ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความหายนะที่ซ่อนอยู่
ตำนานของป่าทมิฬมีอยู่ว่า ทุกๆ 3 วันป่าแห่งนี้จะปล่อยคำสาปใส่สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ยกเว้นต้นไม้ และคำสาปแต่ละอย่างไม่มีทางแก่ การแข่ง เดอะ วาร์ จึงมีเวลาจำกัด ผู้แข่งขันทุกคนต้องสู้กันให้รู้ผลว่าใครคือผู้ชนะอย่างแท้จริง ในเวลาเพียง 3 วัน
แต่แน่นอน เรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเคล์ เขาไม่สนใจอะไรง่ายๆ แต่ถ้าสนใจแล้วไม่ว่าเป็นอะไรเขาต้องได้มา อย่างเช่น ราเดีย เธอไม่รู้เลยว่าถูกเคล์สกดรอยตามมา แต่มันเป็นเรื่องปกติของตระกูลนักฆ่า คิมสัน และเคล์ก็เป็นทายาทของตระกูลนี้ แต่นั้นก็ไม่แปลกเท่ากับที่ เคล์ ไม่เคยใช้เวทย์แสงได้เลย แต่ในทางตรงกันข้าม เขาใช้ได้แต่เวทมนตร์ดำทุกแขนง จอมเวทย์มากมายต่างทำนายว่า เขาคือร่างจุติใหม่ของปิศาจตัวแรกที่มีนามว่า คารอส ชื่อที่สวรรค์ต้องจดจำ เพราะครั้งหนึ่งคารอสได้ขึ้นมาถึงสวรรค์ และทำลายมันทิ้งอย่างง่ายดาย แต่ก็มีเทพหลายองค์ที่รอดมาได้ และสร้างสวรรค์แห่งใหม่ขึ้น คารอสเป็นจอมปิศาจสายพันธุ์แท้ที่ไม่มีอะไรมาจัดการมันได้นอกจากตัวเอง มันฆ่าตัวตายเมื่ออายุ 1 ล้านกว่าๆ ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร เมื่อคารอสตายเลือดของคารอสได้ไหลเข้าไปในตัวของมนุษย์ผู้หนึ่ง จนกลายมาเป็นปิศาจ ถึงจะไม่ใช่พันธุ์แท้แต่มันก็มีพลังมหาศาล และขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นกองทัพปิศาจที่แข็งแกร่ง
วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วของการแข่ง เสียงของการต่อสู้ก็ดังตลอดเวลา ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"ไม่เหนื่อยเลยหรือไงวะ เอาแต่สู้"เสียงบ่นของเคล์ดังออกมาเบาๆ ขณะกำลังตามรอยราเดียไป แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจอกลุ่มนักดาบ 4 คน พวกนี้คือคู่อริของเคล์ มันเคยสู้กับเคล์หลายครั้ง หลายแบบ ทั้งรุม ตัวต่อตัว แต่มันก็ไม่เคยชนะเคล์เลย
"หวัดดี ถอยไปหน่อยได้มั้ยกำลังรีบ"เคล์กล่าวทักแล้วทำท่าจะเดินจากไป แต่พวกมันก็พูดดักไว้ก่อน
"จะรีบไปตายที่ไหนล่ะ"คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าพูดขึ้น ผมของเขาเป็นสีดำ ขัดกับดวงตาสีฟ้า และใส่ชุดเกราะสีทอง ดาบคู่ใจถืออยู่ในมือเตรียมพร้อมที่จะชักออกมาทุกเมื่อ
