ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SyFrest_Luna >< ศึกชี้ชะตามหาเทพ

    ลำดับตอนที่ #4 : สวรรค์ชึ้นพิเศษ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 50


    นี้เราตายไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย ใช่สิโดนสะขนาดนั้น ป่านี้คงไปฝังที่ไหนสักแห่งแล้วมั้ง (ไม่ต้องเผา เพราะมันไหม้สะเกรียม) 
     
    เพดานและผนังห้องสีขาวนวลตาแต่งเติมสีสันด้วยลายพฤกษานาๆชนิดที่เบ่งบานพร้อมที่จะได้รับการผสมเกสรถ้าหากพฤกษาเหล่านั้นมิใช่เป็นเพียงลายบนผนังเท่านั้น
     
    โคมไฟแก้วคริสตัลขนาดใหญ่แขวนอยู่บนศรีษะของเขา และแจกันที่มีดอกไม้เบ่งบานเหมือนกับว่าได้รับการดูแลอย่างดี
     
    สวรรค์มันดีอย่างงี้เอง ไม่น่าละทำไมวัยรุ่นถึงอยากตายแข่งกันซิ่งมอเตอร์ไซ กันนัก ที่พักใหญ่ยังกับห้องในโรงแรม ฟอนิเจอร์ก็ระดับ 5 ดาวเลยน่ะเนี่ย ความคิดของเขาพรรณนาไปเรื่อยๆและหยุดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาก็มีคนร่วมชะตากรรมอยู่มิใช่หรือ แล้วเธอไปอยู่ไหนล่ะ 
     
    ในขณะที่เขากำลังเคลื่อนย้ายตนเองไปที่หน้าประตู แสงจากโคมไฟที่แขวนอยู่เหนือศรีษะตนเอง ส่องทำการกระทบกับวัตถุบางมีลักษณะคล้ายพลาสติก มือหนาหยิบขึ้นมาดู แสยะยิ้มเล็กน้อยๆกับฝีมือของเขา ก่อนจะเก็บวัตถุนั้นเข้ากระเป๋าเสื้อแล้วเดินหาผู้รวมชะตากรรม
     
    “ไปอยู่ไหนน่ะ ยัยตัวประหลาด”เขาลุกขึ้นผลักประตูไม้ที่สลักไว้อย่างสวยงามออก และพบกับภาพอันน่าสะพรึงกลัว
     
     
                                                                                    ย้อนความ
     
    “เธอหนิกรี๊ดเป็นแต๋วไปได้น่ะ ผู้ชายอารายเนี่ย” สาวน้อยนามทาลัวร์วางร่างของคนที่สูงกว่าลงไป พร้อมเช็ดเหงือที่ผุดมาบนใบหน้ารามนางฟ้า หรือเทพทิดาของเธอ  **กลิ่นอะไรเนี่ย** เธอนำมือที่เช็ดหน้านั้นมาดมเพื่อพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นอย่างที่เธอคาดไว้หรือปล่าว  
     
    “5555+ ผู้ชายอะไรเนี่ย   กลัวฟ้าฝ่าจนฉี่ลาดเลยหรอ” เธอเอ่ยอย่างยิ้มๆ พร้อมเดินออกไปทางประตูไม้สลักนั้น
    เธอเดินตรงไปเพื่อเข้าห้องตรงข้ามที่เป็นห้องของเธอ
    เพื่อที่จะไปชำระล้างร่างกายจากของเหลวมิพึ่งประสงค์
     
    ซ่า.....ส่า.....ซ่า   เสียงน้ำจากฝักบัวที่กระทบกับพื้นกระเบื้องบ่งบอกว่า เธอนั้นกำลังทำภารกิจส่วนตัวของเธอ
     
     
    วิลเลี่ยมเดินออกมาจากห้องเจอสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือ ภาพที่ละลานตา มีเพียงแต่ประตูเท่านั้นที่แสดงว่านั้นเป็นห้องพัก
     
    ….   นี้คงจะเป็นสวรรค์ชั้นพิเศษล่ะมั้งเนี่ย เทวดาสาวอาจจะปิ้งเราเลยไม่อยากให้เราอยู่ชั้นต่ำล่ะสิ .....
     
    “แล้วเราจะหาเจอมั้ยเนี่ย ยัยนั้นน่ะ”วิลเอ่ยขณะที่กำลังจะเคาะประตูตรงกันข้ามกับห้องเขาเพื่อถามว่า เห็นเธอมั้ย
     
     ซ่า...ส่า...ซ่า เสียงอาบน้ำของคุณเธอดังออกมาถึงหน้าประตู 
     
    “เสียงคนอาบน้ำงั้นก็ต้องมีคนอยู่สิน่ะ ” ลิวเลี่ยมลองบิดลูกบิดประตูดู ประกฎว่าไม่ได้ล็อค “ประตูก็ไม่ได้ล็อคนี้หว่าคงไม่ได้อาบน้ำหรอกมั้ง” เขาถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่หรูพอๆกับห้องเขาเลย แต่มีสิ่งแต่งเติมนิดหน่อยคือ ตุ๊กตาน้อยใหญ่เรียงอยู่บนเตียงนอนคิงไซส์สีชมพูอ่อนกับหมอนที่วางเป็นระเบียบ
     
