คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Le Cordon Bleu...พลิกฟ้าล่าพิภพ' Chapter 1
Chapter 1
ยินดีต้อนรับเข้าสู่..
ดินแดนแห่งเวทย์มนต์ Cordon Bleu
ดินแดนแห่งเวทมนต์ ที่อยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรเวเลอลิด้า
ดินแดนที่มนุษย์ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า มีเกาะอันกว้างใหญ่ไพศาลบางตะไทบะเร่อเท่อตั้งอยู่ถึง 5 เกาะด้วยกัน.....ดินแดนที่มนุษย์ไม่มีวันได้ข้ามเข้ามา...ดินแดนที่เต็มไปด้วยความพิศวงและแปลกประหลาด .......
เกาะแปลกประหลาดทั้ง 5เกาะ ที่เอ่ยถึงมานี้มีนามว่า......
Aqua Rocco , Vur Kano ,
เกาะแรก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ นั้นคือ Aqua Rocco ดินแดนแห่งวารีดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งล้อมรอบ ซึ่งปกครองโดย ราชาคังอินพุงโย้ ร่วมกับราชินีลีทึก ผู้คงกระพันเรื่องความงามที่สุดในโลก และพยานรักของทั้งคู่ คือ องค์ชายคยูฮยอนที่เกิดมาพร้อมบั้นท้ายที่ใหญ่โต และ องค์ชายดงเฮผู้เลอโฉมเหมือนวีรสตรีที่ถอดความงามและความมั่นใจในตนเองมาจากผู้เป็นมารดาอย่างเต็มร้อย
ถัดมาทางทิศตะวันออกคือ Vur Kano ดินแดนแห่งเพลิงไพที่สามารถแผดเผาทุกสรรพสิ่งได้ ผู้คนที่ได้ย่างกรายเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ ว่ากันว่ามันคือไฟแห่งนรกชัดๆ ดินแดนนี้ถูกปกครองด้วย ราชายูชอนผู้เป็นเจ้าแห่งพระอาทิตย์ที่ร้อนแรง เคียงคู่กับราชินีจุนซู ผู้มีเสียงที่งดงามไพเราะ พร้อมกับพยานรักของทั้งคู่ องค์ชายฮันคยองบุตรแห่งพระอาทิตย์ และ องค์ชายซองมินจอมเขมือบทุกสรรพสิ่ง
เลื่อนลงมาทางทิศใต้คือดินแดนแห่งดิน...
และสุดท้าย.....ดินแดนวายุ Whiter land ดินแดนที่น่าเกรงขามยากที่จะต่อกร ดินแดนที่กำหนดลมหายใจของดินแดนแห่งนี้ ปกครองด้วยราชาซีวอนผู้น่าเกรงขามแต่กลัวเมีย ราชีนีฮีชอลที่เอาใจยาก...ว่ากันว่า...วันนี้จะอากาศดีหรือฝนจะตก ต้องให้ดูจากอารมณ์ขององค์ราชีนีฮีชอล เพราะว่ากันว่า หากวันไหนอารมณ์ดีก็จะทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนตกมาเป็นผลหมากรากไม้ทันที แต่ถ้าหากวันไหนใครไปทำให้ขุ่นข้องเคืองพระทัยละก็ ...ท้องฟ้าจะมืดมิดแปรปรวน และจะเกิดลมพายุขนาดใหญ่ทันที .....ทั้งสองคนมีพยานรักด้วยกันสองพระองค์คือองค์ชายคิบอม ผู้เยือกเย็นความรู้สึกช้า และ องค์ชายฮยอกแจผู้ที่มีเสียงที่ไพเราะงดงามดั่งนกไนติงเกล รวมทั้งความสวยที่ได้รับมาจากมารดา ....แต่ทว่ากลับเอานิสัยขึ้นๆลงๆของพระมารดามาด้วย เกินร้อยนี่ละสิ
เกาะสุดท้ายที่เป็นจุดศูนย์กลางนั้น.......คือ fightarea สนามประลอง
ทุกๆ 100ปี ทุกคนจากทุกดินแดนจะต้องมาประลองกันที่สถานที่แห่งนี้ ...เพื่อเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน เป็นเกาะที่เชื่อมความสัมพันธ์ของทั้ง 4 เกาะเอาเข้าไว้ด้วยกัน การประลองแต่ละครั้งนั้นทุกๆดินแดนก็จะหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพแต่ละครั้งไป
แต่ละดินแดนนั้นจักต้องมีผู้ปกครองและผู้ปกครองแต่ละคู่ก็ต้องมีทายาทเพื่อสืบสกุลหรือเป็นสิ่งที่แสดงว่าเป็นเครื่องหมายประจำเกาะนั้นๆ เพราะถ้าดินแดนนั้นปราศจากผู้ครอบครองแล้วไซร้ ดินแดนนั้นจะถูกเหยียดหยาม และถูกกดขี่ในที่สุด
ทางที่ดีที่จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นผู้นำของทั้งสี่พื้นดินต้องปรองดองกันไว้ ไม่ว่ากรณีใดใดก็ตาม
จนตอนนี้นี้ได้วนมาจนครบ 100 ปี แล้วการประลองจึงต้องจัดขึ้นอย่างสง่างามและมีเกียรติที่สุด เจ้าภาพของครั้งนี้คือ ดินแดน
ณ สนามประลอง
“เฮ้!...เฮ้!”
