ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : CURSE :นักสืบต้องคำสาป {WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #5 : CURSE : หลักฐาน

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56



     c u r s e


    4

    ไม่สามารถอำพรางความงาม


     







    ชายร่างสูงพาตัวเองลงจากรถออดี้คันโปรดมายังที่ทำงานของตน สถานีตำรวจกังนัม
    ในเช้าวันจันทร์แบบนี้ ค่อยข้างที่จะง่วง แต่เพราะคำว่าผู้กองที่ใครๆเรียกกันอย่างเคารพนับถือ(?) เขาจึงต้องทำตัวให้เป็นที่น่าเชื่อถือกับเพื่อนร่วมงาน .....


    ทันทีที่ผู้กองก้าวเข้าไปในโรงพัก เหล่าเพื่อนตำรวจทั้งในยศตำแหน่งที่สูงกว่าที่ต่ำกว่าต่างก็ยิ้มทักทายให้เป็นมารยาทปกติ


    "อ้าว ผู้กองชีวอน ไหงมาซะเช้าเลยล่ะครับ"
    "เอ่อ..แหะๆ" ไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป เพราะรู้สึกเหมือนถูกจิกกัดอยู่เลย ..หมายว่าไง คนอย่างเขาจะทำงานเช้าๆบ้างไม่ได้หรอ..



    ตามจริง มันก็ถูกอย่างที่ผู้กองคังอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกคดีคนหายได้กล่าวมานั่นแหละ ผู้กองชีวอนน่ะเหรอจะมาเข้าทำงานเช้า..

    "เอ่อ ผู้กอง ผมเห็นเด็กผู้หญิงผมสั้นๆที่ไหนไม่รู้มาหาน่ะ" ผู้กองคังอินบอกกับชีวอนก่อนจะเดินไปยังแผนกของตน






    เด็กผู้หญิงหรอ...

    ร่างสูงเดินพาตัวเองเข้าไปผ่านแผนกต่างๆในโรงพัก ตั้งแต่จุดรับแจ้งเรื่อง จนไปถึงแผนกของเขาเอง


    ...แผนกสืบสวนสอบสวน
    ชีวอนกวาดสายตาเพื่อมองหาเด็กผู้หญิงผมสั้นที่เขาสงสัย...ว่าเป็นใคร




    แต่ก็ไม่พบ... เจอแต่เพียงเด็กผู้ชายที่มานั่งตาแบ๊วมองเขาอยู่ตรงนี้
    โจว คยูฮยอน ....


    มองๆไปก็เหมือนเด็กผู้หญิงได้อยู่แหะ อาจจะเพราะวันนี้ใส่คาร์ดิแกนสีหวานมาละมั้ง


    คนไม่มีเซ้นส์อย่างผู้กองคังอินถึงได้เข้าใจผิด 5555555555









    .


    .


    ตาใสนั่งเงยหน้ามองผู้มาใหม่ ก่อนจะเอียงคอสงสัยว่าผู้กองกำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อยอะไร
    "เป็นไรครับผู้กอง"
    " ป่าวๆ" ผู้กองยังคงกลั้นขำอยู่ ..คยูเป็นเด็กผู้หญิงหรอ พี่คังอินนี่บ้าจริงๆ


    "เอ้อ มาก็ดีละ ตามผมมาสิ"
    ".."

    คนตัวใหญ่เดินนำออกมาถึงหน้าสถานีก่อนจะเดินตรงไปที่จอดรถของตน
    "เข้าไปนั่งก่อนสิ" ร่างบางก้มหัวเข้าไปนั่งก่อนที่จะปล่อยให้ชีวอนปิดประตูให้เขาแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถอีกฝั่ง

    .
    "เราจะไปไหนกันหรอครับ?"
    "อ้าว..นี่ยังไม่รู้หรอ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ดูข่าวมาก่อนหรือไง นักแสดงหญิงที่ชื่อ ฮัน ยอนจี เธอถูกฆาตรกรรมที่บ้านพักตากอากาศของเธอที่เขาซ็อกโชนี่เอง"
    "...ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย" ชีวิตอยู่แต่กับเกมแล้วก็การสืบคดี พวกข่าวนี่เขาไม่ค่อยได้รับรู้ก่อนชาวบ้านหรอก

