คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แก้วเล่ห์เสน่ห์ร้าย [1.บทนำ]
บทนำ
“ธาม ธันย์ เพชร” เสียงเอ่ยเรียกดุ "แม่จะถามอีกครั้งว่าแก้วกับคินหายไปไหน” สามหนุ่มได้แต่สบตากันไปมาอย่างไม่รู้จะตอบว่าเช่นไร โดยเฉพาะคนเป็นพี่ใหญ่อย่างธามธารินน์ที่เห็นจะโดนหนักสุด "ว่ายังไงแม่ถามนี่ไม่ได้ยินรึไง แก้วกับคินหายไปไหน ทำไมป่านนี้สองคนนั้นยังไม่กลับอีก นี่ก็นานมากโขแล้วนะ ถ้าคุณย่ารู้เรื่องเข้าเราสามคนก็รู้นี่ว่าจะเป็นยังไง หลานสุดรักสุดหวงหายไปทั้งคน”
คุณหญิงญาดา ภัคนันย์ภิรมย์เทพ ดูจะหัวเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อไม่ได้คำตอบจากลูกชายทั้งสามคนตรงหน้า และนั้นยิ่งทำให้ใบหน้าที่ถูกเติมแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมงามบึ้งตึงมากกว่าเดิม เล่นเอาคนเป็นลูกนั่งแทบไม่ติดที่ แต่นั้นยังไม่หนักเท่ากับว่าเขาทั้งสามก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าไอ้แก้วและไอ้คินหลานรักคุณย่ารมัยหายตัวไปไหนและนี่แหละที่ทำให้ทั้งสามจำเป็นต้องนั่งเงียบมานานร่วมสิบนาที
“ไอ้ธาม มันสองตัวหายหัวไปไหนว่ะ มันไม่ได้บอกแกไว้รึไง” ธันย์พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยมีเพชรพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถาม
“นี่แหละที่ฉันห่วง ฉันไม่อยากบอกแม่ว่าเราสามคนก็ไม่รู้ ไม่งั้นแม่ได้เป็นห่วงไอ้สองตัวนั่นชนิดนั่งไม่ติดแน่ๆ”
“ฉันว่าขนาดนี้มันก็เรียกว่านั่งไม่ติดแล้ว” ธันย์ถลึงตาใส่เพชร นึกอยากเอื้อมมือไปตบหัวมันสักฉาดถ้าไม่ติดที่มีไอ้ธามที่นั่งคั่นกลางอยู่
“คุยอะไรกัน” ผู้เป็นแม่ถามเสียงดังยืนมองลูกชายทั้งสามทีละคน "ครั้งนี้แม่คง...”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ เจ้าของโทรศัพท์กระเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แทบจะทันทีก่อนจะล้วงเอาเจ้าเครื่องสื่อสารออกจากกระเป๋ากางเกง
“ไอ้คิน” ทันทีที่รู้ว่าใครโทรเข้ามา ทั้งธันย์และเพชรแทบจะโดดลุกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์จากมือธามหากแต่ผู้เป็นแม่เร็วกว่า
“ฮัลโหล ตาคินลูกอยู่ไหน” เสียงกรอกลงตามสายโทรศัพท์ดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับอีก วันนี้มีงานที่รีสอร์ทนะลูก แล้วตาแก้วละอยู่ข้างๆลูกรึเปล่าแม่ขอคุยด้วยหน่อยสิ ทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว”
“เอ่อ...” คนถูกถามเกิดอาการงง เหลือบมองชื่อที่โทรออกก่อนจะเปรยเสียงเบา "ไม่ได้โทรผิดนี่หว่า ทำไมโทรศัพท์ไอ้ธามไปอยู่กับแม่ได้ว่ะ”
“คิน ได้ยินแม่มั้ยลูก”
“ครับแม่ได้ยินครับ”
“ได้ยินแล้วทำไมไม่ตอบแม่ละ ว่าไงอยู่ไหน ตาแก้วอยู่แถวนั้นมั้ยแม่ขอสายหน่อย”
“ไอ้แก้วไม่อยู่ค่ะแม่ มันไปคุยกับเจ้าของสวนอยู่” คินกรอกเสียงตอบด้วยความรวดเร็วและก่อนที่แม่จะอ้าปากถามรายละเอียดเจ้าตัวก็ชิงตัดบทพูดขึ้นมาเสียก่อน
"ผมก็เลยรับหน้าที่โทรมาบอกแม่ว่า ผมกับมันคงกลับไปไม่ทันงาน ยังไงก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะผมกับไอ้แก้วปลอดภัย”
“ไม่รู้ละ ถ้าย่าเรามาไม่เห็นเราละก็...”
