คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #46 : ความผิดที่ไม่น่าให้อภัย
“นายใส่ร้ายมัลฟอย...นายขโมยแหวนของฉัน...นาย...นายทำได้ยังไง”เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางจ้องหน้ารอนราวกับจะทำให้เขาตายไปต่อหน้า รอนตอบไม่ถูก เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขณะนี้ ตรงหน้าห้องของเขา มีนางวิสลีย์ แฮร์รี่ จินนี่ และเฟร็ดกับจอร์ช ยืนดูเหตุการณ์กันอยู่อย่างตกตะลึง
“นายทำได้ยังไง...นายใส่ร้ายคนที่เขาไม่ผิด...นายคิดอะไรกันแน่...โรนัล...วิสลีย์...ตอบมาสิ”เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางวิสลีย์มองรอนอย่างโกรธจัด และที่จะโกรธไม่แพ้กันนั่นคือ แฮร์รี่นั่นเอง
“ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะเธอนะ”รอนตะโกนโต้ตอบกลับมาบ้าง
“ฉันรักเธอเฮอร์ไมโอนี่...เพราะฉันรักเธอ...ฉันไม่ต้องการให้เธอไปรักคนอื่น...เธอเข้าใจไหม”รอนพูดน้ำตาไหลพราก แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับมองรอนอย่างเย็นชา
“ได้โปรดเถอะเฮอร์ไมโอนี่...อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น”รอนอ้อนวอน เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ารอนด้วยสายตารังเกียจ ก่อนจะกระแทกเท้าเดินถือจดหมายออกไปนอกห้อง รอนมองดูคนที่เหลืออย่างขอความเห็นใจ
“นายเข้าใจฉันใช่ไหมแฮร์รี่”รอนถาม แฮร์รี่มองรอนด้วยสายตาไร้ความปราณี นางวิสลีย์ร่ำไห้เสียใจอย่างสุดซึ้ง เฟร็ด จอร์ช จินนี่ มองรอนอย่างไม่อยากเชื่อ
“ฉันไม่มีวันเข้าใจ...ฉันไม่เคยคิดว่านายจะเป็นคนแบบนี้”แฮร์รี่พูดเสียงเย็น ก่อนจะเดินออกไปอีกคน
“คนเห็นแก่ตัว...นายมันสิ้นคิดรอน”เฟร็ดพูด ก่อนจะช่วยกันพยุงนางวิสลีย์ลงไปที่ห้องนั่งเล่นกับจอร์ช
“ถ้าฉันเป็นพี่...ฉันจะยินดีที่เห็นคนรักมีความสุข...ไม่ใช่แบบนี้”จินนี่พูด เธอยังคงยืนจ้องมองรอนที่ร้องไห้อย่างไม่แยแส
“จะให้ฉันทำยังไงล่ะ...ฉันต้องการแค่เฮอร์ไมโอนี่คนเดียว”รอนพูด เขาสั่นสะเทิ้มไปทั้งตัว จินนี่เริ่มเดือดขึ้นมาบ้าง
“ฉันจะไม่ว่าอะไรเลย...ถ้ามัลฟอยเอาหัวไชเท้ามายัดหัวนิ้วโป้งของพี่...เพราะความโกรธ...พี่ทำเหมือนไม่สำนึกผิดเลย...ถ้าเป็นฉัน...ฉันจะเสกคาถาหรือคำแช่งที่ร้ายแรงที่สุดใส่พี่”จินนี่พูดอย่างเดือดดาล ก่อนจะเดินปึงปังออกมาจากห้องของรอน รอนมองไปรอบๆห้องที่ว่างเปล่า แล้วทรุดตัวลงร้องอีกครั้ง
ที่ห้องของเฮอร์ไมโอนี่
เฮอร์ไมโอนี่กำจดหมายในมือแน่น เธอคิดไม่ถึงเลยทีเดียวว่ารอนจะเป็นคนทำ ถ้าเฟร็ดกับจอร์ชไม่บอกเธอเรื่องนั้นเธอก็คงจะไม่มีวันรู้ ว่าความจริงแล้วมัลฟอยไม่ได้ผิด มัลฟอยพูดความจริงมาโดยตลอด และเป็นความจริงที่ว่า
‘เธอเชื่อ ในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ’
