ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : CURSE :นักสืบต้องคำสาป {WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #6 : CURSE : เวลา

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56


    CURSE

    5


    ความจริงมักยาวนาน

    .
    .









    ❤nc❤




    สงอาทิตย์ที่ลอดเข้ามาให้ห้องนอนของตนเอง คยูมองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างในห้องยังคงสภาพเดิมที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน ..ไม่มีอะไรผิดปกติ..ยกเว้นฝันนั่น

    "ฝันบ้าอะไรวะเนี่ย" พึมพำกับตัวเองก่อนจะรุดไปอาบน้ำ

    แต่เหมือนว่าที่เขาร้องไห้นั้นจะไม่ใช่แค่ความฝัน ..คราบน้ำตายังเปื้อนอยู่บนแก้มใส
    นี่เขากลัวผู้กองปล้ำขนาดนั้นเลยหรอ...

    ก็น่ากลัวอยู่หรอก


    คยูส่ายหัวสะบัดความคิดเกี่ยวกับฝันบ้าๆนั่นไป ก่อนจะแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาๆ ในวันหยุดแบบนี้ เขาออกไปเดินเที่ยวเล่นบ้างดีกว่า

    ขณะออกจากบ้าน อยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้เรื่องนึง..

    เขากลับมานอนที่นี่ได้ยัง


    ความทรงจำครั้งสุดท้ายคือเขาไปสืบคดีของดาราสาวที่บ้านพักตากอากาศ ผู้กองก็อยู่ด้วย
    ขากลับเดินลงเขาไปจากนั้น..เจองู ใช่!! เขาตกใจมากจริงๆ



    แต่ตกลงเขามาบ้านได้ยังไงเนี่ย

    คยูหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ฝันซ้อนฝัน หรืออาจจะกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว
    บ้าสิ..เจ็บจัง จะหยิกตัวเองทำไมวะเรา -_-

    ขายาวเรียวเดินออกไปนั่งรถบัสอย่างใจเย็น ไม่ได้รีบร้อนดั่งเช่นวันที่ผ่านๆมา..ก็นี่มันวันหยุด
    ร่างบางเดินผ่านร้านค้ามากมาย ทุกอย่างสวยงามละลานตาไปหมด..เขาเดาได้เลยว่าถ้าตอนนี้เป็นเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินล่ะก็เขาต้องช็อปแหลกแน่ ยัยคโยฮยอนคนนั้นต้องครอบงำจิตใจของเขาจนทรัพย์ในกระเป๋าคงได้ละลายไปกับเสื้อผ้าสวยๆรองเท้าแพงๆ

    ในที่สุด..ร่างบางก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านซ่อมนาฬิกา ..ใช่ วันนี้เขาไม่ได้มาเที่ยวเล่นไปเปล่าๆ ไหนๆก็ว่างแล้ว เอานาฬิกาข้อมือของตนมาซ่อมด้วยละกัน ช่วงนี้มันเดินยังไงของมันแปลกๆเวลาเพี้ยนไปหมดเขาจะกะเวลาเย็นๆไม่ได้เลย ต้องออกมาดูแสงข้างนอกถึงจะรู้เวลา..


    เวลาที่เขาจะต้องไปเป็นคโยฮยอน

    เอาจริงๆเขาก็เบื่อเหมือนกัน ไอ้คำสาปนี่ แต่จะให้ทำยังไง ใครจะช่วยเขาเรื่องนี้ได้


    โครมมมมมมมมมมม!!!!!!

