ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SyFrest_Luna >< ศึกชี้ชะตามหาเทพ

    ลำดับตอนที่ #5 : ความจริงถูกเปิดเผย

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 50


    ห้องรับแขกขนาดใหญ่มีฟอนิเจอร์มากมายตกแต่งอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว  ร่วมทั้งภาพฝาผนังของศิลปินชื่อก้องโลกลีโอนาโด  ดาวิน(ซี่)  ในขณะนี้ห้องรับแขกที่ใหญ่พอสำหรับคนเป็น 20 คน  แต่มีเพียงหญิงสาวสองคนเท่านั้นที่กำลังทำกิจกรรมในห้องนี้

     

    นี้เซจัง ฉันวานอะไรหน่อยได้หรือป่าวจ๊ะหญิงสาวที่มีเรือนผมสีเทาแผ่สยายไปถึงกลางหลัง  เอ่ยขึ้นหลังการจิบชาที่อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว

     

    อะไรล่ะ  ลัวร์ซังถ้าไม่ยากเย็นก็จะทำให้น่ะ  หญิงสาวที่ตัวค่อนข้างเล็กกว่าผู้ถามนิดนึงบอก  ขณะขะมักเขม้นอยู่กับการจัดดอกไม้เข้าแจกันใบใหญ่

     

    ช่วยไปดู ผู้ชายคนที่นอนจมกองเลือดเมื่อวานให้ทีสิจ๊ะ  เค้าคงจะได้สติแล้วล่ะมั้ง

     

    อ้าเสร็จพอดี   เดียวฉันไปดูให้แล้วกัน  เธอเดินออกจากห้องรับแขกไปในทันที

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ความรู้สีกอบอุ่นแบบนี้มันอะไร   แสงอะไรเนี่ยเราหลับตาอยู่ไม่ใช่หรอ   แล้วไอ้แสงนี้มันมาได้ยังไงกัน

     

     

    เพดานสีขาว ประดับด้วยลายกรีบดอกไม้อย่างเช่นที่เขาเคยเห็นมาในไม่นานนี้

     

    นี้มันห้องเมื่อกี้หนิ  แล้วเราเป็นอะไรไป  จำได้ว่าเห็นยัยนั่นตอนอาบน้ำเสร็จแล้ว.......

     

    ฟื้นแล้วหรอค่ะ นึกว่าจะไม่รอดสะแล้ว เลือดออกสะขนาดนั้นหญิงสาวที่มีเรือนผมสีเหลืองเรืองรองรับกับแสงตะวันที่ส่องผ่านมาทางหน้าต่างบานใหญ่ข้างๆเตียงของเขา  นัยน์ตาสีเขียวมรกตถามอย่างใสซื่อ  ในขณะที่พยายามเช็คสภาพร่างกายของคนที่นอนอยู่ถึงขนบนเตียง

     

    เอ่อ..........เธอคือใครเนี่ย  และฉันอยู่ที่....ไหน  สวรรค์....ใช่หรือป่าว คำพูดขาดเป็นตอนเป็นตอน เพราะว่าคนพูดขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงมหรรตภัยร้ายแรงที่คุกคามโดยมือของเจ้าหล่อนนั้นจับไปทั่วไปทีป

    ตั้งแต่หัว  จรดขา

     

    ขอโทษที่เสียมารยาทคะฉันจะตามเลียงลำดับเลยน่ะ  ฉันชื่อ เซรีน อโซล์ส ค่ะ  และที่คุณอยู่ก็คือ บ้านของเรลัวร์ซังเขาน่ะ  เรลัวร์ งั้นหรอ ?  ยัยนั่นชื่อ ทาลัวร์ ไม่ใช่หรอ ?  หรือว่าเราจำผิดหวา 

     

    แล้ว ยัยเรลัวร์ อะไรนั่นไปอยู่สะที่ไหนล่ะ 

     

    การเอ่ยถึงเจ้าของบ้าน  ควรใช่คำที่สุภาพหน่อยน่ะค่ะ เสียงเตือนเรียบขณะที่เธอกำลังเช็คขั้นตอนสุดท้ายเสร็จสิ้น   ทำภารกิจส่วนตัวของคุณเสร็จก็ลงไปข้างล่างสิค่ะ  แล้วคุณจะรู้ว่าเธออยู่ไหนเอง ไม่ว่าจะพูดยังไงใบหน้านวลขาวของเธอก็ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เช่นเคย  เธอหันมาส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเดินออกจากห้องไปในที่สุด

