คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1
บทที่1
ทันทีที่ได้ฤกษ์ยาม ‘คุณนายถนอมศรี’ก็ให้คนขึ้นไปตามเจ้าสาวลงมาเพื่อเข้าพิธี ข้างๆคือหนุ่มรูปหล่อ คมเข้มตามแบบฉบับหนุ่มไทย แต่แววตากับบอกความเจ้าชู้ทรงเสน่ห์เป็นอย่างดี ผิวพรรณดูดีอย่างลูกผู้ดีมีเงิน ติดจะขาวเพราะทำงานแต่ในร่ม ประณต สิริทรัพย์เจริญ หนุ่มหล่อทรงเสน่ห์ที่สาวๆทั่วทั้งประเทศต่างหลงใหล นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมสิรินธารา และธุรกิจในเครือ‘สิริทรัพย์’อีกกว่านับสิบไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ ส่วนที่นั่งคู่นั้น คือ พ่อเลี้ยงสิริ สิริทรัพย์เจริญ สามีของ คุณนายถนอมศรี ดูก็รู้ว่าเชื้อเจ้าชู้ไม่ทิ้งแถวแน่ๆเพราะแม้ว่าวัยจะล่วงเลยเข้ามาเลข5 แล้วแต่ประกายเจ้าชู้ในแววตากับไม่ได้ลดลง หากแต่กลับเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
คุณนายถนอมศรี นั่งรอด้วยความกระวนกระวาย ระหว่างรอว่าที่ลูกสะใภ้ ที่ท่านเลือกเองกับมือ ทำไมถึงเป็น ปรางนารา หรือ ง่ายมาก เด็กคนนี้คือภาพสะท้อนของท่านเมื่อสมัยเป็นสาวๆไง และลูกชายของท่านเองก็มีนิสัยมาทางพ่อเยอะซะจน ไม่มีส่วนไหนเหมือนแม่เลยดังนั้นจะหา คนมาจับปลาไหลมันก็ต้องเลือกในแบบที่ ดุเด็ดเผ็ดมันสิถึงจะสนุก และความคิดของคุณนายก้ต้องสะดุดลงเมื่อ คนที่ท่านรอลงมาแล้ว สวย! เหมือนๆท่านจริงๆ
นี่หน่ะหรือ ยัยหนูน้องปรางที่คุณแม่ว่า สวยเหรอ ไม่! ตรงไหนที่คุณแม่บอกว่าสวยเนี่ย เอาอะไรดูครับคุณแม่
ปรางนาราดูจากสายตาของประณตก็รู้แล้วว่าอีตาหนูขี้หลี คิดอะไร คงคิดว่าชั้นไม่สวยหล่ะสิย่ะ ถ้าชั้นไม่สวยมันไปหนักตรงส่วนไหนของนายไม่ทราบห่ะ
“สวยๆจริงๆยัยหนูน้องปราง มาเร็วๆ มาเข้าพิธีเร็วเดี๋ยวจะเลยฤกษ์กันพอดี”ไม่ว่าเปล่าคุณนายถนอมศรีก็จัดแจงพา ปรางนารามาเข้าพิธีทันที
พิธีการดำเนินผ่านไปอย่างเรียบง่ายลดน้ำสังข์ พร้อมรับคำอวยพร ใช่ง่ายนิดเดียว แต่ทำไมมันถึงต้องใช่ความพยายามอย่างมากนะ ในการที่จะทนนั่งข้างอีตาหนูขี้หลีนี่!
“ยัยหนูน้องปรางจ๊ะ” แม้น้ำเสียงจะฟังสุภาพ แต่ปรางนารารู้ว่าเจ้าของนั้นต้องพยายามอย่างมาในการที่จะประดิษฐ์คำพูดออกมา เสแสร้งจริงๆ!