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากห้องของเธอก่อนจะเดินไปยังห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องของมัลฟอย เธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมสำรวจไปรอบๆห้อง ถ้ามัลฟอยอยู่ในตอนนี้ เขาคงจะพูดกวนประสาทอะไรเธอสักสองสามอย่าง ก่อนที่จะเข้าเรื่องในการพูดคุย เฮอร์ไมโอนี่เดินมานั่งลงบนเตียงของมัลฟอย ภาพต่างๆค่อยๆไหลเวียนเข้ามา หากเป็นเวลานี้ เธอคงต้องพบเจ้าของห้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายใจเฉิบ และเธอจะเป็นคนเดียว ที่ต้องมาปลุกเขาในตอนเช้า
‘อยากให้ฉันตื่นใช่ไหม...กอดฉันก่อนสิ’ คำพูดของมัลฟอยที่คล้ายเด็กตอนที่เธอมาปลุก ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อดยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ตอนนี้ ไม่มีอีกแล้วที่มัลฟอย จะยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น ไม่มีอีกแล้ว
“ฉันอยากให้นายตื่นนะ...ทำไมนายไม่ตื่นแล้วกลับมาหาฉันสักที”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเบาๆพลางร้องไห้
‘ถ้าเธอร้องไห้อย่าลืมมาซบไหล่ฉันล่ะ...ฉันจะกอดปลอบเธอเอง’เสียงของมัลฟอยยังคงดังก้องคล้ายกับมากระซิบอยู่ที่ข้างหูเธอ
“ตาคนบ้า...โกหก”เฮอร์ไมโอนี่ยังคงพูดต่อ เธอขยำจดหมายในมือที่ถือมาด้วยทิ้งอย่างไม่ใยดี
“นายอยู่ไหนล่ะ...นายคนผิดสัญญา...นายกลับมาได้ไหม...ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อนายทุกอย่างเลย”เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางจ้องมองไปรอบๆห้อง ราวกับหวังว่าจะเห็นมัลฟอยยืนยิ้มกวนๆให้เธออีกสักครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจอแต่ความว่างเปล่า เธอจ้องดูแหวนในมือที่เรืองแสงออกเป็นสีทอง เหมือนกับจะรับรู้ความรู้สึกของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น เธอพยายามปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด และเธอก็พบว่า ทุกคนในห้องนั่งเล่นมีสีหน้าตึงเครียดไม่แพ้กัน
“แม่เห็นหรือยัง...เขามันคนเห็นแก่ตัว...แม่เลิกร้องไห้ได้แล้ว...ไม่สำคัญเลยสักนิด”จินนี่พูดเสียงที่พยายามจะควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองให้ได้มากที่สุด
“ฉันคิดว่าเขาต่างจากเพอร์ซี่...”จอร์ชพูดซึมๆ
“รอนร้ายกาจกว่าเยอะเลย”เฟร็ดเสริม เฮอร์ไมโอนี่เดินลงมานั่งข้างๆนางวิสลีย์ นางวิสลีย์หันมาคว้ามือเฮอร์ไมโอนี่ไปจับทั้งน้ำตา
“ฉัน...ฉัน...ขอโทษจริงๆ...ขอโทษด้วย”นางวิสลีย์พูดเสียงตะกุกตะกักแทบฟังไม่รู้เรื่อง แฮร์รี่ยื่นกระดาษทิชชู่ให้นางวิสลีย์ไปเช็ดน้ำตา
“ไม่เป็นไรค่ะ...คุณไม่ผิด”เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางกอดปลอบนางวิสลีย์ ทั้งที่เธอเองก็แทบจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน
“ฉันไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำ...ฉันไม่คิดว่าเขาจะเห็นแก่ตัวอย่างนั้น”แฮร์รี่บอกอย่างโกรธๆ จินนี่วางมือบ่นบ่าเขาอย่างปลอบปะโลม
“คอยดู...อย่าให้ฉันเห็นเขาอีก”เฟร็ดพูด เป็นจังหวะเดียวกับที่รอนเดินลงมาตรงบันไดพอดี
“แม่...เราน่าจะกลับกันเย็นนี้เลยดีไหม...อยู่นานแล้วอึดอัด...ฉันไม่ได้หมายถึงนายนะแฮร์รี่...เธอด้วย”จอร์ชบอกเสริม นางวิสลีย์พยักหน้าหงึกหงัก รอนรีบสาวเท้ากลับเข้าห้องอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกผิด
“แต่ฉันจะไม่กลับไปหรอกนะ”จินนี่พูดขึ้น เฟร็ดกับจอร์ชหันมามองจินนี่เชิงถาม
“ฉันอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ...อยู่บ้านฉันก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วนี่”จินนี่พูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปที่นางวิสลีย์ แฮร์รี่มองจินนี่อย่างไม่อยากเชื่อ
“ได้...ได้...แล้วแต่แฮร์รี่นะ”นางวิสลีย์พูด เธอยังคงสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อย
“จินนี่...”แฮร์รี่พูดขึ้น จินนี่หันไปมองแฮร์รี่อย่างสงสัย
“ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อย”แฮร์รี่พูด ก่อนที่เขาและจินนี่จะพากันเดินออกมาข้างนอกบ้าน โดยที่แน่ใจแล้วว่าจะไม่มีใครแอบฟังอยู่
“ฟังนะจินนี่...ฉันอยากให้เธอกลับไป”แฮร์รี่เริ่ม จินนี่มองอย่างไม่แยแส
“ฉันรู้ว่าพี่หมายความว่ายัง...และฉันก็ตัดสินใจไปแล้วด้วย”จินนี่พูดต่อ
“ไม่ได้นะจินนี่...รู้ไหมว่ามันเสี่ยง...ฉันจะเป็นจะตายยังไงฉันยังไม่รู้เลย”แฮร์รี่บอก
“ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...ฉะนั้นฉันต้องอยู่กับพี่ด้วย”จินนี่บอกอย่างดื้อดึง แฮร์รี่ดึงจินนี่เข้ามากอดแนบตัว
“ขอร้องจินนี่...อย่าทำอย่างนี้...ฉันจะเป็นบ้าตายขนาดไหน...ถ้าเธอเป็นอะไรไปต่อหน้าฉัน”แฮร์รี่บอกพลางลูบผมจินนี่เบาๆ
“แล้วคิดว่าฉันจะไม่บ้าตายเหรอ...ถ้าหากพี่เป็นอะไรไปโดยที่ไม่บอกกล่าวกัน”จินนี่บอกต่อเธอกอดแฮร์รี่แน่น เขาเองรู้สึกมีความสุขขึ้นมาชั่วขณะ
“พี่ห้ามพูดเรื่องตายอีกนะ...ความตายเป็นสิ่งไม่แน่นอน...มันก็จริง...แต่ฉันคิดว่าเรากำหนดมันได้ถ้ามีสิ่งอะไรบางอย่างเหนี่ยวรั้งให้เราอยู่”จินนี่บอก แฮร์รี่อมยิ้ม
“สิ่งเหนี่ยวรั้งให้ฉันอยู่คือเธอจินนี่”แฮร์รี่ตอบอย่างไม่ลังเล
“ฉะนั้นพี่ก็ไล่ฉันกลับไปไม่ได้...เข้าใจไหม...ฉันต้องอยู่เหนี่ยวรั้งพี่ไง”จินนี่พูดทั้งคู่ค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากกัน
“แต่จินนี่...เธอคิดดีๆนะ...หาก”
“ฉันคิดดีแล้วน่ะ...ฉันจะไม่จากพี่ไปไหน...ฉันสัญญา”จินนี่กระซิบเบาๆ แฮร์รี่ดึงจินนี่เข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม และเสียงกระแอมของเฟร็ดกับจอร์ชก็ดังขึ้น
