห้องนอน ก่อนจะพบว่ามีชายสองคนกำลังต่อสู้อยู่ในห้อง แผ่นหลังที่กำลังหันหลังให้อยู่คโยรู้สึกคุ้นตาดี ชายคนนั้นกำลังต่อสู้กับชายอีกคนที่กำลังถือมีดอยู่

    แต่คนที่หันหลังนั้นกลับถือแค่กระบองเหล็กแบบพิเศษที่ตำรวจทุกคนมี แม้อาวุธจะดูด้อยกว่าอีกฝั่งแต่ดูเหมือนว่าฝ่ายที่คโยเห็นแต่แผ่นหลังจะดูได้เปรียบ 


     
    "ผู้กองสู้ๆ" เสียงเล็กเอ่ยอย่างหลุดปาก ฝ่ายที่ถือมีดหันมามองอย่างสงสัย ในความมืดนั้นอาจทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นหน้าอีกฝ่ายได้ แต่พอคโยคนสวยเชียร์ชีวอนไป ฝ่ายที่ถือมีดกวัดแกว่งไปมาอยู่นั่นก็เกิดชะงักขึ้นมา โอกาสเป็นของชีวอน เมื่อเกิดช่องว่างผู้กองรีบคว้ามีดมาจากอีกคนจนสำเร็จ 
     
    แม่สาวตัวดี วิ่งไปกดสวิซต์เปิดไฟให้ห้องนี้สว่างขึ้นมาทันตา ก่อนจะพบคนที่เขาคาดการณ์ไปแล้ว



     
    "ทำไมถึงรู้.."


    เสียงของลูกคนกลางของบ้านนี้เอ่ยขณะที่ร่างของเขาลงไปทรุดกับพื้น
    "รู้ตอนที่ผู้กองสอบสวนครั..   ค่ะ" คโยเกือบจะหลุดอีก แต่ก็ว่าต่อ
    "ตอนนั้นคุณบอกว่าอยู่ชั้นสองได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย แต่ไม่เห็นคุณพูดถึงได้ยินเสียงกระจกแตกเลย
    ทั้งๆที่คุณบอกว่าคุณอยู่ที่ชั้นสองซึ่งเป็นชั้นของห้องคุณเองแท้ๆ"




     
    "..."
     
     
    "ฉะนั้น สิ่งที่คุณให้ปากคำมานั้น นเป็นความเท็จ รวมถึงกระจกที่แตกนั่นก็เป็นปลอม"

    ชีวอนที่ฟังอยู่เพลินๆ ก็หันมาเลิกคิ้วมอง
    "กระจกแตกเป็นของปลอมหรอ"
    "ป่าวครับ เอ่อ หมายถึง ป่าวค่ะ กระจกแตกเพราะถูกหินขว้างเข้ามาจริงๆ แต่ที่ปลอมนั่นก็คือหลักฐาน ถึงตอนนี้แล้วอยากจะพูดอะไรอีกมั้ย ...คะ"

    คโยที่ดูสับสนกับเพศของเธอเอ่ยถามชายที่ยังนั่งทรุดกับพื้นก่อนเขาจะสารภาพออกมา
     


     
    เขามีปัญหากับน้องชายจึงให้คว้าไม้เบสบอลในห้องทุบหัวจนเลือดออก ช่วงเวลานั้นเอง เป็นช่วงเวลาที่เขาคิดแผนออกมาได้คือการสร้างหลักฐานเท็จโดยการเดินลงไปทางข้างสวนเพื่อหยิบก้อนหินก่อนจะขว้างไปยังหน้าต่างห้องตัวเองเพื่อให้ตนพ้นข้อสงสัย ทั้งที่ก็ยังกลัวว่าลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ห้องข้างๆจะได้ยิน ฉะนั้นคืนนี้เขากะไว้แล้วว่าจะย่องเข้ามาทำร้ายยอนเบ 
     
     
     
    โชคดีไป ที่คยูฮยอนเซ้นส์ดี ไม่งั้นสาวน้อยยอนเบต้องรับเคราะห์แน่ 
    ด้วยรูปร่างที่คล้ายๆกับเด็กสาวคนนี้ทำให้คยูกล้าคิดแผนนี้ขึ้นมาและเอาไปเสนอชีวอนตอนที่ผู้กองกำลังจะกลับ

     
     
    "ช่วยพาผมไปที่ห้องนอนของเด็กสาวคนนั้นหน่อยนะครับ ผมมีแผน"
     













     
    สุดท้ายก็ปิดคดีได้ภายในวันเดียวอีกแล้ว ถึงจะดึกแล้วก็เถอะ





     
     
    ร่างบางเข้าไปนั่งในรถออดี้ก่อนจะเอียงคอพับหลับไปอีกรอบด้วยความง่วงสะสม  คนตัวใหญ่ที่ยืนคุยจัดแจงเรื่องคดีกับนายตำรวจสี่ห้าคนอยู่ข้างนอกก็เหลือบไปมองอีกคนที่นั่งนอนรอในรถแล้ว


     
     
    "งั้นคืนนี้ก็จัดการแค่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้้เช้าค่อยว่ากันใหม่ ผมขอตัวล่ะ"

     
    "แหมๆๆ ผู้กอง ดูรีบร้อนนะครับ" "นั่นน่ะสิครับ เพิ่งจะสามสี่ทุ่มเองนะ" 
    เหล่าตำรวจมาดแมนส่งเสียงแซวกันเกรียวกราวเมื่อผู้กองเดินตรงไปยังรถของตัวเอง ชีวอนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะโบกมือลา โดยที่ขาอยู่ในรถไปข้างหนึ่งแล้ว
     
    มองสาวน้อยที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆอีกครั้งก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ จึงจะค่อยๆออกรถ
    "ผู้กอง.."
    "หืม?"
    "งึมงำงึมงำงึมงำงึมงำ"
     
    "ห๊ะ?" 
    ชีวอนหันไปมองอีกคนที่ส่งเสียงงุงงิงฟังไม่รู้เรื่อง


    ....ละเมอ -_-



    แต่ทว่าเสียงแง่วๆเหมือนเสียงแมวนั้นก็ยังไม่หยุดร้อง จนชีวอนอยากจะลองตั้งใจฟังว่าอีกคนละเมออะไร



     
    "ผู้กอง.."

     
    ..
     
    "คโยไม่มีนะ..มีแต่คยู"

     
    ..









     
    "ผู้กอง.. มีแต่คยูนะ"


     
     
      ใจของคนตัวใหญ่เต้นรัวไม่เป็นสับเมื่อฟังอีกคนออก นี่หูเขาฟังถูกรึป่าว
    แล้วรถออดี้ของผู้กองก็วิ่งไปด้วยความเร็วสูงที่ยังคงน้อยกว่าความเร็วในการสูบฉีดเลือดของคนขับตอนนี้
     
     
     
     
     





    ทำเขาต้องตื่นเต้นด้วย??








     
    เมื่อไหร่จะผ่านคืนนี้นะ

    จู่ๆผู้กองก็เริ่มรู้สึกอยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆ...
     
     
     











     
    ............
     
    ฮิฮิ ตอนนี้หนักคดีไปป่าว เราพยายามให้มันสมดุลนะ คดีกับวอนคยู
    55555 ดีใจที่ชอบวอนคยูมากกว่าคโย ช่วยเม้นติชม+โปรโมทด้วยน้า จะได้มีตอนหน้าเร็วๆ แฮ่
     
     
     












    Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×