คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วันที่...ปฏิเสธไม่ลง ไม่สิต้องบอกว่าไม่ได้มากกว่า
ผมกำลังอึ้ง ทุกคนกำลังอึ้ง มีหนึ่งสติหลุดและหนึ่งช็อกตาเหลือกอีกสามทำหน้าตาย ยังดีที่ในโถงนี่มันมีแค่พวกเราไม่มีนักเรียนคนอื่นอยู่ด้วยไม่งั้นมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ชนิด ใหญ่ประเทศล่มเลยด้วย
ทันทีที่กษัตริย์หนุ่มได้สติ ดวงตาสีมรกตจ้องมองผมแบบกินเลือดกินเนื้อราวกับว่ากำลังหาคำตอบว่าผมเป็นตัวอะไร นั้นแหละผมนี่กลัวเลยเพราะอีกฝ่ายที่เคยใจดีมาทำท่าทีแบบนี้ผมรับบ่ได้ คุณหลอกดาวอีกแล้วไอ้พวกหลอกลวงประชาชน
“พาตัวไปที่ปราสาท”
คำสั่งเรียบๆนิ่งๆถูกเปล่งออกจากริมฝีปากของอีกฝ่ายเรียกสติให้ทริสทันกับเบดิเวียร์ทำตามหน้าที่ของพวกเขาคือการหามผมตามเข้าไปซึ่งถ้าจะให้เลือกระหว่างเบดิเวียร์กับทริสทัน ผมนี่วิ่งเข้าไปกอดคนผมแดงอย่างไว
“ขอล่ะครับไม่อยากไปกับท่านนั้น”
ผมสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเบดิเวียร์กับรังสีหึงหวงของแอทริธ อย่างแอทริธผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงที่ผมต้องมาอยู่ใกล้บุคคลอันตรายแต่เบดิเวียร์นี่...ไม่ทราบจริงๆครับ เขาแผ่จิตสังหารมาให้ผมทำไม ผมทำอะไรผิดวะครับ!
ทริสทันเลิกคิ้วมองผมเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองเบดิเวียร์แล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆเมื่อรู้สาเหตุของผม เขาไม่ได้ว่าอะไรมากนักนอกจากจับมือผมพาเข้าไปที่เขตปราสาท ซึ่งผมรู้สึกเสียใจ อายุสิบหกแท้ๆแต่สูงแค่ร้อยหกสิบเทียบกับคนอื่นๆแล้ว......ช้ำใจที่ทุกคนแม่งเปรตร้อยเจ็ดสิบอัพ
ไม่ถึงสิบนาทีทิวทัศน์ของปราสาทก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นประตูใหญ่ถูกเปิดออกต้อนรับพวกเราให้เข้าสู่ทางเดินอันกว้างขวางที่เชื่อมต่อไปสู่ท้องพระโรงซึ่ง...โอเคผมเห็นแล้วว่ามันใหญ่เท่าสนามฟุตบอลจริงๆเหมือนกับไอ้โถงห้องประชุมนั้นไม่มีผิด และรู้มัยผมไม่ได้ถูกพาตัวไปที่นั้นแต่กลับใช้เวทเคลื่อนย้ายต่อไปที่ห้องประชุมของเหล่าอัศวินโต๊ะกลมแทน
ผมถูกพาให้ไปนั่งอยู่กลางวงของโต๊ะในขณะที่แอทริธถูกเรียกให้ไปยืนอยู่ข้างๆเมอร์ลินที่ประจำที่อยู่ข้างกษัตริย์อาเธอร์ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนผมมาโดนบังคับให้ฟังคำตัดสินของศาลไม่มีผิด อ๋อ แอทริธนั้นน่ะทนายผม