     

    หลังจากการทำภารกิจส่วนตัวที่ใช้เวลาอันยาวนานกับการเลือกใช้อุปกรณ์ในห้องน้ำ  เพราะไม่รู้ว่าอันไหนมันอันไหน มีเยอะแยะไปหมด  เสร็จ เขาก็เดินไปหน้าตู้ไม้ฮอกโมนี่ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆหน้าต่างหน้าใหญ่ที่มีผ้าม่านสองชั้นไหวไปตามแรงลม

     

    บ้านผู้หญิงทำไมมีเสื้อผู้ชายมากขนาดนี้ล่ะเนี่ย  หรือว่ายัยนั่นจะพาผู้ชายมาบ้านบ่อยๆ!!!” วิลเลี่ยมพึมพำ ขณะกำลังเลือกชุดที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองมาทาบบนตัวและมองบนกระจกบานใหญ่ที่อยู่ข้างๆตู้

     

    หลังจากใช้เวลาเนินนานกับการเลือกชุดเพราะห่วงหล่อ  เขาก็ได้เสื้อเชิ้ตสีขาวมีลายเป็นทางๆ กับกางเกงยาวสีดำซึ่งเหมาะกับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนและนัยน์ตาสีทองนั้นเป็นอันมาก

     

    วิลเลี่ยมเดินออกจากห้อง เดินตามทางเดินที่ยาวแสนยาวที่มาสุดตรงบันใดวนลงไปถึงชั้นล่าง

     

    ทำอะไรอยู่น่ะนาย  ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยน่ะ หญิงสาวเรือนผมสีเทากล่าวทักทาย แม้ในมือยังถือถ้วยชาขึ้นมาจิบเป็นระยะระยะ   เธอส่งปลายตาหันมามองยังเขาเหมือนกับสื่อว่า   แกไม่ตายใช่มั้ย ระวังตายได้เลย

     

    ถามมาได้ ฉันก็อาบน้ำน่ะสิ เอ่อฉันมีอะไรจะถามหน่อย วิลเลี่ยมเดินมาตรงหน้าเรลัวร์  และนั่งโซฟา ข้างๆเธอ

     

    ก็ถามมาสิ เธอยังคงยกถ้วยชาขึ้นมาจิบขณะที่นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนหันมามองบุรุษนัยน์ตาสีทองอย่างสงสัย

     

    ฉันมาที่นี้ได้ยังไงกัน  ฉันโดนฟ้าผ่าไม่ใช่หรอ ?    อ่าขอบคุณมากครับเขารับถ้วยชาจากมือของเซรีนและกล่าวตามที่ควรกล่าว 

    เธอยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะค้อมหัวให้นิดนึง และกล่าวว่า  ไม่เป็นไรค่ะ

     

    อืม  เรื่องงั้นนั้นหรอ  เดียวฉันจะเล่าให้ฟังน่ะ เซจัง จะฟังด้วยมั้ยจ๊ะหญิงสาวนั้นวางถ้วยชาลง และเอ่ยถามเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆเธอ

     

    ฟังสิจ๊ะ ไม่งั้นจะมานั่งด้วยทำไมล่ะ

     

    เรื่องมันเป็นอย่างงี้

     

     

    เธ....อ    เธอ...เป็นตั...ว  อะ..ไร  กันแน่..หรื..อว่า..เป็..น...ผี  ม่ะ...เอา...ผมก.ลัวแล้...ว  อย่..ามาหลอ...กกั..นอี..กเล..ยเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวในสิ่งที่ไร้รูปร่าง ไร้ร่างกาย

     

    นายมาถ่ายรูปฉันตอน.....เอ่อ   นายคงรู้  แล้วยังมีหน้ามาว่าฉันเป็นผีอีกงั้นหรอเสียงของเจ้าหล่อนโกรธจนเดือด ปุดๆ  (ถ้าเอาไข่ไปต้มคงจะไม่ต้องไปเสียค่าแก๊สต้มแน่ๆเลย) และวาวตาที่มองมายังเขานั้นมันวาวโรจน์ด้วยความโกรธ 

