คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สงครามเริ่มขึ้น
ฉันมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตี 5 เพราะงานเริ่ม 7 โมงเช้า โดยมาแต่งที่ห้องนาฏศิลป์ของโรงเรียน เมื่อฉันมาถึงก็พบว่ามีผู้มาพบชะตากรรมเดียวกับฉันด้วย แต่ดูพวกเขาจะเต็มใจกันทุกคน ยกเว้นฉัน!
“ใช่น้องแอนนิสใช่ไหมค่ะ” ผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งมาทักฉัน นี่ถ้าฉันจำไม่ผิดเค้าคือรุ่นพี่ที่จบไปไม่กี่ปีที่ผ่านมา เค้าเคยได้รับรางวัล มิสบิวตี้ฟูล ของโรงเรียนฉันด้วยแหละ
“ใช่ค่ะ หนูชื่อ แอนนิสค่ะ” ฉันตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้
“พี่ชื่อ แพรวานะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ค่ะ”
“เรามาเริ่มแต่งหน้ากันเลยไหมเพราะเรามาช้านะ” เมื่อพี่แพรวาพูดจบพี่เค้าก็เดินนำไปยังที่แต่งหน้าโดยเหลือว่างเพียงที่เดียว โดยที่ว่างนั้นมีช่างที่เป็นสาวประเภทสองนั่งรออยู่ ฉันเดินไปสวัสดีพี่เค้าก่อนที่พี่เค้าจะเติมแต่งหน้าฉันด้วยสารเคมีต่างๆ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
“สวยมากค่ะคุณน้อง”
“ขอบคุณค่ะ”
หน้าฉันถูกเติมนั้นเติมนี่จนเสร็จ ฉันรู้สึกเหมือนมีใครมากางร่มที่ตาของฉันเนื่องจากติดขนตาปลอม ฉันก็เดินมาส่องกระจกตรงกลางห้อง หน้าฉันมันไม่เปลื่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่ พี่คนนั้นโกหกรึเปล่า
“มาทางนี่สิจ๊ะ แอนนิส”พี่แพรวาเรียกฉันให้ไปทางห้องแต่งตัว ฉันดินตามไปโดยว่าง่าย
“นี่จ๊ะคือชุดที่หนูต้องเปลื่ยน”ฉันหยิบชุดขึ้มมาดูชุดเป็นชุดไทยสวยงามมีความประณีตในการทำมาก ฉันเดินไปเปลื่ยนชุดตามคำสั่งของพี่แพรวา
ห้องลองชุดเป็นห้องที่ติดกันสามห้องเป็นห้องแคบๆไม่กว้างมากและไม่แคบมาก ฉันใช้เวลา 5 นาทีในการเปลื่ยนชุด และเดินออกมาหน้าห้องเปลื่ยนที่มีพี่แพรวายืนรออยู่ เมื่อพี่แพรวาเห็นฉันก็ทำหน้าอึ้งๆ ประมาณว่า เธอสวยขนาดนี้เลย
“เป็นอย่างไงบ้างค่ะ” ฉัยถามไปเพราะพี่เค้ายังไม่หายอึ้ง
“สะ สวยมาก แอนนิสเธอสวยมากสวยจริงๆ” ทำไมมีแต่คนบอกว่าฉันสวยทั้งๆที่ฉันยังไม่เห็นความแตกต่างของตัวเองยกเว้นขนตาปลอมนั้น
“พี่พูดจริงๆนะ” พี่แพรวาเริ่มพูดเมื่อฉันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
“นิสเชื่อแล้ว(มั่ง)ค่ะ”
เมื่อฉันสนทนากับพี่แพรวาจบก็ได้ยินเสียง ครูอรสาซึ่งเป็นครูประชั้นของชั้นและรับผิดชอบงานนี้ดังขึ้น
“นักเรียนค่ะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงมารวมตัวกันเร็วๆค่ะ”
“เราไปกันเถอะครูเรียกแล้ว” เมื่อพี่แพรวาพูดจบเราก็เดินไปหาครูอรสาทันที
“เราจะเดินกันเป็นคู่นะค่ะ ครูจับคู่ไว้ให้แล้ว”
“อรชัยคู่กับจีรนันท์”
“ราเชนคู่กับเฟืองฟ้า”
“พงศกรคู่กับกาวรินทร์”
เอ๊ะ!เหลือเราสามคน คือฉันและผู้หญิงคนข้างๆฉันและผู้ชายอีกคน นั้นก็อาจจะแปลได้ว่าไม่ฉันก็เธอที่ไม่มีคู่ ไม่สิฉันต้องมีคู่
