คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Short Fic BTS [VMIN] -Confused-[END]
Title: Confused
Paring: VMIN
Writer: T.O.M+
Rate : PG-13 (หยาบคายบ้างเล็กน้อย)
*เป็นฟิคที่ไร้สาระสับสนและเพ้อเจ้อที่สุดที่เคยแต่งมาเลย
Part.END
06:45 am
“หล่อล่ะ..^_____^” ผมพูดกับเงาตัวเองในกระจก
ใครที่คิดว่าคนตัวดำนั้นหน้าตาจะดำตามตัวนั้นให้รีบความความคิดซะนะครับ
เพราะผม นั้นทั้งหล่อ รวย นิสัยดี ที่ใครเห็นแล้วต้องมองตาม ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชายก็หลงเสน่ของ คิด แทฮยองผู้นี้
ร่ายมาซะยาวลืมสวัสดีคนอ่านเลยครับ...อ่าแย่ยังเลยนะครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ คิม แทฮยอง ครับ..^____^ แค่นี้ล่ะครับ
ไม่ใช่ล่ะๆ...เรื่องของเรื่องที่ผมต้องมายืนแต่งหล่อหน้ากระจกวันนี้ เพราะต้องออกไปรับแต่แฟนมาเรียนครับ
จริงๆแล้วผมยังไม่ได้เป็นแฟนมันหรอก แค่มันคนนั้นน่ะเป็นแฟนผมแล้วแค่นั้นเอง...เน่าชิบ
พูดเองยังอยากอ้วกเองเลยครับ ฮ่าๆๆ
เรื่องมะวานนั้นมันยังไงดีล่ะ อยู่ๆก็รู้สึกชอบ อยากกอด อยากจูบ อยากเอาชนะ
ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่ารักแรกพบหรือเปล่า? ก็มันน่ารักดี>__<
ผมรู้สึกว่าตัวเองเพ้อ+มโนมากไปแล้ว
.....................
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จผมก็รีบขับรถมายังบ้านจีมินทันที
แต่ปรากฏว่า จีมินไปเรียนแล้ว
ทำแบบนี้มันจงใจหนีหน้ากันชัดๆเลย ทั้งที่มะวาน บอกแล้วว่าจะมารับ
.....................
“เฮ้ยยย!!!!!” นี่ไม่ใช่เสียงคิมแทฮยองนะฮะ แต่เป็นเสียงพักจีมินต่างหาก
ผมใช้เวลาทั้งเช้าแนะกว่าควานหาตัวเจอ มหาลัยแม้งจะใหญ่ไปไหนก็ไม่รู้นะครับ
ถามว่าเจอได้ยังไง
โดยบังเอิญ? ไม่โชคดีขนาดนั้นหรอกครับ
แต่ก็ถือว่าโชคเข้าข้างผมอย่างนึง ที่เจอกับจินฮยอง
คนนี้ผมรู้จักเป็นลูกพี่ลูกน้องผมเอง
และผมก็จำหน้ามันได้แม่นเลย ไอ้คนที่มากับจินฮยอง ไอ้คนเมื่อวาน(ผมไม่รุ้จักชื่อมันแฮะ)ที่บอกว่าเป็นเพื่อนจีมิน
ผมเลยได้รู้ว่าคาบแรกของวันนี้ จีมินของผมต้องเรียนอะไร ที่ไหน?
มาดักหน้าห้องแม้งซะเลย
“มานี่เลย” ผมกระชากแขนจีมินให้เดินตามผม
มันทำท่าขัดขืนในตอนแรก แต่เหมือนคนจะมองกันเยอะครับ
มันเลยยอมเดินผมมาง่ายๆ
“เดี๋ยว!! กูอยากไปเรียน” เหมือนตรงนี้จะปลอดคนแล้ว
จีมินรั้งผมให้หยุด ผมเองก็หยุดและหันกลับไปมอง
ใบหน้าที่ก้มหน้าอยู่ ไม่แม้แต่สบตากับผมเวลาพูด
นี่ใช่ จีมิน คนเมื่อวานไหม?
“ขาดสักวัน ไม่ถึงกับติดFหรอกมั้ง” ผมว่า
“มึงนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย เมื่อวานก็ด้วย กูต้องขาดเรียนเพราะมึง กูโดนอาจารย์ว่า แม่กูรู้แม่กูก็ไม่สบายใจ มึงมันเห็นแก่ตัว”
ไม่พูดเปล่า จีมินทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีก
นี่ผมทำให้มันเดือดร้อนขนาดนั้นเลย?
ผมควรทำไงดีครับ พาเดินกลับไปส่งที่ห้องเรียนดีไหม?
หรือต้องไปช่วยพูดกับอาจารย์และแม่ของจีมินด้วย ว่าทั้งหมดมันเพราะผมเอง
ถ้าทำแบบนั้น จีมินจะมองผมใหม่ไหม? จะรู้สึกดีกับผมขึ้นบ้างไหม?