“มันไม่มากไปหน่อยหรือไง...นั่นน้องสาวเรานะแฮร์รี่...ขออนุญาตเรา 2 คนหรือยัง”เฟร็ดถาม จินนี่พละออกจากแฮร์รี่ เธอเท้าสะเอว ใช้แววตาแบบนางวิสลีย์มองดูเฟร็ดกับจอร์ช ที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากนัก
“ฉันไม่ทราบว่าต้องได้รับใบสัญญาบัตรอนุญาตอะไรจากพี่เลยนะ...ขอบอกให้รู้...นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน...ที่พี่กับยายจอร์นสันฉันยังไม่เคยว่าเลยสักนิด” จินนี่พูดอย่างเอาเรื่อง จอร์ชหันมองดูเฟร็ดตาไม่กระพริบ ก่อนจะอมยิ้มขำออกมา
“พี่ก็เหมือนกันอย่านึกว่าฉันไม่รู้...ยายสพินเน็ตเพื่อนของจอร์นสันก็คบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”จินนี่ไล่เรียงยาว จนจอร์ชเงียบไป แฮร์รี่พยายามกลั้นหัวเราะอยู่ข้างหลังจินนี่
“เอาเถอะน้องรัก...เราจะไม่ว่าอะไรเธอก็ได้ตามสบาย”เฟร็ดบอก ก่อนจะพากันเดินกลับเข้าไปในบ้านกับจอร์ช จินนี่หันมายิ้มให้แฮร์รี่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันกลับเข้าไปในบ้าน
ที่ห้องนั่งเล่น
แฮร์รี่ได้บอกเรื่องสำคัญบางอย่างที่เขาเองเกือบลืมไปเสียสนิท เขาแยกตัวมาคุยกับเฮอร์ไมโอนี่และจินนี่กันสามคนโดยรอให้เฟร็ด จอร์ช และนางวิสลีย์ออกไปข้างนอกเสียก่อน แฮร์รี่มีสีหน้าเครียดยิ่งกว่าปกติ
“ต่อจากนี้ฉันต้องตามหาที่อยู่ของโวลเดอร์มอร์ ฉันคิดว่าควรทำมาเป็นชาติแล้ว...และตอนนี้...ฮอร์ครักซ์ทั้งหมดคงอยู่ที่เขา...เขาคงรู้แล้วว่า...ถึงแม้...ดัมเบิลดอร์จะตายไป...แต่ดัมเบิลดอร์คงไม่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับตลอดชีวิต...เขามีความระแวดระวังพอสมควรทีเดียว”แฮร์รี่พูด ดวงตาจับจ้องดูครุกแชงค์ที่ไล่จับหนูอย่างสนุกสนาน
“งั้นอย่างแรกที่เราต้องทำ...คอยจับตาดูการปรากฏตัวของผู้เสพความตาย”เฮอร์ไมโอนี่เสริม
“เราควรจะมีคนอื่นด้วยนะเรามีกันแค่ 4 คนเอง”จินนี่ต่อ เฮอร์ไมโอนี่หันมองหน้าจินนี่ด้วยท่าทีเรียบเฉย
“3 จินนี่...เรามีกันแค่ 3 คน”เฮอร์ไมโอนี่บอกเสียงเย็น จินนี่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เอ้า 3 คนก็ได้...เราต้องขอกำลังเสริมจากลูปิน”จินนี่บอก แฮร์รี่พยักหน้า
“ใช่...เราจะเริ่มกัน...พรุ่งนี้เลย”แฮร์รี่บอก เขาสบตามองเฮอร์ไมโอนี่ที่มีสีหน้าเครียดกว่าเดิม
“เป็นอะไรเฮอร์ไมโอนี่...”แฮร์รี่ถาม จินนี่หันไปมองเธออีกคน
“ไม่สบายหรือไงกัน”จินนี่ถามเสียงใส เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
“ฉัน...ฉัน...ไม่เป็นไร”เฮอร์ไมโอนี่พูด ความจริงเธอคิดอยากจะให้แฮร์รี่ช่วยตามหามัลฟอย แต่มันคงเป็นความคิดที่งี่เง่า มัลฟอยต้องไม่ยอมยกโทษเป็นอันขาดหากเขาเจอเธอ
ช่วยกันคอมเม้นส์ นะค่ะ/สายธารแห่งราตรี
ความคิดเห็น