"พูดดีๆ ไม่ชอบใช่มั้ย เดวิด"พวกมันจงใจมาหาเรื่องเคล์ เคล์ที่อยากจะตามราเดียไปใจจะขาด จึงไม่รอช้าพุ่งเข้าหาเดวิดอย่างรวดเร็ว และต่อยเข้าไปที่ท้องอย่างแรง ด้วยแรงเหนือคนธรรมดาของเคล์ส่งผลให้เสื้อเกราะของเดวิดแตกออกเป็นรู แต่หมัดของเคล์ยังคงพุ่งเข้าที่ท้องของเดวิดที่ตอนนี้ไม่มีเสื้อเกราะแล้ว ทำให้ร่างของเดวิดรอยขึ้นจากพื้นประมาณ 5 เซนก่อนจะหายไป ลูกน้องของเดวิดอีก 3 คนทำท่าจะเข้ามาแต่เคล์ก็ไปแล้ว ไปอย่างรวดเร็วดังสายฟ้า แต่คงจะเป็นสายฟ้าสีดำ
เคล์ที่ตอนนี้ใกล้ตามราเดียทันแล้ว แต่มันก็มืดพอดี
"ต้องตามราเดียให้เจอก่อนเที่ยงคืน"เคล์คิดในใจ เพราะเมื่อเที่ยงคืน ป่าทมิฬแห่งนี้จะปล่อยคำสาปต่างๆ มากมาย ทำลายทุกสิ่งมีชีวิตในป่า
และแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็กองรวมกันอยู่ตรงนั้ เคล์เจอกับราเดียจนได้ แต่สภาพไม่น่าดูนักเนื่องจากชุดเกราะของเธอมีรอยร้าวเกิดขึ้นเต็มไปหมด มีเลือดไหลซึมออกมาตามชุดเกราะ เธอหมดสติอยู่ สีหน้าเธอซีดมาก
"ราเดีย"เคล์ร้องออกมาอย่างตกใจและเข้าไปกอดเธอไว้ทันที เขาจัดการถอดชุดเกราะเพื่อจะดูว่าเธอเป็นอะไร เสื้อผ้าในชุดเกราะของเธอไม่เป็นอะไรเลย แต่ตามตัวของเธอกลับมีรอยฟกช้ำ เธอคงโดนเวทย์ลมกระแทกใส่
"ชั้นจะช่วยเธอ ความมืดที่เป็นเพื่อนข้า จงช่วยคนรักของข้าจากความเจ็บปวดอฟาดาส"เมื่อสิ้นคำร่ายมนตร์ของเคล์ ก็มีไอสีดำมากมายเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเคล์ก่อนจะค่อยๆ ไหลเข้าไปในตัวของราเดีย สีหน้าเธอดีขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็เหมือนคนนอนหลับอยู่ แต่อยู่ในอ้อมกอดของเคล์
และแล้วเวลาที่ทุกคนไม่อยากให้มีก็มา มันใกล้เที่ยงคืนแล้วเหลืออีกไม่กี่นาทีเท่านั้น หลายคนเริ่มออกอาการเหมือนคนบ้า บางคนถึงกับแทงตัวเองให้บาดเจ็บหนักแล้วถูกส่งออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องทนกับคำสาปของป่าแห่งนี้
"ใกล้แล้วสินะ"เคล์พูดเบาๆ เพราะใกล้ถึงเวลาของหายนะตัวจริงของป่าแห่งนี้
"ใกล้อะไรเหรอ"เสียงของราเดียดังขึ้นเบาๆ อย่างงัวเงีย แต่เมื่อเธอเริ่มได้สติ เธอก็รู้สึกเหมือนถูกกอดอยู่ และอีกอย่างคือเธอเพิ่งจำเสียงของอีกฝ่ายได้ เธอจึงกระโดดรุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันเร็วจนผิดปกติ เธอจึงก้มดูตัวเองที่ตอนนี้ไม่มีชุดเกราะแล้ว เหลือแต่ชุดธรรมดาของเธอ
"ไอ้ลามก แกจะข่มขื่นชั้นเหรอ"ราเดียรีบหยิบดาบคู่ใจแล้วใส่เคล์อย่างไม่มีคำว่ายั้ง แต่เคล์ก็หายไปเหลือแต่เสียง
"เปล่านะ ผมรัก..."เสียงเคล์พูดยังไม่ทันจบราเดียก็พูดแทรกทันที
"รู้แล้วว่าแกรักชั้น แต่ทำไมต้องทำกับชั้นแบบนี้"ราเดียพูดอย่างอ่อนแรง และล้มลงไปนั่งกับพื้น น้ำตาเริ่มไหลออกมาเป็นสาย
"ฟังให้จบก่อนสิ ผมถอดชุดเกราะคุณออกเพราะผมจะรักษาแผลให้ แล้วก็กอดคุณเพราะคุณตัวสั่น คงเป็นหนาวผมเลยกอดไว้"เคล์พูดอธิบาย แต่เรื่องกอดคงไม่ใช่เพราะเห็นราเดียหนาวหรอก เพราะมันกอดตั้งแต่รักษาเสร็จยังไม่ยอมปล่อยเลย