ผมเริ่มกวาดตามองรอบๆให้ชัดเจนอีกครั้ง ตะลึงกับความหล่อระดับประชิดไม่เผาขนแต่ทำผมจนอายหน้าตาตัวเอง ตำแหน่งตรงหน้าของผมคือกษัตริย์อาเธอร์แสงสว่างแห่งคาเมล็อต เรียงซ้ายจากฝั่งนั้นก็คือแลนสล็อตแห่งเหล็กกล้าศักดิ์สิทธิ์ เพอร์ซิวัลแห่งเพลิงกาฬแผดเผานรก ลามอรัคแห่งสายฟ้าสวรรค์ เบดิเวียร์แห่งธารน้ำแข็งสัมบูรณ์ เคย์แห่งผืนพสุธา กาลาฮัดแห่งลมพายุตะวันออก บอร์แห่งผืนป่า กาเวนแห่งสายน้ำ ทริสทันแห่งสายลมอ่อนโยนตะวันตก กาเรนท์แห่งอัคคีปัญญาสวรรค์ กาเรธแห่งสายฝนชำระล้าง และกาเฮริสแห่งเหมันนิรันดร
แต่ล่ะคนที่ได้ฉายาโครตเก่งกาจไปตามหน้าตาที่เอามาข่มผม หน้าตาเฟิร์สคลาส ความเก่งกาจเฟิร์สคลาสเลย เอ๊ะนิสัย....หนึ่งในนั้นแสดงท่าทีมาผมว่าคนที่เหลือก็ไม่น่าจะปกติล่ะ นิสัยต้องประเสริฐ เฟิร์สคลาสแน่ๆ เคดาจสัมผัสได้
“ในเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าแล้วก็คงได้เวลาแล้วสินะ เคดาจ โรลัน”
พ่อมดหนุ่มเอ่ยปากพูดขึ้นมาเพื่อเริ่มประเด็นซึ่งอาเธอร์เหมือนจะรับช่วงต่อเขาเลยเอ่ยตามเพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง ซึ่งยิ่งฟังผมก็หน้าซีดลงเรื่อยๆยิ่งกว่าเดิม
“ดั่งที่ท่านเมอร์ลินบอกไป เรื่องนี้เกี่ยวกับเจ้าโดยตรง ทางคณะอัศวินและข้าได้ทำการประชุมไปก่อนหน้านี้เรื่องพลังของเจ้าแล้วเคดาจ แน่นอนมันเป็นประเด็นที่พวกเราไม่สามารถมองข้ามไปได้ พลังธาตุสายสมดุลของเจ้านั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสอนและพัฒนาได้หากอยู่ในคลาสสามัญ ซึ่งทางเราได้เห็นพ้องที่จะให้เจ้าย้ายเข้ามาอยู่ที่ปราสาทเพื่อเรียนรู้พลังของเจ้า ฝึกฝน ควบคุมมันจนกว่าเจ้าจะพร้อม เพราะฉะนั้นแล้ว...”
เว้นวรรคเพื่อดรามาติกซีนสินะ สินะ สินะ!!!
“เคดาจข้าอยากให้เจ้าศึกษาอยู่ที่นี่ในฐานะสานุศิษย์ของคณะอัศวินของข้า”
ตี๊ด...ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ sorry the number you have called is not available 申し訳ありませんがこの時に宛先の番号に連絡することができません。
สมองผมประมวลออกมาเป็นสามภาษาในขณะที่ผมคิดว่าผมเห็นเส้นผมร่วงจากหัวไปสามสี่เส้น แล้วแน่นอนรีแอ็คชั่นต่อไปของผมน่ะหรอ...แทบกระอักเลือดเลยน่ะสิ!
น้ำตาหนึ่งหยดไหลออกมาจากกลุ่มน้ำตาที่คลออยู่ในเบ้า รอยยิ้มบางๆปรากฏออกมาบนใบหน้าของผมอีกครั้งก่อนที่ผมจะหลับตาลงแล้วล้มลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นส่งผลทำให้ทุกคนแตกตื่นขึ้นมาแต่ก็คงได้ไม่นานเมื่อผมร้องขึ้นสุดเสียงราวกับโลกจะแตก
อิสระของผมหลุดลอยหายไปแล้ว!!!!!