     

    ครึ้ม.....ครึ้ม....ครึ้ม   เสียงฟ้าร้องโดยความบ้าคลั่งในลักษณะเดียวกับที่หญิงสาวกำลังโกรธจัดและไม่นานจากนั้น

    พลังงานแรงสูงจากนภา ก็ผ่าลงไปในที่ต่างๆและในที่ๆทั้งสองคนอยู่ด้วย

     

    ฟ้าผ่าลงมาที่คนทั้งสอง

     

    วอลคาริว.....เอเน....โอเท็ม  ข้าแต่วิญญาณศักดิ์แห่งสายลมและสายน้ำ จงเป็นโล่ปกป้องตัวข้าจากภัยที่จะเกิด

    Riasx  Guard (โล่ไรอัส อ้างอิงจากตำนานโบราณของโรมัน  สมัยของกรุงทรอย เป็นโล่ที่เกิดจากพลังเวทย์ที่สมดุลจนเกิดเป็นธาตุกลาง)

     

    ตึ้มๆ........  เสียงโล่มนตรารับแรงมหาศาลจาก  พลังธรรมชาติ  พลังมากมายกระทบกับโล่มนตราแต่ไม่มีทีท่าว่าโล่นี่จะแตกเลยแม้แต่น้อย  สุดท้าย เมื่อฝ่ายรุกหมด ฝ่ายรับก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีตัวตนอีกต่อไป

    ทั้ง 2 คนนั้นไม่เป็นไร  ทางฝ่ายหญิงหนักนิดหน่อย เพราะใช้พลังมนตราไปค่อนข้างจะเยอะพอสมควร  แต่ทางฝ่ายชายนั้นอาการหนักกว่า นอนสลบไสลอยู่บนพื้นใกล้ๆเธอ

     

     

    เรลัวร์เล่าออกรสออกชาติอย่างยิ่งรอยยิ้มที่ดูน่ารักของเธอนั้นทำให้เขานั่งตะลึงอยู่

    ....  ไอ้ซาตานเมื่อวานนี้ เมื่อยิ้มก็กลับมาเป็นนางฟ้าได้น่ะเหมือนกัน อาจจะเป็นวิทยาการใหม่การข้ามสายพันธุ์โดยการยิ้ม ก็ได้แหะ …. ก่อนที่ความคิดงี้เง้าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ปากเขาจึงได้เอ่ยถามหญิงสาวเจ้าของบ้าน

     

    เอ่อฉันยังมีอีกคำถามหนึง เธอชื่อ ทาลัวร์ ไม่ใช่หรอ แต่ทำไมเห็น คุณเซรีนเขาเรียกเธอว่า เรลัวร์ล่ะ

     

    อ่อทาลัวร์ นั่นมันชื่อฉันโลกของนาย  และ  เรลัวร์คือชื่อของฉันในโลกนี้น่ะ เสียงใสยังคงฟังดูหวานอยู่เหมือนเดิมและใบหน้ารายเทพธิดานั้นยังคงยิ้มแย้ม และคุยสนุกปากกับเพื่อนสาวใกล้ๆตัว

     

    เซจังรู้มั้ยจ๊ะ  นายนี้น่ะ สลบเพราะกลัวฟ้าผ่ายังไม่พอยังฉี่แตกอีกเสียงกระซิบเบาๆจากหญิงสาวผู้มีเรือผมสีเทายาวสลวย

     

    ก็ไม่เหงแปลกเลยหนิจ๊ะ  เขาไม่ใช่พวกเราสักหน่อย ถึงจะได้ไม่กลัวน่ะเสียงกระซิบตอบกลับ

    เสียงกระซิบกระซาบของสองสาวทำให้บุรุษที่นั่งอยู่คนเดียวรู้สึกไม่ค่อยดีเลยเดินอย่างเงียบๆเขาไปใกล้ใบหน้าเรลัวร์จนแทบจะแนบชิดสนิทกายกันเลย

     

    เอ่อ คุยอะไรกันน่ะ พอดีฉันมีเรื่องจะมาถามวิลเลี่ยมถามด้วยวาวตาที่อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างยิ่ง

     

