ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CURSE : เวลา
CURSE
5
ความจริงมักยาวนาน
.
.
5
ความจริงมักยาวนาน
.
.
แสงอาทิตย์ที่ลอดเข้ามาให้ห้องนอนของตนเอง คยูมองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างในห้องยังคงสภาพเดิมที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน ..ไม่มีอะไรผิดปกติ..ยกเว้นฝันนั่น
"ฝันบ้าอะไรวะเนี่ย" พึมพำกับตัวเองก่อนจะรุดไปอาบน้ำ
แต่เหมือนว่าที่เขาร้องไห้นั้นจะไม่ใช่แค่ความฝัน ..คราบน้ำตายังเปื้อนอยู่บนแก้มใส
นี่เขากลัวผู้กองปล้ำขนาดนั้นเลยหรอ...
ก็น่ากลัวอยู่หรอก
คยูส่ายหัวสะบัดความคิดเกี่ยวกับฝันบ้าๆนั่นไป ก่อนจะแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาๆ ในวันหยุดแบบนี้ เขาออกไปเดินเที่ยวเล่นบ้างดีกว่า
ขณะออกจากบ้าน อยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้เรื่องนึง..
เขากลับมานอนที่นี่ได้ยัง
ความทรงจำครั้งสุดท้ายคือเขาไปสืบคดีของดาราสาวที่บ้านพักตากอากาศ ผู้กองก็อยู่ด้วย
ขากลับเดินลงเขาไปจากนั้น..เจองู ใช่!! เขาตกใจมากจริงๆ
แต่ตกลงเขามาบ้านได้ยังไงเนี่ย
คยูหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ฝันซ้อนฝัน หรืออาจจะกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว
บ้าสิ..เจ็บจัง จะหยิกตัวเองทำไมวะเรา -_-
ขายาวเรียวเดินออกไปนั่งรถบัสอย่างใจเย็น ไม่ได้รีบร้อนดั่งเช่นวันที่ผ่านๆมา..ก็นี่มันวันหยุด
ร่างบางเดินผ่านร้านค้ามากมาย ทุกอย่างสวยงามละลานตาไปหมด..เขาเดาได้เลยว่าถ้าตอนนี้เป็นเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินล่ะก็เขาต้องช็อปแหลกแน่ ยัยคโยฮยอนคนนั้นต้องครอบงำจิตใจของเขาจนทรัพย์ในกระเป๋าคงได้ละลายไปกับเสื้อผ้าสวยๆรองเท้าแพงๆ
ในที่สุด..ร่างบางก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านซ่อมนาฬิกา ..ใช่ วันนี้เขาไม่ได้มาเที่ยวเล่นไปเปล่าๆ ไหนๆก็ว่างแล้ว เอานาฬิกาข้อมือของตนมาซ่อมด้วยละกัน ช่วงนี้มันเดินยังไงของมันแปลกๆเวลาเพี้ยนไปหมดเขาจะกะเวลาเย็นๆไม่ได้เลย ต้องออกมาดูแสงข้างนอกถึงจะรู้เวลา..
เวลาที่เขาจะต้องไปเป็นคโยฮยอน
เอาจริงๆเขาก็เบื่อเหมือนกัน ไอ้คำสาปนี่ แต่จะให้ทำยังไง ใครจะช่วยเขาเรื่องนี้ได้
โครมมมมมมมมมมม!!!!!!
เสียงบางอย่างดังมาจากหลังประตูด้านในของร้านซ่อมนาฬิกาที่เขากำลังคุยกับพนักงานซ่อมหน้าร้านอยู่ พนักงานคนนั้นเมื่อได้ยินเสียงเช่นนั้นก็อุทานออกมาก่อนจะวิ่งเขาไปในหลังประตูนั่น
"อ้าากกกกก" เสียงร้องเอะอะของชายที่เพิ่งเปิดประตูเข้าไปทำให้คยูฮยอนใจไม่ดีต้องวิ่งเข้าไปดูด้วย
ชายสูงอายุนอนแผ่อยู่ บนอกข้างซ้ายมีเลือดไหลออกนองเต็มพื้น บันไดเหล็กล้มกองอยู่ข้างๆร่างนั้น
ใครกันนะ อุกอาจมาฆ่าคนในเวลากลางวันเช่นนี้
ชายที่คยูเพิ่งคุยด้วยก่อนหน้านี้ล้มพับกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
"เดี๋ยวผมโทรเรียกตำรวจมาให้นะครับ" คยูเอ่ยก่อนจะควักมือถือออกมา เขารู้ว่ามันอาจจะดูไม่ดีนักที่เขาโทรเรียกตำรวจแทนที่จะเรียกรถพยาบาล ...แต่สภาพของคุณลุงที่นอนแผ่อยู่ตรงนั้น แม้แต่เด็กอนุบาลดูก็รู้ว่าคุณลุงคนนั้นน่ะ เสียชีวิตแล้ว..
