ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : CURSE : ปิดคดี END
ปิดคดี
ตำรวจหนุ่ม สารวัตรฮันเกิงยืนมองเพื่อนตำรวจประเทศใกล้เคียงกำลังจมดิ่งอยู่ในความเงียบลึกเข้าไปสู่ความเศร้าระคนเฝ้ารอความหวังที่อยู่หลังประตูบานใหญ่นี้
ขาก้าวเข้าไปใกล้ๆชายที่ก้มหน้าเครียดประสานมือตัวเองอยู่ ก่อนฮันเกิงจะเอ่ยธุระ
กับคนที่ดูเครียดๆ
"เรื่องโจรนั่นทางเราจะจัดการให้เองครับ เราคิดว่าโจรนั่นต้องต่อเรือเฟอรรี่ตรงไปมาเก๊างานนี้เราจะกุมตัวคนร้ายส่งกลับเกาหลีให้เอง"
ซีวอนที่นั่งตรงนี้มาซักพักเริ่มใจเย็นลง แหงนมองอีกคนก่อนพยักหน้าขอบคุณ คนฮ่องกงพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป เหลือซีวอนที่ยังกระวนกระวายเรื่องคนข้างใน
ก่อนถึงที่นี่บุรุษพยาบาลบอกว่าคยูเสียเลือดไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาคยูฮยอนอยู่ในมือหมอแล้ว ...ต้องช่วยได้สิ ต้องช่วยได้
ระยะเวลาเนิ่นนานถึงสามชั่วโมง ซีวอนผุดลุกผุดนั่งผลัดกันไปมาก่อนจะตื่นตัวทันทีที่หมอเดินออกมาจากประตูนั่น
หมอเดินออกมาพูดจาภาษาแพทย์ ซีวอนแปลความได้แค่ว่าคนไข้ปลอดภัย
โชคดีที่คนร้ายใช้กระสุนปืน .22 จึงทำให้ไม่ถึงจุดอันตราย
ในที่สุด กว่าที่ซีวอนจะได้เข้าไปเยี่ยมคนบาดเจ็บในห้องพักของโรงพยาบาล ตอนนี้ก็เป็นเวลาตีสามกว่าๆ ร่างกายล้าแต่ไม่ถึงกับเพลียทรุดลงนั่งข้างๆคนตัวขาวที่นอนอยู่บนเตียง ปลอดภัยก็ดีแล้ว เพียงแต่นึกสงสัยอยู่ว่ารุ่งเช้าคนตัวบางจะกลับคืนเป็นผู้ชายหรือไม่ เรื่องคำสาปที่เขาไม่คิดว่ามีจริง แต่ตอนนี้กลับเชื่อแล้วกังวลความรู้สึกของอีกคน
เขาเองไม่รู้จะทำอะไรได้ มือนุ่มที่วางข้างลำตัว ซีวอนจับมันขึ้นมาบีบเบาๆ ลูบวนมือบางไปมา แล้วมองคนที่หลับตา หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
.
.
ซีวอนปรือตาขึ้นก่อนแหงนมองรอบๆ เขาพบว่าเขาเผลอหลับไป มองนาฬิกาที่ติดบนกำแพง เขาเพิ่งหลับได้ไม่กี่นาที แต่ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกถึงสัมผัสเบาบางบนหัวของเอง
มองคยูฮยอนในร่างหญิงสาวที่หลับใหล มือข้างหนึ่งยังคงถูกเขากุมไว้อยู่
ถ้างั้นใครมาลูบหัวเขา ซีวอนหันรีหันขวางก่อนเจอเจ้าของมือเหี่ยว
คุณยายตัวเล็กๆหลังค่อม ทุกเส้นผมถูกสีขาวจับจอง
เธอยิ้มดวงตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นเดินอ้อมไปหาคยูฮยอนก่อนที่มือเหี่ยวจะสัมผัสกับแก้มใส ซีวอนมองนิ่ง อึ้ง เขาไม่รู้จักคุณยายคนนี้มาก่อน โผล่มาได้ไง ภายในห้องเงียบสนิท ซีวอนทำลายความเงียบ
"คุณยายเป็นใครครับ"
ซีวอนมองไม่วางตา หญิงสาวใบหน้าเหี่ยวย่นยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับย้อนด้วยคำพูดแปลกๆ
"ในตอนเช้าคำสาปจะเสื่อมลง เขาจะโตขึ้น อายุ 25 ปีเต็มตามเวลาเกิด"
ซีวอนกระพริบตามอง ยังคงไม่เข้าใจ
"คำสาปเสื่อม แปลว่าเขาไม่ต้องเป็นแบบนี้หลังพระอาทิตย์ตกดิน หรอครับ?"