    เสียงนั้นทำให้หญิงสาวเรือนผมสีเทาเบือนหน้าออกจากเพื่อนสาวเพื่อจะหันไปหาต้นเสียง  แต่พอเธอหันมาหน้าที่อยู่ใกล้จนเกือบที่จะชิดกันนั้น ก็ชิดกันพอดี  โดยไม่ใช่ใบหน้าชิดกับใบหน้า   แต่เป็นริมฝีปากของฝ่ายชายชิดกับใบหน้าของฝ่ายหญิง

     

    หอมดีน่ะ ตัวเธอเนี้ยวิลเลี่ยมเอ่ยด้วยรอยยิ้มกวนๆไปให้หญิงสาว  จึงทำให้ใบหน้านวลขึ้นสีด้วยอารมณ์โกรธ

     

    เอ่อ ลัวร์จัง ฉันว่าฉันน่าจะต้องไปห้องน้ำหรือเปล่าจ๊ะ เซรีนเอ่ยถามด้วยใบหน้าทีขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวของตนกำลังหวานกับเด็กหนุ่ม

     

    มันเป็นแค่อุบัติเหตุจะชั้นไม่ได้อยากให้มันเกิดหรอกนะ เรลัวร์แก้ปัญหาด้วยการหันไปพูดกับเพื่อนสาวที่ทำท่าจะลุกหนีด้วยความอาย

     

    เธอไม่อยากให้เกิด  แต่ฉันอยากหนิ คำพูดต่อมาของเด็กหนุ่มทำให้อารมณ์โกรธออกเคืองๆของหญิงสาวกลายเป็นโกรธหนักเข้าไปอีก

     

    พูดอย่างงี้  อยากจะตายจริงๆใช้มั้ยนายน่ะ  ใบหน้าซาตานกลับมาครอบงำใบหน้าที่เคยถูกกล่าวว่างดงามอย่างเทวดา

     

    เอ่ออ  ฉันว่าพอเถอะน่ะค่ะ  หญิงสาวร่างเล็กเอ่ยห้ามเมื่อเห็นเพื่อนของตนกำลังจะกลายร่าง

     

    ฉันเห็นแก่ เซจังน่ะ ไม่งั้นนายตายแน่ๆ  แล้วจะถามอะไรล่ะที่เข้ามาใกล้ๆ

     

    เอ่อ เธอบอกว่า เรลัวร์เป็นชื่อในโลกนี้  งั้นหมายความว่า....

     

    ก็นายไม่ได้อย่โลกเดิมน่ะสิ .....ที่นี้เป็นโลกที่จอมเวทย์จำนวนมากมายสร้างขึ้น  มันเป็นดั่งด้านกระจกของโลกแห่งความจริง ในเมื่อ แสงยังมีเงา  ดียังมีชั่ว สุริยะ ยังคงมี จันทรา  แล้วทำไม โลกนี้ถึงจะมีไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ  ในครั้งอดีตการสร้างโลกนี้นั้นเป็นด้านกระจกของโลก  สิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างจึงต้องตรงกันข้ามกับโลกแห่งความจริง  แม้แต่เพศของมนุษย์ก็เช่นกัน จอมเวทย์ทั้งหลายจริงออกความคิดที่จะทำให้โลกนี้ไม่เป็นดั่งกระจกอีกต่อไป โดยการสร้างของวิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะ สร้างความสมดุลของโลกในนี้  แต่การที่สร้างของวิเศษขึ้นก็ต้องมีสิ่งที่จะมาแลกเปลี่ยน โดยสิ่งที่แลกเปลี่ยนกับของวิเศษเหล่านั้น ก็คือ ชีวิตของเหล่าผู้สร้างนับ หมื่นคน  จึงมีอนุเสาวรีย์เพื่อเตือนความทรงจำว่า พวกบรรพบุรุษต้องสูญเสียมากเท่าไหร เพื่อพวกเราเสียงบรรยายยาวจากหญิงสาวคนเดิมนัยน์ตาของเธอยังคงมองมาทาง วิลเลี่ยม เหมือนถามว่า  ยังคงมีคำถามอะไรอยู่มั้ยค่ะ  คุณชาย

     

     

    งั้นก็หมายความว่าเมืองนี้มันเมืองคนประหลาดงั้นหรอ ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×