เสียงดังระงมไปทั่วทั้งบริเวณสนามที่ถูกสร้างเป็นโรม ตรงกลางเป็นที่ไว้ให้นักสู้ประลอง รอบข้างสนามจัดเป็นอัฒจรรย์ใหญ่ให้เป็นที่รับชม
ในการจัดงานครั้งนี้ มีแต่ผู้ที่ฝึกวิชาของแต่ละธาตุแล้วเท่านั้นที่จะเข้ามาดูการแข่งขันได้ เพราะถือว่าคนพวกนี้เป็นพวกมีครู(?)ผู้ปกครองอยู่ในตนเอง
บริเวณที่นั่งของแขกสำคัญทั้งหลาย......
“ไม่ได้เจอกันตั้ง 100 ปี แก่ขึ้นนะท่านยุนโฮ”
“ใครจะไปเด็กลงเหมือนท่านยูชอนล่า ถามมาได้”
คำทักทายที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดาของสองผู้ยิ่งใหญ่จากแดนใต้และแดนตะวันออกเอ่ยทักทายกัน ทันที่ที่มาถึง
“แล้วกษัตริย์แห่งเมือง Whiter land ล่ะ? ยังไม่มาหรอกรึ?”
เพราะตอนนี้เหลือแค่ผู้นำอีกแดนเดียวเท่านั้นงานจึงจะเริ่มได้ หากมาไม่ครบก็จะไม่สามารถเริ่มงานที่น่าทรงเกียรติเช่นนี้ได้
“ถามข้า แล้วข้าจักรู้มั้ยล่ะ?”
“เจ้านี่ปากช่างน่านัก!”
“เราเป็นเพื่อนกันนะผ่าบาท....”
ราชายูชอนกดเสียงต่ำลงแล้วลอบยิ้มใส่ราชายุนโฮทันที
“แล้ว..งะ”
“ลูกท่านดูอยู่!!!”
ถ้าไม่ติดว่าเด็กน้อยสามคนที่พึ่งอายุประมาณ6ขวบมองมาทางเขาตาแป๋ว เขาจักต้องใช้กำลังแทนผู้เข้าแข่งขันเป็นแน่
“หยีๆๆๆ ท่านป๋อ หยีๆๆ “
องค์ชายน้องมองราชายุนโฮ แล้วพูดออกมาพร้อมกับกำและแบมือไปด้วย
“หมีต่างหากเล่าฮันกยอง ไม่ใช่ หยี”
ราชายูชอนลูบหัวองค์ชายน้อยด้วยความรักแล้วเหลือบมองไปที่ราชายุนโฮที่กำลังโกรธคำพูดขององค์ชายน้อยหน้าดำหน้าแดงเช่นนี้
“จักใกล้ฤกษ์ประลองแล้วทำไมท่านซีวอนยังไม่มาอีกนะ?อย่างนี้ใช้ไม่ได้!”
ก็ตอนนี้เวลามันล่วงเลยมาจวบจนผู้เข้าแข่งขันเยี่ยวเหนียวแล้วล่ะสิ! ร่างกายที่ฟิตปั๊งก็ห่อเหี่ยวเรื่อยๆ
“โอ๊ะ!!! ลมแรงสงสารจักมาแล้วเป็นแน่”
ราชายูชอนหรี่ตาขึ้นมองบนท้องฟ้าที่เหมือนลมจะแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ลมมันแรงไปนะ เดี๋ยวฝุ่นเข้าตาเด็กน้อยทั้งสามพอดี
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อผู้ปกครองแห่งนครวายุวิ่งเข้ามาพร้อมเด็กน้อยในมือ แสงสีขาวจากท้องก้ผ่ากลางแผ่นดินนั่นทันที!