    "งั้นที่มาฉันนี่มีอะไรล่ะ นึกว่ามาเพราะเรื่องนี้ซะอีก"
    "..อ่อ มาหาเพราะไอ่นี่ไงครับ" ว่าแล้วคยูก็ยื่นไอโฟนไปให้คนที่กำลังประคองพวงมาลัยอยู่เหลือบมามอง


    'คยูฮยอน..นอนรึยัง ออกมาเจอกันหน่อยสิ ฉันกำลังจะไปร้านกาแฟที่เราเคยไปกัน '


    "อะ..อ่อ เพราะไอข้อความนี้เองหรอ"
    "ครับ โทษนะครับ พอดีเพิ่งเปิดอ่านเมื่อเช้านี่เอง ...เมื่อคืนมีเรื่องอะไรหรอครับ?"
    "...ฮ่ะๆ เปล่าๆ พอดีฉันแค่ว่างๆไม่มีอะไรทำ"


    -_-'


    .


    .



    "อีกอย่าง ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันเองไปที่นั่นแปปเดียวก็กลับแล้ว"






    ผู้กองโกหก ....คยูคิดอย่างนั้นทันที เพราะอะไรน่ะหรอ



    .


    .


    "พี่ทึกครับ จอดตรงนี้แหละครับ"
    "อ้าว ทำไมล่ะ"
    "ผมนึกได้ว่ามีธุระด่วนจี๋เลยครับ"

    ร่างบางเปิดประตูรถออกก่อนจะเรียกแท็กซี่ไปยังร้านที่ชีวอนส่งข้อความมานัดหมาย
    คยูฮยอนได้แต่ยืนหลบมองอยู่ในระยะที่ไม่ไกลสายตามาก .....คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าจะหาวิธี เข้าไปหาอีกคนได้ยังไง
    เข้าไปแล้วจะอ้างว่ายังไงนะ..ในร่างที่เป็นคโยฮยอนแบบนี้
    .
    .
    ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง




    สองชั่วโมง






    จน...สามชั่วโมงก็แล้ว


    ตาผู้กองยังนั่งอยู่ในร้านไม่ยอมไปไหนเลย กาแฟที่สั่งก็กินหมดไปตั้งแต่ชั่วโมงก่อนละ
    ...มีเรื่องสำคัญอะไรนะ

    .
    .

    .
    นั่นแหละน่ะ คือสาเหตุที่คยูรู้ทันทีว่าผู้กองนี่โกหก เพราะเขาเองก็ไปยืนดูจนกว่าเด็กในร้านกาแฟจะไล่ผู้กองออกจากร้านไปนั่นแหละ ถึงอย่างงั้น..จะโกหกแบบนี้ไปเพื่ออะไร ...คยูได้แต่ค้างคา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้คนตัวใหญ่ขับรถไปจนถึงตีนเขาของซ็อกโช

    ภูเขาน้อยใหญ่สลับกันไป รอบข้างเต็มไปด้วยป่าเขียวชะอุ่มทั้งสองข้างทาง .
    ...ช่างคงธรรมชาติไว้ได้ดี
    "ลงเถอะ เดี๋ยวเราต้องเดินไปต่อ" ผู้กองหนุ่มเอ่ยก่อนจะลงมาจากรถ เส้นทางเล็กๆที่คดเคี้ยวไปมาทำให้คยูถึงกับทำหน้าเซ็ง เอารถเข้าไปไม่ได้สินะ

    เดินไปหอบไปจนมาถึงที่เกิดเหตุจนได้

    บ้านพักตากอากาศของดาราสาว ....ดูดีไม่น้อยเลย

    ทั้งสองเดินข้ามแถบสีเหลืองที่กั้นอยู่รอบบ้านพักก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านผ่านระเบียงทางเดิน รอบข้างเป็นห้องน้ำ ห้องนอน ก่อนจะไปถึงโถงห้องนั่งเล่น เจ้าพนักงานที่มาถึงก่อนนานแล้วก็กวักมือเรียกทั้งคู่เข้าไปยังห้องน้ำที่อยู่ติดกับระเบียงทางเดิน

