ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic 2PM] ฉันเกลียดนาย...I hate you [Khundong].......The End

    ลำดับตอนที่ #22 : ซ้ำเติม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.82K
      6
      1 ก.พ. 54

     









    ''ง่ายนิดเดียว!ฉันอยากให้นายเก็บของๆนายออกไปให้หมด...และอย่ามายุ่งกับฉันอีก!!!''



    คำพูดที่ดูก็รู้ว่ารังเกียจ อูยองได้แต่อึ้งไป เขาทำอะไรไม่ถูก หัวสมองถูกสั่งการให้หยุดทำงานชั่วขณะ แค่อยากถามคำเดียว

    ว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นความจริงไหม


    คนพี่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ

    ''คำพูดของฉันเด็ดขาดเสมอ รีบๆเก็บของแล้วลงไปได้แล้ว ''

    นิชคุณลุกขึ้นยืน เขาใช้สายตามองอูยองแล้วสะแหยยิ้มอย่างอวดดี

    ''อย่าคิดว่าน้ำตาของนาย จะทำให้ฉันใจอ่อน ฉันไม่ใช่คนขี้สงสารขนาดนั้น และบังเอิญว่าคนๆนั้นเป็นนาย ฉันเลยไม่อยากชายตามองสักนิด ''

    ประโยคสุดท้ายทำเอาอูยองถึงกับสะอึก




    เวรกรรมมีจริงงั้นหรอ
    ?


    เขาเคยร้ายใส่นิชคุณถึงตอนนี้เลยต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำบ้างสิน่ะ

    อูยองค่อยๆลุกขึ้น โดยมีสายตาของคนพี่จับจ้องอยู่ตลอด เขาลากสังขารตัวเองที่ยังไม่ค่อยหายดี...แต่ก็ยังอยากจะมา เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบข้าวของๆตัวเอง

    น้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย สามารถบอกนิชคุณได้ไหม
    ว่าเขาเองกำลังฝืนทำ...ทั้งๆที่ไม่ต้องการ

    อูยองที่ท่าทางเริ่มเหนื่อยหอบ พยายามหยิบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า นิชคุณเป็นคนใจดีโยนกระเป๋าเดินทางมาให้ อูยองไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาทำเพียงแค่เก็บมันไปเรื่อยๆจนหมด เหลือก็แต่...รูปถ่ายของเขากับนิชคุณ ที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียง

    อูยองยันตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ใบหน้าที่ซีดเซียวไม่ทำให้คนพี่
    ใจเสียบ้างเลยหรอ?

    อูยองเดินมาเปิดลิ้นชักหัวเตียง เขาค่อยๆดึงมันออกมา รูปเป็นร้อยๆใบก็ปรากฎอยู่เบื้องหน้า ถ้าให้นิชคุณดู นิชคุณจะจำเขาได้ไหมน่ะ
    ? อูยองยิ้มให้กับตัวเอง จิตใจตอนนี้เกินที่จะเยียวยาแล้วจริงๆ ทรมานจนไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว



    อูยองเลิกคิดฟุ้งซ่าน เขารีบหยิบรูปทั้งหมดขึ้นมาแล้วยัดมันลงไปในกระเป๋าสะพายข้างตัวอย่างรวดเร็ว

    ถ้าจะให้ดี!!! อย่าให้นิชคุณเห็นมันเลยจะดีกว่า ในเมื่อนิชคุณเลือกจุนซูเขาก็คงต้องยอมรับความจริง

    อูยองรูดซิบกระเป๋าสะพายข้างตัวก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วเดินกลับมารูดซิบกระเป๋าเดินทาง

    ''ชักช้า!วันนี้ฉันมีอะไรต้องทำอีกตั้งเยอะแยะ จะให้ฉันเสียเวลากับนายอีกสักเท่าไหร่กันห่ะ!! ''

    นิชคุณตะหวาดใส่อูยองที่ทำอะไรเชื่องช้าไม่ทันใจ

    อูยองปาดน้ำตาสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ
    อย่าน่ะอูยอง!อย่าล้มตรงนี้ นายจะอ่อนแอต่อหน้าเขาไม่ได้

    อูยองดึงที่จับของกระเป๋าเดินทางขึ้นมา เขาพยายามจะลากมันแต่เพราะแรงอันน้อยนิดทำให้แรงดึง...เป็นได้แค่การกระตุกสิ่งของเบาๆเท่านั้น

    นิชคุณที่ยืนมองอยู่หน้าประตูรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันทีที่อูยองทำท่าจะล้มลง เขาถะหลาเข้าใส่อูยองทันที  

    ไม่รู้ว่าทำไมต้องรีบวิ่งมารับคนๆนี้ อยู่ๆจิตใต้สำนึกก็บอกให้เขาทำ

    ''นะ...นายเป็นอะไร
    ?''