“ฮึก!...เมื่อวานมึงยังไม่พออีกรึไง? จะเอาอะไรกับกูอีก? ฮือออToT”
คราวนี้จีมินร้องไห้เลยครับ
“ขอโทษ..กูไม่ตั้งใจจะทำให้มึงเดือดร้อน อย่าร้องดิวะ? หยุดตอแหลสักสักทีเหอะ!....กูรู้มึงอยากให้กูพูดแบบนี้”
ตอนแรกก็รู้สึกผิดแฮะที่ทำให้คนตรงหน้าเดือนร้อน
พอคิดไปคิดมา
มะวาน ผมจำได้!!!
มันจะโดดเรียนคาบบ่ายไปเล่นเกม
“ชิบหาย...งั้นกูไปเรียนก่อนนะ บ๊ายบาย” คำนำหน้าเหมือนมันบ่นกับตัวเองครับ แต่ผมก็ได้ยินชัดเจน
แต่ใครจะปล่อยไปง่ายๆล่ะ อุตส่าหาตัวตั้งนาน
“ไม่ให้ไป” ผมขวาข้อมือจีมินไว้ก่อนจะดึกเข้าหาตัวเองแล้วกอดเอวมันไว้แน่น ในท่าที่เราทั้งคู่หันหน้าเข้าหากัน แถมหน้ายังห่างกันไม่มากอีก ถ้าผมอดใจไม่ไหวจูบมันขึ้นมาตอนนี้ จะโทษผมก็ไม่นะครับ มันมาเล่นทำหน้าตาน่ารักๆแก้มป่องใกล้ๆปากผมเอง
“แสรดดด มึงทำเชียอะไรเนี่ยย ปล่อยกูเลยแม้งเดี๋ยวคนมาเห็น” มันโวยวาย
แต่กลับไม่ขัดขืนแม้แต่นิด ปากนี่สาดคำด่า มาไม่หยุด แต่ตัวนี่ยืนนิ่งให้ผมกอด
“ใม่ปล่อย จะกอดอยู่แบบนี้ กูชอบบ” พูดไปผมก็มองหน้าคนตรงหน้าไปในระประชิดมากกครับ ถ้าจับกดได้ในตอนนี้ก็ทำไปแล้วครับ
“โรคจิต!... ถ้ามึงจะเอาหน้ามาใกล้กูขนาดนี้ จูบเลยมั๊ย..อื้มม” ไม่ต้องรอให้ท้าครับ เพราะตอนนี้อดใจไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
จูบวันนี้ต่างจากจากเมือวานมาก เพราะเหมือนจีมินจะมีส่วนร่วมกับมันด้วยในตอนนี้ มัมจูบตอบกลับมาอย่างลดล่ะ และไม่ยอมกันเลยทีเดียว
แค่จูบมันยังไม่พอหรอกครับ ความต้องการในตัวผมตอนนี้ มันยิ่งกว่านั้น แต่ก็ต้องยอมละริมฝีปากออก ก่อนที่จะขาดใจกันทั้งคู่
“รสชาติไม่เลวนะ...หวานมากเลย” ผมพูดพลางส่งยิ้มให้
ตอนนี้เราทั้งยืนกันอยู่ข้างๆกัน ไม่ได้กอดกันแล้ว ใจจริงก็อยากกอดอยู่หรอก แต่พอหลังจูบกัน จีมินก็ทำท่าขัดขืนหันหน้าหนี
ผมรู้หรอกว่าอาย เลยยอมผละออก ไม่งั้นคงอดใจไหวกับท่าทีแบบนั้น เผลอจับกดตรงนี้แน่ๆ
“ทะลึ่ง!” จีมินถึงกลับหันมาถลึงตาใส่ผมเลยทีเดียว
“ทะลึ่งที่ไหน..หมายถึงน้ำหวานเมื่อวานต่างหาก หวานมากเลย มึงคิดไรเปล่าเนี่ยย? ฮ่ๆๆ”
“ไอ้เฮี้ยย!!!” ครับผมชอบแบบนี้ล่ะ จะให้นั่งเงียบไม่พูดไม่จามันก็วังเวงนะครับ
“อยากโดนจูบอีกหรอ?” ผมหันเข้าไปหาคนที่นั่งข้างๆ ก่อนทำท่าจูบมันให้ได้ แต่ก็นะครับ คราวนี้ไม่ได้จูบ เพราะจีมินมันดันตัวผมออก
“ถ้ามึงจะจูบกูอีกนะ ไปเปิดโรงแรมเหอะ กูอายคน”
“ป่ะ มึงชอบแบบไหนเลือกเลย” ว่าแล้วผมก็ทำท่าจับมือคนข้างๆจะให้เดินตาม แต่มันก็รั้งไว้ไม่ยอมเดินตาม
“กูประชดเว้ยยยย!!!!”