    ห้องน้ำนี้พอก้าวเท้าเข้าไปแล้วดูใหญ่กว่าที่คิดมาก เป็นห้องเรียบๆ ที่อ่างล่างหน้า กระจกบานเล็ก ชักโครกที่อยู่ติดกัน นอกนั้นก็เป็นอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ...ก็ถือเป็นห้องน้ำเรียบๆทั่วไปที่มีพื้นที่กว้าง

    สิ่งที่สะดุดตา แน่นอนว่าคือศพของผู้เคราะห์ร้าย นักแสดงหญิงชื่อดัง ฮัน ยอนจี สภาพของเธอไม่น่าพิศมัยเท่าใดนัก เพราะเธออยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เธอนอนหงายอยู่ข้างอ่างอาบน้ำดวงตายังคงเปิดค้างเหมือนตื่นกลัวบางอย่าง...

    แต่ทำไมนะ...มันมีบางอย่างที่แปลกๆ


    เกี่ยวกับการตายของผู้หญิงคนนี้


    "เธอถูกฆ่าตายที่นี่หรอ" ผู้กองเอ่ยอย่างเคร่งขรึมก่อนจะหันไปมองรอบๆห้อง
    "..ผู้กองคิดว่างั้นเหรอครับ เธอจะถูกฆ่าห้องน้ำจริงๆเหรอครับ"
    "หืม...ทำไมเหรอ นายคิดว่ายังไงละ คนร้ายบุกเข้ามาฆ่าเธอตอนที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ"
    "ผู้กองลองมองศพของเหยื่อดีๆสิครับ ...เธอยังมีเครื่องสำอางค์ติดอยู่บนหน้าอยู่เลย ผิดวิสัยของคนที่กำลังอาบน้ำอยู่นะครับ"
    คยูเอ่ยก่อนจะหันไปมองปฏิกิริยาของผู้กองก่อนจะพบว่าเขานั้นเอาแต่เหม่อมองบนเพดานที หันไปมองซ้ายที ขวาที จนในที่สุดก็หันกลับมาเจอสายตาขี้สงสัยคยูฮยอน
    "เป็นอะไรไปครับผู้กอง"
    "เอ่อ...นี่คุณจะให้ผมมอง..


    ผู้หญิงเปลือยเปล่าแบบนี้น่ะเหรอ..มัน

    ยังไงๆอยู่นะ"

    ผู้กองเกาหูตัวเองก่อนจะก้มหน้ามุดดิน ...เอิ่ม ผู้กอง นี่มันศพน่ะครับ
    คยูฮยอนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันไปพิจารณาผู้ตายอีกครั้ง ....จะว่าไปทรวดทรงของดาราสาวคนนี้...





    สู้เขาไม่ได้เลยซักนิด :P


    50%


    นี่เขากำลังคิดแบบนี้กับผู้เคราะห์ร้ายได้ยังไงกัน
    คยูส่ายหัวสะบัดความคิดบ้าๆบอๆของตนก่อนจะพิจารณาศพอีกครั้ง

    ไร้ร่องรอยบาดแผลใดๆ
    "เอ่อ ...นายจะยืนมองอีกนานไหมเนี่ย ถ้านานฉันขอไปสำรวจรอบๆก่อนนะ"
    ผู้กองที่ดูเลิ่กลั่กก็หลุดออกจากห้องน้ำไปทิ้งให้คยูฮยอนอยู่กับเจ้าพนักงานที่สองสามคน
    "เธอเสียชีวิตเพราะอะไรหรอครับ" คยูฮยอนหันไปพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินๆอยู่แถวนั้น ก่อนจะได้รับคำตอบมาว่า จากการชันสูตรพลิกศพ พบว่าดาราสาวท่านนี้เสียชีวิตจากการช็อคเพราะขาดอากาศหายใจ เวลาที่เสียชีวิตประมาณเที่ยงคืนเศษๆ
    "แล้วลองไปสอบถามชาวบ้านแถวนี้รึยังครับ"
    "ยังครับ แต่ว่าแถวนี้น่ะไม่มีคนอาศัยอยู่หรอกครับ มีก็แต่คุณลุงที่เป็นคนดูแลบ้านพักต่างอากาศหลังนี้เวลาที่ไม่มีใครมาอาศัยอยู่น่ะครับ"
    "แล้วเราจะพบเขาได้ที่ไหนครับเนี่ย"


    คยูฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะมองหาตัวผู้กอง ....
    "มานี่หน่อยครับ" ร่างบางกวักมือเรียกอีกคนที่กำลังมองดูโซฟาที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่น ผู้กองหันมาเจออีกคนก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา

    "มีอะไรหรอ"

    "ผมว่าเราไปสอบปากคำคนแถวนี้กันเถอะครับ"

    "อื้ม ไปสิ"
    ทั้งสองเดินออกมาจุดเกิดเหตุได้ไม่ไกล โดยมีคยูเดินนำไปตามคำบอกของเจ้าหน้าที่คนเมื้อกี้
    บ้านหลังนี้แหละ
    บ้านที่ดูเป็นแค่กระต๊อบเสียมากกว่า ผู้กองเดินก้าวขึ้นไปก่อนจะเคาะประตูเรียก


    "มีใครอยู่ไหมคร้าบบบ"


    เงียบไปหลายนาทีก่อนที่ประตูจะเปิดแง้มออกมานิดเดียวทำให้เห็นแค่ลูกตาข้างนึงของชายแก่ข้างในนั่น

    "ผมชเวชีวอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.เขตกังนัมครับ" หลังจากเจ้าของบัตรยื่นบัตรตำรวจออกมาแสดงตัวตนให้คนที่อยู่หลังประตู ชายสูงอายุก็เปิดประตูออกจนสุด
    "คุณตำรวจมีธุระอะไรกับผมหรอครับ"

    "คุณฮัน ยอนจีเสียชีวิตแล้วครับคุณลุง ผมจึงอยากจะขอสอบปากคำเล็กๆน้อยๆ กรุณาให้ความร่วมมือด้วยนะครับ"
    ผู้กองว่าไปโดยไม่ลืมที่จะโค้งหัวให้อย่างสุภาพ แต่เหมือนคุณลุงคนนี้จะยังช็อคค้างกับคำพูดเมื่อกี้

    "คุณหนู.... ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับคุณตำรวจ"

    "เมื่อคืนนี้เองครับ ผมเสียใจด้วยครับ"


    ทั้งสองเดินเข้าไปในกระต๊อบหลังนั้นโดยมีเจ้าบ้านอย่างคุณลุงเดินประกบหลังไป สามคนนั่งลงบนโซฟาที่อยู่กลางห้องก่อนที่ผู้กองจะเริ่มการสอบถามทั่วๆไป

    "ปกติคุณยอนจีเขามาที่นี่บ่อยรึป่าวครับ"

    "ไม่ครับ คุณหนูจะมาเฉพาะหน้าร้อนของทุกปีครับ"

    "แล้วปกติเธอมาคนเดียวหรือเปล่าครับ"

    "ครับ
    จริงๆแล้วก็มีบางปีที่คุณหนูเดินทางมาพักผ่อนคนเดียว บางครั้งก็พาเพื่อนๆของท่านมาด้วยครับ"

    ".." ผู้กองฟังไปก็จดยิกๆบนสมุดเลมเล็กๆของตัวเอง


    "แต่ปีนี้เธอพาผู้ชายมาด้วยครับ"

    สิ้นสุดประโยคหลังของคุณลุงผู้ภักดีต่อดาราสาว คยูฮยอนและชีวอนก็หันมามองตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย







    ...เจอผู้ต้องสงสัยซะแล้วสิ




    ทั้งสองตัดสินใจเดินลงเขาเพื่อขึ้นรถก่อนจะมุ่งหน้าไปหาผู้ต้องสงสัย
    ...คิม กังซอค FD รายการเกมส์โชว์ชื่อดัง
    ขายาวของทั้งคู่ก้าวไปอย่างรีบร้อนเพื่อที่จะขึ้นไปยังตึกของบริษัทรายการทีวีที่คุณกังซอคคนนี้ทำงานอยู่
    เมื่อมาถึงก็ได้เจอกับเขาพอดีชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาอยู่ในเกณฑ์ดี เสื้อผ้าดูมีรสนิยม เพียงเท่านี้ก็คงเรียกความสนใจจากสาวๆได้ไม่น้อย

    ..ดูเหมือนจะมีสาวมาติดเพียบซะด้วยซ้ำ แต่คุณสมบัติเพียงเท่านี้น่ะหรอที่ทำให้ดาราสาวที่มีอันจะกินอย่างคุณยอนจีสนใจ

    ผู้กองเข้าไปแนะนำตัวแบบเดียวกันที่พูดกับคุณลุงก่อนหน้านี้ ผู้ต้องสงสัยยิ้มพยักหน้าก่อนจะเชิญคยูและชีวอนลงไปคุยกันในร้านกาแฟที่อยู่ชั้นล่างของตึก





    "พวกคุณสงสัยผมกันหรอครับเนี่ย"

    "ป่าวนะครับ เราเพียงแค่มาถามข้อมูลจากคุณอย่างที่ถามคนอื่นๆเท่านั้นเอง"

    "แล้วคุณล่ะครับคนสวย สงสัยผมด้วยรึเปล่า"

    "หืม? ผมหรอ"

    คยูที่นั่งฟังอยู่เพลินๆก็สะดุ้งตัวเล็กน้อยพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
    ..คนสวยหรอ -*- บ้ารึป่าววะ คยูมองชายตรงหน้าที่ดูเหมือนพวกเพลย์บอยซะเหลือ เขากำลังจ้องมองคยูราวกับจะกลืนกินเขาไปได้ทั้งตัว ...โอ้ยยย ขนลุก เกิดมายังไม่เคยเจอผู้ชายที่ส่งสายตาลวนลามเขาในเวลากลางวันแสกๆอย่างนี้เลย หยึยยยย

    "เอ่อ ผมเป็นผู้ชายนะครับ เอ่อเรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ ผมอยากทราบว่าคุณไปพักผ่อนกับคุณฮันยอนจีที่บ้านพักตากอากาศของเธอใช่ไหมครับ"

    "ผมไปจริงครับ แต่ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอจริงๆนะ" เรื่องนั้นเห็นจะเชื่อได้ยาก ตาเพลย์บอยนั่นยังไม่เลิกเท้าคางมองคยูฮยอนด้วยสายตาแปลกๆจนคยูต้องนั่งหลังติดกับพนักเก้าอี้

    "อะแฮ่มๆ ขอประทานโทษนะครับ" ผู้กองที่นั่งมองเหตุการอยู่นานก็ขัดขึ้นมา

    "ว่าไงครับ" FD เพลย์บอยตอบไปโดยไม่ได้เหลือบไปมองผู้กองเลยแม้แต่น้อย

    "ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าคุณกับคุณยอนจีมีความสัมพันธ์กันแบบไหน"

    "เพื่อนกันครับ เธอเป็นพิธีกรประจำให้รายการของผมก็เท่านั้น พอสองวันก่อนเธอชวนผมไปบ้านพักตากอากาศของเธอ ผมก็เลยตอบตกลงไป"

    "ถ้างั้นเมื่อวานตอนประมาณเที่ยงคืน คุณอยู่ที่ไหนหรอครับ"
    คยูเห็นมาหมอนี่เอาแต่มองเขาก็เลยลองถามเองบ้าง