“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“ไม่เอาน่า คิบอม...เก็บอาวุธของเจ้าเสีย”
ราชาซีวอนปล่อยองค์ชายน้อยทั้งสองให้ลงเดินพร้อมกับเอ่ยดุทันที เด็กน้อยหันมามองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่นิ่ง แล้วหลุบตาลงต่ำ ทันใดนั้นเอง...แสงไฟสีขาวที่เรืองรองอยู่ในมือขององค์ชายก็อันตรธานหายไปทันที
“ข้าขอโทษที่มาช้า นี่ลูกชายของข้า คิบอม และฮยอกแจ“
ราชาซีวอนพาเด็กน้อยทั้งสองเข้ามาในซุ้มที่นั่งพร้อมทั้งแนะนำลูกชายของตนเองให้ ราชายุนโฮ ราชายูชอน และราชาคังอิน ให้รู้จัก
“เหตุฉไน ถึงมาช้าขนาดนี้เล่า ท่านซีวอน “
ราชาคังอินยิ้มเยาะพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นตรงหน้าราชาซีวอน
“ก็เหตุผลเดียวกับราชาคังอิน นั่นแหละขอรับ “
ราชาซีวอนอมยิ้มน้อยๆ แล้วปล่อยให้เด็กน้อยทั้งสองเดินไปหาองค์ชายที่เหลือพร้อมกับทิ้งน้ำหนักลงที่ที่นั่งข้างๆองค์ชายคังอิน
“หึหึ เพราะภรรยาที่แสนสวยของท่านนะหรือ ท่านซีวอน “
ราชายูชอนกระดกแก้วไวน์ขึ้นเข้าปาก พร้อมกับแลบลิ้นออกมาน้อยๆเพื่อรับรู้รสของไวน์
“อย่าเอ่ยชมภรรยาของคนอื่นต่อหน้า พระสวามีของนาง
ราชายุนโฮได้ทีเลยเอ่ยแซวออกไปบ้าง ราชาซีวอนและราชาคังอินส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นชนอย่างรู้ใจ พร้อมกับทอดสายตาออกไปที่ลานประลอง
“เป็นอะไรไป ดงเฮ”
องค์ชายคยูฮยอนหันมาถามน้องชายของตนเอง เมื่อเห็นว่าน้องชายที่แสนรักของตนเองนั้น มาเกาะชายเสื้อคลุมของตนเองไว้แน่นเหมือนจะกลัวอะไรบางอย่าง นิ้วเล็กๆขององค์ชายตัวน้อย ชี้ไปข้างหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ ทำให้คยูฮยอนต้องมาตามนิ้วเล็กๆนั่นไปก็พบกับ
“องค์ชายคิบอม ทำไมท่านมองน้องชายของข้าด้วยสายตาเช่นนี้”
องค์ชายคยูฮยอนอ้าแขนออปกป้องดงเฮ ทันที เมื่อมองไปเห็นสายตานิ่งๆที่แสนเยือกเย็นของเจ้าชายตรงหน้าที่มองพุ่งตรงมาหาน้องชายตัวเอง องค์ชายคิบอมมององค์ชายดงเฮด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกแล้วพูดออกมานิ่งๆว่า
“...ต้องการ”
“ต้องการอะไร? ท่านต้องการสิ่งใด? ขนมหรือ? “
องค์ชายคยูฮยอนถามไปด้วยความเป็นเด็ก เพราะคิดว่าสหายของตนเองนั้นอาจจะหิวก็เป็นได้
“ข้า ! ข้า ! ข้าต้องการขนมอีก ข้า ๆ”
มือป้อมๆยกขึ้นสุดแขน พร้อมกับมืออีกข้างที่กำลังกินขนมในจานอย่างเอร็ดอร่อย เอ่ยตอบแทนคิบอม ทำเอาคิบอมต้องยกยิ้มออกมา
“ข้าไม่ได้ถามเจ้า ! เจ้าหมูจอมเขมือบ ! “
คยูฮยอนสะบัดหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินพร้อมกับแยกเขี้ยวใว่องค์ชายตัวน้อยที่นั่งกินขนมอยู่ องค์ชายตัวน้อยปล่อยขนมในมือทันที แล้วเริ่มแบะปากออก น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากดวงตาที่แสนสวย
“ฮือๆ ..แง๊ๆ...เค้าชื่อหมูแสนสวยต่างหาก แง้ๆๆ”
“เจ้า ! มีสิทธิอันใดว่าน้องชายข้า องค์ชายคยูฮยอน ! ไม่เป็นไรนะน้องพี่ อย่าร้องนะ”
ฮันกยองที่นั่งอยู่บนตักราชายูชอนรีบกระโดดลงมาจากตักของผู้เป็นพ่อทันที แล้วเอามือน้อยๆแต่ทว่าที่แข็งแกร่งมาโอบกอดน้องชายตัวเองไว้ ราชา และราชินีทั้งหลาย เริ่มหันมามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น องค์ชายซองมิน เอามือป้อมๆกอดพี่ชายของตัวเองไว้
“ข้าว่าที่ไหนเล่า ! เจ้านี่เหตุใดต้องร้องไห้ด้วย? เรื่องมันเกิดเพราะเจ้าแหละ องค์ชายคิบอม ! หากท่านทำให้น้องชายข้ากลัว ข้าก็ไม่ต้อง มาโมโหใส่เจ้าหมูนี่ “
องค์ชายคยูฮยอนรีบแก้ตัวทันทีเมื่อเห็นสายตาขององค์ชายฮันกยอง องค์ชายซองมินร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชายคยูฮยอน
“ท่านเห็นไหมน้องชายข้าร้องไห้กว่าเดิมแล้วเนี่ย ! ท่านนี่มันไร้น้ำยาจริงๆ “
องค์ชายฮันเกิงเอ่ยว่าองค์ชายคยูฮยอนต่อ แล้วปล่อยมือจากน้องชายตัวเอง พร้อมกับเดินมุ่งหน้ามาหาเรื่ององค์ชายคยูฮยอน
“ท่านพี่...น้องรำคาญ “
กึก..
.เสียงอะไรนะ...ทำไมช่างไพเพราะเช่นนี้
องค์ชายฮันกยองหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงใสหวานดังมาจากที่ไกล้ๆจึงหันไปทางต้นเสียงก็พบกับ องค์ชายตัวน้อย ที่ยืนอยู่เคียงข้างองค์ชายคิบอม ...ปากเล็กๆนั้นเชิดขึ้นเล็กน้อย รับกับใบหน้าที่งดงามปานสตรี..ทำเอาหัวใจเล็กๆขององค์ชายเจ้าแห่งไฟถึงกับสะดุด และร้อนรุ่ม
“ฝะ..ฝากไว้ก่อน “
องค์ชายฮันกยองพูดด้วยน้ำเสียงติดขัดแล้วเดินกลับมาหาองค์ชายซองมินทันที
“ท่านกลัวข้าละสินะ? เข้ามาๆ ข้าจะเสกหอกน้ำแข็งขึ้นมาแทงเจ้า”
องค์ชายแห่งวารีกำหมัดขึ้นชกลมทันทีตามประสาเด็ก ทั้งๆที่ขากำลังสั่นด้วยความกลัว
“หึ..พวกเจ้านี่ไร้สาระจริงๆเลย’
องค์ชายเยซองเค่นยิ้มน้อยๆ แล้วนั่งเอามือเท้าคางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนุกสนาน
“ละ..เลิกมองข้าได้แล้ว ข้าไม่ชอบ ! “
องค์ชายดงเฮเอียงหน้าออกมาจากหลังของพี่ชายตนเองเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงที่สั่น เพื่อหวังจะให้คนที่กำลังจ้องตัวเองเหมือนจะกลืนกินอยู่ตอนนี้ เลิกมองเสียที
เจ้าของสายตาที่แทบจะกลืนกินองค์ชายตัวน้อยแห่งดินแดนวารี ยังคงไม่ละสายตาจากจุดหมายที่มองอยู่ ....มองด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกอะไรทั้งสิ้น....