    เสียงบางอย่างดังมาจากหลังประตูด้านในของร้านซ่อมนาฬิกาที่เขากำลังคุยกับพนักงานซ่อมหน้าร้านอยู่ พนักงานคนนั้นเมื่อได้ยินเสียงเช่นนั้นก็อุทานออกมาก่อนจะวิ่งเขาไปในหลังประตูนั่น

    "อ้าากกกกก" เสียงร้องเอะอะของชายที่เพิ่งเปิดประตูเข้าไปทำให้คยูฮยอนใจไม่ดีต้องวิ่งเข้าไปดูด้วย

    ชายสูงอายุนอนแผ่อยู่ บนอกข้างซ้ายมีเลือดไหลออกนองเต็มพื้น บันไดเหล็กล้มกองอยู่ข้างๆร่างนั้น
    ใครกันนะ อุกอาจมาฆ่าคนในเวลากลางวันเช่นนี้
    ชายที่คยูเพิ่งคุยด้วยก่อนหน้านี้ล้มพับกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
    "เดี๋ยวผมโทรเรียกตำรวจมาให้นะครับ" คยูเอ่ยก่อนจะควักมือถือออกมา เขารู้ว่ามันอาจจะดูไม่ดีนักที่เขาโทรเรียกตำรวจแทนที่จะเรียกรถพยาบาล ...แต่สภาพของคุณลุงที่นอนแผ่อยู่ตรงนั้น แม้แต่เด็กอนุบาลดูก็รู้ว่าคุณลุงคนนั้นน่ะ เสียชีวิตแล้ว..

    ระหว่างรอตำรวจมา คยูฮยอนก็พาชายซ่อมนาฬิกาออกมานั่งบนโซฟาที่ตั้งไว้ให้ลูกค้ารอซ่อมนาฬิกาอยู่หน้าร้านก่อนจะพูดคุยซักถามกัน
    "คือผมเป็นนักสืบที่กำลังทำงานให้ตำรวจอยู่นะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ...เราจะหาตัวร้ายได้แน่"
    "จริงเหรอครับ..เฮ้อ  คุณลุง.."
    "คุณกับคุณลุงเป็นอะไรกันเหรอครับ"
    "เขาเป็นคุณลุงที่มีพระคุณต่อผมมากครับ สำหรับผมแล้วเราไม่ใช่แค่นายจ้างลูกจ้างนะครับ เขาเคยช่วยเหลือผมเรื่องเงินมาครั้งนึงด้วย ไม่น่าอายุสั้นเลย.."
    ทั้งสองพูดคุยไปจนรู้ความ ผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกับคยูฮยอนคนนี้ชื่อ อีกวางซู เป็นชายสูงเหยียบ 190 cm. นั่นทำให้คยูต้องเงยหน้าคุยจนเมื่อยคอไม่น้อย แต่จากที่คุย เขามาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาให้คุณลุงได้สามปีกว่าแล้ว คุณลุงเองก็รักและคลั่งไคล้นาฬิกาโบราณเช่นเดียวกันเขา สองคนจึงเข้ากันได้ดี แต่ที่คยูฮยอนสงสัยก็คือคนพวกนี่จะมีใครปองร้ายถึงขนาดมาฆ่าแกงกันได้
    "ลองนึกอีกทีได้ไหมครับว่าพอจะมีใครที่ไม่ชอบใจคุณลุงคนนี้บ้าง"
    "คุณลุงเป็นคนใจดีมีแต่คนรักนะครับ .."

    จริงเหรอ ..แล้วทำไมมาถูกฆ่าแบบนี้ คยูมองเงยหน้ามองสายตาของอีกวางซูก่อนจะมองอย่างพิจารณาว่าคนๆนี้กำลังพูดจริงหรือพูดโกหกกันแน่