“มีอะไรก็พูดมา อีตาขี้หลี ชั้นรู้ว่านายแกล้งไม่ต้องมาเสียเวลา จ๊ะจ๋าจะอ้วก” ให้มันรู้ซะบ้าง โอ้ยแล้วนี่เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย น่ารำคาญจริงๆเลย ความหงุดหงิดต้องชะงักเมื่อคู่สนทนาตอบกลับมา
“ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เอาตรงๆเลยนะ เธอคิดยังไงถึงได้ตกลงแต่งงานกับชั้นห่ะ” ประณตถามพร้อมฉีกยิ้มทรงเสน่ห์โปรดปรายไปรอบๆขณะถาม
“ชั้นโดนบังคับ แกสิตอบตกลงทำไม” ปรางนาราตอบกับพร้อมฉีกยิ้มแจกบ้าง
“เหตุผลเดียวกัน แต่เอ๊ะเธอแน่ใจนะว่าโดนบังคับ ไม่ได้แอบหลงรักชั้นอยู่ก่อนแล้วมาอ้างว่าคุณแม่บังคับ”
“แกสิหลงรักชั้น ไอ้ขี้หลี”อ้ายหลงตัวเองสิ้นดี คนบ้าอะไรเนี่ย
“ยัยบ้า ใครหลงรักเธอ คงโง่ที่สุดในโลกแล้ว” ยัยบ้าเอ้ย เอาอะไรคิด คนอย่างชั้นไม่มีทางชอบเธอหรอก จบแล้วในที่สุดก็จบซะที เสร็จแล้ว ประณตคิดเมื่อเห็นว่าคุณแม่ได้พาผู้ใหญ่ออกไปรับประทานอาหารกลางวัน แต่เอ๊ะ ไอ้เขต มันมาทำไม ทันทีก็ได้คำตอบเมื่อคิดได้ว่า ทรงเขต คือนายอำเภอที่คุณแม่เค้า ไปตามตัวมาเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ในการจดทะเบียนสมรสกับ ยัยหนูน้องปราง ซวยๆๆๆๆที่สุดในโลก
“มาแล้วเหรอพ่อทรงเขต มาๆนั่งก่อนแล้วไหนเอกสารหล่ะ” เอาแล้วยัยคุณนายแม่ ทำอะไรเนี่ย ไม่นะ พี่เขตมา ก็หมายความว่าชั้นกับอีตาหนูขี้หลีนั้นก็ต้อง ม้ายยยยยยยย
“นี่ครับคุณนายแม่ ผมเตรียมมาเรียบร้อยแล้วครับ” ทรงเขตยื่นเอกสารให้คุณนายแม่ พร้อมกับสอดส่องหาคู่บ่าวสาวทันที ไวเท่าความคิดปากเจ้ากรรมก็ดันถามไปทันที
“และไอ้ณต กับ ยัยหนูน้องปรางหล่ะครับ”
“อ้อ เดี๋ยวแม่ให้คนไปตามนะ แป๊ปเดียวลูกพ่อเขต รอแป๊ปนะ ” ยังไม่ทันที่คุณนายจะให้คนไปตาม ประณตก็เดินเข้ามาพร้อม ปรางนาราอย่างรู้หน้าที่
“ไม่ต้องครับ คุณแม่ผมกับยัยหนูน้องปรางมาแล้วครับ”
“อืม รีบรึไงพ่อณต”ว่าพรางกระเซ้า ลูกชายเล่น ไหนบอกไม่อยากแต่งไง
“ครับ รีบมาก ผมอยากให้มันจบๆ ซะที ไหนครับมาผมจะได้รีบเซ็นจะได้รีบขึ้นไปพักซะที”
“ใช่ค่ะอยู่ไหนพี่เขต ปรางเบื่อจะแย่แล้วไหน จะได้รีบๆเซ็นซะที”
ไม่พูดเปล่าปรางนารายังฉกฉวย เอกสารทะเบียนสมรสมาจากมือคุณนายถนอมศรี และหันมาทางทรงเขตพร้อมออกคำสั่งด้วยสายตาว่า ‘เอาปากกามาซิ’ เหมือนนกรู้ทรงเขตรีบส่งปากกาให้ทันที เมื่อได้รับปากกามาแล้วปรางนาราไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย รีบตวัดเซ็นชื่อลงทัน จบแล้ว
ประณตเมื่อเห็นว่าปรางนาราเซ็นเสร็จก็รีบ เซ็นต่อทันที ในที่สุดก็เสร็จจนได้ เย้
“เดี๋ยว ตาหนูแม่มีเรื่องจะคุยกับเรา อ้อ เราด้วยยัยหนูน้องปราง” คุณนายถนอมศรีรีบทักท้วงทันควันเมื่อ เห็นว่าลูกชายและ ‘ลูกสะใภ้’หมาดๆ ทำท่าว่าจะหนีท่านไป เรื่องอะไรจะให้ไปง่ายๆ ไม่ใช่คุณนายถนอมศรีซะหรอก
“อะไรอีกหล่ะ...เอ่อ...ค่ะ คุณนายแม่” ‘ยัยแม่มด’เธอต้องการอะไรอีก ให้ตายเหอะบ้านนี้นี่มันบ้าอำนาจกันหมดรึไง
“ยัยหนูปราง อะไรกัน คุณนายม่งคุณนายแม่อะไร ดูห่างเหินชอบกล เรียกคุณแม่ตามตาหนูสิ”ยัยแม่มด บ้าอำนาจ โอ๊ยเมื่อไหร่เรื่องนี้มันจะจบๆซะทีเนี่ย!