ยายแก่ยิ้มอบอุ่นอีกครั้ง พยักหน้ารับ ก่อนจะพูดบางอย่างทิ้งท้าย
"ยังจะดูแลเขาต่อไปไหม"
ซีวอนพยักหน้ารับ ดวงตาคุณยายฉายความสุขก่อนจะมองสองคนสลับกัน
ชเวซีวอนสะดุ้งตื่นขึ้นมา ...นี่เขาฝันเหรอ ช่วงนี้เขาชักจะฝันบ่อยไปแล้ว
แสงอาทิตย์ส่องจ้าเข้ามาผ่านหน้าต่าง จนซีวอนหรี่ตาก่อนจะมองคยูฮยอนที่กลับสภาพแล้ว ผมสั้น ขนตายังยาวแต่งอนน้อยกว่าเมื่อคืน แก้มใส ริมฝีปากมีสีดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม
หัวใจของคนตัวใหญ่รู้สึกชื้นขึ้น ความกังวลเริ่มจางลงไป ทุกๆอย่างกำลังจะกลับมาดีขึ้น เขารู้สึกได้เช่นนั้น จนดวงตาลุกวาวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงครางในลำคอของอีกคน
"..อือ" คนตัวขาวค่อยๆปรือตาขึ้นมา รู้สึกอุ่นๆที่มือ แต่ร้อนที่ใบหน้า ก่อนจะรู้สึกตัวว่ากำลังถูกแดดเผา มือที่อุ่นเพราะถูกใครกำลังกุมอยู่
"ฟื้นแล้วเหรอ" ซีวอนตื่นตัว มองรอบๆกดเรียกหมอให้มาดูอาการ
"หิวน้ำจัง"
เสียงร่างบางแหบพร่า ซีวอนลุกขึ้น มองหน้าแก้วน้ำก่อนจะหยิบรินน้ำให้อีกคน คยูฮยอนพยายามทรงตัวขึ้นมานั่งพิงหมอนก่อนจะรับแก้วน้ำจากอีกคน
"รู้สึกยังไงบ้าง" ซีวอนถามรอหมอมาที่ห้อง ดวงตากลมยังใสแจ๋วเหมือนกับเมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับตน กลอกตาขึ้นเหมือนนึกอะไรบางอย่าง
"รู้สึกอะไรครับ"
"ยังเจ็บที่ต้นขาอยู่ไหม"
คยูฮยอนส่ายหัวเป็นคำตอบ พลางอ้าแขนออก คนตัวสูงยืนมองคยูฮยอนพลางเลิกคิ้วสงสัย คนตัวขาวบีบแขนให้แคบลงมาจนอีกคนเข้าใจโน้มตัวลงมากอด
ร่างบางได้แต่ยิ้มพลางกอดอีกคนแน่น
"คิดถึงจังเลยครับ"
ซีวอนนึกสงสัยคำพูดของอีกคนแต่ก็รู้สึกดีกับคำพูดนั้นไม่กอด เขากอดให้แน่นขึ้นมาอีก กดจมูกลงไหล่บาง
จริงๆแล้วที่คยูฮยอนพูดแบบนี้เพราะ ระยะเวลาที่เขาหลับใหลไปไม่รู้กี่ชั่วโมง มันดูเนิ่นนานมากจริงๆ เขารู้สึกอยากตื่นมาเจอซีวอนจะแย่อยู่แล้ว เขาเห็นตัวเองนอนหลับ เห็นซีวอนเฝ้าเขาอยู่ เห็นคุณยายคนเดียวกับที่เคยเจอหน้าร้านสะดวกซื้อ คุณยายก็มองเห็นเขาในตอนนั้น
ตอนนี้คยูฮยอนเข้าใจหมดแล้ว ว่าคำสาปมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้นเลย
มันจบลงด้วยตัวของเขาเอง คุณยายบอกเขาในห้องผ่าตัดว่าเลือดที่เสียไปทำให้คำสาปเสื่อมลง จิตของร่างบางนั้นมองเห็นทุกๆอย่างที่ผ่านมา ผู้ชายที่รอเขาอยู่หน้าห้องผ่าตัด มองดูแล้วยิ่งซาบซึ้งบอกไม่ถูก