    แต่ก็มองไม่ออก เมื่อเสียงไซเรนรถตำรวจดังเข้ามาทั้งสองเลิกคุยกันชั่วคราวแล้วเดินออกไปมองหาตำรวจ
    คราวนี้มีผู้กองชีวอนที่คยูคุ้นเคยเดินนำขบวนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆมา ดูเท่ห์ราวกับเป็นภาพที่อยู่บนจอหนัง
    "สวัสดีครับ พวกเราเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตกังนัม ทางเราได้รับแจ้งมาจากท่านนึงว่า.." ผู้กองหน้ายาวตะเบะท่าพูดพร้อมยืดอกผายก่อนจะเงียบลงเมื่อหันมาเห็น ..คยูฮยอน
    คยูฮยอนกลั้นขำอยู่ข้างๆกวางซู เขากำลังตลกท่าทางของผู้กองที่ดูเหวอๆเอ๋อๆกว่าทุกวัน
    "ผมโทรไปเองแหละครับ ศพอยู่ทางนี้ครับผู้กอง" ร่างบางพูดเสร็จก็เดินนำเหล่าตำรวจเข้าไปในหลังร้าน
    ด้านหลังของร้านซ่อมนาฬิกานั่นเป็นช่องทางเดินแคบๆ มีช่องเก็บของที่เหมือนตู้เอกสารใหญ่ๆที่คาดว่าใช้เก็บพวกอะไหล่สำรองสำหรับการซ่อมนาฬิกาหลายชนิดหลายรูปแบบเรียงกันเป็นชั้นสูงๆ และบันไดเหล็กแบบพับเก็บได้ที่เขาพบว่ามันนอนกองอยู่กับผู้ตายนี้คงมีไว้ใช้ปีนขึ้นไปหาของที่อยู่ในช่องเก็บของสูงๆ
    "เกิดเหตุกี่โมงครับ" ผู้กองเอ่ยถามขณะขมวดคิ้วเข้ม
    "เกือบเที่ยงครับ"
    ผู้กองมองหน้าคนตอบก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักแล้วโน้มหน้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูอีกคน
    "คยูเดี๋ยวเสร็จจากนี้ฉันขอคุยด้วยแปปนึงนะ"
    "ครับ? " ร่างบางส่งเสียงสงสัย ก่อนจะเห็นสายตาของกวางซูและเหล่าตำรวจคนอื่นๆจับจ้องมาที่เขากับผู้กอง
    "งั้นตอนนี้ก็ช่วยคิดเรื่องคดีนี่ก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น" ร่างบางตอบกลับอีกคนด้วยเสียงกระซิบเช่นเดียวกัน ทั้งสองผละหน้าออกจากกันเมื่อรู้สึกว่าคนอื่นกำลังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
    ทั้งสองเดินหน้าสืบสวนคดีนี้ต่อด้วยการเดินไปถามคนในร้านข้างๆ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พบใครที่น่าสงสัยเลย
    ส่วนคยูฮยอนก็กำลังคิด ...คิดว่าคนร้ายจะหนีออกไปทางไหนโดยที่พวกเราไม่รู้บ้าง
    ด้านหลังร้าน นอกจากมีชั้นเก็บของทางเดินแคบๆ บันไดเหล็กพับเก็บได้ ...ก็ไม่มีที่ไหนพอจะเป็นทางออกไปได้เลย
    ประตูก็ไม่มี มีแค่ประตูที่เชื่อมไปหน้าร้านซึ่งเขากับกวางซูอยู่ในร้านตลอดเวลา ไม่มีทางที่คนร้ายฆ่าเหยื่อเสร็จจะออกมาเดินเป็นปกติ ...แล้วไหนจะเสียงดังโครมนั่นอีก
    "ว่าแต่ทำไมวันนี้นายถึงมาอยู่ที่นี่ได้" ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยกับคำถามของผู้กองที่โผล่มาจากด้านหลัง
    "ผมมาซ่อมนาฬิกาครับ"
    "เหมือนโคนันเลยนะนายเนี่ย ..ไปไหนก็มีแต่คนตาย"
    "..ผมไม่ได้เป็นตัวซวยขนาดนั้น"
    "เอ่อ ฉันพูดเล่นเองๆ" ผู้กองเลิ่กลั่กทันทีเมื่อเห็นอีกคนนิ่วหน้าไม่พอใจ กะจะคุยเล่นด้วยเฉยเท่านั้นเอง..โธ่ ไม่น่าเลยเรา
    "ช่างมันเถอะครับ ผมอาจจะเป็นตัวซวยจริงๆก็ได้" คยูกลับคำก่อนจะเดินหนีไปยังหลังร้านเพื่อพิจารณาอีกครั้ง..

