คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ เจ้าดอกไม้
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอซัน”
ดวงกมลเอ่ยทักบุตรชายที่มารับตนที่ร้านกาแฟในตอนเย็นตามที่เขาได้รับปากว่าจะมารับไปรับประทานข้าวเย็นด้วยกัน
“ครับ กลับกันเลยไหม” ภูบดินทร์ตอบผู้เป็นแม่
“นั่งพักให้หายเหนื่อยสักพักก่อนตาซัน”
ดวงกมลบอกบุตรชายซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะตัวที่ว่างหน้าเคาน์เตอร์ ทำเอาพนักงานสาวๆ
พากันยิ้มให้ลูกชายเจ้านาย แม้จะเคยเจอบ่อยครั้งตั้งแต่เปิดร้านมาได้ปีกว่าๆ
แต่ก็ยังชื่นชมในความหล่อเหลาที่เปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูด
“คุณซันสวัสดีค่ะ”
พนักงานทักทายเขาทันทีที่เจ้าตัวหย่อนตัวลง
“สาวๆ ถามหากันอยู่ ใช่ไหม”
ดวงกมลแซวลูกชายกับลูกน้องสาวๆ ทั้งสาวเล็กและสาวใหญ่ พนักงานร้านมีทั้งหมดห้าคน
สามคนนี้แม้จะวัยต่างกันแต่ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว
มีเพียงลลิตาสาวน้อยวัยยี่สิบสองที่เพิ่งรับเข้ามาเพิ่มได้หกเดือนที่น่าจะยังโสด
“คุณนายขา
ลูกชายหล่อขนาดนี้ก็ให้พวกหนูคิดถึงหน่อยเถอะค่ะ” แหวนรับมุกเจ้านาย
ซึ่งภูบดินทร์ก็เพียงยิ้มผ่อนคลายให้สาวๆ เขาไม่ใช่คนพูดเก่งเหมือนผู้เป็นแม่
แต่ท่าทีก็ดูใจดีไม่ต่างกัน พอเจอกันบ่อยครั้งขึ้นจึงกล้าแซวขึ้นบ้าง
ดวงตะวันคาเฟ่
เพิ่งเปิดมาได้ปีกว่า เป็นร้านที่ดวงกมลตั้งใจทำฆ่าเวลาหลังเกษียณ
หลังจากเสียสามีและบุตรชายคนโตไปเมื่อสิบปีก่อนจากอุบัติเหตุ
เธอสองแม่ลูกก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อประคองธุรกิจของครอบครัว
วันนี้ภูบดินทร์ในวัยสามสิบหกก็พร้อมที่จะบริหารงานทั้งหมดแทนเธอ
ผู้เป็นแม่ก็ทำได้แค่เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ซึ่งภูบดินทร์เองก็อยากให้ท่านพัก
และมาทำร้านกาแฟแบบนี้เขาก็เห็นด้วยว่าทานจะได้ไม่เหงา...การสูญเสียครั้งสำคัญเมื่อสิบปีที่แล้ว
แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่มันก็ยังมีบาดแผลค้างคาในใจคนอยู่เสมอ
“คุณซันสวัสดีค่ะ”
เสียงที่ดังมาก่อนตัวทำให้ภูบดินทร์หันไปมองหญิงสาวที่ถือถ้วยจานที่เก็บมาจากโต๊ะด้านนอก
เธออยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีครีมฟอร์มของร้าน
รวบผมเรียบร้อยพร้อมหมวกบนหัว...เห็นกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม รวมถึงรอยยิ้มสดใส ที่ทำให้คนโลกหม่นอย่างเขารู้สึกสนใจมัน...สนใจมาตั้งนานแล้ว
ภูบดินทร์เพียงยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้เธอเหมือนคนอื่นๆ
“ไปนั่งรับลมข้างนอกสักหน่อยไหมซัน”
ร้านปิดห้าโมงเย็น กว่าพนักงานจะเก็บของเสร็จก็อีกสักชั่วโมง
ดวงกมลไม่ได้อยู่ร้านทุกวัน