คุณหมอเดินเข้าห้อง ทั้งสองถึงได้คลายกอดออกจากกัน วินาทีแรกที่คยูฮยอนประสานสายตากับคุณหมอ เขายืนนิ่งเป็นหิน
อ่า... ก็เมื่อคืนคยูฮยอนเป็นผู้หญิงนี่นา
คุณหมอทำหน้าฉงนสงสัยแต่กลับไม่กล้าถามอะไร เพราะมันคงเป็นคำถามที่ฟังดูเพี้ยนๆ ทั้งซีวอนและคยูฮยอนต่างทำตัวปกติ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้รอให้คุณหมอทำลายความเงียบภายในห้อง
ตรวจถามอาการคนไข้กลับสบายดีทุกประการ แผลที่เย็บตรงต้นขาไม่มีฉีกขาด
คุณหมอไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อได้เพราะยังแปลกใจไม่หาย ถึงได้บอกว่าคยูฮยอนเป็นปกติแล้ว กลับบ้านได้
.
.
.
.
สนามบินอินชอน เวลา 14.25 น.
หลังจากที่ซีวอนจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาล เคลียร์เรื่องคนร้ายที่ยิงคยูฮยอนที่ฮ่องกง จนเสร็จสิ้นและเดินทางกลับพร้อมคยูที่เกาหลี
เขายังคงกังวลว่าอีกคนจะรู้สึกอย่างไรเรื่องคำสาป เขาไม่รู้แน่ว่าคุณยายที่เข้าฝันเขาจะพูดเรื่องจริง
"พี่ซีวอน" คนตัวขาวเอ่ยขณะหยิบกระเป๋าสัมภาระไม่อีกใบลงมาจากสายพาน
"ครับ?"
"คือ ..ผมมีเรื่องจะบอก"
ซีวอนพยักหน้าฟัง รับกระเป๋าจากมืออีกคน
"ต่อไปนี้ เราคง..ไม่ได้ทำงานด้วยแล้วนะครับ"
ทั้งคู่เงียบ ยืนมองหน้ากัน ก่อนซีวอนจะลดกระเป๋าลง เพื่อฟังอีกคนอธิบายต่อ
"ภาครัฐเขาได้คนมาทำงานตำแหน่งนี้แล้ว ผมไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาแล้วครับ"
"ดีแล้วล่ะ" คนตัวขาวช้อนตามองอีกคน ...เขาแปลกใจ เขาหวังให้ซีวอนรู้สึกใจหายเหมือนกันกับเขาแต่คนตัวใหญ่กลับยิ้มออกมาซะงั้น
คยูเงียบ รออีกคนอธิบายต่อ
"พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก งานของพวกตำรวจมีแต่เสี่ยงๆพี่ให้นายไปเสี่ยงอย่างงานนี้ไม่ได้แล้วล่ะ"
พูดแสดงความเป็นห่วงเป็นใย แต่คยูกลับยื่นปากจ้องกลับอีกคนตาแข็ง
"ผมอ่อนแอมากสินะ เป็นตัวถ่วง ทำให้คนอื่นเป็นห่วง พี่หมายความแบบนั้นใช่มั้ย"
ร่างบางเอ่ยเสียงแข็ง ดึงกระเป๋าของตัวเองหลุดจากมือหนาแล้วเดินออกจากเกท
ซีวอนเดินตามไล่หลัง ก่อนจะนึกโมโหตัวเองที่พูดให้อีกคนเข้าใจผิดไปแบบนั้น
"เดี๋ยวก่อน! พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น"
เสียงไล่หลังไม่ได้ทำให้ความน้อยใจของเด็กผู้ชายที่อายุ 25 ลดลง เดินออกมาจนถึงด้านหลังก่อนจะโบกแท็กซี่ขึ้นไปคนเดียว
.
