คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Short Fic BTS [VMIN] -Confused-
Title: Confused
Paring: VMIN
Writer: T.O.M+
Rate : PG-13 (หยาบคายบ้างเล็กน้อย)
*เป็นฟิคที่ไร้สาระสับสนและเพ้อเจ้อที่สุดที่เคยแต่งมาเลย
เวลาที่คุณมองกระจกคุณคิดเหมือนผมหรือเปล่าว่าที่สะท้อนเงากระจกนั่นออกมามันช่างดูดีจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ อารมณ์แบบพระเอกหนังที่หลุดออกจากจอทีวีก็มิปาน ทำไมช่างเพอเฟคเช่นนี้นะ ผมปาร์ค จีมิน ช่างหลงใบหน้าอันหล่อเหล่านี่ซะเหลือเกิน ไม่มีอีกแล้วที่ผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบเท่าปาร์ค จีมินอีกแล้ว ทั้งหล่อ น่ารัก นิสัยดี ขี้เล่น เป็นผู้ชายเจ้าเสน่ที่ผู้หญิงทั้งโลกนั้นหมายปอง?
ตุบ..
เสียงหนังสือสองสามเล่มที่ถูกกระแทกลงสู้พื้นโต๊ะหินอ่อนด้วยฝีมือของผู้ที่มาใหม่
มันย่อนก้นบานๆของมันนั่งลงสู่เบื้องหน้าของผมที่กำลังเชยชมกับใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติของผมด้วยกระจกใบเอ้งเท่าสองฝามือที่มองเห็นชัดทะลุทั่วทั้งใบหน้าก่อนที่มันจะเอ่ยพูดด้วยวาจาที่ไม่เข้าหูผมเอาซะเลย
“วันๆมึงไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรึไงวะ นอกจากเอาแต่นั่งส่องกระจกเป็นตุ๊ดอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวันเนี่ย?”
ผมหันไปมองหน้าไอ้เพื่อนที่แก่กว่าอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนค้อนเข้าให้อย่างอนๆ
“ชิ!...มึงล่ะโคตรจะแมนตายห่าเลยเหอะ ได้ข่าวว่าตามจีบรุ่นพี่ซอกจินที่ผู้ชายด้วยกันอยู่ไม่ใช่หรือไงแหม่...เห็นกูแบบนี้กูก็ไม่กินผู้ชายที่เป็นเพศเดียวกันเหมือนอย่างมึงหรอกนะฮ่าๆๆ”
ผมหัวเราะอย่างมีชัยด้วยความสะใจแทบตกเก้าอี้แหนะ ก็หน้ามันนี่เอ๋อไปเลยล่ะ
เพื่อนคนนี้ของผมชื่อ คิม นัม จุน เป็นเพื่อนบ้านข้างๆ จริงๆแล้วนัมจุนนั่นแก่กว่าผมปีนึงเพราะซิ่วมามากจากคณะอื่น แต่อย่าคิดนะว่าผมจะเรียกพี่เพราะไงแค่ปีเดียวไม่นับครับ
ตอนที่มันมาบอกว่าชอบผู้ชายผมแทบช็อคแนะนึกว่ามันตกหลุมรักผมซะอีกก็นะผมออกจะมีเสน่ห์ซะขนาดนี้แต่ผิดคาดคับมันบอกว่าชอบรุ่นพี่ปีสามที่ชื่อซอก จิน ผมค่อยหายใจได้ทั่วท้องขึ้นมาหน่อยนึง
“แล้วไง..อย่างน้อยเขาก็หน้าตาดีกว่ามึงหลายเท่า แล้วยังไม่หลงตัวเองแบบมึงด้วย”
“อ๊ากกก...ตรงไหนวะครับมึงเอาตาส่วนไหนมองของมึงที่บอกว่าอีรุ่นพี่นั่นหน้าตาดีกว่ากู ไหนมึงบอกก็มาสิว่ารุ่นพี่จินของมึงมีอะไรที่สู้กูได้บ้าง”
ใครจะว่าผมหน้าตาไม่ดีไม่สนแต่เป็นเพื่อนผมก็ต้องชมผมห้ามชมคนอื่นต่อหน้าผม ไม่งั้นมันขึ้น
“ทุกอย่างว่ะ..”
“...เอ่อไม่คิดก่อนพูดหน่อยหรอวะ?”
“ไม่เห็นต้องคิดเลยหนิ”
หึ...มึงรนหาที่ตายแท้ๆเลยนัมจุน วันนี้จีมินขอกระทืบคนหน่อยเหอะ
“มึงอย่าอยู่เลยไอ้เพื่อนทรยศ!....ตาย!”
“เห้ยยยยย!”
เสียงมันบอกว่าเห้ยแต่ตัวมันนีเด้งออกไปจากรัศมีที่ผมจะเอื้อมถึงซะแล้ว แม้งเร็วยิ่งกว่าแสงซะอีก
“มึงอย่าหนีดิวะ”
“หยุดมึงก็ฆ่ากูน่ะสิ”
“รู้แล้วมึงก็หยุดให้กูเชือดซะดีๆ”
ผมวิ่งตามไปติดๆ...
พอมาถึงตัวนัมนัมจุนก็หวังจะกระทืบให้เต็มตีนซะหน่อยแต่ก็ต้องหยุดมองกุ่มคนที่กรูกันเต็มโรงอาหารประหนึ่งว่ามีว่ามีของฟรีแจกก็มิปาน มิน่าล่ะไอ้นัมจุนมันถึงหยุดมองไม่วิ่งหนีผม
“เขารุมอะไรกันวะ มีแจกถุงยางฟรีหรึไง?”