     นิชคุณที่รับอุยองไว้ได้ทันตอนนี้ทั้งคู่กำลังล้มลงนอนอยู่บนเตียง ด้วยจังหวะที่อูยองกำลังจะล้มแล้วนิชคุณวิ่งเข้ามารับทันทีทำให้แรงเหวี่ยง เหวี่ยงอูยองกับนิชคุณลงบนเตียง

    ท่าที่ค่อมคนน้องอยู่คงไม่ดีนักถ้าหากคู่หมั่นจะขึ้นมาเห็น
    นิชคุณอึ้งไปในทันที เหมือนเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้น
    ทำไมไม่รู้สึกเหมือนพวกผู้หญิงคนอื่นๆ.... กับจุนซูก็ไม่เคย
    แต่ทำไมกับคนที่เขาบอกว่าเกลียด เขากลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่
    ยากจะอธิบาย







    -----------------------------------------------------------------------------------



    ''นี้มันนานแล้วน่ะ! ทำไมไอ้อูยองมันยังไม่ออกมาอีกเนี่ย!!''

    จุนซูทำเสียงจิจ๊ะ รู้สึกว่าสองคนนั้นจะคุยกันนานไปแล้ว

    ''เชิญนายยืนรอต่อไปเถอะ!!!''

    จุนซูพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปในบ้าน เขากลัวว่าสองคนนั้นจะ.....จำได้!!!  

    ''ฉันจะขัดขวางนายให้ถึงที่สุด ข้ามฉันไปได้ก็ลองดู!!''

    แทคยอนกระโดดข้ามรั้วบ้าน ก่อนที่มือจุนซุจะแตะกับประตูบ้านสะอีก จุนซูเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและทำท่าจะวิ่งเข้าไป

    ''ถอยไป! ฉันต้องไปตามไอ้อูยองลงมา ''

    จุนซูตะโกนใส่แทคยอนที่ตอนนี้ยืนเป็นเสาขวางเข้าอยู่

    ''ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกเจ็บนิดหน่อย ที่สองคนนั้นได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่มาคิดดูอีกที ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้เล่นเกมวิ่งไล่จับกับนาย''

    แทคยอนยักคิ้วใส่จุนซุ สีหน้าที่ยียวนกวนประสาททำให้จุนซุโมโห

    ''ไอ้บ้าแทคยอน!แกถอยออกไป ฉันไม่อยากเล่นเกมบ้าบอกับนาย ถอยไป!!ฉันจะไปลากมันลงมา สองคนนั้นจะอยู่ด้วยกันไม่ได้!!!''

    จุนซูตะโกนใส่หน้าแทคยอน

    ''ถ้าฉันปล่อยให้นายเข้าไป มันก็ไม่เรียกว่าขัดขวางล่ะสิ ''

    ''หุบปากของแกสะ! ''

    จุนซุตัดบท ก่อนที่เขาจะพยายามเดินผ่านตัวแทคยอน...แต่มันก็ไม่ง่ายเลย!!






    -------------------------------------------------------------------------------------



    เสียงหายใจที่เหนื่อยอ่อนของคนน้อง ทำให้คนพี่ตกใจ

    ''นะ..นายเป็นอะไร
    ? ''

    นิชคุณยังค่อมร่างคนน้องอยู่ เข้าถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนห่วงใย อูยองส่ายหน้าไปมา เขาได้แต่นอนแน่นิ่ง แรงจะลุกยังไม่มีเลย

    ''ถ้านายเป็นฉันในตอนนี้...นายจะทำเหมือนฉันหรือป่าว
    ? ''

    อยู่ๆนิชคุณก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงที่ดูเปลี่ยนไปทำให้อูยองงุนงง ยังไม่ทันจะได้แย้งข้อซักถาม กลีบปากเรียวของคนพี่ก็แตะปากของตัวเองเสียแล้ว

    อูยองทำได้แค่หลับตาลงอย่างช้าๆ ความรู้สึกที่ไม่ได้สัมผัสมาเกือบสองเดือน...ขอได้ไหม!ถ้าผมอยากจะเก็บรอยจูบนี้เอาไว้ปลอบใจตัวเองเวลาเหงา   ต่อจากนี้ไปผมจะต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีเขา ...ถึงผมรู้ว่าทำไม่ได้... แต่ผมก็จะพยายาม