“คุณย่า...” คนพูดหยุดคิดก่อนจะเอ่ยต่อ
"งั้นคินฝากแม่บอกคุณย่าหน่อยนะค่ะ ว่าคินคิดถึงคุณย่า ถ้าไอ้แก้วมันเสร็จธุระเมื่อไหร่คินจะรีบกลับไปหอมแก้มคุณย่าคนแรกเลย”
“แล้ว...”
“แม่ค่ะ ผมขอสายไอ้ธามหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับมันสำคัญมากครับแม่” เมื่อลูกชายคนเล็กเน้นหนักคำว่า 'สำคัญมาก' คนเป็นแม่จึงจำเป็นต้องยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของแต่โดยดี
“ตาคินจะคุยกับลูก”
ธามรับโทรศัพท์มาถือไว้โดยมีแม่ยืนจ้องตาไม่กระพริบ และไอ้สองคนข้างกายที่ส่งประกายตาความอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
“ว่าไงว่ะ ไอ้คิน”
“ไม่ว่าไง แต่แกอย่าให้แม่รู้นะเว้ย” เสียงคนพูดดูจริงจังจนคนฟังเริ่มใจหวิวๆ "ไอ้แก้ว โดนยิง” ธามยืนนิ่ง พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปรกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ "แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ไอ้คนไม่เท่าไหร่หรอกว่ะ แต่รถ 'ยับ' รับรองถ้าแม่เห็นแม่รู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้น รูกระสุนไม่พอ ด้านหน้าด้านข้างไปหมด” คินพยายามรวบยอดรายละเอียดให้สั้นที่สุด
“ทำไมต้องวันนี้ว่ะ” ธามตีหน้าเครียด "วันนี้แกก็รู้ว่าที่นี้มีงาน”
“อ้าวเฮ้ย ฉันจะไปรู้หรอว่าใครมันจะมายิงกันวันนี้”
“เออ ฉันรู้ แต่แกจะให้ฉันทำยังไงว่ะ ไอ้ธันย์มันก็ไม่ว่าง ไอ้เพชรมันก็ไม่ว่างอีก ส่วนฉัน...” ธามเหลือบมองผู้เป็นแม่ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนคุณหญิงญาดาต้องเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง
“มีอะไรหรอลูก”
ธามถอนหายใจอีกครั้ง มองหน้าผู้เป็นแม่ก่อนเอ่ยช้าๆ "คือ... ไอ้คินมันบอกว่า...” ธันย์และเพชรขมวดคิ้วมุ่น รอคอยคำตอบจากไอ้คนที่ตีหน้าเศร้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ท้ายที่สุดธามก็ยังอึกๆอักๆจนคุณหญิงญาดาต้องถามย้ำอีกรอบซึ่งนั้นก็พลอยทำให้ธันย์และเพชรหงุดหงิดตามไปด้วยแล้วไหนจะคินที่ร้องตะโกนโวยวายผ่านทางโทรศัพท์ฟังแล้วจับใจความไม่ได้
“คินมันบอกว่าคุณสาธรมีเรื่องด่วนครับแม่ เกี่ยวกับธุรกิจต้องการคนปรึกษาด่วนและผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากเพราะคุณสาธรเป็นเสมือนลูกค้าเราคนหนึ่ง เราจะต้องให้การดูแลเป็นอย่างดี ทอดทิ้งไม่ได้ครับ”