ผมถามนัมจุนที่ยืนมองอยู่ก่อน
“กำลังจะถามมึงเลย กูก็อยากรู้เหมือนกัน”
มันหันมามองหน้าผมก่อนที่จะพยักหน้าให้กันและกันแล้วแยกไปกันคนละทาง
ผมกับนัมจุนแยกไปคนละทางเพื่อไปสืบให้รู้แน่ชัดว่าผู้หญิงนับสิบคนนั้นรุมอะไรกันอยู่
ผ่านไปสักพักผมก็กลับออกมาที่จุดนัดพบความจริงก็จุดที่แยกกับนัมจุนมันล่ะแค่พูดให้ดูดีแค่นั้นเอง นัมจุนก็เดิมมาสมทบพอดีเช่นกัน
“กูเกลียดมันว่ะ”
ผมพูดออกมาอย่างนึกฉุนปนอิจฉา
“ฉันก็คิดเหมือนนายบีหนึ่ง”
“จัดแม้งเลยไหม๊บีสอง”
“ฉันกำลังคิดเหมือนกับนายเลยบีหนึ่ง” ตกลงมึงไม่มีความคิดเป็นของตัวเลยหรึไงวะ- -
“ลุย/ลุยเว้ย!”
เราแตะมืออย่างรู้กันแล้วแยกย้ายกันไปทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงตามหน้าที่ได้รับมอบหมาย
สงสัยสินะว่าสิ่งที่ผมเห็นดงผู้หญิงนั่นก็คืออะไร?...ถ้าคิดว่าผู้ชายล่ะก็นะ คุณคิดถูกแล้วล่ะ
เมื่อกี้ที่ฝ่าดงไปสืบมาได้ใจความมาว่า ไอ้หมอนั่นมันชื่อ คิม แทฮยอง ที่เพิ่งย้ายมาวันนี้ (ผมไม่บอกว่ามันหน้าตาหรอกนะ)ที่สำคัญพ่อรวย เลยมีผู้หญิงที่พร้อมพลีกายถวายตัวใส่พานยกให้ถึงที่อย่างที่เห็น
นึกแล้วมันน่าหมั่นไส้อยากตั้นหน้าใส่ๆนั่นเต็มกำปั้นซะจริงๆ มีหญิงมาเกยตรงหน้าแล้วยังทำหยิ่งป่ายเยี่ยงทำเป็นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา กำลังสร้างอิมเมจอยู่ล่ะสิท่า
คิดว่าจีมินกำลังอจฉามันสินะ...เอ่ออิจฉา อิจฉาโคตรเลย
ผม ปาร์ค จีมิน มินคนนี้ล่ะจะทำให้ดำนั่นมันเสียหน้ารู้สึกอายต่อหน้าผู้หญิงนับสิบๆที่โรงอาหารแห่งนี้ ฮ่าๆๆๆ
ผมเดินฝ่าดงผู้หญิงนับสิบเข้าไปด้วยความมั่นใจพร้อมๆกับแก้วน้ำแดงหวานช่ำในมือ ตอนแรกกะเอาน้ำเปล่านะแต่มันยังน้อยไปแค่น้ำเปล่ามันจะดูไม่มีรสชาติ
“แทฮยอง!..”
ผมเรียกให้หมอนั่นหันมาทางผมที่ยืนอยู่ด้านข้างหลังจากเบียดชาวบ้านเข้ามาได้
มันหันมาด้วยความตกใจนิดๆแบบนิดเดียวจริงๆก่อนทำหน้าเอ๋อแดกใส่ผม
ก็นะผมเรียกชื่อมันซะขนาดนั้นมันก็คงงงว่าผมไปรู้จักมันตอนไหน?
“.........”
ทุกคนนิ่งค้างมองผมเป็นตาเดียวรวมทั้งไอ้คนที่ผมเรียกด้วยเช่นกัน
มันอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างแต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยออกมาน้ำในแก้วที่ผมถือมาก็สาดเข้าไปเต็มๆหน้ามันจนเปียกโชคไหลลงไปเปื้อนเสื้อเชิ้ตขาวๆนั่น
หญิงสาวที่ยืนรุมยู่บางคนร้องบางคนก็มองนิ่งมองผมด้วยสายตาอาคาด
ผมจะโดนรุมไหม๊ครับเนี่ยย? เสี่ยงต่อชีวิตอันมีค่าของจีมินซะจริงๆ
แต่ด้วยความซะใจและให้มันอับอายผมยอมม
“...คุณทำบ้าอะไรวะ?”
มันเริ่มตั้งสติได้ครับ หันมาถามผมทันที เหอะ!ทำเป็นพูดคุณ?
เกมนี้ยังไม่จบเท่านี้หรอกนะ เพราะผมคงไม่คิดสั้นสาดน้ำใส่มันแล้ววิ่งหรอกครับ
“เค้าต้องถามตัวเองมากกว่า ตัวเองทำอะไรอยู่ ทั้งๆที่เรานัดกันไว้แล้ว ที่ผิดนัดเพราะเบื่อเค้าแล้วใช่ไหม๊?”
ผมเริ่มเปลี่ยนท่าทางทำหน้าเศร้าบีบน้ำตา น้ำตานี่ก็ช่างสั่งได้ดังใจซะจริง
ผู้หญิงที่ยืนยืนอยู่ตามซุบซิบกันประมาณว่าเป็นเกย์หรอกหรือเนี่ย?, เป้นเกย์ก็ไม่บอกแต่แรก, ดูไม่ออกเลยนะว่าเป็นเกย์
และก็เริ่มเดินออกจากตรงนั้นไปทีละคนสองคน บางคนก็สะบัดหน้าให้ก่อนเดินหนี
โอ๊ยยย..ผมล่ะอยากระเบิดหัวเราะออกมาตอนนี้ซะจริงๆ ซะใจเว้ยย!!
“มึงเป็นใคร? ทำแบบนี้เพื่อ?”