.
.
หยุดยืนอยู่หน้าสำนักงานนักสืบที่ตนอยู่มาหกปี คยูเดินเข้าไป นักสืบที่รู้จักหลายคนต่างทักทายเล็ก คนตัวขาวเดินขึ้นบันไดถึงชั้นสองก่อนตรงไปห้องพี่อีทึก
พี่ชายกำลังคุยงานทางโทรศัพท์อยู่ คยูถึงได้ทรุดนั่งลงโซฟาตัวเล็กๆ ยกแก้วน้ำมาจิบระบายความหงุดหงิดระคนน้อยใจ
"คยู~~ ในที่สุดก็กลับหาพี่แล้ว" อีทึกฉีกยิ้มกว้างหลังวางหูจากนายจ้างมาหมาดๆ ร่างโปร่งเดินเข้ามากอดน้องชายโยกเยกไปมาระบายความคิดถึง
คยูยิ้มน้อยๆก่อนจะบูดบึ้งอีกครั้งจนพี่ชายจับสังเกตได้ตามเคย
"เป็นอะไรไป"
"ผมออกมาจากที่นั่นไม่มีใครคิดเสียใจหรือเสียดายเลยซักนิด"
ความสบายใจที่ได้อยู่กับอีทึกทำให้คยูพูดได้ทุกอย่างที่อยากพูด คนโตนิ่งมองก่อนจะยิ้มๆ
"ใครที่ว่านี่ ผู้กองคนนั้นหรอ"
คราวนี้คยูไม่ตอบ ..เขารู้ว่าพี่ทึกชอบแหย่เขากับผู้กองมาแต่ไหนแต่ไร ไม่รู้ว่าเป็นพวกชอบจับคู่ให้คนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ อีทึกเห็นปฏิกิริยาอีกคนยิ่งยิ้มกว้างใหญ่ มีอะไรในใจคยูบ้างที่ทึกจะเดาไม่ออก
"อ่า ..นายจะให้เขาเสียใจอย่างงั้นหรอ อย่าเว่อร์ไปเลยเด็กน้อย เราไม่ได้จากไปไหนซะหน่อยยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม ยังไงผู้กองก็ต้องหาเรื่องมาหานายแน่"
"เหรอครับ.."
ดวงตากลมป๊อกมองพี่ชายก่อนจะหลุดพูด ทำให้อีทึกขำพรืดออกมา สุดท้ายแล้วเรื่องที่คยูกังวลจริงๆก็คือเรื่องแค่นี้เอง
"ฮ่าๆ เด็กน้อยชอบผู้กองจริงๆด้วย"
คยูฮยอนกระพริบตาถี่ ก้มหน้านิ่ง ก่อนจะรู้สึกอายๆที่อีกคนมานั่งจับพิรุธตัวเองได้แบบนี้จนต้องยกมือมาลูบท้ายทอยตัวเอง
..........................
อีกมุมหนึ่งในบ้านหลังใหญ่ คุณนายชเวกำลังแต่งตัวเตรียมไปทำธุระเรื่องที่ดินที่ต้องเดินทางไปตกลงซื้อขายกับเจ้าของที่ดินด้วยตนเอง
ภายในรถเล็กซัสสีดำเงา คุณนายชเวกำลังโทรหาลูกชายหลังจากรู้ข่าวว่าเขาเพิ่งกลับมาจากฮ่องกง รอสายไม่นานก่อนเจ้าลูกชายตัวดีจะรับ
((ครับแม่))
"เป็นไง สบายดีมั้ย"
((แม่ครับ เดี๋ยวผมโทรหาใหม่ครับ))
"เดี๋ยวเหอะ!! กล้าดียังไงจะวางสายใส่แม่ห๊า"
((..มีอะไรหรอครับ))
เสียงเจ้าลูกชายดูเจื่อนไปเล็กน้อย ..จริงๆเธอแค่อยากโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาแม่ที่ดีก็เท่านั้น แต่ไหนๆได้คุยแล้วเลยขอนอกประเด็นเล็กน้อย
"หนูคยูฮยอนเป็นไงบ้าง ได้ข่าวว่าไปด้วยกัน"
((ก็ดีครับ ตอนนี้หนีผมไปแล้ว))
"ว่าไงนะ!! แกทำอะไรน้อง!! "
คุณผู้หญิงนั่งไม่ติดเบาะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็เธอน่ะรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวคนนั้นเข้าให้แล้ว
((แม่ครับ ...ผมมีเรื่องจะบอก))
".."