    "หืมมม คุณตำรวจสงสัยผมจริงๆสินะ"
    ไม่ได้เป็นตำรวจเว้ย..คยูคิดก่อนจะสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนข้อมือของคนที่ยังเอามือมายันคางตัวเองมองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วก็อมยิ้มก่อนจะพูดต่อ

    "เวลานั้นหรอครับ ...ผมคงกำลังขับรถกลับบ้านมั้งครับ

    ผมออกมาจากบ้านพักนั่นตั้งแต่เย็นแล้วล่ะ

    กลับเองคนเดียวด้วย คงจะหาพยานมายืนยันไม่ได้หรอก"

    "ถ้างั้นคุณคิดว่าใครเป็นคนร้ายครับ?!!!!!!" จู่ๆผู้กองก็เอามือทุบโต๊ะเสียงดังจนตา FD โรคจิตนั่นต้องเลิกทำสายตาลวนลามใส่คยูแล้วหันมามองผู้กองแบบงงๆ

    "อืมม...ไม่รู้สิครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับว่ามีใครคิดร้ายกับเธอบ้าง"

    "เข้าใจแล้วครับ! ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะครับ
    ป่ะ คยูฮยอนเราไปกันได้แล้ว!"



    ผู้กองพูดเสียงดังฟังชัดก่อนจะลุกพรวดแล้วลากคยูออกไปจากตรงนั้น
    ทั้งสองเดินออกมาจากบริษัทรายการทีวีของหนุ่มคนนั้นก่อนที่ชีวอนจะแสดงอารมณ์หงุดหงิดออกมา

    "หมอนั่นมันน่าสงสัยจริงๆ!"

    "ผู้กองก็คิดอย่างงั้นเหมือนกันหรอครับ ...อืม ผมก็ว่าเขามีพิรุธจริงๆ"

    "ใช่ไหมๆๆๆๆๆ นายก็คิดเหมือนกันใช่ไหม"

    "ครับ ..ดูเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจเลย "

    "เนอะ! เรียกนายว่าคนสวยด้วย มันต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ"

    "อ่อ..ครับ"

    เหมือนผู้กองจะอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึงอย่างน้อยคยูฮยอนเด็กในปกครองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะดูคนไม่เป็น โล่งใจขึ้นมาทันทีที่คยูไม่ได้เขินสายตาลวนลามนั่น

    "คยูรีบมาสิ เราจะกลับไปดูที่เกิดเหตุอีกรอบ" ผู้เดินอารมณ์ดีไปที่รถโดยทิ้งความข้องใจให้กับคยู

    ผู้กองเป็นไรวะ? อยู่ในร้านดูหงุดหงิดเหมือนคนเมนส์มา แต่พอเมื่อกี้กลับกลายเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาดื้อๆ เออ เพี้ยนใหญ่แล้วคุณตำรวจ

    .

    .

    .
    .
    กลับมายังจุดเกิดเหตุ ศพของดาราสาวคนนี้ยังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน คยูที่เหมือนจะคิดอะไรได้เมื่อมองเห็นมือทั้งสองข้างของผู้ตายก็พูดขึ้นมา


    "แปลกๆนะครับผู้กอง มือข้างซ้ายมีเล็บยาวทุกนิ้วเลย แต่มือขวากลับตัดเล็บจนสั้นกุด.."
    พูดขึ้นก่อนจะชี้ไปให้ผู้กองมอง

    "นั่นสินะ..แถมยังสั้นแบบแปลกๆเหมือนไม่ได้ตัดด้วยกรรไกรตัดเล็บ"

    จริงๆด้วย ผู้กองก็ช่างสังเกตดีเหมือนกัน ถึงจะเห็นว่าดูไม่ได้เรื่องมาหลายคดีแล้วก็เถอะ

    "นี่ เมื่อเช้าฉันเห็นเส้นผมติดบนโซฟาเต็มเลย"

    "เส้นผมของผู้ตายรึป่าวครับ?"

    "ก็น่าจะใช่ แต่ว่ามีบางเส้นที่มันเป็นผมสั้นๆด้วยน่ะสิ"

    "ผู้กองจะบอกว่านั่นคือเส้นผมของคนร้ายหรอครับ?"

