คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ความลับแห่งบุพภา วงมนตราแห่งสายลม
รถประจำทางสีเขียวคันใหญ่จอดรับคนตามป้ายต่างๆ ตามหน้าที่การรับส่งประชาชนทุกวันที่ต้องทำประจำ
ตึกราบ้านช่องที่เคยเบาบาง แต่บัดนี้กลับดูหนาตาขึ้นเยอะเป็นสัญลักษณ์ว่ากำลังเข้าสู่ใจกลางของตัวเมืองแล้วรถประจำทางยังคนจอดรับ ผู้โดยสารตามปายต่างๆแม้ในบัดนี้ ประชากรบนรถนั้นหนาแน่นจนแทบไม่มีที่ยืน
“ผู้โดยสารยืนอยู่กรุณาเขยิบไปด้านหลังด้วยครับ”เสียงจากชายวัยกลางคนที่กำลังพูดปาวๆ แม้เสียงนั้นจะพยายามขอความกรุณา
“นี้ก็เบียดกันขนาดไหนแล้วน่ะ เบียดกว่านี้ ตอนเบรคมีวังได้ไอ้ตัวน้อยมาอุ้มเล่นแน่เลย” เสียงบุ่นอุบอิบมาจากหญิงสาวที่ยืนหน้ามุยอยู่ โดยมีเพื่อนสาวยืนอยู่ข้างหลัง และ มีชายยหนุมนัยน์ตาสีทองยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนเธออีกทีหนึง นัยน์ตาสีองนั้น มองออกไปยังบ้านเมืองอย่างไม่ละสายตา
ภาพที่ชายหนุ่มนั้นได้เห็นคือ บ้านเรือนที่ออกทรงโบราณนิดๆเหมือนที่เขาเคยเห็นตอนดูการ์ตูนต่างๆที่เกี่ยวกับโลกเวทมนต์อะไรประมาณนั้น
“ผู้โดยสาร3 เบาะ 4 คนได้น่ะครับ ขยับกันนิสนึง เพื่อเพื่อนๆของเราได้ไปด้วยน่ะครับ” เสียงขอความกรุณาดังมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเรียกความสนใจของชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลให้หันกลับมาพูดต่อ หญิงสาวทั้งสองคน
“ตอนกลับเรารีบมาน่ะ จะได้นั่งสบายๆ” เสียงเอ่ยเบาๆที่กล่าวเป็นนัยๆ ของบุรุษทำให้หญิงสาวทั้งสองหันกลับมามอง
“แล้วเพราะใครล่ะที่ทำให้พวกฉันต้องยืน” ถ่อยคำประชด ด้วยน้ำเสียงใสๆ จากเรลัวร์ เอ่ยเสร็ดเธอก็ชวนเพื่อนสนิทของเธอคุยต่อ
งั้นก็ดีน่ะสิ ขอให้นั่งที่นั่ง 3 เบาะน่ะ เพราะ 4 ได้ อ๊ากก๊ากๆๆ.... เสียงจอมมารหัวเราะในหัวของวิลเลี่ยม
เมื่อเริ่มเข้าใกล้ตัวเมืองประชากรบนรถ ยิ่งมากขึ้นเรื่อย พร้อมกับ บ้านเมืองก็มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นกว่าเมื่อกี้เยอะ ทำให้การโดยสารในรถคันนี้นั้น คนนั่งต้องนั่งเบียดกัน ในขณะเดียวกัน คนยืนก็แทบไม่มีที่ยืน
จึงต้องชิดติดกัน
“นี้ นายน่ะ อย่าทำอะไร เซจังเขาน่ะ” เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมหันมาพูดดักคอ วิลเลี่ยมเพราะรู้จาก การกระทำที่เขาทำกับเธอไว้ **อีตานี้คงต้องทำอีกแน่ เป้าหมายคงเป็นคนที่ใกล้ตัวมันที่สุด**ความคิดพร้อมหันไปจ้องตาอย่างคาดโทษเตรียมเอาไว้ ถ้าทำอะไรไม่ดีไม่งามอีกล่ะก็ เตรียมโลงไว้ได้เลย
“โถ่ ลัวร์ซังล่ะก็วิลเลี่ยมเขาไม่ทำอย่างงั้นหรอก ฉันเชื่อน่ะว่าเขาจะมีความเป็นสุภาพบุรุษพอ”เซรีนแย้งขึ้นมา
“สุภาพจะหลุดสะมากกว่าล่ะมั้ง”
“’ง่.............า.” เสียงลากยาวของจำเลยพร้อมใบหน้าบูดที่ถูกกล่าวหา
อี๊ด....................ตึก รถที่บรรจุคนจำนวนมากนั้นเบรกแบบไม่คิดชีวิตทำให้เกิดเหตุการณ์กลหนจ์ขึ้น
ร่างสูงของบุรุษนัยต์ตาสีทองถลำหน้าพุ่งไปหาร่างหญิงสาวเรือนผมสีเหลืองอร่าม
อุ้ย...... เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันระหว่างคู่หนุ่มสาว