ระหว่างรอตำรวจมา คยูฮยอนก็พาชายซ่อมนาฬิกาออกมานั่งบนโซฟาที่ตั้งไว้ให้ลูกค้ารอซ่อมนาฬิกาอยู่หน้าร้านก่อนจะพูดคุยซักถามกัน
"คือผมเป็นนักสืบที่กำลังทำงานให้ตำรวจอยู่นะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ...เราจะหาตัวร้ายได้แน่"
"จริงเหรอครับ..เฮ้อ คุณลุง.."
"คุณกับคุณลุงเป็นอะไรกันเหรอครับ"
"เขาเป็นคุณลุงที่มีพระคุณต่อผมมากครับ สำหรับผมแล้วเราไม่ใช่แค่นายจ้างลูกจ้างนะครับ เขาเคยช่วยเหลือผมเรื่องเงินมาครั้งนึงด้วย ไม่น่าอายุสั้นเลย.."
ทั้งสองพูดคุยไปจนรู้ความ ผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกับคยูฮยอนคนนี้ชื่อ อีกวางซู เป็นชายสูงเหยียบ 190 cm. นั่นทำให้คยูต้องเงยหน้าคุยจนเมื่อยคอไม่น้อย แต่จากที่คุย เขามาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาให้คุณลุงได้สามปีกว่าแล้ว คุณลุงเองก็รักและคลั่งไคล้นาฬิกาโบราณเช่นเดียวกันเขา สองคนจึงเข้ากันได้ดี แต่ที่คยูฮยอนสงสัยก็คือคนพวกนี่จะมีใครปองร้ายถึงขนาดมาฆ่าแกงกันได้
"ลองนึกอีกทีได้ไหมครับว่าพอจะมีใครที่ไม่ชอบใจคุณลุงคนนี้บ้าง"
"คุณลุงเป็นคนใจดีมีแต่คนรักนะครับ .."
จริงเหรอ ..แล้วทำไมมาถูกฆ่าแบบนี้ คยูมองเงยหน้ามองสายตาของอีกวางซูก่อนจะมองอย่างพิจารณาว่าคนๆนี้กำลังพูดจริงหรือพูดโกหกกันแน่
แต่ก็มองไม่ออก เมื่อเสียงไซเรนรถตำรวจดังเข้ามาทั้งสองเลิกคุยกันชั่วคราวแล้วเดินออกไปมองหาตำรวจ
คราวนี้มีผู้กองชีวอนที่คยูคุ้นเคยเดินนำขบวนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆมา ดูเท่ห์ราวกับเป็นภาพที่อยู่บนจอหนัง
"สวัสดีครับ พวกเราเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตกังนัม ทางเราได้รับแจ้งมาจากท่านนึงว่า.." ผู้กองหน้ายาวตะเบะท่าพูดพร้อมยืดอกผายก่อนจะเงียบลงเมื่อหันมาเห็น ..คยูฮยอน
คยูฮยอนกลั้นขำอยู่ข้างๆกวางซู เขากำลังตลกท่าทางของผู้กองที่ดูเหวอๆเอ๋อๆกว่าทุกวัน
"ผมโทรไปเองแหละครับ ศพอยู่ทางนี้ครับผู้กอง" ร่างบางพูดเสร็จก็เดินนำเหล่าตำรวจเข้าไปในหลังร้าน
ด้านหลังของร้านซ่อมนาฬิกานั่นเป็นช่องทางเดินแคบๆ มีช่องเก็บของที่เหมือนตู้เอกสารใหญ่ๆที่คาดว่าใช้เก็บพวกอะไหล่สำรองสำหรับการซ่อมนาฬิกาหลายชนิดหลายรูปแบบเรียงกันเป็นชั้นสูงๆ และบันไดเหล็กแบบพับเก็บได้ที่เขาพบว่ามันนอนกองอยู่กับผู้ตายนี้คงมีไว้ใช้ปีนขึ้นไปหาของที่อยู่ในช่องเก็บของสูงๆ
"เกิดเหตุกี่โมงครับ" ผู้กองเอ่ยถามขณะขมวดคิ้วเข้ม
"เกือบเที่ยงครับ"
ผู้กองมองหน้าคนตอบก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักแล้วโน้มหน้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูอีกคน
"คยูเดี๋ยวเสร็จจากนี้ฉันขอคุยด้วยแปปนึงนะ"