คินถอนหายใจโล่งทันทีที่ได้ยินคำตอบก่อนจะรีบกดตัดสายเพื่อเลี่ยงการตอบคำถามจากคนเป็นแม่ ทางด้านธันย์และเพชรหันมาสบตากันตาด้วยความเซ็ง บ่นเบาๆเมื่อเรื่องที่ลุ้นไม่ได้น่าสนใจอย่างที่คิด
“โธ่ ไอ้ธามฉันก็นึกว่าเรื่องคอขาดบาดตายอะไร”
“มันไม่คอขาดบาดตายก็ดีแล้วนี่ตาเพชร” คุณหญิงญาดาเอ็ดเสียงเบาก่อนจะหันไปถามลูกชายคนโต "แล้วลูกจะเอายังไงละ วันนี้ก็มีงานที่รีสอร์ทซะด้วย”
“ไม่เห็นจะยากเลยครับแม่ ก็ให้มันไป เดี๋ยวผมกับไอ้ธันย์อยู่จัดการเรื่องทางนี้เอง”
“แกแน่ใจหรอว่าไม่อยากจะไปด้วยไอ้เพชร" ธามพูดสวนขึ้นแทบจะทันที "งานนี้เกี่ยวกับแกเต็มๆ ฉันรับรอง”
“เกี่ยว??” เพชรจ้องธามเขม็งไม่เข้าใจในคำพูดของคนตรงหน้าจนคนเป็นแม่ต้องเอ่ยตัดบท
“เอาละๆ จะเอายังไงก็เอา ใครจะไปใครจะอยู่ก็ตัดสินใจกันเอาเองก็แล้วกัน แต่แม่ต้องเห็นเราสักคนในงาน” คุณหญิงญาดาชี้นิ้วไปทีละคน "สักคนนะ ไม่ใช่เล่นหายกันไปซะหมด นี่ก็หายไปแล้วสองคน อะไรก็ไม่รู้ วุ่นวายกันจริงๆเลย” เสียงบ่นคล้อยตามหลังดังมาแว่วๆก่อนจะได้ยินเสียงปิดประตูห้องเป็นสัญญาณว่าทุกอย่าง 'เคลียร์' แล้ว
ธามถอนหายใจยาวอย่างไม่ค่อยอยากจะทำนัก ในใจเริ่มสับสนขึ้นทุกขณะ ไม่รู้ว่าเรื่องที่คินบอกเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่รู้จะเริ่มเล่าให้ไอ้สองคนนี้ฟังอย่างไร ลำพังไอ้ธันย์ไม่เท่าไหร่แต่ถ้าเป็นไอ้เพชรท่าจะ 'หนัก'
“อะไรว่ะ มีเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมไม่พูดต่อหน้าแม่” ธันย์ทิ้งตัวลงนั่งตาม โดยมีเพชรยังคงทำหน้าไม่รู้เรื่องอยู่เช่นเดิม
“เออนั่นดิ เรื่องอะไร แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหน อะไร ยังไง”
“ไอ้แก้วโดนยิง”
คำเพียงไม่กี่คำเรียกความเงียบให้ปกคลุมทั่วทั้งห้อง ธันย์เลื่อนนัยน์ตามองเพชรก่อนจะสลับกลับมายังธามเช่นเดิม “เฮ้ย ไม่ขำนะเว้ยไอ้ธาม” ปากพูดกับอีกคนแต่ตาจ้องอีกคน
“อยู่ไหน ไอ้แก้วกับไอ้คินอยู่ไหน” เสียงทุ้มฟังดูต่ำคล้ายกับพยายามข่มอารมณ์อย่างเต็มที่จนธันย์ต้องลุกจากโซฟาพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ใจเย็นๆ ไอ้เพชร ใจเย็นๆ” ธันย์ทำมือไม้ประกอบหวังว่าจะช่วยให้คนตรงหน้าใจเย็นลงได้บ้าง แต่จากการประเมินด้วยสายตาแล้วท่าทางจะเป็นไปได้ยาก คนปลอบจึงได้แต่ส่งสายตาให้ธามรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่เพชรจะตัดทุกอย่างที่ขวางหน้า