จากที่นั่งอยู่มันลุกขึ้นชีหน้าผม เป็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโมโหอย่างเห้นได้ชัด
คนอย่าง จีมิน กลัวที่ไหน? ต่อให้มันฆ่าผมก็ไม่กลัวเพราะจะเอาใอ้นัมจุนมาเป็นโล่ฮ่าๆๆ
“ฮึก..ตัวเองพูดกับเค้าไม่เพราะเลยตัวเองต้องการจะทิ้งเค้าแล้วใช่ไหม๊?”
ผมยังเล่นละครต่อครับเพราะยังมีคนที่ยืนอยู่ จะเล่นมันทั้งทีก็ต้องเอาให้ถึงที่สุดสิครับ
“เฮ้ยจีมิน เป็นไรไปวะร้องไห้ทำไม?”
นัมจุนที่วิ่งเข้าสมทบทีหลังเข้าจับบ่าของผมประมาณว่าด้วยความเป้นห่วงแสนห่วงที่เห็นเพื่อนรักต้องร้องไห้
“ช่วยเอาเพื่อนคุณกลับไปเลยนะ ถ้าป่วยก็ไปหาหมอซะ ไม่ใช่ให้มาระรานชาวบ้านเขาให้เดือดร้อน”
มันว่าเหมือนไม่ใส่ใจก่อนจะหันหลังเดินหนีไป เชี่ยยมันว่าผมป่วยมันว่าผมไม่ปกติมันว่าเป็นโรคจิต?
แต่ก่อนที่มันจะได้เดินหนีนัมจุนจับบ่าให้หันกลับมา มันปัดมือเพื่อนผมออกอย่างนึกฉุนและหมดความอดทน
“คิดจะฟันเพื่อนผมแล้วทิ้งหรอ? มันไม่ง่ายไม่หน่อยมั้ง ผมจะให้โอกาสคุณอีกคั้งนึงได้คิดทบทวนแล้วกลับมาง้อเพื่อนผมซะ ไม่งั้น...” แล้วมันก็ทำท่าทางเอานิ้วโป้งเชือดคอตัวเอง ด้วยใบหน้าที่โหดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอมันทำแบบนี้ก็เลยดูน่ากลัวปนหลอนนิดๆ
นัมจุนโอบไล่ผมที่ยังยืนสะอื้นร้องไห้ประนึ่งกำลับปลอมเพื่อนที่เสียใจเดินออกไปจากนั้นอย่างที่โดนกระทำให้ช้ำใจแสนสาหัส
“นี่เดี๋ยวสิวะ....!” มันตะโกนตามหลังผมกับนัมจุนอย่างได้ยินได้ชัดแต่ใครจะหยุดวะ พอพ้นจากตรงนั้นผมกับนัมจุนก็แอบมองมันห่างๆ
มันทำท่าหงุดกับเสื้อเปือนน้ำแดงก่อนหันมองคนที่อยู่รอบๆตัวเองอย่างอายๆก่อนจะรับเดินหนี
ท่าทางขะเดินไปทางห้องน้ำน่ะนะ คิดว่า
“สำเร็จ!”
“เย่/เย้!!” ผมกับนัมจุนแตะมือกันอย่างมีความสุขที่แกล้งไอ้ดำนั่นได้
“ฮ่าๆๆๆกูล่ะขำหน้ามันโคตรเลยว่ะฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราอย่างซะใจจนแทบจะท้องแข็งตาย
ตั้งแต่แกล้งคนมาก็มีครั้งนี้ล่ะที่มีความสุขที่สุด
“เอ่อ..เดี๋ยวนะจีมิน” ทั้งที่หัวเราะอยู่ดีๆนัมจุนก็พูดขึ้น
“อะไรวะ”
“มึงทำแบบนี้คนอื่นก็คิดว่ามึงเป็นเกย์ดิวะแล้วผู้หญิงที่ไหนจะเข้าหา”
ผมทำตาโตเมื่อนึกขึ้นได้เชี่ยแล้วไงมัวแต่หน้ามืดตามัวอยากแกล้งชาวบ้านลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย
“ไอ้เชี่ยนัมจุนทำไมมึงเพิ่งนึกได้วะ แล้วกูจะทำไง”
ผมทำเป็นบีบคอมันเขย่าไปไปมา
มันบัดมือผมออกทำท่าทางไอ้นิดหน่อยแล้วกระแอมในคอ
“เป็นเกย์เลยดิว่ะ ไม่เห็นต้องคิดยาก”
“ไอ้เชี่ยจุนมึงเป็นไปคนเดียวคนเหอะ” ผมพูดให้ก่อนสะบัดหน้าใส่มัน
“เป็นอยู่แล้วไม่ต้องบอก..ว่าแต่มึงจะเอาไงต่อ”
“ไม่รู้เว้ย นึกไม่ออก” ว่าแล้วผมก็เดินหนีมันอย่างนึกงอนๆ ทำไมต้องเพิ่งคิดได้ตอนนี้นะ แล้วอนาคตอันสนใจของปาร์คจีมิน จะเป้นเช่นไรต่อไปล่ะเนี่ย นึกแล้วล่ะกลุ่ม
“แล้วนั่นมึงจะไปไหน?” มันวิ่งตามผมมา
“กลับบ้าน เลคเชอร์เผื่อกูด้วย” ผมคิดว่าถึงไปเรียนก็ไม่เรียนไม่รู้เรื่อง กลับไปนอนเล่นเกมก่อนดีกว่าเพื่อนึกอะไรออกมาบ้าง
“เอ่อออ” มันตอบรับก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปคนละทาง
แต่พอได้ใช้ใช้เวลากับความคิดของตัวตอนที่จะเดินกลับบ้าน
อย่างน้อยก็คุ้มแฮะได้สาดน้ำใส่หน้าไอ้ดำแถมยังทำให้มันอายอีก คุ้มๆ
วันนี้จีมินซะใจได้แกล้งคนเว้ยย แต่พลาดไปนิดเดียว ถึงจะจะยังไงเรื่องนั้นช่างแม้งปะไรเดี๋ยวคนมันก็ลืมเองล่ะวันนี้มีความสุขล่ะไปเล่นเกมหน้าม.ดีกว่า มีคนเยอะๆมันส์กว่าเล่นคนเดียวที่บ้านเยอะเลย
ผมเดินฮัมเพลงเบาๆอย่างนึกมีความสุขระหว่างที่ไปร้านเกมขาประจำ
“มีความสุขจริงๆเลยนะกับความทุกข์ของคนอื่น”
ผมที่กำลังเดินร้องเพลงอย่างมีความถึงกับสตั้นไปสามวิกับคนที่ปรากฏตรงหน้า
“เชี่ย..ซวยแล้วจีมมิน”
แทฮยองเดินมาดักหน้าผมไว้ทั้งที่เสื้อผ้ายังเปื้อนน้ำแดงอยู่
ที่กูเห็นเดินไปยังห้องน้ำนั่นใครวะ?