แต่การได้มานั่งมองสวนดอกไม้หน้าร้านในตอนเย็นที่ไร้ลูกค้าก็เป็นหนึ่งสิ่งที่เธอชอบ
ร้านของเธอมีพื้นที่พอสมควร ด้านนอกก็ปลูกดอกไม้หลากหลายชนิด มีโต๊ะให้ลูกค้านั่ง
มีมุมถ่ายรูป
“รู้สึกเหมือนดอกไม้เยอะขึ้นไหมครับ”
เขาชวนผู้เป็นแม่คุย ความจริงก็ไม่ได้สังเกตขนาดนั้น
“คิดอะไรออกก็ปลูกๆ ไปแหละ
แก้เบื่อ นู่น คนแนะนำ” ลลิตาเดินออกมารดน้ำต้นไม้ในตอนเย็นพอดี ภูบดินทร์ก็รู้สึกเหมือนเห็นภาพนี้จนชินตา
ไม่ว่าเขาจะมาส่งแม่ในตอนเช้า หรือรับในตอนเย็นเขามักจะเห็นเด็กสาวอยู่กับดอกไม้พวกนี้
และเขารู้สึกว่ามันทำให้เธอดูสดใสมากกว่าที่เคยเป็นเสียอีก
“ได้อะไรมาปลูกเพิ่มล่ะ”
เขาถามแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่คนที่กำลังรดน้ำดอกไม้ให้แม่เขา
ดวงกมลเห็นสายตาของลูกชายที่มองเด็กสาวด้วยความสนใจ จึงเรียกเจ้าตัวมาหา
“หนูพรีม มานี่หน่อยลูก” ลลิตาหันไปตามเสียงเรียกและเดินยิ้มเข้าไปหาทั้งคู่
“ที่หนูเอามาปลูกใหม่นั่นดอกอะไรนะ”
คนถูกถามหันไปมองต้นไม้และพยายามนึกว่าเธอเอาอะไรมาปลูกล่าสุด
“น่าจะกระดุมทองค่ะ”
“กระดุมทอง พวกนี้น่ะเหรอ”
ภูบดินทร์แทรกขึ้น แล้วก็มองไปยังสวนหย่อมที่มีเจ้าดอกไม้เล็กๆ พวกนี้ขึ้นเต็ม
สายตาของลลิตาก็มองตาม
“เอ่อ ใช่ค่ะ
กระดุมทองหรืออีกชื่อหนึ่งคือเบญจมาศเครือ เอ่อ จริงๆ
ที่ขึ้นตามสวนนี้ปลูกมานานแล้วค่ะ มันขึ้นและขยายพันธุ์ได้ง่ายอยู่แล้ว
แต่ที่หนูพูดเมื่อกี้คือที่อยู่ในกระถางตรงนั้น”
“อ่อ มันปลูกในกระถางได้ด้วย”
“ใช่ค่ะคุณซัน ปลูกได้แล้วก็มีหลายพันธุ์”
“ชอบเหรอ
ขึ้นเต็มสวนแล้วยังหามาปลูกอีก” เขาถาม
รู้สึกว่าชอบที่จะฟังเสียงเจื้อยแจ้วนั้นอธิบาย
ซึ่งผู้เป็นแม่ก็รู้สึกแปลกหูแปลกตา ปกติลูกชายไม่ค่อยจะเสวนากับใครนัก เขาอาจจะดูเป็นกันเองกับลูกน้องแต่ก็แค่ยิ้มๆ
ทักทายไปตามเรื่อง ไม่ใช่คนที่จะมาสนใจอยากรู้เรื่องดอกไม้ใบหญ้าแบบนี้
“เอ่อ ก็ชอบค่ะ
เบญจมาศเครือเป็นพืชวงศ์เดียวกับทานตะวัน” ลลิตาก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายอะไรกับเขาต่อ
ก็เลยหากลายเป็นเล่าเรื่องเจ้าดอกเบญจมาศเครือที่เธอรู้มาให้เขาฟัง
“แสดงว่าชอบทานตะวัน” แต่เขาก็ยังคุยกับเธอต่อ
“ค่ะ เมื่อก่อนชอบทานตะวัน”
“เดี๋ยวนี้ไม่ชอบแล้ว”
ยิ่งฟังเด็กๆ คุยกันดวงกมลก็ยิ่งรู้สึกสะดุดหู
เมื่อลูกชายดูจะสนใจดอกไม้มากกว่าปกติ
“ก็ชอบค่ะ ชอบเหมือนกัน”
เธอตอบแล้วก็ยิ้มแหยๆ อย่างไม่รู้จะต้องตอบอะไรได้อีกบ้าง
ภูบดินทร์เองก็ดูออกว่าเธอตั้งใจจะตอบสั้นๆ
ซึ่งคราวนี้เขาก็ไม่ได้ถามต่อ...คิดว่าคงมีวันหลังที่จะได้ถามเธออีกเกี่ยวกับเจ้าดอกทานตะวันและเบญจมาศเครือเล็กๆ
พวกนี้
“สวยดีเหมือนกัน
วันหลังเอามาให้สักกระถางสองกระถางหน่อยสิ อืม เธอไปทำงานต่อเถอะ”
“เอ่อ โอเคค่ะ
วันหลังหนูซื้อมาฝากนะคะ” ว่าแล้วก็ขอตัวไปรดน้ำต้นไม้ต่อ ความจริงแล้วภูบดินทร์แค่พูดตัดบทเล่นๆ
