คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แก้วเล่ห์เสน่ห์ร้าย [บทที่4]
บทที่ 4
“มา ขึ้นมาเร็ว” เสียงเรียกพร้อมสั่งดังอยู่ใกล้ๆ คินหันหลังกลับไปมองก่อนจะเห็นนลบุ้ยใบ้ให้นั่งซ้อนท้าย “เร็วเข้าก่อนที่ไอ้รุจมันจะตามเพื่อนคุณทัน” คินยืนเก้ๆกังๆมองซ้ายทีขวาทีไปๆมาๆอยู่ชั่วครู่แล้ววิ่งถลาไปข้างหน้าคว้าเอาหมวกกันน๊อคมาถือไว้
“ของใคร ยืนก่อนแล้วกัน” พึมพำกับตัวเองเบาๆกพร้อมกับกระโดดขึ้นรถสวมหมวกเรียบร้อยเสร็จสรรพ
“ทำอะไรของคุณ”
“อ้อ นี่นะหรอ เผอิญว่าผมเป็นพวกเคร่งนโยบาย เปิดไฟใส่หมวกแล้วชีวิตจะปลอดภัย” คินยิ้มจนตาหยี นลได้แต่ส่ายหน้าไปมาบึ่งรถออกแทบจะทันทีเล่นเอาคินคว้าหาที่จับแทบไม่ทัน
“นี่นาย โทรศัพท์นายดังตั้งนานแล้ว นายไม่ได้ยินหรือแกล้งไม่ได้ยิน” นุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อเธอไม่สามารถจะทนฟังเสียงเรียกเข้าของเจ้าเครื่องโทรศัพท์ที่ดังติดต่อกันมานานร่วมสิบนาทีได้อีก
“ผมขับไม่โทรฯครับ” แก้วหันมายิ้มทะเล้นให้เธอก่อนจะหันไปสนใจขับรถต่อปล่อยให้โทรศัพท์แผดเสียงร้องอยู่เช่นเดิม จนกระทั่งหญิงสาวที่นั่งข้างๆจำเป็นต้องหยิบมันขึ้นมาดูอย่างนึกรำคาญ
“ที่รัก” เธอพูดพร้อมกับจ้องใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม “ที่รักนายโทรฯมาเกือบจะยี่สิบสายได้แล้วนะ”
แก้วหันหน้ามาสบตาเธอ นัยน์ตาของเขาฉายแววฉงนเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์จากเธอแล้วก้มมองสายเรียกเข้าพลางยิ้มเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา “เธอก็รับสิ ฉันขับรถอยู่” เขายื่นโทรศัพท์คืนให้หน้าตาเฉยทำเอานุ่นเหวอไปเลยทีเดียว
“นายจะบ้าหรอ แค่นี้ฉันก็มีเรื่องมากพอแล้ว เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องหาเหามาใส่หัวอีกไม่ทราบ” นุ่นกดเงียบเสียง “แต่ก็เอาเหอะ จะรับหรือไม่รับนั่นมันก็เรื่องของนาย” นุ่นวางมันลง เบือนใบหน้าเรียวกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้าเช่นเดิม
ถนนที่ทอดยาวไกลออกไปเรื่อยๆ มีเพียงแสงไฟจากตัวรถและถนนข้างทางที่ทำให้ท้องถนนแห่งนี้ไม่มืดมากนัก นุ่นนั่งกระสับกระส่ายถอนหายใจแล้วหายใจเล่าจนแก้วต้องชำเลืองมอง เธอจึงพยายามนั่งให้นิ่งคิดหาวิธีที่จะทำให้ชายหนุ่มปล่อยตัวเธอลง และนั่นก็ทำให้เธอตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“นายคิดว่านายจะขับรถไปได้ไกลอีกสักแค่ไหน นายก็รู้นี่ นายไม่ใช่คนแถวนี้ เส้นทางหนีทีไล่นายแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำ จอดรถเถอะ เชื่อฉัน” เสียงที่พูดฟังดูจริงจังเรียกให้นัยน์ตาอีกคู่หันกลับมามอง แก้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้นอย่างไม่เข้าใจดูเธอจะวิตกกังวลเรื่องนี้เกินเหตุ