    น้ำตาไหลลงข้างแก้มอีกครั้ง อูยองตัวสั่นเทาจนคนพี่สามารถสัมผัสได้



    นิชคุณเองก็ตกใจ

    ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครอื่น...
    แต่กลับเกิดขึ้นกับคนที่เขากำลังผลักไส...
    ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก...
    ทำไมริมฝีปากนี้ถึงได้รูปพอดีอย่างที่เขานึกคิด...
    ขะ...เขาเองก็จำมันไม่ได้ว่าเพราะอะไร
    ??

    นิชคุณรู้สึกปวดหัว เขาถอนจูบออกอย่างเสียดาย นิชคุณพลิกตัวไปอีกฝั่ง เขาบีบขมับแรงๆเผื่อว่าอาการปวดจะบรรเทาลงบ้าง

    อูยองลุกขึ้นนั่ง
    เขารู้ตัวดีว่าเวลาต่อจากนี้เขาควรทำตัวยังไง?




    ขอบคุณสำหรับจูบที่มีค่า...ผมจะไม่มีวันลืมมันแน่นอน

    อูยองคิดในใจทั้งๆที่มันควรจะเปล่งเป็นเสียงออกมา แต่เสียงกลับไม่เปล่งออกมาอย่างใจคิด ได้แต่พุดอยู่ในลำคอ ...ให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว

    อูยองลุกขึ้นยืน เขาลากกระเป๋าลงบันไดอย่างไม่รีบร้อน ทิ้งให้คนพี่นั่งกุมขมับตัวเองอยู่อย่างนั้น

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะเป็นคนแรกที่ถะหลาเข้าไปดูอาการ แต่ถึงตอนนี้นิชคุณคงไม่ต้องการเขาแล้ว คงจะต้องเป็น คิม จุนซู เสียมากกว่า
     



    ''ทั้งๆที่ผมอยากดูแลพี่เหลือเกิน แต่ผมก็ทำได้แค่มองอยู่ห่างๆเท่านั้น ตอนนี้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั้งเดิน ผมยังต้องบังคับให้มันทำ เพราะร่างกายของผมกำลังอ่อนแอ กำลังจะหมดแรงในไม่ช้า ขอร้องหล่ะ!ไม่ต้องจำผมได้ แต่แค่สนใจผมบ้างก็พอ!!!''

    อูยองคิดในใจพลางเดินลงบันได


    ''ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน??  ฉันคงไม่ได้คิดไปเองว่าสัมผัสเมื่อกี้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกผิวเผินของฉัน ตกลงมันยังไงกันแน่ เมื่อไหร่ฉันจะนึกหน้าคนๆนั้นออกสักที... ความรู้สึกเมื่อกี้เหมือนมันเคยผ่านมาแล้ว เหมือนฉันเคยทำมันซ้ำๆกับใครคนนึง แต่ฉันนึกไม่ออกว่าใครคนนั้นเป็นใคร??''

    นิชคุณนั่งกุมขมับตัวเองอยู่ข้างเตียง
    ใจจริงอยากจะลุกตาม...แต่อาการเจ็บที่ศรีษะยังไม่บรรเทา
    เขาเลยเลือกที่จะปล่อยอูยองไป





    ''อู..อูยอง''

     แทคยอนเอ่ยเรียกอูยองทันทีที่อูยองถือประเป๋าเดินลงมา

    ''แก...กว่าจะลงมาได้!!''

    จุนซูจ้องอูยองตาขวางก่อนจะวิ่งเข้าบ้านไป

    ''ปะ...เป็นอะไรหรอป่าว? ตกลงว่ามัน..จำนายได้ไหม? หือ? ''

    แทคยอนถามเป็นจังหวะเดียวกับที่กระเป๋าหลุดออกจากมืออูยอง นั้นทำให้แทยอนพอจะเดาได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น

    ''งั้นก็กลับบ้าน...หรือไม่ก็ไปอยู่บ้านฉัน!!''