"ครับ? " ร่างบางส่งเสียงสงสัย ก่อนจะเห็นสายตาของกวางซูและเหล่าตำรวจคนอื่นๆจับจ้องมาที่เขากับผู้กอง
"งั้นตอนนี้ก็ช่วยคิดเรื่องคดีนี่ก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น" ร่างบางตอบกลับอีกคนด้วยเสียงกระซิบเช่นเดียวกัน ทั้งสองผละหน้าออกจากกันเมื่อรู้สึกว่าคนอื่นกำลังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
ทั้งสองเดินหน้าสืบสวนคดีนี้ต่อด้วยการเดินไปถามคนในร้านข้างๆ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พบใครที่น่าสงสัยเลย
ส่วนคยูฮยอนก็กำลังคิด ...คิดว่าคนร้ายจะหนีออกไปทางไหนโดยที่พวกเราไม่รู้บ้าง
ด้านหลังร้าน นอกจากมีชั้นเก็บของทางเดินแคบๆ บันไดเหล็กพับเก็บได้ ...ก็ไม่มีที่ไหนพอจะเป็นทางออกไปได้เลย
ประตูก็ไม่มี มีแค่ประตูที่เชื่อมไปหน้าร้านซึ่งเขากับกวางซูอยู่ในร้านตลอดเวลา ไม่มีทางที่คนร้ายฆ่าเหยื่อเสร็จจะออกมาเดินเป็นปกติ ...แล้วไหนจะเสียงดังโครมนั่นอีก
"ว่าแต่ทำไมวันนี้นายถึงมาอยู่ที่นี่ได้" ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยกับคำถามของผู้กองที่โผล่มาจากด้านหลัง
"ผมมาซ่อมนาฬิกาครับ"
"เหมือนโคนันเลยนะนายเนี่ย ..ไปไหนก็มีแต่คนตาย"
"..ผมไม่ได้เป็นตัวซวยขนาดนั้น"
"เอ่อ ฉันพูดเล่นเองๆ" ผู้กองเลิ่กลั่กทันทีเมื่อเห็นอีกคนนิ่วหน้าไม่พอใจ กะจะคุยเล่นด้วยเฉยเท่านั้นเอง..โธ่ ไม่น่าเลยเรา
"ช่างมันเถอะครับ ผมอาจจะเป็นตัวซวยจริงๆก็ได้" คยูกลับคำก่อนจะเดินหนีไปยังหลังร้านเพื่อพิจารณาอีกครั้ง..
คนร้ายออกจากที่นี่ได้ยังไง
ทว่าระหว่างนั้นเขาก็เงยหน้ามองเห็นช่องแอร์ที่อยู่ข้างบน...รึว่า!!
"คนร้ายต้องยังอยู่ที่นี่แหละ" คยูฮยอนพูดกับตัวเองก่อนจะจับบันไดมาตั้งไว้แล้วปีนขึ้นไปจนถึงขั้นที่สูงสุด
"เฮ้ยย คยู ลงมา!" ผู้กองที่ตามมาทีหลังรีบร้องห้าม แต่ก็ไม่ได้เรียกความสนใจจากร่างบางได้ เขาเอื้อมไปจับแผ่นลวดเหล็กก่อนจะพบว่ามันหลุดติดมือเขาออกมาอย่างง่ายดายราวกับมีคนเคยมาใช้งานก่อนแล้ว
ถูกอย่างที่เขาคิด คนร้ายหนีออกไปทางนี้ ก่อนจะผลักบันไดเพื่อไม่ให้ตำรวจรู้ว่าเขาสามารถขึ้นมาทางนี้ได้
ผู้กองที่เห็นคยูดึงแผ่นปิดช่องแอร์ก็วอเรียกเพื่อนตำรวจให้มาดูก่อนจะดำเนินการตามหาตัวคนร้าย
"ลงมาได้แล้ว"
"อ่า..ครับ" ร่างบางค่อยๆวางแผ่นลวดมุ้งครอบไว้ที่ช่องแอร์ดังเดิมก่อนจะค่อยๆสาวเท้าลงบันไดมาทีละขั้น ..
ทำไมตอนขึ้นขามันไม่สั่นแบบนี้นะ อยู่ๆคยูฮยอนก็รู้สึกกลัวความสูงขึ้นมาเสียดื้อๆ
ขาสั่นเสียจนก้าวต่อลงไม่ไหวแต่ทว่ากลับถูกแขนแกร่งโอบเอวแล้วดึงร่างเขาลงมา
รู้ตัวอีกทีเขาก็ยืนอยู่ติดพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว
.