((ผมคงมีหลานให้แม่ไม่ได้หรอกนะ))
"ฉันรู้ แกเป็นผู้ชายจะมีหลานให้ฉันได้ไง แต่หนูคยูต้องให้หลานกับฉันเท่านั้น รีบไปง้อน้องเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้วอน!"
((ไม่ใช่แบบนั้นครับแม่ ผมหมายถึง ผมกับคยูเรามีหลานให้แม่ไม่ได้หรอกครับ))
"ทำไม แกจะเลิกกันหรอ แม่ไม่ยอมนะ!"
คุณนายยังคงโวยวายกับคนในสาย จนทางด้านซีวอนที่กำลังขับรถไปสถานีตำรวจก็ถึงกับทนไม่ไหวที่คุณแม่ไม่ยอมฟังเขาพูดให้จบจนซีวอนต้องร่ายยาวออกมา
((ผมเลิกกับเขาไม่ได้หรอกครับ แม่ฟังนะ ที่ผมบอกแม่แบบนั้นเพราะคยูเขาเป็นผู้ชาย อย่าขำครับ ผมพูดจริง ไว้เคลียร์กันได้แล้วผมจะพาเขาไปหาอีกรอบ รักแม่ครับ))
คำบอกรักคำสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะกลายเป็นเสียงสัญญาณโทรศัพท์ คุณนายตัวแข็งทื่อ
ลิ้นชาพูดอะไรต่อไม่ได้ สมองกำลังประมวลผล
สรุปแล้วก็คือ เธอแพ้พนันยุนโฮ
เมื่อวันก่อน
ขณะคุณนายชเวกำลังเดินเข้าบริษัทก็บังเอิญไปเจอชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับซีวอนจึงเดินไปมองใกล้ๆ
"อ้าว ยุนโฮ หายหน้าไปนานสบายดีนะ"
"สวัสดีครับคุณแม่ ผมสบายดีครับ คุณแม่สบายดีใช่ไหมครับ"
"จ้ะ แล้วมาทำอะไรที่นี่หรอ"
"เผอิญผ่านมาทำธุระแถวนี้น่ะครับ อ่อ แม่ครับ"
"จ้ะ?"
"ทำที่เราพนันไว้เมื่อห้าปีก่อนได้ไหมครับ ผมบอกแม่ว่าคนบ้างานอย่างซีวอนมันมีหลานให้แม่ไม่ได้หรอก ...ตอนนี้ผมยังยืนยันคำเดิมนะครับ"
ผู้หญิงวัยสี่สิบใกล้ย่างเข้าห้าสิบแค่นหัวเราะออกมาราวกำลังถือไพ่เหนือกว่า
"ไม่มีทางจ้ะ ตอนนี้ซีวอนเขากำลังคบกับสาวน้อยคนนึงอยู่ ดูจริงจังกว่าที่แม่คิดซะด้วย"
คุณนายยิ้มพอใจที่เห็นยุนโฮกำลังขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม
"ใครครับ?"
"ชื่อคยูฮยอน เราไม่รู้จักหรอก"
ทันทีที่พูดชื่อเจ้ายุนโฮก็หลุดหัวเราะไร้มารยาทออกมาจนคุณนายหรี่ตามองเจ้าเด็กที่เป็นเพื่อนเล่นของซีวอนมานาน
"เรามาพนันกันได้เลยครับ ว่าชาตินี้คุณแม่ไม่มีหลานหรอก"
คุณนายหงุดหงิดพยักหน้ารับคำท้าก่อนเดินเข้าบริษัท ..เจ้ายุนโฮผีพนัน
เอาอะไรมามั่นใจนักหนา!