    แทคยอนเดินมาลากกระเป๋าไปไว้หลังรถ ก่อนจะกลับมาดึงอูยองที่ไม่มีเรียวแรงขึ้นรถไป


    ตลอดการเดินทาง ไม่มีอูยองที่บ้าบอเหมือนแต่ก่อน มีแต่คนๆนึงที่ไม่มีสติ นั่งไม่รู้สึกรู้สา

    รถสปอร์ทจอดที่หน้าบ้านของอูยอง แทคยอนจะลงไปเปิดประตูรถให้ แต่อูยองกลับเปิดมันออกเอง

    แทคยอนจึงเดินไปหยิบประเป๋าหลังรถให้แทน

    '' ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม?...ฉันไม่กล้าปล่อยให้นายอยู่คนเดียวเลยจริงๆ ''

    แทคยอนลากกระเป๋ามาวางไว้หน้าบ้านปากก็พรางพูดไปเรื่อย

    แล้วอยู่ๆอูยองก็เดินมากอด

    ''แทค...ฉันกำลังเจ็บปวด กำลังทรมานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เป็นเพราะฉันเอง...ฉันเอง''

    อูยองกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เหมือนว่าแทคยอนจะเป็นคนที่เขาพึ่งพาได้มากที่สุด

    ''ถึงตอนนี้...นายคือเพื่อนที่ดีที่สุด นายสามารถฟังความลับของฉันได้แล้ว มันเป็นความลับสุดยอดของฉันเลยน่ะ แต่เพราะนายสนิทกับฉัน ฉันถึงยอมบอกนาย''

    อูยองพูดเหมือนคนเป็นบ้า...เขากำลังจะเป็นเหมือน
    คนบ้า

    ''พอเถอะอูยอง...นายคงอยากพัก มา!เดี๋ยวฉันพาเข้าไป  ''

    แทคยอนทำท่าจะคลายกอด แต่อูยองกลับไม่ยอมปล่อย

    ''นายเหนื่อยมามากพอแล้ว...นายกลับไปเถอะ ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันน่ะ...ฉันขอเวลา...อีกไม่นานฉันจะกลับไปเป็นคนเดิม คนเดิมที่นายรู้จัก   ไปน่ะ! ''

    อูยองคลายกอดออกจากแทคยอน เขาหันหลังให้แทคยอนก่อนจะลากกระเป๋าเข้าบ้านไป  
    ดูเหมือนแทคยอนจะเป็นคนเดียวในตอนนี้ ที่อูยองรู้สึกว่าพึ่งพาได้
    จะมีแค่เพื่อนคนนี้ที่จะทำให้อูยองสบายใจ

    อูยองเดินเข้าไปในบ้านแล้ว แต่แทคยอนก็ยังไม่กลับ
    เขาไม่กล้ากลับไป...กลัวว่าอูยองจะคิดทำอะไรบ้าๆเหมือนครั้งที่แล้ว...เขากลัวจริงๆ 




    ----------------------------------------------------------------------------



    ''อ้าว! อูยองกลับมาเอาอะไรลูก พี่เขาว่ายังไงบ้าง?''

    แม่ของอูยองทักทันทีที่เห็นหน้าลูก

    อูยองไม่ตอบ ได้แต่เดินขึ้นบันไดไปอย่างช้าๆ เขาค่อยๆลากกระเป๋าขึ้นไปบนห้อง และนั้นก็ทำให้แม่ของอูยองโวยวาย

    ''อูยอง...ลงมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้น่ะ เอากระเป๋ามาทำไม ใครใช้ให้แกออกมาจากบ้านหลังนั้น   ไม่รู้หรือไงว่าเด็กจุนซูนั้น  กำลังจะมาแย้งสามีลูกไปนะห่ะ!!!''

    นั้นทำให้อูยองหยุดฝีเท้า เขาทรุดตัวลงไปนั่งตรงขั้นบันได น้ำตาพาลจะไหลออกมาทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของจุนซูกับนิชคุณ

    ''เขาจำแกไม่ได้...แกก็ต้องทำให้เขาจำแกได้สิ   ไอ้ลูกโง่!!!''

    แม่ตะโกนดังขึ้นทุกที แม้แต่บ้านจุนโฮที่อยู่ข้างๆก็ยังได้ยินชัด

    ชานซองที่นั่งอยู่บนโซฟา เดินขึ้นไปหาอูยองทันที
    สภาพพี่ชายของเขาเหมือนคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า น่าสมเพชจริงๆ

    ''แม่อย่าว่าพี่ได้ไหม? ผมฟังแล้วมันหนวกหู''

    ชานซองเดินขึ้นบันไดพรางพูดไปด้วย เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอูยอง ค่อยๆนั่งลงแล้วกอดพี่ชายตัวเองไว้แน่น อันที่จริงเขาก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่เพราะตอนนี้จิตใจของพี่ชายย้ำแย่จริงๆ

    ''ก็พี่แกมันโง่...เขาจำไม่ได้ แทนที่จะพยายามทำให้เขาจำได้ แต่พี่แกกลับเก็บข้าวเก็บของหนีออกมา กะ...''