......มองเพียงเพราะสนใจ....หรือมองเพราะเป็นแค่ที่พักสายตา
“ท่านฮีชอล ! ลูกท่านกำลังจะทำอะไร? เหตุใดจึงมองลูกข้าแบบนั้น “
“ท่านลีทึก ! อย่ามากล่าวหาลูกชายข้านะ ! สายตาท่านฟั่นเฟืองไปหรือเปล่า? ลูกชายท่านต่างหากที่กำลังจ้อมองลูกชายข้าอย่างไม่วางตาน่ะ “
ทั้งสองราชานีมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่เอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมแพ้กันและกัน ด้วยความที่เป็นอย่างงี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“ฮีชอล..ไม่เอาน่าที่นี่ไม่ใช่บ้านเมืองของเรานะ”
“ที่รัก..นั่งลงเถิด ข้าขอร้อง”
ราชาคังอินและราชาซีวอนเอ่ยปรามคู่ครองของตนเอง ทันที
ให้มันได้แบบนี้สิ....เจอกันครั้งไหนสองราชินีนี่ไม่เฉือดเฉือนกันให้ตายให้มันรู้ไป
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆ”
“
แจจุง...ท่านเลิกขำเถิด”
“ท่านด้วยจุนซู...เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหน่อยสิ”
ราชายุนโฮและราชายูชอนกุมขมับเล็กน้อย กับการหัวเราะประสานเสียงของราชินีทั้งสอง อยู่ด้วยกันทีไร....ต้องเส้นตื้นหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังทั้งที
นี่คือราชินีจริงๆ...ที่ปกครองประเทศจริงๆสินะ
“ข้าบอกให้ท่านเลิกมองน้องชายข้าไง เจ้าคิบอม ! เลิกร้องไห้ด้วย เจ้าหมู !”
องค์ชายคยูฮยอนชี้หน้าคิบอมด้วยความโมโห ด้วยความที่ทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้ เพราะองค์ชายแห่งลมเอาแต่ใช้สายตามองน้องชายแสนรักของเค้าอยู่แบบนั้นโดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ แถมยังมีเสียงร้องไห้ขององค์ชายตัวป้อม ที่ร้องไห้จ้าเพราะคำว่า ‘หมู’ ที่คยูฮยอนเรียก
“นี่เจ้าๆไม่เลิกเรียกน้องข้าว่าหมูเรอะ ! เจ้าคยูฮยอน ! “
“ข้าบอกแล้วไง ข้าต้องการ...”
“ก็บอกว่าห้ามมองดงเฮของข้าไง ! ห้ามมอง !”
เด็กน้อยทั้งสามคนเริ่มเถียงกันไปมาทำเอาราชาและราชีนียืนมองอยู่ต้องส่ายหน้าอย่างระอา เสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเริ่มทำให้ผู้คนที่กำลังประลองกันอยู่ที่สนามประลองเริ่มหยุดการต่อสู้และเริ่มหาต้นตอของต้นเสียงนั่น
“เอาล่ะพอ ! ถ้าอยากสู้กันนัก ข้าจะจัดให้ ! “
ราชายูชอนยกตัวขึ้นมาจากที่นั่ง ทันทีพร้อมกับเอามือตบเข้าที่หน้าขาตัวเอง แล้วยกยิ้มขึ้นมา เหมือนจะคิดอะไรดีดีออก
“ท่านบ้าไปแล้วท่านยูชอน เด็กพวกนี้ยังเด็กกันอยู่ นะ”
ราชาซีวอนเอ่ยเถียงออกมากับคำพูดของราชายูชอน
“เด็กอะไรกันเล่า....เมื่อเพลาผ่านไปก็จักต้องโตอยู่ดี ...องค์ชายคิบอมของท่านซีวอนก็คงไม่เลิกมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านคังอินอยู่ดี แถมลูกชายของท่านคังอิน ยังมาเอ่ยว่าลูกน้อยที่แสนน่ารักของข้าอีก ...ของแบบนี้มันยอมกันได้อย่างไรเล่า”
ราชายูชอนพูดออกมาเป็นฉาก พร้อมกับไล่มองเด็กน้อยทีละคนๆ
“ถ้าไม่สู้...แล้วจักเป็นราชาได้อย่างไรเล่า? จริงหรือไม่ คิบอม คยูฮยอน ฮันกยอง”
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้าตามคำพูดของราชายูชอน ยกเว้น องค์ชายคิบอมที่ยังคงไม่ละสายตาจากจุดหมายเดิมคงแต่จะมองไว้อย่างงั้น ราชายูชอนมองไปที่องค์ชายคิบอม และเดินเข้าไปไกล้ แล้วพูดว่า
“หากองค์ชายคิบอมไม่อยากจะสู้ด้วยคงไม่เป็นไร...แต่ก็อาจจะพลาดสิ่งของที่ท่านกำลังต้องการก็ได้นะ หึหึ”
“ท่านลุง...หมายถึงสิ่งใด”
องค์ชายคิบอมหันหน้ามาราชายูชอนทันทีที่ได้ยินข้อเสนอ ราชายูชอนหน้าเสียไปนิดหนึ่งกับคำว่า ‘ลุง ‘ แล้วปรัปสีหน้าให้เป็นปกติ
“สิ่งที่หลานต้องการอย่างไรเล่า...องค์ชายลีดงเฮแห่งอาณาจักร Aqua Rocco”
“
หึ..”