    "อืม..มีโอกาสนะ แล้ว FD คิมกังซอคอะไรนั่นก็น่าจะผมยาวประมาณนี้แหละ"

    "ตกลงผู้ชายคนนั้นเป็นฆาตกรแน่ๆแล้วใช่ไหมครับ" ขณะที่ทั้งสองยืนหันหน้ามาคุยกัน เมื่อคยูพูดเหมือนยังไม่ปักใจว่าเพลย์บอยคนนั้นเป็นคนร้ายนั้นก็ทำให้ชีวอนถึงกับฉุนขึ้นมา

    "ทำไมล่ะ!! นายก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าหมอนั่นไม่น่าไว้ใจอ่ะ"

    "อ่า..ครับๆ ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เขาบอกว่าออกจากที่นี่ตั้งแต่เย็นก็โกหกน่ะสิครับ"

    "ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ที่นายบอกเมื่อเช้าทำให้ฉันคิดได้น่ะ ผู้ตายมีเครื่องสำอางค์บนใบหน้าไม่เหมือนคนเข้าห้องน้ำ เพราะตามจริงแล้วเธอไม่ได้ถูกฆ่าตายในห้องน้ำ อาการช๊อคเนื่องจากขาดอากาศหายใจนั่นเป็นเพราะคนร้ายเอาหมอนมาปิดหน้าเธอตอนที่ทั้งสองนั่งกันอยู่บนโซฟา"

    "ครับ เรื่องนั้นผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน "

    "แต่ฉันน่ะ สงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ ทำไมคนร้ายต้องถอดเสื้อผ้าเธอแล้วจัดฉากให้เหมือนเธอตายในห้องน้ำด้วย"

    "เบี่ยงเบนความสนใจจากตำรวจไงครับ"

    "หืมม จำเป็นต้องทำอย่างงั้นด้วยเหรอ"

    "จำเป็นครับ ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคนร้ายล่ะก็ เขาจะทำไปเพราะปิดบังบางอย่างครับ"

    "หมายความว่ายังไง?"

    "การที่คนร้ายเอาเสื้อผ้าผู้ตายออกไป แปลว่าบนเสื้อผ้านั่นต้องมีบางอย่างที่ทำให้เราสามารถสืบตัวถึงคนร้ายได้แน่ๆอาจจะเป็นรอยนิ้วมือ หรือเลือด"

    "เลือด?? ของคนร้ายน่ะเหรอ"

    "ครับ วันนี้ผู้กองคงลืมสังเกตไปอย่าง ว่าผู้ชายคนนั้นเขามีผ้าพันแผลอยู่รอบข้อมือเลยครับ ..ในขณะเดียวกันถ้าเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน ทั้งสองมีปากเสียง และได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงกับใช้กำลัง ผู้หญิงถ้าได้มีเล็บยาวละก็ เธอก็อาจจะใช้เล็บของเธอจิกแขนคนร้ายจนเลือดซิบและเลือดนั่นก็ไปเปื้อนเสื้อของเธออย่างไม่ทันระวัง โทสะของคนร้ายเป็นแรงจูงใจให้เขาก็คดีขึ้นและเมื่อเขาพบว่าคุณยอนจีได้เสียชีวิตลงเมื่อประมาณเที่ยงคืนเศษคนร้ายก็เลยตั้งสติแล้วทำลายหลักฐานที่จะมัดตัวเขา"

    "โดยการถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดไปทิ้งใช่ไหม?"