ผมมองซ้ายขวา ก็ถอนหายใจออกมาโล่งๆ
ดีนะที่มันไม่ได้พาพวกมากระทืบผม
ยิ่งอยู่คนเดียวด้วย นัมจุนก็ไม่อยู่ร่วมชะตากรรมอีก
“เอ่อ..สวัสดี...” มันจ้องหน้าผมราวกับจะฆ่าผมให้ตายซะเดี๋ยวนั้น ไม่ได้สนเลยกับการแนะนำตัวของผม
จีมินเป็นเด็กดี จีมินเป็นเรียบร้อย จีมินรักเรียน จีมินนิสัยน่ารักชอบเป็นมิตกับทุกคน จีมินไม่สู้คน แค่ชอบแกล้งคนแค่นั้นเองT^T
“ไม่คิดว่าทำมากเกินหรอวะ” เอ่อนั่นไงมันไม่ได้ฟังที่ผมแนะนำตัวจริงๆ ไฟแค้นคงแน่นแทบทะลุออกมาข้างนอกแล้วนะ
ผมทำหน้าซื่อส่ายหัวรัว
“ทำอะไรหรอ? ทักคนผิดหรือเปล่า” ผมยังทำหน้าซื้อทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป กะจะเนียนเดินหนีแต่เวรเอ้ยมันเดินมาดักไว้อีก
“หึ..แน่จริงไปเคลียร์กันหน่อยไหม๊?”
เอาไงเอากันวะ เคลียร์ก็เคลียร์ ดีไหม๊นะ?
“ว่ามา จะเอาไงเคลียร์ตรงนี้เลย!” ผมท้า คนเยอะแยะมันคงไม่กล้ามามีเรื่องผมตรงนี้หรอก ฮ่าๆๆ
จีมินนี่ฉลาดจริงๆ ผมยิ้มที่มุมปากก่อนยักคิ้วให้มัน
ท่าทางคงเลือดขึ้นแล้วสินะมันขมวดคิ้วเข้าหาก่อนฉีกยิ้มกว้าง
ยิ้มหาพ่อมึงหรอ?
“ที่นี่ไม่สะดวกแน่จริงมึงกล้าไปกับกูไหม๊ล่ะ แต่น้ำหน้ายังมึงให้กูเดานะ คงไม่กล้าว่ะ..กาก”
ผมเริ่มโมโหบ้างแล้วนะ คนอย่างจีมินด่าได้แต่ห้ามท้าเว้ย ไม่งั้นมีขึ้น นอกจากเรื่องห้ามชมคนอื่นต่อหน้าก็เรื่องท้านี่ล่ะ เพราะถ้าท้าแล้วมันจะขึ้น
“ทำไมจะไม่กล้าคนอย่างกูไม่กลัวมึงหรอกว่ามาเลยที่ไหนเมื่อไหร่?”
“ตอนนี้แต่ที่ไหนเดี๋ยวมึงก็รู้ ไปขึ้นรถซะ” มันชี้ไปยังรถรถสีดำด้านที่จอดอยู่ ท่าทางจะรวยจริงแม้งมีรถขับมาเรียนด้วยช่างเป้นชีวิตที่น่าอิจฉาโคตรเลย แต่มันใช่เรื่องที่ผมต้องมานั่งเฉยชมที่มันรวยไหม๊เนี่ย
เอาไงดีวะ บอกตรงนะ ไม่อยากไปเลย เผื่อมันพาผมรุมกระทืบจะว่าไง ใครจะมารับผิดชอบชีวิตผมกัน
ผมยืนกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดคอไม่กล้าที่จะก้าวไปขึ้นรถนั่น
“กลัวขึ้นมาล่ะสิ มึงมันเก่งแต่ปากว่ะ”
“เฮอะ!..เดี่ยวมึงก็รู้” ผมเดินไปยังรถคันนั้นโดยเร้วแล้วเปิดประตูเข้าไปฝั่งข้างคนขับ
โหข้างในแม้งโคตรหรูเลย เป้นอะไร่ที่อยากได้ซะจริงๆ แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องสนตอนนี้ สิ่ที่ผมต้องสนใจคนคนข้างๆที่เดินเข้ามาสตาสรถแล้วขับออกไปนั่นต่างหากล่ะ
มันจะพาผมไปไหนกันวะ?