องค์ชายคิบอมเค่นหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้ารับคำราชายูชอนช้าๆ ทำเอาราชายูชอนหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
“ราชายูชอน ! ท่านไปเป็นบิดาของลูกข้าตั้งแต่เมื่อไหร่? เหตุใดเล่าจึงมีสิทธิมอบลูกชายข้าให้องค์ชายคิบอมน่ะ “
ราชาคังอินที่ยืนมองอยู่นานเอ่ยกัดราคายูชอนจอมเจ้ากี้เจ้าการ ที่อยู่ดีดีก็มายกลูกชายสุดรักของเค้าให้กับลูกชายของเพื่อนสนิทตัวเองแบบนี้
ช่างเสือกจริงๆ
“แหมท่านราชาคังอิน ...เด็กๆเค้าคงยังไม่รู้เรื่องกับพันธะสัญญาเท่าไหร่หรอก ใช่ว่าข้าไม่รู้เรื่องเสียหน่อย ...แต่อย่างว่ากษัตริย์ตรัสแล้วมักไม่คืนคำ จัดการประลองเลยแล้วกัน”
“หยุดๆ ! เลิกต่อสู้กันเถิด....วันนี้เรามีอะไรที่มันพิเศษกว่านั้น...องค์ชายจาก ทั้ง4 ดินแดนที่ยิ่งใหญ่จะให้เกียรติมาประลองฝีมือให้พวกเจ้าได้ชม หึหึ”
ราชายูชอนยิ้มอย่างพอพระทัยแล้วเริ่มจัดการประกาศบอกประชาชนที่กำลังต่อสู้อยู่ทันที ทุกคนที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นหันมาฟังราชาจอารมณ์ดีแล้วแยกย้ายกันไปตามที่นั่งบนอัฒจันทร์เพื่อเปิดทางให้แก่ผู้ต่อสู้ตัวน้อย
“องค์ชาย คยูฮยอน คิบอม ฮันกยอง และ เยซอง จะประลองฝีมือให้พวกเจ้าได้ดู”
ราชายูชอนหัวเราะออกมาตามแบบฉบับของตัวเองแล้วปล่อยให้เด็กน้อยทั้งสี่ลงสู่สนาม พร้อมกับอุ้มองค์ชายซองมินไว้ที่หน้าตักเพื่อชมการประลอง ราชินีจุนซูมองราชาผู้คุมหัวใจตัวเองอย่างเคืองๆแล้วกำชับนักหนาว่า
“หากสิ้นการประลอง แล้วฮันกยองเกิดบาดเจ็บตรงไหนละก็ ราชายูชอนผู้ยิ่งใหญ่คงจักรู้นะเพค่ะ ว่าคืนนี้พระองค์จะได้เสด็จไปนอนที่ใด”
“ตั้งแต่รู้จักเจ้ามา วันนี้เจ้าพูดจาถูกหูข้าที่สุดเลยจุนซู ...หึหึ พวกท่านก็ด้วยนะเพคะ หากองค์ชายน้อยของพวกเราเป็นอะไรกันไปละก็...ผู้เป็นบิดาคงจะต้องเจ็บมิแพ้กันนะเพค่ะ”
ราชินีแจจุงพูดออกมา ราชีนีฮีชอล และราชินีอีทึกพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ทำให้องค์ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งอยู่ทุกพระองค์กลื่นน้ำลายลงอย่างฝืดคอไม่แพ้กัน
ได้โปรดอย่าเป็นอะไรกันไปนะลูกๆ...มิฉะนั้นแล้วพ่อของเจ้า..จักต้องมีจุดจบที่แย่กว่าเจ้าเป็นร้อยเท่าพันทวี
“เฮ้...เฮ้.... ข้าเชียร์ข้างองค์ชายฮันกยอง 300 เบลอ”
“ฮี่ฮี่ฮี่ แต่ข้าว่า องค์ชายคิบอมทรงมีพละกำลังมากกว่า ข้าเล่นเลย 560 เบลอ”
“ข้าเชียร์ข้างองค์ชายคยูฮยอน เพราะข้าเดาว่าบั้นทายนั่นท่าจะมีแรงมหาศาล ข้าจะขอเทหมดหน้าตัก!”