    "ครับ แต่ถ้าเขาถอดแค่เสื้อก็จะดูแปลกๆไป ดังนั้นคนร้ายจึงตัดสินถอดทั้งหมดและลากเธอไปในห้องน้ำเพื่อจัดฉาก ที่สำคัญ ผมคิดว่าเล็บที่มือขวาของผู้ตายก็ต้องมีรอยเลือดเช่นกัน คนร้ายถึงได้คว้ากรรไกรธรรมดามาตัดเล็บเธอทุกนิ้ว ...เสียดายนะครับที่เขาไม่ได้ตัดเล็บมือข้างซ้ายด้วย"






    สุดท้ายทั้งคยูและผู้กองก็ได้ปิดคดีนี้จนได้


    เรื่องกุมตัวผู้ต้องหาต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คนอื่น ตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว



    "ผมกลับก่อนนะครับผู้กอง"

    "อ้าว จะกลับยังไง นายมากับฉันก็กลับกับฉันสิ"

    "เอ่อ ..งั้นก็เร็วๆหน่อยนะครับ" ร่างบางเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะแสดงสีหน้ากังวลออกมา

    ทั้งสองเดินไปตามเส้นทางแคบๆและคดเคี้ยวบนภูเขาโดยมีคยูฮยอนเดินนำหน้าไปไกล เขาน่ะ อยากกลับบ้านจะแย่


    "จะรีบไปไหนเนี่ย ฉันว่าอยู่ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ดีน่าจะดีนะเนี่ย" ผู้กองโลกสวยเดินอ้อยอิ่งราวกับมาเดินชื่นชมธรรมชาติและพรรณไม้ที่ขึ้นเต็มสองข้างทาง

    "งั้นก็อยู่ไปคนเดียวละกันครับ ผมรีบ อ้าากกกกกกกกกกกกก" เสียงแหกปากของคยูทำให้ผู้กองวิ่งหน้าตื่นลงไปดูจนพบอีกคนนอนพับกับพื้น


    "เห้ยยย "


    ทันทีที่ได้ยินเสียงขู่ฝ่อๆของงูที่อยู่ตรงหน้า ชีวอนก็ร้องออกมาก่อนจะหาไม้ที่อยู่ข้างทางไล่มันไป
    เมื่องูนั่นเลื้อยเลี้ยวไปไกล ผู้ชายตัวใหญ่ก็ถลาลงมองสภาพของอีกคน
    ก่อนจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าคยูไม่ได้โดนงูกัด แต่ที่นอนลงไปเป็นเพราะตกใจจนหมดสติ

    "โธ่ เด็กน้อย" ชีวอนพูดออกมาเบาๆก่อนจะยกอีกคนขึ้นมาบนหลังแล้วเดินลงเขาต่อไป


    ..อืม หนักเหมือนกันแหะ


    ถึงจะเห็นว่าร่างบางๆก็เถอะ



    เดินลงไปโดยที่ในหัวว่างเปล่า ไม่รู้เพราะหนักหรือหิว แต่รู้แค่ว่าทางเดินเริ่มมืดลง จู่ๆลมก็พัดแรงจนต้นไม้ใบไม้สองข้างทางนั่นเอนไหวไปหมด ไฟส้มๆที่นานๆจะเจอทีก็ทำให้ชีวอนเห็นเงาตัวเอง กับ.....




    คยูฮยอน .... ทำไมผมดูยาวล่ะ????
    ผู้กองมองเงาที่สะท้อนกับพื้นถนนก่อนจะเอี้ยวคอมอง .....เห้ยยย ผมยาวจริงๆด้วย






    ....หรือว่า









    ..ผีหลอก



    ร่างสูงหลับตาปี๋วิ่งลงมาให้หลุดจากเขาลูกนี้อย่างเร็วที่สุด ...ผีบังตาแน่ๆ ทำไมคยูกลายเป็นผู้หญิงผมสลวยที่ไหนได้เนี่ย อ้ากกกก หลอน


    ลงมาถึงตีนเขาก็รีบไขกุญแจประตูรถด้านข้างคนขับก่อนจะโยนอีกคนเข้าไปนั่งในรถแล้วมองอีกรอบดีๆ

    ตั้งสติ


    แต่ก็ยัง



    .....ผู้หญิงอ่ะ..ไม่ใช่สิ นี่มันคโยฮยอน


    เออะ...O0O!!!!!!!

    WTHH!!!!!!









    ................................................................................................................
    ร้อยเปอร์เซนต์แล้วจ้าา












    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×