“ถามจริงเหอะกูกับมึงมีเรื่องปาดหมางอะไรกันหรอ?มึงถึงทำแบบนี้”
“ไม่มีแค่ไม่ชอบขี้หน้ามึงเฉยๆ ไม่ชอบที่มีผู้หญิงมารุมล้อม ไม่ชอบที่มึงรวยกว่าด้วย”
“แถวบ้านกูเรียกว่าอิจฉานะ”
“เออ อิจฉา โคตรจะอิจฉาเลย”
ผมพูดออกไปอย่างที่รู้สึก ก็มันน่าอิจฉาไหม๊ล่ะ หล่อ พ่อรวย มีรถขับมาเรียน
“^_____^” มันบ้ารึไงขับรถอยู่ดีๆแม้งก็ยิ้ม
หรือว่ามันหัวเยาะผม นี่มันเห็นเห็นเรื่องตลกสินะ
ผมมองหน้ามันอย่างไม่พอใจที่มันลักลอมยิ้มอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปแล้วสบัดหน้าใส่หันไปทางกระจกด้านข้างแทน
ที่ไม่พูดเพราะกลัวว่ามันจะปล่อยผมทิ้งกลางทางถ้าพูดไม่เข้าหูมันน่ะสิ ตอนนี้ขับออกมาไกลมหาลัยมากและผมก้ไม่รู้ว่าที่ไหนด้วยเลยไม่กล้าเสี่ยงที่จะพูดอะไรที่ไม่เข้าหูมัน
แต่ดูเหมือนแถวนี้เป้นถนนกลางคืนที่ผมแอบอยากมาเที่ยวแต่ไม่มีโอกาสสักที ชวนนัมจุนมันก็ไม่มาบอกว่าเปลือง
ตอนนี้ยังกลางวันอยู่เลยบรรยากาศนี่โคตรเงียบถึงจะมีรถสวนมาบ้างแต่นานๆครั้งเสมือนเมืองร้างก็มิปาน
แล้วไอ้เวรนี่มันจะขับมาแถวนี้ทำไมวะ?
“มึงมีแฟนยัง เคยคบกับใครมาก่อนหรือเปล่า?” อยู่ๆไอ้คนข้างๆนี่ก็พูดขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นาน เปลี่ยให้ผมนั่งมองบรรยากาศที่ขับรถผ่านมาแทบตลอดทาง
ถามงี้กะจะอวดสินะว่ามึงน่ะหล่อรวยมีแต่ผู้หญิงเข้ามาจีบ มีตัวเลือกมามาย
ถ้าบอกว่าไม่มันต้องหัวเราะแน่ๆว่าขึ้นมหาลัยแล้วยังไม่มีแฟน ยังไม่เคยมีอะไรกับใคร
“หล่อ หน้าตาดีแถมมีกล้ามหน่อยๆแบบกูนี่ไม่มีก็แปลกแล้วเว้ย” ใครจะไปบอกวะว่ายังไม่มี
“แสดงว่ามีแล้วงั้นสิ?”
“เอ่อ ถามทำไม? แล้วมึงจะพากูไปไหนวะเลยชั่วโมงเรียนคาบบ่ายแล้วนะเว้ย”
“อย่ามาแถ กูได้ยินว่ามึงจะโดดเรียนกลับบ้านไปเล่นเกมไม่ใช่หรึไง?”
แสรดด พ่อมึงตายมันแบบฟังผมกับนัมจุนคุยกัน
แสดงว่ามันแอบตามมาแต่แรกสินะ พอสมโอกาสมันเข้าหาผม มันหวังจะฆ่าให้ตายแล้วซ่อนศพแน่ๆ
ตายๆ ตายแน่ๆจีมิน
“จอดดด กูจะลง”
ผมแหกปากตะโกนลั่นรถ มันแปรกรถจนดังเอี๊ยดดจนผมหัวทิ่ม
“ลงได้ไงเรื่องของเรายังไม่เคลียร์เลยนะ” มันหันมาพูดใกล้ๆข้างผม ส
สัดพูดใกล้ไปแล้ว จั๊กจี้เว้ย แค่จั๊กจี้นะไม่ได้มีอารมณ์เลย แต่ขนนี่แบบลกเกรียวเลยให้ตายสิ
“จะเคลียก็รีบเคลียให้จบๆมันตรงนี้เลย จะเอาไงว่ามา จะสาดน้ำใส่ จะด่าว่าอะไรก็ว่ามา หรือจะตั้นหน้ากูคืน ก็เอาเลย เสร็จแล้วพากูไปส่งบ้านด้วย”
แมร้งเอ้ยไม่น่าหลงกลขึ้นรถมันมาเลยเหอะ เพราะความห่ามแท้ๆเลย เลยต้องจนมุมแบบนี้
ถ้าตอนนี้นัมจุนอยู่ด้วยก็คงดีสินะ
“แสดงว่ายอม ถ้างั้นก็..” ลอมยิ้มที่มุมปากแม้ง หน้ามันโรคจิตเลย
หรือมันจะ..ให้ผมขอโทษมันวะ ไม่หรอกนะ คนอย่างจีมินทำอะไรก็ถูก ถูกเสมอ เพราะงั้นไม่มีวันที่คนอย่างผมจะขอโทษมันหรอก
“จะทำอะไรก็ทำ แต่บอกเลยว่ากูไม่ขอโทษมึงหรอกนะ” ผมรีบพูดตัดบท
มันพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ
แต่แม้งหน้ามันตอนนี้โคตรกวนปาทาเลย
มันยกมือขึ้นมากหักนิ้วกรอบๆ
โอ๊ยยเอาจริงสินะ จะชกหน้าคืนสินะ
ผมลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ ช้อนสายตาขึ้นมองคนข้างๆ เห็นมันจ้องหน้าผมอย่าแน่วแน่ กำมือแน่นพร้อมที่ปล่อยหมัดออกมา
เอาวะให้มันตอยคืนแล้วค่อยหาทางคืนให้สาสมเป้นสองเท่าในคราวหลัง
ผมหลับตาแน่นเตรียมรับแรงกระแทกจากกำปั้นนั่นอย่างระทึก
หน้ากู..หน้าอันที่จีมิน เฝ้าถมอมล้างให้สะอาดแล้วทาครีมทุกเช้าเย็น ต้องมาเป็นรอยฟกช้ำ?