"นายพูดจริงนะ"เธอพูด น้ำตาของเธอค่อยหยุดไหล เธอควรจะขอบคุณเคล์ ไม่ใช่มาหาว่าเขาเป็นไอ้ลามก
"จริงสิ"เคล์ดังออกมาอีกครั้งก่อนที่ร่างของเคล์จะปรากฎอยู่ข้างหน้าของราเดีย เคล์ยื่นมือมาทางราเดีย เธอมองมือของเคล์ก่อนจะจับมือของเขาไว้ และทันทีที่จับมือของเคล์ เคล์ก็เริ่มร่ายมนตร์
"ความมืดจงปกป้องพวกเราจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอันตราย ดาร์ค แลนด์"เมื่อสิ้นสุดการร่ายเวทย์ รอบตัวพวกเขาก็เป็สีดำทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังมองเห็นกัน
"นายทำอะไรน่ะ"ราเดียถามด้วยความตกใจ ที่เธอถูกพามาที่ไหนก็ไม่รู้
"อย่าตกใจเลย อยู่ที่นี่แล้วจะปลอดภัยจากคำสาปของป่าทมิฬ"เคล์บอก ทำให้ราเดียสบายใจ
ทุกคนที่ตอนนี้อยู่ในป่าทมิฬ เมื่อโดนคำสาปกับไม่ถูกส่งตัวกลับไปรักษา ทำให้พวกเขาต้องทรมานเพราะคำสาป และเมื่อทุกสิ่งมีชีวิตถูกคำสาปและตายหมดแล้วคำสาปจึงหยุดทำงาน เคล์และราเดียจึงปรากฎตัวอีกครั้งที่นั้น
โดยไม่รู้เลยว่าพวกปิศาจ ได้รับรู้ถึงเวทมนตร์ดำในตำนานที่เคล์ใช้ เวทย์บทนี้มีคนเดียวที่ใช้ได้ก็คือ คารอส พวกมันต่างร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า"นายเหนือกลับมาแล้ว"พวกมันต่างรู้ว่าคารอสฆ่าตัวเองทำไม เพื่อให้ได้พลังที่สุดยอดกว่าสิ่งอื่นใด ความหายนะของจริงมันเริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่มนตร์บทนั้ถูกใช้
แต่แน่นอน เรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเคล์ เขาไม่สนใจอะไรง่ายๆ แต่ถ้าสนใจแล้วไม่ว่าเป็นอะไรเขาต้องได้มา อย่างเช่น ราเดีย เธอไม่รู้เลยว่าถูกเคล์สกดรอยตามมา แต่มันเป็นเรื่องปกติของตระกูลนักฆ่า คิมสัน และเคล์ก็เป็นทายาทของตระกูลนี้ แต่นั้นก็ไม่แปลกเท่ากับที่ เคล์ ไม่เคยใช้เวทย์แสงได้เลย แต่ในทางตรงกันข้าม เขาใช้ได้แต่เวทมนตร์ดำทุกแขนง จอมเวทย์มากมายต่างทำนายว่า เขาคือร่างจุติใหม่ของปิศาจตัวแรกที่มีนามว่า คารอส ชื่อที่สวรรค์ต้องจดจำ เพราะครั้งหนึ่งคารอสได้ขึ้นมาถึงสวรรค์ และทำลายมันทิ้งอย่างง่ายดาย แต่ก็มีเทพหลายองค์ที่รอดมาได้ และสร้างสวรรค์แห่งใหม่ขึ้น คารอสเป็นจอมปิศาจสายพันธุ์แท้ที่ไม่มีอะไรมาจัดการมันได้นอกจากตัวเอง มันฆ่าตัวตายเมื่ออายุ 1 ล้านกว่าๆ ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร เมื่อคารอสตายเลือดของคารอสได้ไหลเข้าไปในตัวของมนุษย์ผู้หนึ่ง จนกลายมาเป็นปิศาจ ถึงจะไม่ใช่พันธุ์แท้แต่มันก็มีพลังมหาศาล และขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นกองทัพปิศาจที่แข็งแกร่ง
วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วของการแข่ง เสียงของการต่อสู้ก็ดังตลอดเวลา ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"ไม่เหนื่อยเลยหรือไงวะ เอาแต่สู้"เสียงบ่นของเคล์ดังออกมาเบาๆ ขณะกำลังตามรอยราเดียไป แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจอกลุ่มนักดาบ 4 คน พวกนี้คือคู่อริของเคล์ มันเคยสู้กับเคล์หลายครั้ง หลายแบบ ทั้งรุม ตัวต่อตัว แต่มันก็ไม่เคยชนะเคล์เลย
"หวัดดี ถอยไปหน่อยได้มั้ยกำลังรีบ"เคล์กล่าวทักแล้วทำท่าจะเดินจากไป แต่พวกมันก็พูดดักไว้ก่อน
"จะรีบไปตายที่ไหนล่ะ"คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าพูดขึ้น ผมของเขาเป็นสีดำ ขัดกับดวงตาสีฟ้า และใส่ชุดเกราะสีทอง ดาบคู่ใจถืออยู่ในมือเตรียมพร้อมที่จะชักออกมาทุกเมื่อ
"พูดดีๆ ไม่ชอบใช่มั้ย เดวิด"พวกมันจงใจมาหาเรื่องเคล์ เคล์ที่อยากจะตามราเดียไปใจจะขาด จึงไม่รอช้าพุ่งเข้าหาเดวิดอย่างรวดเร็ว และต่อยเข้าไปที่ท้องอย่างแรง ด้วยแรงเหนือคนธรรมดาของเคล์ส่งผลให้เสื้อเกราะของเดวิดแตกออกเป็นรู แต่หมัดของเคล์ยังคงพุ่งเข้าที่ท้องของเดวิดที่ตอนนี้ไม่มีเสื้อเกราะแล้ว ทำให้ร่างของเดวิดรอยขึ้นจากพื้นประมาณ 5 เซนก่อนจะหายไป ลูกน้องของเดวิดอีก 3 คนทำท่าจะเข้ามาแต่เคล์ก็ไปแล้ว ไปอย่างรวดเร็วดังสายฟ้า แต่คงจะเป็นสายฟ้าสีดำ
เคล์ที่ตอนนี้ใกล้ตามราเดียทันแล้ว แต่มันก็มืดพอดี
"ต้องตามราเดียให้เจอก่อนเที่ยงคืน"เคล์คิดในใจ เพราะเมื่อเที่ยงคืน ป่าทมิฬแห่งนี้จะปล่อยคำสาปต่างๆ มากมาย ทำลายทุกสิ่งมีชีวิตในป่า
และแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็กองรวมกันอยู่ตรงนั้ เคล์เจอกับราเดียจนได้ แต่สภาพไม่น่าดูนักเนื่องจากชุดเกราะของเธอมีรอยร้าวเกิดขึ้นเต็มไปหมด มีเลือดไหลซึมออกมาตามชุดเกราะ เธอหมดสติอยู่ สีหน้าเธอซีดมาก
"ราเดีย"เคล์ร้องออกมาอย่างตกใจและเข้าไปกอดเธอไว้ทันที เขาจัดการถอดชุดเกราะเพื่อจะดูว่าเธอเป็นอะไร เสื้อผ้าในชุดเกราะของเธอไม่เป็นอะไรเลย แต่ตามตัวของเธอกลับมีรอยฟกช้ำ เธอคงโดนเวทย์ลมกระแทกใส่
"ชั้นจะช่วยเธอ ความมืดที่เป็นเพื่อนข้า จงช่วยคนรักของข้าจากความเจ็บปวดอฟาดาส"เมื่อสิ้นคำร่ายมนตร์ของเคล์ ก็มีไอสีดำมากมายเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเคล์ก่อนจะค่อยๆ ไหลเข้าไปในตัวของราเดีย สีหน้าเธอดีขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็เหมือนคนนอนหลับอยู่ แต่อยู่ในอ้อมกอดของเคล์
และแล้วเวลาที่ทุกคนไม่อยากให้มีก็มา มันใกล้เที่ยงคืนแล้วเหลืออีกไม่กี่นาทีเท่านั้น หลายคนเริ่มออกอาการเหมือนคนบ้า บางคนถึงกับแทงตัวเองให้บาดเจ็บหนักแล้วถูกส่งออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องทนกับคำสาปของป่าแห่งนี้