ไปแบบนั้นเอง
แต่เข้าใจว่าความเป็นลูกน้องพอเจ้านายรบกวนแบบนั้นเธอก็คงต้องหามาให้เขาอย่างเสียไม่ได้
ซึ่งเขาก็คิดว่าเป็นแบบนั้นก็น่าจะดีเหมือนกัน
“นึกยังไงอยากปลูกต้นไม้”
ผู้เป็นแม่ถามขึ้นหลังจากที่เด็กสาวไปดูแลดอกไม้ต่อ
และลูกชายก็เพิ่งหันกลับมาสนใจเธอ
“ไม่ได้อยากปลูก”
เขาตอบไปตามความจริง
“ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้น
ให้เขาไปทำงานของเขา”
“อ้าว
เราขอแบบนั้นเขาก็ต้องลำบากหามาให้เราสิ” ดวงกมลทักท้วงบุตรชาย เจ้าตัวหัวเราะเบาๆ
ในลำคอ
“ก็ให้เขาหามาก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”
พอลูกชายบอกแบบนั้นผู้เป็นแม่ที่จะอาสาไปบอกเด็กสาวว่าไม่ต้องลำบากหามาให้ก็เป็นอันพับโครงการ
ดูท่าว่าลูกชายของตนคงอยากได้ดอกไม้จากลลิตาจริงๆ
เห็นแบบนี้ดวงกมลก็เริ่มชัดเจนในข้อสงสัยของตัวเอง
“ซันสนใจหนูพรีมใช่ไหม”
พอผู้เป็นแม่ถามขึ้นเจ้าตัวก็หัวเราะชอบใจที่ถูกรู้ทัน
“โอ๊ย ซัน แม่ขอเถอะ
อย่าทำลายอนาคตเด็กเลย”
“ทำไมแม่มองผมเป็นคนเลวร้ายขนาดนั้นล่ะครับ”
ภูบดินทร์ถามกลับอย่างอารมณ์ดี ส่วนดวงกมลก็ค้อนให้ลูกชายวงโต เธอรู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นอย่างไรเรื่องผู้หญิง
เขาไม่เคยพามาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนหรอกแต่อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ก็รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว
ดวงกมลไม่รู้เลยว่าชาตินี้จะมีความหวังได้เห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาไหม
แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องคิดมากกว่าก็คือเรื่องของเด็กสาวลลิตา
แต่ก็ได้แค่ทำใจ ถ้าลูกชายเธอตั้งใจจะเอาจริงๆ และเด็กสาวก็เล่นด้วย
ก็คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม
สองแม่ลูกมองไปที่เด็กสาวอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน
ภูบดินทร์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงสนใจผู้หญิงคนนี้
เธอแตกต่างจาก สเปกเขาพอสมควร เขาไม่ชอบเด็ก แต่ผู้หญิงตรงนี้เป็นข้อยกเว้น
ความสดใสไร้ซึ่งการปรุงแต่งมันน่าดึงดูด
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยสะดุดตาอะไร...ยกเว้นรอยยิ้มกระจ่างใสนั่น
ไม่ได้มีหุ่นแบบผู้หญิงที่ดูแลรูปร่างอย่างดี ไม่ได้มีรูปร่างสมส่วน
แขนขาเรียวสวย...แต่อวบอึ๋มนี่น่าจะผ่าน เธอสูงเพียงร้อยหกสิบต้นๆ เหมือนจะอวบๆ
ด้วยชุดฟอร์มของพนักงาน แต่หากให้เขามองทะลุเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ ภูบดินทร์คิดว่าเขาคงกะได้ไม่ผิดนัก...รวมๆ
กับใบหน้าไร้เดียงสานั่นก็รู้สึกว่าน่าขย้ำ...แต่ปัญหาของเขาคือไม่รู้ว่าจะได้เธอมาได้อย่างไร
ความคิดเห็น