“แกอยู่รับหน้าแม่กับย่าที่นี่แหละ” ธามพูดรัวเร็วพร้อมกับออกวิ่งตามเพชรที่วิ่งนำหน้าไปก่อนแล้ว ซึ่งธันย์ก็ได้แต่พยักหน้ารับแบบรีบๆตามคนวิ่งเช่นกัน
เพชรติดเครื่องทันทีที่กระโดดขึ้นรถได้ ชายหนุ่มปลดเบรคมือลงกระชากรถถอยหลังซึ่งเป็นจังหวะที่ธามกระโดดขึ้นรถได้ทันเวลาพอดี
“รีบอะไรของแกว่ะ” เสียงเหนื่อยหอบทำให้คนขับหันกลับมามองก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถดังเดิม เมื่อเห็นว่าคนขับไม่สบอารมณ์จริงๆ ธามจึงทำได้แค่เซฟตัวเองให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้ "แล้วนี่แกจะขับรถไปไหนว่ะ”
คนถูกถามคล้ายกับไม่ได้สนใจคนถามเท่าใดนัก จนคนถามจำเป็นต้องถามย้ำซ้ำอีกรอบด้วยคำถามเดิม และดูเหมืือนว่าคนถูกถามเริ่มจะชักสีหน้ารำคาญที่ถูกเซ้าซี้
“จะถามทำไมว่ะ ก็รู้อยู่ว่าต้องไปโรงพยาบาล”
“เออ ไอ้รู้ก็รู้อยู่ว่าไปโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่นี่” เพชรเบรครถกระทันหันเล่นเอาธามสบถออกมาแทบไม่เป็นคำ
“ไม่ใช่ที่นี่ แล้วที่ไหนว่ะ”
“เออ แกหัดใจเย็นแล้วก็ฟังคนอื่นซะบ้างก่อนจะทำอะไรผลีผลาม ไอ้นิสัยใจร้อนของแกเนี่ย รักษาไม่หายซะที”
“หยุดพล่ามได้รึยังไอ้พี่ธาม” เพชรเน้นหนักในสามคำสุดท้ายหันไปจ้องหน้าธามเขม็ง "จะบอกได้รึยังว่าอยู่โรงพยาบาลไหน”
ธามถอนหายใจ รู้อยู่แล้วพูดเรื่องนี้ทีไรไอ้น้องตัวดีจำเป็นต้องหาเรื่องอื่นมาเบนความสนใจอยู่ดี คิดแล้วก็เหนื่อยใจกับไอ้นิสัยใจร้อนของมันจริงๆ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันนี้ก็ปล่อยไปอีกสักวันก็แล้วกันเห็นแก่ความวุ่นวายและเรื่องต่างๆที่กำลังสาดซัดกระหน่ำเข้ามา ว่าแล้วเจ้าตัวก็ถอนหายใจยาวอีกรอบ
“ก่อนเข้ากรุงเทพ เห็นไอ้คินมันบอกว่าอยู่แถวๆนั้นแหละ”
“ขอบคุณครับ” ลากเสียงยาวอย่างจงใจก่อนจะกระแทกเสียงในตอนท้าย "คุณพี่” เท่านั้นแหละ รถประจำตัวของเจ้าของมันก็กระชากตัวออกจนธามจำต้องนั่งจับเข็มขัดนิรภัยตลอดทาง
“ให้ตาย สาบานได้ ฉันจะไม่ให้แกขับรถอีก หรือถ้าขับแกจะไม่เห็นฉันนั่งอยู่ในรถแก ไอ้เพชร” ธามโวยวายเสียงดังแต่หารู้ไม่ว่า ชายหนุ่มคนขับแอบอมยิ้มด้วยความชอบใจที่สามารถแกล้งพี่ชายคนโตได้
////////////////////////////
ฝากติดตามและติชมด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ความคิดเห็น