“ซ้ายหรือขวา?”
มันถามเมื่อมาถึงทางแยกซึ่งมันบอกว่าจะไปส่งบ้านจริงๆไม่ได้อยากให้มันไปส่งเลยอยากเดินเปิดประตูรถออกไปด้วยซ้ำแต่จีมินไม่โง่ออกไปทั้งๆที่ไม่รู้จักทางหรอกเผื่อโดนฉุดเหมือนในข่าวที่ออกกันใครจะรับผิดชอบชีวิตผมแล้วถ้าตายไปมามี๊กับแดดดี๊จะอยู่เยี่ยงไรแล้วยังนัมจุนอีกใครจะคบมันเพราะงั้นผมจึงไม่เสี่ยงนั่งแม้งอยู่บนรถนี่ล่ะจะไปขับไปไหนก็เรื่องของมันไม่สนไม่พูดพอมันขับๆไปสักพักทางมันคงคุ้นคงทางขึ้นมาเองล่ะพอถึงตอนนั้นค่อยหาเรื่องให้มันจดรถแล้วกัน
มึงอยากพูดอะไรก็พูดไปเลย ไม่สนเว้ยย ไม่อยากคุยด้วย
“จะให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา?” มันถามย้ำอีกรอบ
เรื่องของมึงสิ ไปทางไหนก็เรื่องของมึง!!!
“ไม่ตอบ?...โอเค”
มันว่าเสร็จก็ยักไล่ก่อนหักพวกมาลัยเลี้ยวซ้ายออกไปแถมยังเหยียบคันเร่งไม่ยั้ง....เฮ้ยยเร็วไปแล้วเว้ยย
“กูยังไม่อยากตายก่อนถึงบ้านนะเว้ยไอ้สัด”
“พูดได้แล้วสินะ..” รถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วจากที่แอบมองเข็มไมที่พุ่งขึ้นกว่า100 ค่อยๆลดลงจนเหลือแค่60 แต่เหมือนยังเร็วอยู่เลย
ใจนี่จากที่เต้นตึกตักๆอยู่แล้วก็แทบวายตาย
พอนึกว่าขึ้นได้ว่าพูดออกไปผมก็หันหน้าไปทางกระจกทันที
จนสุดท้ายมาก็มาส่งถึงบ้านผมจนได้โดยการทีทันถือวิสาสะแย่งกระเป๋าเงินเพื่อดูบัตรชาชนในกระเป๋าแล้วมาตามที่อยู่ในบัตร
ถ้าเกิดว่าผมไม่ได้อยู่ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนนั่นมันคงต้องมาเสียเที่ยวเหอะทำไมแม่พาผมบ้านบ้างวะ
“พรุ่งนี้จะมารับนะ” ก่อนที่จะได้เปิดประตูรถออกไปมันดึกแขนผมรั้งเอาไว้
แต่ผมไม่หน้าหลับไปหรอกนะ ใครจะหันกลับให้มันรู้ว่าสีหน้าตอนนี้เป็นยังไงเล่า
“เอ่อ..เรื่องของมึง”
ผมสะบัดมือออกก่อนออกจากรถรับเดินเข้าบ้านทันทีโดยไม่ได้หันไปกลับไปมอง
“เฮ้ย!จีมินใครมาส่งมึงวะ?” นั่นเสียงเพื่อนข้างบ้านซึ่งไม่ใช่ใครก็นัมจุนนั่นล่ะที่ชะโงกหน้าเหนือกำแพงบ้านตะโกนถาม นี่ผมออกไปกับไอ้นั่นนานขนาดไหนเนี่ยจนนัมจุนมันกลับบ้านแล้ว
จะว่าไปปรึกษานัมจุนมันก็ดีเหมือนกันมีเรื่องในหัวเต็มไปหมด
“ไหนมึงบอกว่าจะกลับตั้งแต่เที่ยงแล้วไงวะ?”
“เอ่อ..เรื่องมันยาวเดี่ยวกูเล่าให้ฟัง” พอว่าจบมันกระโดนข้ามรั้วมายังบ้านผมทันที
“เฮ้ยๆๆๆๆแล้วนั่นปากกับหน้ามึงไปโดนอะไรมาวะ?”
เอ้าไอ้เวรนี่ดันสังเกตกูอีก
“ก็เดี๋ยวเล่าไง”ผมเดินเข้าบ้านมาโดยมีนัมจุนเดินตามเข้ามา
“ห๊า!!!...มึงโดนผู้ชายจูบ!?”
ผมพานัมจุนมาคุยบนห้องเพราะกลัวว่าเดี๋ยวแม่จะได้ยินเข้าดีนะที่แม่ไม่ทันสักเกตว่ามีคนมาส่งที่บ้าน
“เออ แล้วมึงจะแหกปากทำไมวะเดี๋ยวแม่กูก็ได้ยินหรอกสัด”
“เออๆโทษที..แล้วทำไมมึงโดนมันจูบได้วะ” มันพูดแทบเป็นเสียงกระซิบ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นะ
“ก็กำลังจะเล่าอยุ่นี่ไง?” ผมเริ่มเล่าย้อนความไปตั้งแต่ตอนที่โดนเดรียนตอนบ่ายเท้าความมาตั้งแต่ตอนนั้น
เดี๋ยวขอย้อนไปตอนก่อนที่ไอ้วีจะมาส่งที่บ้านละกันก่อนหน้านั้นอีกนิด
ตอนที่ผมคิดว่ามันกำลังจะตั้นหน้าผม .. เอ่อนะตอนนั้นล่ะ
...ผมก็ดันเสือกคุยกับความคิดตัวเองซะนี่- -!