    “ใครน่ะ เซจังหรอจ๊ะ รอแปปนึงน่ะเดียวออกไปเดียวนี้แหละ” ซวยล่ะสิเสียงนี้มัน ยัยนั่นนี้หนา
     
    อี๊ยย   ...ประตูห้องน้ำเปิดออก 
     
    “มีอะไรหรอ เซจัง......นาย....นายมาทำอะไรที่นี้ย่ะ” เธอยืนตลึงที่เห็นใบหน้าของเขาในเวลานี้
    แต่เธอหารู้ไม่ว่า เขาน่ะตลึงกว่าเธอ (จะไม่ให้ตลึงไดยังไง) ก็คุณเธอไม่ได้ส่วมใส่อาภรใดๆเลย มีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวปกปิดร่างกายเพียงเท่านั้น
     
    “จ้องอะไรนักหนาห่ะ” เธอจ้องนัยน์ตาของเขา ก็พอที่จะเดาได้เลยว่า เขาไม่ได้มองหน้าที่สวยงามของเธออีกแล้วแต่เขามองส่วนที่ตำกว่านั้นลงมาประมา 15-20 เซนติเมตร
     
    นี้เราได้ขึ้นสวรรค์ของจริงเลยใช่มั้ยเนี่ย มีสาวมาบำเรอถึงที่เลยแหะ นี้หรือว่าเราฝันไปแหละเนี่ยเราอาจจะฝันไปแต่อย่างน้อยก็ขอลองหน่อยเธอว่านุ่มขนาดไหนกัน
     
    “เอ่อ ขอโทษน่ะเพื่อจะได้รู้ว่าฝันหรือ ขึ้นสวรรค์ฉันจึงต้องทำแบบนี้” เขาเอื้อมมือของเขามาเตะสิ่งที่ตาของเขาจ้องมานาน เห้ยนี้มาน   นุ่ม~นิ่มอะไรขนาดนี้
    โลหิตสีแดงไหลออกมาจากจมูกที่ไร้บาดแผลใดๆ และไร้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่ามันไหลออกมาได้อย่างไรเช่นกัน
     
    “แก~~~~บังอาจมากไปแร้ว~~~~~~~~~ น่ะ..” วอลคาริว....เอเน....โอเท็ม ข้าแต่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ เสียงบริกรรมคาถาเพื่อแก้แค้นในสิ่งที่เขากระทำต่อเธอ 
    แต่เธอหารู้ไม่ว่า ในขณะที่เธอกำลังรวบรวมสมาธิบริกรรมคาถาอยู่นั้น คนที่ล่วงเกินเธอกำลังจะตายเพราะ ???????
     
    เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาพร้อมร่างบางของหญิงสาวอีกคนประกฎขึ้นมา
     
    “นี้ๆ ลัวร์จัง ออกไปเที่ยวกันม่ะ”หญิงสาวคนนั้นเอ่ยด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มใสซื่อ
    ร่างที่ไร้อาภรณ์จึงได้สติกลับคืนมาและเลิกบริกรรมคาถาไป
     
    “ลัวร์จัง นี้มันเลือดนี้หนา เลือด เขาเป็นอะไรไปน่ะ” หญิงสาวคนนั้นถามด้วยความวิตกกังวลเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มนั้นนอนจมกองเลือดอยู่ ใกล้ๆเพื่อนของตนที่อยู่ที่สภาพไร้สิ่งใดที่มาปกปิดร่างของเธอ และ กำลังยืนบริกรรมคาถา
     
    “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เซจัง” เธอก้มลงจับที่ข้อมือของคนที่นอนจมกองเลือด ชีพจรยังคงเต้นอยู่ แต่เต้นด้วยอัตราที่เร็วมาก อยู่อย่างงี้ไม่นานก็คงตายได้เหมือนกัน     **  เร็วสิรีบๆตายไปสะ ชั้นจะได้ไม่ต้องเป็น ฆาตกร **
    หญิงสาวผู้เข้ามาใหม่เดินไปหยุดอยู่หน้าชายหนุมที่นอนจมกองเลือดที่ใหลออกมาจากจมูก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล    มือบางทั้ง 2 ข้างยื่นออกไปอังไว้ที่จมูก ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่าง
     
    ฮิลคาริน....เอเน...โอเท็ม   จงฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนแอ และ ซ่อมแซมสิ่งที่บาดเจ็บไปพร้อมกัน
     Healing Senculiy (ฮิลลิ่ง เซ็นชูรี่) แสงสว่างสีฟ้านวลตา และ ประกฎวงอาณาเขตเพียงรอบตัวของเขาเพียงเท่านั้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×