.
.
ณ ร้านกาแฟแห่งนึง
ในที่สุดเขาก็ต้องมานั่งคุยกับผู้กองในร้านนี้จนได้ ร้านที่ผู้กองเคยมานั่งรอเขาทั้งคืน..
"ผู้กองมีอะไรหรือป่าวครับ?" คยูจิบกาแฟร้อนๆก่อนจะช้อนสายตามองขึ้นไปยังชีวอนที่ยังทำหน้าครุ่นคิด
"เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง"
"ครับ??" เมื่อคืนมีอะไรงั้นเหรอ....แต่แล้วขนอ่อนลุกซู่ทันทีเมื่อคยูนึกถึงฝันเมื่อคืน
"ผู้กองไปส่งผมหรอครับ..เมื่อวานนี้"
"ใช่"
"ละ..แล้วเป็นไงบ้างครับ ทุกอย่างปกติดีใช่มั้ย" คยูถามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
ผู้กองจะไปส่งเขาตอนเขาเป็นผู้ชายอยู่แน่ใช่ไหม ...เขากลัวจริงๆถ้าหากผู้กองเกิดเห็นตอนที่เขากลับเป็นผู้หญิงขึ้นมาเพียงชั่วพริบตา
"..ก็ปกตินี่ ..ทำไม นายคิดว่ายังไงหรอ"
"เปล่าครับเปล่า!" อยู่ๆร่างบางก็บอกปัดก่อนจะแอบถอนหายใจออกมา
เฮ้ออ ..ยังไม่รู้ความลับของเขาสินะ โล่งอก
"ไม่คิดจะบอกกันจริงๆใช่ไหม ...เรื่องเพศของนายน่ะ"
"!!!!"
"ตกลงว่าเป็นผู้ชายกลางวัน ผู้หญิงกลางคืน
อย่างงั้นใช่ไหม"
"..ผู้กอง"
"ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน"
"......."
"แต่ว่ามันเป็นความจริงสินะ ...สิ่งที่ฉันเห็นน่ะ"
นัยน์ตากลมขยายขึ้นไปอีกเมื่อได้สิ่งที่คนตรงหน้าพูดในไม่กี่วินาทีต่อมา....เห็นเลยหรอ
เห็นกับตาเลยหรอ...
โจวคยูฮยอน ...ตอนนี้เขาเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว
คนที่รู้เรื่องคำสาปนอกจากพ่อแม่ ก็มีพี่อีทึกคนเดียวเท่านั้น...
แต่ตอนนี้ ...จะต้องมีผู้ชายคนนี้มารู้ด้วยอีกคน ผู้ชายที่ชื่อ ชเว ชีวอน
...................................................
".........." ชเว ชีวอนถึงกับสตั๊นกับคำพูดของอีกคน
"แต่ว่าผู้กองครับ.."
"...................."
"เรื่องนี้น่ะ นอกจากพี่อีทึก มีแค่คุณนะครับที่รู้"
"............."
"เพราะงั้น..ช่วยเก็บความลับได้มั้ยครับ"
"บ้าหรอ..บอกไปใครจะเชื่อ"
"นั่นสินะครับ"
"..."
ทั้งสองคุยกันอยู่ในรถของผู้กองที่ตอนนี้กำลังพาเขาไปที่แมนชั่นของคยู ในที่สุดผู้กองก็รู้ความจริงจนได้
เขาว่ามันเหลือเชื่อมากจริงๆ ที่ทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นกับเกาหลีในค.ศ.นี้ คำสาป เวทมนต์อะไรนี่ เขาคิดว่าตลอดว่ามันเป็นของหลอกเด็ก ...เพราะเด็กหัวนอกอย่างชีวอนเชื่อในสิ่งที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบได้เท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น ก็กลับคิดเขินขึ้นมาเมื่อนึกว่าตอนนั้นตนคลั่งไคล้คโยฮยอนมากแค่ไหน
...เขาหลงให้ความสนใจมาตั้งนาน...หรือไหนจะตอนที่พูดถึงคยูตอนอยู่กับคโยอีก .....
นี่เขาพูดกับคนๆเดียวกันทั้งนั้น
เจ้าเด็กนี่คงหมดศรัทธาในตัวผู้กองคนนี่แล้วต้องคิดว่าเขาเป็นพวกผู้ชายบ้ากามพึ่งพาไม่ได้แน่ๆ แย่จริง!