ตอนนั้นที่เตรียมใจไว้แล้วล่ะว่าไงหน้าผมต้องเละแน่ๆ เละแน่ๆ
แต่ชั่วอึดใจที่คิดว่ากำปั้นของมันต้องปะทะลงบนหน้าของผมกลับกลายเป็นความรู้สึกอุ่นๆบนริมฝีปากแทน
ทุกคนก็คงคิดและเดาถูกแล้วล่ะว่าผมคงไม่ได้โดนตั้นหน้าแต่โดนมันจูบแทน
ก็นะมันเป็นมุขอมตะที่นักเขียนเอาไว้หากินประจำ
แต่เมือผมตั้งสติได้รีบลืมตาหน้ามันก็แนบชิดหน้าหน้าของผมทั้งจูบนั่นก็เริ่มบดเบียดริมฝีปากจนตาผมเริ่มตาพร่าหลับตาลงอีกครั้ง
มือของอีกฝ่ายนั่นเริ่มรั้งไท้ทอยของผมไว้และลิ้นของก็สอดเข้ามาในโพร่งปากจนผมประครองสติไม่อยู่ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามที่มันต้องการ
เวลาผมดูหนังผมก็สงสัยตลอดว่าแค่จูบทำไมมันถึงทำให้ผู้หญิงถึงกับหมดแรง..จนถึงวันนี้ก็กระจ่างเลยครับ
มันจูบ จูบ และ จูบ จนพอใจก่อนจะหันกลับที่นั่งคนขับที่พูดขึ้นว่า
“มัดจำไว้ก่อนนะถ้าจะให้หายกันกับเรื่องเมื่อตอนเที่ยง กูต้องได้เอามึงก่อน” สาดดดดดแค่นี้มึงยังไม่พออีก?
โมโหสิครับแต่จะพูดอะไรได้ยิ่งอยู่กับมันสองตอนสองด้วยเดี๋ยวมันจับกดเหมือนในหนังที่ไอ้นัมจุนเอามาให้ดูผมแย่เลยสิ
ในหนังแม้งก็โคตรโหดเมะทั้งถึงทั้งดำกล้ามนี่ยิ่งกว่าผมเป็นไหนๆถึงไอ้คนข้างๆนี่จะไม่ถึกแต่มันก็ดำว่ะ- -
ตัวก็ผอมกว่าผมทำไมเหมือนมันแรงเยอะกว่าก็ไม่รู้...หรือเพราะผมยอมมันเองก็ไม่รู้นะ
หลังจากนั้นมันก็ถามผมว่าบ้านอยู่ไหนจะไปส่ง แต่กว่าจะมาถึงบ้านก็นะ....
“มิน่าล่ะปากมึงเจอๆแถมหน้ายังแดงอีกฮ่าๆๆ” นัมจุนหัวเราะลงไปกลิ้งกับเตียง
“มึงหุบปากแล้วหยุดล้อกูเลย!!..ตอนนี้กูสึกแปลกๆว่ะ กูไม่ได้คิดอะไรกับนะเว้ยแต่มึงเข้าใจป่ะนั่นจูบแรกกูแล้วดันเสือกเป็นผู้ชายอีก”
“มึงเป็นเกย์..มึงชอบผู้ชาย กร๊ากก” สาดดดกูไม่น่าหลงผิดเล่าให้มึงฟังเลย
“เอ่อเป็นก็เป็นวะ..ยุดีนักแม้ง” เพื่อนก็เป็นเกย์ เป็นตามเพื่อนแม้งมันเลยจะเป็นไรไปวะ โวยยชีวิตกู อุตส่าวาดฝันว่าสักวันจะได้แฟนสวยๆราวกับนางกับเขาได้เอากับผู้หญิงสักคนแต่กูต้องโดนเอาหรอวะ? บัดซบสิ้นดี
ไม่ได้ๆ..ถ้าจะเป็นเกย์จริง จีมินต้องรุก จีมินจะไม่รับไม่เคะเด็ดขาดดด
“แต่กูไม่เคะนะเว้ยย!!” ผมประกาศก้องเสียงดั่งลั่นห้อง
ตายห่า..แม่ได้ยินป่าววะ?
“เรื่องนั้นมึงปรึกษากับคู่นอนมึงเหอะไม่ต้องมาบอกกู...หุ่นมึงเมะได้สบายเลยว่ะแต่หน้ามึงมันไม่ให้ยังไงๆก็เมะไม่ลงยอมรับข้อนี้ซะเถอะเพื่อน” มันตบบ่าผมปุบๆ
“หรือมึงจะให้กูกดมึงก่อนเพื่อพิสูจว่ากูเมะได้จริงๆ” ไม่ว่าเปล่าผมผลักนัมจนที่ตัวสูงกว่าสิบลงบนเตียงโดยที่ผมขึ้นคร่อมมันทั้งตัว
มันตกใจตาค้างผมตาปริบๆเลยครับเหมือนมันค้างไปสามวิได้
“ไอ้สัด!!”
โครมม!!
“โอ๊ยย!ไอ้ห่าถีบมาได้” หลังจากทีมันได้สติกลับมันมันก็ผมเข้าให้ถึงกลับหงายกลังกลิ้งตกเตียงกันเลยทีเดียว
“เอ่อก็ถีบสิวะ..ใครใช้ให้มึงเล่นแบบนี้ คนที่กูยอมมีแค่รุ่นพี่ซอกจินคนเดียวเว้ย”
“มึงเคะให้รุ่นพี่?” ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งถามกลับด้วยความตกใจ ขนาดใอ้นัมจุนยังเคะหรอเนี่ยยแล้วจะรอดหรอ?