"ใกล้แล้วสินะ"เคล์พูดเบาๆ เพราะใกล้ถึงเวลาของหายนะตัวจริงของป่าแห่งนี้
"ใกล้อะไรเหรอ"เสียงของราเดียดังขึ้นเบาๆ อย่างงัวเงีย แต่เมื่อเธอเริ่มได้สติ เธอก็รู้สึกเหมือนถูกกอดอยู่ และอีกอย่างคือเธอเพิ่งจำเสียงของอีกฝ่ายได้ เธอจึงกระโดดรุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันเร็วจนผิดปกติ เธอจึงก้มดูตัวเองที่ตอนนี้ไม่มีชุดเกราะแล้ว เหลือแต่ชุดธรรมดาของเธอ
"ไอ้ลามก แกจะข่มขื่นชั้นเหรอ"ราเดียรีบหยิบดาบคู่ใจแล้วใส่เคล์อย่างไม่มีคำว่ายั้ง แต่เคล์ก็หายไปเหลือแต่เสียง
"เปล่านะ ผมรัก..."เสียงเคล์พูดยังไม่ทันจบราเดียก็พูดแทรกทันที
"รู้แล้วว่าแกรักชั้น แต่ทำไมต้องทำกับชั้นแบบนี้"ราเดียพูดอย่างอ่อนแรง และล้มลงไปนั่งกับพื้น น้ำตาเริ่มไหลออกมาเป็นสาย
"ฟังให้จบก่อนสิ ผมถอดชุดเกราะคุณออกเพราะผมจะรักษาแผลให้ แล้วก็กอดคุณเพราะคุณตัวสั่น คงเป็นหนาวผมเลยกอดไว้"เคล์พูดอธิบาย แต่เรื่องกอดคงไม่ใช่เพราะเห็นราเดียหนาวหรอก เพราะมันกอดตั้งแต่รักษาเสร็จยังไม่ยอมปล่อยเลย
"นายพูดจริงนะ"เธอพูด น้ำตาของเธอค่อยหยุดไหล เธอควรจะขอบคุณเคล์ ไม่ใช่มาหาว่าเขาเป็นไอ้ลามก
"จริงสิ"เคล์ดังออกมาอีกครั้งก่อนที่ร่างของเคล์จะปรากฎอยู่ข้างหน้าของราเดีย เคล์ยื่นมือมาทางราเดีย เธอมองมือของเคล์ก่อนจะจับมือของเขาไว้ และทันทีที่จับมือของเคล์ เคล์ก็เริ่มร่ายมนตร์
"ความมืดจงปกป้องพวกเราจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอันตราย ดาร์ค แลนด์"เมื่อสิ้นสุดการร่ายเวทย์ รอบตัวพวกเขาก็เป็สีดำทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังมองเห็นกัน
"นายทำอะไรน่ะ"ราเดียถามด้วยความตกใจ ที่เธอถูกพามาที่ไหนก็ไม่รู้
"อย่าตกใจเลย อยู่ที่นี่แล้วจะปลอดภัยจากคำสาปของป่าทมิฬ"เคล์บอก ทำให้ราเดียสบายใจ
ทุกคนที่ตอนนี้อยู่ในป่าทมิฬ เมื่อโดนคำสาปกับไม่ถูกส่งตัวกลับไปรักษา ทำให้พวกเขาต้องทรมานเพราะคำสาป และเมื่อทุกสิ่งมีชีวิตถูกคำสาปและตายหมดแล้วคำสาปจึงหยุดทำงาน เคล์และราเดียจึงปรากฎตัวอีกครั้งที่นั้น
โดยไม่รู้เลยว่าพวกปิศาจ ได้รับรู้ถึงเวทมนตร์ดำในตำนานที่เคล์ใช้ เวทย์บทนี้มีคนเดียวที่ใช้ได้ก็คือ คารอส พวกมันต่างร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า"นายเหนือกลับมาแล้ว"พวกมันต่างรู้ว่าคารอสฆ่าตัวเองทำไม เพื่อให้ได้พลังที่สุดยอดกว่าสิ่งอื่นใด ความหายนะของจริงมันเริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่มนตร์บทนั้ถูกใช้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น