“ขอโทษน่ะครับ คุณเซรีน” รอยยิ้มแหย่ๆ ของชายหนุ่ม ทำให้เกิดความร้อนขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวที่จ้องมองหน้าเขาอย่างไม่วางตา “ผมคุณเซรีนนี้ หอบเหมือนดอกไม้เลยน่ะครับ”
“ฉันว่าแล้ว สุดท้ายก็ไม่รอดจริงๆด้วย เชื่อยังล่ะเซจัง” หญิงสาวอีกคนเอามือกุมขมับ แล้วหันมามอง คู่หนุมสาวที่กำลังจ้องหน้ากันยังกับคู่รักที่ไม่ได้เจอกับเป็นสิบๆปี
ตูม>>>ฟู่ว เสียงระเบิดกรรมปนาท(เขียนไงหวา) ดังสนัทไหวหวั่นทำให้ผู้คนในรถต่างกันรถจากรถอย่างไม่คิดชีวิตแทบจะกระโดดข้าวหัวกันออกมาก็ว่าได้ ขณะที่วิลเลี่ยม เซรีน และ เรลัวร์ แหวกฝูงชนที่ยืนมองสถานที่เกิดเหตุอย่างคับคลั่ง
“นี้มันอะไรกัน ให้ตายเส่ะ มีแต่เรื่องยุ่งๆ” หัวคิ้วของเรลัวร์ผูกกันแน่นยิ่งกว่าโบว์ ในหน้าบูดบึ้งบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก
ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏคือ รอยไหม้ รอยมโหฬารและพื้นดินที่บุบไปเกือบ 1 เมตรได้
“เวทย์ อัคคี ค่ะ เวทย์ชั้นสูงสะด้วย กัมปนาถถล่มเมฆา” คำกล่าวขณะมองดูเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างวิเคราะห์ระดับฝีมือของผู้ใช้อาคมนี้
ตูมมมม
.บูมมมม เสียงเดิมเกิดขึ้นหล้งจากเดิมไม่นานทำให้ร่างบางทั้ง 2 พร้อมร่างชายหนุ่มที่ถูกลาก เคลื่อนย้ายไปตามเสียงที่ได้ยิน
ภาพที่เข้าสู่จักษุตาของทั้ง 3 คือ 4 บุคคลกำลังต่อสู้กันอยู่ โดยที่ 3 คนนั้นแต่งชุดคล้ายนักบวชในโบสถ์แตกต่างที่ชุดนั้นเป็นสีดำมีแทบสีแดงทาบผ่าน และ บุรุษคนสุดท้ายยืนอยู่กลางวงของทั้ง 3 แต่งกายคล้ายซามูไรในอดีตของประเทศญี่ปุ่นในมือถือดาบยาวคมกริบถึงกับได้ยินเสียงของสายลมที่ถูกแหวกด้วยดาบนั้น
“อราชิ เจ้าน่ะ มาเป็นพวกของเราจะดีกว่า ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าหรอกน่ะ” เสียงเอ่ยจากบุรุษเสื้อคลุมยาวครอบพื้นสีดำในมือถือ คทาที่มีหัวคทาส่องแสงสว่างจ้าบ่งบอกถึงพลังเวทย์ในของตน
รอยยิ้มเหี้ยมประกฏบนใบหน้าของคนที่ยืนอยู่กลางวง
ยังไม่ทันที่รองยิ้มนั้นหุบลง กระสุนเวทย์มนต์จาก 3 บุรุษผู้ทรงคทา ตรงมาทางบุรุษที่ยืนกลางวง อย่างรวดเร็วและเหนือคณานับ แต่ด้วยความว่องไวของผู้ทรงดาบนั้นหลบหลีกได้อย่างง่ายดายนัก
เสียงบริกรรมคาถาดังก้องกังวานยืดยาวด้วยเสียงอันทรงอำนาจของจอมเวทย์ทั้งสามก่อนที่บรรยากาศรอบข้างจะเริ่มร้อนระอุยังกับดินแดนภูเขาไฟ อุกาบาตรลูกเล็ก ใหญ่เทตระหนำลงในอาณาเขตแห่งไฟนี้
“Riasx ไรอัส!!!”สิ้นเสียงกล่าว โล่มนตราที่เลยรับพลังจากสายผ่าก็ประกฎขึ้นอีกครั้งนึง แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนครั้งก่อนเมื่อมีรอยร้าวเกิดขึ้นเล็กน้อยและค่อยๆขยายตัวขึ้นมากเรื่อยผลจากพลังทำร้ายล้างของ พายุอุกาบาตเบื้องหน้า
“เซจังช่วยฉันที เกราะจะแตกอยู่แล้ว” ทันทีที่ได้ยิน เซรีนก็เรียกคทาของตน มาปักไว้เบื้องหน้าก่อนจะพึมพำบทบริกรรมคาถาเดียวกับเพื่อนของตนที่กำลังลำบากหนัก “Riasx ไรอัส!!!” โล่มนตราที่เคยร้าวกับไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง
“เพียงแค่ 3 คน 3 คนเท่านั้นถึงกับสร้างอาณาเขตที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ได้เฉียวหรือ ?” เสียงพึมพำจากปากเรียวสวยที่กำลังลำบากกับการสร้างอาณาเขตปกป้องตนเอง
“คงจะเป็นจอมเวทย์ระดับ 2 ล่ะค่ะ ที่สามารถทำได้” เสียงหวานจากร่างเล็กที่กำลังช่วยเพื่อนของตนกางอาณาเขตแต่ว่าตนเองนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเหมือนคนข้างตนเลย
“เอ่ออ..”วิลเลี่ยมที่ท่าทางสงสัยกับเรื่องที่ 2 สาวคุยกันเลยกำลังจะเอ่ยปากถาม หากแต่หญิงสาวผู้มีดวงตาดั้งอัญมณีสีฟ้าใสเอ่ยปามไว้สะก่อน
“อย่าเพิ่งถามอะไรเลย แค่นี้เราก็ลำบากพอดูแล้วล่ะที่เข้ามาในอาณาเขตของคนอื่น” เสียงใสส่ออารมณ์ที่กำลังหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าและตอนที่อยู่บนรถ
“ก็ได้”
พายุอุกาบาตุเทเป็นห่าฝนลงสู่เขตแดนอัคคีที่สร้างโดยเหล่าจอมเวทย์ อุกาบาตุลูกน้อยใหญ่พุ่งตรงไปทางบุรุษผู้ทรงดาบ ก่อนจะขาดเป็นสองท่อนด้วยคมดาบที่คมกริบ
ความเหน็ดเหนื่อยของผู้ทรงดาบเพิ่มทวีคูณ เมื่อพายุอุกาบาตุไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงเลย ความว่องไว ความคบกริบของดาบชักจะน้อยลงทุกทีๆผลมาจากความเมื่อยล้า เศษอุกาบาตุบาดเข้าในเนื้อของ อราชิ ชินเมเรียกเลือดออกมาตาร่างกายได้อย่างดี
“ชิส์ทำให้ข้าเลือดออกจนได้น่ะพวกเจ้า”เสียงแหบกร้านลำคอเอ่ยอย่างสงบ
“จงดูให้ดี การเริงระบำสุดท้ายในชีวิตพวกเจ้า” ดาบยาวที่เคยถือไว้ระดับเอว เคลื่อนย้ายมาไว้ระดับคอ
“วิชาลับตระกูลชินเม ที่ 2 ความลับมวลบุพภา วงมนตราแห่งสายลม !!!”
ฟิ้ว ............... ฟับ ....ฟับ....ฟับ นั้นมันอะไร เร็วเหลือเกินมองแทบไม่ทัน ความคิดในหัวของ วิลเลี่ยม
ร่างของบุรุษ 3 คนล้มลงไปกองกับพื้นเลือดอาบนองไปทั่วพื้นที่
“เจ้าคงได้รู้แล้วสิน่ะ ความลับนั้นน่ะ” เสียงเย็นชาออกมาจากบุรุษผู้ทรงดาบก่อนจะหายตัวไปในที่สุด
อาณาเขตอัคคีหายไปอย่างไรร่องรอยเหลือเพียงบ้านเมืองดั่งเก่า
“เหนื่อยเป็นบ้าเลย แต่ก็ดีน่ะที่พวกเขามองไม่เนพวกเราที่ซ่อนอยู่ไม่งั้น
.. ไม่อยากคิดเลยแต่ก็คุ้มที่เสียเวลาจริงๆ”
“นั้นสิน่ะสุดยอดแห่งวิถีดาบ อิไอ อราชิ ชินเม สุดยอดจริงๆ ฟันได้ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลวาที่คนอื่นฟันได้ครั้งเดียว” เสียงจากสตรีสาวผมเทาที่กำลังเกลาผมตัวเองเล่นอยากมันส์ในอารมณ์ โดยไม่รู้เลยว่าตนนั้นเกือบตายจากพายุอุกาบาตุถล่ม
“เป็นยังไงบ้างครับ คุณเซรีน” วิลเลี่ยมวิ่งเข้าไปประคองตัวเซรีนที่ท่าทางจะล้มลง
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่หน้ามืดนิดหน่อยค่ะ คงเป็นเพราะปรับสภาพของร่างกายไม่ทันมั้งค่ะ ...... ก็เมื่อกี้ร้อนแทบแย่แต่อยู่ๆก็กลับมาอากาศเหมือนเดิม ....... .แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงน่ะค่ะ” เธอยิ้มอ่อนหวานให้แทนคำขอบคุณก่อนจะพยายามลุกขึ้นด้วยตัวเอง
“คู่นี้หนิ ดูแลดีกันจริงน่ะ” คำแซวออกจากหญิงสาวผมเทายาว นัยต์ตาสีฟ้าส่องประกายระริกราวกับสนุกที่ได้แหย่เพื่อนสนิท
“โธ่ เรลัวร์/ลัวร์ซัง ก็”
ความคิดเห็น