    คนร้ายออกจากที่นี่ได้ยังไง

    ทว่าระหว่างนั้นเขาก็เงยหน้ามองเห็นช่องแอร์ที่อยู่ข้างบน...รึว่า!!

    "คนร้ายต้องยังอยู่ที่นี่แหละ" คยูฮยอนพูดกับตัวเองก่อนจะจับบันไดมาตั้งไว้แล้วปีนขึ้นไปจนถึงขั้นที่สูงสุด
    "เฮ้ยย คยู ลงมา!" ผู้กองที่ตามมาทีหลังรีบร้องห้าม แต่ก็ไม่ได้เรียกความสนใจจากร่างบางได้ เขาเอื้อมไปจับแผ่นลวดเหล็กก่อนจะพบว่ามันหลุดติดมือเขาออกมาอย่างง่ายดายราวกับมีคนเคยมาใช้งานก่อนแล้ว

    ถูกอย่างที่เขาคิด คนร้ายหนีออกไปทางนี้ ก่อนจะผลักบันไดเพื่อไม่ให้ตำรวจรู้ว่าเขาสามารถขึ้นมาทางนี้ได้
    ผู้กองที่เห็นคยูดึงแผ่นปิดช่องแอร์ก็วอเรียกเพื่อนตำรวจให้มาดูก่อนจะดำเนินการตามหาตัวคนร้าย
    "ลงมาได้แล้ว"
    "อ่า..ครับ" ร่างบางค่อยๆวางแผ่นลวดมุ้งครอบไว้ที่ช่องแอร์ดังเดิมก่อนจะค่อยๆสาวเท้าลงบันไดมาทีละขั้น ..


    ทำไมตอนขึ้นขามันไม่สั่นแบบนี้นะ อยู่ๆคยูฮยอนก็รู้สึกกลัวความสูงขึ้นมาเสียดื้อๆ

    ขาสั่นเสียจนก้าวต่อลงไม่ไหวแต่ทว่ากลับถูกแขนแกร่งโอบเอวแล้วดึงร่างเขาลงมา

    รู้ตัวอีกทีเขาก็ยืนอยู่ติดพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว
    .

    .


    .



    ณ ร้านกาแฟแห่งนึง

    ในที่สุดเขาก็ต้องมานั่งคุยกับผู้กองในร้านนี้จนได้ ร้านที่ผู้กองเคยมานั่งรอเขาทั้งคืน..
    "ผู้กองมีอะไรหรือป่าวครับ?" คยูจิบกาแฟร้อนๆก่อนจะช้อนสายตามองขึ้นไปยังชีวอนที่ยังทำหน้าครุ่นคิด
    "เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง"
    "ครับ??" เมื่อคืนมีอะไรงั้นเหรอ....แต่แล้วขนอ่อนลุกซู่ทันทีเมื่อคยูนึกถึงฝันเมื่อคืน
     
    "ผู้กองไปส่งผมหรอครับ..เมื่อวานนี้"
    "ใช่"
    "ละ..แล้วเป็นไงบ้างครับ ทุกอย่างปกติดีใช่มั้ย" คยูถามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

    ผู้กองจะไปส่งเขาตอนเขาเป็นผู้ชายอยู่แน่ใช่ไหม ...เขากลัวจริงๆถ้าหากผู้กองเกิดเห็นตอนที่เขากลับเป็นผู้หญิงขึ้นมาเพียงชั่วพริบตา
    "..ก็ปกตินี่ ..ทำไม นายคิดว่ายังไงหรอ"
    "เปล่าครับเปล่า!" อยู่ๆร่างบางก็บอกปัดก่อนจะแอบถอนหายใจออกมา





    เฮ้ออ ..ยังไม่รู้ความลับของเขาสินะ โล่งอก






    "ไม่คิดจะบอกกันจริงๆใช่ไหม ...เรื่องเพศของนายน่ะ"
    "!!!!"