“แต่กูจริงจังนะ..แล้วอีกอย่างมึงต้องชดใช้เรื่องเมื่อวานด้วย ยอมกูซะ” อันนี้ผมพูดจริง บอกแล้วว่าอย่าถ้า แทฮยอง
“ห่าา....”
ดูท่าทางจะไม่ยอมครับ เป็นผม ผมก็ไม่ยอมหรอกถ้าจะให้มีอะไรกับคนที่เพิ่งเจอหน้าถ้าไม่ได้รัก แต่ก็พูดไปงั้นเผื่อฟลุ๊ค
“งั้นเอางี้ มึงเลิกกับคนที่มึงคบอยู่ตอนนี้ แล้วมาเป็นแฟนกูแทน กูจะให้มึงเลือกเองว่าอยากเข้าม่านรูดกับกูไหม? ให้เวลาคิด3วัน จะมาเอาคำตอบนะ” ผมยักคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินออกจากตรงนั้น
แต่....
“ตกลง กูจะเป็นแฟนกับมึง”
จากที่จะเดินออกมาแล้วผมถึงกับหันหลังขวับเลยครับ
เฮ้ยยยย แบบว่าผมหูฟาดหรือเปล่า? แต่ผมไม่ถามกลับหรอกนะ เดี๋ยวได้คำตอบไม่เหมือนเดิม
“พูดแล้วห้ามคืนคำ!”
“เอ่ออ!...” ดูมันตอบครับ มันน่าจับจูบจริงๆ
“ไปเดทกัน..วันนี้เดี๋ยวพี่เลี้ยง อยากกินอะไรบอก”
เหมือนจีมินจะชอบนะครับ พอผมพูดอย่างนั้นถึงกับยิ้มกว้างเลย
“กูจะแดกให้มึงจนเลยวันนี้”
“กลัวที่ไหน ให้มันรู้ไป แฟนคนเดียว แทฮยองคนนี้มีปัญญาเลี้ยง”
วันนนี้ทั้งวัน ผมนี่วิ่งเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ ไม่หยุดเลยครับ แล้วร้านที่เข้าๆออกๆนี่ ล้วนแต่เป็นร้านของกินทั้งนั้น และสุดท้ายก็มาจบกับร้านเค้กที่เห็นบอกว่าจะซื้อกลับไปฝากแม่กับนัมจุนที่บ้าน
ใครวะ นัมจุน? แต่ผมก็ไม่ได้ถาม
ตอนนี้ผมขอเข้าข้างตัวเองแล้วกันว่าจีมินเองก็ชอบผมเหมือนกันไม่งั้นก็คงไม่ยอมเป็นแฟนผมหรอกจริงไหม?
............END............
“อ่ะ จัดการบอกเลิกแฟนเก่ามึงซะ” ระหว่างทางขับรถกลับบ้านผมก็ยื่นโทรศัพท์ให้ จีนมินที่นั่งแทะซองขนมอยู่ข้างๆ
“ไม่ต้อง..ไม่จำเป็น” แค่นั้นมันก็หันกลับไปสนใจขนมตรงหน้าที่วางอยู่เต็มตักมันต่อ
“ไม่จำเป็นที่ไหน..กูไม่อยากโดนแหกอกเพราะเป็นชู้กับมึงนะ”
“ก็ไม่จำเป็น กูมีมึงเป็นแฟนคนเดียวหนิ หรือจะให้บอกเลิกมึง” แค่นั้นล่ะผมเปรครถทันทันทีเลยครับ
“มึงทำอะไรวะ?..ขนมกูหกหมด กูเพิ่งแกะได้เองยังไม่ได้แดกเลย” จีมินโวยวายใหญ่หลังจากขนมที่พยายามเกะมานานนั่นหกตอนที่ผมเปรครถ
เอ่ออดีแทนที่จะห่วงอย่างอื่นแต่กลับห่วงขนม
แต่เดี๋ยวนะ....
“ไม่มีแฟนมาก่อนจริงๆหรอ?” ผมหันไปถามเผื่อความแน่นใจ
งั้นตอนนี้มันก็มีผมแค่คนเดียวสิ
“เอ่อ...จอดแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงบ้านวะ”
“ไนบอกว่ามีไง”
“ก็อยากเชื่อเอง..ช่วยไม่ได้” ดูมัน มันน่าจับกดบนรถซะให้เข็ดเลย
แต่อยากรู้แฮะตอนนี้มันคิดยังไงกับผมบ้างแล้ว ...
“งั้น ตอนนี้มึงก็รักกูงั้นสิ”
หัวใจผมที่เต้นแรงมากก ลุ้นกับคำตอบสุดครับ
.
.
.
.
“มั้ง?...”
ก็ยังดีครับ เป็นคำตอบที่โอเค ถึงไม่มาก แต่ก็ระดับนึง
ความคิดเห็น