“ไม่เอา!! ผมจะเอาชีวิตธรรมดา”
ทุกคนถึงกับหน้าเหวอทันทีที่ผมร้องงอแงเป็นเด็กผิดกับช่วงพิธีปฐมนิเทศที่ยังรักษามาดไว้แต่มาเจอแบบนี้ช่างภาพพจน์แม่งแล้ว!ผมไม่สนใจแล้ว!
“เคดาจไม่เอาอย่าดื้อ”
“เงียบไปเลยไอ้หัวดำซึนเดเระ! ไอ้มาเรียนน่ะผมรับได้แต่ให้เจอกับบุคคลอันตราย2Pนั้นผมไม่เอา!”
แอทริธถึงกับเงียบแล้วสงสัยกับคำว่าซึนเดเระที่ผมพูดออกไปในขณะที่คนอื่นๆมองตามมือที่ผมนอนชี้ซึ่งมันบ่งบอกไว้ว่าใครที่ผมจะไม่เข้าใกล้ จะมีใครอีกล่ะ เมอร์ลินที่ยิ้มหวานอยู่นั้นไง
“เคดาจ โรลันข้าเข้าใจว่าเจ้ายังโกรธข้าแต่ข้าอยากรู้เหลือจริงว่าใครคืออีกคนที่เจ้าว่า”
ผมอยากตะโกนออกไปว่ามึงตาบอดใช่มั้ย ในเมื่อตอนนี้มีน้ำแข็งบ้างส่วนเริ่มเกาะขาผมแล้วแถมยังลามขึ้นมาแช่แข็งร่างกายท่อนล่างของผมอีกทันให้ทุกคนหันไปหาผู้ใช้น้ำแข็งคนเดียวในห้องทันที
“เบดิเวียร์ข้าบอกว่าไงเรื่องแกล้งเด็กหนุ่มนั้นน่ะ”
“ขออภัยฝ่าบาท กระหม่อมเพียงแค่เอ็นดูเขามากไปหน่อย”
เอ็นดูบ้านเอ็งเหอะไอ้บ้า!
“กาเรนท์ละลายน้ำแข็งให้เด็กคนนั้นทีข้าคิดว่าเบดิเวียร์จะไม่ยอมรามือจากเด็กคนนั้นง่ายๆแน่และเพลิงของเพอร์ซิวัลก็อาจแรงเกินไปสำหรับเด็กคนนั้นอีกเช่นกัน ”
“ขอรับท่านเมอร์ลิน”
ผมเหลือบตาไปมองอัศวินผมน้ำตาลที่อยู่ข้างๆทริสทันเล็กน้อยซึ่งเขาเป็น....ไอ้แว่นประจำกลุ่ม นี่ใช่มั้ยที่บอกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนยังไงไอ้แว่นก็ต้องมีอยู่สักคนสองคน
น้ำแข็งที่เกาะอยู่ค่อยๆหายไปทีล่ะน้อยทันทีที่มันหายไปจนหมดผมก็ถลาเข้าหาแอทริธทันทีเพื่อหนีจากบุคคลอันตรายสองท่านที่ผมว่าไปส่งมันก็ลูบหัวปลอบผมเป็นเด็กๆตามเคย ที่ไหนก็ไม่ดีเท่าแอทริธแล้วล่ะ
“ไม่เรียนไม่ได้หรอครับ ให้ผมไปอยู่ที่หมู่บ้านเหมือนเดิมก็ได้”
ผมหันไปถามกษัตริย์ผมทองเบาๆด้วยท่าทีแบบเด็กๆ รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาทำเอาผมหน้าแดงไปนิดหน่อยเมื่ออยู่ระยะประชิดต่างจากตอนงานปฐมนิเทศ หัวใจแอบเต้นหน่อยๆไม่ใช่เพราะตกหลุมรักแต่กังวลกับคำตอบมากกว่า
“ย่อมได้”
เยส!!! แต่...มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
“แต่เจ้าต้องเอาชนะคณะอัศวินทุกคนเสียก่อน”
น่านไงกูว่าแล้วว่าท่านต้องตุกติก
รู้อะไรมั้ย เมอร์ลินที่ว่าหื่นยังเทียบเบดิเวียร์ที่เอสไม่ได้แต่ที่เทียบไม่ได้จริงๆคือความเจ้าเล่ห์ของท่านไอ้คุณราชา! ดูดิคิดได้ไงคนฝึกกับเอลฟ์มาสิบปีจะให้มาสู้ 12P คณะอัศวินเสาหลักของประเทศ ท่านครับท่านเลวมาก!