    "ตกลงว่าเป็นผู้ชายกลางวัน ผู้หญิงกลางคืน

    อย่างงั้นใช่ไหม"




    "..ผู้กอง"

    "ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน"
    "......."
    "แต่ว่ามันเป็นความจริงสินะ ...สิ่งที่ฉันเห็นน่ะ"
    นัยน์ตากลมขยายขึ้นไปอีกเมื่อได้สิ่งที่คนตรงหน้าพูดในไม่กี่วินาทีต่อมา....เห็นเลยหรอ



    เห็นกับตาเลยหรอ...



    โจวคยูฮยอน ...ตอนนี้เขาเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว


    คนที่รู้เรื่องคำสาปนอกจากพ่อแม่ ก็มีพี่อีทึกคนเดียวเท่านั้น...




    แต่ตอนนี้ ...จะต้องมีผู้ชายคนนี้มารู้ด้วยอีกคน ผู้ชายที่ชื่อ ชเว ชีวอน









    ...................................................
    "ครับ ผมคงไม่ได้เล่นมายากลให้ผู้กองดูหรอก"
    ".........." ชเว ชีวอนถึงกับสตั๊นกับคำพูดของอีกคน
    "แต่ว่าผู้กองครับ.."
    "...................."
    "เรื่องนี้น่ะ นอกจากพี่อีทึก มีแค่คุณนะครับที่รู้"
    "............."
    "เพราะงั้น..ช่วยเก็บความลับได้มั้ยครับ"
    "บ้าหรอ..บอกไปใครจะเชื่อ"
    "นั่นสินะครับ"
    "..."

    ทั้งสองคุยกันอยู่ในรถของผู้กองที่ตอนนี้กำลังพาเขาไปที่แมนชั่นของคยู ในที่สุดผู้กองก็รู้ความจริงจนได้
    เขาว่ามันเหลือเชื่อมากจริงๆ ที่ทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นกับเกาหลีในค.ศ.นี้ คำสาป เวทมนต์อะไรนี่ เขาคิดว่าตลอดว่ามันเป็นของหลอกเด็ก ...เพราะเด็กหัวนอกอย่างชีวอนเชื่อในสิ่งที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบได้เท่านั้น


    แต่ถึงอย่างนั้น ก็กลับคิดเขินขึ้นมาเมื่อนึกว่าตอนนั้นตนคลั่งไคล้คโยฮยอนมากแค่ไหน

    ...เขาหลงให้ความสนใจมาตั้งนาน...หรือไหนจะตอนที่พูดถึงคยูตอนอยู่กับคโยอีก .....




    นี่เขาพูดกับคนๆเดียวกันทั้งนั้น



    เจ้าเด็กนี่คงหมดศรัทธาในตัวผู้กองคนนี่แล้วต้องคิดว่าเขาเป็นพวกผู้ชายบ้ากามพึ่งพาไม่ได้แน่ๆ แย่จริง!

    ชีวอนบ่นกับตัวเองในใจก่อนจะพบว่าขับมาถึงหน้าแมนชั่นของคยูฮยอนแล้ว

    "แล้วนายพักอยู่คนเดียวทั้งๆที่กลางคืนเป็นผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรอ" ชีวอนถามด้วยความสงสัยก่อนจะมองอีกคนที่ตอนนี้ยังคงเป็นเด็กผู้ชายอยู่
    "ครับ ..แปลกตรงไหนครับ"
    "ไม่กลัวบ้างรึไงห่ะ อย่างน้อยก็น่าจะมีคนคอยอยู่ด้วยเผื่อใครบุกเข้ามาจะทำยังไง" ผู้กองร่ายยาวอย่างกับคุณพ่อที่หวงลูกสาว คยูเอียงคอมองอีกคนด้วยเครื่องหมายคำถามที่แปะอยู่บนหน้า เขาบ่นอะไรของเขา