ชีวอนบ่นกับตัวเองในใจก่อนจะพบว่าขับมาถึงหน้าแมนชั่นของคยูฮยอนแล้ว
"แล้วนายพักอยู่คนเดียวทั้งๆที่กลางคืนเป็นผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรอ" ชีวอนถามด้วยความสงสัยก่อนจะมองอีกคนที่ตอนนี้ยังคงเป็นเด็กผู้ชายอยู่
"ครับ ..แปลกตรงไหนครับ"
"ไม่กลัวบ้างรึไงห่ะ อย่างน้อยก็น่าจะมีคนคอยอยู่ด้วยเผื่อใครบุกเข้ามาจะทำยังไง" ผู้กองร่ายยาวอย่างกับคุณพ่อที่หวงลูกสาว คยูเอียงคอมองอีกคนด้วยเครื่องหมายคำถามที่แปะอยู่บนหน้า เขาบ่นอะไรของเขา
"ผมก็อยู่ของผมมาอย่างนี้ตั้งนานแล้วครับ อยู่คนเดียวแค่นี้สบายมากครับ"
"งั้นเหรอ.."
ร่างบางยิ่งขมวดคิ้วหนัก วันนี้ผู้กองดูพิลึกถึงจะพิลึกมาทุกวัน แต่วันนี้ดูแปลกสุด -..-
"จะขึ้นไปไหมล่ะครับ"
"ได้หรอ"
"ไม่ได้หรอกครับ ผมล้อเล่น"
"...."
"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" โค้งหัวให้เล็กน้อยก่อนมือเรียวจะกดปลดสายคาด
มือหนาคว้าข้อมือบางไว้ไม่ให้ออกจากรถ
"นี่ก็เย็นแล้วนะ"
"แล้วไงครับ"
"ถ้าเดินๆขึ้นไปแล้วเกิดเป็นผู้หญิงล่ะ"
"ใช่ว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้นนะครับ"
"แล้วถ้ามีคนเห็นล่ะจะทำยังไง"
"ผู้กองอยากจะบอกอะไรกันแน่ครับ"
"...." ร่างบางจ้องหาคำตอบจากอีกคน ดูเหมือนเขาจะงุ้งงิ้งกับเรื่องที่คยูแปลงร่างได้เหลือเกิน
"อยู่กับฉันในนี้ก่อน"
"..."
"นายต้องรับผิดชอบที่หลอกลวงฉันนะ"
"หลอกลวง...หรอครับ"
"ใช่ ทำฉันหัวปั่นเลยละ"
"ขนาดนั้นเลยหรอครับ" เขาสามารถทำให้ผู้กองหนุ่มคนนี้หัวปั่นได้เลยหรอเนี่ย
ยิ่งดวงตากลมมองหน้าหล่อๆของผู้กองคนนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ
ทำไมใจสั่นขนาดนี้้นะ
หรือจะกินกาแฟมากไป
มือหนายังคงกุมข้อมือบางไว้อยู่ ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
RRRRRRRRRRR RRRRRR
RRRRRRRRRR RRRRR
RRRRRRRRR RRRRRR
เสียงโทรศัพท์สั่นเรียกอยู่นาน ไม่ใช่สายของคยู แต่มันมาจากผู้กอง
...เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์รึไงนะ คยูฮยอนสงสัย ทั้งที่มันออกจะสั่นดังขนาดนี้
ผู้กองกลับเอาแต่มองเขาอยู่นั่น
เลิกมองซะทีได้มั้ย ....คยูฮยอนมุดหน้าลงทันทีเมื่อเห็นอีกคนกระตุกยิ้มให้
หล่อว่ะ U////U
"รับโทรศัพท์ซะทีเถอะครับ ปล่อยให้มันดังอยู่ได้" ข้อมือบางก็สลัดออกจากมือหนาตอนที่ผู้กองยอมกดรับโทรศัพท์ตามที่คยูบอก
"ฮัลโหลครับ"
((..))
"เข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะตามไป"
ผู้กองกดวางสายก่อนจะหันกลับมามองคยูด้วยท่าทางที่รีบร้อนขึ้นกว่าเดิม
"มีคดีที่บ้านคุณหญิงคิมเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้า เราต้องไปที่นั่นเดี๋ยวนี้"
"ครับ..แต่"
"มีอะไร"
ร่างบางมองท้องฟ้าผ่านกระจกรถก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
.
.
"พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วครับ"
TO BE CONTINUED..
มันก็แค่ฝันนจ้าา 555555555555555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น