“มันไม่มีอะไรหรอกนา ทำไมต้องหนักใจมากขนาดนี้ อีกไม่นานก็เช้าแล้วฉันสัญญาว่าฉันจะพาเธอไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย” คำสุดท้ายยังไม่ทันได้ออกจากปากชายหนุ่ม เสียงบางอย่างกลับดังขึ้น ทำเอาชายหนุ่มตกใจคุมพวงมาลัยรถแทบไม่อยู่
“อะไร” นุ่นหันกลับไปมอง เธอเห็นแสงไฟจากรถด้านหลังสาดกระทบเข้ามา ใกล้เข้ามา “เมื่อกี้ เสียงอะไร”
“ปืน เสียงปืน” แก้วขบกรามแน่นเขาไม่รู้ว่าทำไมพวกนั้นถึงไล่ล่าเขาแทบเอาเป็นเอาตายถึงขั้นต้องใช้ปืน ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ นั้นเป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองของเขา
“จอดรถ” นุ่นตะโกนบอกแข่งกับเสียงปืน “ฉันไม่รู้ว่าทำไมหรอกนะแต่นายไม่ควรเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนา แค่คาดเข็มขัดนิรภัยให้ดีๆก็พอแล้ว”
“ไม่ ไม่ห่วงไม่ได้ ชีวิตนายอาจจะเป็นลูกเศรษฐีคนรวยสุขสบายใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆแต่สำหรับฉัน ฉันมีอะไรที่ต้องกลับไปจัดการ ฉันต้องอยู่” นุ่นจ้องตอบสายตาของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความสงสัย เธอทำเหมือนเขากำลังจะพาเธอไปตายอย่างนั้นแหละ “เพื่อครอบครัวของฉัน” ประโยคท้ายแผ่วลง นัยน์ตาที่ดูแข็งกร้าวอ่อนแสงลงเช่นเดียวกัน
แววตาและสีหน้าที่จริงจังทำเอาแก้วต้องละสายตาไปจากเธอ ลดความเร็วลงซึ่งเป็นจังหวะที่รถอีกคันโผล่พรวดเข้ามาขวางทางพร้อมกับเล็งปืนมาทางเขา
แก้วหักรถหลบพยายามควบคุมพวงมาลัยรถเท่าที่ทำได้ แสงไฟจากรถที่สาดไปเบื้องหน้าไม่ได้ช่วยให้เขามองเห็นอะไร เขาหันไปมองหญิงสาวที่กำสายเข็มขัดนิรภัยแน่น เธอจ้องตอบเขาแววตาตื่นตระหนก และนั้นทำให้เขาตัดสินใจปลดสายเข็มขัดนิรภัยตัวเองออกเอื้อมมือดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดกดศีรษะเธอลงกับอกกว้างสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วเพียงแค่ชั่ววินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง
นุ่นขยับตัวเมื่อทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว เธอค่อยๆดันตัวเองออกจากชายหนุ่มถุงลมนิรภัยทำให้เธอเคลื่อนไหวช้ากว่าปกติ เธอช้าแต่เขาไม่ขยับ
“นาย” เธอพยายามเค้นเสียงเรียกดันร่างของเขาให้ออกห่างจากถุงลมนิรภัย “ได้ยินฉันมั้ย” เธอตบหน้าเขาเบาๆ หรี่นัยน์ตามองไปรอบๆ สิ่งแรกที่เห็นคือรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนบนถุงลมนิรภัย เธอยกมือขึ้นจับบริเวณศีรษะแต่ไร้ร่องรอยบนศีรษะเธอไม่มีแม้แต่ความเจ็บปวดเธอไม่รู้สึกอะไรนอกจากความมึนชาและเวียนหัวเพียงเท่านั้น