------------------
17.20 น.
คยูฮยอนยังอยู่ในห้องทำงานของอีทึก ห้องกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ให้มองเห็นวิวของถนนด้านล่าง ร่างบางเดินวนไปวนมาอยู่นานแล้ว
ไม่เห็นว่าซีวอนจะหาเรื่องมาหาเขาอย่างที่พี่ทึกว่าเลย
ถึงจะติดงานราชการ แต่ตอนนี้มันก็เลิกงานแล้วไม่ใช่หรือไง
เชอะ ...
ความรู้สึกอย่างเมื่อบ่ายเริ่มก่อตัวอีกครั้ง เดินกลับไปกลับมาเร็วขึ้นทั้งกระแทกเสียงเดินจนพี่ชายที่หาข้อมูลของงานที่ได้รับมาอยู่ต้องแหงนหน้ามอง
"ใกล้เย็นแล้วนิ พอนายเป็นผู้หญิงแล้วช่วยออกไปสืบคดีกับพี่หน่อยสิ"
เพราะการไปเป็นคู่จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะได้มีเพื่อนช่วยคิด ช่วยแก้ปัญหา ข้อนี้คยูฮยอนรู้ดี
"แต่ผมมีความรู้สึกว่า ....ตั้งแต่นี้ต่อไปมันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้วครับ พี่คงไม่ได้เจอคโยฮยอนแล้ว"
ประโยคนั้นถึงกับทำให้พี่อีทึกลุกขึ้นมาหาอีกคน แววตาเป็นประกาย พร้อมน้ำเสียงดูตื่นเต้น
"ทำไมละ!! ไม่มีคำสาปแล้วหรอ ..หรือว่า นายจูบกับผู้กองอย่างที่พี่บอกแล้วใช่ไหมๆ!"
เขย่าจนอีกคนตัวโอนเอนไปมา คยูจับมือพี่ทึกออกจากไหล่แล้วทำหน้าเครียด
"อย่าไปพูดถึงเขาครับ"
พี่อีทึกหน้าเจื่อนลงไปทันที
"ทำไมพี่คิดว่าผมทำแบบนั้นกับเขาแล้วคำสาปมันจะหายครับ" คนตัวขาวถามต่อ
..ไหนบอกไม่ให้พูดถึง แต่ไหงตัวเองถามแบบนี้ซะเอง คนเป็นพี่ยิ้มเขินๆก่อนตอบ
"พี่อ่านหนังสือมา เป็นพวกปรัมปรา เขาบอกว่าคำสาปถอนได้ด้วยรักแท้"
"แหวะ"
คยูฮยอนเบะปากออกมา พลางหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ..รอยยิ้มผุดขึ้นมา พี่อีทึกต้องเพี้ยนแน่ๆถึงเชื่อหนังสือพวกนั้น และหนักกว่านั้นคือคิดได้ยังไงว่ารักแท้ของเขาคือผู้กอง บ้ารึเปล่า
RRRR RRRRRRRR โทรศัพท์ที่คนตัวขาวถือคอยอยู่นานสั่นขึ้น พลอยทำให้หัวใจของคยูฮยอนสั่นไปด้วย
"โทรมาได้ซักทีนะ" พึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะกดรับสาย
((คยูฮยออนนนน~~~~~))
"ทำไมเสียงเป็นอย่างงั้นครับ"
((พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นเจรงๆๆๆ))
เสียงคนในสายไม่ได้ตอบคำถามเขาเมื่อกี้ ทั้งยังพูดไม่หยุด
((คยูฮยอนนา~~))
"พี่เมาหรอ"
((หายเข้าใจผิดหรือยังค๊าบ)) คนตัวขาวส่ายหัวรัว สงสัยจะเมาจริงๆ
"อยู่ไหนครับนั่น"
((..))
.
.
.