“โถ่เจ้าจะรู้อ่ะไร องค์ชายเยซองจักต้องชนะแน่ๆ แต่ข้าไม่แทงหรอกเสียดายเงิน”
เสียงเชียร์ข้างสนามดังขึ้นๆเรื่อยๆเพื่อเชียร์องค์ชายตัวน้อยทั้งสี่ ...องค์ชายตัวน้อยมองหน้ากันไปมองหน้ากันมาโดยไม่มีใครออกกำลังใส่กันก่อน ทันใดนั้นเสียงแตรสังข์ที่ให้สัญญาณการประลองก็เริ่มขึ้น
แตร๋นนนนนนนนนนนนนแปร๋นนนนนนนนนปู๊ดดดดด
แซ่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“สายฟ้าฟาดด.....หึ”
แสงประกายสีขาวส่องออกมาจากลำแขนของเด็กน้อยผู้เป็นว่าที่ราชาแห่งดินแดนวายุ ซัดออกมาใส่องค์ชายทั้งสามอย่างเต็มแรง แต่โชคดีที่เด็กน้อยทั้งสามกระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด
“เจ้าคิบอม ! ข้าจักไม่มีวันยกน้องชายข้าให้ท่าน”
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
“มฤตยูลมพายุหิมะ ! เอานี่ไปกิน “
องค์ชายคยูฮยอนเมื่อตั้งตัวได้ก็ปล่อยเวทย์ประจำกาย พายุหิมะที่รุนแรง ซัดเข้าใส่องค์ชายอีกสามพระองค์ทันที
“ข้าก็ไม่ยอม ! ที่จะให้คนตูดใหญ่อย่างเจ้า มาว่าน้องชายข้า !”
“ลูกไฟบรรลัยกัลป์ !~”
ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
องค์ชายฮันกยองวิ่งหลบพายุหิมะขององค์ชายคยูฮยอนอย่างคล่องแล่ว พร้อมกับหันหลังไปซัดลูกไฟมหาศาลออกมาจากปากน้อยๆของตัวเองไปยังทิศทางขององค์ชายทั้งสาม
“แล้วข้าไปเกี่ยวอะไรกับการทะเลาะของพวกเจ้าห๊า !!!! ระเบิดดินเหนียวววว!”
ตูมมมมมมมมมม ตูมมมมมมมมมม ตู๊มมมมมมมมมมมมมม
องค์ชายเยซองพูดออกมาอย่างโมโห ที่ตนเองไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยแต่กลับต้องมาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน แล้วหยุดเท้าแล้วเริ่มใช้เวทย์มนต์บ้าง ทันใดนั้นเองก็มีระเบิดที่คล้ายๆดินเหนียวหล่นอออกมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็วแสงประดุจระเบิด
“องค์ชายเยซอง นี่มันมากไปแล้วนะ ! วายุภัคมนตรา ~”
แซ่ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คิบอมวิ่งหลบระเบิดดินเหนียวขององค์ชายเยซองพร้อมกับเสกลูกพายุหมุนขึ้นมา พัดพาลูกระเบิดดินเหนียวให้ออกไป แต่พายุหมุนลูกใหญ่ยังคงอยู่
“มังกรระเบิดวารี !!”
“เพลิงกัมปานาท !”
“คมแฝกพสุธา !”