    "ผมก็อยู่ของผมมาอย่างนี้ตั้งนานแล้วครับ อยู่คนเดียวแค่นี้สบายมากครับ"
    "งั้นเหรอ.."
    ร่างบางยิ่งขมวดคิ้วหนัก วันนี้ผู้กองดูพิลึกถึงจะพิลึกมาทุกวัน แต่วันนี้ดูแปลกสุด -..-
    "จะขึ้นไปไหมล่ะครับ"
    "ได้หรอ"
    "ไม่ได้หรอกครับ ผมล้อเล่น"
    "...."
    "ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" โค้งหัวให้เล็กน้อยก่อนมือเรียวจะกดปลดสายคาด

    มือหนาคว้าข้อมือบางไว้ไม่ให้ออกจากรถ
    "นี่ก็เย็นแล้วนะ"
    "แล้วไงครับ"
    "ถ้าเดินๆขึ้นไปแล้วเกิดเป็นผู้หญิงล่ะ"
    "ใช่ว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้นนะครับ"
    "แล้วถ้ามีคนเห็นล่ะจะทำยังไง"
    "ผู้กองอยากจะบอกอะไรกันแน่ครับ"
    "...." ร่างบางจ้องหาคำตอบจากอีกคน ดูเหมือนเขาจะงุ้งงิ้งกับเรื่องที่คยูแปลงร่างได้เหลือเกิน





    "อยู่กับฉันในนี้ก่อน"
    "..."
    "นายต้องรับผิดชอบที่หลอกลวงฉันนะ"
    "หลอกลวง...หรอครับ"
    "ใช่ ทำฉันหัวปั่นเลยละ"
    "ขนาดนั้นเลยหรอครับ" เขาสามารถทำให้ผู้กองหนุ่มคนนี้หัวปั่นได้เลยหรอเนี่ย

    ยิ่งดวงตากลมมองหน้าหล่อๆของผู้กองคนนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ


    ทำไมใจสั่นขนาดนี้้นะ



    หรือจะกินกาแฟมากไป


    มือหนายังคงกุมข้อมือบางไว้อยู่ ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


    RRRRRRRRRRR RRRRRR

    RRRRRRRRRR RRRRR

    RRRRRRRRR RRRRRR



    เสียงโทรศัพท์สั่นเรียกอยู่นาน ไม่ใช่สายของคยู แต่มันมาจากผู้กอง

    ...เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์รึไงนะ คยูฮยอนสงสัย ทั้งที่มันออกจะสั่นดังขนาดนี้


    ผู้กองกลับเอาแต่มองเขาอยู่นั่น


    เลิกมองซะทีได้มั้ย ....คยูฮยอนมุดหน้าลงทันทีเมื่อเห็นอีกคนกระตุกยิ้มให้


    หล่อว่ะ U////U
    "รับโทรศัพท์ซะทีเถอะครับ ปล่อยให้มันดังอยู่ได้" ข้อมือบางก็สลัดออกจากมือหนาตอนที่ผู้กองยอมกดรับโทรศัพท์ตามที่คยูบอก

    "ฮัลโหลครับ"

    ((..))

    "เข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะตามไป"




    ผู้กองกดวางสายก่อนจะหันกลับมามองคยูด้วยท่าทางที่รีบร้อนขึ้นกว่าเดิม
    "มีคดีที่บ้านคุณหญิงคิมเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้า เราต้องไปที่นั่นเดี๋ยวนี้"
    "ครับ..แต่"
    "มีอะไร"

    ร่างบางมองท้องฟ้าผ่านกระจกรถก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ




    .


    .



    "พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วครับ"





    TO BE CONTINUED..

    มันก็แค่ฝันนจ้าา 555555555555555555

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×