    ''แล้วแม่จะให้ผมทำยังไง...ในเมื่อเขาไม่ให้ผมอยู่...มะ..แม่จะให้ผมหน้าด้านอยู่ต่อหรือยังไง...ในเมื่อเขาเป็น..คะ..คนไล่ผม...แม่จะให้ลูกชายของแม่ขาดใจตายเลยหรือไง...ทำไมไม่มีใครเข้าใจผมบ้างเลย..วะ..ว่าผมพยายามมากแค่ไหน..ทำไม..มะ.แม่ต้องซ้ำเติมผมด้วย...แค่นี้ผมก็เจ็บปวดมากพอแล้วน่ะ!!!''

    อูยองตะโกนทั้งๆที่ชานซองยังกอดปลอบอยู่

    ''นิพี่!มีสติหน่อยสิ ผมว่าพี่คิดมากไปน่ะ''

    ชานซองพูดกับอูยอง

    ''ใช่! ฉันคิดมาก...ไม่มีใครช่วยฉันคิดได้หรอกน้องรัก..ฉันคงต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ...คงต้องทรมานแบบนี้ไปเรื่อยๆ..อย่าห่วงเลย...พี่ชายของนายเก่งจะตายไป...ไม่มีอะไรทำร้ายพี่ชายของนายได้หรอก ''

    อูยองลูบหลังน้องชายตัวเอง เขาค่อยๆลุกขึ้นแล้วลากกระเป๋าเข้าห้องไป

    คำพูดเมื่อกี้ทำเอาชานซองนิ่งเงียบ พี่ชายของเขาคงจะเจ็บปวดมากจริงๆ
    ทำไมถึงพูดจาเหมือนคนไม่มีความรู้สึกแบบนั้น
    แล้วน้ำเสียงที่เย็นชานั้นอีก
    ตอนนี้พี่ชายของฉันน่ากลัวจริงๆ

    ชานซองค่อยๆลุกขึ้น เขาเดินลงบันไดไป ตอนนี้แม่ก็อึ้งอีกคน พ่อก็เป็นไปด้วย คงเพราะพี่พูดเมื่อกี้ถึงทำให้พ่อกับแม่นิ่งเงียบ

    ''แม่ครับ..พ่อครับ!อย่าคิดมากเลย  ไม่เห็นต้องง้อเขาเลย  ให้พี่เรากลับมาอยู่บ้านก็ดีแล้ว ในเมื่อถ้าพี่เราอยู่กับเขา เราเองก็ไม่รู้...ว่าเขาจะทำอะไรพี่เราบ้าง เพราะเขาจำพี่เราไมได้ ก็ดีแล้วนิครับแม่ ที่พี่กลับมาอยู่ใกล้หูใกล้ตาเรา''

     ชานซองพูดดีเป็นครั้งแรก
    คำพูดที่สมเหตุสมผลทำให้แม่ของเขาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์

    หูโทรศัพท์ถูกยกขึ้นในทันที
    แม่กดต่อสายถึงใครบางคนที่ชานซองเองก็กำลังนึกถึงอยู่




    ''ฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายของเธอ ทำอะไรลูกชายฉันอีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีความปรองดองระหว่างเรา ขอให้นึกไว้ว่าที่เราต้องแตกหักกันแบบนี้ เป็นเพราะลูกชายของเธอ ''

    แม่ของอูยองใส่เป็นชุดทันทีที่ปลายสายกดรับ

    ''อะไรน่ะค่ะ...คุณ!คุณทำอะไรอูยองงั้นหรอ?''

    แม่ของนิชคุณตอบกลับแบบงงๆ

    ''ลูกชายของเธอ...สั่งให้ลูกชายฉันเก็บข้าวของแล้วไล่ออกมา ลูกชายฉันเสียสติก็เพราะลูกชายของเธอ  รู้ไหมว่าลูกฉันร้องไห้หนักแค่ไหน แต่ตอนนี้ลูกชายของเธอคงกำลังเริงระรื่นอยู่กับเพื่อนรักสิน่ะ!!''

    ''คะ..คุณ!ไล่น้องออกจากบ้านงั้นหรอ? เป็นไปไม่ได้!!''