ขาย่ำมาถึงร้านข้างทางที่อยู่ห่างจากสำนักงานไม่กี่ก้าว ก่อนจะพบซีวอนและพวกตำรวจอีกสองสามคนกำลังผลัดกันรินเหล้าให้ซีวอน
"อะไรกันครับ มาดื่มกันแต่เย็นอย่างนี้"
"อ่อ วันนี้คุณซีวอนเลื่อนขั้นน่ะครับ มีประชุมกันทั้งวันเลย พอเลิกงานพวกผมเลยพามาฉลองตำแหน่งสารวัตร"
คยูมองนายตำรวจที่ดูประคองสติตัวเองได้สลับมองกับอีกคนที่เมาแอ๋ หัวทิ่มโต๊ะ เหมือนวันแรกๆที่รู้จักกัน
คนตัวขาวถอนหายใจ ส่ายหน้ารัว ยังงี้กลับบ้านเองไม่ได้แน่
คนตัวบางรู้สึกเหมือนเดจาวูตอนนี้เขาแบกแขนแกร่งขึ้นพาดไหล่ตัวเองก่อนจะทุลักทุเล ผลักอีกคนเข้าไปนั่งเบาะหลังของแท็กซี่ก่อนเข้าไปนั่งตาม ปิดประตูดัง คราวนี้ไม่จำเป็นต้องถามอีกคนว่าบ้านอยู่ไหน ..เพราะตอนนี้รู้แล้ว บอกกับแท็กซี่ไปก่อนจะหันมาตบหน้าเรียกสติคนเมากลับมา
"พี่ซีวอนครับ"
ตบหน้าเบาๆให้อีกคนปรือตาขึ้น ซีวอนเห็นคนมีสีหน้าเหนื่อยใจถึงได้โน้มตัวไปกอด
"คยูฮยอนนา นายมาแล้ว"
คนตัวขาวหลุดหัวเราะออกมาจนได้ ซีวอนคออ่อนยิ่งกว่าใครที่เขาเคยรู้จักแต่ว่าซ่ากินไปเป็นมารยาทสังคม เขายังจำได้อยู่เลยตอนที่ซีวอนเมาแอ๋ฉลองวันเกิดให้ตัวเอง และวันนั้นเขาต้องมาส่งอีกคนแบบนี้ จำได้ขึ้นใจเลยว่าซีวอนเรียกเขาว่าหนุ่มน้อย
ใบหน้าของคยูยิ้มแย้มขึ้น แต่ยังคงส่ายหัว ซีวอนปล่อยกอด คนเมาเริ่มแผลงฤทธิ์อีกครั้ง
"คายูอ่า นายทำให้พี่นึกถึงวันนั้นเลยนะ"
"วันไหนครับ"
"ที่นายมาส่งพี่แบบนี้ นายสั่งพี่ว่าเมาแล้วห้ามขับรถ"
"อ่า คนเมาความจำดีจังครับ"
คยูยิ้มหัวเราะมองอีกคนพูดเหมือนละเมอ เขาจำได้อีกด้วยว่าตอนนั้นพระอาทิตย์กำลังตกดินจะเขาในตอนนั้นก็กลายเป็นผู้หญิง
...แต่ในตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว
ขณะรถแท็กซี่แล่นไปท่ามกลางราตรี คยูฮยอนมองท้องฟ้าผ่านกระจกให้แน่ใจว่าคืนนี้ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวง ......ในที่สุดคำสาปก็หายไป
รถจอดลง คนตัวบางพยายามเต็มที่ที่จะพาอีกคนลงจากรถ ซีวอนสลึมสลือเต็มทน
คราวนี้คุณป้าที่คาดว่าเป็นแม่บ้านเดินออกมารับเหมือนเมื่อวันนั้นไม่มีผิด
แต่คราวนี้คยูฮยอนขอเข้าไปในบ้านด้วย
ทั้งสองคนแบกคนตัวใหญ่ลงไปยังโซฟาของห้องโถงได้สำเร็จ คุณป้ากับคยูฮยอนยิ้มมองคนตัวใหญ่ สลับมายิ้มให้กัน คุณป้าบอกว่าคุณนายชเวไปคุยธุระที่ต่างจังหวัด คืนนี้ก็เลยไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเธอ
"คุณช่วยอยู่ตรงนี้กับคุณหนูก่อนนะคะ "
ผู้หญิงตัวอวบเดินเร็วเข้าไปทำหน้าที่ที่ต้องทำ พลางสงสัยว่าตนเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนหรือไม่
คยูไม่ได้ตอบอะไร เดินกลับไปมองคนบนโซฟาก่อนจะยกปลายเท้าทั้งสองของซีวอนให้ขึ้นไปบนโซฟา จัดท่านอนให้สบาย คยูนั่งย่อตัวลง มองหน้าอีกคนที่หลับตาอยู่
ดีจังเลยที่ได้มองอีกคนหลับบ้าง ...ที่ผ่านมาเขารู้สึกมาตลอดว่าเขาปล่อยให้ซีวอนดูแลเขา
กังวลกับเรื่องเขา ...ต่อไปคยูจะทำแบบนั้นบ้าง
ร่างบางนั่งจ้องอีกคนอยู่นาน จู่ๆซีวอนก็ลืมตาขึ้น คยูฮยอนตกใจจนผงะตัวไปด้านหลังจนเกือบหน้าหงายแต่มือหนาขวามาได้ทันก่อนจะลุกขึ้นนั่งและจับอีกคนมานั่งบนตัก
ซีวอนไม่ได้พูดอะไร แค่ยิ้มมอง คนตัวขาวไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน ได้แต่ทำเลิ่กลั่ก
"คายู ทำไมวันนี้สวยจัง สวยกว่าเดิมน้า" ซีวอนว่าพลางโอบแขนรัดเอวอีกคน
"พี่เองก็เมากว่าเดิมนะครับ ผมเป็นผู้ชายอยู่ เห็นมั้ย"
ว่าเสร็จมือเล็กก็ประคองหน้าซีวอนให้เงยขึ้นแล้วยื่นหน้าตัวเองไปมองกันใกล้ๆ
มือหนายกขึ้นจับมือบางที่ประคองหน้าตนอยู่ก่อนซีวอนจะแนบริมฝีปากติดกับปากอีกคน แก้มใสร้อนฉ่าทันทีที่กลิ่นแอลกอฮอล์กำลังรุกรานเข้ามารับความหวานในปากของตน คยูฮยอนค่อยๆปิดตาลง ปล่อยให้ลิ้นหนาลิ้มรสความหวานจนพอใจและผละออกมาเอง คยูลืมตามองอีกคนช้าๆก่อนจะหลบสายตาอีกเพราะคนตรงหน้าใช้สายตาที่ทำให้รู้สึกร้อนขึ้นมาอีก
"พี่ไม่ได้เมานี่" กลับไปมองค้อนคาดโทษก่อนกำหมัดเล็กๆชกแผงอกอีกคน
ซีวอนยิ้มตอบ แขนลดลงมาโอบเอวอีกคนเหมือนเดิม
"สร่างตั้งแต่เรามารับแล้ว"
"เจ้าเล่ห์" ยื่นปากยู่ๆก่อนจะดิ้นหนีอีกคนลงจากหน้าขาแต่ทำไม่ได้เพราะถูกพันธนาการด้วยแขนที่โอบรอบเอวเขาไว้แน่น
"วันนี้วันเกิดหรอ" ซีวอนถาม
"รู้ด้วยหรอครับ" คยูฮยอนทำตาเป็นประกาย หยุดดิ้น นั่งจ้องอีกคนอยู่อย่างนั้น
"อื้ม พี่มีของขวัญด้วย ไปเอาซิ" คนตัวใหญ่ว่าพลางยื่นหน้าไปใกล้หูอีกคนก่อนจะกระซิบต่อเร่งให้คยูฮยอนนั่งเกร็ง หน้าแดงกว่าเดิม
"ของขวัญอยู่บนห้องน่ะ พี่พาไปนะ"
;END;
ฟึ่บ!! ตัดไปที่โคมไฟ 5555555555555
จบง่ายๆอย่างนี้แหละ รอสเปเอาล่ะกัน จะได้รู้กันสะทีว่าคุณยายคือใคร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น