“ฝ่าบาท พระองค์ตรัสเช่นนั้นมีเหรอเด็กคนนี้จะไม่ปฏิเสธ”
เมอร์ลินครับอย่าพึ่งสอเสือใส่เกือกครับผมเครียดอยู่ เดี๋ยวผมหันไปกัดหัวขาดหรอก
“ น่าสนุกดีเหมือนกันนะ เจ้าหนูข้าอยากลองประดาบกับเจ้าดูสักครั้งจริง เห็นที่เจ้าฝึกให้นักเรียนชั้นปีสูงๆพวกนั้นข้าว่าเจ้าน่าจะมีฝีมือพอตัวแน่ๆ”
เขาแอบดูผม! พระเจ้ามีคนแอบดูผมด้วย!!!
คุณท่านเซอร์เพอร์ซิวัลผู้เด็กสุดในกลุ่มด้วยอายุยี่สิบสองปีออกหน้าออกตามาก่อนใครเพื่อนเพราะความต้องการและความรักสนุกของเจ้าตัว การประดาบกับเขาอาจจะง่ายสุดแต่ก็เป็นอันที่ทรมานสุดเช่นกันเพราะไฟของคุณท่านนั้นตามที่เขาลือกันมันร้อนพอที่เผาเหล็กให้ละลายได้มีเหรอที่ผมจะไม่กล้าปฏิเสธ
ต้องปฏิเสธ ผมอยู่ก็ได้ไม่คิดสั้นเปลืองแรงสู้หรอก ผมลองคิดดูนะถ้าผมเลือกสู้มันก็เหมือนไอ้เซนท์ที่สู้ในศึกสิบสองปราสาทเลยไม่ใช่เหรอ! เอาชีวิตไปทิ้งชัดๆผมไม่มีไอ้พลังคอสโม่อะไรนั้นด้วยสู้ไปก็ตายเปล่า!
“หืม...หากเป็นดั่งที่เพอร์ซิวัลว่าจริงๆ ข้าเองก็อยากลองประดาบกับเจ้านะเจ้าหนู”
เซอร์ลามอรัคเริ่มเข้าวงสนทนาความเป็นความตายของผมประกายสายฟ้าขนาดเล็กในตาของเขาเริ่มเด่นชัดขึ้นเมื่อจ้องมองมาที่ผมพร้อมๆกับเบดิเวียร์ที่เริ่มฉีกยิ้มให้พร้อมๆกับมือที่แท็กทีมกับผู้ใช้สายฟ้าของคณะอัศวิน อ๊ะ...จำได้ลางๆว่าในหนังสือจะบอกอะไรสักอย่างเรื่องกลุ่มย่อยที่ผมเคยตั้งฉายาให้อยู่ เอ....อ่าจำได้ล่ะ หน่วยแท็กทีมนรกแห่งคาเมล็อต.....มันคือพวกเขางั้นสินะ!