    ''ฉันไม่สนว่าเธอจะรู้หรือไม่รู้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ลูกชายของเธอทำเกินไป จากนี้ครอบครัวของฉันกับเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก''

    แม่ของอูยองพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที

    ''ฮะ...ฮัลโหล...ฮัลโหล!''

    แม่ของนิชคุณวางโทรศัพท์ลง

    เขาตั้งใจจะโทรหาลูกชายตัวดี แต่เจบอมก็ขวางไว้สะก่อน

    ''อย่าพึ่งโทรเลยครับแม่!!ให้ไอ้คุณมันรู้ด้วยตัวมันเอง...ว่ามันทำอะไรลงไป ''

    เจบอมพูด พ่อกับแม่จึงยอมฟัง





    ปัง ปัง ปัง!!!

    ''อูยอง...ออกมาคุยกับแม่หน่อยสิลูก แม่ขอโทษที่ว่าลูก ออกมาคุยกับแม่เถอะน่ะ!''

    แม่ของอูยองทุบประตูซ้ำๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอูยองจะเปิดออก แม่ของอูยองเคาะประตูอยู่นาน ก่อนจะยอมแพ้แล้วเดินลงไป


    ภายในห้อง

    อูยองนอนอยู่บนเตียงนุ่ม เขาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ ร่างกายสั่นเทาจนน่ากลัว ดวงตาเป็นประกายกำลังมองแหวนในนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง จิตใต้สำนึกพรางนึกถึงวันเก่าๆ



    ''พามาทำไม?''

    ''ก็อยากซื้อแหวนคู่...อยากใส่กับนาย!''

    ''ก็แหวนแต่งงานที่บ้านไง จะซื้อทำไมอีก''

    ''ก็วงนั้นเราทั้งคู่ไม่เต็มใจนี่หน่าาา''

    ''แล้วมันเกี่ยวกับซื้อแหวนใหม่ตรงไหน?''

    ''ก็เราเข้าใจกันแล้ว แหวนคู่อันนี้ก็จะเป็นของแทนใจเรา 2 คนไง!''




     
    นึกถึงเรื่องพวกนี้ จิตใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกแย่ น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว  



    ''ฉันอยากสลักชื่อนายกับฉันลงไปในนี้ด้วย!''

    ''จะสลักตรงไหน? ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวไม่สวย''

    ''ก็ไม่ได้สลักด้านนอกสักหน่อย อยากสลักไว้ด้านในต่างหาก!''

    '' แล้วมันจะเห็นได้ยังไงว่าเป็นตัวอะไร สลักก็เหมือนไม่สลักอยู่ดี''

    ''ก็อยากถอดออกมา...แล้วเห็นชื่อของนายนิ!''



    ความทรงจำหลั่งไหลมาเรื่อยๆ มือขวาของอูยองค่อยๆถอดแหวนออก เขามองเข้าไปด้านในของแหวน ชื่อคนรักของเขายังคงติดอยู่ในนั้น อูยองยิ่งปล่อยโฮหนักกว่าเดิม

    เมื่อเห็นว่าตอนนี้เขามีเพียงแหวนวงเดียวที่จะทำให้ตัวเขาเองเชื่อว่า เขาเคยเป็นของใคร  ชื่อเจ้าของร่ายกายเขาติดอยู่ในแหวนวงนี้ แต่ต่อจากนี้คงใส่มันไม่ได้อีกแล้ว เพราะดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าของของนิชคุณอีกต่อไป

    ''ผมคงทำได้แค่มอง...มองแหวนวงนี้ไปเรื่อยๆ''

    อูยองเก็บมันไว้ในลิ้นชักหัวเตียง



















    ''ผมจะเก็บมันไว้อย่างดีที่สุด...เผื่อวันนึง...พี่จำผมได้...ผมจะใส่มันอีกครั้ง!!!''

     

    **********************************************

    100 % ล่ะน่ะ     
     
    ตอนแรกก็กะจะต่อตอน 5 ทุ่มของเมื่อคืนอ่ะแหละ
    แต่เพราะคุณหญิงแม่ต้องการจะดู Cinderella sister's ไรเตอร์ก็เลยต้องปล่อยเลยไป
    แต่ตอนนี้ก็ต่อให้แล้ว ถ้าทำการบ้านเสร็จเร็วจะต่อให้อีกตอนน่ะจร่ะ

    มีรีดเดอร์หลายคน เม้นได้เข้มข้นแล้วน่ารักมากกกกกก
    หวังว่าจะยังคงติดตามแบบนี้ต่อๆไปน่ะจร่ะ

    รักน่ะ จ๊วบๆ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×