“ค่ะ คุณแม่” ได้แค่คิดเท่านั้น แกได้แต่คิดเท่านั้น ปรางหนอปรางทำไมแกต้องมาเป็นเบี้ยล่างยัยแม่มดนี้ด้วย
“อืม ดีแล้วลูก อ้อเมื่อกี้แม่ไม่ได้สังเกต ลูกไม่ได้ใส่แหวนหมั้นหนิ”นั่นไงชั้นอุตส่าห์พยายามไม่ให้เห็นแล้วนะ ตาไวชะมัด! เฮ้อ ปรางนาราทำไงดี คิดสิคิดคิด อ้ายชั้นจะบ้าตาย
“เอ่อ...ปราง...เอ่อ...อ้อ ปรางถอดออกค่ะคือว่ามันหลวมปรางกลัวว่าถ้าใส่ไปใส่มาเดี๋ยวมันจะหลุดเลยถอดเก็บไว้ดีกว่า เสียดายแย่ถ้าหาย ของตั้งแพงหนิค่ะ” นั่นแหละแก้ตัวได้ทุเรศมากปรางนาราเอาอะไรคิดเนี่ย ยัยโง่
“หืม แหวนวงนั้นแม่ให้ทำใหม่ไม่ใช่เหรอ จะหลวมได้ไงเมื่อวันก่อนงานแม่ก็ให้ช่างเค้ามาดูความเรียบร้อยอีกทีแล้วไม่ใช่เหรอ เอ๊ะรึว่าช่างทำงานไม่เรียบร้อย สงสัยคงต้องโทรไปตักเตือนหน่อยและ”ว่าพลางคุณนายถนอมศรีก็หยิบโทรศัพท์เตรียมโทรไป ‘เฉ่ง’ ช่างทำแหวนทันที
“อย่านะค่ะ!”ไวเท่าความคิดปรางนาราก็พุ่งตัวไปรวบมือคุณนายถนอมศรีทันที “ปรางผิดแองแหล่ะค่ะพอดีว่าวันนั้น ปรางยุ่งๆเลยให้พี่เค้าวัดลวกๆไป อย่าไปว่าพี่เค้าเลยนะค่ะ” ใช่สิถ้าโทรไปยัยแม่มดได้รู้แน่ว่าเธอ โกหก แหวนหน่ะไม่ได้หลวมหรอก แต่เธอนี่แหล่ะจงใจทำให้มัน ‘หลวม’เอง
“ยัยปราง! ทำไมทำแบบนั้นเหล่า โอ๊ยเด็กดื้อ ชั้นจะเป็นลม” อะไรกันทำไมลูกสะใภ้ท่านถึงได้เหมือนท่านขนาดนี้นะ คิดหรือว่าท่านมองไม่ออกว่าปรางนารา ‘ตั้งใจ’ ไม่สวมแหวนหมั้น แผนตื้นๆแบบนี้ใครก็ดูออก ท่านสังเกตตั้งแต่เริ่มงานแล้วว่าลูกสะใภ้ไม่ได้สวมแหวนหมั้น แต่ก็ยังทำเฉยไว้ก่อนเพื่อจะดูว่าจะแก้ตัวว่ายังไง ก็ไอ้แผนเนี่ยท่านก็เคยใช้เมื่อสมัยเป็นสาวๆ แล้วนี่จะบอกว่าปรางนาราไม่ใช่ภาพสะท้อนของท่านได้ยังไง แค่คิดก็สนุกแล้ว กระหยิ่มยิ้มย่องกับตัวเองสักพักจึงตอบกลับไปว่า
“เอ้า ครั้งนี้แม่ยกให้ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปหล่ะก็โดนแน่” เฮ้อรอดไปยัยปราง จำไว้เลยนะว่ายัยแม่มดเนี่ยตาไวสุดยอด
“คุณแม่มีอะไรจะคุยกับผมครับ” มัวแต่คุยกับยัยหนูน้องปรางจนเพลินลืม ผมแล้วใช่ไหมเนี่ย
“อ้อ แม่ก็ลืมเราสนิทเลยตาหนู”นั่นไง ลืมเค้าแล้วจริงด้วย