นุ่นสะบัดหน้าสองสามทีขับไล่ความมึนงงทิ้งไป เธอหรี่นัยน์ตาไขว่คว้าหาร่างชายหนุ่มอย่างเบามือก่อนจะพยายามเรียกชื่อเพื่อให้เขารู้สึกตัวแต่แล้วมันกลับไร้ประโยชน์เมื่อชายหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมามีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ยังคงดังอย่างสม่ำเสมอซึ่งมันทำให้หญิงสาวโล่งใจ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ทุกอย่างดูย่ำแย่เมื่อเธอพยายามเรียกเขาเท่าใดชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเปลือกตาหรือเอ่ยปากพูด เขายังคงแน่นิ่งและเลือดยังไหลไม่หยุด เธอแทบสติแตกมองซ้ายมองขวาอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้นและมันทำให้เธอรู้ว่าควรจะทำเช่นไร
เธอควานหาเจ้าเครื่องสื่อสารอย่างไร้ทิศทางภาวนาให้เธอหาเจอก่อนที่เสียงจะเงียบลง ปากก็พร่ำบอกไม่ให้ชายหนุ่มเป็นอะไรจนกระทั่งเธอหยิบมันขึ้นมาแล้วกดตัดสายก่อนจะกดเรียกหน่วยฉุกเฉิน 1669 ทันที
“เออนั้นแหละ พอฉันเจอมันอีกทีรถพยาบาลก็มาถึงละ ฉันก็ทำแค่กระโดดขึ้นรถบอกว่าเป็นญาติมัน” คินลุกขึ้นถอนหายใจ เหนื่อยกับการเล่าเรื่องเต็มที “ตอนแรกที่ฉันเห็นมันบนรถ เลือดนี่ท่วมไอ้ฉันก็นึกว่ารถคว่ำธรรมดาแต่ดันมีแผลถูกยิงสองที่ นัดนึงเข้าที่ด้านหลังตรงไหล่ขวา อีกนัดเฉี่ยวแขนขวา กระดูกแขนซ้ายร้าว หัวนี่เย็บเกือบยี่สิบเข็ม สวรรค์ชัดๆที่มันไม่ตายหรือไม่ก็ไอ้พวกยิงมันยิงไม่แม่น” ว่าพลางทำท่าทางประกอบให้คนฟังเข้าใจ
“นี่ถึงกับยิงมันไม่มากไปหรอว่ะ” เพชรจ้องหน้าหาคำตอบจากคินแต่ก็ได้เพียงอาการไหวไหล่ของอีกฝ่ายเป็นคำตอบ
“นั่นสิ ฉันก็คิดว่ามันมากไป” ธามลุกขึ้นเดินไปยังเตียงคนป่วย “เรื่องนี้คิดว่าจะปิดแม่กับย่าได้หรอ”
“ไม่ได้”
“อ้าว” เพชรอุทานมองหน้าคิน
“ยังไงก็ไม่ใช่วันนี้ ถ้าแม่กับย่ารู้เรื่องวันนี้ละก็ยุ่งแน่ๆไหนจะงานที่รีสอร์ทที่มีนักข่าวแห่กันไปเพียบลองมีอะไรผิดปกติสิ ข่าวแน่ๆ” เพชรคิดตามหันไปมองหน้าแก้วก่อนจะมองหน้าธามเป็นเชิงถามว่าเอาไงต่อ
“งั้นเราคงต้องกลับ ออกมานานแล้ว” ธามเดินกลับมาที่เดิม “แกไปกับฉัน ส่วนแกอยู่เฝ้าไอ้แก้วที่นี้”
“ไหงงั้น ทำไมให้ไอ้เพชรมันเฝ้าว่ะ”
“หรือว่าแกอยากโดนย่ากับแม่จับได้ แกก็รู้ว่าไอ้เพชรมันโกหกเก่งซะทีไหนละ” คินเหลือบมองคู่กรณี ทำหน้าเซ็งอย่างขัดอะไรไม่ได้
“เออ อย่าลืมพามันไปซื้อชุดเปลี่ยนด้วยละไปแบบนี้แม่ได้ตกใจเอา” เพชรขำมองสารรูปที่แทบดูไม่ได้ของไอ้น้องชายคนสุดท้อง “เดี๋ยวทางนี้ฉันจะดูแลให้เอง ไม่ต้องห่วง” เพชรพูดทิ้งท้าย ปิดประตูตามหลังก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจของคนที่ไม่ได้สติบนเตียงผู้ป่วย “ไอ้แก้วเอ้ย ไม่ตายก็บุญเท่าไหร่แล้วว่ะ”
จร้า มาอัพ ตอนที่ 4 ให้แล้วนะ
ต้องขอโทษจริงๆจริงๆค่ะที่มาอัพช้า
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ มีติ มีชมตรงไหน
ก็โพสต์บอกกันได้เลยนะคะ ยินดีปรับปรุงและแก้ไขค่า
ความคิดเห็น