ฤ วันนี้จะเป็นวันสิ้นชีวี
“หากเขาตอบตกลงเจ้าจะว่าไงเคย์”
“กาลาฮัดเจ้าถามมาข้าคงตอบได้แค่ว่าก็น่าสนุกไม่เลวเห็นแต่หน้าพวกเจ้าข้าก็เริ่มเบื่อแล้วด้วยนะว่างั้นมั้ยบอร์”
“เคย์กับเจ้าข้าไม่รู้แต่ที่แน่ๆข้าอยากเห็นฝีมือเด็กรุ่นใหม่บ้าง”
เดี๋ยวๆ3Pตรงนั้นเห็นใจผมหน่อยเถอะครับคนที่จะตายน่ะผมครับสนใจชีวิตและสุขภาพผมหน่อยผมไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้หรอกนะครับ มี6Pกำลังจะลงมือเชือดผมในอนาคตพวกท่านที่เหลือเมตตาหน่อยเถอะครับ ทันทีที่ผมเริ่มทำหน้าสยองใส่แถมหน้าเริ่มซีดทุกครั้งที่6Pบนโต๊ะกลมเริ่มคุยกันเรื่องประดาบกับผม คนที่เหลือก็เริ่มสนทนาบ้างทันที
“กาเรนท์ข้าชักสงสารเจ้าหนูนั้นแล้วสิ”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นทริสทัน เจ้าน่าจะได้เห็นหน้าของเจ้าหนูตอนที่เห็นเบดิเวียร์ยิ้มนะ ข้านี่สงสารจับใจจริงเลย”
ใช่ๆ ผมน่าสงสาร เพิ่มค่าความสัมพันธ์ +5 ให้ทริสทัน +10ให้กาเรนท์
“พวกท่านยังไงข้าว่ารอฟังคำตอบจากเคดาจก่อนดีกว่านะ ข้ากับกาเรธแล้วก็กาเฮริสคิดว่าเด็กคนนั้นคงไม่คิดสั้นสู้กับพวกท่านหรอก”
เสียงสนับสนุนอย่างสันติของกาเวนกับอัศวินสองท่านเริ่มทำให้ผมยิ้มออกมาในขณะที่อาเธอร์ได้แต่หัวเราะเบาๆกับกลุ่มอัศวินของตนที่มีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ไม่เว้นแต่เมอร์ลินที่หันไปคุยกับแอทริธถามถึงนิสัยของผมเพื่อหาทางรับมืออยู่ อีกอย่างคือเพิ่มค่าความสัมพันธ์ +5 ให้กาเรธ กาเฮริสและกาเวนครับที่เหลือก็คนสุดท้ายปราการที่แข็งแกร่งที่สุดเซอร์แลนสล็อต...
“หากถามข้า ข้าขอตอบว่าไม่ว่าจะตกลงหรือปฏิเสธพวกเราก็ต้องประดาบกันสักวันอยู่ดีแต่...จะให้สู้กันตอนนี้ข้าก็ไม่ว่าอะไร”
หากปฏิเสธ วันนี้กรูดับแน่ๆ
อาเธอร์ที่ได้ฟังคำตอบของเขาถึงกับหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเลื่อนสายตามามองผมที่ยังแอบอยู่ข้างหลังแอทริธ นัยน์ตาสีเขียวมรกตกับนัยน์ตาสีม่วงน้ำเงินจ้องกันสักพัก ริมฝีปากเริ่มขยับเพื่อเอ่ยถามอีกครั้งทำให้ทั้งห้องตกลงสู่ความเงียบ มันเป็นคำถามสั้นๆที่ตัดสิ้นทุกอย่างผมจึงตอบตามออกไปอย่างไม่ลังเล
“คำตอบของเจ้าล่ะเคดาจ โรลัน”
“ผมตอบ...ตกลงครับ...ผมตกลงที่จะเรียนกับพวกท่าน”
----------------------------------------------------------------
โอ๊ะ..จบแล้วๆทั้งคณะนี้เฮฮาดีนะแบบไม่มีใครรู้เพราะต้องรักษามาดพอมาเจอนายเอกนี่ถึงกับเป็นกันเองเลย
ความคิดเห็น