“แม่จะเตือนเราว่าอย่าลืมพยายามทำความคุ้นเคยกับ ‘น้อง’ให้สนิทกลมเกลียวก่อนงานเลี้ยงคืนนี้ด้วย และก็อย่าลืม ‘สัญญา’ที่ให้กับแม่ด้วยหล่ะ” จะบ้ารึไงยัยแม่มด ให้ชั้นกับตานั่นรักใคร่สนิทกลมเกลียวอีตาหนูขี้หลีนี้ก่อนงานเลี้ยง อีก5ชั่วโมง คงเป็นไปได้หรอก เอ๊ะแล้วนี่ยัยแม่มดมีแผนอะไรเนี่ย สัญญงสัญญาอะไร อีกเล่า เรื่องมากจริงๆเลย
“ครับ ผมจะพยายาม แต่ถ้าเรื่องสัญญา ผมไม่รับประกันว่าจะทำได้นะครับเพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของยัยหนูน้องปรางด้วยว่าจะเต็มที่ได้แค่ไหน” อะไรกันสัญญาอะไรเนี่ยความร่วมมือของเธอ เรื่องอะไรกันที่เธอต้องให้ความร่วมมือ รึว่า...เฮ้ย! ไม่นะ
“เอ้าออกไปได้และแม่หมดธุระจะคุยกับพวกเราแล้ว”หึหึ น่าสนใจจริงๆ เอ้ามาลองดูกันสักตั้งว่ายกนี้ใครจะชนะ ลูกชายท่าน หรือลูกสะใภ้หมาดๆคนนี้
ทันทีที่คุณนายถนอมศรีเอ่ยปากให้ออกไปได้ ปรางนาราก็แทบจะวิ่งติดจรวดออกจากห้องทันที ส่วนประณตแม้จะไม่รีบร้อนเท่าแต่ก็แสดงออกอย่างเต็มที่ว่ายินดีปรีดาที่สุดที่จะได้หลุดพ้นจากสถานการณ์นี้เต็มทน ส่วนทรงเขตที่นั่งสังเกตการณ์ตั้งแต่ต้นนั้นก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณกับคุณนายถนอมศรีไปโดยปริยาย
“เดี๋ยวยัยหนูน้องปราง” ประณตยั้งไว้เมื่อเห็นว่าปรางนาราทำท่าจะวิ่งหนีขึ้นข้างบนทันทีที่พ้นเขตห้องนั่งเล่น ทั้งๆที่แขกเหรือก็นั่งกันอยู่อย่างมากมาย
“อะไรของนายอีก รีบพูดมา ก่อนที่ชั้นจะหมดอารมณ์คุย”เรื่องอะไรอีกหล่ะเนี่ย รึว่าเรื่องนั้น
“เรื่องสัญญาของคุณแม่หน่ะเธอจะให้ความร่วมมือชั้นได้แค่ไหน” ฮ่ะ อีตาบ้าไม่มีวันซะหรอก หัวเด็ดตีนขาดยังไงชั้นก็ไม่มีวันมอบ ‘มัน’ ให้นายหรอก ไม่ได้รักไม่ได้ชอบใครจะไปยอม อีตาหื่นเอ้ย
“ไม่มีทาง โอกาสที่ชั้นจะให้ความร่วมมือกับนายหน่ะเป็นศูนย์ หรืออาจเป็นติดลบแบบอินฟินิที้เลยก็ได้”
“มันจะอะไรกันนักหนาฮ่ะกะอีแค่ให้ความร่วมมือแค่เนี่ย ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย”
“ไม่เสียหายกล้าพูดเนอะ ตัวเองมีแต่ได้กับได้ ส่วนชั้นน่ะมีแต่เสียกับเสีย บวกลบคูณหารยังไงชั้นก็มีโอกาสเสียมากกว่าได้เห็นๆ”