“จีรศักดิ์คู่กับ..” ญาณิศา ญาณิศา ญาณิศา
“อัยรดา” นั่นไม่ใช่ชื่อฉันงั้นก็แปลว่าฉันไม่มีคู่ไม่จริง ไม่จริง
“ครูอรสาค่ะ หนูไม่มีคู่ค่ะ” ฉันรีบยกมือถามอย่างร้อนรน
“เธอก็คู่กับพิชาญเมธไง”
“ไหนคู่ของผม” สิ้นเสียงครูอรสา ก็มีเสียงนุ่มทุ้มดังมาทันที
การปรากฏตัวของร่างสูงประมาณ 170 ขึ้นไป ผมสีน้ำตาลเข้มที่ซอยยาวถึงคอ ผิวขาวอมชมพู ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบจะดำ จมูกที่โด่งจนเหมือนลูกฝรั่ง ริมฝีปากบางเรียบสีพีชนั้นน่าดึงดูดชะมัด รวมๆเลยเขา
หล่อโครตตตต
คนบ้าอะไรหล่อชะมัดปากนิดจมูกหน่อยน่ารักเป็นบ้าหน้าตาเค้าเหมือนสวรรค์สรรค์สร้าง
“หน้าตาก็ดี เสียดายเตี้ย” เขาพูดพร้อยปลายตามามองฉันตลอดหัวจรดปลายเท้า ฉันไม่ได้เตี้ยสักหน่อยนายต่างหากสูงเกินไป ฉันชักจะเดือดแล้วนะ
“นี่ขนาดใส่ส้นสูง” ใจเย็น ใจเย็น มินนี่เธอใจเย็นๆ ทน ทน ทนต่อไป
“สงสัยที่บ้านไม่เคยให้ลูกกินนม” ว่าฉันฉันก็พอจะรับได้นะแต่นายดันไปว่าถึงที่บ้านที่ฉันรักว่าปรานดวงใจได้ แต่ไม่เป็นไร มินนี่ทน ทน ทนอีกนิด อีกนิด
“ไม่ว่าชะด้วย สงสัยจะจริง ยากจนนักอ่ะนี่เงินไปซื้อนมมากินซะนะจะได้โตไวๆ” เมื่อพูดจบเค้าจะหัวเราะอย่างสะใจ ฉันจะบอกให้นะความอดทนฉันก็มีขีดจำกัดนะยะ
“นายล่ะมีดีนัก! คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่นิสัยนี่สิเสียชะมัด! ที่บ้านไม่มีใครสั่งใครสอนรึไงว่าไม่ควรด่าสุภาพสตรีน่ะห่ะ และก็เก็บเงินของนายไปฝึกเรียนมารยาทเถอะ” ฉันด่าไปอย่างอารามณ์เสีย คนอย่างแอนนิสอ่ะนะใจเย็นดุจน้ำแข็ง แต่พอจะเดือดก็จะเหมือนน้ำที่ต้มกำลังเดือดนะ
“นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ รู้ไหมฉันเป็นใคร!!” นายนี่ก็เริ่มเดือดเหมือนกันแต่ใครจะไปยอม
“นายยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใครจึงต้องมาถามฉัน และฉันจะตรัสรู้กับนายไหม”
“เธอมัน!!!”
“พอได้แล้ว!!!!! หยุดเลยเธอสองคนโตกันขนาดนี้แล้วยังจะทะเลาะกันเป็นเด็กๆๆ”
“แต่เขาเริ่มก่อนนะค่ะ”
“ญาณิศาเธอเป็นคนที่ใจเย็นมากนะทำไมถึงได้ทะเลาะกับพิชาญเมธอย่างนี้” ฉันก้มหน้าอย่างสำนึกผิด แต่นายพิชาญมง พิชาญเมธนี่สิดันทำหน้าล้อเลียนฉันที่โดนครูอรสาด่า
“เธอก็เหมือนกัน พิชาญเมธเธอควรให้เกียรติ์ผู้หญิงนะ ทีนี้มาคืนดีกันซะ”
“ไม่มีวัน!!” ฉันและนายพิชาญเมธพูดพร้อมกันพร้อมจ้องหน้ากันอย่างอาฆาตแค้นกันมานาน จนครูอรสาถอดหายใจอย่างเหลืออดกับพวกเราทั้งสอง
“ดีเลยถ้าพวกเธอทะเลาะกันนักก็คู่กันเลย อยากทะเลาะก็ทะเลาะในงานเลย พอทะเลาะในงานประวัติพวกเธอก็จะเสียครูอาจารย์ก็ไม่ค่อยชอบหน้าเพราะเป็นเด็กไม่มีมารยาท เชิญ เชิญเลย”
ทั้งฉันและเขาต่างกัดฟันและฟังการชี้แจ้งเรื่องการเดินแบบในการนี้ เฮอะให้มันได้แบบนี้สิ ขอให้ความใจเย็นของฉันมีพอสำหรับงานนี้ด้วยเถอะ
เฮ้อ!!
ความคิดเห็น