องค์ชายทั้งสี่พระองค์ ฟาดฟันเวทย์มนต์ใส่กันอย่างไม่ลดละ บ้างก็วิ่งหนีเวทย์มนต์ต่างๆของอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ ทางด้านราชาที่นั่งชมอยู่นั้นเอ่ยชมองค์ชายตัวน้อยของตัวเองไม่ขาดปาก เคียงข้างด้วยองค์ราชินีที่ลุกขึ้นเชียร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง องค์ชายดงเฮ และองค์ชายซองมิน ตัวต้นเหตุของศึกครั้งนี้ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน
“นี่สิลูกพ่ออออ เผาเลยฮันกยองลูกพ่อ ปล่อยแสงลูกปล่อยแสง”ราชายูชอน
“คยูฮยอน ระเบิดน้ำลูก เอาบั้นท้ายเข้าชนแบบนั้นเลยลูก”ราชาคังอิน
“เยซอง คมแฝกเลยลูกคมแฝก ตีเข่าลูกตีเข่า “ราชายุนโฮ
“คิบอม ถ้าเจ้าแพ้ พ่อจะโกนขนสะดือเจ้าทิ้งซะ “ราชาซีวอน
“สู้ๆเค้าลูกแม่ สู้เค้า คยูฮยอนลูกแม่หล่อที่สุ๊ดดดดดดดดดดด” ราชินีอีทึก
“คิบอมลูกแม่~ไฟท์ติ่งลูก ไฟท์ติ้งงงงงงงง ลูกชั้นหล่อกว่ายะ “ ราชินีฮีชอล
“สู้เค้านะลูกสุดที่รักของม่ามี๊ เยซองตัวน้อยของแม่” ราชินีแจจุง
“ดูแลตัวเองดีดีนะลูก ~ ไม่งั้นแม่จะเพ่นกระบาลบิดาของเจ้า” ราชินีจุนซู
“พี่คยูฮยอนนนนนน ซัดเลย ซัดเลย “ องค์ชายดงเฮ
“เจ้าตูดใหญ่ นายเสร็จพี่ชายฉันแน่ๆๆ “ องค์ชายซองมิน
“พี่คิบอม จัดการเจ้าตัวน่ารำคาญนั่นให้น้องด้วย” องค์ชายฮยอกแจ
ทำเอาประชาชนมองมาที่ซุ้มทำตาปริปๆ ที่เห็นพระราชาและราชีนีของตนเองนั้นทรงเชียร์บุตรชายออกหน้าออกตาจนไม่เหลือเค้าของราชาและราชินีก็นึกสนุก ลุกขึ้นเชียร์องค์ชายทั้งหลายบ้าง องค์ชายทั้ง 4 ยังไม่เลิกซักเวทย์มนต์ใส่กัน ไม่มีใครแพ้ใคร
“สายฟ้าฟาด !//เปลวไฟนรก //มังกรน้ำวารี//เอิ๊ดแคว๊กกกกก”
กึกึกึกึกึกึกึกึกึกึ แซ่ดดดดดดดดดดดดดดด เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ทันใดนั้นเองก็เกิดท้องฟ้ามืดครึ่ม ฝนตก อากาศร้อนอบอาว และแผ่นดินไว้ขึ้นพร้อมกันอย่างแปลกประหลาดใจ ทำเอาทุกคนเริ่มหาที่กำบัง ราชาและราชินีกอดเด็กน้อยไว้กับตัว ยกเว้นองค์ชายทั้งสี่ ที่ยังไม่เลิกปล่อยพลังใส่กัน
ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
“พวกเจ้า ! จงหยุดบัดเดี๋ยวนี้ ! “
ราชายุนโฮสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดพร้อมกับกอดราชินีแจจุงไว้ข้างตัว แล้วเอาผ้าคลุมป้องลมพายุ พยายามจะเดินเข้าไปกลางสนามประลองที่มีเด็กน้อยทั้งสี่อยู่ แต่ก็เข้าไปไม่ได้เนื่องจากลมพายุนั้นรุนแรงเกินไปแถมยังแผ่นดินไหวอีก
“ข้าต้องได้สิ่งที่ข้าต้องการ “
“คิดจะได้น้องชายข้ามันเร็วไป หลายล้านปี เจ้าคิบอม !”
“จงขอโทษน้องชายข้าเสีย !เจ้าคยูฮยอน”
“พวกเจ้า! ข้าเกี่ยวอะไรด้วย ขอถามอีกครั้ง ! “
สิ้นเสียงองค์ชายทั้งสี่ ก็ปล่อยพลังออกมาเต็มสุดขีดขององค์ชายตัวน้อย ทันใดนั้น ก็เกิดแสงสีข่าววาบขึ้นกลางสนามประลอง พร้อมกับเปลวไฟ สลับกับสายน้ำ และ แผ่นดินเกิดแยกออกจากกันเป็นรอยแยกขนาดใหญ่
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือ.....องค์ชายเยซองตกลงไปในรอยแยกนั้น
writer talk(doubleting):
ลงให้แล้วจ้า ติดตามชมตอนต่อไปด้วยน้าาาาาาาาาาาาาาาาา0^0
ความคิดเห็น