“กะอีแค่ยอมจดทะเบียนสมรสกับชั้นแค่3เดือน! เพื่อพิสูจน์ให้คุณแม่เห็นว่าจริงๆแล้วเราสามารถอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ได้แค่เนี่ยมันเสียหายมากนักรึไง!”โอ้ยยัยหนูน้องปรางทำไมเธอถึงได้เรื่องมาขนาดนี้ห่ะ
“ฮ่ะ อะไรนะ จา..จะ..จดทะเบียนสมรสกับนาย3เดือน เรื่องนี้เหรอ”
“อืมใช่ คิดไปเรื่องไหนเนี่ย” แค่จดทะเบียนเสียหายตรงไหน คิดอะไรไปไกลเนี่ยยัยหนูน้องปราง เอ๊ะ? เฮ้ย! ยัยบ้านี่คิดว่าชั้นจะ... โอ๊ยเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย แค่หน้าตาก็ไม่ผ่านเทสชั้นแล้ว จะให้ ...อึ๋ย... สยอง!
“เอ่อ...เอ่อ...ก็เรื่องทะเบียนสมรสนั่นแหละ ชั้นก็แค่ล้อเล่นเฉยๆ ที่จริงถ้าแค่3เดือนชั้นให้ความร่วมมือเต็มที่อยู่แล้ว”
“ก็ดี พูดอะไรไว้ก็อย่าลืมหล่ะ” พูดจบประณตก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบกับแรงปะทะข้างหน้า มันไม่แรงมากสำหรับชายหนุ่มที่ดูเจ้าสำอางแต่ออกกำลังกายเสมอหรอก แต่มันก็พอจะทำให้หญิงสาวรูปร่างบอบบางคนหนึ่งกระเด็นเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเค้าได้ไม่ยาก
“อ่ะ ขะ...ขอโทษค่ะ” เสียงเจ้าหล่อนหวานจับใจ แต่กับตะกุกตะกัก ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อพบว่าคนที่ช่วยเธอไว้นั้นคือใคร
“ไม่เป็นไรครับ เอ่อ คุณคือ”ประโยคที่แกล้งเว้นไว้เพราะต้องการรู้ชื่อเสียงเรียงนามของคนตรงหน้า
“สุดปรายฟ้า ค่ะ” สาวเจ้าของเสียงหวานใสตอบกลับพร้อมรอยยิ้มหวานจับใจ ตากลมโต ขนตายาวงอน รับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน และริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส ทรวดทรงองค์เอวกับอวบอัดพอดีตัวตามแบบผู้หญิงไทย
“ยัยปราย เดี๋ยวตาพี่ขึ้นไปข้างบนด้วยนะ” เสียงของบุคคลหนึ่งที่อยู่ในสถานการณ์นั้นด้วย บุคคลที่ประณตคิดว่าวิ่งขึ้นบันไดไปเรียบร้อยแล้ว ใช่เสียงของ ‘ปรางนารา’ นั่นเอง
“ค่ะ พี่ปราง”พูดจบร่างบอบบางในอ้อมแขนก็ค่อยๆปลดตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มตรงหน้า และเดินตาม ปรางนาราขึ้นไปอย่างหวาดกลัว โดยปล่อยให้ประณตมองตามขึ้นไปอย่างเสียดาย
ความคิดเห็น