“จิ๊..กูไม่ได้หมายความแบบนั่น พูดกับมึงแล้วปวดกะบานชิบ” มันทึ้งหัวที่ไม่ค่อยจะผมเพราะมผมสั้นของมันก่อนส่ายหัวไปมา
“แล้วตกลงว่ามึงเคะสินะ” ผมถามย้ำอีกรอบ
“กูง่วงนอนล่ะกลับบ้านก่อนนะขอให้ฝันร้ายว่ะ” มันทำหน้าหาวก่อนโบกมือบ๊ายผมแล้วเดินออกจากห้อง
“อ่าวเห้ยเดี๋ยวตอบกูก่อนมึงเคะสินะ”
มันหันกลับมาทำปากบอกประมาณว่า -แล้วแต่มึงจะคิด-
ขนาดนัมจุนยังเคะ ไอ้เชี่ยจุนเคะ แล้วผมล่ะๆ ต้องเคะสินะๆ
แต่เห้ย!!! เดี๋ยวตะวันยังไม่ตกดินเลยมึงบอกว่าง่วงนอนเนี่ยนะ
ไอ้เชี่ยจุนมึงหลอกกู มึงรำคารกู มึงหนีกลับบ้านหรอ?
ได้สาดดดพรุ่งนี้มีเคลียร์แน่มึง
มืดแล้ว ดึกแล้ว นอนแล้วด้วย แต่เสือกไม่หลับ
ครั้นจะหลับตาลงก็เจอหน้าหน้าไอ้แทฮยองกับค่ำที่มันบอกว่า “กูต้องได้เอามึง”
มันก้องให้หัวเสียงดังสนั่น ทำเอาสยองแปลกๆ
นอนๆ บอกตัวเองเป็นรอบที่เท่าไหร่แม้งจำไม่ได้ ไม่ได้นับ เพราะมัวแต่รับเกะกระโดดข้ามรั้ว เพื่อมันจะง่วงขึ้นมาได้บ้างแต่แม้งยิ่งนับยิ่งเยอะ พอเยอะแล้วยั๊วเยี๊ย รกหูรกตา ยิ่งหัวเข้าไปใหญ่ แล้วไอ้คำนั้น มันก็ยังวนเวียนไม่ไปไหน
กูต้องได้เอามึง กูต้องได้เอามึง กูต้องได้เอามึง กูต้องได้เอามึง มันดังก้องเหมือนมีคนมาหมุน Volume ให้มันดังขึ้นเรื่อยๆ
“ชิ๊!.. ให้ตายสิไอ้เวรเอ้ยยเพราะมึงๆ มึงคนเดียวเลย” ผมตัดสินใจลุกขึ้นคว้าเอาไอแพดที่วางข้างๆมาเล่น
นอนไม่หลับดีนักเล่นเกมเคนดี้ดีกว่า
จะว่าไปเมื่อวานจำได้ว่าขอรถไฟเพื่อนเพื่อไปด่านต่อไปหนิว่า มีคนกดให้ครบยังวะ
ก่อนเข้าเกมก็สักหน่อยวะ ตอนนี้มีใครออนอยุ่บ้างเดี๋ยวม้อสาวแก้เซ็งดีกว่า
“ใครแอดมาวะ..ไม่มีนโยบายรับคนหล่อหรือรวยนะเว้ย” ผมเลื่อนมือไปแตะเพื่อดูว่าใครที่แอดมา....=[]=
-Kim V Taehyung-
ไอ้สาดดดมึงตามหลอกหลอนกูถึงในนี้เลย
รูปโปรไฟล์นี่คิดว่าหล่อแล้วหรือไงวะขนาดถ่ายรูปใช้แอฟเป็นแสนมาแต่งมึงขาวได้แค่นี้?
ผมมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะแตะเบาๆบนหน้าจอทัชสกรีนตรงคำว่า -confirm-
ไหนๆก็ไหนๆแล้วสักหน่อยวะ ส่งข้อความหาเลยแล้วกัน
Jinmin Park Lovelyyyy >> ....เดี่ยวส่งเกมไปกดให้หน่อยดิ
ขาดอยุ่คนนึงพอดี^___^
Kim V Taehyung >> นึกว่าจะไม่รับเพื่อนซะแล้วครับแหม่
Jinmin Park Lovelyyyy >> ส่งไปล่ะกดให้กูเลยเร็วๆด้วย
Kim V Taehyung >>กดให้ได้นะแต่กูต้องได้กดมึงก่อนโอเคนะแฟร์ๆแล้วอย่าลืมมากดกลับล่ะฮ่าๆๆ
สัดกวนตีนไอ้เกย์โรคจิต
Jinmin Park Lovelyyyy >> กวนตีน olo
Jinmin Park Lovelyyyy >> -ออฟไลน์-
ไม่ลงไม่เล่นแม้งมันแล้วทั้งเฟสทั้งแคนดี้มีที่ไหนวะแค่บอกกดเกมแต่ต้องได้มากดกูก่อน
ใครมันจะยอมวะครับเข้าไปดูเว็บอื่นก็ได้วะกูเข้าแม้งเฟสบงเสฟบุ๊คในเมื่อไอ้แทฮอยงมันยังออนอยู่
.
.
.
.
.
......Google......
-เกย์กับเซ็กส์ครั้งแรก-
..................................................END
ส่งถ้ายกับรูปนัมจินค่ะ
เอาจบแค่ตอนนี้ละกันจบแบบป่วยๆชื่อเรื่องก็ยังป่วยตามคู่นัมนัมกับพี่จินก็ไม่มีบทอีกใครอยากให้มีต่อเค้าคอมเม้นสัก 15พอ เดี๋ยวเรื่องนี้มีต่อเผื่อคนที่อยากอ่านคู่นี้ต่อ(คิดว่ายังมีคนมาอ่านอีก?- -!)
**รู้ว่าตัวเองพิมพ์ตกเยอะแต่ก็ตามแก้ทบทวนแล้วส่วนหนึ่งแต่มันก็ยังมีไอ้ทีมองไม่เห็นอยู่ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ความคิดเห็น